ReadyPlanet.com


ส่งร้อยกรองประกวดประจำเดือน "สิงหาคม" ได้กระทู้นี้


(สำหรับผู้ที่ส่งทางเว็บบอร์ด) ส่งได้ทุกระดับการประกวด
- แจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ให้ครบถ้วน
- แจ้งแก้ไขได้ในกระทู้นี้ โดยระบุความคิดเห็นที่ต้องการแก้ไข

(สำหรับผู้ต้องการส่งทางอีเมล ส่งได้ที่):  info_thaipoet@yahoo.com
- แจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ให้ครบถ้วน

หัวข้อการประกวดประจำเดือนสิงหาคม (16 ส.ค. - 15 ก.ย.52 ประกาศผล 30 ก.ย.52)
- ระดับมัธยมศึกษาต้น : ทางด่วน
- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย : ฤดูกาล
- ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป : สุริยคราส

อ่านรายละเอียดร้อยกรองออนไลน์ครั้งที่3 ได้ที่นี่ คลิก...


ขอความกรุณางดการออกความเห็นในกระทู้ส่งงานครับ
ทีมงาน...



ผู้ตั้งกระทู้ webmaster :: วันที่ลงประกาศ 2009-08-17 15:35:22


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1978561)

ฤดูกาล

ใบไม้ผลิ บานโชย โปรยอวนกลิ่น
แต่งประทิน ด้วงแสง ตะวันฉาย
ใบไม้ร่วง ห่วงภูมิ แสนมากมาย
และเดียวดาย กลางหิมะ ที่ขาวโพลน

ฤดูกาล ผันเปลี่ยน แวะเวียนวน
เสมือนกล จากฟ้า ที่ผาดโผน
ให้เกิดก่อ การแลก และถ่ายโอน
มานะโชน ฝันใฝ่ ฝืนชะตา

เพราะว่ามี แรกเริ่ม ใบไม้ผลิ
รับระวิ กานต์ไพร ในใต้หล้า
ก่อกำเนิด บรรดาลให้ เกิดชีวา
แย้มพฤกษา ผกากรอง ช่างต้องใจ

เมื่อเลยผ่าน ช่วงเช้า ที่แรกแย้ม
ยามเที่ยงแต้ม สุรีย์ ปรีย์เปรมใส
เพื่อมอบแสง แผงศักดิ์ดา ภาณุไกล
ถึงอาทิตย์ ที่ใหญ่ยิ่ง สิ่งใดเคียง

ครั้งตกเย็น เห็นใบไม้ เรียงรายร่วง
เข้าสู่ห่วง ความล้ำ ย้ำท่วงเสียง
หลากสีสันต์ หลายสีสวย ช่วยกันเรียง
ให้เห็นเพียง ความงามยาม สนธยา

เข้าถึงแล้ว ไอเย็น ฤดูหนาว
งามแพรวพราว หิมะขาว ราวนิศา
ที่ดาวเด่น เจิดจรัส กลางนภา
สิ้นทิวา แห่งแสง ที่แผดลง

ฤดูกาล ย่อมผันเปลี่ยน และเปลี่ยนผัน
สลับฟ้า คืนวัน มิมัวหลง
เป็นกลฟ้า ที่สอนให้ ได้ดำรง
และได้คง ทุกอย่าง ต้องสมดุล

นี่นะหรือ คือมนตร์ ธรรมชาติ
ที่เขียนวาด มาดหมาย จนคล้ายคุ้น
ใช้ชีวิต สรรพสิ่ง พิงค้ำจุน
ความการุณ ยืดหยุ่น ตามสมควร

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สายลมสีขาว วันที่ตอบ 2009-08-29 00:08:11


ความคิดเห็นที่ 2 (1978838)

ฤดูกาล

 

                                                                ฤดูกาลผ่านผันคืนวันเคลื่อน

                                                ทิวาราตรีเยือนแล้วเลือนหาย

                                                ธรรมชาติเปลี่ยนไปไม่เว้นวาย

                                                เหมือนความตายเกิดดับสลับกัน

                                                                ความเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนไปไม่หยุดยั้ง

                                                เป็นสัจจังแน่แท้ไม่แปรผัน

                                                กฎเกณฑ์แห่งไตรลักษณ์ประจักษ์พลัน

                                                โลกเรานั้นไม่เที่ยงแท้ไม่แน่นอน

                                                                วันเดือนปีผ่านไปในชีวิต

                                                โดยลิขิตกาลเวลาอุทาหรณ์

                                                เมื่อเกิดขึ้นตั้งอยู่คู่ดินดอน

                                                ถึงขั้นตอนเลือนลับแล้วดับไป

                                                                ฝนเคยตกลงมาตามหน้าที่

                                                ตลอดปีตรงเวลาน่าเลื่อมใส

                                                ลมร้อนเคยแผดเผาจนเศร้าใจ

                                                ร้อนฝนไม่ยอมเปลี่ยนเวียนตามกาล

                                                                ครั้นหน้าหนาวก็เปลี่ยนไปกลับไม่หนาว

                                                วิบัติโลกถึงคราวต้องร้าวฉาน

                                                ทั้งร้อนแล้งฝนหนาวเกิดร้าวราน

                                                วันเดือนผ่านเพียงพลิกผันวันเวลา

                                                                เมื่อโลกาภิวัตน์หมุนพัดผ่าน

                                                ฤดูกาลเปลี่ยนแปลงในแหล่งหล้า

                                                ต้องเตรียมรับความเปลี่ยนไปไม่อัตตา

                                                “รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี”

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บวรฯ รัตนโกสินทร์ วันที่ตอบ 2009-08-30 09:44:32


ความคิดเห็นที่ 3 (1978957)

เรียนท่านผู้ส่งผลงานประกวดทุกระดับ

นอกจากการส่งผลงานแล้ว ใคร่ขอให้ผู้ส่งงาน แจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ให้ครบถ้วนด้วยครับ

คณะทำงานฯ
ผู้แสดงความคิดเห็น คณะทำงานฯ วันที่ตอบ 2009-08-30 16:35:09


ความคิดเห็นที่ 4 (1983362)

สุริยคราส

 

                             ศศิธรบนฟากฟ้า                        บดบัง

                        สุริยะหมดกำลัง                                     เคลื่อนคล้อย

                        แสงสว่างซึ่งมีหวัง                                   เว้นส่อง

                        ตรงที่โลกส่วนน้อย                                  นับได้แลเห็น

                                    เช่นคนดีแห่งหล้า                       หลายคน

                        บางส่วนคำนวณในสกล                           กู่ก้อง

                        แทนคนชั่วที่นุสนธิ์                                  สร้างสืบ

                        ครอบรัฐเอ่ยอ้างป้อง                                แต่ฉ้อส่วนตัว

                                    เท่าใบบัวปิดกั้น                          บังคช

                        ร่างที่ล้มมิหมด                                       ทั่วได้

                        วันหนึ่งกลับปรากฏ                                  เกิดเหตุ

                        คนชั่วซึ่งกล่าวไว้                                     ว่างเว้นปกครอง

                                    ผองชนผู้กอปรแล้ว                      กระทำดี

                        ประดุจจันทร์สรรค์รังสี                            ส่องด้าว

                        กลืนแสงแห่งรวี                                     คือทุร-  ชนเอย

                        ก่อประเทศจรัสอะคร้าว                   คลาดแคล้วโพยภัย

                                    สุกใสสกาวเฉกชั้น                       เวหา

                        ดาวดึงส์ของอินทรา                               เทพไท้

                        ผู้ปราบหมู่อสุรา                                     เรืองฤทธิ์  สิ้นแล

                        เทพพิภพสงบไร้                            ทุกข์ร้อนราญตน

                                    นี่คือนิพนธ์พจน์ถ้อย                    ร้อยแสดง

                        ปรากฏการณ์ขานแถลง                            รับรู้

                        ธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลง                  มิเท่า  คนเฮย

                   มีจิตยากจะสู้                                สืบด้วยพิจารณ์

 

                                               

ผู้แสดงความคิดเห็น ปริวัฒน์ กุลวิทย์ วันที่ตอบ 2009-09-12 11:48:07


ความคิดเห็นที่ 5 (1983369)

สุริยคราส

 

                             ศศิธรบนฟากฟ้า                        บดบัง

                        สุริยะหมดกำลัง                                     เคลื่อนคล้อย

                        แสงสว่างซึ่งมีหวัง                                   เว้นส่อง

                        ตรงที่โลกส่วนน้อย                                  นับได้แลเห็น

                                    เช่นคนดีแห่งหล้า                       หลายคน

                        บางส่วนคำนวณในสกล                           กู่ก้อง

                        แทนคนชั่วที่นุสนธิ์                                  สร้างสืบ

                        ครอบรัฐเอ่ยอ้างป้อง                                แต่ฉ้อส่วนตัว

                                    เท่าใบบัวปิดกั้น                          บังคช

                        ร่างที่ล้มมิหมด                                       ทั่วได้

                        วันหนึ่งกลับปรากฏ                                  เกิดเหตุ

                        คนชั่วซึ่งกล่าวไว้                                     ว่างเว้นปกครอง

                                    ผองชนผู้กอปรแล้ว                      กระทำดี

                        ประดุจจันทร์สรรค์รังสี                            ส่องด้าว

                        กลืนแสงแห่งรวี                                     คือทุร-  ชนเอย

                        ก่อประเทศจรัสอะคร้าว                   คลาดแคล้วโพยภัย

                                    สุกใสสกาวเฉกชั้น                       เวหา

                        ดาวดึงส์ของอินทรา                               เทพไท้

                        ผู้ปราบหมู่อสุรา                                     เรืองฤทธิ์  สิ้นแล

                        เทพพิภพสงบไร้                            ทุกข์ร้อนราญตน

                                    นี่คือนิพนธ์พจน์ถ้อย                    ร้อยแสดง

                        ปรากฏการณ์ขานแถลง                            รับรู้

                        ธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลง                  มิเท่า  คนเฮย

                   มีจิตยากจะสู้                                สืบด้วยพิจารณ์

 

                                                ปริวัฒน์  กุลวิทย์

                                                            892 ซ.สินทรัพย์ ถ.พระราม 5 แขวงถนนนครไชยศรี

เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300

โทร. 02-243-1052 หรือ 081-257-8392

ผู้แสดงความคิดเห็น ปริวัฒน์ กุลวิทย์ (ปรับปรุงแก้ไข) วันที่ตอบ 2009-09-12 11:54:49


ความคิดเห็นที่ 6 (1983446)

สุริยคราส

 

                             ศศิธรบนฟากฟ้า                        บดบัง

                        สุริยะหมดกำลัง                                     เคลื่อนคล้อย

                        แสงสว่างซึ่งมีหวัง                                   เว้นส่อง

                        ตรงที่โลกส่วนน้อย                                  นับได้แลเห็น

                                    เช่นคนดีแห่งหล้า                       หลายคน

                        บางส่วนคำนวณในสกล                           กู่ก้อง

                        แทนคนชั่วที่นุสนธิ์                                  สร้างสืบ

                        รักษ์รัฐโดยเอ่ยป้อง                                  แต่ฉ้อสู่ตัว

                                    เท่าใบบัวปิดกั้น                          บังคช

                        ร่างที่ล้มมิหมด                              ทั่วได้

                        วันหนึ่งกลับปรากฏ                                  เกิดเหตุ

                        คนชั่วซึ่งกล่าวไว้                                     ว่างเว้นปกครอง

                                    ผองชนผู้กอปรแล้ว               กระทำดี

                        ประดุจจันทร์สรรค์รังสี                            ส่องด้าว

                        กลืนแสงแห่งรวี                                     คือทุร-  ชนเอย

                        ก่อประเทศจรัสอะคร้าว                   คลาดแคล้วโพยภัย

                                    สุกใสสกาวเฉกชั้น                       เวหา

                        ดาวดึงส์ของอินทรา                               เทพไท้

                        ผู้ปราบหมู่อสุรา                                     เรืองฤทธิ์  สิ้นแล

                        เทพพิภพสงบไร้                            ทุกข์ร้อนราญตน

                                    นี่คือนิพนธ์พจน์ถ้อย                    ร้อยแสดง

                        ปรากฏการณ์ขานแถลง                            รับรู้

                        ธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลง                  มิเท่า  คนเฮย

                   มีจิตยากจะสู้                                สืบด้วยพิจารณ์

 

                                                ปริวัฒน์  กุลวิทย์

                                                            892 ซ.สินทรัพย์ ถ.พระราม 5 แขวงถนนนครไชยศรี

เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300

โทร. 02-243-1052 หรือ 081-257-8392

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปริวัฒน์ กุลวิทย์ (ต้นฉบับสมบูรณ์ล่าสุด) วันที่ตอบ 2009-09-12 16:33:39


ความคิดเห็นที่ 7 (1983599)

         "สุริยคราสส่องชีวิต"

    แสงอาทิตย์ส่องหล้า    ธานี

ผาดแผ่รัศมี                   ยิ่งร้อน

เป็นแสงสู่สุขขี                สุดใฝ่ นำทาง

เปล่าเปลี่ยวเมื่อมืดย้อน     ห่อนรู้จุดหมาย

    เคยเฉิดฉายแจ่มจ้า      จากไป

แหนแห่ขออภัย               เพื่อแคล้ว

บวงสรวงส่งเสริมใจ          จงใคร่ ความดี

ยิ่งใหญ่ยังลับแล้ว            เที่ยงไร้อนิจจัง

    สุดภวังค์สิ่งนี้              ชีพเรา

เกิดแก่เจ็บบรรเทา            เท่านั้น

ประพฤติชั่วมัวเมา            หมกมุ่น กามา

จะจบจิตคิดสั้น                ชีพสิ้นดุจแสง

    เป็นธรรมแฝงหลักชี้      ชีวา

ชีพดั่งแสงสุริยา               หม่นได้

แลลับแต่กลับมา              คลาใหม่ เวียนวน

เราจึ่งทำดีให้                   ผ่านพ้นพ้องพาน

    สุริยกาลคลี่คล้อย         คราสคลาย

ทุกอย่างยังพร่างพราย       เด่นด้วย

คงคุณค่ามากหลาย           ยืนยั่ง ยินยล

ยังอยู่ไม่มอดม้วย              มิ่งแก้วเกิดศรี

    ตราบชีวีคู่พื้น               ผืนโลก

หยุดครุ่นคิดวิโยค             โศกอื้น

มีทุกข์ย่อมมีโชค               ชมช่วย

แสงดับยังกลับฟื้น             เฟื่องฟ้าสดใส

    แสงรำไรเลื่อมล้ำ          รอบวง

แปรเปลี่ยนสุริยง               ที่ย้าย

เห็นทางสู่ประสงค์             บอกบ่ง บันดาล

พบสุขสราญคล้าย             คราสแสงสุรีย์ศรี

                                    

                                    นายวัชระ  สายสมาน

                                    ที่อยู่ ๘๓ ต.หมอนทอง  อ.บางน้ำเปรี้ยว

                                    จ.ฉะเชิงเทรา  ๒๔๑๕๐

                                    โทรศัพท์ ๐๘๕-๐๘๒-๐๗๒๙

ผู้แสดงความคิดเห็น นายวัชระ สายสมาน วันที่ตอบ 2009-09-13 14:48:31


ความคิดเห็นที่ 8 (1983600)

