ReadyPlanet.com


ตะรางอารมณ์


 

. ตะรางอารมณ์
 
 เหนื่อยหน่ายคล้ายโลกหยุดหมุนแล้ว
ไร้วี่แววเรื่องสนุกปลุกความฝัน
ไร้เพื่อนฝูงคุ้นเคยเยี่ยมเยียนกัน
ไร้มิ่งขวัญครันครบลบวังเวง
 
อยากเกิดเป็นหมูหมาไม่รู้เบื่อ
ไม่เป็นเหยื่อความเหงาเฝ้าข่มเหง
เป็นต้นไม้ใบหญ้าฮาครื้นเครง
กับเสียงเพลงแห่งสายลมและแสงทอง
 
เกิดเป็นคนไม่พ้นหม่นเศร้าหมาง
ติดตะรางอารมณ์จนตรมหมอง
เศร้าเหงาซึมขรึมหงอยท้อถอยครอง
ตามครรลองของคนคุกคลุกทุกข์ใจ
 
อยากจะแหกคุกนี้ไปที่อื่น
หนีขมขื่นรันทดสู่สดใส
ง้างกรงเหล็กก้าวย่างอย่างมีชัย
หลบพ้นภัยแห่งรู้สึกลึกเกินทน
 
แต่กรงขังคลังรู้สึกผนึกแน่น
ราวเขตแดนแห้งผากยากเสือกสน
ดุจปลาหมอแถกเหงือกเกลือกทุรน
ไม่หลุดพ้นมณฑลทุกข์รุกมโน
 
คุกอารมณ์ข่มฤทัยจนใกล้บ้า
ภาวนาอย่าได้ตายที่ร้ายโข
ภาวนาอย่าได้ตายอย่างคนโซ
พร่ำพุทโธหลักธรรมจงค้ำใจ     
 
โดย เดชา เวชชพิพัฒน์
 
 
. กับดักไมตรี
 
มีกับดักมากมายในชีวิต
คนประดิษฐ์ขึ้นมาไม่คาดฝัน
มารยาทพาไปให้ลวงกัน
เกิดสัมพันธ์ไร้สัมฤทธิ์ผิดทิศทาง
 
ไมตรีเป็นกับดักคนโหยหา
มีมายาราวคมมีดกรีดแผ้วถาง
หญ้ารกเรื้อขึ้นคลุมใจเปราะบาง
เดี่ยวอ้างว้างด้วยห่างรักสะบักบอม
 
ไมตรีเป็นแสงเทียนส่องในถ้ำ
คนถลำก้าวเข้าลงเตาหลอม
ลวงลงสู่บ่อละลายคล้ายเมามอม
แสงเทียนปลอมดับไปไม่รู้ตัว
 
ไมตรีเป็นหยดน้ำในแดนทราย
คนใกล้ตายไล้ปลายลิ้นก่อนสิ้นหัว
ลิ้มรสฉ่ำน้ำลวงหลอกฉอกพันพัว
เพียงหยดยั่วเย้าแหย่แย่ยับเยิน
 
หยุดไมตรีทำมีมารยาท
หยุดสร้างวาดภาพสวยรวยผิวเผิน
หยุดสร้างบ่วงลวงไว้ให้เพลิดเพลิน             
หยุดหยอกเอินคนพิการใจแหว่งพัง
 
เพียงรอยยิ้มยิ้มให้ใจไหวหวั่น
เพียงจำนรรจ์ปั่นป่วนชวนวาดหวัง
เพียงไมตรีจากเธอเผลอจังงัง
กว่าจะหยั่งรู้ได้ก็สายเกิน
 
โดย เดชา เวชชพิพัฒน์
 
 
. ขอทานรัก
 
เป็นขอทานอยู่ตามแยกชีวิต
ด้วยสิ้นคิดจนปัญญากว่าเด็กโหย
ด้วยไหวโอนโดนหมางเมินเกินโอดโอย
อ่วมอกโรยซมซานนานชาชิน
 
มีความรักล้นเหลือเจือจานหน่อย
คนต่ำต้อยรอประทังหวังถวิล
เศษเสี้ยวรักแบ่งมาสักคำกิน
ต่อชีวินวันต่อวันผันผ่านไป
 
มีหัวใจห้องว่างร้างคนอยู่
ขอสิงสู่ครู่เดียวเสี้ยวอาศัย
ให้คนจนคนจรหย่อนหทัย
ได้ซุกไซ้ไออุ่นลุ้นผลพลอย
 
มีความชอบถูกชะตากว่าเกินเก็บ
เพียงปลายเล็บขอเถิดหนาอย่าคิดถอย
ชอบสักนิดติดใจไว้ไม่ร้าวรอย
ทำทานบ่อยชาติหน้าค่าเพิ่มพูน
 
ความคิดถึงสลึงเดียวอย่าเหนียวแน่น
อย่าดูแคลนด้อยค่าราคาศูนย์
คนแร้นแค้นเห็นมีทวีคูณ
คนอาดูรขออาศัยเติมใจตรม
 
ขอทานรักมอมแมมมาแรมปี
โปรดปรานีทำทานรักประคบหงม
สงสารคนซอมซ่อคนซานซม
คนจ่อมจมขอรักไว้พักใจ
 
โดย เดชา เวชชพิพัฒน์
 
 
. เงยหน้าอ้าปาก
 
เงยหน้าอ้าปากลำบากแท้
ชีวิตแช่บ่อทุกข์คลุกขื่นขม
เกิดที่ต่ำโตที่ตื้นสะอื้นซม
ตายกับตมเลนเละฟอนเฟะทราม
 
สังคมแบ่งวรรณะตามฝูงปลา
หมู่มัจฉาใหญ่กว่าน่าเกรงขาม
ว่ายรุกไล่ไม่ลดละตะกละกลาม
สวาปามปลาน้อยไม่ปล่อยวาง
 
สังคมให้ลบบวกตามพวกพ้อง
ญาติพี่น้องเชื่อมือคอยถือหาง
มิตรเพื่อนฝูงยอมให้ใบเบิกทาง
ร่วมกันสร้างอาณาจักรมักมากมาย
 
สังคมนี้เงินต่อเงินประเมินก่อน
จึงลิดรอนคนตรำตรากยากเฉิดฉาย
จึงปิดทางคนเก่งกาจวาดลวดลาย
สังคมตายเพราะสังคมนิยมเงิน  
 
สังคมคนก้มหน้าหาโอกาส
โดนหลอกวาดภาพดับหิวรูปผิวเผิน
โดนหลอกสร้างวิมานควันฝันเพลิดเพลิน
ของหยอกเอินคนไม่พอล่อคนแคลน
 
คนเกิดเลนจึงโตตายใต้ต่ำตม
จึงจ่อมจมล้มคลานดักดานแสน 
ติตตามตีนตัวตะกลามตามแกนๆ
เข้าเขตแดนแร้นแค้นเกยเงยหน้าตา
                                       
โดย เดชา เวชชพิพัฒน์       
                               
 
๕. ยิ้มพอเพียง
 
ความพอเพียงเลี้ยงรอยยิ้มพริ้มพราย
เพราะสบายกายใจไร้โลภหลง
ความพอเพียงเคียงบ่าไหล่คนมั่นคง
รู้ปลดปลงบ่งหนองกิเลสทราม
 
หนองกิเลสแผลร้ายทำลายชีพ
บังคับบีบให้วิบากอยู่ขวากหนาม
แดนนรกอเวจีผีติดตาม
ทุกโมงยามรุ่มร้อนยากถอนตัว
 
กิเลสคือเปรตจิตผิดวิสัย
เกินปัจจัยของมนุษย์ควรมุดหัว
หลบโลภโมโทสันอย่าพันพัว
พ้นหมองมัวมั่วอยากลำบากใจ
 
เราเกิดมาขอแค่ปัจจัยสี่
ปัจจัยผีเกินมาจากหวั่นไหว
กลัวอดโหยต่ำต้อยกลัวด้อยใคร
อยากเป็นใหญ่แต่ใจแย่แพ้สิ่งลวง
 
