"คลุม"

"คลุม"
"คลุม" ดึกดื่นค่ำคืนนี้ หม่นราตรีที่ข่ม-ขืน ตาใสในกลางคืน รอหมดคืนขืนตากว้าง ดึกดื่นแห่งแรมมืด น้ำค้างชืดชื้นสรรพางค์ คูนกกกรางราง ระโหยร้างรังมืดม้วย แว่วอกสะทกใจ แววตาใสใช่ใสสวย แววอกตกระทวย น้ำไหลทางหางปลายตา หอบหืดอืดหอบหาย ฤๅจักตายในนิทรา หอบจิตคิดนานา จรทกยกมือก่าย นิรมิตร้อยเรื่องไหล รุ่มรุมใจให้ใจหาย คำเล่าเก้าสิบสาย ร่ายคำล้านบักอานล้น แสกแทรกเลบงคู ระส่ำหูหู่หดตน หดหู่คู่คูหม่น เค้ามืดทักอลักเอลื่อ หยอนหยอนหยันหยักเหยา ใจเร่าเร่าเร้าเราเหลือ ห่มคลุมค่ำคลุมเครือ ย่ำเท้าเปล่าหนาวน้ำค้าง บาตรร้อนซ่อนห่มคลุม ทุกตักคุ้มข้าวผิวบาง โต๊ะน้อยคอยย่ำทาง ข้าวผิวหม้อรอเนื้อบุญ เยื้องย่ำย้ำเนื้อนา นิมนต์ท่าค่าข้าวหนุน สวดเถิดจะเพริศบุญ แกงอุ่นอุ่นบาตรร้อนใจ เท้าเปล่าเท่ากับทน ให้ฝึกฝนบนวินัย แตกเท้าเท่าแตกใจ ประณุทบาปที่หยาบแย่ ครองตนบนจีวร ส้มอ่อนอ่อนเกาะเถิดแม่ เต็มบาตรดาษเต็มแล้ แท้เต็มตนบนวัตรทำ รวมบาตรถาดคาวหวาน อดเมื่อวานจะฉันหนำ ปานะมิจะค้ำ ขอแอบคำค่ำค้ำที
ผู้ตั้งกระทู้ ไวกูณฐ์ มาลาไทย :: วันที่ลงประกาศ 2010-03-10 23:28:22

[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2044047)

""บาตรร้อนราวไฉน....รุ่มฤทัยกระไรนี่

ตั้งจิตคิดอีกที ....บาตรนี้พุทโธธรรม

...หนีโลกมาเพิ่งวัด.....ปฎิบัติบริกรรม

เพ่งสิสติจำ........ที่ชอกช้ำเพราะชิงชัง..

..เช้าค่ำน้อมรำลึก....หวนรู้ลึก..อนิจจัง

วนเวียนว่ายวนวัง......ยากยับยั้งกิเลสเพลิง..

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัทราจิตร วันที่ตอบ 2010-03-11 08:46:10

[1]

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *

ผู้แสดงความคิดเห็น *
อีเมล
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล