คุ้มหรือที่จะอนุรักษ์ต้นจามจุร...

คุ้มหรือที่จะอนุรักษ์ต้นจามจุรี อายุ 100 ปี
คุ้มหรือที่จะอนุรักษ์ต้นจามจุรี อายุ 100 ปี ดร.โสภณ พรโชคชัย www.facebook.com/pornchokchai ตามที่มีข่าวว่าจะมีการตัดต้นจามจุรี (ก้ามปู ฉำฉา) ยักษ์อายุนับร้อยปีจำนวนหลายต้นและต้นไม้ขนาดใหญ่อื่น ในพื้นที่ใกล้ปากซอยสุขุมวิท 35 และก็มีคนบางกลุ่ม ออกมาปกปักรักษาต้นไม้กันใหญ่ ก่อนที่จะคิดทำอะไรต่อ ผมในฐานะผู้ประเมินค่าทรัพย์สินจึงขอประมาณการต้นทุนการอนุรักษ์ต้นจามจุรีดังกล่าว เพื่อให้ทุกฝ่ายได้พิจารณา ที่ดินแปลงนี้ตั้งอยู่ห่างจาก ถ.สุขุมวิท 35 ตรงข้ามห้างเอ็มโพเรียมประมาณ 100 เมตร มีสภาพทิ้งรกร้างเป็นป่า มีต้นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปีอยู่หลายต้น ตามข่าวบอกว่าเจ้าของที่ดินคือกลุ่มไบเทค และจะนำที่ดินดังกล่าวไปสร้าง ‘เอ็มโพเรียม 2’ ได้มีข้อเสนอให้ย้ายต้นไม้ใหญ่เหล่านี้ออกนอกพื้นที่แทนที่จะตัดทิ้ง อย่างไรก็ตาม หากจะย้ายต้นไม้จริง ต้องริดกิ่งที่แผ่กิ่งก้านในรัสมี 30 เมตร เหลือสภาพคล้าย ‘ธูป’ การย้ายต้นไม้เช่นนี้ ต้นไม้มีโอกาสรอด 20% และหากต้นไม้รอดตาย ก็เสียกิ่งก้านที่สวยงาม และต้องใช้เวลานานนับเดือน หนทางเดียวที่จะรักษาต้นไม้ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ก็คือการไม่ตัดต้นไม้ ซึ่งหมายความว่าต้องมีการซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวมาทำเป็นป่าหรือสวนสาธารณะ และปรับปรุงทัศนียภาพ ซึ่งย่อมเป็นผลดีต่อชุมชนบริเวณใกล้เคียงเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามในการนี้ ต้องมีต้นทุนค่าดำเนินการ ซึ่งต้นทุนหลักคงเป็นต้นทุนด้านที่ดิน ส่วนต้นทุนการปรับปรุงพื้นที่เพื่อให้เป็นเช่นสวนสาธารณะ ค่าดำเนินการ สิ่งอำนวยความสะดวก การดูแลรักษา คงเป็นเงินไม่มากนักเมื่อเทียบกับค่าที่ดิน จากการสำรวจต่อเนื่องของ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ซึ่งดำเนินการสำรวจราคาที่ดินต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 พบว่า ราคาที่ดินติดถนนสุขุมวิทในบริเวณติดรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์นี้ เป็นเงินตารางวาละ 800,000 บาท สำหรับที่ดินในซอย เช่นที่ดินแปลงนี้อาจเป็นเงินตารางวาละประมาณ 500,000 บาท อย่างไรก็ตามหากสามารถนำมาเชื่อมต่อกับแปลงหน้าเพื่อก่อสร้างเป็น ‘เอ็มโพเรียม 2’ ราคาที่ดินทั้งผืนที่ติดถนนและผืนที่เป็นป่ารวมกันคงเป็นเงินไม่ต่ำกว่าตารางวาละ 600,000 บาท หากที่ดินแปลงนี้มีขนาด 1,000 ตารางวา มูลค่าที่ดินหรือต้นทุนที่ดินในการทำสวนสาธารณะคงเป็นเงินประมาณ 500 ล้านบาท เงิน 500 ล้านบาทนี้ ใครควรเป็นผู้จ่าย ชาวบ้านหรือเจ้าของที่ดินใกล้เคียงที่จะได้รับประโยชน์โดยตรง จะยินดีจ่ายหรือไม่ ชาวกรุงเทพมหานครหรือกลุ่มอนุรักษ์จะสามารถระดมเงินมาจ่ายหรือไม่ กรุงเทพมหานครสมควรจ่ายหรือไม่ เพราะผู้ได้ประโยชน์อาจอยู่ในพื้นที่เขตคลองเตยและเขตวัฒนาเป็นสำคัญ หากรัฐบาลส่วนกลางเป็นผู้จ่าย ก็เท่ากับการจ่ายเงินจากภาษีอากรของประชาชนคนไทยทั่วประเทศ เพื่อคนที่ได้รับประโยชน์จำนวนหนึ่งเป็นสำคัญ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคมในอีกแง่หนึ่ง ดังนั้นทุกฝ่ายจึงควรพิจารณาให้รอบคอบ อย่างไรก็ตามปัญหานี้เป็นผลของปัญหาการไม่มีภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพราะหากมีภาษีประเภทนี้ เจ้าของที่ดินก็คงไม่เก็บที่ดินให้รกร้างว่างเปล่ามานับร้อยปีจนต้นไม้มีอายุนับร้อยปี เพราะจะต้องเสียภาษีอย่างน้อย 0.5% ต่อปี ยิ่งในต่างประเทศก็คงเสียภาษีมากกว่านี้คือประมาณ 1-2% ต่อปี หากมีกฏหมายการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และเจ้าของที่ดินไม่ได้จ่ายภาษีมาถึงทุกวันนี้ ก็เท่ากับที่ดินแปลงนี้น่าจะตกเป็นของรัฐ หรือของประชาชนโดยรวมไปแล้ว ไม่ใช่กลายเป็นการทิ้งไว้ให้ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นและได้ประโยชน์เฉพาะเจ้าของที่ดิน (โดยเฉพาะรายใหญ่) เช่นที่เกิดขึ้นเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ในอีกแง่หนึ่งต้นจามจุรีนี้ใช่ว่าจะมีแต่ประโยชน์ เพราะเป็นไม้เนื้ออ่อน กิ่งหักง่าย เป็นอันตรายต่อคนอยู่ใกล้ เรียกว่าเป็นต้นไม้สง่างามที่ ‘สวยแต่รูป จูบไม่หอม’ ถ้าเราคิดจะอนุรักษ์ไว้โดยไม่ใช้เงินจากกระเป๋าของเราเอง ก็อาจถือเป็นความดีที่ไร้รากนะครับ
ผู้ตั้งกระทู้ pornchokchai (sopon-at-thaiappraisal-dot-org) :: วันที่ลงประกาศ 2010-12-17 11:33:35

[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2137544)

ใช้เลี้ยงครั่งได้ครับ ไม่คุ้มค่าทางธุรกิจ แต่ได้เรียนรู้นะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สมศักดิ์ ศรีเอี่ยมกูล นักกลอนครับ (somsak-poet-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-17 18:54:56

ความคิดเห็นที่ 2 (2137626)

เพื่ออะไรครับ

หมายถึง จะพูดเพื่ออะไรครับ

ใช้เลื่อยตัดต้นไม้ไม่พอ

ยังเอาลิ้นมาตัดต้นไม้ด้วย

ไม่มีใครเค้าสาปส่งคุณหรอกครับ ไม่เห็นจะต้องออกมาชี้แจงอะไรเลย สิทธิ์ของคุณนิ ตัดไปแล้วด้วย

แต่ก็ดีนะ ได้รับความรู้ไปในตัวด้วยว่ากิ่งก้ามปูหักง่าย

เอ้าทุก ๆ คน ระวังมันจะหักกระแทกหัวนะครับ เดี๋ยวจะมึน คิดกลอนไม่ออก

ผู้แสดงความคิดเห็น Standing Ovation วันที่ตอบ 2010-12-18 01:58:56

ความคิดเห็นที่ 3 (2137628)

เค้าถึงได้บอกไงว่าทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ คือ "ลิ้น"

