"ขอน้อมคารวะคนรักกวี" 

๑. ขอน้อมคำนับจากใจจริง

ถ้อยทุกสิ่งเราเขียนไม่หวังผล

ท่านไม่อ่านไม่สนทรชน

เราก็ใช่ว่าจะสนใจใคร

๒. เราไม่ได้เดือดร้อนหรือเคืองโกรธ

เราไม่เคยพาลโทษใครอย่าสงสัย

เราไม่เคยสนใจรางวัลใด

เราไม่ยินดียินร้ายอะไรเลย

เพียงแต่เห็นท่านเดือดร้อนเรื่องรางวัล

ตีรวนกันเป็นเรื่องใหญ่ไม่อาจเฉย

ณ ที่นี้เราทักทายอย่างคุ้นเคย

ใช่ที่เปรยเปรียบด่าค่าของใคร

๓. ภูมิปัญญาท่านเก่งกล้าเหนือเรานัก

ควรเป็นหลักชี้ทางออกจะดีไหม

ใช่คร่ำครวญเรื่องรางวัลเหตุอันใด

ฝากบอกไว้ขอขมาอย่าเคืองกัน

๔. เราไ่ม่ได้กวนน้ำใสให้ท่านเคือง

แต่ทุกเรื่องที่เราเห็นท่านกระสันต์

เถียงกันไปด่ากันมาเรื่องรางวัล

ตัวเรานั้นเพียงผ่านมาว่าตักเตือน

๕. สมาคมคือชุมชนรวมผองมิตร

ครูและศิษย์อยู่ร่วมกันฉันน้องเพื่อน

วนเวียนวนด้นย่ำหลายปีเดือน

เปรียบเสมือนที่ผ่อนคลายหลายผู้คน

๖. เรามันด้อยเรื่องผลงานกานต์อักษร

มิร้าวรอนใครหยามเหยียบทุกค่ำหน

รู้ธาตุแท้แห่งปัญญาในตัวตน

ก้มหน้าด้นเขียนกลอนไปตามใจเรา

๗. มิเก่งกล้าแต่ว่าก็จริงใจ

มิสดใสแต่ก็ไม่ใจขลาดเขลา

มิงดงามแต่ผ่อนคลายหนักบรรเทา

มิกลัดเกลาแต่เอาใส่ใจเนื้องาน

๘. เราชื่นชมทุกท่านครูที่พานพบ

เรายินดีปรบมือให้ทุกก้อยสาร

เราเชิดชูคนเขียนบทประพันธ์กานต์

เราน้อมอ่านทุกบทความด้วยชื่นชม

๙. เราไม่สนใครเขียนดีหรือเขียนเก่ง

เราไม่เคร่งครัดเรื่องใดให้ขื่นขม

เราแค่ชอบตอบสาราทุกคำคม

เราภิรมย์สมใจหมายที่ต้องการ

๑๐. ท่านเขียนมาเราเขียนตอบก็ชอบแล้ว

พ่อดวงแก้ว"คนรักกวี" หาญ

พ่อคนเก่งท่วงลีลาจิตวิญญาณ

ขอน้อมอ่านผลงานด้วยเถิดเอย

ขอน้อมคารวะจากใจ

"ทรชนบ้านนอก"

 "ขอน้อมคารวะคนรักกวี" 