                           สุริยคราส

๑.สุริย- ะไสพรั่งพร้อม            พันธมิตร

คราส    รุกบุกประชิด             ช่วยซ้ำ

พาด      พิงสิ่งอภิสิทธิ์            สูงส่ง

ผ่าน      สื่อมือตอกย้ำ             ร่ำร้อง  ปรองดอง

๒.ประ-คองผองราษฎร์ด้าว     ชาวสยาม

เทศ       แย่แผ่เลียลาม            ลุกด้วย

ไทย      ติดพิษรอบสาม           เศรษฐกิจ

แย่         ยิ่งมิ่งมิตรม้วย           ป่วยสิ้น  กินแฮม

๓.คน    อื่นชื่นแช่มให้              โหยหา

ไกล       กลับลับสายตา           ตอบโต้

เซอร์ไพร้ส์       ใส่มายา            โยนอ่อน

แต่         ปากอยากอวดโอ้        โธ่หน้า  อาเจียน

๔.คน    เธียรเรียนรับรู้               เร็วไว

ไทย      บ่ขอวอนใคร                 เคลื่อนเข้า

วุ่น        ว้างบ่างยุไทย               ทั่วแตก   แยกเฮย

วาย       วุ่นหนุนหนุนคืนเหย้า    ยั่วให้  ไทยพัง

๕.เรื่อง  ดังหลังคลาสคล้อย        ถอยวน

ถวาย     สัตย์ปฏิญาณตน           ซื่อแท้

ฎีกา       ใหม่ใส่มวลชน              เช็คชื่อ

มุ่ง          มาดปรารถนาแก้          แน่แล้ว  เลวจริง

๖.หวัง    อิงชิงพวกข้า                 คอยพยัก

มวล       เหล่าเผ่าจงรัก               รูปแม้ว

ประชา   อื่นหมื่นมิภักดิ์               พูดกร่าง

กด         ขี่ศีรษะแล้ว                   หลีกเร้น  เผ่นผัน

 ๗.ดัน   ดุทุเรศแท้                       ทักศิณ

พา        ร่างห่างแผ่นดิน              ถิ่นด้าว

มัน       หนีที่นอนกิน                   สิ้นท่า

กลับ    ไม่ได้ก็กร้าว                     กล่าวข้อ  รออภัย

๘.โดย  ไทยใจถูกซื้อ                    ฤๅจำ

ไอ้          พวกสวกระยำ               ค่ำเช้า

พวก      มากลากกันทำ               ทุรยศ

แดง       เดือดเลือดของเจ้า          จักเกื้อ  เพื่อใคร

 

จิรางกูร ปากคลองตลาด๑๐๑

จิระ เหล่าจิรอังกูร

๑๔๗หมู่๕ ต.บ้านใหญ่ อ.เมืองจ.นครนายก ๒๖๐๐๐ 

ผู้แสดงความคิดเห็น จิรางกูร วันที่ตอบ 2009-09-13 14:51:56


ความคิดเห็นที่ 9 (1984034)

สุริยคราส

 

                                                สุริยะผงาดล้ำ                                       พระเวหา

                                กระจ่างจับพสุธา                                                 เพริศแพร้ว

                                กำเนิดสรรพชีวา                                                  นิรมิต

                                ตะวันผ่องผ่องผาดแผ้ว                                       ประดุจแก้วรจิตงาม

                                                เงาคราสจะเคลื่อนคล้อย                    ฉายา

                                บังบดพระสุริยา                                                   หม่นเศร้า

                                ราหูทับลักขณา                                                     ถึงฆาต

                                โหรเร่งทำนายเร้า                                                รุ่มร้อนดวงเมือง

                                                หายนะวิกฤตล้ำ                                   สยามรัฐ

                                การเมืองเคืองข้องขัด                                          เร่งร้าย

                                เศรษฐกิจจักวิวัตน์                                               ฤๅคาด  ถึงนา

                                เหตุอุบัติอุบาทว์คล้าย                                          เล่ห์ร้ายกินเมือง

                                                เกราะโกร่งโกร่งเกราะเกรี้ยว            โกร่งเกราะ

                                กระทบกระเทียบกะเทาะ                                   เร่งไม้

                                กระดึงกระดิ่งกระดานเดาะ                              คลายคราส

                                ปะเปรี้ยงปังปลาตให้                                          สยามไซร้คืนเมือง

                                                สุรีย์ฉานส่องให้                                  เห็นหน

                                คลายคราสพสุธาดล                                            ผ่องแผ้ว

                                หากทาบทับใจคน                                               คลายยาก  เสมอนา

                                ขับคราสไปไป่แคล้ว                                           คลาดฟ้าคลุมใจ

                                                สุริยะผงาดล้ำ                                       พระเวหา

                                กระจ่างกมลประชา                                             เพริศแพร้ว

                                กำเนิดซึ่งปัญญา                                                  บริสุทธิ์

                                คราสคลายคลายคราสแคล้ว                              ประดุจแก้วรจิตงาม

 

