ReadyPlanet.com


ส่งร้อยกรองประกวดประจำ "16 – 30 กันยายน 2557" ได้กระทู้นี้


ช่องทางในการส่ง
กรุณาส่งช่องทางใดช่องทางหนึ่งเท่านั้น ป้องกันการซ้ำของข้อมูล 
และเพื่อความรวดเร็วในการตรวจ มิฉะนั้นท่านจะโดนตัดสิทธิ์

1. สำหรับผู้ที่ส่งทางเว็บบอร์ด http://thaipoet.net/
- แจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ให้ครบถ้วน
- แจ้งแก้ไขได้ในกระทู้นี้ โดย ระบุความคิดเห็น จุดที่ต้องการแก้ไข และครั้งที่แก้ไข
- ส่งขึ้นเว็บบอร์ดเป็นไฟล์ text ธรรมดาเพื่อป้องกันข้อความเพี้ยน ไม่ต้องตกแต่ง

2. สำหรับผู้ต้องการส่งทางอีเมล ส่งได้ที่): info_thaipoet@yahoo.com
- แจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ให้ครบถ้วน

หัวข้อการประกวดประจำปักษ์หลังกันยายน 16 – 30 กันยายน ประกาศผล 20 ตุลาคม 2557)
- ระดับมัธยมศึกษาต้น กาพย์ยานี 11 :  "ความสุข"
- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กลอนสี่สุภาพ :  "ความสุข"
- ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป โคลงสี่สุภาพ :  "ความสุข"
ความยาวต่อชิ้นงาน 6-10 บท

อ่านกติกาให้ชัดเจนมิฉะนั้นท่านอาจโดนตัดสิทธิ์

ขอความกรุณางดการออกความเห็นในกระทู้ส่งงาน

 



ผู้ตั้งกระทู้ webmaster :: วันที่ลงประกาศ 2014-09-10 02:47:42


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3708603)

 ฐาน-เทียม-แท้

มีอาหารหล่อเลี้ยง..........บำรุง

กินเพื่อเผื่อผดุง.................ชีพไว้

ดิบสุกผ่านการปรุง.............ข้าวอุ่น มีเนอ

สุขแต่อาหารได้.........อยู่ยั้งมีแรง

มีอาภรณ์ห่มเนื้อ...........บังแสง

ผ้าแผ่นกันแมลง.............กัดเนื้อ

หนาวเย็นห่อนทิ่มแทง.......ผิวผ่อง พรรณแพร

สุขสิ่งใส่สรวมเสื้อ.........แผ่นผ้าคลุมกาย

มีเคหาอยู่ยั้ง...............สบาย

พิรุณบ่มิกราย............ตกต้อง

นิทราย่อมผ่อนคลาย.....หายห่วง กังวล

สุขซึ่งพึงมีห้อง........หนึ่งบ้านเรือนนอน

มีทรัพย์จับจ่ายใช้.........คืนทอน

รวยเงินบ่อาวรณ์...............ก่อนซื้อ

เหลือแหล่แผ่เที่ยวจร.........บุญแบ่ง สบายแฮ

สุขสิ่งทรัพย์หมื่นตื้อ...........ย่อมยิ้มพิมพ์ใจ

ไร้โรคโลมรุกเร้า.................นอกใน

สุขภาพพลานามัย..........................แกร่งกล้า

โหยหาห่างเภทภัย................หมายมุ่ง เนานาน

หวังใคร่ได้ทั่วหน้า...............แต่ต้นพื้นฐาน

                สรรเสริญลาภยศล้วน...........นอกกาล

เพียงพอกหลอกวิญญาณ.................ไป่แท้

พาลเพิ่มเริ่มเชื้อสาร........................ต่อแต่ เทียมเนอ

ดำดิ่งยิ่งพ่ายแพ้.........................ดักไว้ประหาร

เกษมจิตนิ่งไว้...............เนานาน

สุขแต่พระนิพพาน.........ค่าล้น

เหนือสุขส่งพ้นกาล........ผันผ่าน สมมุติเฮย

สุขซ่านควรค่าค้น...........ก่อเกื้อใจเรา

หนักหนาวางว่างเว้น.........บางเบา

ทุกข์ห่างจางบรรเทา.......ลึกล้ำ

จิตนิ่งยิ่งงามเงา.............จรัสแจ่ม สัจจัง

เพื่อผ่านพ้นสิ่งซ้ำ...........เสพซ้อนเกินพอดี

สุขนอกหลอกล่อเลี้ยง…………ชั่วชีวี

ยื้อแย่งแข่งนาที.....................ไป่เว้น

ปรารถนาล่าราวี....................ชิงช่วง เพิ่มพูน

ร้อนรุ่มสุมไฟเน้น................ก่อเชื้อเวรกรรม

                สุขในนิ่งเที่ยงแท้...........ทิพย์ธรรม

ใจนิ่งยิ่งน้อมนำ........................ค่าล้น

สงบส่งโล่งจดจำ.......................พร่ำดิ่ง นฤพาน

สุขเที่ยงแท้แลพ้น...............จิตนี้สุขเป็น

 

....หนานชาติ คนเขียนค่าว ๑๘ ก.ย.๕๗..........

(นายชูชาติ ใจแก้ว ๕๔๗ ม.๑๐ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ๕๗๑๐๐

โทร ๐๘๑ ๕๓๑๖๘๓๙)

ผู้แสดงความคิดเห็น คนเขียนค่าว (chuchart-dot-jai-at-mfu-dot-ac-dot-th)วันที่ตอบ 2014-09-19 11:29:02


ความคิดเห็นที่ 2 (3709312)

       วัฏจักรหมุนกลับ

๑. สัจธรรมค้ำโลกหล้า ดำรง
สุข-ทุกข์เสมอคง เวี่ยไว้
สังสารวัฏวง- เวียนว่าย วนแฮ
อริยมรรคนั่นไซร้  กระจ่างแจ้งนิพพาน
 
๒. รัฐประหารใช่แก้ ปัญหา
 ว่างเปล่าอนัตตา ต่อต้าน
 อหิงสาบ่อหังการ์ ด้ือแพ่ง
 โลกธาตุสั่นสะท้าน มึดครึ้มอวิชา

๓. ดั่งมนตราสะกดไว้ วิญญาณ
ตลอดอสงไขยกาล เนิ่นช้า
ศรัทธาดับอันตธาน สูญเปล่า 
สงบ"สุข/ทุกข์"ทั่วหล้า สยบด้วยกำลัง
 
๔ .ความหวังริบหรี่แล้ว เสรี 
อธิปไตยในฤดี ด่าวดิ้น
ริดรอนสิทธิ์ฤๅมี สุขแน่- แท้นา
เชื่อง"เชื่อ"ทุกข์จักสิ้น สุขล้นอกาลิโก
 
๕. โมหะจริตปิดกั้น ปัญญา
อัดแน่นด้วยอัตตา ท่วมท้น
"วัฏจักร"แห่งเวลา "หมุนกลับ"
มหากาพย์เพียงเริ่มต้น ตื่นเต้นตกตะลึง
 
๖.พึงศิโรราบคาบแก้ว จำนง
"ปฏิวัติ"วัตรยังคง ภาพย้ำ
 ประชาธิปไตยปลง เปลื่อยเปล่า 
 ประวัติศาสตร์"ซ้ำ" ซ่อนเร้นปริศนา
 
๗. ชนถวิลหา"ดอกไม้"  ห่อนใช่ ปลายปืน
ปลดปล่อยวิญญาณคืน ผ่องแผ้ว
ภราดรภาพยั่งยืน สงบสุข 
"สันติภาพ"เพริศแพร้ว พรั่งพร้อมภิญโญ
 
 
นายยงยุทธ ศรีชัย
โรงเรียนบ้านท่าช้างคล้องหนองอีเปี้ย
ตำบลท่าช้างคล้อง
อำเภอผาขาว จังหวัดเลย
42240

ผู้แสดงความคิดเห็น ยุทธ (Yy_srechai-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-09-21 10:48:48


ความคิดเห็นที่ 3 (3710504)

 ข้อแก้ไขสำนวน ครั้งที่ ๑

บทที่ ๒ 

คำว่า อวิชา เป็น อวิชชา

นายยงยุทธ ศรีชัย

085 2688269

โรงเรียนบ้านท่าช้างคล้องหนองอีเปี้ย

ตำบลท่าช้างคล้อง

อำเภอผาขาว

จังหวัดเลย

42240

ผู้แสดงความคิดเห็น ยุทธ (Yy_srechai-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-09-23 10:52:44


ความคิดเห็นที่ 4 (3713102)

       แก้ไขสำนวนครั้งที่ ๒ ดังนี้    

             วัฏจักร
๑. สัจธรรมค้ำโลกหล้า ดำรง
สุข-ทุกข์เสมอคง เวี่ยไว้
สังสารวัฏวง- เวียนว่าย วนแฮ
อริยมรรคนั่นไซร้  กระจ่างแจ้งนิพพาน
 
๒. รัฐประหารใช่แก้ ปัญหา
 ว่างเปล่าอนัตตา ต่อต้าน
 อหิงสาบ่อหังการ์ ด้ือแพ่ง
 โลกธาตุสั่นสะท้าน มึดครึ้มอวิชชา

๓. ดั่งมนตราสะกดไว้ วิญญาณ
ตลอดอสงไขยกาล เนิ่นช้า
ศรัทธาดับปนิธาน สูญเปล่า 
สงบ"สุข/ทุกข์"ทั่วหล้า สยบด้วยกำลัง
 
๔ .ความหวังริบหรี่แล้ว เสรี 
อธิปไตยในฤดี ดับดิ้น
ริดรอนสิทธิ์ฤๅมี สุขแน่- แท้นา
เชื่อง"เชื่อ"ทุกข์จักสิ้น สุขล้นภิญโญ
 
๕. โมหะจริตปิดกั้น ปัญญา
อัดแน่นด้วยอัตตา ท่วมท้น
"วัฏจักร"แห่งเวลา "หมุนกลับ"
มหากาพย์เพียงเริ่มต้น ตื่นเต้นตกตะลึง
 
๖.พึงศิโรราบคาบแก้ว จำนง
"ปฏิวัติ"วัตรยังคง ภาพย้ำ
 ประชาธิปไตยปลง เปลื่อยเปล่า 
 ประวัติศาสตร์"ซ้ำ" ซ่อนเร้นปริศนา
 
๗. ชนถวิลหา"ดอกไม้"  ห่อนใช่ ปลายปืน
ปลดปล่อยวิญญาณคืน ผ่องแผ้ว
ภราดรภาพยั่งยืน สงบสุข 
"สันติภาพ"เพริศแพร้ว พรั่งพร้อมอรุณสมัย
 
 
นายยงยุทธ ศรีชัย
โรงเรียนบ้านท่าช้างคล้องหนองอีเปี้ย
ตำบลท่าช้างคล้อง
อำเภอผาขาว จังหวัดเลย
42240

ผู้แสดงความคิดเห็น ยุทธ (Yy_srechai-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-09-26 23:10:39


ความคิดเห็นที่ 5 (3713344)

 แก้ไขสำนวน ครั้งที่. ๓

บทที่ ๓. คำว่า ปนิธาน เป็น ปณิธาน. 

ขอบคุณครับ

นายยงยุทธ ศรีชัย

085-2688269

ผู้แสดงความคิดเห็น Yuth วันที่ตอบ 2014-09-27 15:06:38


ความคิดเห็นที่ 6 (3713532)

                            หัวข้อม   "ความสุข"

     วามสุขมีค่าล้น                  เราทุกคนล้วนต้องมี
อยากสุขต้องคิดดี                     ค่าทวีผลมากมาย
     ความสุขมีหลายด้าน            ทั้งเรื่องงานและใจกาย

แต่สุขอาจหดหาย                     ถ้าประมาทหลงมัวเมา

     ครอบครัวสอนสิ่งดี            เพื่อชีวีของตัวเรา

พ่อแม่ยามแก่เฒ่า                      จะได้สุขลูกหลานดี

    ความรักก่อความสุข             ช่วยปลอบปลุกด้วยไมตรี

เพื่อนพ้องและน้องพี่                 ปันรอยยิ้มอิ่มน้ำใจ

    โรงเรียนบ้านอีกหลัง             ตั้งใจฟังครูสอนไป

ความรู้คู่จิตใจ                           สร้างอนาคตให้งดงาม

    สุขดีมีงานทำ                        เพราะเชื่อคำกระทำตาม

พ่อแม่ครูคอยปราม                   สอนเด็กดื้อมีวันนี้

    ความสุขอยู่ไม่ไกล                สอนหัวใจให้คิดดี

ผู้ใหญ่ใส่ใจมี                            เป็นตัวอย่างสร้างสุขเรา

 

เด็กหญิงรวิสรา  รุ่งเจริญ

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา               

ผู้แสดงความคิดเห็น รวิสรา วันที่ตอบ 2014-09-28 10:47:49


ความคิดเห็นที่ 7 (3713538)

                             “ความสุข”

     ความสุขในชีวิต                   เกิดจากคิดกระทำดี

เริ่มทำตั้งเเต่นี้                           สร้างชีวีมีสุขใจ

     ความสุขที่แท้จริง                นั่นคือสิ่งอยู่ไม่ไกล

ไม่โลภเอาเปรียบใคร                ชีพผ่องใสสุขในธรรม

     ความสุขไม่มีขาย                 แต่หาง่ายพึงจดจำ

แม้นจนทนตรากตรำ                สุข “พอเพียง” เลี้ยงชีพตน

     หวังสุขแต่ภายนอก              ภายในหลอกคอยฉ้อฉล

อยู่ได้ไม่คงทน                          สุขไม่นานก็ผ่านไป

     สุขใจในชีวา                        ดีเสียกว่าสุขใดใด

ยึดสุจริตไว้                               สั่งจิตให้คิดทำดี

     สร้างไทยมิไร้สุข                  ร่วมทำนุกค่าไมตรี

เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มี                        สรรค์ธานีที่มั่นคง

     ทำดีน้อยคนเห็น                  แต่ผลเป็นอานิสงส์

แผ่นทองที่ปิดลง                      ตรงหลังพระจะก่อคุณ

     จับมือสร้างสุขไว้                 ผองคนไทยใจอบอุ่น

หลักธรรมจักค้ำจุน                   ชนทั้งผองครองสุขนาน           

 

                                                เด็กหญิงรวิวรรณ  จันทร์รุ่ง

                                                ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓

                                                โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา

ผู้แสดงความคิดเห็น รวิวรรณ วันที่ตอบ 2014-09-28 11:21:10


ความคิดเห็นที่ 8 (3713960)

               "นางฟ้าแห่งความสุข"

ความสุขเหมือนนางฟ้า  เทพธิดาบนสวรรค์

เสกเวทย์วิเศษพลัน       ทุกคืนวันแสนสุขใจ

นางฟ้าที่ว่านี้               ท่านอยู่ที่หรือถิ่นไหน

ท่านไม่ได้อยู่ไกล          อยู่ในใจเราทุกคน

จิตใจของมนุษย์           คือแดนสุดแสนสดใส

แต่ก็มียังไฟ                 แห่งหัวใจที่ทุกข์ทม

ไฟแผดเผานางฟ้า         ไฟโกรธาแสนขื่นขม

ไฟโลภแสนทุขตรม        นางฟ้าจมในกองไฟ

ไฟเเสนจะรุ่มร้อน           เผาพระพรจากนางฟ้า

เผาไปในทันตา             สุขโรยราในทันที

ความสุขก็หมดไป          ไม่สดใสไม่สุขขี

ไม่มีซึ่งความดี              ในวันนี้แสนทุกข์ใจ

ชีวาแสนโศกเศร้า          เพราะตัวเราเองนี่หนา

อยากได้สุขกลับมา         เจ้าจงกล้าจงดับไฟ

ดับไฟแห่งความทุกข์       ด้วยน้ำสุขแสนสดใส

ด้วยน้ำแห่งอภัย             ด้วยน้ำใจแสนโสภา

นางฟ้ากลับคืนตื่น          นางฟ้าฟื้นขึ้นมาใหม่

สุขกลับมาทันใด           เพราะใจไม่ร้อนรุ่มเอย

                  เด็กหญิง ภัททิยา สวัสดิ์ศิริพิพัฒน์

                  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่๓

                 โรงเรียน เซนต์โยเซฟคอนเวนต์

                 ๗ ถนน คอนแวนต์

                 แขวง สีลม เขต บางรัก

                  กรุงเทพมหานคร ๑๐๕๐๐

                  เบอร์ติดต่อ 0878023955

                 

            

 

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัททิยา วันที่ตอบ 2014-09-29 09:59:03


ความคิดเห็นที่ 9 (3714253)

"ความสุขที่บ้านนา"

 พ่อจับไถแม่หว่านกล้าเต็มนาข้าว   เมื่อถึงคราวน้ำ-ดินดีหวังมีผล

หนักต้องเอาเบาต้องสู้รู้อดทน   เกิดเป็นชนรากหญ้าอย่าเพิ่งท้อ

กลับจากนาถากไถทำไร่สวน   ช่วยกันพรวนจนดินฉ่ำน้ำเลี้ยงหล่อ

ผักพืชผลเพาะเมล็ดพันธุ์นับวันรอ   แตกกิ่งกอดอกผลงามตามต้องการ

ฤดูฝนผักชุ่มนาปลาชุ่มหนอง   เรไรร้องเขียดบรรเลงเพลงประสาน

กล่อมทุ่งนาให้สุขสันต์ทุกวันวาน   ข้าวผลิบานรวงสีทองฉันมองดู

ถึงเวลาจับคันเคียวร่วมเกี่ยวข้าว   ทั้งหนุ่มสาวลงแขกเกี่ยวเกี้ยวเป็นคู่

ร้องรำเพลงเกี่ยวข้าวไปใจฟ่องฟู   นกขันคูขานรับเสียงอยู่เคียงกัน

ข้าวเต็มรวงรายได้ดีสร้างชีวิต   ผลผลิตจากน้ำแรงแข็งขยัน

พ่อแม่ยิ้มอิ่มเอมสุขทุกคืนวัน   รินแบ่งปันธารน้ำใจให้ทุกคน

ฉันบ้านนอกกิน-อยู่มิหรูหรา   ตระหนักค่าเพียงพอก่อเกิดผล

จักประหยัดอดออมยอมอดทน   ฟ้าหลังฝนย่อมสง่ากว่าวันเดิม

วิถีไทยวิถีธรรมแม่พร่ำสอน   ทุกขั้นตอนชีพดำรงพ่อส่งเสริม

ยึดครรลอง"พ่อของไทย"ใช้ต่อเติม   สินพูนเพิ่ม"ทฤษฎีใหม่"ในชีวัน

สุขแท้จริงได้เกิดมาบนนาไร่   บ้านหลังใหญ่คือท้องทุ่งโอบอุ้มฝัน

รวยน้ำใจน้องพี่มีแบ่งปัน   เปี่ยมคุณธรรม์หมั่นทำดีมิเบียนใคร

เกิดเป็นลูกชาวนาอย่าทิ้งหลัก   เพราะศรีศักดิ์เหนือยิ่งกว่าสิ่งไหน

เป็นคนจนต้องบากบั่นฉันภูมิใจ   จะมิให้ใครดูหมิ่นกลิ่นสาบควาย

 

 

นายบารเมษฐ์   ชัยฤกษ์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6

โรงเรียนเบญจมราชูทิศ   จ.นครศรีธรรมราช

96 ม.3 ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช 80120

โทรศัพท์ 098-7056609 , 083-3961820

 

ผู้แสดงความคิดเห็น nuhi วันที่ตอบ 2014-09-29 17:35:09


ความคิดเห็นที่ 10 (3714420)

                        ความสุข”

ความสุขอยู่ที่ไหน...ใครรู้บ้าง              ต่างคนต่างโหยหาพาสับสน

พลิกด้านเหรียญของความเศร้าเงาทุกข์ทน   ย่อมจักค้นพบสุขแท้อย่างแน่นอน

ความพอเพียงสรรค์เส้นทางสร้างชีวิต    ช่วยชี้ทิศรู้ประมาณสานคำสอน

ความสุขแท้สุขที่ใจไม่บั่นทอน          สุขถาวรด้วยใจสร้างอย่างแท้จริง

แต่ความสุขนอกกายไม่เที่ยงแท้         หลอกใจแค่คิดอยากได้ในทุกสิ่ง

เกิดกิเลสเพราะหลงผิดคิดแย่งชิง         จิตจมดิ่งสู่ห้วงเหวความเลวทราม

เมื่อก่อนเก่าชาติเรานี้มีแต่สุข            ยิ้มปลอบปลุกคืองามพริ้มยิ้มสยาม

ก่อนจะเหลือสุขไว้แต่ในนาม             ทั้งเขตคามจงฟื้นรักสามัคคี

ลบภาพแห่งกิเลสเหตุหมองหม่น        ด้วยธรรมดลชำระใจให้สุขศรี

หยุดแบ่งแยก...จึงสร้างสุขทุกนาที      เริ่มจากที่ตัวเราก่อนจะสอนใคร

สุขสีขาว...เย็นล้ำ...ในธรรมะ               สมถะ...เพียงพอ...ก็สุขได้

คือทางออกแห่งปัญหา...นำพาไทย       สร้างสุขใจสร้างสังคม...สุขร่มเย็น

 

                                                      นางสาวอิศราวรรณ คงปรีชา

                                                      ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔

                                                      โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา

ผู้แสดงความคิดเห็น อิศราวรรณ วันที่ตอบ 2014-09-30 07:20:23


ความคิดเห็นที่ 11 (3714664)

ความสุข.. 