หยุดหน้าบึ้งขึ้งเครียดเบียดเบียนตน
หยุดว่ายวนวังน้ำแห่งห่วงหวง
หยุดแถกเหงือกเกลือกเคล้าความเปล่ากลวง
หยุดตักตวงบ่วงบาศพิฆาตตน
 
มีโอกาสเกิดมาค่าโอฬาร
อย่าพร่าผลาญด้วยความกลัวกลฉ้อฉล
จงหาสุขหาสงบพบกมล
เกิดเป็นคนยิ้มพอเพียงเลี้ยงชีวา
                                               
โดย เดชา เวชชพิพัฒน์
                                       
๖.อดเยี่ยงคน
 
หิวกระหายโหยหาอาหารปาก
หากินยากฝืดเคืองทุกทิศา
กินใช้แพงค่าแรงต่ำกระหน่ำมา
ประสานงากับไร้งานจึงบานปลาย
 
โซก็อดเยี่ยงเสือมันเหลือฝืน
สุดกล้ำกลืนน้ำในปากรสหลากหลาย
ทั้งขื่นขมผสมเศร้าเคล้าวนวาย
มองโลกร้ายพ่ายชะตาเวลาจน
 
อยากกินโน่นกินนี่ให้อิ่มท้อง
มีเพียงของรองกระเพาะเยาะฉงน
ปล่อยน้ำย่อยย่อยไส้ไห้ทุรน
เจ้าตัวตนเจ้าของร่างช่างละเลย
 
อยากเหมือนหมูแมวหมาหากินง่าย
เหมือนวัวควายเคี้ยวหญ้าอย่างผ่าเผย
ไม่ลำบากยากเย็นเซ่นสังเวย
สังคมเชยเย้ยแหย่คนแพ้พัง
 
สังคมเชยเคยชินเรื่องสินทรัพย์
สังคมนับหน้าตาเงินถุงถัง
สังคมของคนรวยผู้รุงรัง
สังคมสั่งคนยากไร้ให้อดโซ
 
โซก็อยากอดเยี่ยงคนเพื่อพ้นทุกข์
ดับเศร้าสุขหยุดแถกดิ้นสิ้นผกโผ
แต่อายหมูแมวหมาด่าคำโต
ไอ้หน้าโง่โหล่ท้ายพ่ายชะตา
 
โดย เดชา เวชชพิพัฒน์          


ผู้ตั้งกระทู้ เดชา เวชชพิพัฒน์ (boodoo44-at-yahoo-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2010-02-08 16:38:25


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2033840)

เอ๊ะวันนี้ช่างสดชื่นระรื่นจิต

ทั้งความคิดอารมณ์สุขสมหวัง

ขำไปเรื่อยฮากันซะคอแทบพัง

เสียงหัวเราะเต็มคลังแห่งอารมณ์

 

เพราะฉันคิดแต่เพียงให้ฉันสุข

หากปล่อยทุกข์ย่างกรายพาใจล่ม

ทั้งชีวิตไม่อาจมีเพียงตรอมตรม

ฉันนิยมความฮาอ้าวฮากัน

 

ต่างคนต่างคิดต่างเขียน

ต่างใจต่างเรียนต่างหุนหัน

ต่างอารมณ์ต่างวิถีต่างกัน

ต่างตะรางอารมณ์นั้นต่างกันเอย

ผู้แสดงความคิดเห็น มนต์ตระการ วันที่ตอบ 2010-02-09 21:26:57


ความคิดเห็นที่ 2 (2033942)

ชีวิตผมเกิดมาโชคไม่ค่อยดีครับ

มีแต่เรื่องเศร้า เรื่องผิดหวัง เรื่องวิตกกังวล

ได้แต่ใช้การแต่งกวีนินพนธ์

เยียวยารักษาใจ

หวังเพียงว่า ...