แก้ไขอีกทีคงไม่ว่ากันนะครับ

๑. ขอน้อมคำนับจากใจจริง

ถ้อยทุกสิ่งเราเขียนไม่หวังผล

ท่านไม่อ่านไม่สนทรชน

เราก็ใช่ว่าจะสนใจใคร

๒. เราไม่ได้เดือดร้อนหรือเคืองโกรธ

เราไม่เคยพาลโทษใครอย่าสงสัย

เราไม่เคยสนใจรางวัลใด

เราไม่ยินดียินร้ายอะไรเลย

๓เพียงแต่เห็นท่านเดือดร้อนเรื่องรางวัล

ตีรวนกันเป็นเรื่องใหญ่ไม่อาจเฉย

ณ ที่นี้เราทักทายอย่างคุ้นเคย

ใช่ที่เปรยเปรียบด่าค่าของใคร

๔. ภูมิปัญญาท่านเก่งกล้าเหนือเรานัก

ควรเป็นหลักชี้ทางออกจะดีไหม

ใช่คร่ำครวญเรื่องรางวัลเหตุอันใด

ฝากบอกไว้ขอขมาอย่าเคืองกัน

๕. เราไ่ม่ได้กวนน้ำใสให้ท่านเคือง

แต่ทุกเรื่องที่เราเห็นท่านกระสันต์

เถียงกันไปด่ากันมาเรื่องรางวัล

ตัวเรานั้นเพียงผ่านมาว่าตักเตือน

๖. สมาคมคือชุมชนรวมผองมิตร

ครูและศิษย์อยู่ร่วมกันฉันน้องเพื่อน

วนเวียนวนด้นย่ำหลายปีเดือน

เปรียบเสมือนที่ผ่อนคลายหลายผู้คน

๗. เรามันด้อยเรื่องผลงานกานต์อักษร

มิร้าวรอนใครหยามเหยียบทุกค่ำหน

รู้ธาตุแท้แห่งปัญญาในตัวตน

ก้มหน้าด้นเขียนกลอนไปตามใจเรา

๘. มิเก่งกล้าแต่ว่าก็จริงใจ

มิสดใสแต่ก็ไม่ใจขลาดเขลา

มิงดงามแต่ผ่อนคลายหนักบรรเทา

มิกลัดเกลาแต่เอาใส่ใจเนื้องาน

๙. เราชื่นชมทุกท่านครูที่พานพบ

เรายินดีปรบมือให้ทุกก้อยสาร

เราเชิดชูคนเขียนบทประพันธ์กานต์

เราน้อมอ่านทุกบทความด้วยชื่นชม

๑๐. เราไม่สนใครเขียนดีหรือเขียนเก่ง

เราไม่เคร่งครัดเรื่องใดให้ขื่นขม

เราแค่ชอบตอบสาราทุกคำคม

เราภิรมย์สมใจหมายที่ต้องการ

๑๑. ท่านเขียนมาเราเขียนตอบก็ชอบแล้ว

พ่อดวงแก้ว"คนรักกวี" หาญ

พ่อคนเก่งท่วงลีลาจิตวิญญาณ

ขอน้อมอ่านผลงานด้วยเถิดเอย

ขอน้อมคารวะจากใจ

"ทรชนบ้านนอก"

 วันนี้ขอเป็นผู้หัดเขียนเรียนร้อยกรองค่ะ

                        ในฟืนในไฟอันไหม้เผา

ใครจักไหม้เท่าเราก็หาไม่

มีเราเท่านั้นหมั่นเติมไฟ

หมดทั้งตนกระทั่งใจไหม้หมดเลย

       ระอุร้อนไฟในใจอันไหม้เผา

ผ่อนบรรเทาปัจเวกเหตุไฉน

ฟืนอัตตาใส่ถาโถมเติมเชื้อไฟ

ย่อมสิ้นไปหากว่าใจเราปล่อยวาง

ขอน้อมคารวะจากใจ

"ทรชนบ้านนอก"

ผมแก่กว่าคุณไม่ดีเหรอครับ จะได้ล้มผมง่ายๆไง  ถ้าคุณมีความปรารถนาดีจริงๆ มันสมองระดับคุณไม่มีวิธีหรือช่องทางที่ดีกว่านี้หรือ

ในที่สุดผมก็รู้ว่าคุณเป็นใคร ต่อไปไม่ต้องใช้นามแฝงแล้วครับ ความมันแตกซะแล้ว ผมและทีมเดาจุดประสงค์ของคุณไปถึง10ธ.ค.โน้น555 แหมมันสมองกวีพลาดซะได้ผมขอให้เลิกลาเถิดครับคนรักชอบพอกันทั้งนั้น อันไหนล่วงเกินผมขออภัย  อยากทราบว่าผมรู้ว่าคุณเป็นใครได้อย่างไร โทรมาครับ

"ผิดฝา ผิดคน ผิดตัว" ครับท่านตาต้อม 

โอ้ตาต้อมมองผิดคนเสียแล้วครับ

น้อมคำนับท่านมองผิดแน่หนนี้

"ทรชนบ้านนอก"นั้นไม่อัปรีย์

ไม่ใช่ศรีกวี "คนรักกวี" เลย

ข้าน้อยตอบถ้อยสาราเพราะไพเราะ

ประจวบเหมาะเลยงานเข้าเอาละเหวย

ท่านตาต้อมมองมิตรผิดไม่คุ้นเคย

ผิดคนเอยแน่นอนตาต้อมเรา

เห็น"ในเงาเมฆขาว"วาวส่องแสง

เลยร่วมแรงแจงต่ออย่าอับเฉา

ไฉนเลยเข้าใจผิดกลับคิดเอา

รวมตีเหมาเขากับผมไม่เกี่ยวกัน

ผิดตัวผิดคนผิดฝาผิดเรื่อง

ไยแค้นเคืองเรื่องราวอันโศกศัลย์

ถึงค่าด้อยน้อยปัญญามารำพัน

แต่ข้านั้นหาพวกใครใคร่ควรตรอง

ขอน้อมคารวะจากใจ

"ทรชนบ้านนอก"

