ReadyPlanet.com


ปม ความรัก ความห่วงใย แบบ ลกเจ๊ก เด็กขโมยส้ม !!


 ความเดิมตอนที่แล้ว



สมัยราชวงศ์ฮั่น ลกเจ๊ก เป็นชาวเมืองอู๋ ( ง่อ ) มีชื่อรองว่า กงจี้ เป็นคนขาพิการทั้งสองข้าง สติปัญญาดี เฉลียวฉลาด เป็นคนเลิศในความกตัญญูกตเวที เมื่อ ลกเจ็กอายุเพียง 6 ขวบ ได้ติดตามอาไปเยี่ยมคำนับ อ้วนสุด ผู้เป็นเจ้าเมืองจิ่วเจียง เจ้าบ้านจัดส้มจำนวนมากมาเลี้ยงรับรองแขกตามธรรมเนียม เมื่อลกเจ๊กกินส้มแล้วก็คิดถึงมารดา จึงซุกซ่อนส้มสองผลใส่ไว้ในแขนเสื้อ

ครั้นได้เวลากลับบ้าน ขณะที่ทำก้มกายคารวะอำลา บังเอิญส้มที่ซุกซ่อนไว้หล่นลงพื้น อ้วนสุดเห็นแล้วก็พูดสัพยอกว่า “ลกเจ๊กเอ๋ย เจ้ามาเป็นแขกผู้เยาว์ ไฉนจึงแอบซุกส้มของเจ้าบ้าน ไม่กลัวคนเขาจะหัวเราะเยาะว่าลักส้มหรือ”

ลกเจ๊ก คุกเข่าคำนับแล้วกล่าวว่า “แม่ผมชอบทานส้มที่สุด จึงตั้งใจจะเอาไปฝาก เมื่อแม่ได้ทานก็นับว่าท่านได้เลี้ยงแขกเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง”

อ้วนสุดได้ฟังดังนั้นก็ชมเชยว่า เด็กอายุเพียงเท่านี้ยังรู้จักกตัญญูต่อมารดา หายากยิ่งนัก แล้วก็สั่งให้คนรับใช้เอาส้มกระเช้าหนึ่ง เดินตามไปส่ง

เมื่อลกเจ๊กเติบโตขึ้น ได้ศึกษาสรรพวิทยาการจนเชี่ยวชาญแล้ว ก็ได้เข้ารับราชการกับซุนกวน แห่งง่อก๊ก เพียงไม่นานก็ได้ตำแหน่งที่ปรึกษาราชการของซุนกวน เมื่อซุนกวนเป็นใหญ่ในกังตั๋ง เชิญลกเจ๊กเข้ามารับราชการเป็นโจ้วเฉาเหวียน ต่อมาได้เป็นเจ้าเมืองหวี้หลิน ได้ยศทหารเป็น เพียนเจียงจวิน ( นายพล ) ควบคุมทหารสองพันคน

ต่อมาก่อนเกิด ยุทธการศึกเซ็กเพ๊ก ขงเบ้งไปเจรจากับซุนกวน เมืองกังตั๋ง เพื่อให้มาร่วมมือกันกับเล่าปี่ ขับไล่กองทัพใหญ่ของโจโฉ ณ ตอนนั้น ขงเบ้งเดินทางมาในฐานะนักการทูต เพื่อเจรจาต่อรอง ฉะนั้นขงเบ้ง จึงต้องพยามเจรจาโน้มน้าวจิตใจเหล่าคณะที่ปรึกษาของซุนกวน

สาก๊ก ตอนที่ 38 ขงเบ้งเจรจากับที่ปรึกษาซุนกวน

ครั้นขงเบ้งเข้าพบซุนกวนซึ่งแวดล้อมไปด้วยที่ปรึกษาเช่น เตียวเจียว ยีหวน โปเจ๋า ซีหอง ลกเจ๊ก เหยียมจุ้น เทียตก ซึ่งล้วน สนับสนุนให้ซุนกวนเข้าอ่อนน้อมด้วยโจโฉ เหล่าที่ปรึกษาของซุนกวนจึงเกิดการปะทะคารมกับขงเบ้ง ยกตัวอย่างเช่น

ชีหองตั้งคำถามสั้นๆ ง่ายๆ ถามขงเบ้งว่า "โจโฉนั้นเป็นผู้ใด ท่านขงเบ้งแจ้ง หรือไม่"

ขงเบ้งรู้สถานการณ์เป็นอันดี จึงตอบว่า "โจโฉนั้นเป็น ศัตรูพระเจ้าเหี้ยนเต้ ใครๆ ก็แจ้งอยู่สิ้น เหตุใดท่านจึงมาถามดังนี้"

