ReadyPlanet.com


กลัวกลัวจัง


   ...….เสียงสะท้อน.....

 

…เสียงสะท้อนร้อนทุกข์เริ่มปลุกปั่น

ความสุขสันต์บางบางเริ่มจางหาย

โลกระอุคุร้อนไม่ผ่อนคลาย

คนกระหายวัตถุบ้าดุดัน..

..โลกวิวัฒน์รัดดึงมาขึงแน่น

ลิงโลดแล่นลุ่มหลงงงมหันต์

แผ่อำนาจบาทใหญ่บรรลัยทันฑ์

ตลกขันไม่ออกโศกพอกพูน

…เด็กกำพร้าตาดำชอกช้ำจิต

เข็มชี้ทิศไม่มีฤดีสูญ

อยู่อย่างไร้เมตตาคนอาดูร

เหมือนใต้ฝุ่นพัดเรือไม่เหลือพาย

...เสียงระงมขมขื่นเหมือนหื่นจับ

ยู่ยี่ยับยากเย็นโยงเส้นสาย

จิตชำรุดทรุดฮวบเจียนจวบตาย

ใคร่กระหายเสพติดมากพิษภัย

....เสียงสะท้อนร้อนจิตเลิงฤทธิ์เดช

เกิดอาเพศผิดแผกซึมแทรกไหล

เย้ายั่วยุปลุกปลั่นจนบันลัย

กลิ่นคาวใคร่ไล่ต้อนไม่หย่อนหยุด

...เสียงสะท้อนนอนสุขมาปลุกเถิด

เลิกละเมิดก่อกรรมระห่ำยุทธ

เสียงธรรมะคละเคล้าความเศร้าสุด

คนผ่องผุดสุขสันต์สวรรค์รอ...

 



ผู้ตั้งกระทู้ ภัทราจิตร (lawyer_tui-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2008-09-04 11:29:22


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1831169)

         มาสิมา

...มาสิมาข้าจะปันสวรรค์ให้

มาอยู่ในกรุงเทพฯเสพสวรรค์

มาสิงสู่เมืองม่านหม่นหมอกควัน

มาดูวันมัฆวานโอฬารตา

...อยู่ด้วยกันก่อนสิอย่าปลิแตก

อยู่ด้วยกันแต่แรกอย่าแหกขา

อยู่เป็นเพื่อนปลอบขวัญกัลยา

อยู่รอถ้าขึ้นสวรรค์ไต่บันได

..มาค้นคำนิยามนามเมืองหลวง

มาคว้าดวงดาวเด่นเพ็ญสมัย

มาปรับตัวแต่งตนปะปนไป

มาสวมใส่ชุดสวยเมืองรวยเงิน..

....มาจากถิ่นทั่วทิศเชิญติดต่อ

มายกยอปอปั้นยศสรรเสริญ

มาหาความเลอเลิศเล็งเพลิดเพลิน

มามาเดินดุ่มดุ่มชุมนุมพล..

...มาเป็นสาวโรงงานตำนานรัก

มาถีบจักรถักสร้อยมาร้อยสน

มาเป็นเด็กตามอู่รู้เครื่องยนต์

มาเป็นคนขนข้าวให้เขากิน

....มาเป็นนักกีฬาค้ากำปั้น

มาเป็นนักนวดคั้นวันถวิล

มาล้างขาขัดแงะแคะขี้ตีน

มาเต้นดิ้นตามบาร์เริงราตรี..

....มาเป็นนักขายเสียงพิณสวรรค์

มาถือขันขอทานย่านวิถี

มาขายค้าส้มตำยำหัวปลี

มาเป่าปี่สีซออีอ้ออี๋ออ..

....มาสิมาข้าจะปันสวรรค์ให้

มาสวมใส่สายเดี่ยวเสียวหลุดหนอ

มาดูหนุ่มหน้าสิงห์ลิงชีกอ

มาดูพวกเจ้าพ่อขี่คอคน..

....มาเป็นเพื่อนบ้านกันมองหันห่าง

มาอยู่ข้างติดฝาหน้าไม่สน

มามีหมาเหมือนมิตรเลี้ยงติดตน

มาเป็นคนแปลกหน้ามาไวไว

...มาดูหนูซุกซนค้นขยะ

มาดูสระอโนดาตขาดน้ำใส

มาดูคนหน้าสวยม้วยน้ำใจ

มามองให้เต็มหน้าจนตาโปน

...มาสิมาศึกษาวิชาศาสตร์

มาเป็นปราชญ์หัวใสใส่หัวโขน

มาโห่ร้องผลักไสไล่ตะโกน

มาขุดโค่น”ส.ส.”ขี้ฉ้อบรรลัย

...มาสิมาเป็นดารามายาอวด

มาประกวดโฉมงามตามสมัย

มาหาคู่ควงแขนแฟนจริงใจ

มาเสพใคร่สมสุขสนุกดู

...มาสิมาข้าจะปันสวรรค์ให้

มาหลงใหลเหลวแหลกมาแถกถู

มาถือครองอัตตาตนตัวกู

มาต่อสู้หากินรนดิ้นโกย

..มาเป็นเศรษฐีนีหนี้เงินผ่อน

มาตะลอนรับจ้างอย่างหิวโหย

มาดึงหน้าเหน็บหูให้ดูไม่โรย

มาร้องโวยก่นด่าคราฝนหนัก

...มาสิมาข้าจะปันสวรรค์ให้

มาหาในเมืองนี้นะที่รัก

มาเป็นคนดีดีอย่าผีผลัก

มาเป็นนักต่อสู้อหิงสา..
ผู้แสดงความคิดเห็น ภัทราจิตร วันที่ตอบ 2008-09-04 11:39:12


ความคิดเห็นที่ 2 (1831209)

.....มันอีกแล้วแห้วรอใจห่อเหี่ยว

มันไม่เลี้ยวหลบหนีฤดีหืน

มันจึงจุกจมนั่งไร้หวังยืน

มันจึงขื่นขื่นขมนอนทรมซาน

...มันไม่รู้เมื่อไหร่ใครจะช่วย

มันเหมือนมวยหมดท่าไม่กล้าหาญ

มันเหมือนกลืนกินท้อทรมาน

มันเหมือนบ้านทั้งหลังจะพังเพ..

....มันมึนงงหลงเสพสิ่งเสพติด

มันออกฤทธิ์ทุรนเดินวนเป๋

มันหมดสิ้นพลังเดินหลังเซ

มันโมเมมึนเมาจนเฉาตาย

“”””มันไม่ลดโทษหย่อนยอมผ่อนผัด

มันมามัดมือเราเอาไปขาย

มันหมกเหม็นเหมือนหมาชีวาวาย

มันไม่หมายเมียงมองมันยังมา..

“”””มันแน่แน่แต่เรื่องเปลืองกระดาษ

มันรุกฆาตฟาดหนักชิงหักขา

มันเหมือนเหมือนลางเลือนทำเบือนตา

มันมุสาหาสวรรค์ให้มันเอง...

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัทราจิตร วันที่ตอบ 2008-09-04 12:35:27


ความคิดเห็นที่ 3 (1833633)

เรียนคุณ ภัทราจิตร

ขอติงนิดนะคะ

กลอนชื่อ "มาซิมา"เขียนได้ดีมากค่ะ
แต่มาพลาดเพราะลงท้ายด้วยคำว่า "หนัก"
เป็นเหตุให้ บทสุดท้ายรวนไปด้วย
ทบทวนนิดนะคะ  คุณมาถูกทางแล้วฯ
เอาใจช่วยค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สุกรวดี วันที่ตอบ 2008-09-08 16:24:23


ความคิดเห็นที่ 4 (1834155)

 

ข้าน้อย...จะรับฟังและนำไปปฎิบัติ

โดยเคร่งครัด ค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ.....

 

จะพยายาม..ต่อไปๆๆๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัทราจิตร วันที่ตอบ 2008-09-09 13:00:31


ความคิดเห็นที่ 5 (1834282)

กลัวกลัวจัง.....
กลัวนะคะ ว่าจะเจอข้อหาว่าแส่
แต่ที่ยอมเสี่ยง เพราะหัดมาแบบนั้นฯ
ขอบคุณที่เข้าใจค่ะ
มีบทกลอนจากครูมาฝากค่ะ- คงเป็นประโยช์บ้าง ลองอ่านดูนะคะ


...เพชรน้ำหนึ่ง...
กลอนเก้าคำจำไว้ด้อย่ไพ"เราะ"
เขียนให้เหมาะแปดคำเพชรน้ำหนึ่ง
แต่ละวรรคหนักแน่นดุจแกน"กลึง"
กลอนจะ"ซึ้ง"ติดใจและให้คุณ ..

คำสุดท้ายวรรคแรกแยกพิ"เศษ"
สามัญ"เขต"หวงห้ามตามเกื้อหนุน
ท้ายวรรคสองต้องรู้อยู่เป็น"ทุน"
เอก-โท"จุน"จัตวาประ"พนธ์"

ท้ายวรรคสามวรรคสี่นี้จำ"มั่น"
เสียงสามัญ-ตรีใช้ได้ทุก"หน"
สัมผัสซ้ำจำจดงดปะ"ปน"
จงคิด"ค้น"ถ้อยคำที่จำ"เป็น"

ไม้ไต่คู้ใช้กับไม้ไต่"คู้"
เมื่อฟังดูเด่นดีทั่งที่"เห็น"
เสียงสั้นยาวก้าวก่ายหลายประ"เด็น"
อย่าบำ"เพ็ญ"พ้องกันนิรัน"ดร

อย่าเขียนให้ใจความตามเพ้อ"นึก"
จงตรองตรึกตระหนักเรื่อง"อักษร
คติธรรมนำใส่ให้สัง"วร"
รวมสุน"ทร"ถ้อยไว้ให้งด"งาม"

จุดจบก็ขอให้กินใจหน่อย
มิควร"ปล่อย"เปะปะเหมือนสะ"หนาม"
จบให้เด่นเห็นชัดจำกัด"ความ"
ให้ตรง"ตาม"เค้าโครงเรื่องโยง"ใย"

เขียนเสร็จสรรพกลับมาตรวจตราผิด"
ตรวจชนิดเรียงตัวทั่วกันใหม่
เมื่อเห็นเพราะเหมาะดีจี้หัว"ใจ"
จึงเผย"ให้"ประชาชนตรา"ตรึง"

กลอนเก้าคำจำไว้ด้อยไพเราะ
เขียนให้เหมาะแปดคำเพชรน้ำ"หนึ่ง
แต่ละวรรคหนักแน่นดุจแกน"กลึง"
ผู้อ่าน"จึง"จะชอบชมขอบคุณ......

"ส.เชื้อหอม....นักกลอนรางวัลพระราชทาน "

ผู้แสดงความคิดเห็น สุกรวดี วันที่ตอบ 2008-09-09 15:50:17


ความคิดเห็นที่ 6 (1837250)

 ª รจนารำพึง….

….รจนา  กลอนน้อย  มาร้อยชั่ง

พินิจฟัง อ่านเขียน สังเวียนสอน

พิเคราะห์เคร่ง ทั่วถึง รำพึงวอน

ออเซาะซ้อน อ่อนหวาน สำราญใจ

…..งามเอมอร  ซ่อมคม อารมย์อิ่ม

คำเพราะพริ้ม นิ่มนวล รัญจวนไหว

สดับสร้อย แทรกซ้อน  อักษรไทย

งามละมัย  ไหลหลง อนงค์ยวน

….อรชร งอนงาม นงรามกล่อม

มาลัยน้อม คำนับ ระยับหวน

อัปสรสอด  อุ่นเอื้อ  เอ่ยเชื้อชวน

อักษรล้วน ถ้วนถี่ กวีเชิญ

….บรรจงใจ ใส่คำ  ลำนำรัก

บรรจงจัก หยอกเจ้า โลมเร้าเขิน

บรรจงร้อย  สมร  บังอรเพลิน

บรรจงเดิน เชิญก้าว อย่าร้าวรอน..

…รจนา  บรรจบ เคารพไหว้

ขมาไท้  ครูรัก  ติงทักสอน

กราบครูท่าน  นามลือ ชื่อสุนทร

ขอนักกลอน  ลูกท่าน ชำนาญเอย...

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัทราจิตร วันที่ตอบ 2008-09-15 18:16:31



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.