๐ แวะมาอ่านงานครูอีกผู้หนึ่ง

ที่ยังทึ่งทุกครั้งหลังจากอ่าน

ผมคนเขลาเยาว์วัยไม่ชำนาญ

มาเก็บสารคงไม่ว่าผมนะครับ...

นึกว่า ละครช่อง 3 เสียอีก  อวสานแล้วนะครับ

งง กริบ

ขอเชิญ ท่านผู้เจริญ อธิบายขยายความ ให้กระจ่างตามเหตุผลและปลอบโยนจิตสำนึกของกระผมอีกสักคน

ให้ได้ค้นได้พบความเป็นจริง

ด้วยความเคารพ

หนุ่มราศีกันย์ งง อะไรหรือ?

กลอนนี้ของท่านสมศักดิ์ เป็นมุกตลกเสียดสี อ่านง่าย ด้วยฝีมือระดับครู

"มีผู้ชายวัยฉกรรจ์ล่ำสันนัก" ยืนอยู่แถวๆ เมืองเก่าอยุธยา พูดด้วยท่าทางจริงจัง ตามบทที่เน้นสีทึบ แล้วคนที่เดินผ่านแทนที่จะใส่ใจก็กลับส่ายหัว แล้วก็ว่าไอ้นี่ไม่บ้าก็เมา ...

งานสมบูรณ์ในตัวแล้วครับ ทั้งรสความและรสคำ

จะถามว่ามีอะไรใหม่หรือ ก็มีในประเด็นการเสียดสีเรื่องการอนุรักษ์โบราณสถาน ที่สะท้อนว่าปัจจุบันหากใครสักคนจะตั้งใจทำอย่างจริงจัง กลับถูกคนมองเหมือนเป็นคนบ้า ... แล้วจะมีสักกี่คนในประเทศนี้ ที่จะเข้าไปอนุรักษ์อย่างจริงจัง สมกับการเป็นมรดกโลก ของไทยที่แท้จริง ดูแลของที่มีอยู่ น่าจะมีประโยชน์โภชน์ผลมากกว่า ไปเรียกร้องในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง อย่างบางกลุ่มที่กำลังทำอยู่ มิใช่รึ?

อนุรักษ์ของดี ๆ กันไว้บ้างครับ

ให้กำลังใจกับผู้สร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ทุกท่านครับ

ต้องขอกราบแทบเท้าคุณ ศาลายา ด้วยความเคารพนับถืออย่างถึงที่สุดนะครับ

ที่มันสมองต่ำต้อยของผมมันไม่อาจจะรับรู้และเข้าใจได้

พอดีผมอ่านแล้วรู้สึกประหลาดใจ ว่ามีมุกตลกสอดแซกอยู่

แต่ด้วยความเขลา ไม่สามารถลิ้มรสความเป็นกวีนิพนธ์ได้มากสักเท่าไร

จึงมาขอความกรุณา ท่านทั้งหลายให้ขยายความเท่านั้นนั้น

ด้วยความเคารพ ท่าน อ.สมศักดิ์

ผมผู้น้อย สงสัยอายุสมองจะตามอายุตัวไม่ทัน

ด้วยความเคารพ

                   คนเข้าใจบอกว่าไม่เข้าใจครับ

            คนที่รับว่าเข้าใจก็ให้ฉงน

            คนอ่านกลอนก็ยังพานไปอ่านคน

            ทำยังไงจะให้พ้นคนรู้ทัน

ผมเข้าใจท่านหนุ่มราศีกันย์อยู่หรอกว่าซ่อนอะไรไว้ในคำถาม

แต่ความโง่มีมากจึงได้แต่อวดโง่ออกไป

ไม่เข้าใจแต่ว่าทำไมในเว็บนี้ หลายท่านไม่ค่อยแสดงสิ่งดีงาม

หากมีแต่เสียดสี ไม่ให้กำลังใจกันและกัน สังคมก็จะจมอยู่ในความโง่งมงายไม่รู้จักจบสิ้น

ผมยอมเป็นคนโง่ และพร้อมจะตอบคำถามโง่ ๆ ทุกคำถามครับ

หวังว่าอย่างน้อย ก็ได้เผยสิ่งที่รู้เพียงน้อยนิดออกไป

คิดว่าคงเป็นประโยชน์ต่อสังคม มากกว่าคนที่ฉลาดๆ แต่ไม่ยอมแสดงสิ่งที่ฉลาดๆ ให้คนอื่นได้ประโยชน์บ้าง

ผิดพลาดประการใด ขออภัยผู้รู้ทุกท่านครับ

       ผมว่าเรามองโลกด้านไหน เราก็จะได้อารมณ์นั้น 

ดังนั้นเรามามองโลกด้านสนุก ๆ ดีกว่า เพื่อที่เราจะได้อารมณ์ขัน (ขันติ) ไง

.

ต่อเติมเสริมแต่ง คห.6 (ท่านศาลายา)

    สั้นๆ กระชับ..... สะใจ และ เห็นด้วย....