ชีหอง ไม่รู้กลการทูตของขงเบ้ง จึงถลำเข้าสู่บ่วงกล ตอบขงเบ้งว่า "ตั้งแต่พระเจ้าฮั่นโกโจได้เสวยราชสมบัติ แผ่นดินเป็นสุขมาช้านาน บัดนี้ถึงกำหนดแผ่นดินเป็นจลาจล โจโฉ ก็ปราบปรามขอบขัณฑสีมาให้อยู่ในอำนาจของตัวได้ถึงสองส่วนแล้ว เล่าปี่นายท่านมิได้รู้จัก ลักษณการ ควรหรือจะคิดต่อสู้โจโฉนั้น เหมือนเอาไข่ไป กระทบหินก็จะเป็นอันตรายไปเอง"

ขงเบ้งได้ฟัง จึงตอบว่า "ท่านว่าฉะนี้มิชอบ อันเล่าปี่นายเราคิดอ่านทำการทั้งนี้เพราะมีความกตัญญูต่อพระเจ้าเหี้ยนเต้ เห็นว่าโจโฉเป็นศัตรูแผ่นดิน จึงเจ็บร้อน เพื่อจะสนองคุณเจ้า แลตัวท่านก็เป็น ข้าแผ่นดินอยู่ในพระเจ้าเหี้ยนเต้ ไม่มีความภักดีต่อเจ้ากลับเห็นชอบด้วยศัตรูแผ่นดิน หามีความกตัญญูไม่ จะ มาถือเอาว่าการแผ่นดินจะสาบสูญนั้นจะได้หรือ คำข้อนี้ท่านอย่าเจรจาต่อไปเลยเราไม่ขอได้ยิน"

ครั้น ชีหอง ได้ฟังคำของขงเบ้ง ด้วยธรรมเนียมประเพณีที่ข้าแผ่นดินต้องภักดีต่อพระมหากษัตริย์ จึงรู้สึกอัปยศอดสูยิ่งนัก เจรจาต่อไปมิได้แล้ว ก็ถอยกลับมานั่งที่เดิม

ฝ่าย ลกเจ๊ก เมื่อเห็นเพื่อนขุนนางด้วยกันถูกตีจนต้องถอยร่นกลับมา จึงลุกเดินจากที่นั่งตามตำแหน่งออกไปว่ากล่าวกับขงเบ้งว่า

ตัวข้าพเจ้านี้ชื่อลกเจ๊ก เป็นขุนนางเมืองกังตั๋ง ได้ฟังคำท่านแล้วเห็นชอบกลอยู่ จะใคร่ขอถามความท่านสักคำหนึ่งว่า

"อันโจโฉนี้มาตรว่าทำหยาบช้า แอบอ้างรับสั่งพระเจ้าเหี้ยนเต้ เที่ยวปราบปรามบ้านเมืองทั้งปวงให้แผ่นดินเดือดร้อนก็จริง แต่ว่าโจโฉนี้เป็นเชื้อสายของโจฉำผู้เป็นอุปราชมาแต่แผ่นดินก่อน อันเล่าปี่นี้ว่าเป็นเชื้อกษัตริย์กระเซ็นกระสายพระเจ้าเหี้ยนเต้นั้นเราไม่รู้ แจ้งแต่ว่าตระกูลของเล่าปี่นั้นเป็นคนอนาถา ตัวเล่าปี่เองก็เคยเป็นเพียง คนทอเสื่อขาย ควรหรือจะมาองอาจไม่คิดเจียมตัว แลจะต่อสู้โจโฉนั้นเราไม่เห็นด้วย"

ขงเบ้งตอบว่า "ท่านนี้หรือชื่อว่าลกเจ๊ก เมื่อยังเป็นเด็กอยู่นั้น ลักส้มเขาเอาไปให้มารดา นั่งลงเถิดเราจะเจรจาด้วย"

อันเล่าปี่ นายเรานั้นเป็นเชื้อสายพระเจ้าเหี้ยนเต้ พระเจ้าเหี้ยนเต้ก็ทำนุบำรุงให้ยศถาบรรดาศักดิ์ คนทั้งปวงก็รู้อยู่ เหตุไฉน ท่านจึงว่าเป็นคนอนาถา ถึงมาตรว่าเป็นคนทอเสื่อ ขายเกือกก็ดี อันนี้ประเพณีเป็นที่ทำมาหากินจะอับอายเป็นกระไรนักหนา ฝ่ายพระเจ้าฮั่นโกโจ นั้นเล่าก็มิใช่เป็นเชื้อพระวงศ์มาแต่ก่อน ก็เป็นแต่พันนายบ้าน แต่ กอปรไปด้วยความเพียร ก็ได้เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แลได้สืบพระราชวงศ์เสวยราชสมบัติมาตราบเท่าทุกวันนี้ ท่านจะมาประมาทเล่าปี่นายเรานั้นหาควรไม่

