ReadyPlanet.com


หากโลกนี้ไม่มีรัก


 หากโลกนี้ไม่มีรัก

       (๑)

 

หากโลกนี้ไม่มีรัก

เธอคงไม่รู้จักคนอย่างฉัน

โลกคงไร้บุปผาแสงตาวัน

ไร้ดวงจันทร์ดวงดาวพราวพิไล

 

ไร้ยามเช้า ยามเย็น  ไม่เห็นหน

ไร้ผู้คน พงพนา ชลาศัย

ไม่มีแม้ ชีวิต ชนิดใด

ไม่มีใคร พร่ำเพียร เขียนกวี

 

ไม่มีแล้ว โลกรัก แม้จักรวาล

ไม่มีการ เปลี่ยนแปลง เสียงแสงสี

ไม่มีนาม สมมุติ สุดแค่นี้

ซึ่งไม่มี อะไร สิ่งใดเลย

 

รักจึงเป็น เช่นกาวใจ เชื่อมให้โลก

สิ้นทุกข์โศก ทั้งมวล…..ไม่ควรเฉย

ควรพิทักษ์ รักกัน มั่นกว่าเคย

เพื่อโลกเผย ไมตรี นี้นิรันดร์

 

พีรมิตร  พึ่งโพธิ์



ผู้ตั้งกระทู้ พีรมิตร พึ่งโพธิ์ (peeramit07-at-hotmail-dot-co-dot-th) :: วันที่ลงประกาศ 2012-07-26 10:48:28


[1] 2 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 1 (2289459)

 

ยินดีที่โลกนี้มีความรัก

ได้ประจักษ์น้ำใจในโลกฝัน

ายธารแห่งศรัทธาคุณค่าอนันต์

ก่อสัมพันธ์แนบชิดติดตรึงหทัย

ราชาวดี

ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2012-07-26 12:19:26


ความคิดเห็นที่ 2 (2289576)

       มาดแม้นว่าโลกนี้ไม่มีรัก

คงจะพบแต่ยักษ์เดินขวักไขว่

แยกเขี้ยวจ้องขย้ำอยู่ร่ำไป

ตามวิสัยล่าเหยื่อไม่เบื่อเลย

     ความเมตตาปรานีไม่มีแล้ว

เห็นแต่แววตาเหี้ยมซึ่งเตรียมเผย

เศษกระดูกกระดองสุมกองเกย

ยักษ์ที่เอ่ย คือ...คนกร่าง...ใช่ร่างยักษ์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สุภาพชน คนในเมือง วันที่ตอบ 2012-07-26 18:26:39


ความคิดเห็นที่ 3 (2289682)

หากโลกนี้ไม่มีรักเพียงยักษา
เข้าบีฑาเหยียบย่ำช้ำกระอัก
สิ้นเมตตาปราณีที่พิงพัก
สิ้นความรักสูญความดีที่เคยครอง
ทั้งต้นไม้ใบหญ้าพาสลด
ด้วยเพราะหมดแสงทิวาพากันหมอง
เมฆดูหม่นฝนฟ้าพาละออง
น้ำตาของความทุกข์เข้ารุกโรม
รอวันมารถูกผลาญสิ้นจากถิ่นแคว้น
ก็คงแม้นเหล่าชนทนไฟโหม
แทบเป็นจุลมอดไหม้ใจทรุดโทรม
ผู้คนโทมนัสโศกวิโยคกรรม

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณณมี วันที่ตอบ 2012-07-27 09:31:20


ความคิดเห็นที่ 4 (2289794)

    "รักคืออะไร"

 

...เมื่อมีรักหลายคนนักมักเป็นทุกข์

เจ็บจนจุกทุกปัญหาพาขื่นขม

เพียงเพราะรักปวดรวดร้าวเศร้าระทม

หลงโง่งมจมกับรักด้วยภักดี

 

โลกใบนี้เพียงเอื้อเฟื้อและเผื่อแผ่

สุขเพียงแค่แบ่งปันกันฉันสุขี

เื้อื้ออาทรความห่วงใยมิตรไมตรี

ทุกคนมีเมตตาธรรมค้ำใจตน

 

รักคือรักยากยิ่งนักแปลความหมาย

รักสุดท้ายเปรียบเปรยเคยสับสน

รักซ้ำซ้อนยอกย้อนในใจคน

รักคือผลที่เกิดก่อจากอะไรฯ

 

ขอน้อมคารวะจากใจ

"ทรชนบ้านนอก"

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2012-07-27 11:25:00


ความคิดเห็นที่ 5 (2290205)

 รักคืออะไร มีความหมายหลากหลาย..?  บ้างก็ว่า รักคือการให้ !  บ้างก็ว่า รักคือการให้อภัย! บ้างก็ว่ารักคือการเสียสละ ! ความหมายข้างต้น มีเป็นศตวรรษ  ก็ยังสรุปไม่ได้ หลายชีวิต ทั้งหญิง ชาย ต่างถูกคำว่ารักเสียดแทง แย่ตาม ๆ กัน ลองมาสดุดคำนี้บ้างไหม...ว่า.?..ความรักคือความรู้..ถ้ารู้เท่าทันในความรัก การจะถูกรักเสียดแทงน่าจะเหินห่างได้นะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น น้อย บางกระบือ (jadet-noy-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2012-07-29 12:05:14


ความคิดเห็นที่ 6 (2290298)

 

ฝากความรำลึกถึง คุณสุภาพชน คนในเมือง  คุณทรชน บ้านนอก คุณปุณณมี ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2012-07-29 22:09:51


ความคิดเห็นที่ 7 (2290302)

 

        ยังคิดถึงคุณราชาวดีเช่นกันครับ...

