หน้าหลัก | ข้อมูลสมาคม | บทความ | บทร้อยกรอง | ข่าวสารประชาสัมพันธ์ | กิจกรรม | กระทู้ | หนังสือ | ร้อยกรองออนไลน์ |
น้องชายที่หาย | |
ตึง ตึง ตึง อึกทึก ครึกโครมคราม เสียงตูมตาม สั่นสะเทือน พื้นเรือนไหว เรือนไม้น้อย เก่าก่อน เจ้าจากไป แลหยักไย่ รกรังรุง ฟุ้งกระจาย
แม่ แม่ ครับ ผมกลับมา หาแม่แล้ว น้องชายแก้ว น้องสาวรัก ไยหลบหาย แล้วตัวเล็ก ลูกเต้าใคร อยู่ข้างกาย สองน้องร้าย ได้หลานสาว หรือไรกัน
ยอมโผล่หน้า มาแล้วฤา น้องสาวรัก คิดว่าหัก หลบหน้าพี่ มิแลหัน พี่จากไป หลายเดือนปี ก่อนวานวัน แล้วเจ้าอั๋น พี่ชายเจ้า อยู่ที่ใด
ตุ๊กตาจ๋า บอกพี่มา ให้เร็วเข้า พี่ชายเจ้า น้องชายพี่ หายไปไหน สุข ฤ ทุกข์ ดีเห็น เป็นอย่างไร แล้วทำไม ไยไม่ตอบ จงบอกมา แม่จ๋าแม่ ไยนิ่งแท้ แม่บอกผม แม่ตรอมตรม ทุกข์สิ่งใด กระไรหนา ฤ ดีใจ เห็นหน้าลูก ที่จากลา หยดน้ำตา ของแม่นั้น คือสิ่งใด
ตึง ตึง ตึง อึกทึก ครึกโครมคราม เสียงตูมตาม หัวใจสั่น สะเทือนไหว สิ้นเสียงเอ่ย รับรู้คำ พร่ำอาลัย น้องชายเจ้า หลับใหล สู่นิทรา
แม่ แม่ ครับ ผมกลับมา หาแม่แล้ว น้องชายแก้ว ผมอยู่ไหน นะแม่จ๋า บอกผมหน่อย ใครมารับ น้องแก้วตา จะเหยียบฟ้า เขาว่า “เอาน้องชายผม” ไปไหน
ถึงที่หมาย แลเปล่าว่าง อสงไขย หลับไปเถิด ไอ้น้องรัก พี่เข้าใจ จากนี้ไป "แม่จ๋าแม่" แลลูกมา หาแม่แล้ว | |
ผู้ตั้งกระทู้ ทรชนบ้านนอก :: วันที่ลงประกาศ 2012-04-26 17:03:40 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2269262) | |
"จะเหยียบฟ้า ถามเขาว่า “เอาน้องชายผม” ไปไหน" | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2012-04-26 17:06:43 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2269384) | |
การใช้คำหลายจุดยังดูแปลกๆนะครับ เลยทำให้บทกลอนที่ควรสะเทือนใจไม่ราบลื่นเท่าที่ควร... "จะเหยียบฟ้า ถามเขาว่า “เอาน้องชายผม” ไปไหน
คำสุดท้ายของวรรคส่ง ไม่นิยมใช้เสียงจัตวานะครับ ^^ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กระบี่ใบไม้ วันที่ตอบ 2012-04-27 10:56:54 |
ความคิดเห็นที่ 3 (2269386) | |
(นั่งเขียนกลอนตอนขี้แดก)
ยองยองขี้ คอห่านน้อย ละห้อยใจ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2012-04-27 11:03:57 |
ความคิดเห็นที่ 4 (2269389) | |
ขอบพระคุณครับ กระบี่ใบไม้ ที่แนะนำ
"จะเหยียบฟ้า ถามเขาว่า “น้องชายผมหายไป” ทีไหนกัน ...
สำหรับผมเอง ยอมรับนะครับ กลอนไม่รื่นไหล ที่ผมเขียนไว้ เผื่อว่าสักวันที่ผม เข้าใจหนทางกวีอย่างลึกซึ้งเหมือนท่านครูแล้ว ผมจะกลับมาแก้ไข ใหม่ ทุกกลอน ที่ผมเขียนไว้ ทุกกลอนที่เขียนไว้ เป็นเพียงการใช้คำที่ง่ายๆ สำหรับนักกลอนใหม่อย่างผม แต่เป็นการเขียนจากแรงบันดาล ฝากไว้เพื่อกันลืม หวังเพียงว่า วันข้างหน้า แรงบันดาลเหล่านี้ จะนำเรียบเรียง และ เรียงร้อยความไพเราะ กินใจ ได้มากยิ่ง ยังไง ก็ฝากให้ท่านผู้ลึกซึ้ง หยั่งเข้าถึงวรรณกรรมแล้ว ช่วยแนะนำ ชี้แนะ ผมต่อไปเรื่อยๆ ด้วยนะครับ ขอขอบพระคุณด้วยใจ ทรชนบ้านนอก | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2012-04-27 11:19:55 |
ความคิดเห็นที่ 5 (2269653) | |
คุณทรชนบ้านนอกครับ หากคุณคิดว่าจะเขียนมั่ว ๆ ไปก่อน พอเก่งแล้วจะย้อนมาปรับปรุง ผมในฐานะที่รับคุณเป็นศิษย์ (ในโลกเสมือน) ต้องขอเรียนว่า คุณคิดผิดครับ !