๏ ความสุขไหนเลิศล้ำ... นำผล
เป็นมิ่งขวัญมงคล....... มนุษย์นั้น
มีอยู่ทุกแห่งหน.......... คนคิด
ชีวิตยาวหรือสั้น......... เร่งสร้างความดี

๏ สุขีมีอยู่ด้วย.......... เบญญา
แลสัพพะอัตตา......... ทั่วทั้ง
ขึ้นอยู่กับหัตถา......... เราท่าน ปั้นเนอ
ประมาทจักพลาดพลั้ง.. ยับยั้งชั่งใจ

๏ มองใครจงเลือกเฟ้น... สิ่งดี
ส่วนชั่วตัวเขามี.......... หลีกเว้น
ขาวดำก็ฉวี............... นวลพักตร์
เป็นประโยชน์โปรดเน้น.. อย่าลี้หนีหาย

๏ หญิงชายหมายมาดแม้น.. ปัจจุบัน
อดีดคือสิ่งผัน................ ล่วงแล้ว
อนาคตจรดพลัน............. ยังไป่ ถึงนา
ทำทุกอย่างเพริศแพร้ว...... ไม่แคล้วสุขศรี

๏ ฤดีมีวาดไว้....... ความหวัง
เสริมต่อก่อพลัง..... หล่อเลี้ยง
มุมานะปลูกฝัง...... แม้ทุกข์ ยากเนอ
ชีวิตจิตสุขเพี้ยง..... มากได้ใช่เข็ญ

๏ เห็นตนมีค่าล้ำ........ ดำรง
คนรักนักมั่นคง.......... แซ่ซ้อง
พ่อแม่แน่ประสงค์....... คือภัก ดีเนอ
เพื่อนสนิทพี่น้อง........ เกี่ยวข้องคล้องแขน

๏ ยากแค้นแต่มากด้วย...... ช่วยเหลือ
รู้อุดหนุนจุนเจือ............. โอบอ้อม
ห่วงนิดคิดถามเขือ.......... เผื่อแผ่ 
ใช่ทรัพย์กลับเพรียบพร้อม.. อุ่นเนื้อเชื่อไหม

๏ สุขใดใช่เหนี่ยวรั้ง..... หวังเจอ
พานพบอยู่เสมอ......... ทุกครั้ง
บนบานท่านละเมอ...... เพ้อพก
หยิบยกพกไป่ยั้ง........ ยากแท้แก้ไข

๏ สงสัยสุขจักได้...... สมจินต์
ชีพดับลับฝังดิน........ มอดแล้
จากไปใคร่ถวิล........ บุญส่ง
ชีวิตคิดถ่องแท้........ เท่านี้ฤาไฉน ๚ะ๛
……
มีนาวี แสงทอง
30 ก.ย.57

ผู้แสดงความคิดเห็น มีนาวี แสงทอง (meena01-at-windowslive-dot-com)วันที่ตอบ 2014-09-30 12:23:10


ความคิดเห็นที่ 12 (3714678)

 แก้ไขสำนวนครั้งที่1 "ความสุขที่บ้านนา"

บทที่7

วิถีไทยวิถีธรรมแม่พร่ำสอน    ทุกขั้นตอนชีพดำรงพ่อส่งเสริม

ยึดครรลอง"พ่อของไทย"ใช้ต่อเติม    สินพูนเพิ่ม"เศรษฐกิจพอเพียง"เลี้ยงชีวัน

 

นายบารเมษฐ์   ชัยฤกษ์

โรงเรียนเบญจมราชูทิศ   จ.นครศรีธรรมราช

96 ม.3 ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช 80120

โทรศัพท์  098-7056609  , 083-3961820

ผู้แสดงความคิดเห็น บารเมษฐ์ วันที่ตอบ 2014-09-30 12:44:15


ความคิดเห็นที่ 13 (3714713)

 "ขอความสุขชายแดนใต้จะได้ไหม"

ได้ยินเสียงปืนลั่นขวัญผวา    คราบน้ำตาอาบชายแดนแสนหดหู่

สังเวยศพโจรเลือดเย็นเข่นฆ่าครู    ซึ่งเป็นผู้ปูทางศิษย์จิตบูชา

ลูกกระสุนปักอกซ้ายกายมอดดับ    ครูมิกลับลาล่วงศิษย์ห่วงหา

เป็นตัวแทนล้างคราบศพลบน้ำตา    ขอเถิดหนาให้เธอหยุดศพสุดท้าย

ยอมเอาชีพแลกแผ่นดินสิ้นด้ามขวาน    รุดต่อต้านขัดแย้งแบ่งฝักฝ่าย

เธอทำเพื่อได้ครอบครองของนอกกาย    น่าเสียดายความเป็นคนจนเจียนใจ

สังหารเหี้ยมนักรบดินกลบหน้า    เลือดท่วมตาสู้ประจัญมิหวั่นไหว

สิ้นทหารเหมือนใกล้สิ้นแผ่นดินไทย    กำแพงไรขาดเสาหลักยึดพักพิง

นัยน์ตาร่ำร้องขอต่อชีวิต    เธอยังคิดหมายฆาตอนาถยิ่ง

เด็กน้อยไร้เดียงสาเธอกล้ายิง    กระสุนทิ้งเหลือซากศพจบกายา

มิเห็นใจลูกหลานกันบ้างหรือ    พวกเขาคือก้าวต่อไปในวันหน้า

เธอทำลายทุกสิ่งสิ้นล้างวิญญา    ตัดอนาคตป่นปี้กี่ครั้งคราว

"ขอความสุขชายแดนใต้จะได้ไหม"    แลกด้วยใจบริสุทธิ์ดุจผ้าขาว

สิทธิ์สุดท้ายก่อนสิ้นลมล้มระนาว    บอกดวงดาวด้วยสัจจะเป็นพยาน

นกพิราบจะคืนถิ่นแผ่นดินใต้    เสียงปืนไร้ผ่านเศร้าทุกข์พบสุขศานต์

สันติภาพจะกลับมามิช้านาน    หากเธอเลิกรุกรานด้านขวานไทย

 

 

 

 

นายบารเมษฐ์    ชัยฤกษ์

โรงเรียนเบญจมราชูทิศ   จ.นครศรีธรรมราช

96 ม.3 ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช 80120

โทรศัพท์ 098-7056609  , 083-3961820

ผู้แสดงความคิดเห็น บารเมษฐ์ วันที่ตอบ 2014-09-30 13:20:52


ความคิดเห็นที่ 14 (3714721)

 แก้ไขสำนวนครั้งที่1 "ขอความสุขชายแดนใต้จะได้ไหม"

บทที่4

สังหารเหี้ยมนักรบดินกลบหน้า    เลือดท่วมตาสู้ประจัญมิหวั่นไหว

ทหารสิ้นถิ่นด้ามขวานเผาผลาญไฟ    กำแพงไร้ขาดเสาหลักยึดพักพิง

 

 

นายบารเมษฐ์  ชัยฤกษ์

โรงเรียนเบญจมราชูทิศ  จ.นครศรีธรรมราช

96 ม.3 ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช 80120

โทรศัพท์ 098-7056609 , 083-3961820

ผู้แสดงความคิดเห็น บารเมษฐ์ วันที่ตอบ 2014-09-30 13:34:18


ความคิดเห็นที่ 15 (3714728)

ประหนึ่งอยู่คู่สาง ณ กลางเมฆ                             ลมร้อยเสกบรรเลงเป็นเพลงหวาน

ทิวาลับจับฟ้าทิวาวาร                                          ดาราผ่านทอทิพย์ก็ลิบโรย

สุริยาลอยมาให้ฟ้าเปิด                                        พริ้งเพราเพริศพัดพลิ้วพระพายโผย

สกุณาแจ้วผินแล้วบินโปรย                               แมกไม้โกยเกาะกิ่งกะพ้อเมือง

รุจิเรืองส่องแสงสีสับแสด                                 ร้อนเผาแผดข้าวเขียวเห็นเหลียวเหลือง

อร่ามเด่นเช่นสีฑิฆัมเดือน                                เฉกบอกเตือนถึงทีที่ลงแรง

เมฆาเคลื่อนเข้ากับขยับที่                                   บังสุรีย์แสงร้อนลดผ่อนแสง

ทั้งเพื่อนมิตรชิดชู้กรูลงแรง                              ขยับแกว่งเคียวโค้งค่อยค่อยกรอ

จนเหลียวแลหลังหลับจะลับแล้ว                     ช่อรวงเเก้วเกี่ยวสิ้นแล้วสิหนอ

รำราญเล่นรำเต้นเป็นเคล้าคลอ                        ร้องรำพ่อรำเคียว "ชะเกี่ยวเอย..."

