หน้าหลัก | ข้อมูลสมาคม | บทความ | บทร้อยกรอง | ข่าวสารประชาสัมพันธ์ | กิจกรรม | กระทู้ | หนังสือ | ร้อยกรองออนไลน์ |
O เพลงซอ .. ที่รอสี .. O | |
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O ศัพท์แสงแสดง-ทิ-ฐิ-วิ-กฤต
ระ-บุ-มิจฉะมากมาย
ลูบคลำพระธรร-มะ-อ-ภิ-ปราย-
ระ-บุ-คล้ายจะเคยเห็น
O กาลามะสู-ต-ระ-ประ-การ
พระ-ประ-ทานเสมอเป็น -
หลัดยึดประพฤติ-ท-ศะ-ประ-เด็น
ฤ-จะ-เร้นจะเลือนสูญ
O เขาว่า..เพาะสา-ว-กะ-ส-ภาพ
ประ-ลุ-คาบทวีคูณ
เหนี่ยวรั้งพลัง-ฐิ-ติ-วิ-ทูร
ก-ละ-กูณฑะมอดเชื้อ
O เกรงว่าจะหา-ย-นะ-พระ-ศาสน์
เพราะ-ประ-ภาษะคลุมเครือ
ลุ่มหลงพะวง-ภ-พะ-อะ-เคื้อ
อรร-ถะ-เพรื่อสิพร่ำเผย
O ไพศาลประการ-อ-ริ-ยะ-วาท
จะ-ป-ลาตะล่วงเลย
เกรงเขลาคละเคล้า-บ-ทะ-เฉลย
น-ยะ-เปรยจะปลอมปน
O ยากเย็นประเด็น-อ-ริ-ยะ-สัจจ์
ภ-วะ-วัฏฏะเวียนวน
เสกสรรคะคัน-ถะ-อ-นุ-สน-
ธิ-วิ-กลวิการเขียน
O กำจายสยายอุ-บั-ติ-จิต
ระ-บุ-ทิศะดุจเธียร
รอบกรรมะนำ-ภ-วะ-เสถียร
นิ-ระ-เปลี่ยนกระทั่งปลาย
O เห็นไกลกระไร-นั-ย-นะ-ทิพย์
กระ-แดะ-หยิบมุบรรยาย
เกรงว่าจะพา-ข-ยะ-ข-จาย
มรร-คะ-ปลายจะเปล่าเปลือง
O เหตุต้น .. เพาะผล-กรร-มะ-กระ-ทบ
ด-ละ-ภพะรองเรือง
สัมผัสกระหวัด-ร-สะ-เมลือง
ทะ-นุ-เนื่องเขษมสันต์
O การณ์เหตุและเจ-ต-นะ-ผ-จง
อุ-ป-สงคะร่วมกัน
ก่อกรรมะนำ-ทุ-ก-ระ-ทัณ-
ฑะ-ผ-ชันเผชิญชนม์
O กรรมเหตุและเด-ชะ-จะ-ส-ลาย
ก็-เพราะ-คลายระดับ..ตน..
