ReadyPlanet.com


ส่งร้อยกรองประกวดประจำ "1 – 15 ตุลาคม 2557" ได้กระทู้นี้


 ช่องทางในการส่ง

กรุณาส่งช่องทางใดช่องทางหนึ่งเท่านั้น ป้องกันการซ้ำของข้อมูล 
และเพื่อความรวดเร็วในการตรวจ มิฉะนั้นท่านจะโดนตัดสิทธิ์

1. สำหรับผู้ที่ส่งทางเว็บบอร์ด http://thaipoet.net/
- แจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ให้ครบถ้วน
แจ้งแก้ไขได้ในกระทู้นี้ โดย ระบุความคิดเห็น จุดที่ต้องการแก้ไข และครั้งที่แก้ไข
- ส่งขึ้นเว็บบอร์ดเป็นไฟล์ text ธรรมดาเพื่อป้องกันข้อความเพี้ยน ไม่ต้องตกแต่ง

2. สำหรับผู้ต้องการส่งทางอีเมล ส่งได้ที่): info_thaipoet@yahoo.com
- แจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ให้ครบถ้วน

หัวข้อการประกวดประจำปักษ์แรกตุลาคม 1 – 15 ตุลาคม 2557 ประกาศผล 5 พฤศจิกายน 2557)
- ระดับมัธยมศึกษาต้น กาพย์ยานี 11 :  "ความทุกข์"
- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กลอนสุภาพ :  "ความทุกข์"
- ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป โคลงสี่สุภาพ :  "ความทุกข์"
ความยาวต่อชิ้นงาน 6-10 บท

อ่านกติกาให้ชัดเจนมิฉะนั้นท่านอาจโดนตัดสิทธิ์

ขอความกรุณางดการออกความเห็นในกระทู้ส่งงาน


ผู้ตั้งกระทู้ webmaster :: วันที่ลงประกาศ 2014-10-01 00:15:05


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3715222)

             

                "นิเสธ"กำสรวล
            
    ๗."มิ่งมิตร"หมายไขว่ฟ้า.....คว้าสวรรค์ 
"สาแหรก"มาแตกพลัน............พินาศสิ้น
ตะวันดับลับจันทร์...................เหม่อหม่น
ดั่ง"ปณิธาน"ดับดิ้น.................ตราบฟ้านิจนิรันดร์

    ๖.นิทราฝันปลาบปลื้ม..........อันตรธาน
พลัดพรากจาก"วันวาน"...........เหว่ว้า
อนาคตอนธกาล....................หมองหม่น
ฤๅจิตวิญญาณข้า...................สาปสิ้นสูญสลาย  

   ๕. ปล่อยวาง"ปลาย"ว่างเว้น..สุญญตา
สมมุติโลกมายา.....................เหนี่ยวรั้ง
วิมุตติเปรื่องปัญญา.................ประเสริฐ
"มรรค"ประชุมพรั่งพร้อม..........วิสุทธิ์แพร้ววัฒนา

    ๔.มวลประชา"ทุกข์"ท้น........ธรณี 
หินชาติก็อัปรีย์.......................ปลุกปล้ำ
ยาเสพติดกาลี........................ร้ายระบาด
กลียุคย่ามรุกล้ำ......................วินาศสิ้นอัปปาง
 
    ๓.สว่างไสวใจซาบซึ้ง.............ภิรมย์ธรรม                    
 "โมหะ"กรอบครอบงำ...............ปิดกั้น
 ดื้อแพ่งแข่งกระทำ....................ทิฐิ
 ศีลธรรมเสื่อมสะบั้น..................โศกเศร้ากำสรวล
 
   ๒.อันปัญญาเลิศล้วน...............ปฏิภาณ
"โลภะ"กล่อมสันดาน.................คราสเข้า                
 ทมิฬมืดคืบคลาน.....................ทุจริต
"อาเพศ"วิบัติตั้งเค้า..................วิโยคแล้วมวลไผท
 
    ๑.ดับขัยฤๅสุดสิ้น...............ทุกข์ขันธ์
"อวตาร"อัศจรรย์...................ภพฟ้า
อสงไขยชั่วกัปกัลป์..................ขับเคลื่อน...กาลแฮ
"กฎแห่งกรรม"แก่กล้า..............สยบหล้าโลกันตร์

 
                นายยงยุทธ ศรีชัย
     โรงเรียนบ้านท่าช้างคล้องหนองอีเปี้ย
                ตำบลท่าช้างคล้อง
             อำเภอผาขาว จังหวัดเลย
                       42240
                  085-2688269   

ผู้แสดงความคิดเห็น ยุทธ (Yy_srechai-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-01 12:54:45


ความคิดเห็นที่ 2 (3717171)

การประกวดร้อยกรองออนไลน์ หัวข้อ "ทุกข์"

" ทุกข์ย้อน "

 

( ๑ )

๏ ละเลงกรรมบาปเบื้อง...ทุกข์ไฉน

งำครอบคลุมกายใจ......ด่างพร้อย

รอยสถิตแน่นฝังใน......ซอกหลืบ

อกุศลหลากร้อย........แทบล้วนทุกขัง


( ๒ )

๏ ความดังมิอยากได้.....มาครอง

พาจิต-กายเยินหมอง.....ดื่นด้าว

มักหวนกลับสนอง.......คืนสู่  ตัวเฮย 

ราบคาบเพลิงแผดร้าว....หมกไหม้หุบเหว


( ๓ )

๏ ดุจเปลวไฟก่อเชื้อ.....โชนกาย

ดังอุทกโถมทะลาย.......วินาศเกลี้ยง

ดังปิศาจผีพราย.........หลอนหลอก

ดังเงื่อนเชือกผูกเพี้ยง.....กระหวัดซ้ำสกนธ์ใจ


( ๔ )

๏ เพราะกรรมกอบเก็บไว้...บาปแฝง

วิปัสสนาแสดง..........จิตรู้

อุทิศแผ่สัตว์แมลง........มนุษย์เถิด

เกิด แก่ เจ็บ ตาย ขู้.....ว่ายเวิ้งเวียนวน


( ๕ ) 