ภาวนาอย่าได้ตายที่ร้ายโข
ภาวนาอย่าได้ตายอย่างคนโซ
ผู้แสดงความคิดเห็น เดชา เวชชพิพัฒน์ (boodoo44-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-02-10 09:13:49


ความคิดเห็นที่ 3 (2034033)

ฉันก็เป็นแบบ คุณแหละ

 

แต่ฉันปลง ฉันสงสารตัวเอง

 

ฉันเลยเฉยๆ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มนต์ตระการ วันที่ตอบ 2010-02-10 13:29:14


ความคิดเห็นที่ 4 (2036778)

เปิดประตูตารางอารมณ์ออก

ด้วยความช้ำชอกสุดสงสาร

ความเจ็บร้าวลึกร้ายเหลือประมาณ

ยังรอนราญเร่งเร้าในอารมณ์

เปิดประตูตารางอารมณ์ออก

ล้างความช้ำชอกและขื่นขม

ท่ามกลางความท้อทุกข์ระทม

ชื่นชมเพียงใบหน้าน้ำตาริน

ประตูตารางนั้นเปิดแล้ว

แต่หัวใจที่เจ็บแล้วไม่สูญสิ้น

เจ็บซ้ำซากสารพัดชโลมริน

เกลือกกลั้วธุลีดินกินผืนทราย

ขอเถิดในเรามีความหวัง

ประดุจดั่งราวรุ้งฟ้าที่มาดหมาย

ทะยานพ้นประตูอารมณ์ตังวาย

ก้าวสู่ถิ่นประกายแดนทอง

สะบัดประตูอารมณ์ร้าว

ตั้งหน้าก้าวไปไม่มีหมอง

เทิดทระนงในอิสระตามครรลอง

มุ่งมองดาวอภิมนุษย์นั้นเถอะเทอญฯ

                                                                             ขอร่วมเปิดประตูตารางอารมณ์ด้วยคนนะครับ....ชิ้นนี้รู้สึกประทับใจมาก

ผู้แสดงความคิดเห็น ศรัณย์ เลิศรักษ์มงคล วันที่ตอบ 2010-02-19 00:20:57


ความคิดเห็นที่ 5 (2040886)

เพ่งเข้ามาเห็นกระทู้คุณศรัณย์

ขอบคุณสำหรับบทกวีนิพนธ์ที่ไพเราะและคมคาย

อีกทั้งยังให้แง่คิดและมุมมองใหม่ๆแก่ผม (เช่นเดียวกับของคุณมนต์ตระการ)

๘. ห้องอาทร

 
นี่ฉันอยู่ที่ใดในแหล่งหล้า
เหมือนมีผ้าอ่อนนุ่มหุ้มห่วงหวง
ซอนซุกไซ้ไล้เล่นเย็นอกทรวง
วันคืนล่วงผ่านไปไม่รู้ตัว
 
นี่คือที่แห่งไหนใหญ่สถาน
เปรียบปราการปกป้องคุ้มครองหัว
ภัยใหญ่น้อยยากกรายกล้ำทำหม่นมัว
เรื่องหวาดกลัวสลัวไปไม่นำพา
 
นี่คือร้านอาหารชั้นเลอเลิศ
สิ่งประเสริฐมอบให้ไม่กังขา
กลั่นกรองแต่เยี่ยมยอดปลอดพิษยา
ทุกคุณค่ามอบอิ่มเอมเต็มเปี่ยมใจ
 
นี่ใช่ไหมโรงงานแห่งความรัก
เฝ้าฟูมฟักชีวิตใหม่ไร้เงื่อนไข
เพื่อผลิตพิศวาสพิศุทธิ์ไอ
พิเศษให้มอบเลือดเนื้อเหนือกว่าตน
 
ใครกันหนอลูบฉันผ่านหนังท้อง
ใช่เจ้าของห้องโอฬารผู้หว่านผล
สัมผัสท่านอ่อนหวานผ่านกมล
ราวเวทมนตร์กุศลพลั่งหลั่งรดกาย
 
ฉันเฝ้ารอเวลาโรงงานเลิก
รอบานเบิกร้องอุแว้แม่มั่นหมาย
เปลี่ยนหนังท้องเป็นหนังเนื้อเกลื้อกลิ่นอาย
ได้ทักทายท่านเจ้าของห้องอาทร
 
ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์
ผู้แสดงความคิดเห็น เดชา เวชชพิพัฒน์ (boodoo44-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-03-03 08:46:38


ความคิดเห็นที่ 6 (2043199)

 

