หน้าหลัก | ข้อมูลสมาคม | บทความ | บทร้อยกรอง | ข่าวสารประชาสัมพันธ์ | กิจกรรม | กระทู้ | หนังสือ | ร้อยกรองออนไลน์ |
เบิกทรัพย์วันละบาทซื้อ มังสา | |
ชื่อ: สุพิชญา
"ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี ทรงปรารภภิกษุผู้ว่ายากรูปหนึ่ง ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในเมืองพาราณสีมีพราหมณ์ผู้รู้มนต์คนหนึ่งชื่อเวทัพพะ สามารถร่ายมนต์เรียกฝนเงินฝนทองให้ตกลงมาได้ พราหมณ์มีลูกศิษย์อยู่คนหนึ่ง วันหนึ่งอาจารย์และลูกศิษย์ได้เดินทางไปทำธุระที่แคว้นเจตี พอไปถึงป่าในระหว่างทางถูกโจรจับเรียกค่าไถ่ ทำเนียมของโจรพวกนี้คือเมื่อจับผู้คนได้แล้ว ถ้าเป็นแม่กับลูกสาวจะปล่อยแม่ไป ถ้าเป็นพี่กับน้องจะปล่อยพี่ไป ถ้าเป็นอาจารย์กับลูกศิษย์ จะปล่อยลูกศิษย์ไป ลูกศิษย์ก่อนแต่จะออกเดินทางไป ได้กระซิบเตือนอาจารย์ว่า " อาจารย์ครับ ผมจะไปสักสองสามวันเท่านั้น อาจารย์อย่าได้หวั่นไปเลย และวันนี้จะมีฤกษ์ดี ท่านอย่าได้ไร้ความอดทน ร่ายมนต์ให้ฝนเงินฝนทองตกลงมาเป็นอันขาด เพราะพวกโจรจักฆ่าท่านเสีย " ฝ่ายพวกโจร พออาทิตย์ตกดินก็จับมัดพราหมณ์ให้นอนอยู่ ขณะนั้น พระจันทร์เต็มดวงก็โผล่ขึ้น พราหมณ์ เห็นเช่นนั้นก็คิดได้ว่า " ฤกษ์ที่จะทำให้ฝนเงินฝนทองตกลงมามีแล้ว เราจะมานอนทนทุกข์ทรมานอยู่อย่างนี้ทำไม ร่ายมนต์เรียกฝนเงินฝนทองตกลงมามอบทรัพย์ให้โจรแล้ว ให้พวกมันปล่อยเราไปจะดีกว่า " จึงเรียกโจรมาบอกให้ปล่อยตนแล้ว นั่งประกอบพิธีร่ายมนต์แหงนดูดาวเรียกฝนเงินฝนทองให้ตกลงมา พวกโจรพากันเก็บรวบรวมทรัพย์ใส่ห่อผ้าแบกหนีไป ฝ่ายพราหมณ์ก็เดินตามไปข้างหลัง ขณะนั้น ได้มีโจรอีกกลุ่มหนึ่งพากันจับโจรพวกที่หนึ่งไว้ โจรกลุ่มที่หนึ่งจึงบอกให้จับพราหมณ์ที่เดินตามหลังมา เพราะทรัพย์นี้พราหมณ์เป็นผู้เรียกมาให้ จะเอามากเท่าใดก็ได้ พวกโจรกลุ่มนั้นจึงปล่อยโจรกลุ่มที่หนึ่งไป จับพราหมณ์แล้วบังคับให้เรียกฝนเงินฝนทองตกลงมาให้ พอได้ยินพราหมณ์ตอบว่าไม่สามารถเรียกฝนเงินฝนทองได้อีก ปีหนึ่งสามารถเรียกได้ครั้งเดียวเท่านั้น ต้องรอจนถึงปีหน้า ด้วยความโกรธหัวหน้าโจรจึงฟันพราหมณ์ตายคาที่ แล้วรีบติดตามโจรกลุ่มที่หนึ่งไป ทำการชิงทรัพย์และฆ่าโจรกลุ่มที่หนึ่งตายหมดสิ้น ในระหว่างที่เก็บรวบรวมทรัพย์อยู่นั้นพวกโจรเกิดแตกคอกันเรื่องการแบ่งทรัพย์ จึงเกิดการต่อสู่กันเองจนในที่สุดเหลือโจรเพียง ๒ คนเท่านั้น โจรทั้ง ๒ คน ได้นำเอาทรัพย์ไปซ่อนไว้ในป่าใกล้หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ด้วยความหิวจึงให้โจรคนหนึ่งนั่งเฝ้าทรัพย์ไว้ อีกคนเข้าไปหาอาหารในหมู่บ้าน " ธรรมดาความโลภเป็นต้นเหตุแห่งความพินาศ " โจรที่นั่งเฝ้าทรัพย์ก็คิดด้วยความโลภว่า " ถ้ามีมัน ก็ต้องแบ่งทรัพย์เป็นสองส่วน พอมันมาถึง เราจะฆ่ามันด้วยการฟันครั้งเดียว " ฝ่ายโจรอีกคนก็คิดเช่นเดียวกัน พอได้อาหารแล้วก็รีบกินเสียก่อน ส่วนที่เหลือก็ใส่ยาพิษไว้ ถือเดินไปหาโจรที่เฝ้าทรัพย์ พอก้มลงวางอาหารเท่านั้นก็ถูกฟันตายคาที่ โจรนั้นได้นำศพเพื่อนไปทิ้งแล้วกลับมากินอาหาร ตนเองก็เสียชีวิตในที่นั้นนั่นเอง คนทั้งหมดได้ถึงความพินาศเพราะอาศัยทรัพย์นั้นด้วยประการฉะนี้ สองสามวันต่อมา ลูกศิษย์ได้ถือเอาทรัพย์กลับมาแล้วไม่พบอาจารย์ในที่นั้น เห็นแต่ทรัพย์กระจัดกระจายอยู่ จึงทราบเหตุการณ์ เดินผ่านไปเห็นอาจารย์นอนตายอยู่ และซากศพโจรอีกจำนวนหนึ่ง จึงกล่าวเป็นคาถาว่า " ผู้ใด ปรารถนาประโยชน์ โดยอุบายอันไม่แยบยล ผู้นั้น ย่อมเดือดร้อน เหมือนโจรชาวแคว้นเจตะ ฆ่าพราหมณ์เวทัพพะเสียแล้ว ก็พลอยถึงความ พินาศทั้งหมด " นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความโลภเป็นหนทางแห่งความฉิบหาย (วายวอด)" (2) | |
ผู้ตั้งกระทู้ กวิน :: วันที่ลงประกาศ 2008-10-14 01:29:41 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1849606) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กวิน วันที่ตอบ 2008-10-14 01:30:49 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2107253) | |
replica louis vuitton handbags chanel bags offers the same casual versatility louis vuitton like Buckles buttons chains are louis vuitton handbag louis vuitton fake. | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ration (emil-at-mail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-11 08:56:19 |
ความคิดเห็นที่ 3 (2130060) | |
เวร | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 222 วันที่ตอบ 2010-11-20 10:36:08 |
ความคิดเห็นที่ 4 (2130061) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 2514 วันที่ตอบ 2010-11-20 10:36:52 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 870539 |