หน้าหลัก | ข้อมูลสมาคม | บทความ | บทร้อยกรอง | ข่าวสารประชาสัมพันธ์ | กิจกรรม | กระทู้ | หนังสือ | ร้อยกรองออนไลน์ |
โคลงขี้เมา | |
[โคลงขี้เมา]
๐] เขียนโคลงสามสี่ห้า....บรรทัด
ละอ่อนกลอนฝึกหัด.........เริ่มต้น
คมคำช่ำชองกลัด-...........เกลาก่อ สานเอย
เทียมเท่ารสนมข้น...........หยาดเยิ้มดวงมาน
๑]
๐ กรองกานท์กาพย์กู่ก้อง..เกริกไกร
ขรมขากขับขานไข........ขู่ข้า
โคลงเคลงเคร่งคำใคร....คละคู่
เงาโง่งมเหงยง้า...........งอกเงี้ยวงางาม
๒]
๐ ยามยกยอย่องยิ้ม.....เยาะหยัน
เดินดุ่มดากแดกดัน....ด่าวดิ้น
เฝ้าฝักใฝ่ฝ่าฝัน.........ฝืนฝั่ง
ลมเล่ห์ละเลงลิ้น........ลูบไล้โลมเลีย
๓]
๐ มีเมียมากมอดม้วย.....เมินหมาง
บัวเบ่งบานใบบาง........บดบี้
ศรีศิลป์ศาสตร์ศศางค์....ศศิ
รุมร่างระริกรี้..............ร่ายร้อยเรียงราย
๔]
๐ ชาติชายชาญเชี่ยวใช้....เชยชม
ความใคร่คำคนคม........เคี่ยวเคล้น
ใจเจ้าเจ่าจอมจม...........จับจิต
ติต่างแตกตื่นเต้น.........แต่งแต้มตัวตน
๖]
๐ ดาวเดือนดลดุ่มด้าว.....เดินดิน
บุ่มบ่ามโบกโบยบิน.........บอดใบ้
เย็นยะเยือกยลยิน..........ยากยิ่ง
เสพสุขสานสอดไส้........สร่างสิ้นสุขสม
๗]
๐ คมคนครางครึกครื้น...โครงเครง
ไหลล่องลอยละเลง........ลับล้วง
ตัวต้อยต่ำโตงเตง.........แตกตื่น
เจนจบจ้องจาบจ้วง........แจ่มแจ้งจิตใจ
๘]
๐ หวั่นไหวหวาดเหว่หว้า....วูบวาบ
ซู่ซ่าซึมซับซาบ...............ซ่านซึ้ง
บิดเบือนบุญบอกบาป.........บานเบ่ง
ทนทุ่มเทแทงทึ้ง.............ทอดทิ้งทานทน
๙]
๐ กลกานท์กาพย์ก่องก้น....กรองกานท์
สรวลเสสรรเสริญสาน.......สู่สร้าง
หาห้ำหั่นหักหาญ.............แหห่ม
หมกหมุ่นหมายเมินม้าง.....แมกไม้เมฆหมอก
๑๐]
๐ หลอกลวงละเล่นลิ้น....ลอยลม
จับเจ่าใจจอมจม...........จิตจ้อ
หนีนางเนิ่นนานนม......เหนื่อยหน่าย
เฉือนฉาบฉวยฉลฉ้อ......ฉี่(ปรือ)ฉู้ฉูดฉาด
๑๑]
๐ ผิวผุดผาดผ่องแผ้ว.........ผิผัน
โคลงคลื่นครางโครมครัน...ครึกครื้น
ระรินรื่นโรมรัน...............เริงร่า
อิงแอบเอียงอาย(สะ)อื้น.....อวดอ้างเอาเอง
๑๒]
๐ กระโตงเตงไต่เต้า.......เขียนโคลง
เรียงร่ายหมายจรรโลง......กล่อมหล้า
กระแดะแต่งผูกโยง........บอกเล่า ความเอย
เขียนเรื่องเมลืองกล้า......เอ่ยอ้าตามจินต์
๑๓]
๐ พิณบรรเลงครึกครื้น.......โครงเครง
หวานแว่วมนต์เสียงเพลง....เห่ห้อม
เงียบสงัดวังเวง...............วิเวก จังเลย
จิตปล่อยวางจินต์รุมล้อม......แต่งแต้มสีสัน
๑๔]
๐ จันทราสาดส่องพื้น.....พิภพ
กระต่ายยอมสยบ...........พร่่ำเพ้อ
หลงใหลเมื่อคราพบ.......เดือนแจ่ม
หลอกล่อหลงคอยเก้อ.....ทอดทิ้งเดียวดาย
๑๕]
๐ กรีดกรายเริงร่าฟ้อน-....ระบำ
โคลงคลื่นหัวคมำ...........ย่ำย้อน
ตาบอดลูบคลึงคลำ..........ระส่ำ โครงนอ
หัวร่อจินต์ปรุงป้อน.........สร่างสิ้นจิตวิญญาณ
๑๖]
๐ กานท์กวีเพริศแพร้ว....มโนภาพ
ซึมซ่านจิตกำซาบ..........ปลดเปลื้อง
อารมณ์หวั่นวูบวาบ........ใจสั่น หนอพี่
เสือกระดาษกระเตื้อง......ปลุกเร้าจริตตน
๑๗]
๐ ปัจเฉกชนเก่งกล้า.........กระดาษ
ปลายพู่กันขีดเขียนวาด.....แต่งแต้ม
ภายในว่างศิลป์ศาสตร์......กลค่าย ศึกเฮย
ยามหนุ่มโคลงแฉล้ม.......แก่แล้วเขียนคัมภีร์
๑๘]
๐ อันเมธีนั่งห้อง............เขียนโคลง กานท์เอย
เติมแต่งโลกจรรโลง.......ส่องหล้า
เสือกระดาษผูกเชือกโยง...วัวหวั่น ฤาพี่
จินต์กร่างปากเองอ้า........เอ่ยอ้างหลักการ
๑๙]
๐ สันดานปราชญ์ชั่วร้าย.....เลวดี นะพ่อ
ดีย่อมมีศักดิ์ศรี...............ต่างชั้น
เลวหลงต่างวิถี...............ดีย่าง ก้าวนอ
ติดหล่มจริตกั้น..............แจ่มแจ้งเพียงอักษร
๒๐]
๐ กานต์กลอนใดสร่างสิ้น...จิตวิญญาณ
ตรวนโซ่พันธนาการ........บีบคั้น
ปราชญ์ชนก่อผลงาน........จินต์ร่าง
แตกต่างคนดื้อรั้น...........ใฝ่รู้โดยตรง
๒๑]
๐ หลงชมปราชญ์ส่อสร้าง...หลงใหล
คุณค่ากระดาษใบ...........ค่าสิ้น
บทคำคมร่ายไฉไล.........งามเด่น นักนา
เหลือแต่ลมลวงลิ้น.........เล่ห์ร้ายมายา
๒๒]
๐ โจราธิปไตย...........งำเมือง นาพ่อ
กระเดื่องรองรังเรือง....ลากตั้ง
วิถีต่างเคียดเคือง.......ปิดปาก เงียบเฮย
ห้ำหั่นมิหยุดยั้ง.........ล่าล้างตระกูล
๒๓]
๐ พนาสูรทั่วหล้า.......ทุรยศ
เกิดก่อโจรกระบถ......ฆ่าปล้น
ธรรมตราชั่งงอคด......คลอนสั่น ระอา
คุณธรรมไหลล้น.......ปากผู้ดีปลอม
๒๔]
๐ ยอมจำนนต่อฟ้า......ผืนดิน แล้วฤา
จันทร์ส่องงามถวิล......แผ่นแคว้น
มธุรสชาชิน..............ขับกล่อม นอนเอย
คืนสุขหายเคืองแค้น...พวกพ้องสรรเสริญ
๒๕]
๐ กลับหมางเมินปกป้อง....คนจน
ชนไพร่ทุกข์ลำบน.........ชอกช้ำ
เชือกผูกจมูกคน............เดินวิ่ง
แตกต่างเตือนตอกย้ำ......เคียดแค้นฝังใน
๒๖]
๐ โจราธิปไตย..........งอกงาม
ยุคถิ่นกาเหลืองทราม...เชิดหน้า
มือถือสากปากหยาม....ปาดบั่น คอแม่
ชายนุ่งกระโปรงผ้า.....เยาะเย้ยกานดา
๒๗]
๐ กาขาวบินสู่ฟ้า........ยุคสมัย
ใครเล่าบอกความนัย...ไป่รู้
อับแสงแห่งธรรมตรัย...หมองหม่น
ทุรชนลุกสู้...............เดือดร้อนทั่วพารา
๒๘]
๐ เวรกรรมชาติก่อไว้...หนใด
ผีห่าทำลายไทย........หมดสิ้น
รุมเหยียบย่ำแถไถ.....ทั้งครอก
จิ้งจอกหลอกเล่นลิ้น...ท่านผู้ทรงเกียรติ
๒๙]
๐ ภาพเสนียดหน่อเนื้อ....คนโกง
ตะหง่านเสากระโดง.....ก่อนกี้
โฮปเวลห่าลงโลง.......ศพเล่า
อดีตถึงวันนี้.............เร่งรื้อทำลาย
๓๐]
๐ ชายสามศอกซุกใต้...กระโปรง
อีแอบสวมโสร่ง.......ห่มน้อย
ประกาศิตผูกโยง......เกียวสั่ง
โลว์คอสท์ตาละห้อย...ต่อสู้เสรี
๓๑]
๐ วันเดือนปีผ่านพ้น....วันวาน
งมโง่จมดักดาน.......เที่ยงแท้
รถไฟวิ่งมานาน.......จนแก่
หำเหี่ยวมิเคยแก้.......รากเหง้ารถไฟไทย
๓๒]
๐ ไฟเผาปูเร่าร้อน....ชวนชิม
แตกต่างจากไอติม....อร่อยล้ำ
ผงกะหรี่ปูนิ่ม..........จานเด็ด
เอมอิ่มสุดกลืนกล้ำ....ชอกช้ำราคาแพง
๓๓]
๐ สำแดงเดชปกป้อง....เหนือชน
อภิสิทธิ์ตัวตน..........มากล้น
แอบแฝงเล่ห์โกงกล...สิงสู่
โฉดชั่วหมายดั้นด้น...ชั่วช้าขันที
๓๔]
๐ จีวรสีห่มห้อม.....หำยาน
ฝักใฝ่หานิพพาน...แก่นแท้
เสวยสุขคนทาน.....เติมต่อ
ศพกี่ศพคอยชะแง้...เทพไท้อธรรม
๓๕]
๐ ใครงำเมืองเรื่องนี้.....เมียงมอง นาพ่อ
ตราชั่งตีความสอง.........เที่ยงแท้
มารเทพต่างมัวหมอง.....เฉกเช่น กันนอ
แยกแบ่งเกินยากแก้......ป่นปี้แหลกลาญ
๓๖]
๐ ผลาญทำลายล่าล้าง.....ชนไทย
สีต่างบอกจัญไร...........ต่างด้าว
รอนแรมเร่แดนไกล.....ผลัดถิ่น
เสียดส่อประกาศกร้าว....หมิ่นเย้ยยุติธรรม
๓๗]
๐ เวรกรรมชาติห่อนรู้....ใครทำ ฤาพี่
ทรามชั่วโคตรระยำ.......ต่ำช้า
เปรตโหงห่าผีคลำ-.......คลึงไตร่ สวนเอย
วางปล่อยเหมือนมิกล้า...ละเว้นลอยนวล
๓๘]
๐ ทบทวนคนเหลี่ยมหน้า....หนีจร
เดินสู่เชิงตะกอน.............หมอดไหม้
ประเทศชาติฮำฮอน..........สาปแช่ง
ตายห่าวิญญาณใกล้..........ย่างเยื้องอเวจี
๓๙]
๐ ศึกสองสีมล้าง........พินาศ
ปากว่าสนองชาติ........เอ่ยอ้า
กบฎชั่วอำมาตย์.........ทาสไพร่
หักเหลี่ยมดังหมาบ้า.....แลบลิ้นเห็นพุง
๔๐]
๐ กรุงเทพเทพท่านสร้าง...กรงขัง
ชีวิตเขรอะเกรอะกรัง.......คละคลุ้ง
กบฎไพร่รุงรัง..............ขวักไขว่
ดีชั่วกระจายฟุ้ง.............ต่างชั้นศิโรราบ
๔๑]
๐ ปลายดาบตระหง่านชี้....สดุดี
วีรกรรมนานหลายปี.....ก่อนกี้
รบฝรั่งราวี...............ยีย่ำ
ฝากชื่อวีรชนนี้.........กอบกู้ไทสยาม
๔๒]
๐ ระบิลนามเกียรติก้อง...ปฐพี
ผืนแผ่นดินตายเป็นผี....ปกป้อง
เลือดนองดุจนที.........ไหลหลั่ง รินนา
อริราชแซ่ซ้อง............เก่งกล้าโรมรัน
๔๓]
๐ ประจัญบานศึกโพ้น...ทะเล
รบพุ่งเรือซวนเซ.........พ่ายแพ้
ทัพฝรั่งพังเพ.............เฉกเช่น กันเอย
วันเก่ามิอาจแก้...........เวี่ยไว้โลกชม
๔๔]
๐ กระดูกถมแผ่นพื้น.....บรรพชน
ไทยโง่เถลิงตน...........แย่งยื้อ
อำนาจน่ายินยล...........ฝักใฝ่ ใครฤา
ไทยฆ่าไทยบอดบื้อ.......ส่อเสี้ยมเกลียดชัง
๔๕]
๐ ฝังธุลีเศษเถ้า...........กองกระดูก
สอนสั่งบอกหลานลูก.....ทั่วหล้า
อำนาจเถื่อนพันผูก.......จากรุ่น สู่รุ่นนอ
กระบอกปืนลบฟ้า.........ปิดกั้นเสรี
๔๖]
๐ รักจีรังเวี่ยไว้..........ยืนยง
กายแหลกเป็นผุยผง....ห่อนรู้
โหยหาใฝ่พะวง........หลงผิด
คิดแต่หมายชมชู้.......หม่นไหม้ฤดี
๔๗]
๐ ชลนทีคดเคี้ยว.........พันรอบ
รักกว่าพบคำตอบ........เอ่ยอ้าง
ใจเวียนว่ายในกรอบ...กำหนด
จรดนภากว้าง...........ไป่รู้หนทาง
๔๘]
๐ ใจบอบบางเร่าร้อน.....จริตตน
ยึดมั่นกับวังวน..........เล่ห์ร้าย
วิถีย่างตามถนน.........วางปล่อย
วันลับแสงสุดท้าย.......แผ่นฟ้าอาวรณ์
๔๙]
๐ ศศิธรคู่ฟ้า............เคียงดาว
คืนค่ำใจเหน็บหนาว...เหว่หว้า
วิหคล่องกลางหาว......แหวกม่าน เมฆาเฮย
ยามย่ำทิวาล้า............รักข้าเดียวดาย
๕๐]
๐ ปลายสุดเลเล่ากว้าง....คืบศอก
วัดหยั่งคะเนบอก.........ตอบได้
ใจนางที่ลวงหลอก.......หลงเชื่อ เขานอ
ยากยิ่งบันทึกไว้...........ใหญ่กว้างดังเงา
๕๑]
๐ ขุนเขาสูงเท่าฟ้า........ตาเห็น
หากแต่ใจเนื้อเย็น........เท่ากำปั้น
ตากลับบอดลำเค็ญ.......มัวพร่า
รักซ่อนรักปิดกั้น.........เท็จแท้จริงลวง
๕๒]
๐ สรวงวิมานรักนั้น.....ปรารถนา
เคียงคู่ดวงยี่หวา........ชิดชู้
ขอเทพท่านเมตตา......สักหนึ่ง ครั้งเอย
โปรดบอกเธอรับรู้.......รักนี้เพื่อเธอ
๕๓]
๐ เจอนรกแห่งห้วง......รักสลาย
รักพ่ายเจ็บเจียนตาย.....ป่นปี้
ความหวังวอดวางวาย...จบเห่
เจ็บหนักรักครานี้........นรกแท้ในใจ
๕๔]
๐ นอนหลับใหลคลื่นไส้.....อาเจียน
โลกสั่นหมุนวนเวียน........สะท้าน
ตาแลเพ่งเสียงเทียน.........สาดส่อง
ฝันใฝ่ทุกรอบด้าน........พร่ำเพ้อรอคอย
๕๕]
๐ ใจลอยหมายเหม่อค้น...คำตอบ
นับหนึ่งมิรอบคอบ.........ชอกช้ำ
สองสามสี่นอกกรอบ.......แปดหก
ศูนย์วิตกตอกย้ำ...........เจ็ดเก้าควรมอง
๕๖]
๐ ลองครวญคิดอีกครั้ง...ทบทวน
ทุกท่าครบกระบวน........เหนื่อยล้า
สลับล่างบนชวน...........แทงเล่น
หวังพึ่งชะตาฟ้า..........นั่งลุ้นหวาดเสียว
๕๗]
๐ เรียวหวดดากหนึ่งครั้ง....วันวาน
เสียงท่องอาขยาน.........กู่ก้อง
บวกลบสูตรคูณหาร.......เขียนอ่าน