แปลง ผวน กวน ผัน สรร เสก ได้ดังใจปรารถนา

ผู้แสดงความคิดเห็น ... วันที่ตอบ 2010-12-18 02:03:57

ความคิดเห็นที่ 4 (2137632)
ขออนุญาตเอาข้อความในกระทู้นี้ไปเผยแพร่ตามเว็บต่างๆ นะคะ พอดีดิชั้นเห็นด้วยกับคุณเจ้าของกระทู้อย่างมาก อยากจะเผยแพร่ให้คนอื่นเข้าใจอย่างถูกต้อง และทั่วถึง
ผู้แสดงความคิดเห็น น้ำหวาน วันที่ตอบ 2010-12-18 02:11:13

ความคิดเห็นที่ 5 (2137913)
อ่านกระทู้นี้แล้วหดหู่ใจยังไงก็ไม่รู้ ไม่คิดเลยว่านายทุนจะทำได้ทุกอย่าง และเมื่อทำไปแล้วยังสามารถเนรมิตคำพูดมาประดับเกียรติยศของตนได้เหมือนเป็นปกติธรรมดาสามัญอัน
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันเป็นเพียงกาฝาก อยากทำอะไรก็ทำ วันที่ตอบ 2010-12-19 15:39:36

ความคิดเห็นที่ 6 (2137979)
ท่าดร. ครับ เข้าเว็ปไหนๆ ก็เจอแต่ท่านคิดเรื่องต้นทุนสินทรัพย์ อย่าลืมคิดต้นทุนชีวิตตัวเองเพื่อไว้ด้วยนะครับนะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น คนต้นทุนต่ำ วันที่ตอบ 2010-12-19 21:46:30

ความคิดเห็นที่ 7 (2138030)

เห็นด้วยกับ "ฉันเป็นเพียงกาฝาก อยากทำอะไรก็ทำ"

...อ่านกระทู้นี้แล้วหดหู่ใจยังไงก็ไม่รู้ ไม่คิดเลยว่านายทุนจะทำได้ทุกอย่าง และเมื่อทำไปแล้วยังสามารถเนรมิตคำพูดมาประดับเกียรติยศของตนได้เหมือนเป็นปกติธรรมดาสามัญอัน...

นี่คือความคิดอัปยศของพวกนายทุนละครับ

คนพวกนี้คิดได้เพียงสินทรัพย์ อย่างที่ "คนต้นทุนต่ำ" ว่าไว้นั่นแหละครับ

....ดร. ครับ เข้าเว็ปไหนๆ ก็เจอแต่ท่านคิดเรื่องต้นทุนสินทรัพย์ อย่าลืมคิดต้นทุนชีวิตตัวเองเพื่อไว้ด้วยนะครับนะครับ....

แต่ช่างเถอะครับ

อย่าไปให้ "ราคา" กับกลุ่มนายทุนจำพวกนี้เลยครับ

และก็ไม่น่าจะปล่อยความคิดชั่วร้ายแบบนี้เข้ามาวุ่นวายในเวบไซต์ของสมาคมนักกลอนของเราด้วย...

รำคาญใจรำคาญตาเปล่าๆ..

ผู้แสดงความคิดเห็น สมาชิกสมาคมภาคใต้ วันที่ตอบ 2010-12-20 07:11:24

ความคิดเห็นที่ 8 (2138150)

คงเหมือนกับ คุ้มหรือไม่ ในการรักษาตึกโบราณอายุ 100 ปี

ถ้าบอกว่าคุ้ม ก็น่ารักษาไปทั้งสองประเด็น ในแง่ความมีคุณค่า

ถ้าไม่คุ้ม ก็น่าจะทำลายไปทั้งสองเพราะต้นไม้ก็เปราะ ตึกก็ผุ ไม่รู้จะหักหรือถล่มลงมาทับหัวเมื่อไร

ผู้แสดงความคิดเห็น ผ่านมา วันที่ตอบ 2010-12-20 14:53:53

ความคิดเห็นที่ 9 (2138234)
ก็ระวังอย่าผ่านเข้ามา
ผู้แสดงความคิดเห็น ผ่านไป วันที่ตอบ 2010-12-20 18:47:21