รู้วัตรขจัด-อ-ดุ-ระ-ผล
ละ-ก-มละพ้นหมอง
O เพียงคุมผชุม-จิ-ตะ-ส-มา-
ธิ-ส-ภาวะตามตรอง
ใคร่ครวญชนวน-มุ-หะ-ละ-ออง
เฉพาะต้องจะตัดเตียน
O ติดหล่มเพราะสม-มุ-ติ-พิ-การ
วิ-ญ-ญาณะจำเนียร
สิ้นร่าง บ่ ร้าง-ภ-วะ-เสถียร
จะ-ผละ-เปลี่ยนและเวียนไป
O ดวงเดียวจะเหนี่ยว-อ-ม-ระ-ภาค
กระ-แหนะ-พากย์เพราะอำไพ
ลอยลิบกระพริบ-บ-ทะ-ไสว
ภ-พะ-ใหม่ตะบึงมอง
O แห่ตามเพราะพราห-ม-ณะ-ประ-สิทธิ์
นิ-ร-มิตะรับรอง
อวลอรรถเพาะปรั-ช-ญะ-ส-นอง
ผิ-วะ-ต้องก็เป็นตาย
O กาลล่วงก็ห่วง-ทิ-ฐิ-พิ-สุทธิ์
ธรร-มะ-พุทธจะเปล่าดาย
แผกผันเพาะคัน-ถะ-อ-ภิ-ปราย
อ-ธิ-บายะเบี่ยงเบน
O หลงมุขะยุค-อุ-ป-นิ-ษัท
พิ-เคราะห์-อรรถะโอนเอน
หลงรสประพจน์-อุ-ต-ริ-เถร
ด-ละ-เวระแฝงไว้
O แยบคายอุบาย-มุ-สะ-ประ-โยค
ระ-บุ-โลกะครรไล
พรางปมเพาะสม-มุ-ติ-พิ-สัย
ระ-บุ-ให้พิกลเห็น
O แปลกตอนสะท้อน-ร-หั-สะ-วา-
ก-ยะ-พาหะแผกเพ็ญ
ข้ามภพบ่จบ-ประ-ทุ-ษะ-เข็ญ
ต-ละ-"เป็น"เพราะกรรมปรุง
O เหตุนำเพราะคัม-ภิ-ระ-ก-ถา
อรร-ถะ-ราชะอำรุง
ภาษปวงพระร่วง-ลิ-ขิ-ตะ-ฟุ้ง
ก-ละ-รุ้งจรัสเหลือ
O ต้นเงื่อนเสมือน….วิ-สุ-ทธิ์-มรรค
เพราะ-ประ-จักษะจุนเจือ -
คลี่คลายสยาย-ภ-พะ-อะ-เคื้อ
ต-ละ-เหยื่อก็พร้อมยิน
O เหตุร้อน ณ ก่อน-ม-ร-ณะ-กาล
ฤ-จะ-ผ่านทลายภินท์
ย้อนสางมล้าง-ภ-วะ-อ-จิน-
ต-ยะ-สิ้นจะได้หรือ ?
O เมื่อเหตุเภท-ด-ละ-ประ-ภพ
ฤ-จะ-กลบซะด้วยมือ
รูปนาม ฤ ข้าม-ภ-พะ-กระ-พือ
ประ-ลุ-รื้ออดีตกรรม
O การณ์ใดกระไร-ด-ละ-เพราะเหตุ
บ-ริ-เฉทะเนื่องนำ -
ส่งผลทุรน-อ-ดุ-ระ-ล้ำ
ฤ-จะ-ห้ำประหัตหาย
O ความดับระงับ-ฤ-จะ-ประ-สบ
ผิ-วะ-ภพะวอดวาย
หนทางจะล้าง-ทุ-ระ-ส-ลาย
ฤ-จะ-หมายจะมองไหน ?
O เหตุ-ผล ณ บน-ระ-ยะ-ระ-หว่าง
ภ-พะ-ต่างจะอย่างไร ?
หรือเพียงจะเบี่ยง-ทิ-ฐิ-พิ-สัย
ระ-บุ-ไว้เพราะสับสน
O มืดมัวสลัว-รั-ฐะ-ไผท
ม-ติ-ไหนก็จำนน
แซ่ศัพท์สดับ-จิ-ตะ-ฉ-งน
เสนาะพ้นวิหคไพร !
O แม้นห้วงอรรณพนั้น - - - ไพศาล
ใช่กักทุกข์ทรมาน - - - หมดสิ้น
แต่อบายจดพรหมสถาน - - - ถ้วนหมู่
นับเนื่องเพียงกระผีกริ้น - - - รอด, พร้อม-นฤพาน ! | |
ผู้ตั้งกระทู้ สดายุ :: วันที่ลงประกาศ 2014-06-28 21:36:11 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3662713) | |
O ผู้หลงโลก..? O
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
O รองเรืองเมลืองชุติพิจิตร
ก-ละ-พิศพิมานบน
โล่งลิบระยิบ, ทิพะสถล-
ดุจะหล่น..ละลิ่วรอ
O เจดีย์, พิถีวัตระประพฤติ
จิตะยึดและยกยอ
โมหันธ์ถวัลยะ ฤ พอ-
คณะขอจะอาจขืน ?