ตะวันบ่ายย้ายยุดสุดสวาท                                  มาศอ่อนแรงแสงเจ้าเอ๋ย

อัมไพผ่องท้องฟ้านภาเอย                                 ภาพพื้นเปรยเปรียบประดุจประเมืองแมน

พิรุณโรยโชยพัดสะบัดเสบื้อน                         ค่อยเขยื้อนเคลื่อนคลามาสุดแสน

วิไวลับเหลี่ยมรุ้งพุ่งสู่แดน                                 เป็นแฉกแล่นเจ็ดสีระวีวรรณ

เสียงไกวซอล้อลมชมทิวทุ่ง                              ขับลำนำคำมุ่งสู่เวหัน

เเจ้วเจรียงเสียงวิหคผกกลับกัน                         เสนาะมั่นดุจน้ำเซาะเซาะทราย

กระเพื่อมพรายลายน้ำเย็นย่ำสุข                       ภาพความทุกข์น้องพี่หนีห่างหาย

จูงเจ้าทุยลุยนิทัศวิลาศลาย                                สุขสบายสุขใจไร้ทุกข์ทม

เสียงเรไรไกรกริ่งเพราะพริ้งหู                          ภาพอุ้มชูมิตรไมตรีที่สุขสม

สุขด้วยใจไร้มีดให้กรีดจม                                สุขผสมสุขนี้ที่ปลายแดน

 นายณัฐพงษ์ สุขประจำ ม.4/4 โรงเรียนกำแพง ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ 33210 โ ทร 0857573321

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัฐพงษ์ (tornudh-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-09-30 13:46:40


ความคิดเห็นที่ 16 (3714735)

 

** แก้ไขครั้งที่1 สำนวนของณัฐพงษ์

1 เพิ่มชื่อเป็น "ความสุขที่ปลายทุ่ง"

2 แก้ไขเพิ่ม "ทิน" หน้า มาศ เป็น "ทินมาศ"

3.แก้ "นิทัศ" เป็น "นิทัศน์"

ประหนึ่งอยู่คู่สาง ณ กลางเมฆ                             ลมร้อยเสกบรรเลงเป็นเพลงหวาน

ทิวาลับจับฟ้าทิวาวาร                                          ดาราผ่านทอทิพย์ก็ลิบโรย

สุริยาลอยมาให้ฟ้าเปิด                                        พริ้งเพราเพริศพัดพลิ้วพระพายโผย

สกุณาแจ้วผินแล้วบินโปรย                               แมกไม้โกยเกาะกิ่งกะพ้อเมือง

รุจิเรืองส่องแสงสีสับแสด                                 ร้อนเผาแผดข้าวเขียวเห็นเหลียวเหลือง

อร่ามเด่นเช่นสีฑิฆัมเดือน                                เฉกบอกเตือนถึงทีที่ลงแรง

เมฆาเคลื่อนเข้ากับขยับที่                                   บังสุรีย์แสงร้อนลดผ่อนแสง

ทั้งเพื่อนมิตรชิดชู้กรูลงแรง                              ขยับแกว่งเคียวโค้งค่อยค่อยกรอ

จนเหลียวแลหลังหลับจะลับแล้ว                     ช่อรวงเเก้วเกี่ยวสิ้นแล้วสิหนอ

รำราญเล่นรำเต้นเป็นเคล้าคลอ                        ร้องรำพ่อรำเคียว "ชะเกี่ยวเอย..."

ตะวันบ่ายย้ายยุดสุดสวาท                                  มาศอ่อนแรงแสงเจ้าเอ๋ย

อัมไพผ่องท้องฟ้านภาเอย                                 ภาพพื้นเปรยเปรียบประดุจประเมืองแมน

พิรุณโรยโชยพัดสะบัดเสบื้อน                         ค่อยเขยื้อนเคลื่อนคลามาสุดแสน

วิไวลับเหลี่ยมรุ้งพุ่งสู่แดน                                 เป็นแฉกแล่นเจ็ดสีระวีวรรณ

เสียงไกวซอล้อลมชมทิวทุ่ง                              ขับลำนำคำมุ่งสู่เวหัน

เเจ้วเจรียงเสียงวิหคผกกลับกัน                         เสนาะมั่นดุจน้ำเซาะเซาะทราย

กระเพื่อมพรายลายน้ำเย็นย่ำสุข                       ภาพความทุกข์น้องพี่หนีห่างหาย

จูงเจ้าทุยลุยนิทัศวิลาศลาย                                สุขสบายสุขใจไร้ทุกข์ทม

เสียงเรไรไกรกริ่งเพราะพริ้งหู                          ภาพอุ้มชูมิตรไมตรีที่สุขสม

สุขด้วยใจไร้มีดให้กรีดจม                                สุขผสมสุขนี้ที่ปลายแดน

 นายณัฐพงษ์ สุขประจำ ม.4/4 โรงเรียนกำแพง ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ 33210 โ ทร 0857573321

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัฐพงษ์ (tornudh-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-09-30 13:53:25


ความคิดเห็นที่ 17 (3714748)

 ** แก้ไขครั้งที่2 สำนวนของณัฐพงษ์  (  แก้ไขครั้งที่1 ลืมแก้ครับ 555555+)

1 เพิ่มชื่อเป็น "ความสุขที่ปลายทุ่ง"

2 แก้ไขเพิ่ม "ทิน" หน้า มาศ เป็น "ทินมาศ"

3.แก้ "นิทัศ" เป็น "นิทัศน์"

ประหนึ่งอยู่คู่สาง ณ กลางเมฆ                  ลมร้อยเสกบรรเลงเป็นเพลงหวาน

ทิวาลับจับฟ้าทิวาวาร                                               ดาราผ่านทอทิพย์ก็ลิบโรย

สุริยาลอยมาให้ฟ้าเปิด                                        พริ้งเพราเพริศพัดพลิ้วพระพายโผย

สกุณาแจ้วผินแล้วบินโปรย                               แมกไม้โกยเกาะกิ่งกะพ้อเมือง

รุจิเรืองส่องแสงสีสับแสด                                 ร้อนเผาแผดข้าวเขียวเห็นเหลียวเหลือง

อร่ามเด่นเช่นสีฑิฆัมเดือน                                เฉกบอกเตือนถึงทีที่ลงแรง

เมฆาเคลื่อนเข้ากับขยับที่                                   บังสุรีย์แสงร้อนลดผ่อนแสง

ทั้งเพื่อนมิตรชิดชู้กรูลงแรง                              ขยับแกว่งเคียวโค้งค่อยค่อยกรอ

จนเหลียวแลหลังหลับจะลับแล้ว                     ช่อรวงเเก้วเกี่ยวสิ้นแล้วสิหนอ

รำราญเล่นรำเต้นเป็นเคล้าคลอ                        ร้องรำพ่อรำเคียว "ชะเกี่ยวเอย..."