                                                                                                นางสาวพรทิพา  นิสสะ

                                                                                                คณะศึกษาศาสตร์  มหาวิทยาลัยบูรพา

                                                                                                ถนนลงหาดบางแสน ต.แสนสุข

                                                                                                อ.เมือง   จ.ชลบุรี  ๒๐๑๓๑

                                                                                                โทร ๐๘๔-๓๑๐๖๗๑๓ / ๐๘๑-๒๐๘๘๑๐๔

                                                                                                อีเมล์ fiynaka@hotmail.com

ผู้แสดงความคิดเห็น พรทิพา (fiynaka-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-09-14 16:03:00


ความคิดเห็นที่ 10 (1984223)

  แก้ไขพิมพ์เกินในบทที่๔ครับ(ตัดหนุนออกหนึ่งคำ)

 

                         สุริยคราส

๑.สุริย- ะไสพรั่งพร้อม            พันธมิตร

คราส    รุกบุกประชิด             ช่วยซ้ำ

พาด      พิงสิ่งอภิสิทธิ์            สูงส่ง

ผ่าน      สื่อมือตอกย้ำ             ร่ำร้อง  ปรองดอง

๒.ประ-คองผองราษฎร์ด้าว     ชาวสยาม

เทศ       แย่แผ่เลียลาม            ลุกด้วย

ไทย      ติดพิษรอบสาม           เศรษฐกิจ

แย่         ยิ่งมิ่งมิตรม้วย           ป่วยสิ้น  กินแฮม

๓.คน    อื่นชื่นแช่มให้              โหยหา

ไกล       กลับลับสายตา           ตอบโต้

เซอร์ไพร้ส์       ใส่มายา            โยนอ่อน

แต่         ปากอยากอวดโอ้        โธ่หน้า  อาเจียน

๔.คน    เธียรเรียนรับรู้               เร็วไว

ไทย      บ่ขอวอนใคร                 เคลื่อนเข้า

วุ่น        ว้างบ่างยุไทย               ทั่วแตก   แยกเฮย

วาย       วุ่นหนุนคืนเหย้า    ยั่วให้  ไทยพัง

๕.เรื่อง  ดังหลังคลาสคล้อย        ถอยวน

ถวาย     สัตย์ปฏิญาณตน           ซื่อแท้

ฎีกา       ใหม่ใส่มวลชน              เช็คชื่อ

มุ่ง          มาดปรารถนาแก้          แน่แล้ว  เลวจริง

๖.หวัง    อิงชิงพวกข้า                 คอยพยัก

มวล       เหล่าเผ่าจงรัก               รูปแม้ว

ประชา   อื่นหมื่นมิภักดิ์               พูดกร่าง

กด         ขี่ศีรษะแล้ว                   หลีกเร้น  เผ่นผัน

 

 

 

 

๗.ดัน   ดุทุเรศแท้                       ทักศิณ

พา        ร่างห่างแผ่นดิน              ถิ่นด้าว

มัน       หนีที่นอนกิน                   สิ้นท่า

กลับ    ไม่ได้ก็กร้าว                     กล่าวข้อ  รออภัย

๘.โดย  ไทยใจถูกซื้อ                    ฤๅจำ

ไอ้          พวกสวกระยำ               ค่ำเช้า

พวก      มากลากกันทำ               ทุรยศ

แดง       เดือดเลือดของเจ้า          จักเกื้อ  เพื่อใคร

 

จิรางกูร ปากคลองตลาด๑๐๑

จิระ เหล่าจิรอังกูร

๑๔๗หมู่๕ ต.บ้านใหญ่ อ.เมืองจ.นครนายก ๒๖๐๐๐ 

ผู้แสดงความคิดเห็น จิรางกูร วันที่ตอบ 2009-09-14 23:53:19


ความคิดเห็นที่ 11 (1984239)

ฤดูกาลแห่งชีวิต

 

๑ สายฝนพรำฉ่ำชื่นผืนภิภพ                            

หล่อทำนบลำเลียงเลี้ยงธารใส

เรากักเก็บเลี้ยงกล้าเต็มนาไทย                         

ด้วยอาศัยหลักสากลชลประทาน

 

๒ เมื่อลมหนาวแผ่คลุมสุมไฟอุ่น                    

นานายทุนก็ร้างไกลการไถหว่าน

แห่เข้าเมืองเสี่ยงสู้สู่แหล่งงาน                       

คนทิ้งบ้านเร่งรุดไปขุดทอง

 

๓ จนสงกรานต์งานบุญอุ่นจนอ้าว                 

เล่นปะแป้งหนุ่มสาวหน้าขาวผ่อง

แข่งขนทรายเข้าวัดจัดประลอง

ขนทรายต้องขนบุญเกื้อหนุนไป

 

๔ ฤดูกาลผ่านพบจบเพื่อเริ่ม

วงล้อเดิมหมุนสลับขึ้นนับใหม่

ร้อนฝนหนาวประสมสีวิถีไทย

สื่อภาพให้เห็นวงเวียนความเปลี่ยนแปลง

 

๕ ฤดูกาลยังเป็นอยู่เช่นนั้น

ตราบตะวันสันโดดยังโชติแสง

ตราบโลกหมุนแกนเกลียวยังเชี่ยวแรง

ก็ยากแบ่งวารวันที่สัญจร

 

๖ เปรียบกับชีพมนุษย์ชนบนโลกนี้

เริ่มชีวีเล็กเล็กเพียงเด็กอ่อน

ยิ่งเติบใหญ่เต็มฝันยิ่งบั่นทอน

ยิ่งผ่านร้อนหนาวนานยิ่งผลาญวัย

 

๗ ไร้เรี่ยวแรงหมุนกลับเมื่อกาลผ่าน

ทิ้งเพียงวารโศกสุขยุคสมัย

เป็นจารึกเป็นตำนาน ณ กาลไกล

รุ่นต่อรุ่นสืบไป...ให้จดจำ....

