.

"นวล" น่าจะแปลว่า "ผู้หญิง" ส่วนจะเป็นภรรยาของนายท้ายเรือหรือเปล่านั้นมีความเป็นไปได้ทั้งใช่และไม่ใช่ แต่น่าจะไม่ใช่ ไม่เช่นนั้นแล้วผู้หญิงที่ชื่อนวลทุกคนก็จะกลายเป็นภรรยานายท้ายเรือไปด้วย... กระมัง...

"เจ้าพี่" น่าจะแปลว่า "ผู้มีศักดิ์เป็นพี่ในสกุลสูงศักดิ์

จากคำถาม น่าจะได้คำตอบว่า ผู้ชายคนหนึ่งทักทายหรือเรียกผู้หญิงคนหนึ่งที่มีศักดิ์สูงกว่าว่า  "พี่นวล พี่สาวผู้สูงศักดิ์ที่แสนจะน่ารักสำหรับข้าฯ "

ส่วนคำ "เอย" นั้นน่าจะเป็นคำ "อุทานสร้อยเสริมบท" หรืออย่างไรไม่ทราบเหมือนกัน

แปลความตามอักษรที่มองเห็นเท่านั้น ไม่เคยได้รู้อะไรมาก่อนเลยหรอก....

ท่านตั้งคำถามมา ก็ตอบคำถามไป โดยไม่เข้าข่ายของ "ผู้รู้" ตามที่ตั้งกฎิกาไว้ แต่ว่าเผอิญอยากตอบ เพราะคำถามที่ถามมานั้นมันน่าตอบ....

ก็เท่านั้นเอง....

.

คือ พอ ดี ได้ ไป ค้น ดูคร่าวๆ

"นวล" เป็น ชื่อ ของ ภรรยา นายท้าย นรสิงห์ จริง ตาม พงศาวดาร

*แต่ ที่ ไม่ ทราบ คือ

ความ หมาย ของ "นวลเจ้าพี่เอย"

ตามบท ประ พันธ์ คำ ร้อง ของ "มารุต-เนรมิต" ใน เพลง น้ำ ตา แสง ไต้

หมาย ความ ว่า อย่าง ไร กัน แน่

โดย ความ เห็น ส่วน ตัว หน้า จะ หมาย ถึง

"นวลของพี่" หรือ เรียกเมียด้วยความรัก แซม เศร้า ด้วย การ อุทาน คำ ว่า เอย

ปล.ที่มาตั้งกระทู้ถามเพราะกระเหี่ยนกระหือรือ อยากทราบเองเท่านั้น

ว่าที่เข้าใจมาโดย ตลอดมันเป็นอย่างควรเป็นหรือไม่

ปล.๒ เลยมาถามผู้รู้

เท่าที่จำได้ เคยมีคำอธิบายถึงคำว่า "นวล" ในเพลงน้ำตาแสงไต้ว่ามีอยู่ 3 ความหมาย

"นวลเจ้าพี่เอย" หญิงสาวคนรักของพี่ ขณะที่นวลไม่อยากให้พันท้าย ออกเสด็จเรือพระที่นั่ง ด้วยมีลางสังหรณ์

"นวลแสงเพชร" น่าจะเป็นการบรรยาย ถึงน้ำตาที่กระทบเล่นแสงของไต้ จนออกสีนวลๆ น่าจะไม่ได้หมายถึงเพชร จากท่อนที่ว่า

"น้าตา อาบแก้ม เพียงแซมด้วยเพชรไสว แวววับจับหัวใจ เคล้าแสงไต้ งามจับตา"

"จำใจข่ม ใจไปจากนวล" และนี่แหละคือชื่อ นวล

คิดว่าจำไม่ผิดนะครับ

ขอบพระคุณ คุณพัฒนะ ปฐมพงศ์ จ๊ะ

ที่ มา ขจัด ความ สงสัย ของ ฉัน

ทำ ให้ กระ จ่าง ใจ

ขอบพระคุณอีกครั้ง

มนต์ตระการ มนตรา

 น้ำตาแสงไต้หมายถึงอะไรค่ะ

        ผมขออ้างอิงข้อความจากหนังสือต่วย" ตูน ปักษ์แรก กรกฎาคม 2555 หน้า 130 บทความนี้เขียนโดย บูรพา อารัมภีร บุตรชาย

  ท่านครูสง่า อารัมภีร  ได้เอ่ยถึงเพลง น้ำตาแสงไต้ ดังต่อไปนี้  พ่ออยู่ปากอ่าวบ้านแหลมได้ทำงานเป็นช่างเครื่องเป็นนายท้ายเรือ

 ยนต์จูงเรือโป๊ะไปจับปลาทะเลเรือที่พ่อประจำมี 2 ลำ เริ่มจาก สมคิดการค้า ต่อมาก็ วัยคะนอง ที่นั่นพ่อมีเพื่อนสนิทอยู่คนชื่อ กลิ้ง

 เหมหิรัญ เป็นคนบ้านนี้ พ่อบอกตอนน้ำลงชาวเลทั้งหญิงชายเขาเดินถือไต้ลงหาดไปหาหอยหาปู และที่นั่นพ่อได้เห็นแสงไต้สะท้อน

 เม็ดน้ำที่ติดบนแก้มสาวชาวเลคนหนึ่ง พ่อบอกจำภาพนั้นได้ติดตามันงดงามซึ้งใจนัก ซึ่งต่อมาจึงเกิดเป็นห้วงคิดคำนึงให้เกิดเพลง

 น้ำตาแสงไต้ เพลงเอกของพ่อนั่นเอง