O บุญบาปและลาภขณะประนอม-
บทะย้อม ฤ อาจยืน-
หยัดจิตะคิดพิริยะฝืน-
ระอุตื่น ณ ในตน
O เห็นแต่จะแผ่วุฒิวิภาค
อติพากยะเพียบพล
กล่อมขวัญ, สวรรค์ก็อนุสน-
ธิพิกลพิการสอน
O บุญบาปกระหนาบพิษะกระหน่ำ
ก็ระส่ำระสายตอน
ชาติภพตระหลบอุระสะท้อน
ฤ จะผ่อนพลังหลง
O แว่วเสียงก็เพียงจะเยาะจะเย้ย-
มรรคะเอย..ฤ แอบองค์
ไป่ทอดตลอดระยะ, บ สง-
เคราะหะบงกะชาติบัว
O พรรณนาเหมาะสาวกะจะรู้
ธรรมะตู่..ก็เป็นตัว
โอภาสจะพาดภวะสลัว
ฤ เยาะยั่วและพร้อมหยัน ?
O ไตรรัตน์สมรรถพละ ฤ ฉุด
นยะพุทธะรัดพัน-
จิตสู่ประตูอริยะนั้น
ทะนุนันทิรูปนาม
O โดยภาษประกาศพระชินวร
ระบุสอนระบิลความ
ต้นกลางลุปลาย..วุฒิพิราม
ยุติทราม บ สืบสาย
O โอ หนอ ฤ พอจิตะขจัด
กิจะวัตระวุ่นวาย
ท่วงทีพจีนยะสยาย
บุญะถ่ายสิทั่วถึง
O กราบหมอบ ฤ ตอบมุหะจริต
มุประดิษฐะเพื่อดึง-
สายตาประดา..พิศะจะซึ้ง-
บทะซึ่งจะคอยสรรค์
O แบบบุญจะหนุนภพะประสาร-
วิญ(ะ)ญาณะค้ำยัน
ศรัทธาสถาปนะสวรร-
คะถวัลยะในทรวง
O บิดเบือนเขยื้อนมุสะสยาย
เกาะอุบายะบำบวง-
ศักดิ์สิทธิ์และฤทธิ์อุตริปวง
นิระห่วงจะเสียหาย
O บัวต่ำเพราะสัมผัสะกะตม
ฤ จะชม..ระลมชาย
สบทราบประภาพสุริยะฉาย-
รุจิบ่ายประโลมบัว ?
O โดยตรรกและหลักอริยะวาท
อธิชาติชมชัว
เพื่อตัดขจัดมุหะระรัว-
อัตะกลั้ว, ปลาตการณ์
O โดยตรรกและมรรคะปฏิบัติ
เหมาะ, สมรรถะดวงมาน
เงื่อนเหตุ..กิเลศ..สมะสมาน
จะทะยาน - ก็อาจยั้ง
O เดี๋ยวนี้..และที่ขณะระลึก
สติตรึกและตรองฟัง
โลกนี้..และที่ระยะจะหวัง
ทิฐิตั้งประคองตน
O เท่านี้..พิถีจิตะประพฤติ
เหมาะจะยึดและตามยล
เพียงใด..เพราะใจนะอนุสน-
ธิกะลมระลอกสาย
O เพียงนั้น..จะบันดละสมา-
ธิสภาวะในกาย
เงียบงาม ณ ยาม วตะระบาย
สุขะศานติซ่านซ้อน
O ปลงเปลื้องละเมืองก-บิ-ล-พัสดุ์
พระ-เลาะลัดพเนจร
ป่นเหตุกิเลศ..ประทุษะถอน-
ทุขะรอนปลาตร้าง
O กิ่งโพธิ์เพราะโผ..วตะระลอก-
ระดะหยอก-ก็ไกว..กาง
ไหวสั่นกระนั้น..เฉพาะจะขวาง-
และมล้างพลังลม
O คือใจพิจัยธรรมะสภาพ
ระบุทราบกะอารมณ์
รู้ครวญชนวนทุขะระทม
พิษะถมกระทบถึง
O ที่ไหน..ไสวเพราะพลุลุแล่น-
รุจิแสนยะตราตรึง
ที่นั้น..จะฝันสุญะระรึง
ขณะหนึ่ง บ พึงหมาย
O ที่ไหน..พิสัยชนะสมา-
คมะวาระวุ่นวาย
ที่สุด..วิมุติภวะจะหมาย-
เฉพาะขายกะหมู่เขลา !
