ReadyPlanet.com


ส่งร้อยกรองประกวดประจำเดือน "กันยายน" ได้กระทู้นี้


(สำหรับผู้ที่ส่งทางเว็บบอร์ด) ส่งได้ทุกระดับการประกวด
- แจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ให้ครบถ้วน
- แจ้งแก้ไขได้ในกระทู้นี้ โดยระบุความคิดเห็นและจุดที่ต้องการแก้ไข
- ส่งขึ้นเว็บบอร์ดเป็นไฟล์ text ธรรมดาเพื่อป้องกันข้อความเพี้ยน ไม่ต้องตกแต่ง

(สำหรับผู้ต้องการส่งทางอีเมล ส่งได้ที่):  info_thaipoet@yahoo.com
- แจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ให้ครบถ้วน

( ขอความกรุณาส่งช่องทางใดทางหนึ่งเท่านั้นเพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำของข้อมูล )

หัวข้อการประกวดประจำเดือนกันยายน (16 ก.ย.-15 ต.ค.52 ประกาศผล 31 ต.ค.52)
- ระดับมัธยมศึกษาต้น : บทกวีกับสังคม
- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย : บทเพลงแห่งสันติภาพ
- ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป :
ฤๅหัวใจจะไร้รัก

อ่านรายละเอียดร้อยกรองออนไลน์ครั้งที่3 ได้ที่นี่ คลิก...


ขอความกรุณางดการออกความเห็นในกระทู้ส่งงานครับ
ทีมงาน...



ผู้ตั้งกระทู้ webmaster :: วันที่ลงประกาศ 2009-09-17 13:38:47


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1985972)

ความรักของนักกวี:ฤาหัวใจจะไร้รัก


เขียนบทกวีที่ใจอยากให้เขียน
เหมือนผีเฝ้าวนเวียนสมบัติผี
และสอนชีวิตงามสอนความดี
ยังภูมิใจในวิถีอย่างที่เป็น

วันมีเพื่อนเดือนดีและปีหอม
ได้มาย้อมให้ใจหอมรู้และเห็น
บทกวีกล่อมเกลาให้หัวใจเย็น
นกกระเต็นเฝ้าบึงได้เพราะใจยอม

ไม่ใฝ่ชีพรีบวิ่งรอกจิ้งจอกผยอง
ที่ครอบครองมากมายละลายหลอม
ไม่ใฝ่สวมหน้ากากปากแปลกปลอม
ยอมให้ย้อมแค่ความรักจากหนึ่งใจ

บทกวีมากมายหลายร้อยบท
มอบให้เจ้าทั้งเก้ารสหนึ่งสดใส
รอยยิ้มเธอมาย้อมหอมภายใน
คำที่ใช่ คำคม ผมรักคุณ

 

แค่อยากให้หัวใจอยู่ใกล้รัก

ใจพี่ล้าขอแวะพักหนุนตักอุ่น

รอยยิ้มเธอคือธารหวานผ่านละมุน

โลกยังหมุนให้ฉันเธอมาเจอกัน

 

พบกันทุกเช้าชื่นจะตื่นเช้า
พบกันทุกเพลงเร้าเย้าผ่านฝัน
พบกันทุกมุกคำหอมรำพัน
พบกันทุกวลีนั้นสนั่นใจ


เปิดประตูบานเช้าเย้าและยิ้ม
เปิดหน้าต่างโลกอิ่มอ้อนอ่อนใส
เปิดความรักที่มิรู้ฤดูใด
เปิดคำหอม อบให้ อุ่นใจจัง

 

ฤดูหนาวคราวนี้มีของขวัญ
ฤดูกาลผ่านผันฉันแอบหวัง
ฤดูฝันดาลให้กวีมีกำลัง
ฤดูใดไหลหลั่งมาทั้งใจ

 

เปิดประตูยิ่งรู้ฤดูเช้า
เปิดหน้าต่างแสงเจ้ากระจ่างใส
เปิดความหมายคำกวีล่วงความห่วงใย
เปิดความในคำหอมกล่อมดวงมาน


ถ้าบทกวีคลี่หัวใจให้เธอฉัน
พบต้นฝัน ดอกเจ้าป่า ยาสมาน
สามสิ่งซึ่งเป็นหนึ่งนี้ดีแสนนาน
ดอกรักบานสวยหวานในหัวใจเรา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แสงแรก ประดับดิน (dawn-dot-2550-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-09-20 00:17:51


ความคิดเห็นที่ 2 (1986079)

ละจอแก้วไปมองฟ้า:ฤาหัวใจจะไร้รัก

เธอมีตัวตนหรือเปล่าเหล่าเพื่อนรัก
หรือเพียงมาทายทักตามคำขอ
วันทรายเนียนเรียนรู้ครู่ที่รอ
คืนดาวละออทอถักจักรวาล

รู้จักใครในเนตสังเกตใคร่
เพียงสนใจเรื่องเดียวกันฉันท์วิศาล
ชอบบทกวีละอองคำฉ่ำอ้อยตาล
ตลอดกาลหวานลื่นชื่นหทัย

มาเพิ่มพื้นที่ว่างเปล่าให้อวกาศ
จิตนิราศแรมรอนร่อนสงสัย
เบาล่องโล่งเชื่อมโยงฝั้นอมรรตัย
เกินวิจัยกว้างใหญ่เพื่อใครกัน

หากมีเพียงชาวเราเหล่ามนุษย์
ท่ามกลางการชำรุดจุดแปรผัน
น่าเสียดายที่ว่างไร้ใหญ่อนันต์
ดาวเหล่านั้นดวงไหนไร้คนพาล

กวีใจไม่แถเถือกไม่เลือกข้าง
อยู่อ้างว้างไม่เครียดขึ้งไม่ถึงศาล
กวีแดงกวีเหลืองเคืองชั่วกาล
จักรวาลรู้สึกใดหรือไม่เลย

ฟ้าสีดำเหมือนกาแฟแก่จนขม
ขาดน้ำตาลขาดนมขมหรือเฉย
กอบเก็บดาวแทนน้ำตาลหวานเหมือนเคย
ดื่มสังเวยแด่โลกหล้าจักราธร

 

ตะโกนก้องกู่ร้องเรื่อง “การเมืองโว้ย”
แส้บ้าโบยซ้ำใจคุอุทาหรณ์

เจ้ารุกฆาตชิงชังหนังละคร

กรต่อกรหรืออาทรกันและกัน

 

ฤาหัวใจจะไร้รักสมัครสมาน

เมืองยิ้มหวานมาโกรธเกลียดมาเหยียดหยัน

เพื่อนพี่น้องเมืองพุทธะอารยัน

ทางออกนั้นอยู่ใกล้กาย “ในสายลม”

 

อยู่ในลมหายใจให้ลึกซึ้ง

เปลี่ยนดวงตาดื้อดึงถึงเหมาะสม

เปลี่ยนดวงใจมาเมตตามหาบรม

เปลี่ยนสังคม ธัมมิกะประชาธิปไตย

 

พระโพธิสัตว์หายใจเพื่อคนอื่น

ปลุกโลกตื่นจากทุกข์คุกศาสตร์ไสย

สร้างการเมืองโพธิสัตว์จัดเมืองไทย

รำงับไภยเมืองพิสุทธ์ด้วยพุทธธรรม

ผู้แสดงความคิดเห็น แสงแรก ประดับดิน (dawn-dot-2550-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-09-20 15:15:20


ความคิดเห็นที่ 3 (1986091)
เรียนคุณ แสงแรก ประดับดิน

ร้อยกรองประกวดแบ่งประเภทของฉันทลักษณ์ ตามลำดับชั้น
กล่าวคือ

-ระดับมัธยมศึกษาต้น : หัวข้อ "บทกวีกับสังคม" (รูปแบบฉันทลักษณ์ : กาพย์ยานี ๑๑)
- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย : หัวข้อ "บทเพลงแห่งสันติภาพ" (รูปแบบฉันทลักษณ์ : กลอนสุภาพ)
- ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป : หัวข้อ "
ฤๅหัวใจจะไร้รัก" (รูปแบบฉันทลักษณ์ : โคลงสี่สุภาพ)

ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่คุณ แสงแรก ประดับดิน ให้ความสนใจและเข้าร่วมส่งงานในการประกวดร้อยกรองออนไลน์
อย่างไรก็ตาม ผลงานดังกล่าว ทางคณะทำงานฯ จะนำรวมเป็นผลงานของผู้ส่งงานเข้าประกวด 
เพื่อนำขึ้นแสดงทั้งหมดในหน้าเวบไซต์ของสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย
แต่ผลงานดังกล่าวนี้ จะไม่ถูกนำไปรวม เพื่อส่งให้คณะกรรมการพิจารณาตัดสิน
เนื่องจากผลงานที่ส่งเข้าร่วมประกวด ผิดประเภทฉันทลักษณ์ที่กำหนดไว้ (ส่งเป็นกลอนสุภาพ ไม่ใช่โคลงสี่สุภาพ)

จึงเรียนมาเพื่อทราบ
คณะทำงานฯ
๒๐ กันยายน ๒๕๕๒
ผู้แสดงความคิดเห็น คณะทำงานฯ วันที่ตอบ 2009-09-20 16:20:46


ความคิดเห็นที่ 4 (1986797)

"ฤา...หัวใจจะไร้รัก"

ฤา   หัวใจไม่รู้                    สำนึก
หัว    ปั่นยังชักศึก               ทั่วบ้าน
จะ    ถอยย่างเหยียบลึก       เกินกว่า
ขาด   ที่ยึดหยุดต้าน            ก่อร้ายเหลือแสน

ฤา   แตกแยกไป่ทั้ง             แดนไทย
ชาติ   ย่อยยับเพราะใคร        ก่อบ้าง
จะ    คอยแย่งถึงไหน          ใครเด่น ดีเอย
สลาย  ทั่วอำนาจร้าง            เร่งสร้างสมานฉันท์

ฤา  อยากเห็นฆ่าล้าง           คนไทย
ไทย   ฆ่าไทยแดนใต้         ยังช้ำ
จะ    มาแบ่งแยกใย            ใครอื่น พี่นา
มลาย  ชีพสูญเสียย้ำ          เลือดใต้นองไหล

ฤา  จะยากเย็นแน่แล้ว         สมานฉันท์
สาย   บ่ายเย็นยืนยัน            ลอบข้า
เกิน   เหลือกว่าตามทัน        แผนชั่ว ร้ายแฮ
ไป    ต่อกรเหมือนท้า           เหตุร้ายนรกผลาญ

ฤา  อยากเห็นทั่วฟ้า          เสียขวัญ
คอย   ฆ่าคนรายวัน          ทั่วแคว้น
ทำลาย ชาติใครกัน           หยิบยื่น
ไทย   บ่หยุดเคืองแค้น      อย่าได้ยลสวรรค์

ฤา  หัวใจจะไร้                  รักจริง พี่เอย
หัวใจ  ใครประวิง              ห่วงบ้าง
จะ   อวดว่ารักชาติจริง       ควรตื่น แล้วนา
ไร้รัก  ประจักษ์อ้าง           โลกนี้คงสลาย

ฤา  ลืมหลงพี่น้อง             เดียวกัน ไทยเอย
ไทย  ฆ่าไทยทุกวัน           ต่ำช้า
แตก  หักเปลี่ยนแปรผัน      เป็นอื่น ฤาพี่
หัก  เข่าเหลือมีดพร้า          ถือไว้ใครประสงค์

ฤา  รอวันผ่านร้าย                 มุงเมือง
รัก    อย่ามัวขุ่นเคือง              เหนื่อยล้า
ยาก  หรือจะรวมเหลือง          แดงร่วม กันแฮ
สมาน รักไทยทั่วฟ้า              เทอดไท้ธงสยาม.             