 

นายภาสกร รัตนพัลลภ

โรงเรียนปราจิณราษฏรอำรุง จังหวัดปราจีนบุรี

63 ม 5 ถ.สุวรรณศร ต.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี 25130

037291115

ผู้แสดงความคิดเห็น ภาสกร รัตนพัลลภ วันที่ตอบ 2009-09-15 00:49:22


ความคิดเห็นที่ 12 (1984480)

       ทางด่วน

ชาติไทยไม่พิพัฒน์                ทางภาครัฐไม่ส่งเสริ

                                  อาชีพแต่ดั้งเดิม                        ที่แรกเริ่มคือทำนา

                                        ผลไม้ราคาต่ำ                      ไม่หนุนนำเกิดปัญหา

                                  ประชาชาวรากหญ้า                    สิ้นศรัทธารัฐบาล       

                                         วิกฤตแบ่งแยกสี      สามัคคีเป็นพื้นฐาน  

            ปรองดองจิตชื่นบาน      รู้สมานมิตรไมตรี

               ร่วมแรงแข็งขยัน     สิ่งสำคัญในวันนี้

            รังสรรค์อันความดี       สามัคคีพี่น้องไทย

               เทิดไท้องค์ภูมินทร์    ภูมิแผ่นดินพระทรงชัย

            พระเกียรติก้องเกรียงไกร    เย็นไผทบารมี

               ชาติไทยใช้ทางด่วน    คิดทบทวนเพื่อสุขขี

            แทนคุณปฐพี           สร้าสิ่งดีพิพัฒน์ไทย

ประพันธ์โดย

ด.ช.ฐานันดร     จูทิม

โรงเรียน  บางพลีราษฎร์บำรุง   จังหวัดสมุทรปราการ

154  ม.8   ถ.สุขาภิบาล   ต.บางพลีใหญ่

อ.บางพลี   จ.  สมุทรปราการ   10540          

ผู้แสดงความคิดเห็น ฐานันดร จูทิม (tutyjoy-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-09-15 15:50:00


ความคิดเห็นที่ 13 (1984488)

ทางด่วน

ชาติไทยไม่พิพัฒน์             ทางภาครัฐไม่ส่งสริม

           อาชีพแต่ดั้งเดิม                ที่แรกเริ่มคือทำนา

             ผลไม้ราคาต่ำ               ไม่หนุนนำเกิดปัญหา

           ประชาชาวรากหญ้า              สิ้นศรัทธารัฐบาล

             วิกฤตแบ่งแยกสี              สามัคคีเป็นพื้นฐาน

          ปรองดองจิตชื่นบาน               รู้สมานมิตรไมตรี 

             ร่วมแรงแข็งขยัน              สิ่งสำคัญในวันนี้

          รังสรรค์อันความดี                 สามัคคีพี่น้องไทย

             เทิดไท้องค์ภูมินทร์             ภูมิแผ่นดินพระทรงชัย 

          พระเกียรติก้องเกรียงไกร             เย็นไผทบารมี

             ชาติไทยใช้ทางด่วน             คิดทบทวนเพื่อสุขขี

          แทนคุณปฐพี                    สร้างสิ่งดีพิพัฒน์ไทย 

ผู้ประพันธ์

ด.ช.ฐานันดร    จูทิม

โรงเรียนบางพลีราษฎร์บำรุง   จังหวัดสมุทรปราการ

154  ม.8  ต.บางพลีใหญ่  อ.บางพลี

จ.สมุทรปราการ   10540

สพท.สมุทรปราการเขต  2                 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฐานันดร จูทิม (tutyjoy-at-gmail-dot-comn)วันที่ตอบ 2009-09-15 16:06:37


ความคิดเห็นที่ 14 (1984572)

 

ฤดูกาล – ฤดูการย์ – ฤดูกาฬ

 

 

   อาทิตย์ผันจันทร์ผ่านกาลล่วงข้าม                               จึงโมงยามไม่นิ่งแน่ย่อมแปรเปลี่ยน

โลภ โกรธ หลง รุมเร้าเข้าแวะเวียน                                 ชีพรู้เรียน ต่อสู้ สู่ความดี

  วัฏจักร “ฤดูกาล” เยือนย่านถิ่น                                  ผืนแผ่นดินเคยประจักษ์สูงศักดิ์ศรี

การกระทำย้ำความเถื่อนเปื้อนราคี                                   จวบวันนี้ “ฤดูการย์” พานเปลี่ยนไป

   ฝนกระหน่ำโหมราวล้างคาวเลือด                            เเดง แดง เดือด พสุธาที่อาศัย

