จากวิกฤตการณ์แบ้งก์ปลอม นี่เองทำให้ผูู้่เขียน หวนระลึกนึกถึงโคลง แบ้งก์ปลอม ของ อัศนี พลจันทร (นายผี)  ที่เคยเขียนลงใน หนังสือพิมพ์สยามสมัย เมื่อ เดือน กันยายน พ.ศ. 2490 ที่ว่า


ปางบรรพ์บ่นว่าแบ้งก์-              ปลอมมี มากนา
แม้ที่ทำมาที-                           ละน้อย
เหมือนสาวบริสุทธิ์ศรี                 สะอาด
มีไม่บริสุทธิ์ร้อย-                       หนึ่งนั้นนางเดียว

-สมัยก่อนคนบ่นว่า มีแบ้งก์ปลอมระบาด เป็นจำนวนมาก
-แม้ผู้ที่ผลิตแบ้งก์ปลอมจะทำทีละน้อย (คนจึงไม่ค่อยสงสัย แต่เมื่อรู้ก็ยังบ่นว่า แบ้งก์ปลอมมีมาก)
-อุปมาเหมือนผู้หญิง(สมัยก่อน) ที่รักนวลสงวนตัว (บริสุทธิ์ผุดผ่อง)  
-สมัยก่อนผู้หญิง 100 คนจะมี ที่ไม่รักนวลสงวนตัวแค่ 1 คน

สมัยนี้บ่นว่าแบ้งก์-                    ปลอมมี  มากฤา
ผิว์จะดูแบ้งก์ดี                          เกือบดิ้น
เหมือนสาวบริสุทธิ์ศรี                 สะอาด
มีไม่บริสุทธิ์สิ้น-                        เสร็จร้อยเลยสาว

-สมัยนี้คนก็ยังบ่นว่า มีแบ้งก์ปลอมระบาดมาก (และระบาดหนักกว่าแต่ก่อน)
-จะดูว่าแบ้งก์จริง (หรือแบ้งก์ปลอม) ก็เกือบดิ้น(ตาย)
-อุปมาเหมือนผู้หญิง(สมัยนี้) ที่รักนวลสงวนตัว (บริสุทธิ์ผุดผ่อง)  
-สมัยนี้ (พ.ศ. 2490 ) ผู้หญิง 100 คนนั้นจะหาสักคนที่บริสุทธิ์ หาไม่พบเลย


ผู้เขียนวิเคราะห์จากประวัติศาสตร์  พบว่า มีการรัฐประหารเมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 นำโดย พล.ท.ผิน ชุณหะวัณ และ น.อ.กาจ กาจสงคราม นำกำลังทหารยึดอำนาจจากปกครองจากรัฐบาล พล.ร.ต.ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ สาเหตุของการรัฐประหารก็คือ รัฐบาล พล.ร.ต.ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ซึ่งสืบอำนาจต่อจากรัฐบาล นายปรีดี พนมยงค์ ไม่สามารถจัดการกับปัญหาความขัดแย้งกันในชาติได้ อันมีสาเหตุหลักจากเหตุการณ์สวรรคตของรัชกาลที่ 8 ประกอบกับมีการทุจริตคอร์รัปชั่นในวงราชการ เช่น การนำเงินไปซื้อจอบเสียมแจกจ่ายให้ราษฎรทำการเกษตร ทว่าความปรากฏภายหลังว่าเป็นจอบเสียมที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเรียกกันว่า "กินจอบกินเสียม"   เช้าวันที่ 8 พฤศจิกายน พล.ท.ผิน ชุณหะวัณ หัวหน้าคณะรัฐประหาร ได้แถลงต่อสื่อมวลชนด้วยน้ำตาว่าทำไปเพราะความจำเป็น จนได้รับฉายาว่า "วีรบุรุษเจ้าน้ำตา" หรือ "บุรุษผู้รักชาติจนน้ำตาไหล" และเรียกทหารกลุ่มที่ทำการรัฐประหารว่า "คณะทหารแห่งชาติ"  จากนั้นคณะทหารแห่งชาติ จึงให้ นายควง อภัยวงศ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยให้สัญญาว่าจะไม่แทรกแซงการทำงาน ซึ่งคณะทหารแห่งชาติได้ตั้งสภาขึ้นมา ใช้ชื่อว่า "คณะรัฐมนตรีสภา" (ที่มา)