               ---------------

จากคุณ ท.ไท 0821614886

แก้ให้อ่านง่ายครับ ถ้าผิดช่วยแจ้งด้วยครับคุณ ท.ไท
webmaster

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ท.ไท (sassadee-gree-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-09-22 18:39:00


ความคิดเห็นที่ 5 (1987256)

                               ฤาหัวใจไร้รัก                        จ่มพัง

                     เพียงเพื่อความชิงชัง                              ต่างจ้อง

                เหตุเพราะชั่วประดัง                              ดาสู่      ใจแฮ

                แช่งชักหักพจน์ซ้อง                              รักไร้ภักดี

 

                                ปราณีชนต่างเชื้อ                   กลุ่มตน

                เพื่อพระภูวดล                                        สุขล้น

                บำเทิงหทัยชนม์                                     เปี่ยมเลิศ

                เทิดชาติศาสน์หลุดพ้น                           ราชได้เกษมศานต์

 

                                ชาวบ้านบ่ไร้รัก                     นาแม่

                หากเกิดเพราะคนแย่                              ยุให้

                ปันแบ่งศรัทธาแท้                                  ประโลมโลก

                หลากเชื่อหลากคลั่งไคล้                          สติเพ้อหลงลืม

 

                                หยิบยืมความชั่งเนื้อ               เชื่อใจ

                เป็นเม็ดเบี้ยโคนไป                                จุกจี้

                กระหนาบขุนเรือใหญ่                             รัฐฐะ    นาวา

                เพียงเพื่ออำนาจนี้                                   หักล้างแผ่นดิน

 

                                จบสิ้นฤาชาติเชื้อ                   ชาวสยาม

                มาส่ำความเลวทราม                               อวดอ้าง

                ชนโลกต่างประณาม                               ยิ้มเยาะ      ไผท

                ไร้รักชนอ้างว้าง                                     หมดสิ้นสามัคคี

 

                                ผีบุญผีบาปบ้า                         ปางหลัง

                แหนแห่ประดาดัง                                    มากท้น

                ยึดอำนาจที่ชิงชัง                                     เศร้ายิ่ง

                น้ำคล่ำน้ำมันล้น                                     หล่อเลี้ยงชาติมาร    

พิมล  มองจันทร์ (สำนวน ๑)             

ผู้แสดงความคิดเห็น พิมล มองจันทร์ (mikau-at-windowslive-dot-com)วันที่ตอบ 2009-09-23 22:03:45


ความคิดเห็นที่ 6 (1987257)

                       หัวใจฤาไร้รัก                          เลิกร้าง                        แม่นา

            ยังผูกจิตมิจืดจาง                                 จ่องน้าว

            พี่พร่ำเพรียกเบาบาง                             โสตศัพท์         มาแฮ

            หวังนุชบ่แตกร้าว                                เหตุถ้อยคำคน

 

                        ฉงนกายห่างให้                        หวนหา

            แต่ละพากย์พจนา                                กล่าวอ้าง

            ล้วนพรายภูตอสุรา                              บังเบียด

            แม่อย่าเชื่อจนม้าง                                อกให้เสียเรียม

 

                        จิตเจียมใจจ่อเจ้า                      ซื่อตรง

            หวังรักจักดำรง                                    อยู่ได้

            แม้นอัปสรสวรรค์ลง                           มาสู่                 โลกแฮ

            พี่บ่ชายตาใกล้                                     เหลือบให้เสียพันธ์

 

                        อกกันอิ่มเอิบด้วย                     อุรารัก

            แจ้งจอดเปล่งประจักษ์                        พี่แล้ว

            เจ้าอย่าคิดแหนงผลัก                           เผือสู่                อบาย

            เรียมร่ำถึงเจ้าแก้ว                                ปริ่มไห้ทุกทิวา

 

                        วาจาเอ่ยออกแล้ว                     โอษพี่

            น้องนุชเชื่อพจี                                     ออกบ้าง

            ด้วยรักและภักดี                                  มิห่าง               เป็นอื่น

            อย่าสบคำคนสร้าง                               เสกปั้นอุบาย

 

                        หัวใจอันไร้รัก                          ห่อนมี

            เปี่ยมสุขด้วยชีวี                                   มากล้น

            เชื่อใจและพึ่งมี                                    ความสัตย์        ต่อกัน

            จักสุขนับเหลือพ้น                               ตราบเท่าฟ้าดิน

พิมล  มองจันทร์ (สำนวน ๒)

ผู้แสดงความคิดเห็น พิมล มองจันทร์ (mikau-at-windowslive-dot-com)วันที่ตอบ 2009-09-23 22:09:55


ความคิดเห็นที่ 7 (1988397)

บทเพลงแห่งสายลม

                                คืนวันเพ็ญเด่นเดือนสุกสว่าง                          ดาราทางเรียงร้อยฉะอ้อนส่อง

                ตัดกับแสงแห่งโสมเป็นสีทอง                                         ลอยละล่องบนช่องฟ้านภาพราว

                                เห็นดาวดวงควงย้อยบนเวหา                           พรรณนาเทวดาว่าเกี้ยวสาว

                เห็นเส้นโยงโค้งร่วงเป็นคราวคราว                               ก็ว่าชาวเมืองฟ้าอำลากัน

                                มือประคองคลอเคล้าขลุ่ยเพียงออ                   ภายใต้ช่อปาริชาติที่วาดฝัน

                เสียงกระทบพงป่าพนาวัน                                               ณ ที่อันนามว่าดาวดึงส์

                                กลิ่นไม้ดอกหอมกรุ่นฟุ้งกำจร                         ใจก็ย้อนหวนนึกระลึกถึง

                ครั้งเมื่อนางมองมานัยน์ตาซึ้ง                                         อยากจะพึ่งตักเจ้าเข้านิทรา

                                แต่บัดนี้คนสองต้องพรากแล้ว                         คนละถิ่นคนละแถวในหมอกฝ้า

                อยู่ต่างแดนต่างภาษาต่างเวลา                                          จะบรรจบพบหน้าก็ยากเย็น

                                ฝากลมหนาวช่วยพัดพาไปหาเจ้า                    ฝากความเศร้าแลอ้างว้างให้นางเห็น

                แม้นจะอยู่หนใดในที่เร้น                                                 วอนขอลมเย็นเย็นส่งความไป

                                เจ้าจงรู้ว่าฉันยังรออยู่                                         มิเคยมีผู้จะแทนตัวเจ้าได้

                หากพระจันทร์ยังสาดส่องอยู่เพียงไร                             เจ้าจะไม่ไร้คู่เหมือนดวงจันทร์

                                พอสิ้นเสียงแล้วก็สิ้นซึ่งบรรทม                      ทุกสิ่งสมคือความจริงในความฝัน

                คงเหลือเพียงเจ้าขลุ่ยน้อยสงบงัน                                   ยังมิทันเอื้อนเพลง “ฝากสายลม”

โดย ศุภกร เต็มคำขวัญ 085-943-6933

ที่อยู่ 31/299 ม.3 ม.เอกชัยเลควิลล์ ซ.เอกชัย 131 ถ.เอกชัย ข.บางบอน ข.บางบอน กรุงเทพฯ 10150

ผู้แสดงความคิดเห็น สุกลอน (boom-tour-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-09-26 21:31:19


ความคิดเห็นที่ 8 (1990919)

ฤาหัวใจจะไร้รัก

 

                    พระมหาสัตว์ผู้มุ่ง                                  โพธิญาณ

            ให้บุตรภรรยาเป็นทาน                                          ก่อเกื้อ

            ทิ้งขัตติยวงศ์วาน                                                หวังพบ ธรรมเอย

            มีพระชายาโอรสเชื้อ                                            เหนี่ยวรั้งที่ลา

                   ปุจฉาแสดงรจน์ร้อย                                ถ้อยความ

          “ฤาจิตไร้รัก” ถาม                                     แน่แท้

          คำตอบกอปรพินิจตาม                                         ผลเหตุ 

            ว่าพระองค์ทรงแก้                                               ทุกข์ร้อนผ่อนเย็น

                        มิเป็นไปเพื่อสร้าง                                    ส่วนตน

            และรอบข้างรับผล                                              สืบไว้

            แต่สำหรับมหาชน                                               ทุกถิ่น

            จักพบธรรมที่ให้                                                  ห่างพ้นภัยพาล

                        จักรวาลมิอาจอ้าง                                   เอ่ยเปรียบ

            พระเมตตามาเทียบ                                             ที่นี้

            สิ่งใดไม่นำเรียบ-                                                 เรียงเท่า คุณนอ

            ความรักประจักษ์ชี้                                              ชัดแจ้งแถลงความ

                        สง่างามราวรัตน์รุ้ง                                  เรืองตระการ

            คือสุวรรณบันดาล                                               เด่นด้าว

            พฤกษ์ผกาต่างขับขาน                                         คือสุข พบแล

            เพราะพระองค์ทรงก้าว                                        ขจัดล้างราญอธรรม

                        นำศานต์ประทานสู่หล้า                           ล้วนยล

            ธรรมคู่คือมรรคผล                                              ผ่านร้าย

            เป็นอริยบุคคล                                                    ครองสงบ

            ความรักจักโยกย้าย                                              อยู่นั้นไป่มี

                        ฤาวจีจักกล่าวย้อน                                   จิตของ องค์แล

            ที่ไม่รักจักสนอง                                                   แน่แล้ว

            คำตอบกอปรรับรอง                                             หลายบท

            พิสูจน์สิ่งเพริศแพร้ว                                            รักแท้จากองค์

                       