๙. โรงงานนรก
 
พ่อผมชื่อกำหนัดเป็นสัตว์ร้าย
แม่ใจง่ายบรรเลงเพลงกระสัน
สองชายหญิงสิงห์ตัณหามาเจอกัน
ผสมพันธุ์ปั้นเวรเดนกามา
ความมักง่ายคือคำทำผมเกิด
กามเลยเถิดสร้างชีวิตปริศนา
กามแก้อยากสำรากใส่ให้เกิดมา
ดุจหมูหมาน่าสังเวชทุเรศใจ
ความมักมากลากผมมาโลกนี้
ประเวณีประจำวันทันสมัย
ประเดี๋ยวด๋าวประสมพันธุ์ประดิษฐ์ไว
ชีวิตใหม่จึงไร้รักไร้ดูแล
โรงนรกกกไข่ชีวิตห่วย
เด็กดวงซวยป่วยด้อยร้อยบาดแผล
กรีดรู้สึกก่อนรู้สาพร่าดิ้นแด
อ่วมอ่อนแอก่อนวัยควรชวนโศกา
ช่วยหยุดปิดโรงงานนรกผี
หยุดอัปรีย์สร้างมนุษย์พันธุ์ปุจฉา
หยุดทำร้ายผู้พิสุทธิ์บุตรโลกา
เขามีค่ากว่ากามเพลินเมินสังคม
หยุดพาเด็กมาโลกนี้ด้วยผีใคร่
หยุดวางไข่ด้วยใจเน่าเง่าหมักหมม
หยุดวาดภาพฉาบฉวยด้วยโคลนตม
หยุดปูพรมอุดมหนามให้เด็กเดิน
                                 
ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์
ผู้แสดงความคิดเห็น เดชา เวชชพิพัฒน์ (boodoo44-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-03-09 10:48:25


ความคิดเห็นที่ 7 (2045295)

 

๑๐. แต่งกับง่าน
 
กระวนวายหมายมีสามีหนึ่ง
ด้วยพรั่นพรึงขาดผัวกลัวคำหา
อยู่คานทองจนทึนทึกนึกระอา
พวกปากหมาว่าให้เจ็บใจจำ
กระเร่อร่าหาคู่ดูลวกง่าย
แค่ผู้ชายเรียบร้อยไม่เมาหยำ
แค่ชายชาญเอาถ่านดีมีงานทำ
แค่ผู้นำครอบครัวไม่มั่วทาง
กระชุ่มชวยฉวยคว้ามาได้หนึ่ง
เจ้าบ่าวซึ่งไม่ลอยชายอายขนาง
คู่วิวาห์บนวิมานฐานอำพราง
อยู่ตรงกลางกติกาค่านิยม
กระผีผลามตามตูดสูตรชาวบ้าน
ไม่เนิ่นนานหวานเลี่ยนเปลี่ยนเป็นขม
คู่ชีวิตผิดคาดวาดเงื่อนปม
ทุกขารมณ์เข้าแทนแผนครอบครัว
ฉันไม่ใช่กระสอบทรายเตะซ้ายขวา
ใช่หญิงค้าประเวณีที่ก้มหัว
ใช่ตู้เงินตราควายถวายตัว
ใช่แม่วัวผลิตลูกปลูกเผ่าพันธุ์
ฉันเป็นเพียงคนกำแหงแต่งกับง่าน
ผัวพระกาฬผลาญพิฆาตแทบขาดขันธ์
ง่านโง่กลัวสังคมว่าด่ากดดัน
จึงอาสัญตายด้านชาโศกาลัย
                                 
ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์
ผู้แสดงความคิดเห็น เดชา เวชชพิพัฒน์ (boodoo44-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-03-14 15:35:16


ความคิดเห็นที่ 8 (2047688)

 