๏ ทุรนทุรายดับดิ้น.......กระเสือกกระสน

ดังกริชแทงกายตน.......ทิ่มจ้วง

ชาติภพเก่าสนองผล......ปัจจุ - บันเฮย 

ฉมวกพุ่งมือหยิบล้วง......สัตว์ไร้วิญญาณ 


( ๖ )

๏ ทรมานกาลเก่ากี้.......ภาพเห็น

ทะลุทะลวงเลือดเย็น......อดีตย้อน

ทะลักทะลายกระเด็น......คืนสู่  ตัวนอ

ทวิบาทสาดสะท้อน.......ชาตินี้มนุสสา


" ท่านชายในสายหมอก "


( นายธนพงษ์  บุญยงค์ ) 

๔๙๙ อาคารสุขประพฤติ

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ชั้น ๑๑ 

ถนนประชาชื่น เขตบางซื่อ

กรุงเทพฯ ๑๐๘๐๐ 

เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๑-๑๙๙-๒๓๙๙ /๐๘๕-๙๑๔-๘๔๙๕ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ท่านชายในสายหมอก (anapong054-at-gmial-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-06 08:45:51


ความคิดเห็นที่ 3 (3717172)

 ขอแก้ไขที่อยู่ของอีเมล์ครับ 



tanapong054@gmail.com

ผู้แสดงความคิดเห็น ื้่ท่านชายในสายหมอก (tanapong054-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-06 08:47:17


ความคิดเห็นที่ 4 (3718178)

 ขอแก้ไขคำผิด ครั้งที่ 1

บทที่ 6 คำว่า อนธกาล เป็นคำว่า อนธการ

ผู้แสดงความคิดเห็น ยุทธ (Yy_srechai-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-07 22:35:31


ความคิดเห็นที่ 5 (3719102)

 “ดอกหญ้าในป่าปูน

ดินหัวดอนคงแยกแตกระแหง                น้ำคงแล้งทั่วท้องนาในหน้าฝน

ความเหี่ยวเฉาคงครองกล้าไม่น่ายล        เมื่อรู้คนบ้านนอกลืมคอกนา

ทิ้งลมทุ่งหลงแสงแห่งเมืองหลวง          ไปเด่นดวงผิดแผกแมกไม้ป่า

ประชันแข่งไม้เมืองเรืองโอฬาร์             ถูกเขาคว้าเด็ดดอมเป็นจอมใจ

พอสิ้นกลิ่นสดสาวเหลือคาวคราบ         น้ำตาอาบรอเวลาแห่งฟ้าใหม่

เล่ห์ลมลวงเขาหลอกลิ้มชิมเนื้อใน          เธอคงได้แต่ครวญหาผู้อาทร

เขาเลือกไม้มิ่งขวัญแจกันใหม่            ทิ้งเจ้าให้แห้งตายเหมือนรายก่อน

หมดทางไปไขว่เขวพเนจร                 ต้องแอบซ่อนความชังในสังคม

ความอ้างว้างตามเป็นเงาอยู่เช้าค่ำ      ความทุกข์เข้าครอบงำจำใจข่ม

บนเส้นทางด่างพร้อยรอยอารมณ์      ความขื่นขมทิ้งเศษซากฝากฝังไว้

นี่คงเป็นบทละครฉากตอนจบ           พาค้นพบเรื่องความจริงอันยิ่งใหญ่

ขวัญผกาคงลิ้มรสบทช้ำใจ               เพราะเป็นได้เพียงดอกหญ้าในป่าปูน

 

นายกิตติ       อัมพรมหา

โรงเรียนสุนทรภู่พิทยา

57/6  .4 .ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง 21190

โทร.080-1027109

ผู้แสดงความคิดเห็น กิตติ (kitti-dot-spss-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-09 15:52:56


ความคิดเห็นที่ 6 (3719164)

 ลอยลมฝันอย่างไร้                ความหมาย

ครวญอยู่เพียงเดียวดาย.      คลั่งบ้า
ใจครวญคร่ำโศกกลาย.          วันที่ ล่วงมา
วันผ่านเลือนเดือนคล้อย.        สุ่มเข้าทรวงใน
 
คนเราเหงาห่างร้าง.        . เคยเคียง
สวนที่คุณรอเรียง.           อยู่ใกล้
ดอกรักบ่ออกใบ.             ผลิตช่อ
รักเหี่ยวโรยดอกแล้ว.     เก็บทิ้งเดียวดาย
 
จึงระทมอยู่ไร้                    ความหมาย
ใจที่สุขรักมลาย.               ห่างน้อง
รักสุมผ่าวเผากาย             ใจพี่
คิดแต่เพียงชิดใกล้          แต่น้องนางเดียว
 
บนทางเดินว่างร้าง.          แดนใจ
สุดที่หมายจากไกล           ห่างนี้
ยากนักข่มหักใจ.               เหินห่าง ดวงแด
จำตัดใจไกลร้าง.               ห่างแล้วกานดา
 
ความสุขยามร่วมร้อย.     ความฝัน
เหลือที่จะสุขสรรค์            ต่อได้
ใจหากห่วงหากัน.             กล่าวถ้อย ฝากลา
ฝากส่งลมพัดใกล้            กล่าวถ้อยสำเนียง
 
ฝากรักตัดใจต่อนี้               คาดหวัง
ฝากสิ่งสิ่งที่ยัง.                 หล่นอยู่
ฝากใจสั่งยามยาก.            หากน้องหมองหม่น
ฝากส่งจากลาน้อง.            สู่ห้วงแดนธรรม        
 
 
จินตนาในแดนแห่งความรัก
สุจินตนา. เปียทอง
38/71. ซ.มงคลสุข. ต.บางกรวย. อ.บางกรวย. จ.นนทบุรี 11130
     0875087338
ผู้แสดงความคิดเห็น จินตนาในแดนแห่งความรัก วันที่ตอบ 2014-10-09 17:10:15


ความคิดเห็นที่ 7 (3719539)

 “ความทุกข์”