ผู้ทรงเป็นพุทธเจ้า                           จอมไตร- ภพเฮย

            แห่งปัจจุบันสมัย                                                 สถิตหล้า

            ทรงเผยแผ่ธรรมไป                                              เป็นจักร

            ควรรับรักดังฟ้า                                                   เสกสร้างคุ้มชน

                        ด้วยนำกมลละทิ้ง                                   หมู่มาร

            เป็นสหายทุกกาล                                                ผ่านเข้า

            คือกิเลสร้ายราญ-                                               รอนจิต

            ตามพระศาสดาเจ้า                                           จรัสแจ้ง แห่งธรรม                                              

ปริวัฒน์ กุลวิทย์

๘๙๒ ชุมชนพัฒนาซอยสินทรัพย์ ถนนพระราม ๕

แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐

โทร. ๐๒-๒๔๓-๑๐๕๒ และ ๐๘๑-๒๕๗-๘๓๙๒

ผู้แสดงความคิดเห็น ปริวัฒน์ กุลวิทย์ วันที่ตอบ 2009-10-03 08:09:00


ความคิดเห็นที่ 9 (1990921)

ฤาหัวใจจะไร้รัก

 

                    พระมหาสัตว์ผู้มุ่ง                              โพธิญาณ

            ให้บุตรภรรยาเป็นทาน                                          ก่อเกื้อ

            ทิ้งขัตติยวงศ์วาน                                                หวังพบ ธรรมเอย

            มีพระชายาโอรสเชื้อ                                            เหนี่ยวรั้งที่ลา

                   ปุจฉาแสดงรจน์ร้อย                            ถ้อยความ

          “ฤาจิตไร้รัก” ถาม                                 แน่แท้

          คำตอบกอปรพินิจตาม                                    ผลเหตุ 

            ว่าพระองค์ทรงแก้                                               ทุกข์ร้อนผ่อนเย็น

                        มิเป็นไปเพื่อสร้าง                                    ส่วนตน

            และรอบข้างรับผล                                              สืบไว้

            แต่สำหรับมหาชน                                               ทุกถิ่น

            จักพบธรรมที่ให้                                                  ห่างพ้นภัยพาล

                        จักรวาลมิอาจอ้าง                                   เอ่ยเปรียบ

            พระเมตตามาเทียบ                                             ที่นี้

            สิ่งใดไม่นำเรียบ-                                                 เรียงเท่า คุณนอ

            ความรักประจักษ์ชี้                                              ชัดแจ้งแถลงความ

                        สง่างามราวรัตน์รุ้ง                                  เรืองตระการ

            คือสุวรรณบันดาล                                               เด่นด้าว

            พฤกษ์ผกาต่างขับขาน                                         คือสุข พบแล

            เพราะพระองค์ทรงก้าว                                        ขจัดล้างราญอธรรม

                        นำศานต์ประทานสู่หล้า                           ล้วนยล

            ธรรมคู่คือมรรคผล                                              ผ่านร้าย

            เป็นอริยบุคคล                                                    ครองสงบ

            ความรักจักโยกย้าย                                              อยู่นั้นไป่มี

                        ฤาวจีจักกล่าวย้อน                                   จิตของ องค์แล

            ที่ไม่รักจักสนอง                                                   แน่แล้ว

            คำตอบกอปรรับรอง                                             หลายบท

            พิสูจน์สิ่งเพริศแพร้ว                                            รักแท้จากองค์

                        ผู้ทรงเป็นพุทธเจ้า                           จอมไตร- ภพเฮย

            แห่งปัจจุบันสมัย                                                 สถิตหล้า

            ทรงเผยแผ่ธรรมไป                                              เป็นจักร

            ควรรับรักดังฟ้า                                                   เสกสร้างคุ้มชน

                        ด้วยนำกมลละทิ้ง                                   หมู่มาร

            เป็นสหายทุกกาล                                                ผ่านเข้า

            คือกิเลสร้ายราญ-                                               รอนจิต

            ตามพระศาสดาเจ้า                                           จรัสแจ้งแห่งธรรม                                              

ปริวัฒน์ กุลวิทย์

๘๙๒ ชุมชนพัฒนาซอยสินทรัพย์ ถนนพระราม ๕

แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐

โทร. ๐๒-๒๔๓-๑๐๕๒ และ ๐๘๑-๒๕๗-๘๓๙๒

 

                                                           

           

                                                                                               

                                               

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปริวัฒน์ กุลวิทย์ (จัดวรรคให้ตรง) วันที่ตอบ 2009-10-03 08:19:50


ความคิดเห็นที่ 10 (1991126)

ฤๅหัวใจจะไร้รัก

                       หฤทัยสงัดเพี้ยง         ไพรพนา

                   เหงาเงียบทุกเพลา                ร่มร้อน

                   ยังแต่กิ่งระย้า                       ยาวรก รุมเอย

                   เปรียบดั่งหงอยสร้อยซ้อน       ทับเศร้าทรวงโทรม

                             โฉมนุชสุดไขว่คว้า        หาโหย

                   เพื่อระบายความโดย              เพื่อนได้

                   แม้นกาลผ่านร่างโรย             หมายรัก นิรันดร์นา

                   ช่วยสนิทแนบใกล้                  กร่อนสร้อยสร่างเหงา

                             แลเงาโลกเลื่อนลี้         หนีใด

                   ข้าจักลี้หนีใจ                        จิตเศร้า

                   หนีซ่อนบ่พ้นไป                    ปวดอยู่ ยิ่งดฮย

                   หนีเพื่อพบใจเจ้า                   จักให้หายทน

                             หนใดอยู่คู่ยั้ง             ยาใจ            

                   ติดปีกโบยบินไป                    ฝั่งฟ้า

                   ข้ามมหาชลาลัย                    ลงว่าย หาเอย

                   อยู่สวรรค์แหล่งหล้า              ป่ายขึ้นปีนถึง

                             รำพึงหนึ่งนุชน้อย       นวลสมร

                   ดูอื่นชื่นอรชร                      เช่นนั้น

                   อยากชื่นอยากเชยอร             ชมออก

                   หวานเล่นถ้อยเชิงชั้น              เช่นถ้อยชายชม

                             คมซ่านปานเปรียบน้ำ   ผึ้งรส ลิ้มนา

                   ฤๅจักหวานยิ่งหยด                หยาดเยิ้ม

                   ให้อรอนงค์อด                     อายหยิก หยอกฤๅ

                   คงสุขท่วมท้นเทิ้ม                 เท่านี้ทวีคูณ

                             ทูลกามเทพเพิ่มผู้        พานรัก

                   ขอพระแผลงลงตัก                แต่นี้

                   เป็นคุณพระแน่นหนัก             สนองตอบ ท่านนา

                   ขอตระหนักรักชี้                   ชื่นให้เห็นสม

                             ลมชีพอาจขาดได้         สักวัน

                   ลมรักไป่ขาดกัน                    สักน้อย

                   ลมเหงาจักรำพัน                  พานพัด ไปแฮ

                   ลมหอบบอกรักร้อย              ร่อนร้องไหนนาง

                              ใจคว้างร้างนุชผู้        ผทมเคียง

                   ยลแต่เหย้าเรือนเตียง             ตั่งตู้

                   คอยปาฏิหาริย์เพียง               พาพบ พานนา

                   คอยรักจักทนสู้                     กว่าสร้อยหงอยไกล              

ฤๅใจไร้รักร้อง            เรียกหา

                   สมดั่งปรารถนา                   ดั่งถ้อย

                   วอนเทพยดา                       ดาลนุช นงเฮย

                   มารักชั่วชีพข้อย                   คู่ข้างเคียงนิรันดร์

 

 

 

ชื่อสุรวุฒิ พันทวีศักดิ์

หมายเลขโทรศัพท์ 082-0755957

ที่อยู่ 1175-6-/7 ถ.กะโรม

ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

ผู้แสดงความคิดเห็น วุฒิ วันที่ตอบ 2009-10-03 21:46:55


ความคิดเห็นที่ 11 (1992446)

บทเพลงแห่งสันติภาพ

                        เสียงฝีเท้าเหยียบย่ำยามดึกดื่น                  เสียงแปลบปืนสะท้านไปในโลกหล้า

            เพื่อหลั่งเลือดชโลมพื้นพสุธา                                ดั่งนาวานำเรือลงน้ำวน

                        มนุษย์โลกล่องไปในสงสาร                       ผ่านเส้นทางขัดแย้งประโยชน์ผล

            คอยกัดกินโกงสมบัติสัปดน                                   แล้วระคนทำตนเป็นคนดี

                        สันติภาพในเรือนกายยังคลายเสื่อม            ยังมีล้ำมีเหลือมไร้สุขี

            สันติภาพในเรือนใจไกลราคี                                   มิต้องวิ่งต้องหนีตลอดกาล

                        ยังช้ำชอกตอกย้ำอยู่ร่ำไป                           ถ้าชาวไทยไร้ประเทศจะประสาน

            วันเดือนปีเคลื่อนคล้อยทยอยคลาน                        เมื่อไรบ้านจะสมานสามัคคี

                        ยามเม็ดฝนหล่นร่วงเป็นรวงข้าว                 ยามพรรณพืชสะพรั่งพราวทั้งพื้นที่

            เราเริงรื่นชื่นใจทั้งราตรี                                          แต่วันนี้ละเลงปากกระบอกปืน

                        ทุกย่างก้าวไทยต้องเดินไปด้วยกัน               จงใฝ่ฝันฟันฝ่าอย่าฝ่าฝืน

            ลองพินิจคิดดูทุกวันคืน                                        แล้วจุดยืนจะปรากฏอย่างงดงาม

                        อันคนดีใช่ต้องมีทุกที่ทั่ว                           ยังมีชั่วกลั้วเกลียดเป็นเหยียดหยาม

            ควรแจ้งจบครบถ้วนกระบวนความ                         คนต่ำทรามจะถูกนำให้ทำดี

                        แม้นบรรจงบรรเลงบทเพลงเร้า                  จะสลัดโศกเศร้ากระไรนี่

            หากคนไทยไร้สติสมประดี                                    ไม่กี่ปีกลียุคคงคุกคาม

โดย ศุภกร เต็มคำขวัญ 085-943-6933

ที่อยู่ 31/299 ม.3 ม.เอกชัยเลควิลล์ ซ.เอกชัย 131 ถ.เอกชัย ข.บางบอน ข.บางบอน กรุงเทพฯ 10150

ผู้แสดงความคิดเห็น สุกลอน (boom-tour-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-10-07 21:52:08


ความคิดเห็นที่ 12 (1992447)
อันนี้สำนวนที่ 2 นะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น สุกลอน วันที่ตอบ 2009-10-07 21:53:05


ความคิดเห็นที่ 13 (1994621)

ฤาหัวใจจะไร้รัก…นักการเมือง

 

1. ลงทุนไปไม่น้อย                   เหมือนกัน

บุกบั่นสร้างสัมพันธ์                 ทั่วหล้า

หาเสียงแต่ละวัน                     แสนเหนื่อย ก็ยอม

ตากฝนทนแดดกล้า                 แค่ได้ล่าฝัน

 