๑๑. เมฆแห่งรัก
 
วาดหวังอย่างหวั่นไหวใจว้าวุ่น
เฝ้าหมกมุ่นลุ้นสวาทปรารถนา
สมานจิตชิดกมลสนทนา
แลกแววตาแลกรู้สึกลึกล้นทรวง
ทุกหายใจเข้าออกบอกคิดถึง
ทุกคำนึงวนเวียนเพียรห่วงหวง
ทุกโหยหาหลงใหลในภาพลวง
ทุกเหวห้วงหลุมอาวรณ์ยากถอนตัว
ตกหลุมรักหลุมแล้วก็หลุมเล่า
บ่อซ้ำเศร้าเมามอมเกลี้ยกล่อมหัว
ทั้งหัวกายหัวใจไหวระรัว
หน้ามืดมัวมั่วจิตคิดวนเวียน
ตกหลุมลุ้นหลุมแล้วก็หลุมเล่า
ลงหลุมเศร้าผิดหวังคลุ้มคลั่งเศียร
สู่หลุมมืดเดียวดายตายจวนเจียน
อยู่หลุมเอียนอ่วมอกวกไปมา
มีที่ไหนให้หนีตีห่างรัก
หนีกับดักร้อนรนมนต์คาถา
ห่างลุ่มหลงวงจรจนพ้นมายา
ไกลจากฟ้าที่มีเธอเป็นเมฆลอย
เมฆแห่งรักพิทักษ์ฉันจากแดดกล้า
เคยรักษาคุ้มครองจากเหงาหงอย
แต่บัดนี้เมฆมาเมินเหินห่างรอย
ฉันเฝ้าคอยรอลมรักชักเมฆมา     
                                 
ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์
ผู้แสดงความคิดเห็น เดชา เวชชพิพัฒน์ (boodoo44-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-03-21 08:47:18


ความคิดเห็นที่ 9 (2048192)

รบกวนท่านผู้ดูแลเว็บช่วยลบกระทู้นี้ด้วยครับ

เดชา เวชชพิพัฒน์ (ผู้ตั้งกระทู้)

ผู้แสดงความคิดเห็น เดชา เวชชพิพัฒน์ (boodoo44-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-03-22 17:58:01


ความคิดเห็นที่ 10 (2054987)

ไม่ลบก็ไม่เป็นไรครับ

ถ้างั้น ผมโพสต์ต่อละกัน

 

๒๓. เข้าสังคม
 
บางสังคมเหมือนสังคังผื่นคันผิว
คนป่วยหิวบ้านินทามารวมหัว
บริโภคเรื่องคนอื่นรื่นระรัว
ล้วนพันพัวมั่วกับชั่วยั่วลิ้นลาม
บางสังคมเน้นสังคะพะพวกพ้อง
สุมเสพซ่องพวกมาดดีผีหาบหาม
แบกแต่พวกอุ้มแต่พ้องจ้องตะกราม
สร้างนิยามหยามคุณค่าคนเดียวดาย
บางสังคมคล้ายสังคีตดีดตีเป่า
เคลือบขัดเงาแต่งประโคมดูโฉมฉาย
มารยาทมารยามายาอาย
หลบชิดซ้ายกลุ่มก้นเปรี้ยวเลี้ยวลดวน
บางสังคมดุจสังเวียนเบียนเบียดบัง
โลภเรื้อรังยังชีพด้วยส่วยฉ้อฉล
กลุ่มขี้งกฉกฉวยรวยเล่ห์กล
ล้วนแยบยลยักยอกปอกลอกเพลิน        
บางสังคมขาดสังวรไม่ร้อนหนาว
มุ่งเกรียวกราวสนุกสุขทุกข์ห่างเหิน
ปิดหูตาห่างหดหู่หลบหมางเมิน
เพ่งเพลิดเพลินเพริศเพ้อบำเรอเริง
เข้าสังคมร่วมสังวาสขาดสังหรณ์
อาจสังกรอ่อนองค์จนหลงเหลิง
เปื้อนปะปนคนเปลือกปลอมพร้อมชั้นเชิง
รื่นระเริงเพลิงสังโยชน์โทษสิบทาง
                                                         
 ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เดชา เวชชพิพัฒน์ (boodoo44-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-04-15 12:37:36


ความคิดเห็นที่ 11 (2061531)

 

