ReadyPlanet.com


ส่งร้อยกรองประกวดประจำ "16-31 ตุลาคม 2556" ได้กระทู้นี้


ช่องทางในการส่ง ส่งช่องทางใดทางหนึ่งเท่านั้นมิฉะนั้นจะโดนตัดสิทธิ์

1. สำหรับผู้ที่ส่งทางเว็บบอร์ด
- แจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ให้ครบถ้วน มิฉะนั้นท่านอาจโดนตัดสิทธิ์
แจ้งแก้ไขได้ในกระทู้นี้ โดย ระบุความคิดเห็น จุดที่ต้องการแก้ไข และครั้งที่แก้ไข
- ส่งขึ้นเว็บบอร์ดเป็นไฟล์ text ธรรมดาเพื่อป้องกันข้อความเพี้ยน ไม่ต้องตกแต่ง

2. สำหรับผู้ต้องการส่งทางอีเมล ส่งได้ที่): info_thaipoet@yahoo.com
- แจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ให้ครบถ้วน มิฉะนั้นท่านอาจโดนตัดสิทธิ์

 

หัวข้อการประกวดประจำปักษ์หลังตุลา (16-31 ตุลาคม ประกาศผล 10 พ.ย. 2556)
- ระดับมัธยมศึกษาต้น กาพย์ยานี 11 :  วัฒนธรรม
- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กลอนสี่สุภาพ : 
วัฒนธรรม
- ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป โคลงสี่สุภาพ : 
วัฒนธรรม
ความยาวต่อชิ้นงาน 6-10 บท

อ่านกติกาให้ชัดเจนมิฉะนั้นท่านอาจโดนตัดสิทธิ์
อ่านรายละเอียดและกติกาทั้งหมดคลิกที่นี่

ขอความกรุณางดการออกความเห็นในกระทู้ส่งงาน



ผู้ตั้งกระทู้ webmaster :: วันที่ลงประกาศ 2013-10-15 22:51:49


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2423895)

                                         ฟังย่า

 

๑. ฉันมานั่งใกล้เพื่อ                    สนทนา

กับย่าผู้ชรา                                 นักแล้ว

ทุกเรื่องย่าเล่ามา                          แฝงคติ

ข้อคิดย่าอย่างแก้ว                       ที่ได้เจียรนัย

๒. ใบหน้าเพียบร่องริ้ว                 ประสบการณ์

บอกเรื่องที่พบพาน                      ผ่านพ้น

คุยกันสนุกสนาน                         กับย่า

ยันยุคเยาว์เก่าค้น                        ขุดขึ้นเปรียบเปรย

๓. เลยถึงเรื่องนุ่งสั้น                    อวดนม

ย่าว่าความนิยม                          เริ่มเพี้ยน

คิดกันว่าเหมาะสม                      น่าตลก

แต่งล่อชายโถเที้ยน                     เตี่ยวแล้วนางหนู

๔. ผู้หญิงรุ่นย่าครั้ง                     ยังสาว

หวงน่องเนื้อขาขาว                      ซ่อนไว้

ผ้าถุงนุ่งเรียบยาว                        ตาตุ่ม

เสื้อปิดมิดชิดไร้                           โหว่เว้าใครเห็น

๕ เป็นศรีเสน่ห์เนื้อ                      นวลสงวน

รักศักดิ์สตรีควร                           ค่าเนื้อ

มิต้องดอกยั่วยวน                        ชายหื่น

งามจากใจใช่เฟื้อ                        อวดให้ชายชม

๖. คมคำหญิงเฒ่าผู้                    เคยสาว

ฉายภาพหญิงจากคราว               ยุคนั้น

เทียบกับยุคนี้ราว                         โกหก

แค่ช่วงปีสั้นสั้น                           เปลี่ยนแล้ววัฒนธรรม

 

 

ส่งผลงานโคลงสี่สุภาพระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป ในหัวข้อ วัฒนธรรม

ชื่อ – นามสกุล นาย พยุงศักดิ์ ดาวกระจ่าง

ที่อยู่ ๓/๑ หมู่ ๔ ตำบลแสลง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี รหัสไปรษณีย์ ๒๒๐๐๐

โทร ๐๘๖ – ๑๑๒ ๔๒๓๐

นักศึกษาปริญญาตรี ชั้นปีที่ ๔ คณะครุศาสตร์ เอกวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นาย พยุงศักดิ์ ดาวกระจ่าง (dookka***-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-19 14:51:23


ความคิดเห็นที่ 2 (2423896)

                                           ฟังย่า

(แก้ไขครั้งที่ ๑ แก้ไขคำของบทที่ ๑ บาทที่ ๔ วรรคที่ ๒ จากคำว่า “เจียรนัย” เป็น “เจียระไน”)

 

๑. ฉันมานั่งใกล้เพื่อ                    สนทนา

กับย่าผู้ชรา                                 นักแล้ว

ทุกเรื่องย่าเล่ามา                          แฝงคติ

ข้อคิดย่าอย่างแก้ว                       ที่ได้เจียระไน

๒. ใบหน้าเพียบร่องริ้ว                 ประสบการณ์

บอกเรื่องที่พบพาน                      ผ่านพ้น

คุยกันสนุกสนาน                         กับย่า

ยันยุคเยาว์เก่าค้น                        ขุดขึ้นเปรียบเปรย

๓. เลยถึงเรื่องนุ่งสั้น                    อวดนม

ย่าว่าความนิยม                          เริ่มเพี้ยน

คิดกันว่าเหมาะสม                      น่าตลก

แต่งล่อชายโถเที้ยน                     เตี่ยวแล้วนางหนู

๔. ผู้หญิงรุ่นย่าครั้ง                     ยังสาว

หวงน่องเนื้อขาขาว                      ซ่อนไว้

ผ้าถุงนุ่งเรียบยาว                        ตาตุ่ม

เสื้อปิดมิดชิดไร้                           โหว่เว้าใครเห็น

๕ เป็นศรีเสน่ห์เนื้อ                      นวลสงวน

รักศักดิ์สตรีควร                           ค่าเนื้อ

มิต้องดอกยั่วยวน                        ชายหื่น

งามจากใจใช่เฟื้อ                        อวดให้ชายชม

๖. คมคำหญิงเฒ่าผู้                    เคยสาว

ฉายภาพหญิงจากคราว               ยุคนั้น

เทียบกับยุคนี้ราว                         โกหก

แค่ช่วงปีสั้นสั้น                           เปลี่ยนแล้ววัฒนธรรม

 

ส่งผลงานโคลงสี่สุภาพระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป ในหัวข้อ วัฒนธรรม

ชื่อ – นามสกุล นาย พยุงศักดิ์ ดาวกระจ่าง

ที่อยู่ ๓/๑ หมู่ ๔ ตำบลแสลง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี รหัสไปรษณีย์ ๒๒๐๐๐

โทร ๐๘๖ – ๑๑๒ ๔๒๓๐

นักศึกษาปริญญาตรี ชั้นปีที่ ๔ คณะครุศาสตร์ เอกวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นาย พยุงศักดิ์ ดาวกระจ่าง (dookka***-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-19 15:02:31


ความคิดเห็นที่ 3 (2425681)

 ๐ ก้มเกศาหัตถ์ไหว้ ................. ดูดี
เดินผ่านผู้ใหญ่มี ...................... จุ่งค้อม
สำรวมกิริยาศรี ........................ แลเลิศ งามนา
ประพฤติปฏิบัติล้อม .................. รักษ์ด้วยปรารถนา ฯ


๐ ภาษาไพเราะซึ้ง ................... น่าฟัง นักนา
คือบ่มคารมฝัง ........................ ติดถ้อย
ขาค่ะครับสืบยัง ....................... หลากรุ่น กันเฮย
วัฒนธรรมชดช้อย .................... สง่าให้ใหลหลง ฯ 

๐ เยียรยงวัดหลากสร้าง ............. ลวดลาย 
เทวสถานจรัสฉาย .................... เรื่อเรื้อง
ศิลป์วิจิตรระบาย ...................... ปราณีต จริงนอ
กนกกระจังกระเบื้อง .................. หลากล้วนสวมสมัย ฯ

๐ วันพระใหญ่เหล่าล้วน ............. ร่วมบุญ
พุทธศาสนิกหนุน ..................... กราบไหว้
เช้าใส่บาตรเย็นสุน-................... ทรีย-จิตเอย
พร้อมธูปเทียนเวียนไซร้ ............. สว่างต้องมโนรมย์ ฯ 

๐ เครื่องถมงานปั้นเด่น ............... ฝีมือ
ศาสตร์เฉพาะเลื่องลือ ................ ต่อก้าน
เอกลักษณ์ระบือ ...................... เอนก อนันต์เฮย
วิศิษฎ์หลากหลายด้าน ............... ชื่อชั้นอลังการ ฯ

๐ อาหารไทยอร่อยลิ้น ............... คาวหวาน
กระฉ่อนคือตำนาน ................... โลกรู้
ติดอันดับชื่นบาน ...................... เห็นอยู่ ทั่วเนอ
ต้มยำกุ้งเลิศผู้ ......................... ได้ลิ้มชิมสวรรค์ ฯ

๐ จึ่งสรรค์ประดิษฐ์ถ้อย .............. คารม
วัฒนธรรมด่ำสม ....................... แซ่ซ้อง
ยิ้มสยามบ่งอารมณ์ ................... ขนานเอก
อนุรักษ์เกริกเกียรติก้อง .............. คู่ฟ้าไทยเทอญ ฯ

"สิ่งชี้วัฒนธรรม"

ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป โคลงสี่สุภาพ : วัฒนธรรม

นายทรงธรรม อรุณแสงโรจน์
๕/๒๑ หมู่บ้านบารเมษฐ์ ถ.เฉลิมพระเกียรติร.๙ ซอย ๖๒
แขวงดอกไม้  เขตประเวศ กรุงเทพฯ ๑๐๒๕๐  โทร ฯ ๐๘๑-๒๕๔๓-๓๙๕

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรงธรรม อรุณแสงโรจน์ วันที่ตอบ 2013-10-27 15:02:23


ความคิดเห็นที่ 4 (2425682)

 ๐ ก้มเกศาหัตถ์ไหว้ ................. ดูดี
เดินผ่านผู้ใหญ่มี ...................... จุ่งค้อม
สำรวมกิริยาศรี ........................ แลเลิศ งามนา
ประพฤติปฏิบัติล้อม .................. รักษ์ด้วยปรารถนา ฯ


๐ ภาษาไพเราะซึ้ง ................... น่าฟัง นักนา
คือบ่มคารมฝัง ........................ ติดถ้อย
ขาค่ะครับสืบยัง ....................... หลากรุ่น กันเฮย
วัฒนธรรมชดช้อย .................... สง่าให้ใหลหลง ฯ 

๐ เยียรยงวัดหลากสร้าง ............. ลวดลาย 
เทวสถานจรัสฉาย .................... เรื่อเรื้อง
ศิลป์วิจิตรระบาย ...................... ปราณีต จริงนอ
กนกกระจังกระเบื้อง .................. หลากล้วนสวมสมัย ฯ

๐ วันพระใหญ่เหล่าล้วน ............. ร่วมบุญ
พุทธศาสนิกหนุน ..................... กราบไหว้
เช้าใส่บาตรเย็นสุน-................... ทรีย-จิตเอย
พร้อมธูปเทียนเวียนไซร้ ............. สว่างต้องมโนรมย์ ฯ 

๐ เครื่องถมงานปั้นเด่น ............... ฝีมือ
ศาสตร์เฉพาะเลื่องลือ ................ ต่อก้าน
เอกลักษณ์ระบือ ...................... เอนก อนันต์เฮย
วิศิษฎ์หลากหลายด้าน ............... ชื่อชั้นอลังการ ฯ

๐ อาหารไทยอร่อยลิ้น ............... คาวหวาน
กระฉ่อนคือตำนาน ................... โลกรู้
ติดอันดับชื่นบาน ...................... เห็นอยู่ ทั่วเนอ
ต้มยำกุ้งเลิศผู้ ......................... ได้ลิ้มชิมสวรรค์ ฯ

๐ จึ่งสรรค์ประดิษฐ์ถ้อย .............. คารม
วัฒนธรรมด่ำสม ....................... แซ่ซ้อง
ยิ้มสยามบ่งอารมณ์ ................... ขนานเอก
อนุรักษ์เกริกเกียรติก้อง .............. คู่ฟ้าไทยเทอญ ฯ

"สิ่งชี้วัฒนธรรม"

ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป โคลงสี่สุภาพ : วัฒนธรรม

นายทรงธรรม อรุณแสงโรจน์
๕/๒๑ หมู่บ้านบารเมษฐ์ ถ.เฉลิมพระเกียรติร.๙ ซอย ๖๒
แขวงดอกไม้  เขตประเวศ กรุงเทพฯ ๑๐๒๕๐  โทร ฯ ๐๘๑-๒๕๔๓-๓๙๕

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรงธรรม อรุณแสงโรจน์ วันที่ตอบ 2013-10-27 15:02:51


ความคิดเห็นที่ 5 (2425847)

 

สมดุลแห่งวัฒนธรรมไทย ...
 