๐ ทุกข์เพราะฝันไขว่คว้า      สนองตน
ทุกข์เพราะเกิดเป็นคน          ไป่รู้
ทุกข์เพราะจิตฉ้อฉล              หมองหม่น
ทุกข์เพราะใจมิสู้                    พ่ายแพ้ตัวเอง

๐ ทุกข์วังเวงรับรู้                   สัมผัส     
หมายมั่นจะกำจัด                   ถ่ายทิ้ง
กายเป็นบ่าวยืนหยัด              เย่อหยิ่ง
จิตคร่ำครวญกลอกกลิ้ง        ทุกข์แท้ใจเรา

๐ เงากิเลสชั่วร้าย                   ครอบงำ
ใจขาดศีลธรรม                      ต่ำเตี้ย
ความอยากใคร่หลงถลำ        ดำดิ่ง
จิตตกเป็นทาสเบี้ย                 คลั่งไคล้เชยชม

๐ จิตภิรมย์หม่นไหม้             ปรารถนา
รูปรสเสียงชิวหา                    ยั่วเย้า
ตัณหาร่างกายา                       สมเสพ
สุขชั่วคราวฉุดเร้า                  ยากแท้สุขจริง

๐ ทุกสรรพสิ่งนั้น                  วกวน
หลอกล่อจนหลงกล             เล่ห์ร้าย
ดินไฟและลมฝน                   ธาตุสี่

เกิดแก่เจ็บสุดท้าย                  มอดม้วยแตกดับ

๐ หวนกลับคืนสู่ห้วง            ธรรมชาติ
บุญบาปดังภาพวาด                แต่งแต้ม
ทุกขเวทนา ทาส-                   ตามติด

บัวเบ่งบานแรกแย้ม              รุ่งเช้างดงาม

๐ ใจทรามจะแจ่มแจ้ง            โดยธรรม
กิเลสตัณหาครอบงำ              หลุดพ้น 
ทุกข์เวียนว่ายกงกรรม          กระทำก่อ
ชีวิตที่โดนปล้น                     เที่ยงแท้สัจธรรม
                               

ขอน้อมคารวะจากใจ
ทรชนบ้านนอก
๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๗

นายเศรษฐศาสตร์ อินทรพานิชย์
๒๕/๑ หมู่ ๑๓ ถนนบางนา-ตราด กม.๑๒

ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ๑๐๕๔๐
หมายเลขติดต่อ : ๐๘๑ ๓๗๕๐๗๘๗

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2014-10-10 12:00:35


ความคิดเห็นที่ 8 (3719778)

                              คือความทุกข์

    ณ ซอกหลืบแห่งห้วง        เวลา

กอรปทุกข์เวทนา                 เกี่ยวข้อง

ใจคือสิ่งนำพา                     ยึดติด

เพราะจิตจดจับจ้อง             ว่านี้ตัวกู

  หลงรูปขันธ์แต่งแต้ม         ปรุงงาม

เวทนาจึงติดตาม                จิตเจ้า

สัญญาจับรูปงาม                มโนนึก

สังขารก่อเกิดเค้า               ก่อนแจ้งวิญญา

  ขันธ์พันขันธ์ผูกเข้า          นามธรรม

รูปกลิ่นรสจดจำ                  ติดต้อง

หูสดับสรรพสำ-                  เนียงส่ง โสตนา

อายตนะห้อง                      ผูกเกี้ยวพันตู

   ใจหนอใจดีดดิ้น               โรมรัน

ใจกวาดเก็บทุกอัน               ไป่ได้

ใจวนวิ่งเวียนวัน                   บหยุด

ใจข่มใจเอาไว้                     อย่าให้ลุกลน

   ใจขังใจเพราะจ้าว             ของใจ

อคติครองครอบใน              หมู่เจ้า

จึงเกิดก่อทุกข์ภัย                ทุกข์เข็ญ  ฮั่นนา

ทุกข์ดับทุกข์หายเศร้า          หมดสิ้นหมองตรม

   ใจเป็นนายสั่งให้               บงการ

กายห่อนเคยขัดงาน             สักน้อย

ดุจทะเลบ่ทัดทาน                เกลียวคลื่น

เกลียวเกี่ยวโถมถาค่อย        คอยคลื่นซัดพา

   ลางคนลางหมู่ผู้               หลงตน

ตกวัฏฏะสังสารจน               ดับม้วย

คือทุกข์ปุถุชน                     เวียนว่าย หลอนหลอก

ความพลัดพรากพานพบด้วย ตราบสิ้นกรรมเวร

   กองทุกข์จักลดน้อย          ถอยลง

หากฝึกจิตวางปลง              ทุกเรื่อง

ความทุกข์แม้ยังคง              มีอยู่

ก็อาจจะปลดเปลื้อง             ลดน้อยถอยลง

   หนทางเปิดสู่ห้วง             นำทาง

จึงเกิดปริศนาวาง                บอกใบ้

หามมาสี่สามนาง                แหนแห่

คนนั่งสองคนให้                 เปิดชี้ทางเธียร

   อนิจจังทุกขัง                  อนัตตา

เกิดดับเป็นธรรมดา            ย่อมรู้

ทุกข์สุขล้วนมายา             ปรุงแต่ง  ขึ้นนา

คือว่างวางอย่างรู้              สุดท้ายปลายทาง.