ความคิดเห็นที่ 10 (2138625)
รักษาไปทำไม ตึกรามบ้านช่องสมัยสุโขทัยก็ไม่เห็นเหลือให้ดูถึงทุกวันนี้เลย อนุรักษ์ไปแล้วจะยืนยงถึงพันถึงหมื่นปีเหรอ วัฒนธรรมมันก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆตามความเหมาะสมของคนในสังคม ที่คิดว่าสอดคล้องกับความเป็นอยู่ของเขาเอง พวกอนุรักษ์นี่สังเกตดูให้ดี วันๆไม่ทำไรหรอก เรียกร้องโน่นนี่ พูดง่ายๆก็คือ ทำงานอย่างอื่นไม่เป็น นอกจากเอาเรื่องอนุรักษ์มาเรียกร้องเรื่อยไปวันๆ พวกที่จมอยู่กับอดีตมักไม่สร้างสิ่งใหม่ๆให้เป็นประโยชน์กับชีวิตของตนเองและผู้อื่นหรอก ลองพิจารณาดูเอาเองเถอะ นายทุนเขาก็ต้องตัดสิ เพราะถ้าตัดแล้วมันสร้างประโยชน์ให้เขา ใครจะมาอนุรักษ์ต้นไม้ไม่กี่ต้นไว้เพื่อความร่มเย็นนิดหน่อย อันนี้เราต้องยอมรับความเป็นไปของวัฒนธรรมมนุษย์บ้าง วัฒนธรรมที่ทำลายล้างและเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ มีสองทางให้เลือก หนึ่งคือยอมรับและไม่ทำลายเพิ่มเติม สองคือหลีกหนีและตัดขาดจากโลกีย์วิสัยเสีย
ผู้แสดงความคิดเห็น ไม่ผ่านไป วันที่ตอบ 2010-12-22 10:21:17

ความคิดเห็นที่ 11 (2138671)

ปกติ เขาว่ากันว่า การคิดต่าง ยังไงเราไม่ควรที่จะกล่าวตำหนิ จริงไหม

แต่นี่ ตายห่า ของอุทานแรง ๆ หน่อยเหอะ

คนอย่างความเห็นที่ 10 นี่ไงล่ะ ตัวอย่างชั้นเลิศของพวกมือยาวที่สาวจนคนที่มีความตั้งใจดี ๆ แต่ไม่มีพลังต้องเอือมระอากับความโลภและ "การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม" ที่พวกมันทำโดยที่คนอย่างเรา ๆ ได้แต่นั่งมองตาปริบ ๆ

พอเราทนไม่ได้ก็เรียกร้อง จริงไหม พวกมันก็หาว่าเราเป็นพวกเอาแต่สิทธิแต่ไม่รู้จักหน้าที่

ความเห็นที่ 10 หัดเปิดกะโหลกแล้วก็ไปแหกตาดูนะว่าประเทศอันเจริญแล้วเค้ามีกฎหมายปกป้องต้นไม้ใหญ่ ไม่ว่าจะอยู่ ณ แห่งหนตำบลใด หน้าบ้าน หรือที่ใคร เขาถือว่าเป็นของชาติ ขนาดจะไปตัดกิ่ง แต่งกิ่งยังทำไม่ได้เลย ต้องให้ผู้มีใบประกอบวิชาชีพตัดกิ่งไม้ทำได้เท่านั้น และต้องได้รับการอนุญาตอย่างอุตลุต.......นี่แค่แต่งกิ่งนะ

ถ้ายังจะแถสีข้างเถียงต่อ ผมจะเอาบทความภาษาอังกฤษมาแปะให้ถึงวิธีการเช็คว่าต้นไม้ในบ้านเรานั้น รัฐคุ้มครองหรือไม่ ต้นไม้มีสิทธิ์อะไรบ้าง ถ้าคุณยังพอจะมีปัญญาอ่านภาษาอังกฤษนะ

(เบะปากใส่ความเห็นที่สิบ และเจ้าของบทความด้วยความสมเพช แล้วเดินออกจากกระทู้ด้วยความเอือมระอา)

ผู้แสดงความคิดเห็น กรวดน้ำ วันที่ตอบ 2010-12-22 13:06:24

ความคิดเห็นที่ 12 (2138779)

จะมาแสดงความคิดเห็น หรือจะมาด่ากันครับ เนี่ย

ผู้แสดงความคิดเห็น คว่ำขัน วันที่ตอบ 2010-12-22 19:01:55

ความคิดเห็นที่ 13 (2138845)