วัฒนธรรมอันเลิศล้า                               แดนไทย
คือความมีน้ำใจ                                      โอบอ้อม
อารีรักษาไว้                                           เผื่อแผ่แก่กัน
เอื้อเฟื้อแบ่งปันพร้อม                             อาบด้วยรอยยิ้ม
คราวลงแขกเกี่ยวข้าว                            เฮโล
งานเล็กงานใหญ่โต                               ปรี่เข้า-
ช่วยบ่เอาถ้วยโถ                                    โอชามตอบแทน
ลงขันยันลงแรง..เอ้า
!                            ฮุยเลฮุย !
จนสูนำเครื่องนั้น                                    เข้าสู่นา
ล้วนต่างก้มหูก้มตา                                 เขี่ยจิ้ม
เดือดร้อนอยู่ตรงหน้า                             ไป่เห็นแล้วนอ
เพียงจ่อจอจ้อยิ้ม                                    หัวร่อคนเดียว
สมัครสมานสิหาไม่                                 มีแล้ว
น้ำใจเคยผ่องแผ้ว                                   ผากแห้ง
ต้องเร่งหาเพชร, แก้ว,                            แหวน, เงิน, ทองเฮย
บำเรอเปรอปรนแม่ง                               แด่เทคโนโลยี
วัฒนธรรม จึงเปลี่ยนแปร                     กลับกลาย
เป็น
วัฒนาอธรรม ไซร้                        เงยงอก
เจริญพันธุ์ความเลวร้าย                         เร็วกว่ารวงข้าว
ระวังอย่าให้ช้ำชอก                                หัวอกหัวใจ

มือหนึ่งถือเครื่องนั้น                              ส่งสาร
มือหนึ่งยังว่างพลัน                                ส่งผ้า-
ขะม้าซับเหงื่อกัน                                   ดังเช่นวันวาน
สมดุลนี้ชื่นอุรา                                      วัฒนธรรมไทย ๚๛

---------------------------------------------------------------------------- อนัตตา ว. ------

 

ส่งผลงานโคลงสี่สุภาพในระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป หัวข้อ "วัฒนธรรม"

ชื่อ นายวัฒนา  เลิศทองไทย  (นามแฝง "อนัตตา ว.")

ที่อยู่ 186 ซอยไผ่สิงห์โต ถนนพระราม 4 แขวงและเขตคลองเตย กรุงเทพฯ รหัสไปรษณีย์ 10110

โทรศัพท์  085-956-2772
อีเมล์  anatta.w.attana.1986@gmail.com

ผู้แสดงความคิดเห็น นายวัฒนา เลิศทองไทย (anatta-dot-w-dot-attana-dot-1986-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-28 13:32:42


ความคิดเห็นที่ 6 (2425850)

 ๐ ยายกับหลานร่วมด้วย ......... ทำหนอ ขนมเฮย
วันรุ่งพรุ่งจะรอ ........................ ใส่่ไหว้
ตักบาตรเพื่อเติมขอ................. บุญกอปร กูลแฮ
หวังกุศลสร้างให้ ..................... ทุกข์ร้างห่างหาย ฯ

๐ พอสายนุ่งผ้าซิ่น ................. ทอมือ 
ไหว้พระเก้าวัดถือ .................... ธูปพร้อม
เพิ่มสิริศรีคือ ........................... หมายมั่น ธรรมนอ
มีลิเกรำล้อม ........................... อ่อนช้อยแก้บน ฯ

๐ ตามถนนหาบเร่นั้น .............. มากโยง นักเอย
ยี่สิบสี่ชั่วโมง .......................... บอกได้
หอมไก่ย่างควันโขมง ............ ยายหยุด ซื้อนา
ช่างน่าทานนักไซร้  ................ ค่ำแล้วกลับสถาน ฯ

๐ ชานเรือนใครเยี่ยมนั้น ........ ปรีดา 
ต้อนรับขับสู้หา ...................... ยื่นน้ำ
กวักมือเรียกหลานมา ............. คำนับ 
เด็กยกมือไหว้ย้ำ ................... รับไหว้หทัยปรีดิ์ ฯ

๐ ไมตรีแขกยื่นด้วย .............. มากผล-ไม้เฮย
ของฝากกำนัลยล ................. มิตรแท้
แลกถามไถ่สุขหน ................. ปรับทุกข์ กันเอย
แล้วร่ำลากันแล้ .................... ส่งยิ้มละไมเสมือน ฯ

๐ ขึ้นเรือนนั่งจดจ้อง ............. ทีวี
หลังข่าวสองทุ่มมี ................. ละครครื้น
บางเรื่องมากตบตี ................. ที่สนั่น เมืองนอ
ยื้อแย่งผัวเมียฟื้น .................. หลากน้ำเน่าฉาย ฯ

๐ กลับกลายฮิตติดขั้น .......... ทั่วเมือง ท่านเฮย
คุยโขมงเรื่องเรือง ................ เล่นชู้
สะท้อนสิ่งไป่เมลือง ............. หลายหลาก ดูเทอญ
อ้างบทเรียนสอนรู้ ................ กิเลสอั้นตัณหา ฯ

๐ บรรยายมาส่วนเสี้ยว ......... วิถี 
แทรกวัฒนธรรมมี ................. แค่พื้น
การกินอยู่คือลี- ..................... ลาบท ไทยแฮ
คิดต่างไม่ใช่ตื้น .................... แตะน้อยสนุกสนาน ฯ

"วัฒนธรรมความเป็นอยู่"
ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป โคลงสี่สุภาพ : วัฒนธรรม

นายทรงธรรม อรุณแสงโรจน์
๕/๒๑ หมู่บ้านบารเมษฐ์ ถ.เฉลิมพระเกียรติร.๙ ซอย ๖๒
แขวงดอกไม้  เขตประเวศ กรุงเทพฯ ๑๐๒๕๐  โทร ฯ ๐๘๑-๒๕๔๓-๓๙๕

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรงธรรม อรุณแสงโรจน์ วันที่ตอบ 2013-10-28 14:23:11


ความคิดเห็นที่ 7 (2426094)

 วัฒนธรรมดุจกองไฟ

 

 ๑.  กาลวานวันก่อนรู้    คุณไฟ

ชนเผ่าผองชนไพร      ล่าเนื้อ

ต่างแถถากเอาไป      รุมแย่ง 

ใครแกร่งใครไวเอื้อ       แล่ชิ้นกลืนกิน

 

๒.  ชาชินโชยกลิ่นเนื้อ   คาวเลือด

ชนเผ่าสันดานเดือด       เถื่อนถ้อย

เร้าความดิบคมเชือด        ชำแหละ แบะกิน

แสยะยิ้มโลหิตย้อย      อิ่มพริ้มพึงใจ

 

๓. เมียงหมายมองหยั่งฟ้า   แลสลัว

ดูหม่นหม่นมัวซัว            ทั่วด้าน

ในใจพรั่นหวั่นกลัว           ยามค่ำ

นอนสั่นสุดใจห้าม             รุ่มเร้าโรมรัน

 

๔. ครั้นวันวานหนึ่งนั้น     บังเอิญ

ชนหนึ่งนั้นเผชิญ           กลิ่นไหม้

เพลิงไฟป่าพะเนิน          คุกรุ่น เลียลาม

โชยกลิ่นอัคคีใกล้          ไขว่คว้ากำบัง

 

๕. ตั้งตาแลแส่รู้     เปลวไฟ

สว่างวาวไสว         จับจ้อง

ดอมดมกลิ่นกวางไพร  โชยท่าม กลางเพลิง

ชวนกิ่วหิวในท้อง       ร่ำร้องลองกิน

 

 

๖. เคยชินลืมกลิ่นสิ้น  ดิบคาว

รสใหม่ชวนผองชาว-     เถื่อนคว้าง

พบรสสุกแพรวพราว     ดื่มด่ำ

โชติช่วงแห่งไฟสร้าง     ก่อรู้เผ่าชน

 

๗. คนเขลาริเริ่มสร้าง     กองไฟ

ความเถื่อนเหหายไป    หมดสิ้น

แดนสว่างวาวไหว           รุกไล่  เงื้อมเงา

กินอิ่มรสเลิศลิ้น         ย่างเนื้อแบ่งปัน

 

๘. คิมหันต์ผิงนั่งหน้า   ดวงเพลิง

ไออุ่นรื่นระเริง         ค่อมค้อม

กำเนิดก่อบันเทิง       หลอมหล่อ วิญญาณ์

ทุกทั่วชนรุมล้อม       โห่ร้องร่ายรำ

 

๙. วัฒนธรรมก่อเกื้อ  อารยชน

เปรยดั่งเปรียบคุณคน      ก่อไว้

รักษามิ่งมงคล        สานต่อ ดวงไฟ

แดนถิ่นเชิดชูไซร้      ค่าล้ำเรืองเมือง

 

๑๐. มลังเมลืองเรื่อเรื้อ  เรืองรอง

เปลี่ยนดิบสู่สุกครอง   เลิศล้ำ

แดนดินมืดมิดหมอง   ต่อเมื่อ คนเมิน

ชนชาติลืมสืบค้ำ       ร่ำไห้เมืองครวญ        

 

 

 

 

๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๖

วิเวกวังเวง วิเหวงโหวง  

 ขอส่งผลงานโคลงสี่สุภาพระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป ในหัวข้อ วัฒนธรรม

นายวุฒิภัทร สมัชชานนท์   ( วิเวกวังเวง วิเหวงโหวง)
บ้านเลขที่ 406  ม.5  ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ 10280
โทรศัพท์ 084-330-7548
อีเมล์ megalomaniac9@hotmail.com

ผู้แสดงความคิดเห็น วิเวกฯ วันที่ตอบ 2013-10-29 10:52:22


ความคิดเห็นที่ 8 (2426391)

            วันนี้จะกล่าว              หนุ่มสาวยุคนี้

อยู่กินแรมปี                             ไม่มีแต่งงาน

ชีวิตย่ำแย่                                 เผยแพร่มานาน

หนังสือไม่อ่าน                         เกียจคร้านการเรียน

            ยุคนี้ก้าวไป                  ภายในอาเซียน

ทำผิดติเตียน                            ต้องเพียรสั่งสอน

หากเอาแต่นอน                        วิงวอนขอพร

ไร้ความอาทร                          แรมรอนวุ่นวายวาย

            เอกลักษณ์ไทย             เริ่มไร้ความหมาย

บางสิ่งจางหาย                         ตายายสอนมา

คำพูดยุคใหม่                           ไม่ใช้คะขา

การใช้ภาษา                             นั้นหนาน่าห่วง

            หลายวันผ่านไป           คนไทยทั้งปวง

ยังคงพึ่งดวง                            บวงสรวงต้นไม้

วัฒนธรรม                               เลิศล้ำสิ่งไหน

ไม่เห็นมีใคร                            ตอบได้สักคน

            หากใครใจง่าย             สุดท้ายทุกข์ตรม

นี่หนาชีวิตคน                          ต้องทนรับกรรม

อยากได้อยากมี                         ชีวีล่มจม

ยาคือความขม                          อบรมเรามา

แต่งกายเหมาะสม        คนชมหนักหนา

เปิดเผยกายา                             มีมาตอนไหน

ไม่มีน้ำใจ                                 คือไทยยุคใหม่

พูดถึงอีกครา                           เรื่องภาษาไทย

            พูดกันอยู่ได้                 ศัพท์ใหม่ว่อนไป

คำพูดคำไทย                            หายไปไม่มา

วันนี้พอก่อน                            ต้องนอนแล้วหนา

ให้สุขกายา                              ทุกคราสดใส

 

 

 

 

ส่งผลงานระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กลอนสี่สุภาพ : วัฒนธรรม

 

นางสาวนรินทิพย์     เขียวมี

บ้านเลขที่ 98 หมู่ 2 ตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000

 

โทร 0845543415

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นรินทิพย์ (Mery_bb_bb-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2013-10-30 16:40:08


ความคิดเห็นที่ 9 (2426392)

 ต้องการแก้ไขค่ะ "  แรมรอนวุ่นวายวาย" 

จุดนี้มีพิมพ์ผิดค่ะ แก้ไขครั้งแรกค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นรินทิพย์ วันที่ตอบ 2013-10-30 16:42:41


ความคิดเห็นที่ 10 (2426395)

แก้ไขครั้งที่ 1 แก้ตรงคำที่ "แรมรอนวุ่นวายวาย" เป็น "แรมรอนวุ่นวาย" ค่ะ

 

 

             วันนี้จะกล่าว              หนุ่มสาวยุคนี้

อยู่กินแรมปี                             ไม่มีแต่งงาน

ชีวิตย่ำแย่                                 เผยแพร่มานาน

หนังสือไม่อ่าน                         เกียจคร้านการเรียน

            ยุคนี้ก้าวไป                  ภายในอาเซียน

ทำผิดติเตียน                            ต้องเพียรสั่งสอน

หากเอาแต่นอน                        วิงวอนขอพร

ไร้ความอาทร                          แรมรอนวุ่นวาย

            เอกลักษณ์ไทย             เริ่มไร้ความหมาย

บางสิ่งจางหาย                         ตายายสอนมา

คำพูดยุคใหม่                           ไม่ใช้คะขา

การใช้ภาษา                             นั้นหนาน่าห่วง

            หลายวันผ่านไป           คนไทยทั้งปวง

ยังคงพึ่งดวง                            บวงสรวงต้นไม้

วัฒนธรรม                               เลิศล้ำสิ่งไหน

ไม่เห็นมีใคร                            ตอบได้สักคน

            หากใครใจง่าย             สุดท้ายทุกข์ตรม

นี่หนาชีวิตคน                          ต้องทนรับกรรม

อยากได้อยากมี                        ชีวีล่มจม

ยาคือความขม                          อบรมเรามา

แต่งกายเหมาะสม        คนชมหนักหนา

เปิดเผยกายา                             มีมาตอนไหน

ไม่มีน้ำใจ                                 คือไทยยุคใหม่

พูดถึงอีกครา                           เรื่องภาษาไทย

            พูดกันอยู่ได้                 ศัพท์ใหม่ว่อนไป

คำพูดคำไทย                            หายไปไม่มา

วันนี้พอก่อน                            ต้องนอนแล้วหนา

ให้สุขกายา                              ทุกคราสดใส

 

ส่งผลงานระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กลอนสี่สุภาพ : วัฒนธรรม

 

นางสาวนรินทิพย์     เขียวมี

บ้านเลขที่ 98 หมู่ 2 ตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000

 

โทร 0845543415

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นรินทิพย์ วันที่ตอบ 2013-10-30 16:47:50


ความคิดเห็นที่ 11 (2426436)

               วัฒนสยาม
 ๏ วัฒนธรรมถิ่นนี้         แดนสยาม

ศรีสถิตประเทศคาม        เขตแคว้น
บูรพะสง่างาม               ตามขนบ
เจนจบเรืองแน่นแฟ้น      ผ่านฟ้ามาถึง ฯ

 ๏ หวนคะนึงเก่าโน้น      บุราณ
รมบ่มสอนลูกหลาน        อยู่ยั้ง
ทบทำเนียบเนานาน        ขานรับ
นานัปการครั้ง               ตราบนี้ควรสนอง ฯ

 ๏ มองวิถีพรั่งพร้อม       ดำเนิน
มรรยาทจรรยาเจริญ       คู่ด้าว
กตัญญูท่านอย่าเมิน        แทนท่าน        
วจนะภาษาน้าว             จิตน้อมถ่อมตน ฯ

 ๏ ผลดอกงามแต่ต้น       ผลิใบ
พนมพุ่มชิดหทัย             นอบน้อม
วัฒนะประกอบนัย          อวยชื่น
เอกลักษณ์นบไหว้พร้อม    พุ่มเอื้อสิเนหา ฯ

 ๏ ดวงตาพาเพริศพริ้ง     อิงกมล
ใสจรัสทัดเทียมยล          ยะยิ้ม
งามจิตจุ่งนำดล              สารสื่อ
รอยหนึ่งภาคภูมิพริ้ม       ชื่นยิ้มพิมพ์สยาม ฯ

 ๏ ตามสมัยนุ่งผ้า          อาภรณ์
กาลเทศะสอน               ยวดย้ำ
บรรพบุรุษวิงวอน           อ้อนเอ่ย
กาลล่วงเลยคงค้ำ           ศักดิ์ไว้งามสงวน ฯ

 ๏ นวลจิตนำฉ่ำน้ำ         ใจจริง
โลหิตสายเดียวอิง           ชาติเชื้อ
ดำรงอยู่พักพิง               หนุนพึ่ง 
นำจิตนำใจเอื้อ              ก่อเกื้อเจือหนุน ฯ

 ๏ บุญคุณมรดกด้าว       แดนทอง
สินศาสตร์ชาติสนอง
        สืบไว้
รอยทอถักครรลอง          ศิลปะ
วาดสลักปักปั้นไซร้          เลิศล้ำนำศิลป์ ฯ

 ๏ ถวิลศาสนล้วน          ควรรักษ์
เสน่ห์ปลายจวัก             เกริกก้อง
นาฏคีตะฟูมฟัก             ตำรับ
สมบัติพิพัฒน์พ้อง           เวี่ยไว้อุทาหรณ์ ฯ

 ๏ สังวรสำนึกน้อม         ผสาน
มรดกตกทอดกาล           บัดนี้                                          
บังเกิดเนิ่นเนานาน         วัฒน- สยามเนอ
ชูชาติชนเฉพาะชี้            ชาติเชื้อชาวสยาม ๚๛

                                   - ณ คะนึง –

ส่งผลงานโคลงสี่สุภาพระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป ในหัวข้อ “วัฒนธรรม

ชื่อ นายจักรพงษ์  ศรีผ่องงาม  (นามแฝง “ณ คะนึง”)
ที่อยู่ ๑๘๕ หมู่ที่ ๙ บ้านแสนสุข  ถนนเลี่ยงเมือง  ตำบลแสลงพันธ์
อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์  รหัสไปรษณีย์ ๓๒๐๐๐
โทร ๐๘๕-๒๐๗-๑๔๒๗
อีเมล  the.tle2009@hotmail.com

ผู้แสดงความคิดเห็น จักรพงษ์ วันที่ตอบ 2013-10-30 22:31:47


ความคิดเห็นที่ 12 (2426619)

 

วัฒนธรรม
๑.วัฒนธรรมชัดชี้            ชนชาติ
เติมต่อเตือนมิขาด           ขัดข้อง
วิถีวัฒน์เว้นทาส             ทุกที่
มรดกอดีตต้อง                ต่อเต้าตัวตน 
.ภาษาสารสื่อให้          เห็นความ
รูปสัทอักษรตาม             แต่เชื้อ
สำเนียงส่งเสียงงาม        เงยง่า
แปลงเปลี่ยนปรับปนเอื้อ   เอ่ยถ้อยถ้วนคำ  
๓.ประเพณีเนื่องด้วย       โดยเดิม
สรรพสิ่งส่งสรรค์เสริม      สืบสร้าง
บ่อเกิดวิถีเติม                 แตกต่าง
เอกลักษณ์สังคมอ้าง       เอกอ้าอารยะ
 ๔.มารยาทอ่อนเอื้อ        อบอุ่น
สุภาพแผ่การุญ              ร่มพร้อม
มิตรภาพเมตตาคุณ         ควรครบ
สมเหมาะประพฤติน้อม     นบด้วยจรรยา
๕.ศิลปกรรมเลิศล้ำ         เลองาม
สุนทรีย์แอร่มอร่าม          อะเคื้อ
สร้างสรรค์ศิลป์สรรพตาม  ต่างยุค
ก่อเกิดศิลปกรรมเกื้อ       กลั่นกล้ากริ่มการ
๖.ศาสนาแน่แน่วล้วน      หลักเชื่อ
ศักดิ์สิทธิ์สิ่งนอกเหนือ     นึกน้าว  
แนวธรรมะจุนเจือ           จิตแจ่ม
ลดละล้างทุกข์ร้าว          ล่วงแล้วสุขศานต์
๗.วัฒนธรรมเอกลักษณ์ล้ำ      เลอค่า
วัฒนธรรมสืบมรดกมา            มั่นไว้
วัฒนธรรมเกิดก่อก้าวหน้า       นั้นแน่
วัฒนธรรมมนุษย์ห่อนให้         หัตห้าวหักหาญ
๓๑ ต.ค.๕๖
.......
ส่งประกวดโคลงสี่สุภาพระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป
ว่าที่ร้อยตรี พีระพันธุ์  บุญโพธิ์แก้ว
๑๘๙ หมู่ ๙ ต.ดอนศรีชุม  อ.ดอกคำใต้  จ.พะเยา  ๕๖๑๒๐
โทร. ๐๘๔-๐๔๓-๘๑๑๙
อีเมล  M14G19@hotmail.com
 