กอไก่ประสานร้อง........ครึกครื้นเฮฮา
๕๘]
๐ เรือแจวพาสู่โพ้น....ปลายฝัน
บากบั่นเกือบทุกวัน.....ค่ำเช้า
กายใจเร่งผลักดัน......ทำเพื่อ ใครเอย
ปลุกปั่นหมายตัวเจ้า....เพียบพร้อมวิชชา
๕๙]
๐ เมตตาธรรมโอบเอื้อ.....การุณย์
คอยสนับสนุน.............ปลูกสร้าง
สอนทุกอย่างเป็นทุน......เติมต่อ
กอปรก่อธรรมเคียงข้าง....แน่นเนื้อจิตใจ
๖๐]
๐ ใครกันประเสริฐแท้.....เทียบดัง พ่อแม่
รักมั่นมิชิงชัง...............หลั่งล้น
หัวใจท่านคาดหวัง........ตัวศิษย์ ดีเฮย
สอนสั่งจนหลุดพ้น.......อกอ้อมกอดครู
๖๑]
๐ สัพพัญญูหยั่งรู้..........ศิลป์ศาสตร์
ครูท่านดังจอมปราชญ์....แต่งแต้ม
ครูเป็นแม่พิมพ์ชาติ......เสริมส่ง
ศิษย์เบ่งบานแรกแย้ม....จิตน้อมกราบครู
๖๒]
๐ ทหารผู้พ่ายแพ้...ความตาย
ชีพดับชีวาวาย.........หลุดพ้น
คารวะชาติชาย.........นักรบ
กายสยบคืนต้น........รากเหง้าธุลีดิน
๖๓]
๐ จินต์รำลึกท่านสร้าง..มากมาย
จารึกเกียรติยอดชาย....เมื่อสิ้น
อาลัยรักเสียดาย.........ทุกถิ่น
สุขถวิลหยุดดิ้น........พบแล้วสัจธรรม
๖๔]
๐ กงกรรมคงเที่ยงแท้...มนุษย์
ใครเล่าจะรอดหลุด.....ชอกช้ำ
คนหามแห่วิมุตติ.......เหยียบย่ำ
ซึมซ่านธรรมคงค้ำ.....สู่ห้วงนิพพาน
๖๕]
๐ ใจร้าวรานกล่อมเศร้า.....ปลอบทรวง
บาศบ่วงหลงกลลวง..........รสเหล้า
ซึมซาบซ่านแดดวง...........ชโลมจิต
ยามย่ำทิวาเคล้า................ยกแก้วจิบบางบาง
๖๖]
๐ ลืมนวลนางก่อนครั้ง......หนุนนอน
อดีตรักแรมรอน..............จากเจ้า
โหยหาพร่ำอาวรณ์...........ครวญคร่ำ
ดวดดื่มลืมโศกเศร้า.........ปลุกฟื้นวิญญาณ
๖๗]
๐ ราตรีนานเนิ่นนี้..........สุขสันต์
รอรุ่งแสงตะวัน.............ส่องหล้า
เมรัยกล่อมดาวจันทร์.......เคียงคู่
ฝืนอยู่แหงนเหงยหน้า......ร่ำเหล้าหยามจันทร์
๖๘]
๐ วันเวลาผ่านพ้น.........นานกัปล์
เกินกว่าคณานับ...........หยั่งรู้
พิษเหล้านั่งคอพับ.........หดหู่
เช้าตรู่ลุกยืนสู้..............เยาะเย้ยฟ้าดิน
๖๙]
๐ รินมาเถิดอย่าช้า..........พันจอก
ปลดปล่อยรักลวงหลอก....ทอดทิ้ง
หญิงร้อยเล่ห์ปลิ้นปลอก....ลวงล่อ
รักต่างเหล้ากลอกกลิ้ง......แหน่งน้องหลายใจ
๗๐]
๐ ละมุนละไมรักร้าย.......เชือดเฉือน
เหล้ารสมิแชเชือน.........เคลื่อนคล้อย
ยกจอกซดเสมือน..........น้ำทิพย์ นาพี่
ชีวิตจิตละห้อย..............รักแท้คืนหลอกลวง
๗๑]
๐ สรวงวิมานเทียบฟ้า......ดาวดึงส์
หมายมั่นจะไปถึง..........แผ่นแคว้น
บุญกลับบ่ตราตรึง..........บาปท่วม หัวเฮย