ด้วยจิตเคารพ:เงาเวลาแห่งรัตติกาล

นางสาวกรรยา  จิตฟุ้ง

300 หมู่7 โรงเรียนบ้านซับใต้ ต.กฤษณา  อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา 30140

โทร.0810564779 E-mail:kruya_2524@hotmail.co.th

 

 

 

 

 

 

 

    

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เงาเวลาแห่งรัตติกาล (kruya_2524-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2014-10-10 23:35:08


ความคิดเห็นที่ 9 (3719841)

ทุกข์คือการเรียนรู้

                มองนกน้อยคอยคู่อยู่โดดเดี่ยว               น้ำไหลเชี่ยวปลาพรัดพรากจากปลาแม่

ชายหญิงเฒ่าเฝ้าลูกยามาดูแล                              มีเพียงแต่การรอคอยที่ลอยเลือน

หนุ่มสาวเศร้าเฝ้ารอรักที่หักเห                               ต้องรวนเรเขวไปใจเชือดเฉือน

ด้วยเหตุเกิดเพราะรักที่ตักเตือน                              รักเป็นเหมือนเปลวไฟอยู่ใกล้กาย

ยามลมหนาวพาลพบก็อบอุ่น                                  ยามร้อนวุ่นก็ยิ่งร้อนมิอ่อนหาย

รักมีสุขมีทุกข์ยากก็มากมาย                                    มิวางวายคลายไปจากใจคน

ความละโมบโลภมากยากจะห้าม                             อยากลือนามงามตำแหน่งทุกแห่งหน

อยากจะได้อยากจะขอมิพอตน                                 ต้องดิ้นรนทนสู้อยู่ทุกวัน

เมื่อมิได้ดั่งใจหวังก็กังขา                                         ริษยาคิดแย่งคิดแข่งขัน

เกิดเป็นทุกข์โลภะมาประจัญ                                   มาขวางกั้นความสุขรุกรานใจ

เกิดความโกรธความแค้นแสนสาหัส                         สารพัดปรุงแต่งแกว่งเฉไฉ

ขาดสติปัญญามาทันใด                                            ก็พาให้ทุกเข็ญอยู่เช่นเดิม

เมื่อเกิดความหลงไหลในวัตถุ                                   มายั่วยุคะนองคึกและฮึกเหิม

เป็นโลภะโรคามาต่อเติม                                          ก็ทุกข์เพิ่มหมดพลังไปทั้งตัว

รักก็ทุกข์โลภก็ทุกข์มิสุขใส                                      โกรธเป็นภัยหลงเป็นทางที่ลางทั่ว

เป็นรากแก้วรากฝอยคอยพันพัว                                ความมืดมัวที่ต้องพบประสบเอา

อันความรักความโลภละโมบมาก                              หลีกเลี่ยงยากต้องเปลี่ยนปรับมิอับเฉา

ความพิโรธโกรธหลงคงบางเบา                                หากตัวเรารู้จักปรับระงับวาง

ธรรมดาที่เพื่อนพ้องต้องประสบ                                 ทุกข์ให้พบให้เห็นอย่าเป็นอย่าง

เอาทุกข์มาเป็นบทเรียนเปลี่ยนเส้นทาง                    มาเสริมสร้างความสุขที่แท้จริง

 

นายอภิสิทธิ์       อุนตรีจันทร์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย จ.สงขลา

52 ม.3 ต.เขามีเกียรติ อ.สะเดา  จ.สงขลา  90170

โทรศัพท์ 082-8268921

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิสิทธิ์ อุนตรีจันทร์ (i-tan-apisit-at-Hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-11 12:42:01


ความคิดเห็นที่ 10 (3719889)

๑ ธรรมชาติพิโรธท้น         ลงทัณฑ์
จึงจุดประลัยกัลย์              ก่นด้าว
ฤาคนชั่วชาติสัน-              ดานเสื่อม
ตะกละตะกลามกร้าว         กร่อนบ้านรานเมือง


๒ เคืองพิภพขุ่นทั้ง            ธานี
ระด่าวผืนชลธี                  ท่วมฟ้า
วิปลาสดุจเปรตผี              แผลงสู่
พิโธ่!มนุษย์ช่างบ้า            บอดใบ้เนรคุณ


จุนเจือมาแต่เบื้อง         บุราณ
วันล่วงอนธการ                ขื่นกล้ำ
กิเลสหล่อดวงมาน            ดำหม่น
คุณไป่สำนึกซ้ำ                 โศกนี้คืนสนอง

๔ อุรพีนองเจิ่งถ้วม            ถั่งชล
เหล่าพืชเกษตรผล             ผลิตร้าง
นาสวนไร่ครายล               ยับย่อย
ผุดผ่องพักตร์กลับว้าง        วุ่นว้ากสิกร

๕ วิงวอนขอท่านให้           เห็นใจ
นาล่มสวนบรรลัย               ราบม้วย
สาธุท่านเทพไท                  เถิดเมต-ตาเทอญ
อุเหม่!หวังรัฐฉ้วย               เชื่องช้าฉุยฉาย

๖ ทุรชนกายกร่างกล้า         กำแหง
สุจริตชนเปล่าแปลง            ปราศจ้อย
มุสาพ่นสำแดง                    ดารดาษ
ดุก่นสำรอกถ้อย                  ท่วมฟ้าเฟือนดิน

๗ จกปูนหินอิฐเคี้ยว            คุยขรม
จี้จุดประชานิยม                 ยื่นให้
รี้พลซ่องสุมระดม               ดกดื่น
ไรเหลือบสูบชาติไร้             ราบแคว้นแดนสูญ

 

นาย ศักรินทร์   ปรีชา
264 หมู่ที่ 5 ต.เสริมกลาง อ.เสริมงาม จ.ลำปาง 52210

084-7579993

ผู้แสดงความคิดเห็น นาย ศักรินทร์ ปรีชา (ake2928-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-11 15:31:36


ความคิดเห็นที่ 11 (3719973)

 ขอแก้ไขสำนวน ครั้งที่ 2 

บทที่ 5 บาทที่ 2 ขอแก้ไขเป็น (ตัดคำว่า" เหนี่ยวรั้ง" ทิ้งเอาคำว่า ปิดล้อม แทน)

สมมุติโลกมายา.....................ปิดล้อม

  นายยงยุทธ ศรีชัย

085-2688269

ร.ร.บ้านท่าช้างคล้องหนองอีเปี้ย

อ.ผาขาว

จ.เลย

42240

ผู้แสดงความคิดเห็น ยุทธ (Yy_srechai-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-12 04:47:26


ความคิดเห็นที่ 12 (3720005)

 

ขอแก้ไขสำนวน ครั้งที่ ๑

ในบทที่ ๑

ฤา เป็น ฤๅ  ครับ

ในบทที่ ๕

ราบม้วย เป็น แล่งม้วย

ศักรินทร์ ปรีชา

ผู้แสดงความคิดเห็น นาย ศักรินทร์ ปรีชา (ake2928-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-12 11:11:34