2. จนถึงวันที่เฝ้า                      รอมา

วันที่ลอยเข้าสภา                     ไต่เต้า

ใครใครใคร่ชักพา                     รวมกลุ่ม สายพันธุ์

กลืนกันหัวจรดเท้า                   แบ่งได้ทั่วถึง

 

3. กลิ่นหึ่งยามเร่งเร้า               โกงกิน

ใครว่าหนักแผ่นดิน                  ว่าร้าย

ตามตกแต่งมลทิน                   โถมทุ่ม สุดตัว

พวกช่วยหนุนกันได้                  อย่าได้สืบสาว

 

4. ดวงดาวก็ย่อมได้                 มาครอง

ตำแหน่งและเงินทอง               ยั่วเย้า

อำนาจยิ่งจับจอง                     ยังยิ่ง อยากมี

เหมือนใส่สุมไฟเร้า                   ยิ่งร้อนหนักหนา

 

5. ธรรมดาคราเมื่อขึ้น              ย่อมลง

ใครก่อกรรมใดคง                    ไม่พ้น

หามีสิ่งยืนยง                           คงมั่น ไม่มี

สุขที่เคยมากล้น                       หาได้สม่ำเสมอ

 

6. บำเรอจนฉ่ำล้น                    คณนา

อำนาจคือมายา                       หลอกสิ้น

ตำแหน่งที่ครองมา                   ลอยลิ่ว ปลิวลม

จากเพื่อนเป็นผู้ร้าย                 เปลี่ยนได้เปลี่ยนสี

 

7. ชีวิตที่ต่ำต้อย                       ลำเค็ญ

คงไม่ต้องรอเห็น                       ชาติหน้า

สัจธรรมย่อมเป็น                     ไปอย่าง ควรเป็น

ยิ่งใหญ่จนคับฟ้า                     สุดท้ายสิ้นสูญ

 

8. เสียทรัพย์ยังไม่ช้ำ               เท่าใด

มิเท่าเทียบเสียใจ                     กว่าช้ำ

วันคืนที่เสียไป                          คงไม่ หวนคืน

เสียแรงที่เคยค้ำ                       เพื่อนพ้องกลับหาย

 

9. เสียดายชีวิตที่พ้น                เลยมา

มัวแต่เสียเวลา                         ไม่รู้

เกิดมาเพื่อตามหา                    พูนเพิ่ม เกินตัว

มัวแต่เสียแรงสู้                         สิ่งใกล้ไม่เห็น

 

10. อาจเป็นคนที่ไร้                  หัวใจ

ยังไม่คิดรักใคร                         แน่แท้

ตนเองยังไม่ได้                         รักใส่ ใจตน

จนเมื่อสายเกินแก้                   เมื่อสิ้นลมสลาย

 

จุฑามาศ ตั้งจิตทวีชัย

โทร. 08 1558 0868, 0 2218 3264

ที่อยู่ 21 ถนนพุทธมณฑลสาย 1  แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ 10160

ผู้แสดงความคิดเห็น จุฑามาศ วันที่ตอบ 2009-10-13 10:53:01


ความคิดเห็นที่ 14 (1994771)

          ฤๅหัวใจจะไร้   รัก…

๏ ฤๅหัวใจจะไร้           รักเอย

เพราะว่ายังมิเคย          รับรู้

ว่ารสรักชิดเชย            ช่างแช่ม   ชื่นนา

สาวหนุ่มยามเคียงขู้    เร่าร้อน ราวไฟ

ฤๅหัวใจจะไร้          รักจริง

รักเช่นชายรักหญิง       ทั่วหล้า

อบไออุ่นแอบอิง          อ้อมอก

เป็นคู่ครองก้องฟ้า       สุขล้ำ    ร่ำลือ

ฤๅหัวใจจะไร้          รักแรก

รักเมื่อใจไหวแปลก     แรกจ้อง

ประหวั่นสั่นทรวงแทรก    แรกพบ  กันเอย

เลิฟแอตเฟิร์ส์ไซ้ต์ต้อง       ใช่เนื้อ  คู่ตัว

ฤๅหัวใจจะไร้          รักหวาน

รักที่เปรียบรสตาล       อร่อยลิ้น

ตราบนิจนิรันดร์กาล    สราญสุข- สมเอย

ครองคู่มิรู้สิ้น                ชั่วฟ้า   ดินสมัย

ฤๅหัวใจจะไร้          รักกัน

รักชื่นทุกคืนวัน           สุขแท้

รักแน่มิแปรผัน            เป็นอื่น

รักไม่มีข้อแม้               พบได้   ฤๅไฉน

ฤๅหัวใจจะต้อง         ไร้รัก

แบ่งแยกแตกเป็นฝัก-    ฝ่ายแค้น

ชีวิตจ่อมจมปรัก            กองทุกข์

ชาติสะเทือนเหมือนแม้น  นรกร้อน  โลกันตร์๚ะ๛

 จิระ เหล่าจิรอังกูร

๑๔๗หมู่๕ ต.บ้านใหญ่ อ.เมือง จ.นครนายก

ผู้แสดงความคิดเห็น จิรางกูร วันที่ตอบ 2009-10-13 15:22:45


ความคิดเห็นที่ 15 (1994800)

บทเพลงแห่งสันติภาพ

            ความสงบแสนเงียบนี้ที่สร้างสุข          ปัดเป่าทุกข์ไทยผจญและหม่นหมอง

ด้วยหัวใจไมตรีที่เรืองรอง                               บนขวานทองแดนดินถิ่นประชา

            บนทางเดินทางหนึ่งซึ่งลำบาก                        เป็นเรื่องยากพยายามอย่างหนักหนา

คือเส้นทางที่นักเพลงบรรเลงมา                      ช่วยหรรษาผ่อนทุกข์ได้สุขใจ

            เขียนเนื้อร้องของเพลงที่สร้างสุข         เพื่อปลอบปลุกทุกสิ่งสู่สดใส

ต้องครุ่นคิดถ้อยคำนำความไป                                    กว่าจะได้เนื้อร้องต้องคิดนาน

            ถึงการรวมเรื่องสำคัญของเนื้อร้อง      มาปรองดองท่วงทำนองหลอมประสาน

เกิดเป็นเพลงบรรเลงสุขแสนสำราญ               พาเบิกบานทั้งความคิดและจิตใจ

            เนื้อร้องกล่าวเกริกถึงซึ่งสงบ              ทำนองสบเนื้อร้องต้องขานไข

กระจายสู่สังคมเมืองรุ่งเรืองไกล                     เพื่อหวังให้ไทยสงบพบสิ่งดี

            เปรียบได้กับประเทศเขตขวานทอง     ต้องทั้งผองเชิดชูไว้ในศักดิ์ศรี

หากหัวใจไม่รู้รักสามัคคี                                 แล้วจะมีประเทศไว้เพื่อใคร

            หากทุกคนไม่กลมเกลียวเฝ้าเหนี่ยวรั้ง             แล้วจะหวังพึ่งพิงสิ่งอื่นไหน

เพียงรู้รักสามัคคีมีน้ำใจ                                   ประเทศไทยจะสงบพบสิ่งงาม

            จำได้ไหมว่าใครเคยยกย่อง                  ว่าขวานทองมีรอยยิ้มแห่งสยาม

ด้วยน้ำใจไมตรีที่สื่อความ                               สมกับนามเมืองยิ้มอิ่มอำไพ

            หากไม่รักไม่กลมเกลียวสามัคคี          แล้วชาตินี้จะเจริญได้แค่ไหน

ขอกลับมาร้อยรัดกระหวัดใจ                          เพื่อเมืองไทยมีสันติภาพตราบนิรันดร์

 

..........................

ประพันธ์โดย    นายสัญญา  จันทวงค์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/๒โรงเรียนสามง่ามชนูปถัมภ์

อำเภอสามง่าม  จังหวัดพิจิตร ๖๖๑๔๐

โทร ๐๕๖-๖๙๑๒๔๔,๐๘๗-๕๒๐๔๒๐๔

ผู้แสดงความคิดเห็น นายสัญญา จันทวงค์ วันที่ตอบ 2009-10-13 16:48:37


ความคิดเห็นที่ 16 (1994802)

บทเพลงแห่งสันติภาพ

                อันบทเพลงบรรเลงสุขเกษมศานต์                  พาเบิกบานสำราญใจให้หรรษา

ทั้งเนื้อร้องทำนองเรียบเรียงมา                                         บรรเลงพาผองชนสุขล้นใจ

                เสียงดนตรีที่เรียบเรียงรวมเป็นหนึ่ง                ช่างซาบซึ้งตรึงตรากว่าสิ่งไหน

รวมดนตรีสีดีดเป่าเคล้ากันไป                                           พาหลงใหลให้ใจไม่ล้างลา

                เปรียบได้กับตัวโน๊ตเป็นประเทศ                     ชนทุกเขตเป็นดนตรีเสน่หา

ตัวโน๊ตคือกฎหมายหลายมาตรา                                       ปกไพร่ฟ้าตามประชาธิปไตย

                หากดนตรีตัวใดบรรเลงผิด                                คงเป็นพิษทำนองเพี้ยนเกินแก้ไข

ทำให้คนหลากหลายมารวมใจ                                          สร้างกฎไว้ว่าความยามผิดกัน

                หากดนตรีไม่บรรเลงตามตัวโน๊ต                     คงสร้างโทษให้บทเพลงอย่างมหันต์

เหมือนคนไทยหากคิดทำร้ายกัน                                      ย่อมต้องรับโทษทัณฑ์กฎหมายตรา

                ขอร้องเถอะคนไทยใจปราณี                             ผูกความดีไว้เป็นเสน่หา

ให้รุ่นชนรุ่นหลังได้ศรัทธา                                               ใต้เบื้องฟ้าสันติภาพตราบนิรันดร์

 

 

 

 

                                         ประพันธ์โดย   นายสัญญา    จันทวงค์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/๒โรงเรียนสามง่ามชนูปถัมภ์

 อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ๖๖๑๔๐

เบอร์โทรศัพท์ ๐๕๖-๖๙๑๒๔๔ ๐๘๗-๕๒๐๔๒

ผู้แสดงความคิดเห็น นายสัญญา จันทวงค์ วันที่ตอบ 2009-10-13 16:50:45


ความคิดเห็นที่ 17 (1995015)

ปรารถนาให้หัวใจมิไร้รัก

 

หัวอกประเทศโอ้                             ยุคสมัย
แปรเปลี่ยนหมุนเวียนไป                             ไม่แท้
บอกบรรพชนไทย                                        จงสดับ
ประเทศถึงคราวแพ้                                     จบสิ้นชาติไทย