"อำนาจมืดแห่งมาร" บงการใจ                                       ไทยกับไทยรบราฆ่ากันเอง

   ร้อนกายใจทั่วแคว้นแดนสยาม                                   ไฟสงครามคุกรุ่นวุ่นข่มเหง

ผลาญขวานทองเพราะ “กฎหมาย” คลายยำเกรง         “ ข้าขอเบ่งบารมีชั่วไม่กลัวใคร ”

   แล้งน้ำจิต แล้งน้ำใจ ชาติใกล้ม้วย                             สังคมป่วยเกินเยียวยารักษาได้

ไร้เหลียวแลแต่ละคนมิสนใจ                                            กลับคงไว้ เงิน เงิน เงิน สรรเสริญกัน

   เย็นยะเยือก หนาวน้ำคำ เคยพร่ำกล่าว                       ร้อยเรื่องราว ล้านเล่ห์ลิ้น (สิ้นสร้างสรรค์)

“เชื่อข้าเถิด”  “ฝ่ายข้าถูก”  ปลูกสัมพันธ์                         แต่ฆ่าฝัน ฆ่าศรัทธา เพื่อฆ่าไทย

   จะ หนาว ร้อน ฝน แล้ง ทุกแห่งโศก                         วิปโยคด้วยมุ่งเน้นความเป็นใหญ่

กิเลสลวงล่วงล้ำนำทางใจ                                                  ย่างก้าวไปบนทางผิด อวิชชา

   “ฤดูกาฬ” กลืนชีวีทีละนิด                                         เลิกเสียเถิดความคิดคอยอิจฉา

“สามัคคี” เพื่อประเทศ “วิเศษยา”                                  เปิดดวงตาเห็นธรรมพาจำเริญ

 

 

 

 

นางสาวทิพย์สุคนธ์   สมรูป

โรงเรียนท่าบ่อ  จังหวัดหนองคาย

๔๕/๓ ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ๔๓๑๑๐

๐๘-๓๖๗๓-๘๓๘๐    ๐-๔๒๔๔-๗๐๓๒

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อิ๋วซิ่ว วันที่ตอบ 2009-09-15 20:58:47


ความคิดเห็นที่ 15 (1984592)

สุริยคราส

๑ หมองมัวมืดหม่นฟ้า                        ปฐพิน

สูรย์ส่องสบเงาทมิฬ                            หมดแจ้ง

หมู่วิหคแตกผกผิน                              เสียงส่ง เซ็งแซ่

บอกบ่งลางร้ายแล้ง                             กระหน่ำพื้นไผทไทย

 

๒ เภทภัยทุรยุคย้ำ                                ยะเยือกขวัญ

น้องพี่พิฆาตกัน                                   โกรธเกรี้ยว

ใส่สนตะพายพัน                                 ผจญศึก สมรภูมิ

ชัยชนะหนึ่งบิดเบี้ยว                             บ่สร้างวีรชน

 

  ไพร่พลแลพรั่งพร้อม                    ผสมผสาน

เปิดศึกคะนองการ                               ต่อสู้

ไร้ทัพไร้ทหารหาญ                             กรำศึก สมคะเน

เพียงหนึ่งกลุ่มคนผู้                             บอดบ้าต่างสี

 

๔ วีรกรรมประกาศโก้                        เกินใคร

หนึ่งร่ำรวยเงินใช้                               เก่งกล้า

อีกหนึ่งคอยขับไส                               กูเก่ง เกินมึง

โอ้อธิปไตยอ่อนล้า                              ห่อนใช้โดยสรรค์

 

๕ รวมกันจึงอยู่ได้                               มั่นคง

รู้สิทธิ์หน้าที่ธำรงค์                             สุขด้าว

พอเพียงสิ่งประสงค์                           เสมอสิทธิ์ พึงมี

ปิดฉากความปวดร้าว                          คราสพ้น เพียงแสง

 

๖ เจิดแจรงรุ้งจรัสล้ำ                           ไผทผอง

พราวพร่างเหนือพานทอง                 สง่าพ้น

สามัคคีมั่นปรองดอง                           ทั่วถิ่น แดนไทย

ศานติ์ส่งประโยชน์ล้น                      ชาติล้ำคำขาน ฯ

 

นายสราวุธ  สัญญะโม

บ.เอกซอนโมบิล

54 ถ.สาธรเหนือ บางรัก กทม. 10500

023527890

ผู้แสดงความคิดเห็น สราวุธ สัญญะโม วันที่ตอบ 2009-09-15 22:04:57


ความคิดเห็นที่ 16 (1984593)

สุริยคราส

๑ หมองมัวมืดหม่นฟ้า                        ปฐพิน

สูรย์ส่องสบเงาทมิฬ                            หมดแจ้ง

หมู่วิหคแตกผกผิน                              เสียงส่ง เซ็งแซ่

บอกบ่งลางร้ายแล้ง                             กระหน่ำพื้นไผทไทย

 

๒ เภทภัยทุรยุคย้ำ                                ยะเยือกขวัญ

น้องพี่พิฆาตกัน                                   โกรธเกรี้ยว

ใส่สนตะพายพัน                                 ผจญศึก สมรภูมิ

ชัยชนะหนึ่งบิดเบี้ยว                             บ่สร้างวีรชน

 