ความคิดเห็นที่ 13 (3720093)
ความทุกข์ ตรงข้ามกับความสุข คือความทุกข์อันมากมี พรั่งพร้อมแวดล้อมมี ให้หม่นมัวคลุมหัวใจ " ความโลภ"มิประเสริฐ แหล่งก่อเกิดความบรรลัย ละทิ้งเสียให้ไกล ก่อนที่ใจจะมัวหมอง "โกรธา"คือวิบัติ สิ่งที่ขัดกับครรลอง ทำตนน้ำตานอง ทุกข์ระทมตรมชีวี " หลงผิด"ใช่หลงทาง พอเว้นทางก็ห่างหนี ความเลวเข้าย่ำยี ชีวานี้มิยืนนาน ทำใจให้สงบ ย่อมสยบทุกภัยพาล ความเลวที่ละราน ก็หนีหายกลายออกไป ละชั่วละราคีอ เจิดราศีที่สดใส สร้างธรรมนำดวงใจ "ยุติทุกข์"ปลุกใจตน ด.ช เมธาวี ก้านแก้ว ที่อยู่ 14/3 หมู่ 2 ต.บางขาม อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี 25150 085-3882187 / 086-1569719 (อาจาร์ที่ปรึกษา อ.วิษณุ พุ่มสว่าง)
ผู้แสดงความคิดเห็น ด.ช เมธาวี ก้านแก้ว (ponpon1122334455-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-12 20:34:58


ความคิดเห็นที่ 14 (3720322)

 เหตุ

@ การเกิดก่อร่างเนื้อ.....เชื้อคน

ทุกข์ถ่ายให้นรชน........แต่ต้น

เวทนาล่าเวียนวน........ซ่อนอยู่

เกิดแน่แท้ท่วมท้น.......หนึ่งนั้นเหตุมา

 

@ ชราคลาคล่ำแล้ว......ร่วงลง

การแก่แลเจาะจง........ทั่วหน้า

เต่งตึงหนึ่งประสง........คงห่าง

ทุกข์ซ่อนกร่อนแข็งกล้า....ย่อมได้ทั่วหน

 

@ หนาวร้อนฝนทนอยู่ยั้ง...ทุกข์จร

พบผ่านนานแน่นอน......ย่อมรู้

ผัสสะส่งลดทอน........แผ่ผ่าน

โลกเปลี่ยนเวียนพบผู้.....คู่แท้ทุกข์ทน

 

@ กระวายวนวิ่งว้าย......ใจจิต

ดิ้นดั่งโดนพ่นพิษ........อาบล้าง

กระวนคล่ำด่ำความคิด.....ร้อนรุ่ม

สุมส่งทุกข์คงค้าง........เหตุสร้างเกิดเอง

 

@ การพลัดพรากสิ่งเฝ้า....รักหวง

ไกลยิ่งสิ่งเคยควง........อยู่ซ้อน

ทุกข์ถมดิ่งแดนทรวง......พรากห่าง

สรรพสิ่งยิ่งยอกย้อน......กร่อนเข้าฤทัย

 

@ หวังใดไร้สิ่งนั้น.......ดังหวัง

ทุกข์ก่อรอประทัง........ท่วมท้น

ทุกข์ท้อต่อพลาดพัง......หวังว่า

จิตแล่นแดนทุกข์ต้น......หลุดพ้นได้ฤา

 

@ ตัณหาคือหนึ่งเชื้อ......ทุกข์กอง

บทสั่งสร้างทำนอง........เร่าร้อน

ปัจจัยสั่งสร้างจอง........ผองสิ่ง

เหตุหนึ่งพึงเพิ่มซ้อน......ต่อต้นเวียนถึง

 

@ ทุกข์คือหนึ่งเพื่อนแท้....เกิดมา

ทุกข์ยิ่งสิ่งธรรมดา........คู่แท้

เรียนรู้ทุกข์ทุกเวลา.......ค่ายิ่ง

ทุกข์ห่างเพียงรู้แก้........เหตุนั้นทุกข์มี

13 ต.ค.57

(คนเขียนค่าว เมากะโลง)

นายชูชาติ ใจแก้ว

547 หมู่ 10 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย 57100

โทร 0815316839

ผู้แสดงความคิดเห็น คนเขียนค่าว (chuchart-dot-jai-at-mfu-dot-ac-dot-th)วันที่ตอบ 2014-10-13 11:30:06


ความคิดเห็นที่ 15 (3720992)

" เสียงร่ำไห้มิเลือนหายจากชายแดน"

บินหลาคงหลงฟ้าลาถิ่นลับ                  ไม่หวนกลับคืนคอนออดอ้อนเสียง  

ห้วงสงัดเงียบงำเผยสำเนียง                 ร่วมร้อยเรียงเพลงเศร้าเคล้าน้ำตา

ท่ามเสียงปืนปึงปังดังสนั่น                    เหมือนเสียงลั่นยมบาลมุ่งผลาญฆ่า

เพียงเศษเสี้ยววินาทีกระพริบตา            ซากเดียงสาลอยคว้างกลางฝุ่นควัน

คราบเลือดแดงทาบทางช่างโหดร้าย    ความวุ่นวายรุกเร้าเข้าห้ำหั่น

กี่ศพแล้วศพเล่ากองรวมกัน                 เหตุแบ่งชั้นเชื้อชาติศาสน์ของตน

ชายแดนใต้เคยสุขกลับทุข์ร้อน            ภาพสะท้อนความรุนแรงทุกแห่งหน

สันติภาพสันติธรรมสันติชน                  มาถูกปล้นไปสิ้นจากถิ่นเนาว์

แล้วจะอยู่อย่างไรในวันนี้                    เมื่อทุกข์มีเกินข่มต้องตรมเศร้า

ความลำบากยากเข็ญตามเป็นเงา        จมเศษเถ้าเพลิงไหม้ภัยคนพาล

ก่อนบินหลาลาไกลไปจากถิ่น             ก่อนจะสิ้นเหลือนิยามแค่ด้ามขวาน

ก่อนวิถีร่มเย็นเป็นตำนาน                   ให้จดจารรอยมีดกรีดหัวใจ

ขอเถอะหยุดยื้อแย่งแบ่งพื้นที่             ทุกข์วันนี้ทรมานเกินขานไข

ยินเสียงปืนดังมายิ่งอาลัย                  เสียงร่ำไห้มิเลือนหายจากชายแดน

 