แล้วท่านเจ้าของความคิดเห็นที่ 12 จะมีอะไรที่กล่าวแล้วเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองมากกว่าคำอุทานด้วยความตกใจคาดไม่ถึงแบบว่าไม่ทันได้ตั้งตัวตั้งใจไว้เลยต้องอุทานแบบไม่มีความหมายใดๆ เลยแบบนี้บ้างล่ะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ขันคว่ำ... ฮา... วันที่ตอบ 2010-12-22 22:45:17

ความคิดเห็นที่ 14 (2138854)

ขอเสนอทางออกที่น่าจะเป็นที่พอใจตามความเชื่อของทั้งสองฝ่าย เข้าได้กับกลไกการปกครองยุคสมัยปัจจุบันนี้ด้วย

ให้ฝ่ายอนุรักษ์ทำพิธีบวชต้นไม้ ปลุกเสก ลงยันต์ สาปแช่ง สลักไว้ที่ต้นไม้ทุกต้นว่าใครมาตัดขอให้มีอันเป็นไปในสามวันเจ็ดวันและไม่เจริญรุ่งเรืองไปชั่วลูกชั่วหลาน พบความหายนะไม่รู้จบ ตายไร้สาเหตุเจ็ดชั่วโคตร ฯลฯ ออกสื่อให้เป็นที่รู้กัน แล้วก็สบายใจได้ว่าได้ทำความดี ทำกุศลแล้วเพื่อช่วยต้นไม้

ส่วนฝ่ายทุนนิยมวัตถุจะเชื่อไม่เชื่อก็ไม่ว่ากัน ถือว่าวัดใจ อยากตัดก็ตัดไป ส่วนจะเป็นไปตามคำแช่งหรือไม่ ถ้าเชื่อก็รอสะใจไปแล้วกัน

สิ่งศักดิสิทธิ์ไม่เข้าข้างคนผิด เทวดาอารักษ์จะช่วยฝ่ายที่ถูกเสมอ จะไสยศาสตร์หรือจิตวิทยาการสะกดจิตความงมงายการโฆษณาชวนเชื่อ ศรัทธาทางไหนก็อธิบายไปทางนั้น นะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ok วันที่ตอบ 2010-12-22 23:32:16

ความคิดเห็นที่ 15 (2138896)
ความคิดเห็นที่ 10 ก็เปิดกะลาออกมาดูความจริงของโลกบ้างสิ อย่าเอาตามต่างประเทศเหมือนพวกบ้าเมืองนอกจ๋าหน่อย อ่านภาษาอังกฤษได้มันไม่ได้แปลว่าฉลาด เพราะคนขอทานหรือพวกโง่ๆที่พูดภาษาอังกฤษได้มีทั่วโลกน่ะแหละ ไปถามคนเผาถ่านซิว่าทำไมเขาต้องเผาถ่าน ทำไมต้องตัดไม้ ลองศึกษาการสร้างทางรถไฟในอดีตดูซิ ว่ามีการตัดไม้เท่าไหร่ ถ้าตัดโดยไม่มีเหตุผลก็ว่าไปอย่าง คนที่ตัดเขาชั่งเหตุผลดูแล้วโว้ย ไอ้ควายยยยยยยยยย
ผู้แสดงความคิดเห็น คห.ที่ 10 วันที่ตอบ 2010-12-23 09:18:14

ความคิดเห็นที่ 16 (2138897)
แก้ไข....ความคิดเห็นที่ 15 ต้องการว่าความคิดเห็นที่ 11
ผู้แสดงความคิดเห็น คห.ที่ 10 วันที่ตอบ 2010-12-23 09:19:43

ความคิดเห็นที่ 17 (2138917)

คุณคว่ำขัน....ฮา

ผมก็มีความคิดเห็นเหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจนักว่าคนที่เห็นด้วยจะเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ คือตัดต้นไม้ลงบ้าง นายทุนก็ใช้ที่ดินได้อย่างคุ้มค่า แล้วจัดสรรที่บางส่วนปลูกต้นไม้ทดแทนอย่างมีแผนผัง ในการปรับปรุงพื้นที่ถ้าต้นไหนเขียนแบบให้หลีกเลี่ยงได้ก็พยายามเว้นไว้