  ไพร่พลแลพรั่งพร้อม                    ผสมผสาน

เปิดศึกคะนองการ                               ต่อสู้

ไร้ทัพไร้ทหารหาญ                             กรำศึก สมคะเน

เพียงหนึ่งกลุ่มคนผู้                             บอดบ้าต่างสี

 

๔ วีรกรรมประกาศโก้                        เกินใคร

หนึ่งร่ำรวยเงินใช้                               เก่งกล้า

อีกหนึ่งคอยขับไส                               กูเก่ง เกิน มึ ง

โอ้อธิปไตยอ่อนล้า                              ห่อนใช้โดยสรรค์

 

๕ รวมกันจึงอยู่ได้                               มั่นคง

รู้สิทธิ์หน้าที่ธำรงค์                             สุขด้าว

พอเพียงสิ่งประสงค์                           เสมอสิทธิ์ พึงมี

ปิดฉากความปวดร้าว                          คราสพ้น เพียงแสง

 

๖ เจิดแจรงรุ้งจรัสล้ำ                           ไผทผอง

พราวพร่างเหนือพานทอง                 สง่าพ้น

สามัคคีมั่นปรองดอง                           ทั่วถิ่น แดนไทย

ศานติ์ส่งประโยชน์ล้น                      ชาติล้ำคำขาน ฯ

 

นายสราวุธ  สัญญะโม

บ.เอกซอนโมบิล

54 ถ.สาธรเหนือ บางรัก กทม. 10500

023527890

ผู้แสดงความคิดเห็น สราวุธ สัญญะโม วันที่ตอบ 2009-09-15 22:07:22


ความคิดเห็นที่ 17 (1984619)

สุริยคราส...คำสอนของมุนี

 

กาลครั้งหนึ่งเนิ่นแล้ว                         นานปี

บอกเล่าเรื่องราวมี                                               คติไว้

ด้วยกิเลสเหตุโลกีย์                                              กุมจิต

คนจึ่งหลงผิดได้                                                   ขาดด้วยมโนธรรม

มุนีบำเพ็ญพรตได้                               ถึงฌาน

สมาธิเป็นประธาน                                              หยั่งรู้

บุญแห่งจิตกรรมฐาน                                          เสริมส่ง

เห็นศิษย์หยิบภักษ์ผู้                                            อื่นแล้วหลบหนี

                ฤดีดาลเดือดด้วย                                   ร้อนจิต

เคยปลูกฝังให้คิด                                                  ถูกแท้

ครั้งนี้กลับหลงผิด                                               เพราะโลภ     หลงนา

ควรแก่การกล่าวแก้                                             ก่อนพลั้งเป็นนิสัย

                ตั้งใจเรียกศิษย์เสี้ยม                            สั่งสอน

ดูนั่น...นภากร                                                     ขณะนี้

เงาทาบทับตะวันตอน                                         ฟ้าสว่าง

แดดพยับริบหรี่รี้                                                  หมดแล้วสุริยนต์

                มืดมนหมดฟากฟ้า                              มัวดิน

“สุริยคราส”  มุนินทร์                                         กล่าวแกล้ง

ครูหนึ่งจึ่งจะผิน                                                  เงาออก

คลายคราสแล้วจักแจ้ง                                        จรัสจ้าดังเดิม

                กล่าวเสริมให้ศิษย์รู้                             สำนึก

เปรียบมนุษย์ขาดสติตรึก                                    พลาดพลั้ง

ลุ่มหลงถลำลึก                                                     ทางผิด

คือสุริยะคราครั้ง                                                  คราสเข้ากลืนกิน

                แม้นผินตนกลับได้                              ไว้ทัน

เงาคราสจักคลายพลัน                                        สว่างจ้า

ศิษย์น้อยใคร่ครวญครัน                                     สารภาพ -     ผิดนา

กล่าวพจน์ด้วยใจกล้า                                          รับแล้วโดยดี

                มุนีสอนสั่งซ้ำ                                      เตือนศิษย์

ห้ามกิเลสเหตุหลงผิด                                         ยับยั้ง

ใช้สติตรึกตรองคิด                                              ถ้วนถี่

แล้วจักเดิน บ่ พลั้ง                                              คลาดแคล้วโลกีย์

 

 

 

นายธนวัฒน์   ทับทิมไทย

๑๕  หมู่ ๕  ต.เขาล้าน  อ.ทับสะแก  จ.ประจวบคีรีขันธ์  ๗๗๑๓๐

โทรศัพท์  ๐๘๑๑๙๗๑๘๙๕

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนวัฒน์ วันที่ตอบ 2009-09-15 23:42:07


ความคิดเห็นที่ 18 (1984627)

ปิดรับร้อยกรองทุกหัวข้อของเดือนสิงหาคม (16 ส.ค. - 15 ก.ย.52)
...ทีมงาน...

ผู้แสดงความคิดเห็น Webmaster วันที่ตอบ 2009-09-16 00:05:55



[1]



กระทู้นี้ไม่เปิดให้แสดงความคิดเห็น

Copyright © 2010 All Rights Reserved.