       ขอบคุณในไมตรีจิตนะครับ..คุณราชาวดี

ผู้แสดงความคิดเห็น สุภาพชน คนในเมือง วันที่ตอบ 2012-07-29 22:42:27


ความคิดเห็นที่ 8 (2290328)

ยังคิดถึงทุกคนอยู่เช่นเดิมครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณณมี วันที่ตอบ 2012-07-30 08:39:16


ความคิดเห็นที่ 9 (2290424)

ขอน้อมคารวะทุกท่านครู

ขอน้อมคารวะจากใจ

"ทรชนบ้านนอก"

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2012-07-30 11:30:13


ความคิดเห็นที่ 10 (2290648)

ทุกท่าน ทุกโอกาส ไม่พลาดพบ

เคยประสบ ก็ประสิทธิ์ จิตประจักษ์

ญาติน้ำหมึก ผลึกน้ำใจ ให้ความรัก

คอยบ่มเพาะ เสนาะนัก คำทักทาย

ราวสืบต่อ ลมหายใจ ให้คนเหงา

ราวคอยเฝ้า คนไข้  ให้ไข้หาย

ราวรู้จักกันมานานปานนิยาย

ขอขอบคุณท่่านทั้งหลายที่ฉายรัก

ผู้แสดงความคิดเห็น ปรัชญ์ วลีพร (peeramit07-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2012-07-31 09:51:23


ความคิดเห็นที่ 11 (2290703)

 

รู้จักเพียงอักษรซ่อนความหมาย

มากลับกลายเป้นความรักประจักษ์ค่า

สื่อวลีสร้างสรรค์จำนรรจา

ก่อศรัทธาเป็นแรงใจในโลกกวี

ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2012-07-31 12:19:18


ความคิดเห็นที่ 12 (2290777)

กลอนหนึ่งบทอันจดจารปานรู้สึก
ถึงผลึกความคิดลิขิตหมาย
ย่อมสะท้อนดุจคันฉ่องส่องประกาย
ซึ่งความหมายฉายความคิดแลจิตตน
ครั้นถอดกลอนถอนสลักที่ถักผูก
ตีความถูกปลูกมิตรมิผิดผล
จึงต่อกลอนย้อนความไปตามกล
หวังผู้ยลแต่ต้นทางมิหมางเมิน
ด้วยไมตรีกวีร้อยถ้อยลิขิต
เป็นภาษิตใช่เพียงแต่แค่ผิวเผิน
ย่อมกลั่นกรองทำนองเพราะเสนาะเพลิน
เพื่อเชื้อเชิญสร้างสรรค์จรรโลงใจ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณณมี วันที่ตอบ 2012-07-31 16:35:46


ความคิดเห็นที่ 13 (2290821)

 

ด้วยไมตรีกวีร้อยถ้อยลิขิต
เป็นภาษิตใช่เพียงแต่แค่ผิวเผิน
ย่อมกลั่นกรองทำนองเพราะเสนาะเพลิน
เพื่อเชื้อเชิญสร้างสรรค์จรรโลงใจ

                                         ปุณณมี

รำลึกถึงซึ้งค่าคำว่า เพื่อน

คอยย้ำเตือนสื่อสารที่ขานไข

ทุกอักษรบอกกล่าวเล่าความนัย

ทบหทัยใฝ่ถวิลด้วยยินดี

                                        ราชาวดี

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ราช่าวดี วันที่ตอบ 2012-07-31 19:34:03


ความคิดเห็นที่ 14 (2290825)

 

ความเมตตาปรานีไม่มีแล้ว
เห็นแต่แววตาเหี้ยมซึ่งเตรียมเผย
เศษกระดูกกระดองสุมกองเกย
ยักษ์ที่เอ่ย คือ...คนกร่าง...ใช่ร่างยักษ์

                                สุภาพชน คนในเมือง

คือคนเถื่อนเกลื่อนเมืองเรื่องยิ่งใหญ่

แล้งน้ำใจไร้คุณธรรมย้ำตระหนัก

แสวงหาบทนิยามแห่งความรัก

มาพิทักษ์ช่องว่างอย่าร้างเลือน

                                                ราชาวดี

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ราช่าวดี วันที่ตอบ 2012-07-31 19:47:35


ความคิดเห็นที่ 15 (2290835)

 

       คือคนเถื่อนเกลื่อนเมืองเรื่องยิ่งใหญ่

แล้งน้ำใจไร้คุณธรรมย้ำตระหนัก

แสวงหาบทนิยามแห่งความรัก

มาพิทักษ์ช่องว่างอย่าร้างเลือน

                                                ราชาวดี

     ช่วยกันอุดช่องว่างอย่าห่างเหิน

ให้ก้าวเดินไปข้างหน้าดีกว่าเพื่อน

เผื่อแผ่รักเช้าค่ำคอยย้ำเตือน

ไกลก็เหมือนใกล้ชิดสนิทกัน...

                                               สุภาพชน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สุภาพชน คนในเมือง วันที่ตอบ 2012-07-31 20:28:25


ความคิดเห็นที่ 16 (2290836)

 

ราวสืบต่อ ลมหายใจ ให้คนเหงา
ราวคอยเฝ้า คนไข้  ให้ไข้หาย
ราวรู้จักกันมานานปานนิยาย
ขอขอบคุณท่่านทั้งหลายที่ฉายรัก

                                              ปรัชญ์ วลีพร

เฉกน้ำทิพย์พร่างพรมห่มความทุกข์

ชีพกลับสุขเพราะแรงใจได้ประจักษ์

โลกประมวลสิ่งมีค่ามาทายทัก

พร้อมพิทักษ์รักเมตตามามอบคุณ

                                              ราชาวดี

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2012-07-31 20:29:55


ความคิดเห็นที่ 17 (2290840)

 

          ราวสืบต่อ ลมหายใจ ให้คนเหงา
ราวคอยเฝ้า คนไข้  ให้ไข้หาย
ราวรู้จักกันมานานปานนิยาย
ขอขอบคุณท่่านทั้งหลายที่ฉายรัก

                                              ปรัชญ์ วลีพร

       เฉกน้ำทิพย์พร่างพรมห่มความทุกข์

ชีพกลับสุขเพราะแรงใจได้ประจักษ์

โลกประมวลสิ่งมีค่ามาทายทัก

พร้อมพิทักษ์รักเมตตามามอบคุณ

                                              ราชาวดี

      รักจึงมีประโยชน์กว่าโกรธเกลียด

ยิ่งหยามเหยียดยิ่งขยาดขาดอบอุ่น

รักโอบเอื้อเจือจานสะพานบุญ

ย่อมค้ำจุนโลกนี้ให้จีรัง

                                           สุภาพชน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สุภาพชน คนในเมือง วันที่ตอบ 2012-07-31 20:41:21


ความคิดเห็นที่ 18 (2290841)

 

รักคือรักยากยิ่งนักแปลความหมาย

รักสุดท้ายเปรียบเปรยเคยสับสน

รักซ้ำซ้อนยอกย้อนในใจคน

รักคือผลที่เกิดก่อจากอะไรฯ

                   ทรชนบ้านนอก

ปลูกต้นรักจากใจมิให้ช้ำ

หมั่นรดน้ำพรวนดินถวิลใฝ่

เมื่อดอกรักคลี่บานคู่ก้านใบ

รินน้ำใจหยาดหยดมารดแทน

                    ราชาวดี

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2012-07-31 20:45:28


ความคิดเห็นที่ 19 (2290848)

    

     ค่ำคืนนี้มิตรสหายเริ่มฉายรัก

มาทายทักไมตรีพอมีหวัง

หากเงียบเหงาว้าเหว่อาจเอวัง

คงจะนั่ง สงบ แค่...ตบยุง

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สุภาพชน คนในเมือง วันที่ตอบ 2012-07-31 20:50:51


ความคิดเห็นที่ 20 (2290853)

     

        ต่อกระทู้เรียงร้อยพร้อมรอยยิ้ม

ช่างเอมอิ่มกระไรงานไม่ยุ่ง

พกความรักมาด้วยเพื่อช่วยปรุง

จนรักฟุ้งเลยหนอหน้าจอคอมพ์...

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สุภาพชน คนในเมือง วันที่ตอบ 2012-07-31 21:11:47


ความคิดเห็นที่ 21 (2290859)

       หากโลกนี้ไม่มีรักต้องหนักแน่

จะเหลียวแลใครเล่าเป็นเบ้าหลอม

คงต้องอ้อนองค์อินทร์ให้ยินยอม

เสกมนต์ล้อมเพื่อมนุษย์หยุดชิงชัง

ผู้แสดงความคิดเห็น สุภาพชน คนในเมือง วันที่ตอบ 2012-07-31 21:24:53


ความคิดเห็นที่ 22 (2290860)

 

       ค่ำคืนนี้มิตรสหายเริ่มฉายรัก
มาทายทักไมตรีพอมีหวัง
หากเงียบเหงาว้าเหว่อาจเอวัง
คงจะนั่ง สงบ แค่...ตบยุง

                                   สุภาพชน คนในเมือง

       เมื่อกลอนอยู่เคียงข้างไม่อ้างว้าง

ร่วมเสริมสร้างสิ่งดีที่หมายมุ่ง

เพียรไขว่คว้าโอบเอื้อเพื่อผดุง

ผลงานรุ่งชื่อติดท้อปฮิตแท้

                                   ราชาวดี

       

ผู้แสดงความคิดเห็น ราช่าวดี วันที่ตอบ 2012-07-31 21:24:58


ความคิดเห็นที่ 23 (2290870)

 

     ต่อกระทู้เรียงร้อยพร้อมรอยยิ้ม

ช่างเอมอิ่มกระไรงานไม่ยุ่ง

พกความรักมาด้วยเพื่อช่วยปรุง

จนรักฟุ้งเลยหนอหน้าจอคอมพ์...

                                   สุภาพชน คนในเมือง

     มาเยี่ยมเยี่ยมมองมองจ้องนานแล้ว

ไม่เห็นแววเพื่อนย้ำกล่าวคำหอม

หลายวันผ่านระทมสุดตรมตรอม

ต้องอดออมอัดอั้นสุดบรรยาย

     ถึงวันนี้ปี่กลองก้องขับขาน

รักประสานเร่งรุดสู่จุดหมาย

เชิญขับขานกลอนกล่อมย้อมหญิงชาย

อย่าเพิ่งหน่ายเพลงกานท์สมานภิรมย์

                                          ราชาวดี

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2012-07-31 21:43:20


ความคิดเห็นที่ 24 (2290871)

        ท่าน"ราชาวดี"มากมีมิตร

นั่นก็ศิษย์ นี่ก็เพื่อน ไม่เลือนแน่

ต่างรายล้อม อุ้มชู ช่วยดูแล

เพราะเผื่อแผ่ รักใคร่ น้ำใจงาม

ผู้แสดงความคิดเห็น สุภาพชน คนในเมือง วันที่ตอบ 2012-07-31 21:52:23


ความคิดเห็นที่ 25 (2290876)

       จากสองทุ่มพอดีถึงสี่ทุ่ม

เราต่างซุ่มปักหลักเกินหักห้าม

สองชั่วโมงลุล่วงง่วงรุกลาม

พยายามขยับบังคับเม้าท์

      คงเพียงพอ คืนนี้ ราตรีสวัสดิ์

เคยอั้นอัด ผ่อนคลาย ไปหลายเท่า

โบกมือลา พักผ่อน นอนเถอะเรา

พอหายเหงา นะครับ...หลับฝันดี...

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สุภาพชน คนในเมือง วันที่ตอบ 2012-07-31 22:10:14


ความคิดเห็นที่ 26 (2290887)

           "ยังเหมือนเดิม" 


เฝ้าเมียงมองผองสหายมิตรเคยรัก

ต้องประจักษ์รักจริงยิ่งสุขี

วันก่อนเก่าเราทั้งหลายท่านเคยมี

มิตรไมตรีมิลืมเลือนเพื่อนฉันเอย


"สุภาพชน" คนเคยยั่วกลัวยิ่งนัก

มาพบพักตร์กันเหมือนเก่าเอาล่ะเหวย

สอดสำเนียงต่อถ้อยคำอย่างคุ้นเคย

อาจละเลยห่างไปบ้างไม่ว่ากัน


"ปุณณมี"ยังคมกริบไกลริบลิ่ว

กานท์คงพลิ้วปลิวลมลอยพลอยสุขสันต์

"ราชาวดี"ปราจีนบุรี นั้น

ยังรำพันนิราศเก่าเฝ้าคอยรอ


ภาระกิจ ว.4 มีวันคู่

ยังคงอยู่หมายสามเหมือนเก่าหนอ

รับคนเจ็บหลากหลายไม่เคยพอ

ชีวีขออุทิศกายใช้แผ่นดิน

 

นานวันครั้งมาทักทายอย่าสงสัย

ทุกเหตุภัยหากเกิดขึ้นรับหมดสิ้น

เงินไม่ได้แต่ทำไปด้วยเคยชิน

ใครไม่ยินเรามิสนเพราะเราทำฯ


ขอน้อมคารวะจากใจ"

"ทรชนบ้านนอก"

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2012-07-31 23:07:31


ความคิดเห็นที่ 27 (2291081)

     

          ขอต้อนรับทรชนคนขยัน

เป็นอีกวันมีเวลาออกมาจ้อ

บางคนอาจกวาดสายตาอยู่หน้าจอ

เชิญช่วยต่อ กระทู้พี่..พีรมิตร...

ผู้แสดงความคิดเห็น สุภาพชน คนในเมือง วันที่ตอบ 2012-08-01 21:06:27


ความคิดเห็นที่ 28 (2291460)

เรียน  ทุกท่านทีมีความสำคัญทางด้านกลอน

                             อ่านทุกถ้อยวลี (หากโลกนี้ไม่มีรัก ) อยากมีความสามารถบ้าง แต่สุดอ้างว้างที่ไม่มีทางสร้างได้..!อ่านสำนวนของทุกท่านอาทิ ปุณณมี ราชาวดี พีรมิตร  ปรัชญ์วลีพร ทรชนบ้านนอก  และสุภาพชน อ่านอย่างตั้งใจ อยากใคร่ลอง ก็กลัวจะมัวหมอง  ด้วยขาดความสามารถดังกล่าว..!เพราะการเรียงอักษรให้ได้อรรถรสตามภาษากลอนต้องประกอบด้วย ผันเสียง สำเนียงสัมผัส ขาดไม่ได้คือ การสัมผัสคำ ต้องไม่สัมผัสซ้ำ หรือชิ่งสัมผัส ฯ สิ่งเหล่านี้ผมมีน้อยหรือไม่มีเลย..!!!หากจะขอเป็นนักกลอนบ้าง ( ประเภทกลอนประตู กลอนหน้าต่าง ) ให้โกาสผมบ้างได้หรือเปล่า 

              จึงเรียนมาเพื่อโปรดกรุณา

                                                                      เจด็ด    บรรจงจัด

ผู้แสดงความคิดเห็น น้อย บางกระบือ (jadet-noy-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2012-08-04 10:52:08