O แว่วดัง..ก็สังคิตะประดิษฐ์
นิรมิตะมอมเมา-
จิตหลง..มุสงเคราะหะและเร้า-
สติเฝ้าประโลมฝัน
O เสียงซอ..ฤ พอจะเสาะจะสี
พิเราะคีตะล้อมพัน-
ต้นธาตุ..พระชาติพระอรหันต์
ละสวรรคะรับเสียง !
O เสียงซอ..ฤ พอจะเสาะจะสี
เสนาะคีตะคล้อยเคียง-
ต้นธรรม..เหมาะสัมผัสะเจรียง-
พฤติเบี่ยงประโคมบุญ !
O ซอสี..ก็สีปะเหลาะประโลม
ทะนุโสมนัส, จุน-
เจือวัตรวิบัติกระแดะและหนุน-
ธนะ-ทุน..นะคือ..ธรรม ! | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สดายุ วันที่ตอบ 2014-06-29 16:00:33 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3662717) | |
O มิจฉาสมาคม .. O วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
O แว่วอยู่ .. ฤ รู้-วตะชเล ฤ-จะเล่หะคารม เห็นภาพก็ภาพภพะขยม- ศิระก้มและค้อมกาย O โค้งงอ .. ฤ พอสุขุมะพจน์ ระบุบทะรำบาย คดงอ .. ฤ พอสัทะสยาย- เลาะสลายะถ้อยลวง O เสียงสู่ .. ก็รู้พฤตินิมิต ะประดิษฐะเพื่อบวง- เภทพันธุฝันสวรรคะสรวง- นิระห่วงจะเสียหาย O ชาติภพประจบคติพิการ ปริมาณะมากมาย ภพชาติจะพาด .. มุสะจะผาย- พิษะผ้ายจะคอยผลาญ O แผดพองกะผองมุหะประนัง ตละครั้งก็คืบคลาน เสกแสร้งแสดงกระแดะผสาน- ทุระการะเกริกเกรียง O ร่ำร้องคระลองอุดมกา- รณะภาพะเพียบเพียง แวดล้อมจะพร้อมสุตะเผดียง พิเราะเสียงจะสรรเสริญ O อิ่มเอม .. เขษมะบริษัท กิจะวัตระดำเนิน วิญญาณะปานจะเหาะจะเหิน ขณะเพลินเพราะเยินยอ O ร้องร่ำกระหน่ำวุฒิพิศาล ธิระฐานะทอดทอ ร้อยคำเพราะคัมภิระพะนอ- สุขะรอลุอารมณ์ O ภิญโญสโมสระกวินทร์ กละตฤณะแนบตม วิญญูเพราะรู้จะเสาะผสม มุสะห่ม ฤ อาจเห็น O เสกแสร้งแสดงสุขุมะพจน์ ทุรยศะเยียบเย็น เขียนทรามประณามประทุษะเข็ญ นยะเค้นก็อักโข O เขียน .. เขื่องกระเดื่องคติพิจิตร ขณะมิตระเพียบโม- หันต์กรรมะทำประดุจะโส- ธกะโอ่ .. บ่เอียงอาย O แปลกปลอม .. ประนอมพละประนัง ฤจะยั้งเพราะบรรยาย หัวหู .. บ่รู้ผิวะสหาย- มิตระพ่าย .. จะรุมเผา O ล้วนหล่มและสมมุติพิการ ฤ จะทานจะบรรเทา ร้อยรัดกระหวัด .. ประดุจะเถา- วัลย์เผ่านะรัดพรรณ O ทางเธียระเพียรจะอภิปราย และละม้ายจะเมามัน ทางธรรมะพร่ำพิริยะสรร- คะถวัลยะแวดวง O โอ้ .. ลวงทะลวงนิกระโสต ขณะโกรธะหยั่งลง โอ้ .. กา ฤ-ว่าผิวะจะหงส์ พิศะรงคะย่อมรู้ ! http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=05-2012&date=13&group=41&gblog=37 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สดายุ วันที่ตอบ 2014-06-29 16:19:57 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3663311) | |
O โวหารภาพพจน์....O วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
O ความ-คำเพราะคัมภิระประพจน์
ระบุบทะบาทมี
เหมือนคอยจะปล่อยทิฐิวิถี
บทะธีระหนักหนา
O ยั่วแย้งแสดงวุฒิวิภาษ
ผิวะปราศก็แต่ปรา-
รมภ์ตนจะป่นอัตะสถา-
นะสภาวะรูปรอย
O จึงคำเพราะคำระบุระบือ
ก็กระพือซะเลิศลอย
เชื่องเชื่อก็เหลือจะผละจะถอย
จิตะคล้อยบ่อาจขืน
O พากย์ชี้วิถีวัตระประพฤติ
อัตะยึดก็หยัดยืน
นำทางระหว่างนิละทะมื่น
จะลุตื่น ณ ในตน ?
O แว่วเสียงก็เพียง..อุระระรัว
นิระกลัวจะหลงกล
แห่ห้อมตะล่อมสัทะระคน
นยะล้นพิมลหลาย
๐ สรรสรรพะศัพท์ธิระประดิษฐ์
ตละคิดก็คมคาย
ว่อนวางพยางคะอภิปราย
จิตะคล้ายจะเคลิ้มฝัน
O หวั่นไหวกระไร..สุภะประพจน์
มธุรสะโรมรัน
หลักการก็ควานและเสาะกระสัน
อภินันทนาไทย
O การเมือง ณ เบื้องปุระสยาม
ขณะทรามละลามนัย
เสียงสู่ก็รู้มุสะสมัย
สุตะใด-ประดาเดียว
O เมื่อทราม..ละลามระยะประเทศ
นยะเลศะกรูเกรียว
คมคำกระหน่ำ..ฤจะเฉลียว
ผิวะเขี้ยวจะขบลง
O พรรณนาประดานยะประดุจ-
บริสุทธิแผ่วง
ไหนเลยจะเคยจะพิสวง-
อุปสงคะดั้งเดิม
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
O ลมตื่นระผืนน้ำ...........ภพะต่ำก็ตวงเติม-
คำหวานประสารเสริม.....ฤดิเริ่มก็ปรารมภ์
O โกสุมปทุมา..............ดละภาวะหอมพรม
ผึ้งภู่ ฤ รู้สม-................มุติห่มจะร้างหาย
O ดอกขาวอะคร้าวรูป....วตะลูบก็รำบาย-
หอมฟุ้งจรุงหมาย..........ผิวะตายจะยอมตน
O อำนาจและอาชญา.....เสาะสภาวะเพื่อพล-
อวยเดชวิเศษผล..........จะผละพ้น ฤ แผดเผา ?
O เนานันทะสรรเสริญ....ขณะเพลิน ฤ ผ่อนเพลา
ยศศักดิ์ฉลักเขลา.........ก็ระเร้าฤดีรมย์
O ขัดแย้งเพราะแย่งยำ-..สัทะธรรมะติดตม
เคลิ้มขำกะคำคม..........ขณะถ่มเลอะดินแดน
O แบ่งข้างระหว่างข้า.....คุณะค่าก็คลอนแคลน
จึงอานุภาพแสน-..........ยะจะแม้นจะมอดลง
O อำนาจและอาชญา.....ดละทาสะรูปทรง
การเลศะเจตมง-...........คละคงจะมีหรือ
O ร่มบุญ..สกุลคน.........ธนะผละร่วมมือ
เล่ห์ฉันทะบันลือ-..........ก็กระพือกระเพื่อมหาง
O เก่งกาจกระไรคน.......คติวนและว่อนวาง
เชื่องเชื่อ..ก็เหลือง้าง-..จะเสาะอ้างกะเหตุผล
วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
O อึ้มแอ้มออกเสียง.......นั้นเพียงเพื่อชน
เหลียวมองจ้องตน........คำรนโวหาร
O ฟังเถิดฟังคำ.............ลึกล้ำหลักการ
อักโขโอฬาร................เพื่อบ้านเพื่อเมือง
O รับใช้อำนวย.............ย่อมด้วยศรัทธา
หลงรักนักหนา.............บอดบ้าเปล่าเปลือง
O ตอกลิ่มทิ่มแทง.........พวกแดงพวกเหลือง
อกกรุ่นขุ่นเคือง............เชื่อเชื่องพอกัน
O เป็นไทด้วยชาติ.........เป็นทาสด้วยใจ
ตื้นเขินเกินไหว-............ทันไขรำพัน
O เรื่องนึกตรึกตรอง.......บกพร่องเกินฝัน
แว่วโจษโทษทัณฑ์.......หูหันรอเสียง
O ปรุงแต่งภาพพจน์......งามรสวาที
ออกสื่อช่วยชี้..............วาดวีสำเนียง
O นั้นถูกนี้ผิด...............รอพิศรอเพียง-
ความถ้อยร้อยเรียง.......อยู่เคียงหน้าตน
O จับโยงเรื่องราว.........รู้กล่าวรู้คาด
เพื่อชนทั้งชาติ.............รู้ภาษรู้พล
O ตราบน้อมใจนับ........ตอบรับลุกลน
กี่ครั้งกี่หน..................ทุกหนทุกครั้ง
O คือปราชญ์คอยปราม..ป้องทรามเข้าแทรก
จำนรรจ์จำแนก............ความแจกให้ฟัง
O จงร่ำจงเรียน............ถ้อยเธียรเพียรฝัง
อย่าหยุดอย่ายั้ง...........ตอบตั้งศรัทธา
๐ เยี่ยงนี้คือชน............พล่ามบ่นรักชาติ
เยี่ยงนั้นคือทาส...........ปลอดปราศอัตตา
๐ เยี่ยงนี้คือไท............ผู้ไร้บัญชา-
จัดตั้งสั่งหา.................ด้วยค่าของเงิน
O ภาพนั้นดูดี...............แต้มสีแต่งตัว
จากเท้าจดหัว..............ถ้วนทั่วมองเพลิน
O ภาพงามเร้ารุม..........ให้อุ้มหยอกเอิน
อิ่มร่ำจำเริญ................ปานเหินเวหา
O ผ่านหัวผ่านหู............รับรู้รับฟัง
ลึกล้ำกำลัง.................ฝากฝังปัญญา
O ผ่านหูผ่านหัว............เร้ารัวศรัทธา
อาทรอ่อนล้า...............ให้บ้าเข้าเบียน
O ความคำทำว่า...........คิดข้าควรการ
สามารถสามานย์..........ควรอ่านข้าเขียน
O ความจูงฝูงชน...........หวังผลต้องเพียร
ทอทาบภาพเธียร.........วกเวียนตราบวาย | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สดายุ วันที่ตอบ 2014-06-30 20:17:53 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 870469 |