ส่วนต้นไม้ต้นที่โดนตัดก็ให้ฝ่ายอนุรักษ์ นำไปทำเป็นวัตถุมงคล เช่นปลัดขิก รักยม กุมารทอง นกคุ้ม กาหลง แล้วก็ ฯลฯ ปลุกเสกลงเลขยันต์ น่าจะศักดิ์สิทธิ์เพราะมีอายุนับ ๑๐๐ ปี เปิดให้เช่าบูชา หารายได้ได้อีกนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คว่ำขัน วันที่ตอบ 2010-12-23 10:40:22

ความคิดเห็นที่ 18 (2139101)

แวะเข้ามาปรายตามองด้วยความสมเพชไปยัง ดร.เจ้าของกระทู้ ที่ปลอมชื่อมาปกป้องบทความตัวเองชนิดที่เรียกว่าเนื้อตัวสั่น ดิ้นแพร่ด ๆ เหมือนไส้เดือนโดนน้ำแฟ้บ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันรู้หน้าที่พอ ๆ กับสิทธิที่พลเมืองไทยพึงมี วันที่ตอบ 2010-12-23 19:50:25

ความคิดเห็นที่ 19 (2139148)

เห็นด้วยกับ คห.ที่ 18 นะ

ก็ขนาดว่า "ขันคว่ำ" หรือ "คว่ำขัน" ก็ยังตกใจขนาดเรียกผิดเรียกถูก

"คว่ำขัน" น่ะ คห.ที่ 12 แกตกใจว่าเข้ามาแสดงความคิดเห็นหรือว่ามาด่า

ส่วน "ขันคว่ำ... ฮา..." นั้น คห.ที่ 13 เขาแปลกใจที่ คห. 12 ตกใจจนเนื้อตัวสั่น

แล้ว คห.ที่ 17 ก็มาใช้ชื่อว่า "คว่ำขัน" แล้วก็พูดถึงคนชื่อคล้ายๆ ตัวเองอีก แล้วก็พูดถึงคนชื่อ "คว่ำขัน...ฮา..." ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเขาใช้ชื่อว่า "ขันคว่ำ...ฮา..." ตะหาก

แสดงว่าท่าน คห.ที่ 18 น่ะ น่าจะต้องเป็นท่าน ดร.เจ้าของกระทู้น่ะเอง .... ตกใจไขนหนาด (อ่านว่า ขะ... ไหน... หนาด...) สงสัยว่าจะตกใจมากๆ ....

ถ้าไม่ใช่เพราะตกใจ รีบเข้ามาปกป้องบทความของตัวเองจนตัวสั่นแพรดๆ เรียกชื่อโน้นนั้นนี้นู้นผิดแล้วผิดอีก แล้วจะให้เรียกว่าอะไรหว่า....

กำลังสงสัยว่าท่านรักชาติบ้านเมืองจนน้ำลายไหลหรืออย่างไร ฮา....

ผู้แสดงความคิดเห็น ขันคว่ำ... ฮา... วันที่ตอบ 2010-12-23 22:52:21

ความคิดเห็นที่ 20 (2139852)
อารยะ...เสื่อม
ผู้แสดงความคิดเห็น หนุ่มราศีกันย์ วันที่ตอบ 2010-12-26 22:57:01

ความคิดเห็นที่ 21 (4082655)
I would like this!!! Maillot Juventus Pas Cher http://www.maillotdefoot-euro.com/maillot-juventus-c-3_81
ผู้แสดงความคิดเห็น Maillot Juventus Pas Cher (agqcvyxame-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2016-10-15 10:19:46

ความคิดเห็นที่ 22 (4085591)
Great, thanks for sharing this blog.Thanks Again. Maillot Arsenal Pas Cher http://www.maillotdefoot-euro.com/maillot-arsenal-c-3_11
ผู้แสดงความคิดเห็น Maillot Arsenal Pas Cher (nllsqhyndj-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2016-10-24 19:30:47

ความคิดเห็นที่ 23 (4104132)
Thanks for the post. awesome! LIGA SAGRES http://www.coool-shop.com/61-liga-sagres
ผู้แสดงความคิดเห็น LIGA SAGRES (gnrnfp-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2016-12-12 11:26:25

[1]

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *

ผู้แสดงความคิดเห็น *
อีเมล
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล