ReadyPlanet.com


เรียกน้ำย่อย...ซีไรต์ 2550


นสพ.มติชนวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10696

เรียกน้ำย่อย...ซีไรต์ 2550




เหลืออีกไม่กี่วันก็จะได้รู้กันแล้วว่ากวีนิพนธ์เล่มใด ที่สามารถฝ่าฟันคู่แข่งกว่า 76 เล่ม จนคว้าชัยในสนามซีไรต์ไปครอง แต่ระหว่างที่กำลังลุ้นระทึกกันอยู่ เราก็ขอเสนอเรื่องราวเรียกน้ำย่อยเล็กๆ น้อยๆ ต้อนรับโค้งสุดท้ายกันสักหน่อย

ตลอดระยะเวลากว่า 28 ปีของซีไรต์ ได้ก่อเกิดผลงานอันทรงคุณค่าถึง 28 เล่ม และในจำนวนนี้ เกียรติภูมิแห่งกวีได้ประกาศก้องเป็นเล่มแรกในปี พ.ศ.2523 จาก เพียงความเคลื่อนไหว ผลงานของศิลปินแห่งชาติ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

และการแข่งขันสำหรับตำแหน่งกวีซีไรต์เล่มที่ 10 ในปีนี้ ก็คึกคักไม่น้อยเลย เพราะมีทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ส่งผลงานเข้าชิงชัยอย่างล้นหลาม หลายท่านได้ชื่อว่าเป็นมือกระบี่ล่ารางวัล หลายท่านก็มีผลงานปรากฏตามสื่อสาธารณะอยู่เนืองๆ และบางท่านก็นับเป็นกวีคลื่นลูกใหม่

อาทิ ก้องภพ รื่นศิริ ที่เพิ่งจะกวาดรางวัลในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ก็ส่งถึง 3 เล่ม คือแผ่นดินเดือดคำกาพย์:ตำนานรักนิยาย, บทกวีแห่งรักแท้ และโคลงนิราศ แม่เมาะ, กัมปนาท แสงทอง กวีรุ่นใหม่ ซึ่งเคยได้รางวัล July"s mention ของ Young Thai Artist Award ก็ส่ง แรมเรือน เข้าร่วม, กานติ ณ ศรัทธา ผู้มุ่งมั่นกับกวีมาอย่างยาวนานได้ส่ง รายงานจากหมู่บ้าน มาให้พิจารณา

ด้านกวีหนุ่มที่ผลงานดี (จนโดนลอกงาน) แถมเพิ่งจะได้รางวัลเซเว่น บุ๊ค อะวอร์ดอย่าง มนตรี ศรียงค์ ก็ส่งโลกในดวงตาข้าพเจ้า ที่ดอนเวียง-วชิระ บัวสนธิ์ เป็น บ.ก.คัดสรรงานมาเป็นปีๆ ขณะที่ศิริวร แก้วกาญจน์ ที่หลังจากเคยเข้ารอบสุดท้ายซีไรต์มาทั้งเรื่องสั้น นวนิยาย และบทกวี คราวนี้ก็ขอส่งกลอนเปล่าถึง 2 เรื่องคือ ลงเรือมาเมื่อวาน และเก็บความเศร้าไว้ให้พ้นมือเด็กเด็ก มาวัดใจกรรมการ, วรภ วรภา ซึ่งมักจะเห็นผลงานทั้งตามหน้านิตยสารและเวทีประกวดบ่อยๆ แถมเมื่ออาทิตย์ก่อนยังเพิ่งจะได้รางวัลกวีนิพนธ์ยอดเยี่ยม จากเวทีนายอินทร์ อวอร์ด ได้เสนอ ในสวนเทศกาล, ส่วนคนนี้ถึงหน้าจะใหม่แต่ฝีมือไม่ใหม่ กอยกูน ขอส่ง กลับมารับขวัญวันใหม่ ขณะที่ชายหนุ่มตาหวาน ที่เก๋าทั้งหน้าทั้งฝีมืออย่าง ประชาคม ลุนาชัย ได้ส่งก้อนดิน ก้อนหิน มวลเมฆ และดวงดาว บทกวีที่หวานไม่แพ้ดวงตา มาเสนอกรรมการ

ส่วนกวิณีอย่าง เพ็ญ ภัคตะ นั้น เสนอผลงานที่สะท้อนแก่นของเพศแม่อย่าง อิตถีหทัย เธอน่าจับตาตรงที่ได้ บ.ก.ซีไรต์ 3 สมัยอย่างเสี้ยวจันทร์ แรมไพร มาคัดสรรงาน และคนนี้ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยสำหรับ อังคาร จันทาทิพย์ เพราะที่ที่เรายืนอยู่ ของเขานั้น ลุ่มลึกและซาบซึ้งไม่น้อยไปกว่าผลงานสร้างชื่ออย่าง คนรักของความเศร้าเลย หน้าใหม่อีกคนที่น่าสนใจคือ โกสินทร์ ขาวงาม กับผลงานหมู่บ้านในแสงเงา ที่สะท้อนวิถีชนบทได้อย่างเห็นภาพ

นอกจากนี้ ก็ยังมีกวีอีกหลายท่านที่มีผลงานโดดเด่นไม่น้อย แต่สุดท้ายแล้วใครจะคว้าชัยไปครอง ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณา (ด้วยรสนิยม) ของกรรมการ

อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรต์คนแรกของประเทศไทย และกรรมการตัดสินกวีซีไรต์หลายครา เอ่ยปากบอกเราว่า พลังการอ่านของบ้านเรายังไม่เป็นมาตรฐานเท่าไรนัก และบทกวีเองพลังการอ่านก็ยิ่งด้อยกว่านิยายและเรื่องสั้นมากนัก

"กวีไม่ใช่งานสุกเอาเผากิน ยากมากที่จะทำให้กวีเป็นกวีจริงๆ และน้อยคนที่จะมุ่งมาสร้างสรรค์งานกวีอย่างจริงจัง"

และแม้ว่าจะมีซีไรต์ แต่ อ.เนาวรัตน์ก็เห็นว่าไม่ได้มีส่วนช่วยกระตุ้นแวดวงกวีมากนัก

"ซีไรต์ส่งผลเป็นฤดูกาล ตื่นตัวแค่ช่วงนั้นๆ ต้องทำกิจกรรมให้ต่อเนื่อง อีกอย่างตอนนี้ซีไรต์กลายเป็นสถาบัน และกลายเป็นเรื่องระดับนานาชาติไปแล้ว ทำให้เกิดทั้งข้อดีและข้อด้อย ข้อดี คือทำให้แวดวงตื่นตัว ทั้งการเขียนการพิมพ์ การขาย การนำเสนอสู่นักอ่าน ตลาดหนังสือก็คึกคักเพราะรางวัลนี้ และกลายเป็นเวทีแจ้งเกิดของนักเขียนไปด้วย"

ส่วนข้อด้อยนั้นคือเรื่องของกระบวนการตัดสิน และคุณค่าของเนื้อหา

"กระบวนการคัดเลือกจำกัดเฉพาะคนที่ส่งเข้ามาเท่านั้น และยังมีการกลั่นกรองอีกชั้นให้เหลือจำนวนน้อยเล่ม ซึ่งกรรมการรอบสุดท้าย ถูกจำกัดให้เลือกได้เฉพาะที่กลั่นกรองออกมาเพียง 7 เล่มเท่านั้น ทำให้คำวินิจฉัยไม่ได้ถือเป็นการประเมินคุณค่าของวรรณกรรม เป็นเพียงการเปรียบเทียบว่าเล่มที่ได้ดีกว่าอีก 6 เล่มเท่านั้น

อีกอย่างคืองานเพื่อส่งประกวด คุณค่าจะลดลงไปแทบจะครึ่งหนึ่งเลย เพราะว่า สนพ.ก็จะเลือกสรรเฉพาะที่คิดว่าน่าจะได้รางวัลและจะพิมพ์เพื่อส่งประกวดก่อน ถ้าได้รางวัลถึงจะพิมพ์เป็นเรื่องเป็นราว ที่ไม่ได้รางวัลก็ตกไป คุณค่าเลยลดลงไป กลายเป็นเวทีของการแย่งชิงรางวัลกัน"

บทกวีหลากหลายขนาดนี้ แล้วบทกวีในฝันของนักอ่านเล่า เป็นอย่างไร

"บทกวีที่สัมผัสใจ ใช้รูปแบบและเนื้อหาได้เป็นเอกภาพกัน และเนื้อหานั้นทันยุคทันสมัย ให้แง่คิดเหลี่ยมคมที่เชือดเฉือนหัวใจกันได้ เพราะบทกวีเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก เป็นอาวุธวรรณกรรม มีเนื้อหาเป็นดาบ และฉันทลักษณ์เป็นคมของดาบ"

อืม อย่างนี้นี้นี่เอง

เหลืออีกไม่กี่วัน ก็คงได้รู้แล้วว่าบทกวีในฝันของใครจะฝ่าด่าน (สุดเขี้ยว) มาได้ ระหว่างนี้ก็รอลุ้นไปพลางๆ แล้วกัน


หน้า 24


ผู้ตั้งกระทู้ ผู้สื่อข่าวบ้านไพร :: วันที่ลงประกาศ 2007-06-23 09:51:30


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (937349)

กลอนกวีปีนี้มีสืบเนื่อง

สิบกว่าเรื่องกระมั้งวางแผงอยู่

หาซื้ออ่านเหนื่อยนักหนักพอดู

จึงได้รู้เขียนยากหากแต่รัก

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แฟน(คอ) กวี วันที่ตอบ 2007-06-23 22:17:17


ความคิดเห็นที่ 2 (937350)
อิตถีหทัยของเพ็ญ ภคตะ อ่านแล้วรู้สึกว่า นี่แหละ ใช่เลย ที่ที่เรายืนอยู่ ของอังคารฯ อ่านแล้วโดนมากๆ โลกในดวงตาข้าพเจ้านี่ก็อีกเล่มครับ เชียร์สามเล่มนี้ล่ะกันคับ
ผู้แสดงความคิดเห็น แดนไกล ไลบีเรีย วันที่ตอบ 2007-06-23 23:18:43


ความคิดเห็นที่ 3 (937351)
ว่าง  ของธรรม  ทัพบูรพา  น่าอ่าน น่าสน น่าผ่าน น่าได้รับรางวัล
ผู้แสดงความคิดเห็น คนอ่าน วันที่ตอบ 2007-06-27 05:09:02


ความคิดเห็นที่ 4 (2107286)

lv mens wallet fake louis vuitton handbags is they allow women to express louis vuitton you should find a choice of handbag chanel bags louis vuitton purses.

ผู้แสดงความคิดเห็น rose (chronos-at-google-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-11 09:06:01



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.