ความคิดเห็นที่ 29 (2291467)

 

    โห...ท่านเจด็ด ท่านถ่อมตนเกินไปแล้วล่ะ ที่นี่มิมีอะไรขีดกั้น แค่ท่านอ่านได้ก็เชื่อแน่ว่าท่านต้องเขียนได้แน่ๆ...ไม่มีใครห้ามใครดอกครับ...พวกเรากันเองทั้งนั้น...ที่ท่านเอ่ยมาพวกเราก็พลาดกันบ่อย ช่นเรื่องสัมผัสซ้ำก็ดี...เสียงท้ายวรรคก็ตาม..เพราะเราคือมือสมัครเล่นทั้งน้าน....อย่ากังวลเลยครับ...คิดเสียว่าเป็นเวทีสื่อสารด้านอักษรของผู้ที่รักกลอนทั้งหลาย มาเจอกันก็เสวนาตามประสามือสมัครเล่น ก็เท่านั้นครับ...แล้วจะรู้ว่าที่นี่ไม่อ้างว้างอย่างที่ท่านคิดครับ....

      พิจารณาแล้วครับ...เห็นสมควรเชิญคุณเด็ดร่วมวงได้เเลยครับ.

                                หนึ่งในจำนวนที่ท่านเอ่ยชื่่อ ขออนุญาตตอบรับแทนเพื่อนๆครับ / และขออนุญาตคุณพีรมิตร เจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ

ด้วยบังเอิญเปิดมาพบความเห็นของคุณเด็ดพอดี...

                                               

ผู้แสดงความคิดเห็น พวกเรากันเอง วันที่ตอบ 2012-08-04 11:32:06


ความคิดเห็นที่ 30 (2291474)

 

                                                               แด่  .......... คุณเจด็ด บรรจงจัด

ประตูแห่งความคิดมิปิดกั้น

เชิญร่วมกันเสริมสร้างทางอักษร

หวานน้ำคำอรรถรสแห่งบทกลอน

ทุกวรรคตอนติดตรึงซึ้งชีวี

ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2012-08-04 12:13:56


ความคิดเห็นที่ 31 (2291555)

แด่คุณเจด็ด

จริงดังทุกท่านที่ได้ตอบไปแล้วครับ  พวกเราล้วนแต่ใช้สถานที่แห่งนี้แต่งกลอนเชื่อมสัมพันธ์ไมตรี ตามประสาคนรักบทกวี  เราล้วนผ่านช่วงเวลาของการเริ่มเดินในก้าวแรกด้วยกันทั้งหมด ซึ่งก็คือความรักในบทกวีนั่นเอง  รักแล้วก็จะเขียนไปได้เอง  ลองเขียนโดยใช้หัวใจก่อนซิครับ  ผิดถูกไม่เป็นไร เชื่อว่าทุกคนในที่นี้ล้วนแล้วแต่ยินดีที่จะได้เห็นผลงานของทุกคนแน่นอนครับ

ขอแสดงความคิดถึงทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  ไม่ได้เจอกันนาน

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณณมี วันที่ตอบ 2012-08-04 21:01:54


ความคิดเห็นที่ 32 (2291718)

                                                                   แม้ หากโลกนี้ไม่มีรัก

                                                             เหมือนกับดักวางโดยรอบ คอบความฝัน

                                                                ขาดรอยเชื่อม  รอยต่อ  ก่อจาบัลย์

                                                               ส่วนสำคัญ  ไร้สำเนียง  เสียงดนตรี

                                                                เพราะจริงแท้โลกของคน ค้นหารัก

                                                                  แม้ยากนัก การขวนขวาย ไม่มีหนี

                                                                 แม้ได้รัก  อาจตรม  ถมทวี

                                                                  ใช่เรื่องที่  ต้องหาได้ ให้ปมคลาย 

                                                                  อันโลกนี้ไม่มีหรอก ปลอดเรื่องรัก

                                                                  ถึงเหนื่อยหนักรักยังมีมิจางหาย

                                                               เท่าหัวมดหัวช้าง ช่างประไร

                                                                ขอเพียงได้ชื่นรักจักสุขเอย

 

                                                                           

 

                                                        

                                                             

ผู้แสดงความคิดเห็น น้อย บางกระบือ (jadet-noy-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2012-08-05 22:14:55


ความคิดเห็นที่ 33 (2291811)

อ่านกลอนคุณน้อยแล้ว ก็เห็นว่าคุณเจด็ดน้อยคงถ่อมตัวเกินไปจริง ๆ ตามความเห็นข้างต้น  เขียนได้ดีครับ ไม่เหมือนคนเพิ่งเขียนเลย มาร่วมกันเขียนอีกนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณณมี วันที่ตอบ 2012-08-06 10:17:05


ความคิดเห็นที่ 34 (2291821)

"ที่แห่งรัก"