นายกิตติ  อัมพรมหา

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสุนทรภู่พิทยา 

57/6 ม.4 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง 21190

โทร 080-1027109

ผู้แสดงความคิดเห็น กิตติ (kitti-dot-spss-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-14 15:59:29


ความคิดเห็นที่ 16 (3720996)

แก้ไขผลงาน ครั้งที่ 1

 " เสียงร่ำไห้มิเลือนหายจากชายแดน"

บินหลาคงหลงฟ้าลาถิ่นลับ                  ไม่หวนกลับคืนคอนออดอ้อนเสียง  

ห้วงสงัดเงียบงำเผยสำเนียง                 ร่วมร้อยเรียงเพลงเศร้าเคล้าน้ำตา

ท่ามเสียงปืนปึงปังดังสนั่น                    เหมือนเสียงลั่นยมบาลมุ่งผลาญฆ่า

เพียงเศษเสี้ยววินาทีกระพริบตา            ซากเดียงสาลอยคว้างกลางฝุ่นควัน

คราบเลือดแดงทาบทางช่างโหดร้าย    ความวุ่นวายรุกเร้าเข้าห้ำหั่น

กี่ศพแล้วศพเล่ากองรวมกัน                 เหตุแบ่งชั้นเชื้อชาติศาสน์ของตน

ชายแดนใต้เคยสุขกลับทุกข์ร้อน            ภาพสะท้อนความรุนแรงทุกแห่งหน

สันติภาพสันติธรรมสันติชน                  มาถูกปล้นไปสิ้นจากถิ่นเนาว์

แล้วจะอยู่อย่างไรในวันนี้                    เมื่อทุกข์มีเกินข่มต้องตรมเศร้า

ความลำบากยากเข็ญตามเป็นเงา        จมเศษเถ้าเพลิงไหม้ภัยคนพาล

ก่อนบินหลาลาไกลไปจากถิ่น             ก่อนจะสิ้นเหลือนิยามแค่ด้ามขวาน

ก่อนวิถีร่มเย็นเป็นตำนาน                   ให้จดจารรอยมีดกรีดหัวใจ

ขอเถอะหยุดยื้อแย่งแบ่งพื้นที่             ทุกข์วันนี้ทรมานเกินขานไข

ยินเสียงปืนดังมายิ่งอาลัย                  เสียงร่ำไห้มิเลือนหายจากชายแดน

 

นายกิตติ  อัมพรมหา

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสุนทรภู่พิทยา 

57/6 ม.4 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง 21190

โทร 080-1027109

ผู้แสดงความคิดเห็น กิตติ (kitti-dot-spss-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-14 16:04:32


ความคิดเห็นที่ 17 (3721014)

 

ความทุกข์ของชาวนา

ณ ท้องนาแสนกว้างไกลไปทั่วถิ่น      ทั่วแผ่นดินข้าวเรืองรองของสยาม

ธัญพืช ธัญญาหาร แสนงดงาม                        เหลืองอร่ามแห่งทุ่งทองไร่ท้องนา

แต่ก่อนกาลนานเนาใคร่ครวญคิด       พืชผลเศรษฐกิจไร้ปัญหา

ข้าวรวงสวยรวงงดงามอร่ามตา                       สมคุณค่าเหลืองตระการสราญใจ

            แล ลม ฟ้า อากาศ มิคลาดเคลื่อน         เมื่อถึงเดือนฤดูกาลมิหวั่นไหว

ฤดูฝน หนาว ร้อน ซ้อนแทรกไป                     อดทนได้ หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน

            ปัจจุบันชาวนานี้นั้นมี ทุกข์             หมด ความสุขแสนอาลัยใจขาดดิ้น

 โดน แมลงศัตรูพืชยืดต้นกิน                       เสียใจเป็นอาจิณน้ำตานอง

            อีกทั้ง ข้าวยากหมากแพงแสลงซัด    ภัยพิบัติ” ถาโถมมาแสนเศร้าหมอง

ลงทุนปลูกหวังกำไรมิได้ครอง                          แสนจำต้องหมดหนทางหมางเมินกาย                           

เป็นความทุกข์ของชาวนามหาศาล        ทุกหมู่บ้านต่างทำนามามากหลาย

หยาดเหงื่อไหลไคลย้อยถ้อยบรรยาย                 ทุกข์กล้ำกรายมากลืนกินถิ่น ชาวนา

 

 นายณรงค์ฤทธิ์   พลข่า

โรงเรียนแสวงหาวิทยาคม

ที่อยู่  : ๓๑๕ หมู่ ๗ ต.แสวงหา อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ๑๔๑๕๐

E-mail address : Sawaengha_vit@hotmail.com

โทร : ๐๘๖ ๗๕๗๕๐๒๐

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ณรงค์ฤทธิ์ (tom04511-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-14 16:40:33


ความคิดเห็นที่ 18 (3721106)
ขอแก้ความคิดเห็นที่13 เนื่องจากผิดรูปแบบ ขอแก้เป็น ความทุกข์ ตรงข้ามกับความสุข คือความทุกข์อันมากมี พรั่งพร้อมแวดล้อมมี ให้หม่นมัวคลุมหัวใจ " ความโลภ"มิประเสริฐ แหล่งก่อเกิดความบรรลัย ละทิ้งเสียให้ไกล ก่อนที่ใจจะมัวหมอง "โกรธา"คือวิบัติ สิ่งที่ขัดกับครรลอง ทำตนน้ำตานอง ทุกข์ระทมตรมชีวี " หลงผิด"ใช่หลงทาง พอเว้นวางก็ห่างหนี ความเลวเข้าย่ำยี ชีวานี้มิยืนนาน ทำใจให้สงบ ย่อมสยบทุกภัยพาล ความเลวที่ระราน ก็หนีหายกลายออกไป ละชั่วละราคี เจิดราศีที่สดใส สร้างธรรมนำดวงใจ "ยุติทุกข์"ปลุกใจตน ด.ช. เมธาวี ก้านแก้ว ที่อยู่ 14/3 หมู่ 2 ต.บางขาม อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี 25150 085-3882187 , (086-1569719 อาจารย์ที่ปรึกษา อ.วิษณุ พุ่มสว่าง)
ผู้แสดงความคิดเห็น ด.ช เมธาวี ก้านแก้ว (ponpon1122334455-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-14 20:22:43