ตะวันบ่ายย้ายยุดสุดสวาท                           ทินมาศอ่อนแรงแสงเจ้าเอ๋ย

อัมไพผ่องท้องฟ้านภาเอย                                 ภาพพื้นเปรยเปรียบประดุจประเมืองแมน

พิรุณโรยโชยพัดสะบัดเสบื้อน                         ค่อยเขยื้อนเคลื่อนคลามาสุดแสน

วิไวลับเหลี่ยมรุ้งพุ่งสู่แดน                       เป็นแฉกแล่นเจ็ดสีระวีวรรณ

เสียงไกวซอล้อลมชมทิวทุ่ง                              ขับลำนำคำมุ่งสู่เวหัน

เเจ้วเจรียงเสียงวิหคผกกลับกัน                         เสนาะมั่นดุจน้ำเซาะเซาะทราย

กระเพื่อมพรายลายน้ำเย็นย่ำสุข                       ภาพความทุกข์น้องพี่หนีห่างหาย

จูงเจ้าทุยลุยนิทัศน์วิลาศลาย                      สุขสบายสุขใจไร้ทุกข์ทม

เสียงเรไรไกรกริ่งเพราะพริ้งหู                  ภาพอุ้มชูมิตรไมตรีที่สุขสม

สุขด้วยใจไร้มีดให้กรีดจม                          สุขผสมสุขนี้ที่ปลายแดน

 นายณัฐพงษ์ สุขประจำ ม.4/4 โรงเรียนกำแพง ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ 33210 โ ทร 0857573321

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัฐพงษ์ (tornudh-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-09-30 14:24:08


ความคิดเห็นที่ 18 (3714838)

.....................ความสุขต่างนิยาม.................
....................
สุขสามัญ...............
.....สรรพ์ชีพในโลกหล้า..........สกลกาย
ทุกชีพต่างก้อหมาย...............สุขพร้อม
กำจัดทุกข์ให้มลาย................สืบเสาะ สุขนา
ใจกายสรรพสุขล้อม...............โอบเอื้อคือหวัง
.....สุขกายเกิดแต่ห้วง............ขุมทรัพย์
โรคไม่รุมล้อมจับ....................ใส่ไข้
สุขใจหากจิตรับ.....................ธรรมรส เย็นแฮ
รู้ผ่อนหนักเบาได้...................จิตจ้าสว่างธรรม
.....วัยเด็กเร่งรับรู้..................สรรพวิชา
วัยหนุ่มเร่งแสวงหา...............ทรัพย์ไว้
อีกกายจิตแข็งกล้า................หลีกเลี่ยง กลอบาย
สามสิ่งนี้ทำได้.......................สุขแท้ทางกาย
.....สุขใจเกิดจากห้อง.............หัวใจ
รับธรรมช่วยขัดไคล...............คราบร้าย
จิตนิ่ง สงบ สงัดไว้.................ทนทุกข์ ยากแฮ
ใจเปี่ยมสุขทุกข์ย้าย...............หลีกลี้หนีไป
.....วัยเด็กเร่งฝึกรู้..................เรียนธรรม
วัยหนุ่มฝึกน้อมนำ.................ปรับใช้
ดีชั่วบาปบุญกรรม.................ส่งสุข ทุกข์นา
ยึดมั่นหลักธรรมไว้................สุขแท้ทางใจ
................
สุขขั้นปรมัตถ์.......
......สุขสามัญกิเลสกั้น...........บังตา ตนแล
มองผ่านม่านหมอกหนา.......มากชั้น
จึงภาพหม่นมัวพร่า.............ผิดพร่อง จริงแฮ
ปรมัตถสุขนั้น.....................สุขแท้นิพพาน
.....สุขที่เรากล่าวอ้าง...........ว่าสุข สุขนา
แท้ซุกซ่อนความทุกข์..........แนบข้าง
ความไม่เที่ยงโรมรุก............เป็นระรอก
อนัตตามามล้าง...................สุขไร้ภัยมี
.....จึงพระพุทธเจ้า..............ค้นพบ
ความสัจเบิกแนวรบ...........กิเลสร้อน
ชี้บอกอาวุธสยบ.................มารมาก มายแล
อริยสัจจ์มรรคเทียบซ้อน.....เบิกหน้ารุกไกล
.....รู้จักทุกข์สะท้อน............ทันการณ์
รู้เหตุก่อทุกข์หาญ..............ยึดไว้
รู้นิโรธดับกิเลสราน.............สภาพ ดับแฮ
รู้มรรคแป็ดประเสริฐไซร้.....เปิดเส้นทางเดิน
.....เห็นชอบคิดชอบแท้.......เป็นทุน
พูดชอบงานชอบหนุน.........ส่งไว้
อาชีพ-เพียรชอบจุน...........หนุนส่ง
สติสมาธิชอบฝึกได้.............สุขแท้ดับสกนธ์
......................................................
นายสุมินทร์ นารถเหนือ
บ้านเลขที่ ๓๔๙ ม.๗ ต.เขาสวนกวาง อ.เขาสวนกวาง ข.ขอนแก่น ๔๐๒๘๐
โทร. ๐๘๙ ๘๔๑ ๓๐๙๐
อีเมล์ nutnoi99@yahoo.co.th

ผู้แสดงความคิดเห็น นายสุมินทร์ นารถเหนือ วันที่ตอบ 2014-09-30 17:25:37


ความคิดเห็นที่ 19 (3714948)

ความสุขต่างนิยาม

แก้ไขครั้งที่ ๑ 
...........
สุขสามัญ.......
....สรรพ์ชีพในโลกหล้า.........สกลกาย
ทุกชีพต่างก้อหมาย.............สุขพร้อม
กำจัดทุกข์ให้มลาย..............สืบเสาะ สุขนา
ใจกายสรรพสุขล้อม............โอบเอื้อคือหวัง
.....สุขกายเกิดแต่ห้วง.........ขุมทรัพย์
โรคไม่รุมล้อมจับ.................ใส่ไข้
สุขใจหากจิตรับ..................ธรรมรส เย็นแฮ
รู้ผ่อนหนักเบาได้...............จิตจ้าสว่างธรรม
.....วัยเด็กเร่งรับรู้..............สรรพวิชา
วัยหนุ่มเร่งแสวงหา..........ทรัพย์ไว้
อีกกายจิตแข็งกล้า...........หลีกเลี่ยง กลอบาย
สามสิ่งนี้ทำได้..................สุขแท้ทางกาย
สุขใจเกิดจากห้อง.............หัวใจ
.....รับธรรมช่วยขัดไคล......คราบร้าย
จิตนิ่ง สงบ สงัดไว้.............ทนทุกข์ ยากแฮ
ใจเปี่ยมสุขทุกข์ย้าย..........หลีกลี้หนีไป
วัยเด็กเร่งฝึกรู้..................เรียนธรรม
......วัยหนุ่มฝึกน้อมนำ......ปรับใช้
ดีชั่วบาปบุญกรรม............ส่งสุข ทุกข์นา
ยึดมั่นหลักธรรมไว้...........สุขแท้ทางใจ
.................
สุขขั้นปรมัตถ์.......
.....สุขสามัญกิเลสกั้น.......บังตา ตนแล
มองผ่านม่านหมอกหนา...มากชั้น
จึงภาพหม่นมัวพร่...........ผิดพร่อง จริงแฮ
ปรมัตถสุขนั้น.................สุขแท้นิพพาน
......สุขที่เรากล่าวอ้าง......ว่าสุข สุขนา
แท้ซุกซ่อนความทุกข์......แนบข้าง
ความไม่เที่ยงโรมรุก........เป็นระลอก
อนัตตามามล้าง..............สุขไร้ภัยมี
.....จึงพระพุทธเจ้า..........ค้นพบ
ความสัจเบิกแนวรบ.......กิเลสร้อน
ชี้บอกอาวุธสยบ............มารมาก มายแล
อริยสัจจ์มรรคเทียบซ้อน....เบิกหน้ารุกไกล
.....รู้จักทุกข์สะท้อน........ทันการณ์
รู้เหตุก่อทุกข์หาญ..........ยึดไว้
รู้นิโรธดับกิเลสราน........สภาพ ดับแฮ
รู้มรรคแปดประเสริฐไซร้.....เปิดเส้นทางเดิน
.....เห็นชอบคิดชอบแท้.......เป็นทุน
พูดชอบงานชอบหนุน.........ส่งไว้
อาชีพ-เพียรชอบจุน............หนุนส่ง
สติสมาธิชอบฝึกได้..............สุขแท้ดับสกนธ์
......................................................
นายสุมินทร์ นารถเหนือ
บ้านเลขที่ ๓๔๙ ม.๗ ต.เขาสวนกวาง อ.เขาสวนกวาง ข.ขอนแก่น ๔๐๒๘๐
โทร. ๐๘๙ ๘๔๑ ๓๐๙๐
อีเมล์ nutnoi99@yahoo.co.th