ในกระทู้ที่ผมโพสต์  ผมเรียกร้องหารางวัลหรือครับ   แค่แสดงทัศนะ  และเล่าสิ่งที่ได้ยินมา  และผมชอบความยุติธรรม  ปีนี้ผมไม่ได้ส่งด้วยซ้ำ  เพราะได้ยินมาว่ามีการเล่นพรรคเล่นพวก  พวกคุณลองคิดดูสิ  รางวัลพานแว่นฟ้า คนส่งทั่วประเทศ   แต่คนได้มีแต่ชื่อเดิมๆ     เพราะว่าใช้คณะกรรมการเดิมๆ   ไง   ลองตรวจรายชื่อสิ    รางวัลพานแว่นฟ้าปีนี้  มีแต่คนฝั่งตะวันตกและเพื่อนคนฝั่งตะวันตกและรู้จักกับคนฝั่งตะวันตก

1. สุธีร์  พุ่มกุมาร     คนฝั่งตะวันตก

2. ธีรพัฒน์    คงเพชร     ตะวันตกหรือไม่

3. วิษณุ   พุ่มสว่าง       รู้จักและคลุกคลีกับคนฝั่งตะวันตกมานาน

4. นนทวรรณ   บุญวงษ์   ไม่ใช่คนฝั่งตะวันตก  อยู่แถบๆ  วิเชียรบุรี  เมืองมะขามหวาน  แต่คลุกคลีกับคนตะวันตกมานาน

5.  เชษฐภัทร  วิสัยจร      คนฝั่งตะวันตกหรือไม่

ขออภัยที่เอ่ยนาม   ไม่ได้คิดอื่นไกล  แค่แสดงทัศนะ     ปีหน้า  ต้องมี  ชื่อ  พัฒนะ  ปฐมพงษ์   ที่ได้รับรางวัล   ไม่เชื่อคอยติดจามดู

ถามว่า  ผมรู้ได้ยัง   ผมเปิดอ่านหนังสือรางวัลพานแว่นฟ้าทุกเล่ม    คนส่งแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 700-1000   คน    แต่มีคนชื่อเดิมๆ   ได้รับ

พรุ่งนี้   เวลา      09.00     น.   จะไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลนครปฐม     จะไปเลี้ยงข้าวคุณอำพล   ด้วย  แล้วจะแวะไปหาซื้อหนังสือแถวพระปฐมเจดีย์สักสามเล่ม  เผื่อได้แนวคิดดีๆ   หลังจากนั้น  จะไปกราบพระร่วงโรจนฤทธิ์   ที่องค์พระปฐมด้วย

อาจจะแวะไปหาท่านศึกษานิเทศก์ด้วย   พรุ่งนี้วันหยุด  อาจไม่เจอท่าน  ถ้าเจอจะสวัสดีท่านงามๆ  เผื่อท่านจะเมตตาให้ความรู้มาบ้าง

ศิลปะการสร้างความแตกแยก คือการพยายามกล่าวหาผู้อื่น แล้วอ้างเป็นความชอบธรรมของตนเอง ไม่ยาก ถ้าจะกระชากหน้ากากมันออกมา

แหมๆๆๆคุณกล่าวหาคนโดยใช้สมมติฐานแค่นี้ไม่คับแคบไปหน่อยหรือ  หาอะไรที่เป็นประจักษ์พยานดีกว่านี้แล้วค่อยตี ผมนี่แหละจะอยู่ข้างคุณเป็นคนแรก   รายนามที่ท่านอ้างอิงมาไม่มีฝีมือเลยหรือ  เพิ่งหัดเขียนกลอนหรือ  ความรู้หางอึ่งหรือ   ถ้าคุณมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์สังคมให้ดีงาม หาวิธีดีๆ  แล้วมาช่วยกันตีแผ่  คุณจะเป็นวีรบุรุษ จะได้รับการกล่าวขาน    มิดีกว่าหรือ                                