ผมเคยย้อนกลับไปดูโคลงกลอนเก่า ๆ ที่ผมแต่งไว้หลายปี มีหลายแห่งที่ผิด มีหลายแห่งที่ความคิดไร้เดียงสา มีหลายแห่งที่ควรเกลา แต่พอจะลงมือเกลา กลับรู้สึกทันทีว่า มันไม่ใช่ มันไม่ใช่อารมณ์กลอนเหมือนก่อนนั้น ความคิด ความรู้สึก เราเปลี่ยนไปตามวัย ตามประสบการณ์แห่งโลก สุดท้าย ต้องปล่อยไว้อย่างเดิม ปล่อยให้ความผิด ความไร้เดียงสา เป็นอนุสรณ์ เป็นอัตลักษณ์แห่งกาลเวลา ปล่อยไว้อย่างนั้น ปล่อยให้มันงามอย่างทุเรศๆ อย่างเดิมครับ
(การเกลากลอน: กลอนที่เราแต่งควรทิ้งไว้สักระยะ เพื่อลดอารมณ์ภายในลง แล้วอ่านในฐานะผู้อ่าน และเกลาให้สื่อสารได้ แต่ก็ไม่ควรทิ้งเวลาเกินเดือนครับ เพราะจะลืมอารมณ์กลอนตอนนั้น, การเขียนกลอนลงเน็ต ไม่ควรโพสต์ทันที ควรทิ้งระยะสักหน่อย อ่านทวน ๒ - ๓ รอบ แก้ไขคำผิด แก้ไขเสียงสัมผัส ลีลาแล้วค่อยโพสต์จะดีกว่าครับ)
คนเราต้องก้าวไปข้างหน้าครับ การคิดจะย้อนไปแก้ไขอดีตเป็นความคิดของคนไม่พัฒนา เราจะพัฒนาต้องเดินไปข้างหน้า สิ่งที่ผิดพลาดในอดีตเป็นสิ่งที่เราต้องจำมาเป็นบทเรียน ทบทวนและปรับปรุงตัวเอง ปัจจุบันเราเรียนรู้อะไรใหม่ก็นำมาปรับปรุงตัวเองตอนนี้ อนาคตจึงจะมีแต่สิ่งที่พัฒนาไปเรื่อย ๆ
รอยเท้าที่เราเดินแต่ละเก้า มันบันทึกประสบการณ์เราไปด้วย ไม่มีใครย้อนกลับไปตบแต่งรอยเท้าตัวเองให้สวยงามหรอกครับ มีแต่ปรับปรุงก้าวต่อไปให้มั่นคงเท่านั้น จำไว้นะครับ
รู้อะไรตอนนี้ เห็นอะไรดีกว่า ก็ปรับปรุงตอนนี้ครับ หากปล่อยไว้จะเป็นดินพอกหางหมู ยิ่งแก่จะยิ่งเต็มไปด้วยทิฏฐิมานะ ยากแก้ไข
(นะสิบอกให่ อิอิ) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ราศีิพิจิก วันที่ตอบ 2012-04-28 15:35:30 |
ความคิดเห็นที่ 6 (2269773) | |
....อ.ราศีพิจิกอย่างกะครูฝ่ายปกครอง โหดจริงๆเลยครับ ผมนั่งดูอยู่ยังรู้สึกร้อนๆหนาวๆ สักวันผมอาจโดนเฆี่ยนแน่เลย แหะๆ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น รัตนโกสินทร์ศก วันที่ตอบ 2012-04-29 10:13:26 |
ความคิดเห็นที่ 7 (2269841) | |
^ อ้าว .... เหรอครับ... ไม่ค่อยรู้ตัวนะเนี่ย แหะๆ
จะปรับปรุงตัวเองให้มากขึ้น ขอบคุณที่เตือนครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ราศีิพิจิก วันที่ตอบ 2012-04-29 19:33:30 |
ความคิดเห็นที่ 8 (2269853) | |
ป่าวนะครับป่าว ...ผมไม่ได้เตือน ไม่ได้อะไรนะครับ พูดเล่นหนะครับ แต่ละคนก็ไม่สไตล์การสอนไม่หมือนกัน อันนี้ผมเข้าใจดีครับ นี่ก็เป็นสไตล์เอกลักษณ์ของอาจารย์อยู่แล้ว ผู้คนจดจำได้....อ่านทีไรกระทู้ไหนก็ทราบว่ามีเจตนาที่ดีเท่านี้ก็สมกับเป็นอาจารย์แล้วครับ เคารพ ร.ศ. | |
