ReadyPlanet.com


แสงสว่างบนยอดดอย


 แสงสว่างบนยอดดอย

 

หนูว่ายน้ำข้ามฟากจากบ้านเกิด
เพื่อหวังเปิดโลกแห่งฝันอันพร่างพร้อย
เบื้องหน้าหนูยังมีครูผู้รอคอย
พวกหนูจะท้อถอยได้อย่างไร

ที่ตรงนี้มีใบไม้มีสายน้ำ
มีไม้ป่างอกงามริมน้ำใส
แต้มภูผาด้วยหมอกหนาวทอดยาวไกล
ไม่เคยคิดว่ามีใครแต่มี ครู

ไร้ถนนทอดยาวสู่ราวป่า
มีเพียงแค่ความเหว่ว้าให้ต่อสู้
อุดมการณ์ล้ำค่าน่าเชิดชู
นำต้นธารแห่งความรู้สู่พงไพร

ครูจากมาสู่ตรงนี้ที่ภูสูง
ที่เมืองกรุงแสงคงพร่างสว่างไสว
แต่ตรงนี้ก็คือเขตประเทศไทย
เหตุไฉนกั้นคนให้ไกลห่างกัน

ครูคงเป็นเช่นแพน้อยที่ลอยล่อง
ส่งเด็กดอยข้ามน้ำนองสู่ฟากฝัน
ครูคงเป็นเช่นสีทองแห่งแสงตะวัน
ส่งผ่านความอุ่นไอนั้นสู่ยอดดอย

หนูว่ายน้ำข้ามฟากมาจากบ้านเกิด
เพื่อหวังเปิดโลกแห่งฝันอันพร่างพร้อย
เบื้องหน้าหนูยังมีครูผู้รอคอย
เธอจะให้ครูท้อถอยได้อย่างไร

 

 

 

 

 

พอดีไปอ่านบทกลอน “คิดถึง” ของท่านราชาวดี แล้วประทับใจในอุดมการณ์ของการเป็นครูบ้านนอกตามถิ่นธุระกันดาร เลยนึกถึงงานเก่าๆของตัวเองที่เคยเขียนไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อ 2 ปีก่อน  ก็เลยถือโอกาสนำมาแบ่งปันกันครับ

 

และนี่คือที่มาของบทกวีข้างต้น

กระบี่ใบไม้ เขียนบทกวีบทนี้ขึ้น เพราะได้แรงบันดาลใจจาการชมรายการทีวีรายการหนึ่ง(รู้สึกจะเป็นช่องNBT) ชื่อรายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน แสงเทียนที่ปลายฟ้า (23 ก.ค. 53) ที่บอกเล่าถึงโรงเรียนในป่าดงโรงเรียนหนึ่งชื่อโรงเรียนล่องแพวิทยา ที่ทั้งนักเรียนและครู 11 ชีวิต ต้องต่อสู้กับความยากลำบากและความขาดแคลนนานัปประการเพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษา ที่นี่นักเรียนชาวเขาต้องเดินทางข้ามเขาไปโรงเรียนด้วยระยะทางหลายกิโล
โดยเฉพาะช่วงหนึ่งในรายการที่ทำเอาข้าพเจ้าซึ้งจนแทบน้ำตาไหล เป็นภาพของเด็กชาวเขาที่รอคอยข้ามแม่น้ำเงาที่เชี่ยวกรากเฝ้ารอคอยความหวังว่าจะมีเรือซักลำผ่านมาเพื่อขออาศัยข้ามแม่น้ำไป หรือรอคอยใครซักคนที่ว่ายน้ำเป็นมาช่วยถือข้าวของและคอยประคองกันข้ามแม่น้ำเป็นกลุ่ม ๆ พวกเธอเล่าว่า(เด็กชาวเขากลุ่มนี้เป็นผู้หญิง) ถ้าไม่มีเรือซักลำผ่านมา หรือไม่มีคนช่วยเหลือ วันนั้นเธอก็คงต้องกลับบ้านไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ 
ที่แห่งนี้คล้ายโรงเรียนประจำได้รับเงินอุดหนุนจากทางรัฐที่มาเฉลี่ยรวมกันแล้วเหลือแค่หัวละห้าบาท เด็กๆ ต้องกินต้มบะหมี่กับปลากระป๋องและโปรตีนเกษตรเหมือน ๆ กันทุกมื้อ(พูดให้ถูกก็คือเด็ก ๆ เหล่านี้ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาจากรัฐน้อยกว่านักโทษในเรือนจำเสียอีก) 
ข้าพเจ้า เคยคิดว่าตัวเองโชคร้าย ที่ตอนเด็กอยากจะไปเที่ยวเตร่เกเรเหมือนเด็กคนอื่นเขาก็ทำไม่ได้ ที่ทำไม่ได้ไม่ใช่เพราะไม่อยากทำแต่เพราะแม่ส่งเงินมาให้แค่นั้นเนื่องจากที่บ้านไม่ได้ร่ำรวยอะไร  แต่พอเอาความยากลำบากของตัวเองมาเปรียบเทียบกับเด็กพวกนี้แล้วก็นับว่ายังสบายกว่าเป็นพันเท่า ยังไงก็ขอส่งกำลังใจไปยังครูและนักเรียนที่อยู่บนยอดดอย ขอให้เข้มแข็งและสู้ต่อไปนะครับ...^-^v

 

 

ปล.ขออภัย ที่ลงผลงาน 2 ชิ้นติดๆกันครับ



ผู้ตั้งกระทู้ กระบี่ใบไม้ (rainny4111-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2012-07-05 21:10:31


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2284854)

 

   สุดยอดแห่งความประทับใจ  เห็นภาพพจน์และนึกตามไปจริงๆ

   ขอบคุณที่นำเสนอผลงานที่มีคุณภาพได้อ่านและอิ่มกับสุข (แฝงเศร้าไปกับเนื้อเรื่อง)  ชอบครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2012-07-05 21:28:08


ความคิดเห็นที่ 2 (2284996)

ผมเคยเขียนเพลงให้ครูดอยคนหนึ่ง

เมื่อวันเด็กปีนี้ อยู่บ้านมะหินกองบนดอยแม่สลอง

ช่วงที่ขึ้นไปจัดกิจกรรมวันเด็ก กับเด็กเขาเผ่าอาข่า

ชีวิตครูดอยสอนนักเรียนมากว่าสิบห้าปี ประทับใจมาก

กว่าจะขึ้นไปถึงยอดดอยได้สุดๆ กลุ่มทีมงาน

เพื่อนๆและมูลนิธิฯจะจัดกิจกรรมกับครูเป็นประจำครับ

ประทับใจบทกวีนี้มากครับท่าน "กระบี่ใบไม้"

 

ขอน้อมคารวะจากใจ

"ทรชนบ้านนอก"

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2012-07-06 14:07:41


ความคิดเห็นที่ 3 (2285091)

ชีวิตครูดูงามนัก

เมตตารักถักทอถ้อย

เกินสรรบรรยายร้อย

วิถีงามน้ำใจครู

ผู้แสดงความคิดเห็น ปรัชญ์ วลีพร วันที่ตอบ 2012-07-06 21:56:02


ความคิดเห็นที่ 4 (2285103)

น่าชื่นชมในน้ำใจของทุกท่านครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณณมี วันที่ตอบ 2012-07-06 23:24:10



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.