ทรชนคนบ้านนอกครับ   ผมไม่ได้คิดถึงท่านเลยครับ  สบายใจได้

ถึงคนรักกวี

ต่างก็เป็นคนหลงใหลในสุนทรีย์ ต่างกันก็แค่มีกับไม่มีฉันทลักษณ์ แค่นั้น

ผมว่าเรื่องสายสัมพันธ์ แม้คนที่ไม่อยู่ในรายชื่อนี้ก็รู้จักพวกเขาหลายคน

แม้แต่คนที่ได้หรือไม่ได้รางวัลนะครับ ยิ่งส่วนของ เชษฐภัทร นี่ไม่น่าเกี่ยวเลย

ถ้าจำไม่ผิดอยู่แถบอีสาน และไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมด้วยซ้ำ เพียงแต่ชอบเขียบโคลงกลอน

และขยันส่งเวทีต่างๆ จนเป็นที่คุันตานะครับ กรณีนี้

ปล. เรื่องกระทู้ที่มีคำหยาบคายผมจำเป็นต้องลบนะครับ

ขอภัยด้วยนะครับ มันเป็นส่วนที่ผมต้องดูแล

1ถ้าคุณคนรักกวีติดใจเรื่องชื่อคนซ้ำ ก็จงดูรายชื่อผู้ได้รับรางวัลเรื่องสั้นด้วย นั่นก็มีซ้ำมากมายไม่ใช่น้อยใน 11 ปีที่ผ่านมา ถ้ารักความยุติธรรมจริงลองหาอีกเรื่องเป็นไง แล้วก็ดูการประกวดเวทีอื่นด้วย คุณก็จะเห็นชื่อคนซ้ำๆอีกมากมาย  ที่ซ้ำกับพานแว่นฟ้าก็มาก ดูที่ผลงาน ดูที่ความสามารถของผู้แต่งดีกว่าจะมองแค่ชื่อซ้ำหรือไม่ซ้ำ ใครรู้จักใคร 

2บทกวีการเมืองจำเป็นต้องบ้าพลังถึงจะทรงพลังหรือ ต้องอ่านแล้วเจ็บแสบสะใจเท่านั้นหรือ การสร้างสรรค์เชิงบวกมีอีกมากมายหลายแบบ ทั้งแนวคิด กลบท รูปแบบการนำเสนอ

3รางวัลพานแว่นฟ้ามีมาตรฐานของรางว้ล บางเรื่องคุณอาจถูกใจ บางเรื่องไม่ถูกใจเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าจะให้ดีลองศึกษาให้ละเอียดในทุกผลงานที่ได้รางวัลดูดีกว่า คุณจะพอมองเห็นแนวทาง  ดีกว่ามัวแต่อิจฉาคนได้รางวัล

ท่าน เวปมาสเตอร์   ครับ   ผมไม่ได้ติดใจเรื่องรางวัล การตัดสินของกรรมการถือเป็นที่สุด     ผมแค่แสดงทัศนะ   แต่มาด่าผมว่า  หมาหัวเน่าบ้าง  ปากสุนัขบ้าง     สมองกลวงบ้าง   ขี้แพ้ชวนตีบ้าง   ผมเองเป็นคนมีเหตุผล  ถ้ามาว่าผมอย่างนั้น  ผมจำเป็นต้องโต้ตอบ

การประกวดทุกรางวัล  มันเป็นเวทีสาธารณะ  เรื่องที่มีการแสดงทัศนะแย้ง  หรือวิจารณ์    มันต้องมีเป็นเรื่องธรรมดา

คณะกรรมการตัดสินเป็นกลุ่มคณะหนึ่ง  ตัดสินมาแล้วทุกคนยอมรับ   รวมทั้งผมด้วย  แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องเห็นด้วย  หรือคณะกรรมการเป็นบุคคลที่ใครแตะหรือวิจารณ์ไม่ได้เลยหรือ

ถึงคุณ  e    ผมไม่ได้อิจฉาครับ   ผมยินดีด้วยทุกคน    แต่การที่ผมไม่เห็นด้วยเป็นสิทธิ์ของผม

ที่คุณคนรักกวี ทำ นั้นเรียกว่า กล่าวหา ครับ

ผมผ่านมาอ่านอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมครับว่า ข้อมูลคุณน่าเชื่อถือแค่ไหน น่าจะบอกรายละเอียดเพิ่มหน่อยครับ จะได้เป็นวิทยาทานให้คนทั่วไปครับ

คุณคนรักกวี ลองทบทวนให้ดีว่าถ้ารักความยุติธรรมจริง อยากเห็นความดีงาม ก็เสนอแนะแนวทางออกมาด้วยข้อมูลที่ชัดเจน อันนี้ไม่ใช่ที่เรียกว่าแสดงทัศนะครับ เป็นการแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก การที่ไปกล่าวหากรรมการตัดสินไม่ยุติธรรม ไม่มีมาตรฐาน เป็นนักลอนอย่าไปตัดสินกวี อะไรประมาณนี้ การไปพูดด่าว่ากล่าวไปถึงสมาคมนักกลอน เหมือนคุณไปพูดจาจาบจ้วงเขาก่อน เขาจึงตอบโต้เอาบ้าง ใช้คำหยาบคาย ท้าตี ท้าต่อย เป็นนักเลงโต ไม่ใช่กวีแบบที่เราเคยพบเห็นกัน จนเว็บมาสเตอร์จำเป็นต้องลบข้อความออกไป ลองทบทวนดูนะครับ

พอแล้วนะครับคนรักกวีทั้งคุณทั้งผมและทุกคนหลงเข้าไปในโทสะจริตจนเสียภาพแล้วต่อไปเรารับฟังกันด้วยเหตุผลแก้ปัญหาแบบปัญญาชนคารวะครับ

ท่านคนกลางที่เคารพ    ทัศนะ   แปลว่าอะไรครับ   ผมไม่ได้กล่าวหากรรมการว่า  กรรมการคนโน้น  คนี้  ไม่ยุติธรรมนะ   (ผมบอกว่าได้ยินสิ่งที่ได้ยินมาว่า  มีการเล่นพรรคเล่นพวก)

ที่ผมพูดว่า  เป็นนักกลอนไม่อยากให้ไปตัดสินกวี   (นี่เป็นเรื่องผิดหรือครับ   ถ้าผิดผมขอโทษนะครับ)

สมาคมนักกลอนมีประโยชน์ไหมครับ (มีครับ  อย่างน้อย ก็มีคนทำงานให้กับแวดวง    ไม่ได้เหมารวมว่าทั้งหมดว่าไม่ยุติธรรม)

เริ่มต้นเลย   คือผมบอกว่า   รางวัลชนะเลิศและลองชนะเลิศ   ไม่ควรได้  (ไม่ได้หมายความว่าผมไม่ยอมรับการตัดสิน)  หลังจากนั้น   ก็มีบุคคล โพสต์ด่าผมว่า  สมองกลวง   หมาหัวเน่า  ปากสุนัข    ขี้แพ้ชวนตี  (คุณจะไม่ไห้โต้ตอบเลยหรือ)

ปีนี้เลือกตั้งนายกสมาคม  ยังคิดจะไปลงคะแนนเลย  เพื่อเป็นการส่งเสริมภาษาไทย 

ทัศนะ หรือทรรศนะ หมายถึง การแสดงความคิดเห็นโดยมีเหตุผล เป็นข้อเท็จจริง เป็นหลักการ เป็นไปด้วยความสุจริตใจ มีบรรทัดฐานของความคิดเพื่อปรับปรุงพัฒนาเชิงสร้างสรรค์ อันประกอบด้วยปัญญาธรรม คารวธรรม และสามัคคีธรรม การได้ยินได้ฟังอะไรแล้วไม่ใช้วิจารณญาณ ไตร่ตรอง ใคร่ครวญโดยหลักของกาลามสูตร เรานำพูดมาโพสต์ในโลกออนไลน์ แสดงความรู้สึกออกมาเลย อย่างนี้ไม่ใช่ทรรศนะ เป็นความรู้สึกครับ ที่บอกว่านักกลอนอย่าเข้าไปตัดสินรางวัลซีไรท์ มีแต่นักกลอนได้รางวัลพานแว่นฟ้า นั่นก็ความรู้สึก เหมือนไปดูถูกกรรมการและผู้ได้รับรางวัล พูดอย่างนี้จริงๆ เชื่อว่าแม้ลบกระทู้ไปแล้ว แต่เว็บมาสเตอร์เขาบันทึกร่องรอยไว้ จะขอทบทวนตรวจสอบคำพูดก็ได้ ผมก็เป็นสมาชิกสมาคมนักกลอนมานาน เคยเห็นผิดชอบชั่วดีหลายเรื่อง มันเป็นเรื่องส่วนบุคคลนะครับ ที่บอกว่ามี ผอ.โรงเรียน ถูกสอบสวนวินัย เพราะเขียนกลอน ใช้ชื่อนักเรียน ผอ.เกษียณไปแล้ว ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย คนเล่าคงถนัดตีไข่ใส่สีนะครับ เรื่องสมาคมนักกลอน จัดประกวดกลอนที่วัดเทพธิดาราม แล้วกรรมการตัดสินเข้าข้างพวกเดียวกัน สอบถามคนเก่าๆดู ในยุคนายกอุษณีย์ นายกสมศักดิ์ นายกยุทธ ไม่เคยจัดที่วัดเทพธิดารามเลย ข้อมูลน่าจะคลาดเคลื่อนนะครับ ผมชื่นชมคุณนักกวีที่รู้จักคำว่าขอโทษ และที่ผมแสดงทรรศนะออกมานี้ก็เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเท่านั้น ไม่ได้เข้าข้างใคร ไม่นิยมไปกินเหล้ากินข้าวของใคร

จร้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   ขอบคุณนะคร้าบบบบบบบ    คุณคนกลาง   พี่อำพล    เย็นนี้ไปกินเหล้ากันไหม

ถึงคุณจ้างให้ก็ไม่บอก    ทุกคนล้วนมีความคิดเห็นครับ   พวกผมเคลียร์กันแล้ว    คุณจะมาก่อไฟอีกทำไม   กวีไม่ใช่ผู้สิ้นกิเลส   การมีความเห็นแย้ง  มันเป็นเรื่องปกติ     คุณรู้สึกจะปากเก่งนะ

ท่านคนกลางที่เคารพนัถือครับ    สมาคมนักกลอนยุคนายก  พันตรี  อุษณีย์   เกษมสันต์ฯ       เคยจัดที่วัดเทพธิดาแน่นอน    ผมยังมีเกียรติบัตรและลายเซ็นต์  ท่านอุษณีย์  มาเลย     และครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมไปร่วมกิจกรรมสมาคม      หลังจากนั้นก็มีนักกลอนมานั่งปรับทุกข์ให้ฟังหลายครั้ง

พอดีสอบถามกรรมการสมาคมในยุคเก่าๆครับ สวนใหญ่จัดที่วัดโพธิ์ครับ ถ้ามีแสดงว่าท่านกรรมการคงจำข้อมูลผิดพลาด เคยไปร่วมงานเมื่อสองสามปีที่แล้ว รู้สึกกรุงเทพมหานครเป็นผู้จัด ผู้เข้าประกวดเป็นนักเรียนชั้นประถมของ กทม. และในวันสุนทรภู่ปีนี้วัดเทพธิดาเป็นผู้จัดประกวดเองครับ ต้องขออภัยถ้าข้อมูลผิดพลาด และขอขอบคุณท่านนักกวีให้ข้อมูลเพื่อสมาคมนักกลอนจะได้นำไปพัฒนาให้เกิดความเป็นมาตรฐานต่อไป

ครับ   วัดโพธ์ก็เคยไป  ครับ   เห็นหมดแหละ   อ.ยุทธ    นนทวรรณ   อโศก    กร  แก้วไทย   ประสพโชค   เย็นแข   สุธีร์    ท่านมหาสมหวัง       เห็นครับ    วิษณุ   พุ่ม  เห็นตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม      สิชล  สิอิมิ

 รู้จักเยอะขนาดนี้น่าจะได้รางวัลเต็มบ้าน

ครับ   รางวัลเต็มบ้านครับ

คนรักกวีนี่เยอะนะ ปากดี ปากเก่ง อวดตน สารเลว

ครับ รางวัลสมศักดิ์ศรี เลยครับ

รางวัลได้มาเยอะครับ   คนที่พูดความจริงนี่  สารเลวหรือครับ   คุณจ้างก้ไม่บอก  เอาความจริงมาเล่านี่  อวดตนหรือครับ  คุณนิสัยเหมือนผู้หญิง  อิจฉาละสิท่า   อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  รู้นะ  ว่าคุณอิจฉา

ยอดกวีนี่คุณแม่เป็นคุณโสเหรอ ลูกถึงได้ปากเหมือนรูรอไม้ตีพริกมาตำ อิจฉาละสิที่หน้าตาไม่ดี หน้าเน่า เกิดมาหน้าปลวก ถุย สถุน