ความคิดเห็นที่ 19 (3721493)

 ขอแก้ไขสำนวนครั้งที่ 3. บทที่ 2 บาทแรก ขอแก้เป็นเป็นดังนี้

๒.มวล"ปัญญา"เลิศล้วน...............ปฏิภาณ

 

 

ขอบคุณครับ

นายยงยุทธ ศรีชัย 

085 2688269

รร บ้านท่าช้างคล้องหนองอีเปี้ย

อ ผาขาว. จ เลย

42240

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ยุทธ (Yy_srechai-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-15 12:39:58


ความคิดเห็นที่ 20 (3721576)

       ทุกข์ของพ่อแม่

ความสุขแท้ของพ่อแม่นั้นอยู่ไหน         เพราะเหตุใดต้องลำบากหาใช้หนี้

ทุกข์ที่ใจที่กายทั้งชีวี                             ใยลูกที่เลี้ยงมาละลืมไป

ต้องทำงานหาเช้าตลอดค่ำ                 เพราะเวรกรรมทำมาแต่ปางไหน

ทำงานหนักเหน็ดเหนื่อยก็เพราะใคร      ถ้าไม่ใช่ลูกน้อยคอยแลดู

ทั้งทำไร่ไถนาปลูกกล้าหนอ                ไม่รู้พอดิ้นรนอดทนสู้

เพื่อให้ลูกพากเพียรใฝ่เรียนรู้                 ให้ได้อยู่ภายภาคหน้าอย่างสบาย

อยากให้ลูกได้ดีเจริญไกล                  พบวันใหม่ดุจแสงตะวันฉาย

อยากให้มีความสุขทั้งใจกาย                เมื่อชีวายพ่อแม่นั้นดับลง

และหนึ่งอย่างที่หวังทั้งชีวิต               อยากให้ลูกมีจิตดีตามประสงค์

เป็นคนดีชีวีจะมั่นคง                            ให้ลูกจงประพฤติดีชั่วนิรันดร์

แต่ความหวังกลับสูญสิ้นพังลงไป       ลูกหนีไกลทิ้งให้อยู่อย่างโศกสัน

แทบสิ้นลมหายใจวายชีวัน                   พ่อแม่นั้นคอยห่วงหาและอาลัย

ทนทำงานทุกอย่างหาเลี้ยงลูก           ด้วยความรักพันธ์ผูกลูกรู้ไหม

ต้องลำบากยากเข็ญสักเพียงใด            แม้นล้มไปก็ทนฝืนลุกอีกครั้ง

ถึงพ่อแม่ทุกข์แค่ไหนไม่เคยบ่น          ลูกไม่ทนหนีไปมิเหลียวหลัง

ลูกควรคิดไตร่ตรองก่อนใจพัง               พ่อแม่ยังคอยเฝ้ารอลูกกลับมา

 

นางสาวพัทราวดี  มโนวรรณ์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนพยัคฆภูมิวิทยาคาร

5 หมู่ 4 ต.หนองบัว อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม 44110

โทร 0933378577

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทราวดี วันที่ตอบ 2014-10-15 14:19:18


ความคิดเห็นที่ 21 (3721780)
ขอแก้ความคิดเห็นที่18 บทที่1 วรรคที่3 จาก พรั่งพร้อมแวดล้อมมี เป็นล้วนอยู่ในทุกที่ ด.ช เมธาวี ก้านแก้ว
ผู้แสดงความคิดเห็น ด.ช เมธาวี ก้านแก้ว (ponpon1122334455-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-15 19:30:44


ความคิดเห็นที่ 22 (3721800)

                                                    ทุกข์ในครอบครัว

เมื่อรักกันน้ำต้มผักยังว่าหวาน            พอเนิ่นนานน้ำตาล...ยังว่าขม

รักเป็นเกลียดชั่วขณะทุกข์ระทม        เคยชื่นชมกลับเปลี่ยนแปรไม่แน่นอน

เมื่อก่อนรักเลิศเลอแสนเพ้อฝัน            ไม่มีวันเบื่อหน่ายหรือถ่ายถอน

หนุ่มและสาวแรกรุ่น...อุ่นอาทร          มิสั่นคลอนความรักหนักแน่นใจ

งานแต่งงานจัดหรูดูเหมาะสม              บอกสังคมว่ามีชีวิตใหม่

สร้างครอบครัวแสนอบอุ่นกรุ่นหทัย      ทุกข์ใดใดยังมิหวั่นรักกันดี

วันเวลาผ่านไปใจเริ่มเปลี่ยน               ทุกข์ว่ายเวียนเพราะหน่ายรักอยากจะหนี

เมื่อก่อนเรารักกันแต่วันนี้                  กลับไม่มีแม้เยื่อใยเชื่อมใจกัน

สงสารลูกตัวน้อยที่คอยรัก                   จมทุกข์หนักหลั่งน้ำตาพาใจหวั่น

พ่อไปทางแม่ไปทางเลิกกลางครัน         ทุกข์โรมรัมอยู่บนบ่า...น้ำตานอง

รักร้าวในครอบครัวเป็นตัวอย่าง           หลอมเส้นทางทุกข์ซัด อกกลัดหนอง

พ่อแม่ลูกมีภาระต้องประคอง               ยึดครรลองคุณความดี...หน้าที่ตน

หากเลือกแล้วแต่งงานไปขอใจมั่น          พบทางตันใช้ปัญญาค่าเลิศผล

สร้างเสาหลักแห่งครอบครัวสิ้นมัวมน     เราทุกคนแก้ไขได้...ไม่สายเกิน

                                                          นางสาวอิศราวรรณ คงปรีชา

                                                          ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔

                                                          โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา

ผู้แสดงความคิดเห็น อิศราวรรณ วันที่ตอบ 2014-10-15 21:07:43


ความคิดเห็นที่ 23 (3721801)