มวลหมู่เทพมากแม้น.....เอ่ยอ้างเวรกรรม
๗๒]
๐ ลำนำอรรถรสล้ำ..........คำความ
ดูดดื่มเมือกคูถทราม........ส่างเศร้า
ชนศิลป์ศาสตร์เยาะหยาม...ศีลเสื่อม
ชายห่อนรู้รสเหล้า...........เสื่อมสิ้นชายชาญ
๗๓]
๐ ยุติกานท์พร่ำเพ้อ.......ลำนำ
ความเอ่ยออกคมคำ.......ลึกล้ำ
ขมาหมิ่นหยามตำ.........แทงทิ่่ม ใจพี่
เมารสรักกลืนกล้ำ..........รสเหล้าเหงาฤดี
๗๔]
๐ ศรีปราชญ์วาดแต่งแต้ม...แกมศิลป์
สินธาตุปาดรดจินต์.............ถิ่นหล้า
คราคืนชื่นประทิน................ยินสดับ
รับกฎบทตราหน้า...............ล่าล้างพรางคม
๗๕]
๐ ลมฝนสนแดดฟ้า...........พาหวน
ชวนกลิ่นศิลป์รัญจวน.......ป่วนไส้
ใจพลันสั่นเรรวน...............ครวญพ่าย รักเอย
เกยกรอบขอบออกได้......ไล่พ้นมนตรา
๗๖]
๐ กาเรียกเพรียกร่ำร้อง....มองหา
สกุณาภาษา.....................ก่าก้อง
ผองผกาปร่าน้ำตา............อาลัยจาก
พรากรักสลักห้อง.............คล่องคล้อยลอยเลือน
๗๘]
๐ เดือนดาวหนาวอกอ้อม....ตรอมใจ
ไกลจากพรากอาลัย...........ไล่ล้าง
ทางฝันมั่นฉันใด.................มิใคร่ รู้เลย
เผยเอ่ยเลยเกินบ้าง............ว่างเว้นเห็นเงา
๗๙]
๐ เฉาดุจนุชจากหน้า........ลาจร
ถอนไถ่ใจไหวคลอน.........ผ่อนแล้ว
แจวพายป่ายแรมรอน........ดอนป่า ลาแม่
แขใยไออุ่นแก้ว.................แผ่วร้องผองไพร
๘๐]
๐ ใดใดในโลกนี้...............จีรัง ฤาพี่
หนีต่างวางหันหลัง...........คลั่งไคล้
ไสผลักตักตวงหวัง...........หลบนั่ง ชมแม่
แลหมอกเมฆเสกฝันไว้.....ใฝ่รั้นจรรโลง
๘๑]
๐ โคลงมิยากเอ่ยเอื้อน.......เหมือนเพลง
เลงใส่ใจกระเตง.................เร่งเข้า
เงาโคลงโล่งบรรเลง...........เพลงร่าย
พายล่องคลองหยอกเย้า....เต่าเหี้ยนเขียนโคลง
๘๒]
๐ โยงใยไปเรื่อยแจ้ว....แนวกลอน
ตอนร่ายพายสลอน......ห่อนรู้
ถูแถแล่งามงอน...........คอนแบก โคลงเฮย
เลยบ่ยอยกกู้...............อยู่เนื้อเถือโครง
๘๓]
๐ กรงคำหงำครอบเนื้อ....เหลือความ
ถามไถ่ใบโคลงงาม..........ห่ามล้น
ฝนคำค่ำคืนยาม..............ตามต่อ คำพี่
หนีหน่ายพายเรือพ้น.......ย่นเยื้อเจือจุน
๘๔]
๐ หนุนนำคำเคร่งครื้น......กลืนคาย
หมายมั่นสัญญาชาย........ถ่ายเคล้า
เสาโครงโก่งเอียงอาย......หายเชื่อ คำแม่
แลร่างวางขวดเหล้า.........เห่าโฮ้งโคลงกลอน
๘๕]
๐ นอนวันฝันตื่นเต้า........เกลากลอน
นอนหลับพับคาหมอน.....ว่อนไหว้
ใยเหลือเยื่ออาวรณ์.........ถอนไถ่
ไสขัดจัดผังได้................ไต่เต้าเกลาสลัก
๘๖]
๐ รักฉาบทาบกอดเกื้อ....เถือนาง
พรางซ่อนถอนอำพราง....ว่างเว้น
เดนชนหม่นหมางนาง.......ถางไล่
ใครเอ่ยเคยแอบเร้น.........เซ่นไหว้นางนอน
๘๗]
๐ ศรรักปักอกไว้......ใจตรม
ขมขื่นฝืนจอมจม......ถ่มไห้
ใดใดใคร่ระทม.........งมโง่
โอ้รักพักใจไว้...........ไล่ล้างวางลง
๘๘]
๐ หลงเตลิดเกิดรักแท้.....แถไถ
ใยเยื่อเหลือบางใบ...........ใคร่ค้าง
นางคล้ายหน่ายผลักไส...ใครเอ่ย นอแม่
แขเล่าเขาหวงก้าง............ต่างเต้นเห็นทรวง
๘๙]
๐ สรวงกานต์สานแผ่นฟ้า...พาฝัน
จันร์ส่องหมองเงาจันทร์......สั่นสะอื้น
คืนคำค่ำโศกศัลย์...............หันหลบ จันทร์เอย
เคยรักพักใจฟื้น...................ตื่นใต้ในเงาจันทร์
๙๐]
๐ ฝันเคียงเรียงคู่น้อง.......ครองหอ
รอรักปักใจรอ...................ต่อเนื้อ
เหลือแขแค่ถักทอ.............ร่วมก่อ ฝันพี่
ปีเคลื่อนเดือนโอบเอื้อ......เชื่อได้ใจลวง
๙๑]
๐ พวงมาลายกขึ้น.........ถวาย ไว้ก็ดี
ศรีผ่องตรองดูที.............ลี้หน้า
พากายว่ายวนหนี...........รีล่อง จรเอย
เกยกรอบขอบฟากฟ้า...ล่าน้องมองชาย
๙๒]
๐ กกกายหมายกอดเกี้ยว...เรียวนาง
พรางพรั่งดังศศางค์............ต่างหน้า
พาพิศจิตเลือนราง..............วางปล่อย
ถอยร่นจนใจกล้า...............ผ่าล้วงทรวงนาง
๙๓]
๐ วางแปลนแผนรักแล้ว......แจวพาย
หมายพร่ำพรอดทอดกาย....ก่ายเกื้อ
เรือรักมั่นผันกลาย...............สลายล่ม
คมมีดกรีดเฉือนเนื้อ............เบื่อแล้วแจวลา
๙๔]
๐ มาลัยจีบกลีบซ้อน..........ออนซอน
ศรรักปักงามงอน................ค่อนหว้า
มาลีคลี่กำจร......................ตอนรุ่ง เช้าเอย
เกยบ่วงรวงรักล้า...............ว่าเศร้าเหงาตรม
๙๕]
๐ ลมรำเพยเผยรักแท้.......แขดวง
สรวงรักพักตักตวง............ช่วงเช้า
เงาสุมรุ่มรานทรวง.............พวงพุ่ม พยอมแม่
แลเปลี่ยนเวียนรักเร้า........เก่ากี้หนีนาง
๙๖]
๐ วางแอบแนบชิดชู้..........พธูนาง
ทางรักปักใจกลาง.............หว่างเต้า
เผาทรวงบ่วงรักราง...........พรางซ่อน
วอนมั่นขวัญคลอเคล้า......เท่านี้ศรีสุขเอย
ขอน้อมคารวะจากใจ
ทรชนบ้านนอก
๐๗ กรกฎาคม ๒๕๕๘ | |
ผู้ตั้งกระทู้ ทรชนบ้านนอก :: วันที่ลงประกาศ 2015-07-07 17:10:42 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3847205) | |
uเคยมีนักเรียน2คนเป็นเพื่อนกัน | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ,,, วันที่ตอบ 2015-07-26 10:01:19 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 870512 |