สาเหตุสำคัญที่ทำให้แบ้งก์ปลอมระบาดสืบเนื่องมาจาก ภาวะข้าวยากหมากแพง การทุจริตในแวดวงข้าราชการประจำ และปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติ ซึ่งถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิด ปัญหาแบ้งก์ปลอมระบาดในประเทศ   เราจึงสามารถกล่าวได้ว่า อดีต ส่งผลต่อปัจจุบัน และปัจจุบันส่งผลต่ออนาคต และหากมองย้อนดูประวัติศาสตร์ชาติไทยก็จะพบว่าเหตุการณ์ในอดีีตสามารถนำมาเป็นอุทธาหรณ์เตือนใจเราได้  อย่างไรก็ดี ในยุคของนายผี พ.ศ.2490 ผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัว (บริสุทธิ์ผุดผ่อง) นั้นคงจะมีจำนวนมากกว่าในสมัยนี้ เพราะกระแสทุนนิยม/ค่านิยม ตะวันตก ยังมิเชี่ยวกรากรุนแรงเท่ากับในยุค ปรัตยุบัน

ทว่านายผีได้ใช้โวหาร อติพจน์ (hyperbole) ประเทียดเสียดแทง ตามประสาคนหัวก้าวหน้า ซึ่งจับใจความโคลงของนายผีได้ว่า ผู้หญิงถ้าไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว ก็จะเหมือนกับแบ้งก์ปลอมที่ไม่มีราคา มีแต่ ราคี -_-""  ถึงอย่างไรก็ตาม นายผี คงไม่ได้มีเจตนาที่จะตีราคา ผู้หญิงเป็น ตัวเงิน  แต่นายผี น่าจะตีราคา ผู้หญิง ที่ความประพฤติ

อนึ่งนายผี นั้นไม่เห็นด้วยกับ ประเวณี เอ้ย ประเพณี การแต่งงานที่ ฝ่ายชาย จะต้องนำเงินสินสอดทองหมั้นไปสู่ขอฝ่ายหญิง โดยนายผีให้ทรรศนะไว้ในทำนองที่ว่า "การสู่ขอผู้หญิง นั้นเหมือนกับการนำเงินไปซื้อวัวซื้อควาย ซื้อเครื่องประดับ" ซึ่งทรรศนะนี้ปรากฎอยู่ในกลอน "ผู้หญิงเอ๋ย" ความว่า

จะกล่าวฝ่ายนายผีผู้มีเดช      ให้สมเพชผู้หญิงยิ่งนักหนา
ใช่เรื่องอื่นตื่นดก ตกราคา      ซื้อหล่อนมาห้าพันขันจะตาย
เอาทำเมียไม่เท่าไรใจระทึก    ลงนั่งนึกทั้งวันมันจะหงาย
หวังสะเบยเคยจิตรคิดสบาย   จึงซื้อสายต้อยติ่งมาอิงตน

ทว่าผู้เขียนกลับมองเห็นต่างไปจากนายผี นั่นคือ การสู่ขอฝ่ายหญิงโดยฝ่ายชาย ถือเป็นการสร้าง อนุสติอย่างหนึ่ง ที่ว่า ฝ่ายชายเมื่อได้สู่ขอฝ่ายหญิง มาด้วยเงินจำนวนหนึ่ง จะมากหรือน้อยก็ตาม ฝ่ายชายก็สมควรที่จะให้เกียรติ รักและดูแลฝ่ายหญิงไปตลอดชีพของเขา  ส่วนฝ่ายหญิง นั้นก็ต้องทำตัวให้มีราคาค่างวด คู่ควรกับราคาสินสอดทองหมั้น ถ้าทำตัวไร้ค่า/หมดค่า/สิ้นค่า เสียแล้ว ถึงจะยื่นให้ฟรีๆ ผู้ชายที่ไหนก็คงไม่เอา เอ้ย ไม่รับ   ยกตัวอย่างเช่น ผู้เขียน ให้แบ้งก์ (ปลอม) ใบละพันกับท่านผู้อ่าน  ถ้าท่านผู้อ่าน ฉลาดและเป็นคนที่ช่างสังเกต ก็จะรู้ไดู้้ว่า แบ้งก์ราคา 1,000 บาทนี้เป็นของปลอม เมื่อท่านผู้อ่านทราบว่าแบ้งก์ราคา 1,000 บาทนี้เป็นของปลอมย่อมไม่มีความละโมภโลภมาก อยากได้แบ้งก์ปลอม นี้เป็นแน่แท้ 

ถึงอย่างไรก็ดี ผู้หญิงและผู้ชาย นั้นก็ย่อมเท่าเทียมกันในทางกฎหมาย ด้วยเหตุนี้เองผู้เขียนเชื่อว่า นายผี เองก็ย่อมมิได้มีเจตนาที่จะแต่งโคลง บริภาษ ฝ่ายหญิง เพียงฝ่ายเดียว แต่นายผีนั้นคงต้องการ เตือนสติ มนุษย์ทั้งหญิง และชายว่า ให้อยู่อย่างมีค่าในสังคม  ด้วยการยก อนุสติว่าด้วยเรื่อง แบ้งก์ปลอม มาเปรียบเทียบ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านครับ ผมเด็กมัธยมได้รับความรู้ในหลายๆเรื่องจากข้อคิเห็นของท่านมีประโยชน์ดีมากครับ