 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ว่าที่ร้อยตรี พีระพันธุ์ บุญโพธิ์แก้ว (m14g19-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-31 15:04:55


ความคิดเห็นที่ 13 (2426633)

               "เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมไทย"

        ๑.ไทยเรานี้ล้วนมีเอกลักษณ์               แจ้งประจักษ์สิ่งดีงามมิสูญหาย

เรายึดมั่นเป็นแบบแผนตามติดกาย            สื่อความหมายมีเสน่ห์ทุกแห่งหน         

        ๒.ประเพณีล้ำเลิศประเสริฐยิ่ง             สรรพสิ่งรุ่งเรืองบังเกิดผล

ทั่วหย่อมหญ้าทั่วแคว้นต่างยินยล               แสนสุขล้นบนรากฐานความเป็นไทย

         ๓.อัตลักษณ์การไหว้ประดับชาติ         ชุติราษฎร์มรดกรักษาไว้

มารยาทอ่อนน้อมมีน้ำใจ                              กิตติไกลแดนดินถิ่นขวานทอง

         ๔.ทั้งอาหารหลายหลากนั้นมากมี        ไทยวิถีรสโอชามิเป็นสอง

ชาวต่างชาติหลั่งไหลมาลิ้มลอง                    เราทั้งผองโชคดีได้มีกิน

         ๕.ด้วยรอยยิ้มสานสัมพันธ์พาสดใส     หวานละไมน่าชื่นชมทั่วทุกถิ่น

เหมือนเป็นญาติพี่น้องร่วมแผ่นดิน                คือทรัพย์สินอันล้ำค่าวิจักษ์แดน

          ๖.นาฏศิลป์ไทยสืบทอดมายาวนาน     แต่ก่อนกาลอนุรักษ์เราหวงแหน

ศิลปวัฒนามิคลอนแคลน                                ระบิลแคว้นกึกก้องหล้าสถาพร

          ๗.เสน่ห์แห่งสยามนามเลื่องลือ            ปิติชื่อความภาคภูมิสโมสร

"วัฒนธรรม"อยู่คู่บ่เรือนรอน                          เลิศขจรงามเด่น ณ สากล

..........................................................................................................................

ส่งผลงานกลอนสุภาพระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในหัวข้อ *วัฒนธรรม*

นางสาวสุธิดา       ผุดผ่อน

ที่อยู่:๖๓/๑  หมู่ที่๖  ตำบลปากน้ำ  อำเภอเมือง  จังหวัดชุมพร  รหัสไปรษณีย์๘๖๑๒๐

โทร:๐๘๘-๑๘๑-๙๒๙๗

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่๕  โรงเรียนสอาดเผดิมวิทยา  จังหวัดชุมพร

ผู้แสดงความคิดเห็น นางสาวสุธิดา ผุดผ่อน (bew_9927-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-31 16:45:04


ความคิดเห็นที่ 14 (2426649)

สืบสานวัฒนธรรม

๑. กาลเก่ากาลล่วงพ้น        กาลมา

คุณพระคุณรักษา                สืบสร้าง

สิ่งดีมั่นนานมา                   คงมั่น

วัฒนธรรมเล่าอ้าง               แซ่ซ้องเกริกไกร

๒. ไทยเป็นไทยมากล้น      ไทยมี

สานสืบสร้างสิ่งดี               ถี่ถ้วน

วิถีทุกผู้พลี                        เพื่อชาติ

น้ำใคร่น้ำใจล้วน                หล่อเลี้ยงกันมา

๓. เป็นแบบแผนแผ่นผ้า     ยึดครอง

สลักไว้เรืองรอง                 รับรู้

ด้วยใจทุกดวงดอง             เกาะเกี่ยว

คารวะผู้ใหญ่ผู้                  มากด้วยวัยวาน

๔. หญิงไทยใจแม่นี้          โสภา

หวานอ่อนคำพูดจา           เอ่ยเอื้อน

ชุดกายงดงามตา              ต้องจิต นะแม่

ยามแม่ไหวกายเยื้อน         เหยียบย้าวราวหงส์

๕. ศาสนาสืบส่งให้           ไทยเรือง

อารยธรรมประเทือง           ทั่วหล้า

วัดวาแน่นนาเมือง             แน่นขนัด นักแล

ร่ำชื่อร่ำลืออ้า                   ออกอ้อนแอ่วไกล

๖. ไทยพบประสบซ้อง       สวัสดี

เป็นบาทบทวิถี                  ถ่องแท้

รอยยิ้มปริ่มวจี                   ยามเอ่ย เอื้อนนา

ไทยจักงามเลืองแล้           เลื่องด้วยยิ้มสยาม

๗. แม้นไทยเล็กเล็กด้วย    แผ่นดิน

อารยชนยลยิน                  จบด้าน

อารยธรรมเลื่องลือบิน        โบยสู่ ผองนา

ชื่อกู่ก้องสะท้าน                สะเทื้อนเป็นไทย

                         .....กะระตะ....

นางสาวช่อแก้ว  อนิลบล (นามแฝง กะระตะ) ส่งผลงานเข้าประกวดในระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป หัวข้อ "วัฒนธรรม"

ที่อยู่ 165/1 ม.6 ต.ทะเลทรัพย์ อ.ปะทิว จ. ชุมพร; Tel. 085-7464638; e-mail  ka_rata@hotmail.com

ผู้แสดงความคิดเห็น ช่อแก้ว อนิลบล (ka_rata-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-31 20:03:09


ความคิดเห็นที่ 15 (2426653)

********แก้ไขครั้งที่ 1*********
ในบทที่หนึ่ง จากคำว่า "เลิศล้า" เป็น "เลิศหล้า"

วัฒนธรรมอันเลิศหล้า                           แดนไทย
คือความมีน้ำใจ                                      โอบอ้อม
อารีรักษาไว้                                           เผื่อแผ่แก่กัน
เอื้อเฟื้อแบ่งปันพร้อม                           อาบด้วยรอยยิ้ม