ผู้แสดงความคิดเห็น นายสุมินทร์ นารถเหนือ วันที่ตอบ 2014-09-30 22:05:11


ความคิดเห็นที่ 20 (3714957)
" ออกตามหาความสุข "
                                      
       อึกทึกครึกโครมประโลมโลก                                 สะท้อนโศกในดวงตา น่าสงสาร
เมื่อสงครามเคลื่อนบุกมารุกราน                                    สุขในวันเมื่อวานก็หายไป
ความหม่นหมองมาครองเข้าเช่าพื้นที่                            สิ่งงามดีอพยพหลบผู้ไล่
ความชิงชังฝังแค้นแน่นหัวใจ                                        ก็คร่าไทยที่ปรองดอง พี่-น้องกัน
ข้าพเจ้าจึงจะตามหาความสุข                                       มาล้างทุกข์ที่โถมหา มาปลอบขวัญ
ด้วยรู้ดีว่ามีไทยเป็นเดิมพัน                                           ด้วยสำคัญศรัทธาประชาธิปไตย
หิ้วกระสอบหอบกระเป๋าเข้าเมืองกรุง                             หวังจะมุ่งมาหนองจอก บางกอกใหญ่
เขตคลองสาน ยานนาวา พญาไท                                 ก็ยังไร้วี่แวว จึงจากมา
ยอมร่อนเร่พเนจรไร้หมอนเสื่อ                                      หลังชุ่มเหงื่ออีกกรำแดดแผดเผาหน้า
ลงชุมพร นครศรีฯ ลงยะลา                                           เมืองนราฯ ปัตตานีไม่มีเลย
มีแต่ภาพรบราวีชิงดีเด่น                                                ถูกชักใยให้โลดเต้น...แต่เราเฉย ?
คิดแต่เรื่องส่วนตัวมัวละเลย                                           มิเหมือนเคยเป็นหนึ่งเดียวกลมเกลียวกัน
อึกทึกครึกโครมประโลมโลก                                         ความโสโครกมาบดบังทางฝั่งฝัน
เปิดกระเป๋าเขย่ากระสอบตรวจสอบพลัน                          หวังแบ่งปันสุขอันน้อยจ้อยจิริด
ข้าพเจ้าจึงจะออกปล้นความสุข                                      เพื่อเปลื้องทุกข์ปลดปลงความหลงผิด
ก้มกราบพระหวังพรอุ้มคุ้มชีวิต                                        สิ่งศักดิ์สิทธิ์คงจะนำลูกกำชัย              
 
____________________________
คำเถื่อน
(นางสาวธฤตวัน จีนสายใจ )
โรงเรียนนาคประสิทธิ์
97/1 ม.3 ต.คลองใหม่ อ.สามพราน จ.นครปฐม 73110
0888723683
 
 
 
                              
                                                                                                                 
ผู้แสดงความคิดเห็น คำเถื่อน วันที่ตอบ 2014-09-30 22:27:27


ความคิดเห็นที่ 21 (3714974)

นายธิติสรรค์  สีลา

ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

โรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง

88 ม.6 ต.นาแขม อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี 25110

โทร 084-118-4721

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธิติสรรค์ สีลา (tew8186-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2014-09-30 23:35:10


ความคิดเห็นที่ 22 (3714975)

คืนความสุขแก่ทุกคน

 

รอยสงครามความรุนแรงยังแดงเดือด

ชีพถูกเชือดจนชาชินเลือดรินไหล

“ร่มแดนธรรม”กลับลำเค็ญลุกเป็นไฟ

 ล้วนเพลิงไหม้จากกิเลสเหตุเสื่อมทราม

เขม่าปืน ควันกระสุน ยังกรุ่นกลิ่น

เสียงระเบิดดังมิสิ้น...จากถิ่นสยาม

มากปัญหาก่อเหตุทั่วเขตคาม

 เกิดจากความขัดแย้งแบ่งข้างกัน

ภาพเมืองแห่งความสุขทุกพื้นที่

อาจจะมีให้เห็นได้เพียงในฝัน

หากทุกคนยังหันหน้ามาฆ่าฟัน

สิ้นสัมพันธไมตรีเคยมีมา

ฟื้นความรัก พักความทุกข์ สร้างสุขสันต์

ร่วมเดินหน้าฝ่าฟันแก้ปัญหา

หลอมความต่างอย่างเข้าใจ...ใช้ปัญญา

จักนำพาชาติชนให้พ้นภัย

 “ผู้นำ”ดีต้องมีธรรมนำชีวิต

สุจริตบนครรลองสุดผ่องใส

“ผู้ตาม”ต้องรู้หน้าที่มีวินัย

ร่วมแรงใจสร้างสมสังคมดี

คงได้เห็นภาพรอยยิ้มพริ้มดวงหน้า

แทนภาพพร้อยรอยน้ำตาอยู่เต็มปรี่

 และคงเห็นภาพความรักสามัคคี

ไทยทุกคนล้วนมี...เลือดสีเดียว

คำนึงหลักนิติธรรมความถูกต้อง

ปวงประชาทั้งผองต่างข้องเกี่ยว

ใช้ชีวิตบนสังคมอย่างกลมเกลียว

เป็นแรงเรี่ยวผลักดันไทยให้ยั่งยืน

นำอดีตที่ผิดพลาดสร้างบาดแผล

มาปรับแก้ สร้างวันใหม่ ไม่ขมขื่น

รู้หน้าที่ มีคุณธรรม์ ทุกวันคืน

เพื่อพลิกฟื้นคืนความสุข...แก่ทุกคน

 

นายธิติสรรค์  สีลา

ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

88 ม.6 ต.นาแขม อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี 25110

โทร 084-118-4721

ผู้แสดงความคิดเห็น ธิติสรรค์ สีลา (tew8186-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2014-09-30 23:38:02


ความคิดเห็นที่ 23 (3714976)

