ReadyPlanet.com


นิราศ..การเมืองไทย 4ปีกี่นายก


ปฐมบทของนิราศนี้ขอเริ่มต้นตั้งแต่ เดือนอ้าย ปีพุทธศักราช 2551 สมัยนายสมัคร สุนทรเวชขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย คนที่ 25 ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ในทัศนคติส่วนตัวของผู้แต่งเอง..มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างจะขอกล่าวอ้างเป็นตอนๆไปผ่านบทกวีต่อไปนี้

 

พลังประชาชน โดยพลังประชาชน เพื่อพลังประชาชน

มันมาจี้มาปล้นโดยมิชอบ

มันว่าอำนาจ ได้มาตามระบอบ

รัฐบาลทำตามกรอบกติกา

เพียงสามเดือนที่บริหารประเทศชาติ

มันก็หลงในอำนาจพวกชาติ.....

รัฐธรรมนูญเฮงซวยไม่เข้าตา

มันจะขีดมันจะฆ่าได้ตามใจ

ข้าเก่าเต่าเลี้ยงที่มีคุณ

กูจะอุ้มกูจะหนุนให้เป็นใหญ่

ร้อยสิบเอ็ดม้าใช้ไทยรักไทย

กูจะปลดแอกให้ใจเย็นเย็น

กูจะพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์

เป็นหนึ่งเสือผงาดให้โลกเห็น

นโยบายแน่ชัดจัดเจน

กูจะเน้นเงินตราประชานิยม

แม้วช่วยหมักหมักช่วยแม้ว

อันเชิญราชรถแก้วไปเกยก้ม

บันไดทองเทียบตั้งกราบบังคม

แล้วเหาะเหินเดินลมกลับวิมาน

ก่อนกลับบอกกำชับเน้นกำชา

อย่าลืมก้มจูบพสุธาเรียกสงสาร

ดวงตาเศร้าเ้ข้าตำราวิชามาร

คนใจแข็งเป็นกระดานยังระทวย

อีเพ็ญสุนัขที่จงรักภักดี

ปูนบำเหน็จรัฐมนตรีดั่งถูกหวย

ไอ้ปื้ดปากตะกร้อพ่อนักมวย

โชคอำนวยกุมอำนาจมหาดไทย

อดีตนักเรียนทุนหลวง

ตกดวงวาสนาได้เป็นใหญ่

ปูนบำเหน็จความชอบปลอบใจ

ยื่นเก้าอี้บัวแก้วให้เป็นรางวัล

ยกเครื่องปูทางสร้างเครือข่าย

เด้งอธิบดีDSIกระทันหัน

ย้ายเเข้ากรุอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์

เตะโด่งเลขาธิการอาหารและยา

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ที่ได้มาจากอำนาจพวกโจรป่า

เปลี่ยนปรับผู้บังคับบัญชา

ในข้อหาด่าลูกน้องว่า ไอ้ควาย

ยื่นญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญ

พวก สส.สว.ลูกสมุน ทั้งหลาย

ที่มีท่านวันนี้เพราะมีนาย

จงพร้อมใจคนนอมินีเลือดสีแดง

ขอบใจนักเลงนอกสภา

นปช.คนกล้ายังเข้มแข็ง

แม้นจะตายเป็นผีเผาเข้าตะแลงแกง

จะไม่ลืมเสื้อแดงเป็นแน่นอน

กูจะทำประเทศไทยคล้ายลาสเวกัส

ให้คนเลิกเข้าวัดมาเข้าบ่อน

คตส.จะยกเลิกอย่างถาวร

สตง.เอาไว้ก่อนไม่ถึงคิว

กูจะให้ข้า้วปลาพวกอาหาร

ราคาแพงเหมือนน้ำมันที่สูงลิ่ว

ชาวนาเคยปากหมองท้องกิ่ว

จะร่ำรวยกว่าพวกยิวค้าน้ำมัน

เรือยนต์รถเมล์รถไฟ

ขึ้นราคาได้ตามใจโดยไม่อั้น

ค่าครองชีพแรงงานรายวัน

ให้คงอยู่อย่างนั้นสักร้อยปี

จะยกเลิกโครงการข้าวธงฟ้า

มันจะทำขายหน้าเสียศักดิ์ศรี

เป็นถึงชาติส่งออกข้าวทั้งที

ต้องกินข้าวดีดีแพงแพง

ขายฝันผันน้ำในลำโขง

ผ่านอุโมงค์ช่วยชาวนาในหน้าแล้ง

อิสานเขียวเดี๋ยวเปลี่ยนเป็นอิสานแดง

ปลูกฟักแฟงฟักแม้วกินจนตาย

น้ำทำนายังดีพอมีอยู่

ให้ช่วยดูราคาพืชพรรณท่านทั้งหลาย

ถึงมีน้ำบ่มีเงินเฮาก็ตาย

มีข้าวขายราคาหดก็หมดแรง

กูจะฆ่านกยูงหน้าโง่

จะสร้างเขื่อนใหญ่โตแก้ภัยแล้ง

ภาวะโลกร้อนจะผ่อนแรง

จุดประสงค์มันแปล่งแปล่งนะเจ้านาย

แม้ใครไม่อินังขังขอบ

ไม่เห็นดีเห็นชอบกูจะย้าย

เข้ากรุจมมิดปิดตาย

สิ้นอำนาจเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน

จะตราหน้าว่าเป็นนอมินี

ออหมักคนนี้ก็ไม่หวั่น

ยุบสภาสละเก้าอี้ไม่มีวัน

ลาออกอย่าได้ฝันในวันนี้

กว่าจะเป็นนายกเหมือนโชคช่วย

ฟ้าอำนวยให้กำนัลแมลงวันแมลงหวี่

บุญหล่นทับก่อนตายวายชีวี

ใครหยามว่าเป็นนอมินีก็ไม่อาย

อีกใครก็ว่าปากไม่ดี

หยุดพล่ามเสียทีพวกฉิบหาย

ต้นตระกูลเป็นถึงเจ้าขุนมูลนาย

เครื่องราชฯสายสะพายหลายกระบุง

พวกไหนว่าแน่แพ้สมัคร

มาเทียมเครื่องราชศักดิ์ใครจะสูง

โบราณว่าดูชาติกาหรือว่ายูง

กิริยาบอกต่ำสูงส่อสกุล

ปิดประตูลั่นดานคานสลัก

ยุบโขยงรัฐบาลหมักทั้งเบี้ยขุน

ชิมไปก็ซวยไปไม่มีบุญ

เพราะขาดคุณสมบัติบางมาตรา

7เดือนบริหารราชการ

257ฑูตสังหารก็เข่นฆ่า

บาปซ้ำกรรมซัดถัดมา

เหมือนดั่งว่าสวรรค์ท่านชิงชัง

โอ้ละหนอปลาหมอตายเพราะปาก

ต้องจรจากวิมานทองสู่ห้องขัง

เพราะเลห์ลิ้นหมิ่นสามารถขาดระวัง

ถูกศาลสั่งจำจองถึงสองปี

ด้วยเหตุต้องคดีเดิมศาลเพิ่มโทษ

เคยเอื้อนโอษฐ์เล่นลิ้นดูหมิ่นผี

ผิดซ้ำซากพิพากษาไม่ปราณี

หลายคดีจ่อรุมมุมน้ำเงิน

เที่ยวขึ้นโรงขึ้นศาลเมื่อกาลแก่

สังขารแย่โรครุมรุกแบบฉุกเฉิน

ทั้งเด็กปั้นเด็กสร้างก็หมางเมิน

เพื่อนเคยเดินเคียงข้างก็ห่างกาย

คงไม่เห็นหมักจิ้มฟันคันจมูก

แคะขี้มูกยกน้ำกระดกพับนกขาย

แอบหลับสัปหงกเล่นน้ำลาย

สภาไทยคงดูดีมีราคา

แต่เจ็บไหนหรือจะเหน็บเท่าเจ็บนี้

คราเมื่อถูกลูกพี่มาหักหน้า

ราชโองการผ่านหญิงอ้อเหาะลัดฟ้า

เมื่อเสร็จนาฆ่าโคเฒ่าเอาให้ตาย

12กันยาสภาล่ม

5ก๊กมาหลอกต้มโดดร่มหาย

กลุ่มอิสานพัฒนาก็ออกลาย

รวมหัวก่อกบฎ ปลดระวาง

ด้วยสนองตามบัญชาอาญาสิทธฺ์

เจ้าชีวิตกุนซือผู้ถือหาง

แม้นเหลี่ยมอยู่อีกซีกฟ้าระยะทาง

ระยะห่างดุจว่า แค่วาเดียว

สรรหาทายาท อสูร

3สอ.มีลุ้นได้เอี่ยว

สมพงษ์สนิทสนมกลมเกลียว

สุรพงษ์ก็เกลอเสี่ยวมากปัญญา

อีกหนึ่งคือ สอ.สมชาย

ญาติสนิทชิดใกล้เสน่หา

ส่วน สอ.สารวัตรเป็ดเหลิม ไม่เข้าตา

ปากจะพาพรรคล่มเหมือนชมพู่

ถ้าให้พูดแบบน้ำท่วมทุ่ง

ไอ้ปื้ดก็พอจะรุ่งอยู่

แม้นให้ทำ งานใหญ่ไม่เฟื่องฟู

รัั้งแต่จะไร้ แผ่นดินอยู่เหมือนกับนาย

ค่ายกลนอมินี

ทำหน้าที่สรรหานายกใหม่

ท่านประธานลูกอุ้มภูมิใจไทย

นามปู่ชัยเร่งรัดนัดประชุม

ทุกกลุ่มแก๊งหลากก๊วนล้วนพร้อมหน้า

ก๊กทั้ง5 ใหม่เก่าทั้งเฒ่าหนุ่ม

พลไพร่ไม้ประดับ พร้อมสรรพชุมนุม

ส่วนแม่ทัพควบคุม อยู่ดูไบ

ก่อเกิดรัฐบาล ชายกระโปรง

เชื่อมโยงสัมพันธ์นายใหญ่

สานต่อนโยบายไทยรักไทย

ภายใต้พรรคพลังประชาชน

นโยบายจะเปลี่ยนปรับอันดับแรก

จะปลดแอกนายใหญ่ให้หยุดพ้น

คืนขุมทรัพย์รับขวัญโดยจำนน

ทั้งไพร่พลให้รับกลับกรมกอง

ฟากหนึ่งก่อเกิดมวลชนคนต่อต้าน

หวังให้อุดมการณ์ตอบสนอง

มีแม่ทัพเจ้าเก่าเฒ่าจำลอง

ประกาศก้องล้มระบอบไม่ชอบธรรม

หอกข้างแคร่แต่เนานานรัฐบาลหมัก

พลพรรคทั้งพระชีมีล้นหลาม

กองทัพธรรม นำหน้าประชาตาม

เหลืองอร่ามสัญลักษณ์ดำเนินงาน

ประวัติศาสตร์ชาติไทยไม่เคยมี

ครม.เป็นดั่งผีไม่มีศาล

ใช้ดอนเมืองเป็นธรรมเนียบเฉพาะการ

หัวอกเดียว กับนายท่าน ที่ดูไบ

ม๊อบมีเส้นยึดทำเนียบทำนาข้าว

ยึดทางเท้าปักหลักพักอาศัย

เขตปกครองพิเศษประเทศไทย

พื้นที่ไร้ นอมินี คนสีแดง

ลัทธิ ฟาสซิสต์ ริเริ่ม

คืนชีพเหิมเกริมกำแหง

ในสังคมกำเนิดเกิดกำแพง

สีเหลืองแดงกำหนดรู้อยู่หรือตาย

จำลองสนธิภิภพ

สมเกียรติสมศักดิ์ครบห้าสหาย

แกนนำแนวหน้ากล้าตาย

เขียนกู้ชาต คาดไว้ บนกบาล

มือตบรัวลั่นสนั่นเมือง

ราชดำเนินอร่ามเหลืองทุกหย่อมย่าน

ส่งแนวหน้ายึดท่าอากาศยาน

ปิดสะพานยึดถนนให้วุ่นวาย

สุวรรณภูมิสมชื่อคือสุวรรณ

เหลืองทองนับหมื่นพันบุกเสียหาย

ฝรั่งตาเหลือกเจ๊กตาตี่วิ่งหนีตาย

ช่างน่าอาย นี่นะหรือ คือไทยแลนด์

ถึงวันปฏิบัติการเป่านกหวีด

พันธมิตรรุกประชิดคิิดวางแผน

ดาวกระจายก่อตัวไปทั่วแดน

ทุกแว่นแคว้นหลายจังหวัดนัดรวมพล

ยึด NBT ปิดปากรัฐบาล

สถานที่ราชการโกลาหล

รัฐรุกเกมฟ้องศาลต้านมวลชน

ขอหมายจับห้าคนเป็นแกนนำ

สาวิทย์ แก้วหวาน

ขอสานต่ออุดมการณ์ยามระส่ำ

ร่วมด้วยศิริชัย ไม้งาม

ในนามประธานสหภาพ กฟผ.

อีกเสือ สำราญ รอดเพชร

นักข่าวหัวเห็ดร่วมสานต่อ

อดีตสมาชิก สนช.

เจ้าของวลีฮิต ฟันธง

ติ๊ก มาลีรัตน์ แก้วกล้า

อดีตวุฒิสภาอันสูงส่ง

วีรชนคนตุลาผู้ทรนง

ก็โดดลงร่วมต้านการปกครอง

ตั๊ว ศรัญญู วงษ์กระจ่าง

อดีตท่านชายกลางผู้ผยอง

ในละครตำนานบ้านทรายทอง

เป็นห้าเสือรุ่นสองมาแทนที่

ไอ้นาจชาติทหารต้องอกหัก

ถึงกับต้องแปรพรรคเปลี่ยนสี

เฒ่านักรบพัลลภ ปิ่มณี

เตรียมนายร้อยรุ่นสิบสี่ซี้จำลอง

เคยร่วมตั้งยังเติร์กเพื่อต่อต้าน

โค่นเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ตกกระป๋อง

นักปฏิวัติอาชีพผู้ช่ำชอง

เป็นพี่น้องร่วมทุกข์ผูกพันธ์

ปฏิบัติการณ์เมษาฮาวาย

เคยร่วมเป็นร่วมตายหมายมั่น

หากแม้นแม้ว สั่งจับเกลอ ได้เจอกัน

ประกาศลั่นแผนจะเอาไฟเผาเมือง

ตาต่อตาฟันต่อฟันสามวันจบ

จะอาสานำรบคนเสื้อเหลือง

แต่ด้วยเหตุอันใดทำให้เคือง

มาหนีเหลือง ไปคิดคบ ซบเสื้อแดง

ศักดิ์ศรีเหนืออุดมการณ์ทหารรับจ้าง

ต้องเปลี่ยนขั้วเปลี่ยนข้างอ้างแถลง

คนเคยเกลียดคนเคยด่าคิดฆ่าแกง

มาเปลี่ยนแปลง เป็นคู่คิด มิตรคู่ใจ

อีกหนึ่งเหวง โตจิราการ

เคยสัมพันธ์แนบชิดพิศมัย

จะร่วมค้าน ต้านทักษิณ จนสิ้นใจ

มิทันไรพลิกฝ่ามือเป็นหลังตีน

อำนาจศักดิ์ศรีเงินตรา

ก็เหมือนดั่งสายนาวากระทบหิน

แม้นเพียงหนึ่งหยดมาเป็นอาจิณ

แข็งกว่าหินก็แหลกน่าแปลกใจ

ไม่มีมิตรแท้แลศัตรูที่ถาวร

เหมือนเป็ดเหลิมเมื่อก่อน ความหวังใหม่

ตราหน้าแม้ว ว่าเป็นศพ การเมืองไทย

หลัง ป.ป.ช.ชี้ผิด ปกปิดบัญชี

 มาบัดนี้ยังไงเล่าดูเอาเถิด

อัศจรรย์บังเกิดคนคบผี

ถวายตัวเป็นลูกหม้อนอมินี

ได้ถึงสองรัฐมนตรีเป็นรางวัล

สิ้นสัมพันธ์เพื่อนเกลอชื่อเดอร์ลิ้ม

ไม่มีแล้วร้อยยิ้มสมานฉันท์

ประหนึ่งน้ำกับไฟไม่เข้ากัน

ลิ้มกับเหลิมไม่มีวันจะญาติดี

กาลียุคสงครามกลางเมือง

แดงเหลืองแบ่งข้างเพราะต่างสี

ม๊อบชนม๊อบไม้ชนไม้ไล่ทุบตี

ปฐพีจะชุ่มเลือดเดือดเป็นไฟ

นโยบายแรกประกาศต่อรัฐสภา

จะดำเนินเดินหน้าแก้กฎหมาย

237 ผู้ต้องหาฆ่าคนตาย

309 คือผู้ร้ายคบคิดกัน

เมื่อคนผิดแก้กฎหมายให้คนถูก

กฎหมายถูกหากคนแย่แก้กฎนั้น

ดูที่ว่าใครผิดกฎเป็นสำคัญ

เลี่ยงโทษทัณฑ์แค่แก้กฎหมดมลทิน

25พฤษภา51

เสียงคัดค้านก็อื้ออึงไปทั่วถิ่น

พันธมิตรรวมตัวทั่วแผ่นดิน

ต้านกังฉินค้านระบอบไม่ชอบธรรม

กลับยิ่งเติมเชื้อไฟให้ม๊อบเดือด

เหมือนเขมรเอามีดเชือดจนเลือดฉ่ำ

นพดล ปัทมะ สัญญาลงนาม

ด้วยเห็นงามยกปราสาทให้ชาติขแม

เห็นคนไทยไร้รักสามัคคี

ไอ้เขมรมันได้ทีมายุแหย่

เห็นแต่ก่อนง่อนชะไรไม่ตอแย

ไทยมัวแต่แบ่งสีตีกันเอง

เสรีภาพคนชายแดนแผ่นดินไทย

ในหัวใจมัระทมโดนข่มเหง

ลำพังไอ้เขมรต่ำไม่ยำเกรง

กลัวก็แต่คนกันเองมาฆ่ากัน*****รอมาต่อบทต่อไป*****

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ จิตกวีที่ราบสูง (title_title_title-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2012-12-29 07:20:54


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2323962)

 

20มิถุนายน

มหาชนล้นทะลัก มัฆวานรังสรรค์

ราชดำเนินนอก คอกวัว ชั่วข้ามวัน

เสียงโห่ลั่นพันธมิตรพิชิตเมือง

พิษณุุโลกถึงทำเนียบรัฐบาล

ตั้งตระหง่านเวทีคนสีเหลือง

ปลุกระดมอารมณ์เกลียดให้เคียดเคือง

จะชุมนุมต่อเนื่องจนได้ชัย

จะเหลืองแพ้โดนฟันแทงแดงชำนะ

หรือแดงล้าเหลืองบุกมารุกไล่

ชัยชนะนั้นอยู่ที่ผู้ใด

ผู้ปราชัยนั้นหรือ..คือทุกคน

7ตุลามหาวิปโยค

รอยแผลเก่าชุ่มโชคเลือดอีกหน

กระบอกปืนหันหาประชาชน

เพียงเพราจะ แถลงนโยบาย

ทั้งผู้กองผู้หมวดตำรวจทหาร

ยืนเรียงรายหน้ากระดานตามมอบหมาย

ทั้งปืนสั้นปืนยาวเข้าสะพาย

ทั้งพลองไม้ห้อยมัดดูรัดกุม

ประชาธิปไตยต้องแบ่งข้าง

แผงเหล็กกั้นกลางระหว่างกลุ่ม

ฟากหนึ่งมหาชนคนชุมนุม

อีกฟากหนึ่งถือปืนคุมรอบัญชา

ทั้งมีดไม้ใหญ่น้อยลอยละลิ่ว

ทั้งหินกรวดขวดปลิวจนเกลื่อนฟ้า

อึกทึกดั่งคนคลั่งประดังมา

เสียงก่นด่าแช่งชักเป็นวรรคเป็นเวร

ครบเครื่องยุทธภัณฑ์ทหารกล้า

สนับแข้งสนับขาโถตาเถร

โล่กำบังล่อเป้าเท่ากลองเพล

กระโดดเต้นเหมือนม้าศึกคึกคะนอง

ทั้งเสื้อเกราะหมวกเหล็กปืนเล็กใหญ่

เป้สะพายเสบียงพกไม่บกพร่อง

ยุทธวิธีรุกล้ำดูช่ำชอง

จัดเป็นกองเรียงแถวเป็นแนวไป..

แต่อีกฝั่งเสื้อยืดกางเกงยีนต์

หมวกสีหมองเกือกรองตีนไม่มีใส่

ทั้งชายหญิงเด็กแก่แห่กันไป

ใช้ก้อนหินท่อนไม้เป็นศาสตรา

ตีเกราะเคาะไม้ดังกึกก้อง

ไชโยโห่ร้องเหมือนผีป่า

ในบัดดนเสียวปืนลั่นสนั่นมา

ประดุจหนึ่งสายฟ้ามันผ่าลง*****รอมาต่อบทต่อไป*****

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จิตกวีที่ราบสูง วันที่ตอบ 2012-12-29 12:14:47



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.