๑๔. บนเรือกลม
 
ลอยละล่องลิ่วแล่นหลงทางลม
บนเรือกลมกล้องแกล้งเก๋เก่าเก๋า
เรือลำแพนแลกระลอมเหลาเกลี้ยงเกลา
เป็นเรือเหงาเมาง่ายดายเดียวใจ
เคว้งคว้างโคลงเคลงบนเพลงคลื่น
ซัดโครมครืนคลอกแคลกควั่กเคลื่อนไหว
คลางแคลงว่าแคล้วคลาดพลาดเส้นชัย
คะเนไปคำนวณแล้วครวญคร่ำคราง
น้ำกับฟ้าอาณาเขตระหนเห
คืบทะเลศอกทะเลเห็นหม่นหมาง
ใกล้ก็หนึ่งไกลก็เอกวิเวกทาง
วนระหว่างกระแสสินธุ์กระวนวาย
เรือสมมุติมุ่งจรุงปรุงประดิษฐ์
เรือหลงทิศพาคนผิดมั่นหมาย
สำราญสุขล้นเหลือเรืออุบาย
เรือเครื่องตายพายพร่ำในน้ำวน
อย่าออกเรือด้วยใจเปี่ยมใคร่อยาก
พบลำบากเป็นเรือร้างอกุศล
ไร้เพื่อนฝูงมิตรแท้ในสายชล
สายน้ำวนล้นกิเลสแดนเปรตภัย
จงออกเรือด้วยใจใสสะอาด
มุ่งมั่นมาดวาดชีวิตด้วยสีใส
เรือแห่งเกียรติเบียดแน่นเพื่อนหทัย
เป็นเรือใหญ่ทางใดไม่หวั่นเกรง                                                                                                                                          
ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์
ผู้แสดงความคิดเห็น เดชา เวชชพิพัฒน์ (boodoo44-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-05-06 10:44:40


ความคิดเห็นที่ 12 (2074026)

 

๒๕. โลกสีเทา
 
เมียที่ดีคือกะหรี่ไม่หนีงาน
คือแม่บ้านทานทนจำนนผัว
คือกระโถนโยนขี้ใส่ยามเมามัว
คือแม่วัวผลิตลูกถูกแจงจัด
ทุกค่ำคืนขืนข่มเขาข่มขืน
รับแรงหื่นแรงอยากยากขืนขัด
โสเภณีสะดวกใช้ไม่ต้องนัด
ปล่อยกำหนัดบำบัดใคร่ได้ทุกยาม
ผวาผัวตบผัวะเตะกระอัก
ฟาดตีนพลั่กหนักมือไว้ให้เข็ดขาม
ชายขี้ขลาดชาติปีจอขอคำราม
คลั่งคุกคามคนครอบครองของคู่มาร
ออกลูกเหมือนแม่หมาพันธุ์ดีสวย       
แทบมอดม้วยเป็นโรงงานปั้นลูกหลาน
โย้แล้วโย้เบ่งแล้วเบ่งเหมือนเร่งงาน
ทรมานทวารหน้าคุ้มค่าทอง
โลกสีเทาเงามืดหมองของโลกหญิง
โลกแท้จริงหลังวิวาห์งานฉลอง
โลกระทมตรมช้ำน้ำตานอง
โลกหม่นหมองของสตรีมีมานาน
เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก
แย่ยับยากเยี่ยงหมูหมาเดรัจฉาน
ด้วยมอบใจให้กายชายโบราณ
ใจจัณฑาลพาลเพียงเพศผู้อ่อนแรง
 
ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์
ผู้แสดงความคิดเห็น เดชา เวชชพิพัฒน์ (boodoo44-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-06-13 08:28:38


ความคิดเห็นที่ 13 (2083794)

 

กวีนิพนธ์ประกอบภาพถ่าย
"ตะรางอารมณ์"
รวมเล่มเป็น e-book แล้วครับ
download ได้ที่
http://www.truebookstore.com/product/view/1197
ตัวอย่างกวีนิพนธ์ 1 ใน 39 บท

 

 
ผู้แสดงความคิดเห็น เดชา เวชชพิพัฒน์ (boodoo44-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-07-09 09:49:46


ความคิดเห็นที่ 14 (2107459)

monofilament wig costumes wigs wig and get the appearance youve wanted wigs human hair wigVogue Wigs distributes lace wig application fulllacewigs.

ผู้แสดงความคิดเห็น calat (guese-at-google-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-11 10:36:39



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.