    เท่าที่เข้ามาแวะชม ส่วนใหญ่ก็มักจะเห็นแต่ข้อความแบบที่ท่านว่า.... ทำไมคนในสมาคมนี้จึงเป็นแบบนี้

    คนที่ดีๆ ก็น่าจะมีอยู่ แต่แปลกใจที่เงียบเฉย ก็เลยกลายเป็นส่งเสริมให้คนคิดเลวๆ เขียนเลวๆ เป็นตัวแทนออกหน้า

    ก็เลยกลายเป็นว่า ..... เลวกันทั้งสมาคม.... หรืออย่างไร.....

   แล้วเด็กๆ เยาวชนทั้งหลายที่เข้ามาเยี่ยมชม เขาจะคิดอย่างไร ก็ไม่รู้.....

   ต้องขออภัยที่ต้องแสดงความเห็นเช่นนี้.... เพราะตลอดเวลาที่ผ่านๆ มา ก็เห็นเป็นแบบนี้มาตลอด.... รำคาญใจ และ สะอิดสะเอียน....

   แต่งกลอนกันสละสลวย แต่จิตใจตรงกันข้าม....

ไม่อายเด็กๆ เยาวชนกันบ้างหรือไร.

เมื่อเห็น "ทุกข์" ตถาคตให้ย้อนไปดู "สมุทัย" แล้วดำเนิน "มรรค" เพื่อ "นิโรธ" ให้ถูกต้องแท้...

เว็บนี้...เปิดทางที่หละหลวมให้ใครก็ได้แฝงนามส่งผ่านถ้อยคำและความคิดตลอดจนอะไรๆ ต่อมิอะไรที่แฝงเร้นเพ่นพ่านผ่านจอ โดยที่ผู้ดูแลซึ่งคงจะมีเวลาตรวจตราไม่เพียงพอและถ้วนถี่ปล่อยปละละเว้นที่จะรักษามาตรฐาน "จริยสัมมาปัญญา" แห่งสุภาพชน ส่งผลให้ภาพพจน์ที่พึงประสงค์ตามที่ผู้มีจิตปรารถนาดีงามคาดหวังนั้นพร่ามัวไป...

ดังนั้น ความเห็นนี้จึงใคร่ขอเสนอแนะให้ท่านนายกสมาคมฯ หารือกับผู้ชำนาญการด้านเว็บบล็อกปรับปรุงมาตรการในการโพสต์กระทู้และความเห็นให้สามารถเห็นตัวเห็นตนจริงๆ ของผู้โพสต์ด้วย เช่น..

๑.แม้ว่าอาจให้ใช้นามแฝงได้ ก็ต้องเป็นนามแฝงที่ลงทะเบียน ที่มีนามจริงและหลักฐานที่อยู่รวมทั้งเลขบัตรประชาชนยืนตัวตนได้

๒.ในกรณีเกิด "วิวาทะทางปัญญา" ให้คู่วิวาทะสามารถขอทราบนามแท้จริงของกันและกันได้ ไม่ว่าจะโดยวิธีการใดทางเทคนิกเว็บก็ตาม ทั้งนี้เพื่อให้ผู้แสดงวิวาทะหรือ "วาทกรรม" ทางปัญญาได้ตระหนักถึงความจริงใจ วุฒิภาวะ และประโยชน์แห่งสาธารณปัญญาอย่างแท้จริง

นี่คือ "มรรค" แห่งเรา...

ข้าพเจ้าผู้แสดงความเห็นนี้ยินดีที่จะเปิดเผยตัวตน-เมื่อถึงวันนั้น...วันที่เว็บสมาคมฯ มีมาตรการปกป้องความดีงามดังกล่าว

สวัสดีครับ

               เห็นด้วยกับทุกความเห็นครัีบ แต่ผมก็มีความเห็นเป็นของผมเหมือนกัน (ที่ไม่เหมือนกัน) ดังนี้ครับ

               - ถือตามแนวทางท่านพุทธทาส เลือกเอาแต่แง่มุมที่ดี ส่วนอื่น ๆ เป็นเพียงส่วนประกอบของเขา ที่ช่วยสอนเราเองว่าอันไหนดีกว่า "เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู"

               - หอมก็ดม  สวยก็ชม  ครับ

               - คุณคห. ด้วยความเคารพ ครับ  วิธีนั้นมันขึ้นอยู่กับกาลเทศะ จะว่าดีก็ดี แต่มันจะน่าเสียดาย ที่ทำให้ใครบางคนจำต้องแสดงออกแบบไม่ตรงกับใจ ผมเสียดายความคิดที่เป็นรากเง้าบริสุทธิ์ ๆ สู้เราปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เหมือนคนขุดแร่ ขุดแล้วค่อยมาร่อนเอาที่หลัง ทำให้เรา หรือผู้ที่ผ่านเข้ามาได้ศึกษาในหลาย ๆ แง่มุึม คนแต่ละคนไม่เหมือนกันสักคนแหละครับ เพื่อนผมที่บ่อพลอย เมืองกาญจน์ ขุดดินซะหลายตัน กว่าจะได้พลอยงาม ๆ สักเม็ด เพราะมีรสขม เราจึงรู้จักรสหวาน และอย่าอ่านเลยพาดพิงไปถึงผู้รับผิดชอบเลยครับ ปล่อยให้จิตสำนึกของเจ้าตัวเป็นผู้รับผิดชอบเองเถอะ จะชอบธรรมกว่า

นี้ ผม ผิด หรอ

อิอิ

งั้นก็แปลว่าคุณ เป็นครู อ่ะอ่ะ