เหมือนสีหนึ่งฉาบลงตรงดวงหน้า             รอเวลาหมุนเวียนเพื่อเปลี่ยนสี
ข่ายความสุขทอดมาทุกนาที                   ตามแปรงใจคลายคลี่สะบัดแร
ยิ้มระบายใจบางมิร้างรักรัก                    มีน้ำหนักพอจะกลบลบรอยแผล
เมื่อต่างมอบความเป็นห่วงจากดวงแด     โลกจะแปรวันจะเปลี่ยนขอเรียนรู้
มิตรภาพซาบซ่านที่ผ่านพบ                     จำได้ครบฝังไว้กลางใจอยู่
จากวันแรกที่กล้าท้าโลกดู                       ถึงวันสู้ร่วมฟันฝ่าชะตากรรม
แสนสุขใจจริงแท้แค่ร่วมก้าว                   สุขก็พราวใจพริ้มเคียงยิ้มขำ
ร่วมต้านลมพัดแรงแห่งอธรรม                 ถึงเพลี่ยงพล้ำก็ไม่คิด...จะติดใจ
ไม่รู้เลยว่าใคร...คนไหนผิด                     แต่รู้คิดว่าถึงวัน...เริ่มกันใหม่
แก้มป้ายสีแทนประกาศวาดธงไทย           ก็เพราะรัก...รักใคร่...จากในทรวง
ไม่ต้องการโทษใคร...ไม่ต้องการ             แค่ขอค้านความชั่วดังตัวถ่วง
สันติสุขงามค่ากว่าสิ่งปวง                       จริงหรือลวงก็ขอใช้หัวใจมอง
รักจักสร้างสะพาน...เชื่อบ้านเก่า              บ้านซึ่งมีแค่ "เรา" เป็นเจ้าของ
ใจผูกใจต่างหมุดเมืองอันเรืองรอง           ผู้ครอบครองต้องรักษาอย่าหวั่นท้อ
สีความสุขจะฉาบนานเมื่อผ่านช้ำ             ความทรงจำจะเตือนใจให้สู้ต่อ
ก่อนพรุ่งนี้มีวันนี้...ทำดีพอ                      ย่อมถักทอ...สุขวันหน้า...ฟ้างดงาม

                                                                               นายอภิสิทธิ์   โยวบุตร
                                                                               โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิสิทธิ์ วันที่ตอบ 2014-09-30 23:46:16


ความคิดเห็นที่ 24 (3714977)

 

.... สรรพสุข ....

 

๏ สุขใดพิสุทธิ์แล้           หลากแสวง          

แลสว่างสางแสดง           เด่นแก้ว              

ดังเกิดประทีปแสง          ใสสงบ

สุขสง่าผาสุกแล้ว            เลิศล้ำแลเสลา ฯ

 

๏ เบาราณเก่าเล่าไว้        เวี่ยฟัง

เกิดสุขบำเทิงยัง             หยาบแท้

พอเพียงเยี่ยงฉมัง            มนต์สว่าง

โศกสร่างวางจิตแล้          ละเอียดล้ำทำนอง ฯ

 

๏ มองธรรมชาติค้น         คณนา

สูงสุดผุดภูผา                 พ่างโพ้น

ลึกดำดิ่งพสุธา                ถึงนรก       

สรรพสุขเนาโน้น              ขนบนี้นับผะสา ฯ

                                                                                                                       

๏ กินปลาตัวหนึ่งนั้น         นานนาน

แกงแบ่งลูกแจกหลาน        เหล่าพ้อง

กินพออยู่ประมาณ            ปันสุข  กันเอย                              

ปันแบ่งจุนเจือคล้อง           คละคล้องสนองสม ฯ

 

๏ ชมเชยเงยชะเง้อ           งามจันทร์

แลสุขโลมสวรรค์              สวาทเคลิ้ม

ดวงตาส่อหวนหัน             เห็นจริต

ดวงจิตยลยะเยิ้ม              ยะยิ้มอิ่มหวาม ฯ

 

๏ เรือนสามน้ำสี่คุ้ม           เคียงหญิง

ปางเสน่ห์สตรีอิง              เอ่ยอ้าง

ศรีเรือนพึ่งเพิงพิง              เพรียงสุข

รอยเสน่ห์มิลาร้าง             พ่างเหย้าเนาเรือน ฯ

 

๏ สุขเสมือนเดือนคู่ฟ้า        สุกใส

เสมือนสุขบริวารใจ            ไป่สิ้น

แสงสว่างพรางไกล             ใกล้จิต

เสกสุขตราบด่าวดิ้น           ด่ำด้วยมนต์ขลัง ฯ

 

๏ นกน้อยรังนิดน้อย           พอตัว

เคียงคู่คงเมียผัว                ผ่ายแผ้ว

หากินบ่เกรงกลัว               กลางเถื่อน

สุจริตก็สุขแล้ว                  ลุรู้พอเพียง ฯ

 

๏ เสบียงสุขสืบเหย้า           เหล่ากา

หงส์ก็ตามประสา              สืบเชื้อ

สรรพสัตว์ปรารถนา           ศานติ

อุตริสนองเลือดเนื้อ            มนุษย์นี้สุขไฉน ฯ

 

๏ สุขใดอวยเอิบเอื้อ           เองกมล

อาบสติพิบูลผล                ผลิตรู้

เจริญสติมิสับสน               สรรพสุข

ใจสว่างบ่คดคู้                  คู่ไว้ใจแสวง ฯ

 

.... ณ คะนึง ...

นายจักรพงษ์  ศรีผ่องงาม

185 ม.9  ต.แสลงพันธ์  อ.เมือง  จ.สุรินทร์ 32000
โทร 095 909 7036

ส่งประกวดโคลง หัวข้อ ความสุข ระดับประชาชนทั่วไป

  

ผู้แสดงความคิดเห็น นายจักรพงษ์ ศรีผ่องงาม (the-dot-tle2009-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-09-30 23:47:17


ความคิดเห็นที่ 25 (3714978)

แก้ไข

                                "จะถักทอสุขวันหน้า...ฟ้างดงาม"

เหมือนสีหนึ่งฉาบลงตรงใบหน้า              รอเวลาหมุนเวียนเพื่อเปลี่ยนสี
ข่ายความสุขทอดมาทุกนาที                   ตามแปรงใจคลายคลี่สะบัดแร
ยิ้มระบายใจบางมิร้างรัก                        มีน้ำหนักพอจะกลบลบรอยแผล
เมื่อต่างมอบความเป็นห่วงจากดวงแด     โลกจะแปรวันจะเปลี่ยนขอเรียนรู้
มิตรภาพซาบซ่านที่ผ่านพบ                     จำได้ครบฝังไว้กลางใจอยู่
จากวันแรกที่กล้าท้าโลกดู                       ถึงวันสู้ร่วมฟันฝ่าชะตากรรม
แสนสุขใจจริงแท้แค่ร่วมก้าว                   สุขก็พราวใจพริ้มเคียงยิ้มขำ
ร่วมต้านลมพัดแรงแห่งอธรรม                 ถึงเพลี่ยงพล้ำก็ไม่คิด...จะติดใจ
ไม่รู้เลยว่าใคร...คนไหนผิด                     แต่รู้คิดว่าถึงวัน...เริ่มกันใหม่
แก้มป้ายสีแทนประกาศวาดธงไทย           ก็เพราะรัก...รักใคร่...จากในทรวง
ไม่ต้องการโทษใคร...ไม่ต้องการ             แค่ขอค้านความชั่วดังตัวถ่วง
สันติสุขงามค่ากว่าสิ่งปวง                       จริงหรือลวงก็ขอใช้หัวใจมอง
รักจักสร้างสะพาน...เชื่อบ้านเก่า              บ้านซึ่งมีแค่ "เรา" เป็นเจ้าของ
ใจผูกใจต่างหมุดเมืองอันเรืองรอง           ผู้ครอบครองต้องรักษาอย่าหวั่นท้อ
สีความสุขจะฉาบนานเมื่อผ่านช้ำ             ความทรงจำจะเตือนใจให้สู้ต่อ
ก่อนพรุ่งนี้มีวันนี้...ทำดีพอ                      ย่อมถักทอ...สุขวันหน้า...ฟ้างดงาม

                                                                               นายอภิสิทธิ์   โยวบุตร
                                                                               โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิสิทธิ์ วันที่ตอบ 2014-09-30 23:50:35



[1]



กระทู้นี้ไม่เปิดให้แสดงความคิดเห็น

Copyright © 2010 All Rights Reserved.