ใครเหยียบใครย่ำด้าว                       แดนดิน
เราโศกสุดถวิล                                             เก็บกล้ำ
แต่ไทยทุรชนกิน                                           ประเทศ
หัวอกสุดชอกช้ำ                                          เอ่อด้วยน้ำหนอง

ไหลรินรดหลั่งพื้น                           พสุธา
ไหลดั่งมหาธารา                                          หลากล้น
คือเกลียวคลื่นน้ำตา                                     เต็มโศก
อกดั่งถูกโจรปล้น                                        ตัดขั้วหัวใจ

ไทยกับไทยสลัดเสี้ยน                     ใส่กัน
แบ่งพรรคแบ่งศาสน์พันธุ์                           แบ่งได้
อดีตเคยแบ่งรักปัน                                       ทุกหมู่  ชนแล
กลับห่างมิกล้าใกล้                                      แตกร้าวสามัคคี

 

สันติเอ๋ยจักเกิด                                 คราใด
สิบชาติอาจรอไหว                                      ข่มกลั้น
เวลาผ่านนานไป                                           นับโกฏิ  ปีเอย
ละเล่นเริงเชิงชั้น                                          แยกเขี้ยวกัดกิน

ฤๅดอกรักร่วงร้าง                             จากทรวง
ยังอยากเห็นเจ้าดวง                                     ดอกน้อย
รวมใจเถิดเราปวง                                        เพาะบ่ม  รักนา
เติมรักแล้วถักร้อย                                        หนึ่งสร้อยสามัคคี

 

นายธนวัฏ  ปรีชาจารย์

85  ม.1  ต.เขาท่าพระ  อ.เมืองฯ  จ.ชัยนาท  17000

084 - 2336843

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนวัฏ (new05-at-live-dot-com)วันที่ตอบ 2009-10-14 09:29:52


ความคิดเห็นที่ 18 (1995242)

บทเพลงแห่งสันติภาพ

            เพลงแห่งรักสามัคคีคู่เมืองไทย     ปลอกปลุกใจคนไทยให้รักษา

อันประเทศที่กอบกู้อยู่นานมา                    ปลุกศรัทธาทุกคนสุขล้นใจ

            สันติภาพเกิดขึ้นทั้งประเทศ           ทั่วทุกเขตทุกแคว้นต่างขานไข

แปดโมงเช้าเพลงชาติเปิดดังไกล              เราชาวไทยขับร้องก้องโลกา

            เนื้อหาเพลงบรรเลงใจให้รักชาติ  เราชาวราษฎร์ร่วมใจร้องแน่นหนา

กลายเป็นเพลงก่อนเก่าเฝ้าตรึงตรา                       ผ่านเนิ่นมาเป็นอดีตกีดกลางทรวง

            จากรวมใจกลับแยกแตกไมตรี       กลับหน่ายหนีเพลงชาติที่แหนหวง

จากเคยร้อยใจรักเป็นหนึ่งดวง                   กลับประท้วงชุมนุมมั่วสุมใจ

            คิดอนาถชาวไทยใจว้าวุ่น               ลืมทำบุญตักบาตรที่เลื่อมใส

ลืมหลักธรรมนำชีวันอันยาวไกล               เฝ้าหลงใหลเรื่องอำนาจผูกขาดตน

            ลืมแม้แต่สายเลือดถึงเชือดฆ่า        ด้วยวาจากายใจจิตสับสน

โปรดกลับมามองเพลงชาติพินิจดล          จะพบผลค่าประเทศเขตขวานไทย

            หากคนไทยยังคิดฆ่ากันเอง                        แล้วบทเพลงของชาติจะอยู่ไหน

แล้วถ้ามีจะร้องเพลงเพื่อใคร                     หากหัวใจคนไทยไม่รวมกัน

            ขอร้องเถอะคนไทยในประเทศ     ชนทุกเขตโปรดกลับมาร่วมฝัน

ร้องเพลงชาติอย่างภูมิใจยิ้มให้กัน             ร่วมสร้างสรรค์สันติภาพตราบสิ้นลม

………………….

ประพันธ์โดย

นายสัญญา   จันทวงค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/๒

โรงเรียนสามง่ามชนูปถัมภ์   อำเภอสามง่าม   จังหวัดพิจิตร ๖๖๑๔๐

เบอร์โทรศัพท์ ๐๕๖-๖๙๑๒๔๔ , ๐๘๗-๕๒๐๔๒๐๔

ผู้แสดงความคิดเห็น นายสัญญา จันทวงค์ วันที่ตอบ 2009-10-14 16:52:36


ความคิดเห็นที่ 19 (1995270)

ฤๅหัวใจจะไร้รัก

-๑-

๏ นักเรียนฤๅหน่ายสู้                          ศึกษา

สุจิปุลิพา                                                ผิดเพี้ยน

ถึงเทียวเที่ยวเล่นฮา                             เหลิงห่าม

ไร้รักตนฤๅเสี้ยน                                  สู่รู้อบาย ๚

 

-๒-

๏ ผัวเมียไม่อดร้อน                             อารมณ์

ลิ้นกับฟันฟัดคม                                  ฝากเขี้ยว

ครอบครัวชั่วคราวสม-                        สู่ครู่                        ครั้งเฮย

ไร้รักเรือนฤๅเปรี้ยว                             ปร่าแล้วเปลี่ยนตัว ๚

 

-๓-

๏ นักการเมืองเก่งขม้ำ                       เขมือบกล

อ้างสิทธิ์เสียงปวงชน                         ฉกฉ้อ

โครงการโคตรโกงผล                         เพื่อประโยชน์      มันแล

ไร้รักเมืองฤๅห้อ                                  แห่ขม้ำเขมือบโกง ๚

 

-๔-

๏ เจ้ากูผู้เกิดด้วย                                   เดรฉาน

สิงศาสน์สร้างศาสน์มาร                    มุ่งคว้า

ขอบุญเปรตหิวทาน                             ทุจริต

ไร้รักศาสน์ฤๅบ้า                                  บิดถ้อยเบือนธรรม ๚

 

-๕-

๏ ฤๅหัวใจจะไร้                                   รักจูง

จึงปล่อยลอยจรูง                                  จริตเร้า

แรงชั่วฉุดลงฝูง                                    ใฝ่ต่ำ

ตนเสื่อมทรามสร้างเหย้า                   อยู่นั้นนรกานต์ ๚

 

-๖-

๏ จงหัวใจอย่าคร้าน                            ครองศีล

ธรรมท่านนำสองตีน                          ไต่ข้าม

อบายตะกายปีน                                   ไปสู่                        สุขนา

ใจรักธรรมธรรมห้าม                          ถูกห้วงอกุศล ๚ะ๛

 

 

 

ประพันธ์โดย : ธีรวรรธน์ ขันทอง

๗๙/๑๕ ม.๗ หมู่บ้านธนกาญจน์ ถ.รัตนาธิเบศร์

ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ๑๑๑๔๐

โทร ฯ ๐๘๐-๒๐๐-๕๗๗๕, ๐-๒๙๒๖-๖๖๔๔

อีเมล admin@drnui.com

ผู้แสดงความคิดเห็น ธีรวรรธน์ ขันทอง (admin-at-drnui-dot-com)วันที่ตอบ 2009-10-14 18:35:41


ความคิดเห็นที่ 20 (1995294)


บทเพลงเเห่งสันติภาพไทย

   ปัจจุบันภาพลักษณ์ไทยได้เเปรเปลี่ยน

สร้างสังเวียนฆ่าฟันกันน่าหวั่นไหว

ขาดความรักสามัคคีพี่น้องไทย

ตัดสายใยไมตรีที่มีมา

   เเตกสีเสื้อเหลือง-เเดงเเบ่งสองฝ่าย

มุ่งใส้ร้ายป้ายสีกันก่อปัญหา

เพื่อเป็นหนึ่งหวังลาภยศคดเงินตรา

หมดคุณค่าหมดหนทางความเป็นคน

   ข่าวหน้าหนึ่งยิงครูใต้ไร้ความคิด

สร้างความผิดวางระเบิดต้องเกิดผล

หวาดระเเวงหวาดกลัวทั่วทุกคน

ต่างหมองหม่นชอกช้ำน้ำตานอง

   เมายาอียาบ้าฆ่าข่มขืน

สุดสะอื้นคิดหลงผิดจิตเศร้าหมอง

กลางสภาถกเถียงกันสร้างครรลอง

ผลสุดท้ายภาพมันฟ้องต่างต่อยตี

   ฤาจะสิ้นเพลงชาติไทยใจร่วมรัก

ฤาประเทศจะเเตกหักหมดศักดิ์ศรี

ฤาพี่น้องเห็นเเก่ตัวกลั้วราคี

ฤาความดีจะสิ้นไปในสังคม

   บทเพลง...ร้องก้องเป็นหนึ่งซึ่งความหวัง

แห่ง...หนใดรวมพลังอย่างสุขสม

สันติภาพ...อาบทั่วฟ้าพารื่นรมย์

ไทย...คือไทยชื่นชมก้องกังวาน

นายจตุพร  สีก่ำ ชั้น ม.5/1 ร.ร.กบินทร์วิทยา   ปราจีนบุรี

169 หมู่21ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี 25240

เบอร์ติดต่อ 0844253929 

ผู้แสดงความคิดเห็น นายจตุพร สีก่ำ วันที่ตอบ 2009-10-14 19:37:10


ความคิดเห็นที่ 21 (1995416)

"ฤๅหัวใจจะไร้รัก"