คราวลงแขกเกี่ยวข้าว                            เฮโล
งานเล็กงานใหญ่โต                              ปรี่เข้า-
ช่วยบ่เอาถ้วยโถ                                    โอชามตอบแทน
ลงขันยันลงแรง..เอ้า
!                            ฮุยเลฮุย !
จนสูนำเครื่องนั้น                                   เข้าสู่นา
ล้วนต่างก้มหูก้มตา                                 เขี่ยจิ้ม
เดือดร้อนอยู่ตรงหน้า                           ไป่เห็นแล้วนอ
เพียงจ่อจอจ้อยิ้ม                                    หัวร่อคนเดียว
สมัครสมานสิหาไม่                               มีแล้ว
น้ำใจเคยผ่องแผ้ว                                   ผากแห้ง
ต้องเร่งหาเพชร, แก้ว,                           แหวน, เงิน, ทองเฮย
บำเรอเปรอปรนแม่ง                             แด่เทคโนโลยี
วัฒนธรรม จึงเปลี่ยนแปร                 กลับกลาย
เป็น
วัฒนาอธรรม ไซร้                      เงยงอก
เจริญพันธุ์ความเลวร้าย                         เร็วกว่ารวงข้าว
ระวังอย่าให้ช้ำชอก                                หัวอกหัวใจ

มือหนึ่งถือเครื่องนั้น                             ส่งสาร
มือหนึ่งยังว่างพลัน                                ส่งผ้า-
ขะม้าซับเหงื่อกัน                                   ดังเช่นวันวาน
สมดุลนี้ชื่นอุรา                                      วัฒนธรรมไทย ๚๛

---------------------------------------------------------------------------- อนัตตา ว. ------

 

 

 

ส่งผลงานโคลงสี่สุภาพในระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป หัวข้อ "วัฒนธรรม"

ชื่อ นายวัฒนา  เลิศทองไทย  (นามแฝง "อนัตตา ว.")

ที่อยู่ 186 ซอยไผ่สิงห์โต ถนนพระราม 4 แขวงและเขตคลองเตย กรุงเทพฯ รหัสไปรษณีย์ 10110

โทรศัพท์  085-956-2772
อีเมล์  anatta.w.attana.1986@gmail.com

 



ผู้แสดงความคิดเห็น นายวัฒนา เลิศทองไทย (anatta-dot-w-dot-attana-dot-1986-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-31 20:41:19


ความคิดเห็นที่ 16 (2426654)

 

ชื่อเรื่อง...วิบัติวัฒนธรรม

๑ ไทยเป็นไทเช่นนี้            เป็นมา

ผันผ่านกาลเวลา                 ใช่น้อย

กว่าจะวัฒนา                         มาสู่

ความยิ่งใหญ่ใช่ด้อย         กว่าชั้นชนไหน

๒ บรรชนร่วมสร้าง               ธานี

ร่วมร่างวางจารีต์                  สืบเชื้อ

ถ่ายทอดประเพณี               สืบต่อ

รุ่นสู่รุ่นเลือดเนื้อ                 รับรู้รักษา

๓ ไทยเรามายมากด้วย      ศาสตร์ศิลป์

วัฒน์ธรรมระบิล                   เลื่องฉื่อ

ทั่วโลกต่างยลยิน              ไทยถิ่น

เมืองแห่งรอยยิ้มสื้อ           ถิ่นนี้คือสยาม

๔ อดีตกาลก่อนนี้                 เรามี

โดดเด่นประเพณี                 ยิ่งแล้ว

ชายหญิงเคร่งจารีต์             แบบอย่าง

ทุกย่างเพริดพริ้งแพร้ว      ไม่ร้อนอ่อนไหว

๕ โลกหมุนเวียนเปลี่ยนด้าน      ตามกาล

หลายสิ่งแต่โบราณ                      เริ่มร้าง

ลูกหลานบ่สืบสาน                        การเก่า

เอาแต่อ้าปากอ้าง                         ว่าช้าล้าสมัย

๖ ยุคสมัยเปลี่ยนแล้ว                  เพี้ยนไป

หลายสิ่งความเป็นไทย               หมดสิ้น

หลงความศิวิไลซ์                          ลืมกลิ่น  ไทยนา

ใจพ่ายแพ้แดดิ้น                            ลื่นล้มจมกระแส

ส่งผลงานประเภทโคลงสี่สุภาพ หัวข้อ วัฒนธรรม

ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป

ชื่อนางสาวศินีนาฏ  หนูเพชร

ที่อยู่ ๒๒๓  ม.๓  ต.บ้านนิคม  อ.บางขัน  จ.นครศรีธรรมราช ๘๐๓๖๐

โทร.  ๐๘๑-๖๐๖-๐๕๙๖

อีเมล. sineenat596@gmail.com

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ศินีนาฏ (sineenat596-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-31 20:50:25


ความคิดเห็นที่ 17 (2426665)

๐ ยอกรค้อมนบไหว้ ............ สวยงาม
พริ้งเพริศแย้มยิ้มสยาม ........ ประจักษ์หล้า
เป็นหนึ่งวัฒนธรรมตาม ....... แบบอย่าง ไทยแฮ
เอื้อนเอ่ยไพเราะหน้า .......... อิ่มด้วยไมตรี ฯ

๐ ปราณีต่อผู้อ่อน-............... เยาว์เหมือน
หลานลูกปลูกเหย้าเรือน ...... ชิดใกล้
สรรพนามเอ่ยเอยเตือน ....... ดั่งสนิท-สนมนา
ป้าปู่ลุงอาให้ ....................... เรียกแม้เพิ่งเจอ ฯ

๐ กระเชอตะกร้าเกี่ยว .......... คล้องแขน
ตลาดสดใกล้เรือนแดน ....... รุ่งเช้า
หมูเห็ดเป็ดไก่แสน .............. สดใหม่
ปลาก็ดิ้นคละเคล้า .............. ห่อหิ้วกลับสถาน ฯ

๐ เดินผ่านร้านค้าย่อย ......... ทักทาย
อาซิ่มอาซ้อขาย .................. ผลไม้
สบายดีนะคะยาย ................. สวัส-ดีนา
กินอิ่มมีสุขให้ ...................... ลูกเต้าเคล้าคลอ ฯ

๐ ถักทอสายสวาสดิ์ล้อม ..... ครอบครัว
เพาะบ่มหลานเนียนนัว ......... แต่น้อย
แทนพ่อแม่งานรัว ................. เช้าค่ำ
มารยาทฝึกพร้อย ................. ชดช้อยดังหวัง ฯ

๐ สังคีตศิลป์เล่นร้อง ........... ลีลา
งานวัดแสนโสภา ................. เร่งล้อม
ใกล้เหย้าปรารถนา ............... ชมอิ่ม-เอมฮา
บ้างก็ลำตัดพร้อม ................. อีกด้านลิเก ฯ

๐ ตังเมกรอบลูกชิ้น .............. ผัดไทย
ปลาหมึกปิ้งหอมไกล............ เกี่ยวก้อย
สาวน้อยตกน้ำใส  ................ หัวร่อ
ลูกโป่งสวรรค์เด็กน้อย ......... ออดอ้อนอยากมี ฯ

๐ รอยยิ้มปรีดิ์สุขด้วย ........... สังคม
ไป่เบียดเบียนจนตรม ........... เพื่อนพ้อง
ยืนยงวัฒนะกลม-.................. เกลียวเถิด
สงบราษฎร์ประกาศก้อง ....... อย่าให้มลายสูญ ฯ

"วัฒนธรรมบ้าน ๆ "
ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป โคลงสี่สุภาพ : วัฒนธรรม

นายทรงธรรม อรุณแสงโรจน์
๕/๒๑ หมู่บ้านบารเมษฐ์ ถ.เฉลิมพระเกียรติร.๙ ซอย ๖๒
แขวงดอกไม้  เขตประเวศ กรุงเทพฯ ๑๐๒๕๐  โทร ฯ ๐๘๑-๒๕๔๓-๓๙๕

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรงธรรม อรุณแสงโรจน์ วันที่ตอบ 2013-10-31 22:29:38


ความคิดเห็นที่ 18 (2426669)

หัวข้อ วัฒนธรรม

ชื่อเรื่อง วัฒนธรรมภูมิปัญญาคือรากฐานของวันนี้

ประเภทระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น

 

แนวทางวัฒนธรรม

สิ่งชี้นำความเป็นไทย

ยืนหยัดอย่างเกรียงไกร

อดีตกาลเนิ่นนานมา

จากรุ่นมาสู่รุ่น

สืบทอดคุณอันสูงค่า

สร้างสรรค์ภูมิปัญญา

ร่วมรักษาสืบต่อไป...

ธรรมเนียมประเพณี

สร้างวิถีที่ยิ่งใหญ่

รู้ค่าภาษาไทย

ใช้ถูกทางจักสร้างคุณ

จิตใจแบบไทยแท้

ต้องแน่วแน่รู้เกื้อหนุน

เมตตาและการุญ

สมานรักสามัคคี

แนวคิด...กระบวนทัศน์

ฉายชี้ชัด ทางชีวี

ความรู้ประดามี

มาหมายมั่นสร้างสรรค์งาน

เอกราชชาติไทยนี้

คือศักดิ์ศรีที่สืบสาน

ไทยสิ้นกี่วิญญาณ

ความเป็นไทยจึงได้มา

ชาติ ศาสน์ และกษัตริย์

คือร่มฉัตรปวงประชา

ศูนย์รวมซึ่งศรัทธา

มาทุกยุค ทุกสมัย

มโนธรรมสำนึก

ความรู้สึกภาคภูมิใจ

ว่า...ภูมิปัญญาไทย

คือรากฐานของวันนี้

รู้ค่าวัฒนธรรม

จงน้อมนำหนุนวิถี

สร้างงานสานศักดิ์ศรี

สรรสิ่งดีสู่ชีวา

หากไทยยังเหยียบย่ำ

วัฒนธรรมถูกบีฑา

รากเหง้าภูมิปัญญา

อาจย่อยยับลงกับมือ!

 

ด.ช.ธิติสรรค์  สีลา 

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

โรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง

880 ถ.ปราจีนอนุสรณ์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

โทรศัพท์ 084-1184721

ผู้แสดงความคิดเห็น ธิติสรรค์ สีลา (tew8186-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2013-10-31 22:48:01


ความคิดเห็นที่ 19 (2426672)

เรือของเด็กบ้านนอก

 

                    มองกระดาษเศษแล้ว           มองมัน

จากวาดเขียนเล่นกัน                                เล่นบ้าง

พับเปลี่ยนเช่นเรืออัน-                              มีค่า

เรือรบหรือเรือจ้าง                                    ท่ามคุ้งลำธาร

                   ปากเป่าผิวแผ่นน้ำ                ธารา

ยามว่างห่างจากนา                                  ว่างเว้น

 คอยแล้วเล่าเวลา                                    หวนกลับ  บ้านแล

ไกลห่างกี่โยชน์เส้น                                 ห่างเนื้อลูกยา


                   

                      กลิ่นข้าวจากท้องทุ่ง             อบอวล

ผุดผ่องทองเชิญชวน                                ชิดเชื้อ

แต่ชีพสุดเรรวน                                          กรรมซัด

จำจากบ้านเคยเอื้อ                                    แนบน้อมหลับนอน

                    โอละเห่...กล่อมก้อง               จากหญิง  ชราใด

บ่งบอกความเป็นจริง                                  มนุษย์เจ้า

ความเอื่อยแผ่วแนบอิง                                 ดวงจิต ลูกนา

ผ่านช่วงกี่ช่วงเข้า                                       บอกล้วนโรยแรง

                    หญิงชราอยู่กับเหย้า              เฝ้าเรือน

ชายแก่มิแชเชือน                                       ปลูกข้าว

ลูกนั้นจากลางเลือน                                    มุ่งสู่  กรุงเอย

หลานเล็กก็รวดร้าว                                     แม่ข้าไปทำงาน

                    กี่รุ่นผ่านรุ่นแล้ว                      ผ่านไป

ต่างห่างจากบ้านไกล                                ลับบ้าน

หาเงินส่งให้ใคร                                         คอยอยู่

ของเล่นยังสะท้าน                                      จดไว้ในความจำ

                    มันเป็นวัฏจักรแล้ว                  ของคน

แถบถิ่นความอับจน                                    อวดอ้าง  

ที่ดินที่อยู่ตน                                               มีอยู่  มากเฮย

ล้วนแต่คนแก่สร้าง                                      ค่าไว้ยังคง

             

                     

                     เรือกระดาษท่ามคุ้ง               ลำธาร

จะอยู่ได้กี่นาน                                            กี่ห้วง

ต้องจมลับบาดาล                                       ลงดิ่ง  

มิอาจมีสิทธิ์ท้วง                                         เรื่องนั้นธรรมดา

                   รอเรือบังคับได้                        เล่นกัน

คำแม่ยังยืนยัน                                            จะให้

ไม่นานนักถึงวัน                                           หวนสู่ บ้านนา

ของเล่นติดมือไม้                                         สุขล้นสุขใจ

                    ถึงคราความแก่เข้า-                 มาเยือน

สำนึกแม่ย้ำเตือน                                         แม่ช้ำ

ต้องคอยอยู่เฝ้าเรือน                                    แทนทด  แม่เฮย

คือวัฒนธรรมล้ำ                                           อยู่สล้างมิเลือน                  

 

 

 

 

นายอานนท์   สาวิวัฒน์    นักศึกษาชั้นปีที่ ๑  สาขาวิชาภาษาไทย   คณะครุศาสตร์  มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ

ที่อยู่ ๓๑๙/๗๕  หมู่ ๘  ต.โพธิ์   อ.เมืองศรีสะเกษ   จ.ศรีสะเกษ  ๓๓๐๐๐

โทรศัพท์  ๐๙๕๖๑๓๓๘๖๕

ผู้แสดงความคิดเห็น นายอานนท์ สาวิวัฒน์ วันที่ตอบ 2013-10-31 23:19:59



[1]



กระทู้นี้ไม่เปิดให้แสดงความคิดเห็น

Copyright © 2010 All Rights Reserved.