                                      “ไม่ทุกข์ก็ไม่สุข

หากไม่ทุกข์...แล้วสุขใดคงไม่เกิด           สู้เสียเถิดอุปสรรคจักพ้นผ่าน

เกิดเป็นคนมีล้มลุกและคลุกคลาน         ความกล้าหาญจะชี้นำกำหนดชัย

หากล้มแล้วไม่ลุก...ทุกข์แล้วถอย          มัวรอคอยโชคชะตาพาหวั่นไหว

คงพ่ายแพ้แต่เริ่มแรกมิแปลกใจ             กล้าก้าวไว้สู้สุดทางสร้างชีวิน

หากไม่เคยลิ้มรสชาติที่ฝาดขม               หากไม่เคยทุกข์ตรมจมโศกสิ้น

แล้วรสหวานฤาจะชัดสัมผัสลิ้น              อย่าดูหมิ่นประสบการณ์ด้านมืดมัว

ความผิดพลาดคือพลังอันทรงค่า           ความก้าวหน้าจากชีวี...รู้ดีชั่ว

รู้ว่าผิดแล้วปรับแปรแก้ไขตัว                  อย่าได้กลัวความผิดหวังสิ่งทั้งปวง

เดินสายกลางสว่างล้นพ้นโศกศัลย์         ฝ่าทางตันชีวิตไม่ติดบ่วง

ใช้หลักธรรมนำตนสิ้นกลลวง                ก่อนชีพล่วงลาลับไม่กลับมา

คิดริเริ่มเติมสุขให้ใจคงมั่น                     ผ่านคืนวันทุกกล้ำกราย...มิไร้ค่า

สอนตัวเองก่อนสอนใครใช้ปัญญา         ทุกข์ชีวา...เราจักแก้...ได้แน่นอน

                                                  นางสาวอิศราวรรณ คงปรีชา

                                                          ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔

                                                          โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา

ผู้แสดงความคิดเห็น อิศราวรรณ วันที่ตอบ 2014-10-15 21:09:21


ความคิดเห็นที่ 24 (3721802)

  “ความทุกข์”

ความทุกข์ทุกคนมี            เริ่มจากที่เหตุตัณหา

ทุกข์ใจในวาจา                นองน้ำตาพาเศร้าใจ

ความทุกข์เริ่มจากคิด        หลงเดินผิดจิตเสื่อมไป

แผดเผาร้าวทรงใน            มิประพฤติยึดธรรมา

ทุกข์มีก็หายได้                  วินิจฉัยใช้ปัญญา

มรรคแปดสื่อคุณค่า          ใช้ดับทุกข์ปลุกความดี

รู้เหตุและรู้ผล                            เราทุกคนตามวิถี

สายกลางทางชีวี               ย่อมพ้นทุกข์สุขนิพพาน

พ่อแม่คอนสอนลูก            สิ่งผิดถูกจากในบ้าน

เติบใหญ่ใจเบิกบาน           สังคมดีเปรมปรีดา

ยิ้มมีไมตรีมอบ                 ใครทุกข์ปลอบเพื่อนเยียวยา

แม่สอนข้อธรรมา              ลูกบอกต่อก็สร้างคุณ

ดับทุกข์วัยเด็กน้อย           กำหนดรอยอันอบอุ่น

ผู้ใหญ่สอนทางบุญ           ชาติก้าวไกลไร้ความทุกข์

 

เด็กหญิงรวิสรา  รุ่งเจริญ

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปิ่น วันที่ตอบ 2014-10-15 21:10:21


ความคิดเห็นที่ 25 (3721803)

 “ความทุกข์”

ความทุกข์เกิดในจิต            คนที่คิดริษยา

ทุกข์ตรมคมวาจา               ใช้ภาษาที่หยาบคาย

ความทุกเพราะกิเลส         เกิดอาเพศแก่เรือนกาย

ติดตัวจนชีพวาย               เพราะจุดหมายไม่มุ่งดี

ความทุกข์ของมนุษย์        ไม่สิ้นสุดความอยากมี

โลกจึงเป็นเช่นนี้               ทุกข์ทวีอยู่ที่ใจ

ทุกข์กายเพราะหลงผิด      ทั้งชีวิตช้ำหม่นไหม้

ระทมตรมทรวงใน             มียาใดมาบรรเทา

มัวหลงอบายมุข               ได้เสพสุขแต่บางเบา

ร้อนรุ่มเหมือนเพลิงเผา         สุขน้อยนิดเดินผิดพลั้ง

แสงธรรมนำวีถี                 ยึดความดีเป็นที่ตั้ง

สายกลางสร้างชีวัง            ย่อมดับทุกข์ที่รุกครอง

สติและปัญญา                 นำชีวาให้ผุดผ่อง

สร้างสรรค์สุขครรลอง        ด้วยประพฤติ...ยึดความดี

สร้างบ้านอวลไอสุข           พ่อแม่ปลุกปลอบไมตรี

มอบรักหลักชีวี                 มอบถ้อยธรรมนำกมล

อยู่สุขอย่างพอเพียง          อย่าสุ่มเสี่ยงสิ่งฉ้อฉล

สร้างสุขให้ทุกคน              สร้างผู้เยาว์...เข้าใจธรรม

 

 

                                                เด็กหญิงรวิวรรณ  จันทร์รุ่ง

                                ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓

                                โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา

ผู้แสดงความคิดเห็น พลอย วันที่ตอบ 2014-10-15 21:11:16


ความคิดเห็นที่ 26 (3721876)

 ส่ง

ผู้แสดงความคิดเห็น นายจักรพงษ์ ศรีผ่องงาม (the-dot-tle2009-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-16 00:00:46



[1]



กระทู้นี้ไม่เปิดให้แสดงความคิดเห็น

Copyright © 2010 All Rights Reserved.