@ หากหัวใจไม่ไร้               ความรัก

                เราจึ่งควรตระหนัก             ยิ่งแล้ว

                ชาติไทยเมื่อจมปลัก             นานเนิ่น

                คงไม่อาจคลาดแคล้ว           ต่ำต้อยถอยหลัง

@ หากใจยังไม่รู้                  สามัค – คีเฮย

ชนเผ่าไทยคงจัก                  เชื่องช้า

พัฒนาสู่เส้นหลัก-               ชัยนั่น  ยากนอ

ผองเพื่อนประเทศท้า          ต่อสู้แข่งขัน

                @ หากใจยึดมั่นไว้              คงทน

                เราจึ่งควรฝึกฝน                   ต่อสู้

                อุปสรรคที่วกวน                  มาสู่

                ยืนอยู่อย่างผู้รู้                       ที่ใช้ปัญญา

@ หากใจหมายไขว่คว้า     ความดี

จงมุ่งครองเวที                      ที่ตั้ง

หวังเพียงซึ่งศักดิ์ศรี            ตนก่อน

อาจช่วยยึดเหนี่ยวรั้ง           ชั่วช้าเลวทราม

                @ หากยามใดเริ่มรู้              รักจริง

                ขออย่าหมายประวิง             เนิ่นช้า

                จงรีบช่วยท้วงติง                  คนอื่น

                หมายที่จะลวงค้า                  ก่อตั้งกองทุน

@ หัวใจยังขุ่นข้อง              หมองศรี

ตรงหว่างกลางฤดี                นั่นแล้ว

โกรธเกลียดกลุ่มผู้ดี             เงินหว่าน

คือท่านนายทุนแกล้ว          เก่งกล้าหลอกลวง

                @ จึงเป็นห่วงพี่น้อง           ชาวนา

                เหน็ดเหนื่อยในอุรา            ยิ่งล้ำ

                เห็นเงินหมื่นมากค่า            เสียยิ่ง

                ขายที่นาหมดซ้ำ                   ต้องเช่าทำกิน

 @ ในถิ่นหวังต่อสู้               พอเพียง

โดยที่ทำนาเลี้ยง                   พี่น้อง

ยึดคำพ่อส่งเสียง                  สอนสั่ง

เงินนี่มีน้อยต้อง                   ต่อสู้อดออม

                @ หวังรอมชอมเพื่อให้      เป็นสุข

                จงช่วยกำจัดทุกข์                  ที่ตั้ง

                จิตหมายมุ่งปั่นปลุก             จงอย่า ทำนอ

                ควรหมั่นคอยยับยั้ง              ชั่วช้าเลวทราม

@ หาใจตามต่อให้              พบเห็น

จิตที่มุ่งบำเพ็ญ                      เที่ยงแท้

ความสุขที่เคยเป็น                มาก่อน

บุญจึ่งรักษาแม้                     ไม่รู้ควรทำ

                @ ความลำเค็ญทั่วทั้ง          ปถพี

                คงไม่เกิดมากมี                     ต่อได้     

                หากเราเริ่มวิถี                       เหมือนเก่า

                ทุกสิ่งคงเดิมไว้                     แน่แท้คนไทย

@ ฤๅหัวใจเริ่มไร้                ความรัก

จึงไม่เคยตระหนัก               เรื่องร้าย

ดวงใจไม่ประจักษ์               จึงก่อ

เหตุที่คอยปิดป้าย                 ใส่ไคล้กันเอง ฯ

 

ประพันธ์โดย    อรุโณทัย

ไพโรจน์   เมฆอรุณ

6008/69  ถนนประชาสงเคราะห์

แขวงดินแดง        เขตดินแดง

กรุงเทพมหานคร  (10400)

โทร  08-9016-2075

 

 

                       

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อรุโณทัย (pr_aroon-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-10-15 09:48:53


ความคิดเห็นที่ 22 (1995481)

 

บทกวีกับสังคม

 

                                                                 รุ่นต่อรุ่นส่วผ่าน                          สื่อประสานงานอักษร

                                                 สืบมาสู่นาคร                                              ขจรไกล  ณ  ใจชน

                                                                 เส้นสายของลายสือ                     ระบือรับนับนุสนธิ์

                                                ทุกกะระยะดล                                             มนต์กวีศรีอักษรา

                                                                 เพียงชนคนกลุ่มน้อย                   จำเรียงร้อยสร้อยภาษา

                                              เป็นแหล่งแห่งปัญญา                                    รวมใจตั้งเป็นสังคม

                                                                สังคมที่ขับขาน                           มีตำนานให้เราชม

                                            หลายปีที่เพาะบ่ม                                            เป็นรากเหง้าเผาพงศ์ไทย

                                                                กวีเคียงคู่ยุค                                เป็นแรงปลุกยุคสมัย

                                            เปิดเทอมประเดิมชัย                                       ให้ศึกษาน่าตรึกตรอง

                                                               รามคำแหงมหาราช                     ทั้งศรีปราชญ์ชาติสนอง

                                             สุนทรภู่สู่ยุคทอง                                           ครองชีวันนิรันดร์กาล

                                                                อีกมากบรมครู                            ขอเชิดชูจิตจดจาร

                                             สังคมรอยตำนาน                                          จากวันวานถึงวันนี้

                                                               ถึงจะเป็นเด็กน้อย                        ใช่ว่าด้อยอักษรศรี

                                              กลั่นกรองห้องวจี                                          เป็นกวีในสังคม                 

 

ประพันธ์โดยเด็กชายแมน  คล้ายสุวรรณ

โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม  512/1  ซอยจรัญสนิทวงศ์ 32

เขต บางกอกน้อย  กรุงเทพมหานคร  10700

โทร 087 - 5131969 , 081 - 9159934                                              

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายแมน คล้ายสุวรรณ วันที่ตอบ 2009-10-15 13:02:55


ความคิดเห็นที่ 23 (1995494)

รักหนึ่งนั้นไม่คิด                                  เงินตรา
รักหนึ่งสร้างสรรหา                                แด่ให้
รักหนึ่งช่วยนำพา                                 ชีวิต จิตใจ
รักหนึ่งฝังฝากไว้                                  ให้ลูกทุกคน

รักหนึ่งนั้นชี้แสง                                   ส่องทาง
รักหนึ่งช่วยสะสาง                                ถ่องแท้
รักหนึ่งคอยขัดขวาง                              เส้นทาง ปรวนแปร
รักหนึ่งคอยช่วยแก้                                ปัญหา ยากเย็น

เมื่อใดที่ลูกนั้น                                       เป็นทุกข์
อุปสรรคมาบุก                                      หนักหนา
มือน้อยน้อยมอบสุข                                  ยืนมา
เป็นแสงส่องนำพา                                  ชีวิตจิตใจ



พระคุณแม่ก้าวล้ำ                                   ยิ่งใหญ่
พระคุณแม่สุดไกล                                  เทียบถึง
พระคุณแม่จากใจ                                   ให้คิด คำนึง
พระคุณแม่ลึกซึ้ง                                     มากล้น คณา

จะเรียนรู้คำรัก                                        จากแม่
ให้แจ่มแจ้งรู้แท้                                      ความหมาย
จะรักแม่แน่แท้                                      ไม่คิด นึกคลาย
ดูแลท่านจนตาย                                      ชาตินี้ ไม่ลืม

 

พระคุณแม่ค่าล้วน                                                      กว้างไกลลูกเอย

รักแม่เกินกว่าใคร                                                       เด่นฟ้า
แม่รักแม่ห่วงใย                                                          ลูกยิ่งอื่นใด
ขาดแม่ลูกเหว่ว้า                                                         กว่าเอื้อน เอ่ยคำ

 

 

พระคุณพระแม่ล้น                                                           มหาสมุทร

เพียรพร่ำเพียรสอนบุตร                                                    ท่านให้

รักหวงห่วงลูกสุดชีวิต                                                      ท่านนา

ลูกเก่งและดีได้                                                                 แม่แท้มีคุณ

 

ทดแทนคุณแม่ด้วย                                                           ทำดี นั่นแล

ให้เท่าที่แม่มี                                                                         ต่อเจ้า

อย่าผลัดอย่ารอรี                                                            ด้วยแม่ ยังอยู่

 ขาดแม่วันใดเข้า                                                           เมื่อนั้นไม่ต้องทดแทน

 

นาย ธีรศักดิ์ จันทรเกิด

147/15 หมู่ 1 ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร

ระดับ อุดมศึกษา

สถานที่ศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 222 ตำบลไทยบุรี อำเภอท่าศาลา หอ17 ห้อง 111 นครศรีธรรมราช 80160

ที่อยู่ 147/15 หมู่1 ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร 86000

โทร085-0688131

อีเมล์ juntarakedteerasak@yahoo.com

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธีรศักดิ์ จันทรเกิด (juntarakedteerasak-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-10-15 13:43:21


ความคิดเห็นที่ 24 (1995497)

ม.สระแอใส่ไม้                                     เอกมา

มวลมนุษย์คงทราบนา                            ว่าเค้า

คือคนที่ทุกนรา                                                   เรียกแม่
ตัวท่านจะคอยเฝ้า                                 ใฝ่เลี้ยงลูกผอง

 

รักหนึ่งนั้นไม่คิด                                  เงินตรา
รักหนึ่งสร้างสรรหา                                แด่ให้
รักหนึ่งช่วยนำพา                                 ชีวิต จิตใจ
รักหนึ่งฝังฝากไว้                                  ให้ลูกทุกคน

รักหนึ่งนั้นชี้แสง                                   ส่องทาง
รักหนึ่งช่วยสะสาง                                ถ่องแท้
รักหนึ่งคอยขัดขวาง                              เส้นทาง ปรวนแปร
รักหนึ่งคอยช่วยแก้                                ปัญหา ยากเย็น

เมื่อใดที่ลูกนั้น                                       เป็นทุกข์
อุปสรรคมาบุก                                      หนักหนา
มือน้อยน้อยมอบสุข                                  ยืนมา
เป็นแสงส่องนำพา                                  ชีวิตจิตใจ



พระคุณแม่ก้าวล้ำ                                   ยิ่งใหญ่
พระคุณแม่สุดไกล                                  เทียบถึง
พระคุณแม่จากใจ                                   ให้คิด คำนึง
พระคุณแม่ลึกซึ้ง                                     มากล้น คณา

จะเรียนรู้คำรัก                                        จากแม่
ให้แจ่มแจ้งรู้แท้                                      ความหมาย
จะรักแม่แน่แท้                                      ไม่คิด นึกคลาย
ดูแลท่านจนตาย                                      ชาตินี้ ไม่ลืม

 

พระคุณแม่ค่าล้วน                                                      กว้างไกลลูกเอย

รักแม่เกินกว่าใคร                                                       เด่นฟ้า
แม่รักแม่ห่วงใย                                                          ลูกยิ่งอื่นใด
ขาดแม่ลูกเหว่ว้า                                                         กว่าเอื้อน เอ่ยคำ

พระคุณพระแม่ล้น                                                           มหาสมุทร

เพียรพร่ำเพียรสอนบุตร                                                    ท่านให้

รักหวงห่วงลูกสุดชีวิต                                                      ท่านนา

ลูกเก่งและดีได้                                                                 แม่แท้มีคุณ

 

ทดแทนคุณแม่ด้วย                                                           ทำดี นั่นแล

ให้เท่าที่แม่มี                                                                         ต่อเจ้า

อย่าผลัดอย่ารอรี                                                            ด้วยแม่ ยังอยู่

 ขาดแม่วันใดเข้า                                                           เมื่อนั้นไม่ต้องทดแทน

 

นาย ธีรศักดิ์ จันทรเกิด

147/15 หมู่ 1 ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร

ระดับ อุดมศึกษา

สถานที่ศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 222 ตำบลไทยบุรี อำเภอท่าศาลา หอ17 ห้อง 111 นครศรีธรรมราช 80160

ที่อยู่ 147/15 หมู่1 ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร 86000

โทร085-0688131

อีเมล์juntarakedteerasak@yahoo.com

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธีรศักดิ์ (juntarakedteerasak-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-10-15 13:51:07


ความคิดเห็นที่ 25 (1995499)

 

 

   บทเพลงแห่สันติภาพ

     ข้อกระดูกผูกเรียงรายสายระนาด

วงปี่พาทย์เริ่มทำนองของซากผี

เริงบรรเลงเพลงสงครามหยามชีวี

หลังจากมีวีรกรรมในตำนาน

        ฟ้ายังมืดมิดหมอกระลอกลับ

อาทิตย์ดับขับน้ำตาน่าสงสาร

ร่ำร้องไห้เพลงอาฆาตนาฏการณ์

เป็นภาพผ่านฝังอดีตกรีดใจชน

        มาสู่ยุคสองพันวันฟ้าใหม่

สงครามใหญ่ไล่ฆ่าฟันมันมิสน

เพลงระเบิด เพลงปืน กลืนเพลงคน

ขับร้องจนแผ่นดินเดือดเลือดน้ำตา

        ทุกทำนองกล่อมห้องใจให้สลาย

บ่อนทำลายหมายลำเค็ญชีพเข่นฆ่า

เป็นจังหวะจะโคนโค่นประชา

กลืนศรัทธาความหวังทั้งแผ่นดิน

        ฟ้าหลังฝนวันหน้าใกล้มาถึง

ร่ำรำพึงเพลงสวรรค์มายังถิ่น

พร้องสดับรับบรรเลงเพลงหลั่งริน

ลบราคิน สิ้นราคะ ชะราคี

        ฤกษ์ประเดิมเริ่มทำนองร้องเพลงชาติ

ไทยประกาศวาดลักษณ์อวดศักดิ์ศรี

สันติสุข  สันติธรรม์  สันติวิธี

สรรค์เปรมปรีดิ์   สันติภาพ   ตราบนิรันดร์  

        " ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย.... "

หลอมรวมใจทุกแว่นแคว้นแดนสวรรค์

แปดโมงเช้า  หกโมงเย็น เห็นพร้อมกัน

ยืนตรงมั่นประสานเสียงสำเนียงคำ

        เมฆทมิฬทะมึนหายดั่งสายหมอก

แสงระลอกเปิดฟ้าใสให้ชื่นฉ่ำ

นกพิราบคาบดอกรักปักใจจำ

แล้วน้อมนำสมานฉันท์ปันศีลทาน

        ประชาร้องเพลงสวรรค์สันติภาพ

ซึมกำซาบเหิมใจใฝ่ประสาน

" ไทยเป็นไท " ไม่ขึ้นอยู่ผู้บงการ

สร้าวตำนานชาติไทยให้รุ่งเรือง

        ....เถลิงประเทศ   ฉลองศกดิลกศรี

ชาติไทยทวี   ความรักฟูมฟักเฟื่อง

มีชัย   ผสานสันติภาพอาบบ้านเมือง

ชโย   กระเดืองซร้องบรรเลง  " เพลงชาติไทย "

 

ประพันธ์โดย  เด็กชายแมน   คล้ายสุวรรณ

โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม  512/1 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 32

เขต บางกอกน้อย  จังหวัดกรุงเทพมหานคร

โทร 087 - 5131969 , 081 - 9159934

 

              

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายแมน คล้ายสุวรรณ วันที่ตอบ 2009-10-15 13:52:47


ความคิดเห็นที่ 26 (1995502)

ประกวดโคลงสี่สุภาพ ฤาหัวใจจะไร้รัก

รักหนึ่งนั้นไม่คิด                                  เงินทอง
รักหนึ่งสร้างสรรค์หา                               แด่ให้
รักหนึ่งช่วยนำพา                                 ชีวิต จิตใจ
รักหนึ่งฝังฝากไว้                                  ให้ลูกทุกคน


รักหนึ่งนั้นชี้แสง                                   ส่องทาง
รักหนึ่งช่วยสะสาง                                ถ่องแท้
รักหนึ่งคอยขัดขวาง                              เส้นทาง รวนเร
รักหนึ่งคอยช่วยแก้                                ปัญหา ยากเข็ญ

 

เมื่อใดที่ลูกนั้น                                       เป็นทุกข์
อุปสรรคมาบุก                                      หนักหนา
มือน้อยน้อยมอบสุข                                  ยื่นมา

เป็นแสงส่องนำทาง                                   ชีวิตของลูกน้อย

พระคุณแม่ก้าวล้ำ                                   ยิ่งใหญ่
พระคุณแม่สุดใคร                                   เทียบได้

พระคุณแม่จากใจ                                   ให้คิด คำนึง
พระคุณแม่ลึกซึ้ง                                     มากล้น ใครอื่น

 

จะเรียนรู้คำรัก                                        จากแม่
ให้แจ่มแจ้งรู้แท้                                      ความหมาย
จะรักแม่แน่แท้                                      ไม่คิด เสื่อมคลาย
ดูแลท่านจนตาย                                      ชาตินี้ ไม่ลืม

 

พระคุณแม่ค่าล้วน                                                      กว้างไกลลูกเอย

รักแม่เกินกว่าใคร                                                       เด่นฟ้า
แม่รักแม่ห่วงใย                                                          ลูกยิ่งสิ่งใด

ขาดแม่ลูกเหว่ว้า                                                        ไม่ได้เติบโต

 

 

นาย ธีรศักดิ์ จันทรเกิด

147/15 หมู่ 1 ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร

ระดับ อุดมศึกษา

สถานที่ศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 222 ตำบลไทยบุรี อำเภอท่าศาลา หอ17 ห้อง 111 นครศรีธรรมราช 80160

ที่อยู่ 147/15 หมู่1 ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร 86000

โทร085-0688131

อีเมล์juntarakedteerasak@yahoo.com

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธีรศักดิ์ (juntarakedteerasak-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-10-15 14:05:45


ความคิดเห็นที่ 27 (1995625)

บทกวีกับสังคม

วรรณศิลป์ล้ำค่า          เรียงร้อยมาถ้อยคำหวาน

ประดุจซึ่งน้ำตาล          บทกลอนกานท์สานวจี

ถ่ายทอดหลายรูปแบบ      ได้อย่างแยบยลกวี

อักษรบทกลอนมี          ประพันธ์ดีที่ลีลา

อรรถรสบทร้อยกรอง       ที่ช่ำช้องเชี่ยวชาญมา

รังสรรค์สืบสานค่า         พัฒนาจนก้าวไกล

ร้อยรสซึ่งบทกลอน        อุทาหรณ์ถ่ายทอดได้

สังคมสะท้อนไป          เสน่ห์ไทยมิลบเลือน

สังคมทรามย่ำแย่         สังคมแปรเก่ามิเหมือน

สังคมมิย้ำเตือน          สังคมเชือนแชเปลี่ยนไป

บทกวีคลายทุกข์          เพิ่มความสุขจรรโลงใจ

สืบสานกานท์กลอนไว้      เพื่อลูกไทยไปชั่วกัลป์ 

ด.ช.ฐานันดร    จูทิม  

154  ม.8  ร.ร.บางพลีราษฎร์บำรุง

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการเขต2

จ.สมุทรปราการ     

ผู้แสดงความคิดเห็น ฐานันดร วันที่ตอบ 2009-10-15 18:52:19


ความคิดเห็นที่ 28 (1995626)

บทกวีกับสังคม

น้ำตาลว่าหวานปาก          ยังสิ้นซากละลายหาย

หวานแล้วยังไม่วาย           พรากคนตายสังเวชใจ

หวานใดไม่เท่ากลอน         หวานเร่าร้อนน่าหลงใหล

หวานอารมณ์ลามทรวงใน       กวีไทยหวานอุรา

เริ่มจากท่านสุนทร           แต่งกาพย์กลอนเหินเวหา

จนได้ด้วยฉายา             ชาญวิชาภาษากลอน

บทกวีกับสังคม             อย่าปล่อยล้มอย่าถอดถอน

สังคมคู่เคียงกลอน           อย่าผลัดผ่อนอย่าหย่อนยาน

ซ้อมฝึกใฝ่ประพันธ์           ยิ่งนานวันยิ่งเล่าขาน

อย่าปล่อยเป็นตำนาน          ให้สะท้านทั้งโลกา

คนไทยศิษย์สุนทร            ควรรักกลอนมิรอช้า

แต่งกลอนเพิ่มคุณค่า           สื่อภาษาแซ่ซ้องใจ

ด.ญ.วรวีร์     แซ่จึง

154  ม.8  ร.ร.บางพลีราษฎร์บำรุง

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการเขต2

จ.สมุทรปราการ     

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฐานันดร วันที่ตอบ 2009-10-15 19:02:36


ความคิดเห็นที่ 29 (1995630)
คุณ เด็กชายแมน คล้ายสุวรรณ

ส่งทั้งระดับมัธยมศึกษาต้อนต้น (กาพย์ยานี11)
และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (กลอนสุภาพ)

ตกลงว่า อยู่ในระดับไหนกันแน่ครับ
กรุณาเลือกส่งให้ตรงด้วยครับ

เพราะไม่เช่นนั้น อาจต้องถูกตัดสิทธิ์การส่งประกวดครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คณะทำงานฯ วันที่ตอบ 2009-10-15 19:07:55


ความคิดเห็นที่ 30 (1995632)

 

 

บทกวีกับสังคม

ล้วนแล้วทั้งประพันธ์              กาพย์กลอนนั้นสุนทรภู่

ท่านคือบรมครู                 ผู้เชิดชูกวีไทย

เยาวชนคนรุ่นก่อน               ไม่ใจร้อนเหมือนรุ่นใหม่

กวีน่าเลื่อมใส                 หนุนนำใจช่วยร่มเย็น

แม้ผ่านมาช้านาน                แต่โบราณมีให้เห็น

เลื่องชื่อประพันธ์เป็น              ไม่ทุกข์เข็ญเหมือนอื่นใคร

ชื่นใจยามได้ยล                 ช่วยผู้คนยามทุกข์ได้

เพลิดเพลินกาพย์กลอนไทย         ต่างชื่นใจและชื่นบาน

สังคมในยุคร้อน                 ไม่วิงวอนกวีหวาน

หัวใจไร้สำราญ                  ไม่เบิกบานอย่างยุคใด

พวกเราเยาวชนน้อย               ต่างเรียงร้อยหาคำใส่ 

แต่งกวีเพื่อปลุกใจ                ให้คนไทยมารักกัน

 

 

ด.ช.  นรินทร์     โฉมเจริญ

154  ม.8  ร.ร.บางพลีราษฎร์บำรุง

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการเขต2

จ.สมุทรปราการ     

ผู้แสดงความคิดเห็น ฐานันดร วันที่ตอบ 2009-10-15 19:12:26


ความคิดเห็นที่ 31 (1995644)

ฤาหัวใจจะไร้รัก….(ขอหัวใจอย่าไร้รัก)

 

๑.           ฟ้าเปลี่ยนสีจากฟ้า                 เป็นแดง

เลือดสาดสงครามแฝง             ใฝ่เร้น

อำนาจมืดถูกแจง                     แจกจ่าย

ครอบจิตคิดมุ่งเน้น                  โลภร้ายฤทธิ์มาร

๒.          มิสงสารชาติเชื้อ                    ชั้นชน

            ปลูกพืชบนหลังคน                 ค่ำเช้า

            แสร้งดีเพื่อหวังผล                   ชูเชิด    หน้าเฮย

            อุปกิเลสล่วงรุมเร้า                   รักร้างโรยรา

๓.          หน้ากากผีกลอกกลิ้ง             กลับการย์

            เคยสงบประสพศานต์              เลิศล้ำ

            ไฟแตกแยกเริ่มผลาญ              เผาวอด  วายนา

            เกิดมิคสัญญีซ้ำ                       สร่างสิ้นสุขสันต์

๔.          ฆ่าฟันด้วยจิตไร้                    เมตตา

            หลงผิดอวิชชา                         ชั่วช้า

            เห็นชีพดั่งผักปลา                    ยิงเกลื่อน

            ศพร่ำไห้ไม่กล้า                       เรียกร้องยุติธรรม

๕.          ตรากตรำจำทุกข์ท้น              ท่วมอุรา

            ไร้สิทธิ์-ปิดหูตา                       ไป่รู้

            เขาใหญ่จึ่งบัญชา                     ทุกสิ่ง

            ใครจะอาจหาญสู้                     เสี่ยงด้วยชีวี

๖.           เฉกวารีที่น้อย                        แพ้ไฟ

            ถูกกดขี่เรื่อยไป                        หม่นเศร้า

            ตราบนานสักเท่าใด                 จึงจบ   กรรมแฮ

            ห้า หก เจ็ด แปด เก้า                สิบฟ้าฤาพอ

๗.          ไฉนหนอรักเริ่มร้าว               เลือนราง

            ฤาเพราะรักจะจาง                   จืดสิ้น

            ฤาใดเล่าอำพราง                      ความรัก     ไว้นา

            ฤารักด่วนดับดิ้น                     เนื่องด้วยอธรรม

๘.          ไยมินำรักแท้                          คืนมา

            ไยยึดติดเงินตรา                       เทิดไหว้

            ไยเคารพบูชา                           โลภะ   กันนอ

            ไยลัทธิรักไร้                            โรจน์เริ้องจำรูญ

๙.           ก่อนสูญรักเริดร้าง                 แรมไกล

            ร่วมผูกไมตรีใจ                        รักษ์บ้าน

            ปลูกสามัคคีใน                         ประเทศ    เราเฮย

            ไทยหกสิบกว่าล้าน                 รักเอื้อต่อกัน

๑๐.        หลอมใจสรรค์เสกสร้าง         ศักดิ์ศรี

            รักษ์เถิดซึ่งความดี                   คู่ด้าว

            รักษ์เถิดซึ่งอารี                        อิ่มรื่น-   รมย์นา 

            รักษ์อู่น้ำอู่ข้าว                         รักษ์ไว้นิรันดร์กาล

 

 

 

 

ประพันธ์โดย นู๋นวล

นางสาวทิพย์สุคนธ์    สมรูป

45/3 ต.นาข่า  อ.ท่าบ่อ  จ.หนองคาย   43110

โทร. 08-3673-8380 , 0-4277-7032

โรงเรียนท่าบ่อ  ต.ท่าบ่อ  อ.ท่าบ่อ  จ.หนองคาย  43110

โทร. 0-4243-1728

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นู๋นวล วันที่ตอบ 2009-10-15 20:04:07


ความคิดเห็นที่ 32 (1995660)
เรียนทุกท่าน

โครงการร้อยกรองออนไลน์ได้จัดระดับการส่งผลงานประกวดไว้ ๓ ระดับ
กล่าวคือ

-ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (กาพย์ยานี11)
-ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (กลอนสุภาพ)
-ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป (โคลงสี่สุภาพ)

ทั้งนี้ ในแต่ละบุคคลสามารถส่งได้ในระดับของตัวเอง ตามกติกาการประกวดที่กำหนดไว้

สำหรับกรณีของ "เด็กชายแมน" ได้ส่งทั้งระดับ "มัธยมศึกษาตอนต้น" และ "ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย" จึงไม่เป็นไปตามกติกาที่กำหนด

อนึ่ง คณะทำงานฯ ได้พูดคุยกับ "เด็กชายแมน" เป็นที่เรียบร้อย
โดยได้รับแจ้งว่า ส่งงานใน "ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น" และขอถอนผลงาน ในระดับ "มัธยมศึกษาตอนปลาย" ออกจากการส่งประกวด

จึงเรียนมาเพื่อทราบ
คณะทำงานฯ
ผู้แสดงความคิดเห็น คณะทำงานฯ วันที่ตอบ 2009-10-15 20:57:57


ความคิดเห็นที่ 33 (1995687)

บทกวีกับสังคม

                                กวีคือกลอน                   ฝึกเราสอนภาษาศิลป์

                          ดุจปั้นดาวจากดิน                   เรียงร้อยคำได้ดั่งใจ

                               สังคมปัจจุบัน                   ดั่งหนทางที่ยาวไกล

                    ประเทศไทยเปลี่ยนไป                    ปัญหาใหญ่ที่ตามมา

                       หลากคนหลากชีวิต                    ความคิดย่อมมีตื้นหนา

                         เติบใหญ่ตามเวลา                    ถูกเลี้ยงมาเป็นอย่างไร

                       มุมมองแตกต่างบ้าง                    มองต่างมิใช่เรื่องใหญ่

                          ยึดถือมากเกินไป                     ผลร้ายเกิดจากใจตน

                               ทิฏฐินั้นบังใจ                    พูดไปแบบไร้เหตุผล

                          โลกแคบใจมืดมน                    มองคนอื่นเป็นศัตรู

                              จิตใจนั้นพาไป                    หลักฐานบอกไว้ไม่ดู

                         เถียงแบบไร้ความรู้                    กะลาครอบอยู่บังตา

                              สังคมจะอยู่ได้                     เพราะคนไทยเฝ้ารักษา

                             ประเทศพัฒนา                     จิตอาสาไทยทั้งปวง

 

แต่งโดย  ด.ช.  สิทธิศักดิ์   บุตรเต

ติดต่อได้ที่   บ้านเลขที่ 291  ถ. ท่าดินแดง  ซอย16  เขต คลองสาน 

แขวง  สมเด็จเจ้าพระยา   กรุงเทพมหานคร  ตู้ปณ. 10600

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น sneakerbird (c_sin_b_theb_-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-10-15 22:25:15


ความคิดเห็นที่ 34 (1995690)

บทกวีกับสังคม

 

ลากเส้นเป็นอักษร                  เขียนคำกลอนที่สั่งสม

กวี กับ สังคม                           งานสื่อสารผ่านสองมือ

 

ผู้นำบงการชาติ                        สร้างบทบาทน่านับถือ

ไม่สนเสียงร่ำลือ                     ยักยอกทรัพย์เข้าส่วนตน

 

ปากกล่าวเหมือนซื่อสัตย์        ปฏิบัติเพื่อหวังผล

หลอกลวงประชาชน               ไทยสับสนทางมืดมัว

 

สังคมแบ่งฝักฝ่าย                    เปลี่ยนใจกายดีเป็นชั่ว

เหลืองแดงสีแทนตัว               ต่างประท้วงทวงแผ่นดิน

 

โจรใต้ยิงกระหน่ำ                   ชนระส่ำตายแทบสิ้น

บ้านเรือนเคยอยู่กิน                 ถูกไฟเผาฝีมือใคร?

 

ฟื้นชาติก่อนจะสาย                 หมดเรื่องร้ายชนสดใส

คนชั่วจงกลับใจ                      พาชาติไทยสุขเปรมปรีดิ์

 

ธรรมาส่องสว่าง                      ชี้นำทางสมศักดิ์ศรี

รู้รักสามัคคี                              บทกวีสื่อสังคม

 

 

ด.ญ.กัญกาญจน์  พิทักษ์วงศ์  นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช

ที่อยู่ 78/1 ม.5 ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช 80120

โทร 089-8678725

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญกาญจน์ วันที่ตอบ 2009-10-15 22:33:57


ความคิดเห็นที่ 35 (1995704)

มานพผู้สละได้ทั้งหัวใจ

มานพคนหนึ่งหมั้น                                มารศรี

ปากเอ่ยเปรยวจี                       จับน้อง

จะรักสุดชีวี                              วายวอด

รักพี่ดังตรวนคล้อง                  ขลาดเจ้าจากหนี

 

มารศรีพยักหน้า                      เคอะเขิน

พลางหยิกกายชายเพลิน         เพราะถ้อย

เอาตรวนมัดก็เชิญ                   ชอบนัก พี่เอย

มัดแน่นหนาสักร้อย               กว่าเส้นตามสบาย

 

สมหมายมานพแล้ว                                เริงใจ

จึงโอบกอดนางใน                  อกอ้อม

สัญญารักสดใส                       สุขไป่  แปรนา

ครองรักอันหวานล้อม             รอบเหย้าเรือนตน

 

สองคนครองรักล้ำ                   เรืองรอง

คอยประคับประคอง               คู่แท้

เมตตาต่อกันปรอง-                 ดองดั่ง  ตรวนเอย

สุขร่วมสุขถึงแม้                     ทุกข์ท้อเคียงกัน

 

วันหนึ่งนางร่ำร้อง                  ทรมาน

ปวดจิตเจ็บกบาล                     บ่สิ้น

มานพเริ่มลนลาน                   ราวขาด  ใจแล

นางที่รักชักดิ้น                        ดั่งใกล้วางวาย

 

 

หมอทั้งหลายโปรดได้            ดูแล

ยาหยูกสักลำแพ                      ย่อมได้

ตับไตปอดจนแด                     ใดย่อม    ได้นา

เพียงแพทย์พยาบาลให้          แม่ได้บรรเทา

 

ธ.ธง เดือนแจ้ง

นายธงชัย เดือนแจ้ง 100/21 ม.4 ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา

82190

0834359483

ผู้แสดงความคิดเห็น ธ.ธง เดือนแจ้ง วันที่ตอบ 2009-10-15 23:59:06


ความคิดเห็นที่ 36 (1995706)

ปิดรับการส่งประกวดของเดือน กันยายน

ทีมงาน

ผู้แสดงความคิดเห็น webmaster วันที่ตอบ 2009-10-16 00:16:46



[1]



กระทู้นี้ไม่เปิดให้แสดงความคิดเห็น

Copyright © 2010 All Rights Reserved.