ผู้แสดงความคิดเห็น รัตนโกสินทร์ศก วันที่ตอบ 2012-04-29 20:32:35 |
ความคิดเห็นที่ 9 (2270001) | |
ชอบตอนที่ลงท้ายของข้อเขียนในวงเล็บที่ว่า (นะสิบอกให้ อิ อิ) ดูเป็นกันเองดีครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น วิวัฒน์ บัตรเจริญ วันที่ตอบ 2012-04-30 14:08:23 |
ความคิดเห็นที่ 10 (2270303) | |
(ผมขอค้านอาจารย์นะครับเรื่องนี้)
ผมเขียนกลอน ไม่เคยคิด ว่าจะมั่ว แต่ทุกตัว กลั่นจากใจ ไว้ขับขาน ไม่เพราะพริ้ง ถูกฉันทลักษณ์ จักก็ตาม ถูกประณาม หยามเหยียด ไม่โศกตรม ผมเขียนกลอน ไม่ได้หวัง ถึงซีไรท์ แต่เขียนไป ไว้ระบาย หายขื่นขม ถึงไม่งาม แต่เรียงร้อย จากอารมณ์ ไม่เหมาะสม ไม่เป็นไร ใคร่ครวญดี ไม่แจ่มแจ้ง แจ่มใจ ในกานท์เพราะ ไม่เสนาะ ไม่เพราะพริ้ง ซิ่งหน่ายหนี บางคราวเขียน ใช้เวลา สามนาที กับสิ่งมี ที่ได้เห็น ทุกครั้งครา คำอันใด ไม่ชี้ชัด ใช่หมายนิ่ง แลทุกสิ่ง ด้วยกูเกิ้ล ไว้ค้นหา ไว้ตรวจสอบ ตรวจทาน อักขรา ด้วยรู้ค่า ภาษาไทย ของไทยเรา ผมไม่เก่ง การเทียบเสียง วรรคอักษร อันกานท์กลอน อ่านสุนทร ละครเขา หากรื่นไหล ไปได้ ก็หมายเอา รวมกันเข้า ทั้งเหล้ากลอน สอนใจตน อันคนเรา ต่างความคิด คิดแตกต่าง แต่บางครั้ง ให้ปล่อยวาง บ้างบางหน อย่าตึงเครียด จนเป็นทุกข์ ในกมล อย่าหวังผล จนเกินผล ไม่ดีงาม มีอะไร ในโลกนี้ คือที่สุด มีอะไร ที่ว่าหยุด ใคร่อยากถาม มีอะไร ที่สิ้นสุด ไม่ติดตาม มีอะไร ปรามผิด คิดผิดไป ผมว่าครู บางครั้ง หลงยึดติด ด้วยความคิด ในอัตตา บ่าแบกไหม ผมผู้น้อย อยากฝากบอก จากหัวใจ ผมเชื่อได้ ได้บางอย่าง ในทางดี ผมเป็นศิษย์ ย่อมติดต่าง ด้วยเหตุผล อันเล่ห์กล จากเจอเหลี่ยม เสี้ยมวิถี บางสิ่งอย่าง ไม่เหมือนกัน วันที่มี ศิษย์อยากชี้ ให้เห็นเก่า เอาเปลี่ยนแปลง เพียงเพราะหวัง ใจว่างเปล่า ก็ไร้คิด แลชีวิต ปล่อยวาง ว่างหน่ายแหนง เลยมิต้อง สงสัย ไร้คลางแคลง จักสำแดง กานท์กวี ที่อารมณ์ ผมเข้าใจ แนวทาง สร้างชีวิต พรหมลิขิต ถักถ้อย ร้อยผสม ประสบการณ์ ผ่านร้อน พอนานนม สุขจนสม รู้ฤทัย ในปล่อยวาง อันแนวทาง กานท์กลอนดี ท่านชี้แนะ คือนี้แหล่ะ ที่ใช่ ได้แตกต่าง แต่คนเรา ต่างชีวิต หลากแนวทาง อย่าได้สร้าง ว่าใครผิด คิดเอาครู ทางที่ถูก หาถูกจริง ในสิ่งเห็น สิ่งจำเป็น อาจไร้ค่า น่าอดสู สิ่งที่ใช่ แลไม่ใช่ ใคร่ตรองดู ศิษย์ผู้น้อย ใช่หยามหลู่ นะครูเอย | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2012-05-02 01:02:49 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 869922 |