ตัวท่านเป็นเด็กยังมิสิ้นกลิ่นน้ำนมจะมาอวดรู้กว่าผู้ใหญ่นั้นอย่าเจรจาสืบไปเลย ซึ่งท่านนับถือโจโฉว่าเป็นเชื้อสายของโจฉำ ก็จริงอยู่แต่ทว่าโจฉำนั้นเป็นคนกตัญญูสัตย์ซื่อต่อเจ้าปรากฏมาแต่ก่อน อันโจโฉนี้เป็นคนเสียชาติเสียตระกูล มิได้ประพฤติตามประเพณีปู่ย่าตายาย ทำให้ผิดจากตระกูลของตัว ซึ่งจะนับถือว่าดีนั้นก็แต่คนพาลเหมือนหนึ่งท่าน"

ลกเจ๊กไม่คาดคิดว่าขงเบ้งจะรู้ความหลังครั้งก่อนแต่ครั้งตัวอยู่ในวัยเด็ก ครั้นถูกขงเบ้งลำเลิกความหลังขึ้นต่อหน้าบรรดาเพื่อนขุนนางดังนี้ก็รู้สึกละอายใจ และได้รับความอัปยศเป็นอันมาก ทั้งถ้อยคำที่ขงเบ้งเจรจาโต้ตอบล้วนเป็นความจริงที่ใครๆ ก็รู้กันทั่วไป แม้ ลกเจ๊กเองก็รู้ กระจ่าง จึงสิ้นคำที่จะต่อถ้อยวาจากับขงเบ้งอีกต่อไป ลกเจ๊กได้ความอัปยศดังนี้จึงก้มหน้าถอยกลับมานั่งในที่ เดิม

วิเคราะห์

ลกเจ๊ก มีความกตัญญู (รู้คุณ) มารดา ถือเป็นเรื่องที่สมควรได้รับการยกย่อง ชื่นชม

แต่การที่ลกเจ๊ก กตเวที (ตอบแทนคุณ) มารดาโดยการแอบ ขโมย ส้มเพื่อหวังนำกลับมาให้มารดาได้กิน ย่อมต้องถือเป็นเรื่องที่ควรตำหนิ

เมื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบกับสถานการณ์ภายในเรื่องสามก๊กแล้วพบว่า ตัวผู้เขียนเอง ก็ตกอยู่ในภาวะที่คล้ายคลึงกับ ภาวะของลกเจ๊ก

ด้วยเหตุที่ว่า มีความรักความหวังดีต่อเพื่อนผู้เป็นปลัดเทศบาลหญิง เป็นที่ตั้ง แต่ในขณะเดียวกันก็ได้กระทำเรื่องที่ผิดพลาดบางประการลงไป ความขัดแย้งนี้เอง ที่ แม้นว่าลกเจ๊กจะมีความความรัก ความหวังดี เป็นที่ตั้งก็ตามที

ทว่าผู้ที่ได้รับความหวังดีจากลกเจ๊ก ซึ่งก็คือมารดาของลกเจ๊ก ย่อมตกอยู่ในภาวะที่ทั้งซาบซึ้ง และทั้งละอาย ทั้งเอ็นดู ทั้งโกรธ อยู่ในคราวเดียวกัน เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้



ผู้ตั้งกระทู้ กวิน :: วันที่ลงประกาศ 2008-02-23 15:51:07


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (969133)
ด้วยเหตุที่ว่า มีความรักความหวังดีต่อเพื่อนผู้เป็นปลัดเทศบาลหญิง เป็นที่ตั้ง แต่ในขณะเดียวกันก็ได้กระทำเรื่องที่ผิดพลาดบางประการลงไป (เคยแอบรักเธอมาก่อน)
ผู้แสดงความคิดเห็น กวิน วันที่ตอบ 2008-02-23 16:58:21


ความคิดเห็นที่ 2 (969134)
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tao

พลอต นิยายน้ำเน่าน่ะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น กวิน วันที่ตอบ 2008-02-23 16:59:47


ความคิดเห็นที่ 3 (1726032)
wow gold wow gold wow gold wow gold
ผู้แสดงความคิดเห็น cyyinli วันที่ตอบ 2008-05-19 08:58:47


ความคิดเห็นที่ 4 (2107807)

fake gucci wallets replica handbags time.Replica Handbags Make Your louis vuitton Bulga world famous for its stylish louis vuitton lv handbags shoulde.

ผู้แสดงความคิดเห็น sevent (have-at-live-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-11 11:31:57


ความคิดเห็นที่ 5 (2224390)

camiseta del ac milan

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้แสดงความคิดเห็น (joyl-at-gmx-dot-com)วันที่ตอบ 2011-10-11 14:37:22



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.