การศึกษาซึ่งเป็นครั้งแรกที่สร้างภาพวิทยุของ Andromeda ที่ความถี่ไมโครเวฟ 6.6 GHz นำโดยนักฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย Sofia Fatigoni กับเพื่อนร่วมงานที่ Sapienza University of Rome และสถาบันดาราศาสตร์ฟิสิกส์แห่งชาติอิตาลี มันถูกตีพิมพ์ออนไลน์ในดาราศาสตร์และฟิสิกส์ดาราศาสตร์

"ภาพนี้จะช่วยให้เราสามารถศึกษาโครงสร้างของแอนโดรเมดาและเนื้อหาของแอนโดรเมดาในรายละเอียดมากกว่าที่เคยเป็นมา" ฟาติโกนี นักศึกษาปริญญาเอกในภาควิชาฟิสิกส์และดาราศาสตร์ของ UBC กล่าว "การเข้าใจธรรมชาติของกระบวนการทางกายภาพที่เกิดขึ้นในแอนโดรเมดาทำให้เราเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในกาแลคซีของเราได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ราวกับว่าเรากำลังมองตัวเองจากภายนอก"

ก่อนการศึกษานี้ ไม่มีแผนที่ใดที่จับภาพพื้นที่กว้างใหญ่ของท้องฟ้ารอบๆ ดาราจักรแอนโดรเมดาในความถี่คลื่นไมโครเวฟระหว่าง 1 GHz ถึง 22 GHz ได้ ในช่วงนี้ การแผ่รังสีของดาราจักรนั้นจางมาก ทำให้ยากต่อการมองเห็นโครงสร้างของดาราจักร อย่างไรก็ตาม เฉพาะในช่วงความถี่นี้เท่านั้นที่สามารถมองเห็นคุณลักษณะเฉพาะได้ ดังนั้นการมีแผนที่ที่ความถี่เฉพาะนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำความเข้าใจว่ากระบวนการทางกายภาพใดกำลังเกิดขึ้นภายใน Andromeda

เพื่อที่จะสังเกต Andromeda ที่ความถี่นี้ นักวิจัยจำเป็นต้องมีกล้องโทรทรรศน์วิทยุแบบจานเดียวที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ สำหรับการศึกษานี้ นักวิทยาศาสตร์ได้หันไปใช้กล้องโทรทรรศน์วิทยุซาร์ดิเนีย ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์แบบบังคับทิศทางได้ขนาด 64 เมตร ซึ่งสามารถทำงานได้ที่ความถี่วิทยุสูง

กล้องโทรทรรศน์วิทยุซาร์ดิเนียใช้เวลาสังเกตการณ์ 66 ชั่วโมงและการวิเคราะห์ข้อมูลที่สอดคล้องกันเพื่อให้นักวิจัยทำแผนที่ดาราจักรที่มีความไวสูง จากนั้นพวกเขาสามารถประมาณอัตราการก่อตัวดาวฤกษ์ภายในแอนโดรเมดา และสร้างแผนที่รายละเอียดที่เน้นดิสก์ของดาราจักรเป็นบริเวณที่เกิดดาวดวงใหม่

ดร. Elia Battistelli ศาสตราจารย์กล่าวว่า "การรวมภาพใหม่นี้กับภาพที่ได้มาก่อนหน้านี้ เราได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีนัยสำคัญในการชี้แจงธรรมชาติของการปล่อยคลื่นไมโครเวฟของ Andromeda และช่วยให้เราแยกแยะกระบวนการทางกายภาพที่เกิดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ ของกาแลคซีได้" ในภาควิชาฟิสิกส์ที่ Sapienza และผู้ประสานงานการศึกษา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราสามารถระบุเศษส่วนของการปล่อยก๊าซเนื่องจากกระบวนการทางความร้อนที่เกี่ยวข้องกับสถานีแรกเริ่มของการก่อตัวดาวฤกษ์ใหม่ และเศษส่วนของสัญญาณวิทยุที่เกิดจากกลไกที่ไม่เกี่ยวกับความร้อนอันเนื่องมาจากรังสีคอสมิกที่หมุนวนในสนามแม่เหล็กที่มีอยู่ ในสสารระหว่างดาว” ฟาติโกนีกล่าว

สำหรับการศึกษานี้ ทีมงานได้พัฒนาและใช้งานซอฟต์แวร์ที่อนุญาตให้ทดสอบอัลกอริธึมใหม่ๆ เพื่อระบุแหล่งกำเนิดการปล่อยมลพิษที่ต่ำกว่าที่ไม่เคยได้รับการตรวจสอบมาก่อนในด้านการมองเห็นรอบๆ แอนโดรเมดาที่ความถี่ 6.6 GHz จากแผนที่ผลลัพธ์ นักวิจัยสามารถระบุแคตตาล็อกของแหล่งกำเนิดจุดประมาณ 100 จุด ซึ่งรวมถึงดาว กาแล็กซี และวัตถุอื่นๆ ในพื้นหลังของแอนโดรเมดาjokergame สล็อตออนไลน์