ย้อนวันเก่าเฝ้ากระทู้อยู่หลายครั้ง

พินิจนั่งไตร่ตรองลองสงสัย

เห็นคุณน้อยถ่อมตัวนักชักแปลกใจ

ท่านคือผู้ยิ่งใหญ่ในวันวาน


ข้าผู้น้อยทวนกระทู้อยู่เป็นนิจ

อันตัวศิษย์ผู้รู้น้อยวอนสงสาร

"น้อย บางกระบือ" นั้นแท้คืออาจารย์

เคยพบพานวันก่อนเก่าเล่าสู่ฟัง


ณ ตรงนี้มีมิตรรักผองสหาย

คอยทักทายแลกเปลี่ยนเขียนความหวัง

หลากที่มาสุมรวมร่วมพลัง

ประดุจดั่งศูนย์รวมรักไว้พักพิง


ขอน้อมคารวะจากใจ

"ทรชนบ้านนอก"


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2012-08-06 10:50:42


ความคิดเห็นที่ 35 (2291894)

 ต้องขอโทษทุกท่านวารต่อถ้อย

เวลาน้อยมิได้พบประสบสมัย

อยู่บ้านป่าไกลบุรีศรีวิไล

จึงไม่ได้ต้อนรับขับกลอนกานท์

ครั้นมาเปิดกระทู้ดูอีกครั้ง

ล้วนพลังสร้างสรรค์อันสืบสาน

แสนเสียดายอยากอยู่ด้วยช่วยรายงาน

เปิดสะพานไมตรีกวีใจ

สุดยินดีพี่น้องประคองรัก

แจ้งประจักษ์รสคำดื่มด่ำไฉน

รสกวีล้วนปรีดิ์เปรมเกษมฤทัย

มีอีกสักครั้งไหมใคร่สัมพันธ์

ผู้แสดงความคิดเห็น พีรมิตร พึ่งโพธิ์ (peeramit07-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2012-08-06 13:37:20


ความคิดเห็นที่ 36 (2291929)

 

 

     ครั้นมาเปิดกระทู้ดูอีกครั้ง

ล้วนพลังสร้างสรรค์อันสืบสาน

แสนเสียดายอยากอยู่ด้วยช่วยรายงาน

เปิดสะพานไมตรีกวีใจ

     สุดยินดีพี่น้องประคองรัก

แจ้งประจักษ์รสคำดื่มด่ำไฉน

รสกวีล้วนปรีดิ์เปรมเกษมฤทัย

มีอีกสักครั้งไหมใคร่สัมพันธ์

                            พีรมิตร พึ่งโพธิ์

     ด้วยน้ำใจไมตรีมีมามอบ

และขอขอบคุณต่างร่วมสร้างสรรค์

แม้มิได้เห็นหน้ามาพบกัน

ศรัทธามั่นวรรณศิลป์ด้วยยินดี

     หากโลกนี้ไม่มีรัก ....คงหนักจิต

กระทู้ ครูพีรมิตร ช่วยเสริมศรี

ลมหายใจมาทายทักผองนักกวี

ล้วนสิ่งดีมีคุณค่าน่าชื่นชม

                                       ราชาวดี

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ราช่าวดี วันที่ตอบ 2012-08-06 15:17:20


ความคิดเห็นที่ 37 (2291934)

 

ขออภัย

     ขอเปลี่ยนคำวรรคสุดท้ายของบทที่สอง  จากคำ ดี เป็น ที่

     คือ

ล้วนสิ่งที่มีคุณค่าน่าชื่นชม

                                       ราชาวดี

ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2012-08-06 15:28:37


ความคิดเห็นที่ 38 (2291994)

หากโลกนี้ไม่มีรัก ....คงหนักจิต

กระทู้ ครูพีรมิตร ช่วยเสริมศรี

ลมหายใจมาทายทักผองนักกวี

ล้วนสิ่งดีมีคุณค่าน่าชื่นชม

...แต่ที่นี่ยังมีรักไม่หนักจิต
ด้วยมวลมิตรคิดชอบประกอบสม
ซึ่งไมตรีอันมีค่าน่านิยม
ร่วมเชยชมกลมเกลียวหนึ่งเดียวกัน
แม้แต่หน้าค่าตาหาได้เห็น
มิถือเป็นเช่นกำแพงกั้นแรงฝัน
อุดมการณ์สานก่อต่อคืนวัน
ผ่านรำพันอักษรสะท้อนใจ
หนึ่งกระทู้รู้ความด้วยตามคิด
แฝงลิขิตติดรสบทขานไข
ให้ซึมซับซาบซึ้งซึ่งทรวงใน
แม้นยามใดได้มาเยือนยังเหมือนเดิม

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณณมี วันที่ตอบ 2012-08-06 18:49:56


ความคิดเห็นที่ 39 (2292005)

           หากที่ไดไม่มีรักมักพิลึก

ลองนั่งนึกคงแปลกแต่แรกเริ่ม

อาจมีทุกข์ตอกย้ำเข้าซ้ำเติม

ภัยอาจเพิ่มย่อยยับนับอนันต์

        โลกอยู่ได้ ถึงบัดนี้..เพราะมีรัก

ผูกสมัครปลอบปลุกอย่างสุขสันต์

มีเมตตาไมตรีมีแบ่งปัน

บวกความฝัน ความหวัง อลังการ...

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สุภาพชน คนในเมือง วันที่ตอบ 2012-08-06 19:24:01


ความคิดเห็นที่ 40 (2292041)

 

 

 โลกอยู่ได้ ถึงบัดนี้..เพราะมีรัก
ผูกสมัครปลอบปลุกอย่างสุขสันต์
มีเมตตาไมตรีมีแบ่งปัน
บวกความฝัน ความหวัง อลังการ...

        เพราะเรานั้นโชคดีมีเพื่อนรัก

ซึ้งประจักษ์ความจริงใจในคำขาน

ได้เรียงร้อยบรรเลงเป็นเพลงกานท์

สื่อสมานไมตรีที่ชื่นชู

       ต่างแลกเปลี่ยนความคิดลิขิตฝัน

ด้วยเชิงชั้นลีลามาเคียงคู่

และยอมรับความคิดเห็นไว้เป็นครู

เพื่อรอบรู้จำจดเป็นบทเรียน

                                            ราชาวดี

 

                                         สุภาพชน คนในเมือง

ผู้แสดงความคิดเห็น ราช่าวดี วันที่ตอบ 2012-08-06 21:15:04


ความคิดเห็นที่ 41 (2292045)

 

     ขออภัย 

     ที่ถูกต้องคือหน้านี้ครับ

 

       โลกอยู่ได้ ถึงบัดนี้..เพราะมีรัก

ผูกสมัครปลอบปลุกอย่างสุขสันต์

มีเมตตาไมตรีมีแบ่งปัน

บวกความฝัน ความหวัง อลังการ...

                                                             สุภาพชน คนในเมือง

       

         เพราะเรานั้นโชคดีมีเพื่อนรัก

ซึ้งประจักษ์ความจริงใจในคำขาน

ได้เรียงร้อยบรรเลงเป็นเพลงกานท์

สื่อสมานไมตรีที่ชื่นชู

       ต่างแลกเปลี่ยนความคิดลิขิตฝัน

ด้วยเชิงชั้นลีลามาเคียงคู่

และยอมรับความคิดเห็นไว้เป็นครู

เพื่อรอบรู้จำจดเป็นบทเรียน

                                            ราชาวดี

 

 

                                        

ผู้แสดงความคิดเห็น ราช่าวดี วันที่ตอบ 2012-08-06 21:15:04

 


[1]

ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2012-08-06 21:25:11


ความคิดเห็นที่ 42 (2292057)

 

คงเคยเกิดกำเนิดเป็นเช่นลูกศิษย์
มีชีวิตร่วมสำนักรักขีดเขียน
แต่กาลก่อนย้อนชาติอาจเคยเพียร
ต่อบทเรียนร่วมอาจารย์แต่ปางบรรพ์
มาบัดนี้ชีวิตใหม่ได้กำเนิด
ยังทูนเทิดกาพย์กลอนมาย้อนฝัน
ดั่งถูกชักด้วยสายใยถึงไกลกัน
ร่วมประชันฉันมิตรไม่ผิดเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณณมี วันที่ตอบ 2012-08-06 22:09:05


ความคิดเห็นที่ 43 (2292071)

 

คงเคยเกิดกำเนิดเป็นเช่นลูกศิษย์
มีชีวิตร่วมสำนักรักขีดเขียน
แต่กาลก่อนย้อนชาติอาจเคยเพียร
ต่อบทเรียนร่วมอาจารย์แต่ปางบรรพ์
มาบัดนี้ชีวิตใหม่ได้กำเนิด
ยังทูนเทิดกาพย์กลอนมาย้อนฝัน
ดั่งถูกชักด้วยสายใยถึงไกลกัน
ร่วมประชันฉันมิตรไม่ผิดเลย

                                          ปุณณมี

     ด้วยใจรักอักษรสุนทรลิขิต

ได้ชื่นชิดวรรณคดีมีเฉลย

เพียรศึกษาท่องบ่นจนคุ้นเคย

หัดเอื้อนเอ่ยเขียนคำต้องตำรา

     พร้อมรับฟังข้อคิดเห็นประเด็นต่าง

ลดช่องว่างหลากหลายหมายคุณค่า

จากเพื่อนรักสร้างสรรค์จำนรรจา

เป็นภาษาที่ถูกต้องร่วมกรองคำ

                                     ราชาวดี

ผู้แสดงความคิดเห็น ราช่าวดี วันที่ตอบ 2012-08-06 22:45:15


ความคิดเห็นที่ 44 (2292081)

 เห็นน้ำใจราชาวดีที่กว้างใหญ่    เปิดช่องในให้ใครใครไว้แลกเปลี่ยน  นี่กระมังชาติกวีศรีพากเพียร  ส่งงานเขียนของชาติปราชญ์เปรื่องไกล

อันเพชรงามที่ไม่ผ่านการเสียดสี   ย่อมไม่มีในโลกาว่าจริงไหม  ถึงโลกนี้รักอาจเพี้ยนเลี่ยนเลื่อนไป  แต่น้ำใจ  " ราชาวดี " มีเปรี่ยมเอย

ผู้แสดงความคิดเห็น น้อย บางกระบือ (่jadet-noy-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2012-08-06 23:53:44


ความคิดเห็นที่ 45 (2292082)

ขอขอบคุณครับ  คุณปุณณมี ที่สร้างวลีชื่นชม ทำให้ผมเกิดความรื่นรมย์  ขอบคุณในไมตรีทุกท่านที่เป็นกันเอง

                                                                                            เจด็ด  บรรจงจัด

ผู้แสดงความคิดเห็น น้อย บางกระบือ (่jadet-noy-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2012-08-07 00:01:58


ความคิดเห็นที่ 46 (2292105)

 

                                                                          อันโลกนี้ไม่มีหรอก ปลอดเรื่องรัก

                                                                  ถึงเหนื่อยหนักรักยังมีมิจางหาย

                                                                  เท่าหัวมดหัวช้าง ช่างประไร

                                                                 ขอเพียงได้ชื่นรักจักสุขเอย

                                                                                                            น้อย บางกระบือ

                                                                        สันติภาพสร้างโลกสวยด้วยความรัก

                                                                 ย่อมประจักษ์ต่อชีวีที่เอื้อนเอ่ย

                                                                 หากไร้รักแล้วไซร้ไม่คุ้นเคย

                                                                 คำเฉลยทุกข์ครองให้หมองมาน

                                                                        หันหน้าเข้าหากันสัมพันธ์เริ่ม

                                                                  แล้วต่อเติมอักษรามาไขขาน

                                                                  เกิดความคิดหลากหลายหมายสร้างงาน

                                                                  เป็นสะพานเชื่อมศรัทธาคุณค่าคง

                                                                                                                ราชาวดี

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2012-08-07 07:49:36


ความคิดเห็นที่ 47 (2292171)

เราต่างศิษย์มีครูรู้ประจักษ์
ต่างมีรักปักใจในอักษร
ต่างเรียงร้อยถ้อยวจีกวีกลอน
ต่างหนีร้อนมาพึ่งเย็นเป็นเพื่อนกัน
ต่างประสบพบการณ์ผ่านชีวิต
ต่างความคิดจิตใจเคยใฝ่ฝัน
ต่างภาระหน้าที่อันมีกัน
ต่างผูกพันกันด้วยสายใยกวี

ขอขอบคุณในไมตรีจิตของคุณน้อยอีกครั้งครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณณมี วันที่ตอบ 2012-08-07 10:01:30


ความคิดเห็นที่ 48 (2292326)

            เราต่างศิษย์มีครูรู้ประจักษ์
ต่างมีรักปักใจในอักษร
ต่างเรียงร้อยถ้อยวจีกวีกลอน
ต่างหนีร้อนมาพึ่งเย็นเป็นเพื่อนกัน
           ต่างประสบพบการณ์ผ่านชีวิต
ต่างความคิดจิตใจเคยใฝ่ฝัน
ต่างภาระหน้าที่อันมีกัน
ต่างผูกพันกันด้วยสายใยกวี

                                            ปุณณมี

             ต่างขีดเขียนเวียนกลอนไม่นอนเปล่า

ต่างแบ่งเบาเจียดเวลาทำหน้าที่

ต่างช่วยเสริมภาษาศิลป์อย่างยินดี

ต่างก็มีไม่น้อยงานร้อยกรอง

          ต่างถนัดเล่นคำสม่ำเสมอ

ต่างพบเจอหน้าจอคอยรอจ้อง

ต่างคนต่างเวลามาเมียงมอง

ต่างเกี่ยวดองดุจมิตรใกล้ชิดกัน...

                                        สุภาพชน

ผู้แสดงความคิดเห็น สุภาพชน คนในเมือง วันที่ตอบ 2012-08-07 17:57:58


ความคิดเห็นที่ 49 (2292343)

 

     ต่างถนัดเล่นคำสม่ำเสมอ

ต่างพบเจอหน้าจอคอยรอจ้อง

ต่างคนต่างเวลามาเมียงมอง

ต่างเกี่ยวดองดุจมิตรใกล้ชิดกัน...

                                        สุภาพชน

     รสอักษรนำเสนอเพ้อห่วงหา

สร้อยอักษราตราตรึงคะนึงฝัน

แม้เช้าสายบ่ายเย็นมิเว้นวัน

ถ้อยจำนรรจ์ของเพื่อนเตือนให้คิด

     อันอ้อยตาลก็รู้อยู่ว่าหวาน

พจมานคราสดับประทับจิต

ด้วยกรองคำเชิญชวนประมวลมิตร

ถึงห่างเหมือนใกล้ชิดสนิทเคียง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2012-08-07 19:16:25


ความคิดเห็นที่ 50 (2292372)

       อันอ้อยตาลก็รู้อยู่ว่าหวาน

พจมานคราสดับประทับจิต

ด้วยกรองคำเชิญชวนประมวลมิตร

ถึงห่างเหมือนใกล้ชิดสนิทเคียง

                                    ราชาวดี

           ถึงจะไกลเหมือนใกล้มิไร้รัก

ร่วมสลักสื่อสารอ่านออกเสียง

สำนวนยังเสนาะเพราะสำเนียง

ต่างร้อยเรียงยิ้มร่าอยู่หน้าจอ

       เมื่อพบเพื่อนบรรเลงบทเพลงพจน์

ความงามงดเลอเลิศจึงเกิดก่อ

หากโลกนี้ไม่มีรักช่วยถักทอ

เรื่องจะต่อ กลอนใคร คงไม่มี..

                                       สุภาพชน

ผู้แสดงความคิดเห็น สุภาพชน คนในเมือง วันที่ตอบ 2012-08-07 21:12:29



[1] 2 ถัดไป >>


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.