ReadyPlanet.com


@นักกลอนตายหมดแล้วหมดกระสวน


นักกลอนตายหมดแล้วหมดกระสวน
ไร้กระบวนสุดยอดมาขยาย
เขียนทุกวันไม่วางก็เหมือนตาย
มาหัวหายสมาคมก็เหงาคลุม

คอลัมน์กลอนหายจากนิตยสาร
มีให้อ่านเดือนละบทพอตีขลุม
บทกวีไม่มีจะชุมนุม
นิยายกลุ่มน้ำเน่ากระจัดกระจุย

หนังสือรวมบทกวี
ต่างหลบหนีจากชั้นวรรณชุ่ย
คนอ่านไม่สนใจจะพูดคุย
คนแต่งบุ้ยคนไทยไม่มีวรรณ

นักกลอนตายหมดแล้วหมดสนาม
ต่างวิ่งตามเงินตราขมีขมัน
ไอ้ที่เขียนตรงนี้เขียนเอามัน
ด้วยกลอนฉันก็ตายอยู่ตรงนี้



ผู้ตั้งกระทู้ ราศรีพิจิก :: วันที่ลงประกาศ 2011-05-30 12:14:01


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2181953)

ไม่ถึงขนาดนั้นกระมังครับ

.........................อย่างน้อยๆ ความละเอียดอ่อนก็เกิดขึ้นแก่ใจทุกครั้งที่ได้เขียนกลอน มิใช่หรือ

ผู้แสดงความคิดเห็น พ่อไข่นุ้ย (thara_num-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-05-30 13:32:30


ความคิดเห็นที่ 2 (2182172)

นักกลอนดีมวยดีมีสนาม

คนมาพล่ามรื้อเวทีมีปัญหา

เขาอยู่กันดีดีมีสุขมา

คนบ้าบ้าแทรกแซงเหมือนแกล้งกัน

ทั้งอวดรู้อวดเก่งนักเลงกลอน

จะนั่งนอนยืนเดินทุกเนินถัน

เก่งทุกเรื่องเขาเห็นเป็นอัศจรรย์

เขาจึงเลิกสังสรรค์บัดนั้นเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น เทาทอง วันที่ตอบ 2011-05-31 06:37:45


ความคิดเห็นที่ 3 (2182264)

นักกลอนอยู่บ้างไม่อยู่บ้าง

เพราะหลายอย่างเช่นตีนถีบและปากกัด

โดยวิถีกวีใหญ่ไร้ทางลัด

จึงวิบัติขัดสนคนกวี

ธรรมดานักกลอนไม่นอนเปล่า

ทุกค่ำเช้าลมหายใจไม่หน่ายหนี

ส่วนนักกลอนเขลาขลาดก็อาจมี

เวลาคือเข็มชี้ความมีเป็น

นักกลอนยังไม่ตายหายใจอยู่

แม้หดหู่ริบหรี่อย่างที่เห็น

ถึงถูกเฉือนถูกเชือดอย่างเลือดเย็น

ก็จะเข็นซากรถบทกวี

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปรัชญ์ วลีพร (naimit-at-thaimail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-05-31 12:09:09


ความคิดเห็นที่ 4 (2182376)

เมื่อผมอ่านกลอนของ อ.ปรัชญ์  วลีพร  ทำให้ผมนึกถึงกลอนนี้ขึ้นมาทันที

๐คืนนี้มืดใช่มืดสนิท

ไฟดวงนิดยังมีแสง

ขอเพียงลมพัดแรง

เถ้ามอดแดงก็จะลาม

 

๐ทุ่งนี้รกใช่รกหมด

นั่นข้าวสดขึ้นแทรกหนาม

ขอเพียงฝนจากฟ้าคราม

ข้าวจะงามท่วมหญ้าคา

-เสกสรรค์  ประเสริฐกุล

ผู้แสดงความคิดเห็น รัตนโกสินทร์ศก วันที่ตอบ 2011-05-31 17:00:40


ความคิดเห็นที่ 5 (2182552)

นักกลอนใหม่

เหล่านักกลอนใหม่ใหม่หายใจอยู่

โปรดรับรู้ยังสร้างสรรค์วรรณศิลป์

แม้บางครั้งเหนื่อยล้าน้ำตาริน

ยังไม่สิ้นความกล้าพยายาม

ลื่นหกล้มกี่ครั้งใจสั่งสู้

ยืนหยัดอยู่ด้วยกมลกันคนหยาม

ระวังตนเตือนใจไม่วู่วาม

หวังปรากฏสิ่งงดงามตาม...กวี

**********************************************

ผู้แสดงความคิดเห็น ครูใต้ วันที่ตอบ 2011-06-01 09:45:18


ความคิดเห็นที่ 6 (2182641)

กด  Like ทุกความคิดเห็นเลยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ราศรีพิจิก วันที่ตอบ 2011-06-01 13:08:19


ความคิดเห็นที่ 7 (2182654)

 

""นักกลอนยัง คงอยู่ ชูสมัย

แต่ทำไม..ไส้แห้ง แล้งวิถี

หนังสือกลอน ช้ำชอก ยอกฤดี

มิเห็นมี คนซื้อ ถือไปครอง

 

.นักกลอนกล้า กวี เท่าที่เห็น

ชีพลำเค็ญ ทุกข์ยาก ลำบากหมอง

หนอนหนังสือ ด้วยนั้น โปรดหันมอง

ช่วยประคับประคองผองนักกลอน

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัทราจิตร วันที่ตอบ 2011-06-01 13:38:00


ความคิดเห็นที่ 8 (2182724)

เป็นนักกลอนสอนขันงงงันอยู่
กลอนไม่สู้จักงามตามอักษร
ไม่รู้ลงตรงไหนให้อาทร
มิรู้อ่านสะท้อน ณ ที่ใด

ส่งคำกลอนไปลงหลายฉบับ
เขาไม่รับไปลงยังสงสัย
ได้แต่ลงศาลาเศร้าเหมือนเหงาใจ
แต่ทำไม่ไม่ลงเดอะเนชั้น

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ราศรีพิจิก วันที่ตอบ 2011-06-01 15:35:09


ความคิดเห็นที่ 9 (3634655)

โปรดชี้แนะแด่ข้าผู้หัดเริ่ม

จรรโลงเจิมเติมกลอนนอนผวา

ข้าไม่รู้ข้าเขียนกลอนไม่เป็นวา

โปรดชี้แนะบอกมาสอนข้าที.....เฮอ..เฮอ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สะท้อน (weerachai_wangpor-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-05-06 22:15:43


ความคิดเห็นที่ 10 (4069828)
ถูกต้องแล้วครับ ตามลิ้งเลย คุณ โยชัญคันธา
เพิ่งแก้ไขระบบเสร็จเมื่อกี๊ครับผม
 
http://www.tunwalai.com/story/117396/%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b8%b5
ผู้แสดงความคิดเห็น jojo (coupon333u-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2016-09-10 23:42:39



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.