ReadyPlanet.com


เนื่องในวันอดบุหรี่โลก 31 พค.


 

เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พค.ที่กำลังจะถึงนี้
ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง ชื่อประพัฒน์ (เล็ก)
เป็นหนอนหนังสือ มีความรอบรู้ทุกศาสตร์แขนง
และยังชอบบทกลอนต่าง ๆ สมองดีสามารถจดจำ
ท่องกลอนบทสำคัญๆ ได้มากมาย เป็นที่ประทับใจ
ในหมู่เพื่อนฝูงและผู้สนทนา ข้อเสียของเพื่อนก็คือ
สูบบุหรี่จัด ชนิดมวนต่อมวน เป็นเหตุให้เพื่อนฝูง
มีรังเกียจบ้าง ผมจึงแต่งกลอนให้คุณประพัฒน์
เมื่อปีที่แล้ว ดังนี้
                  - - - 000 - - -
 
     ถึงเพื่อนประพัฒน์ผู้ เลิศล้ำ ปัญญา
กอบด้วยความทรงจำ     เปี่ยมล้น
สาธกถ้อยทีคำ                 สนานสนุกเสนาะแฮ              
ทวยเทือกทูนเทิดท้น       ทั่วทั้ง ไทยทาวน์
     คนเราชาวโลกทั้ง           ไตรสกล
มีดีย่อมมีมล                     แปดบ้าง
รู้จริงรู้แจ้งจน                   ทุกหมวดแขนงนา
รู้แล้วแต่ไม่สั่ง                   อย่าให้ ตนทำ
     บุหรี่มีพิษล้ำ                 สุริโย
ยามสูบยังคุยโว                  เท่ห์แท้
ถุงลมโป่งพองโต               พิษซาบ สยองนา
ต้องเปิดซี่โครงแก้              กอบกู้ ชีวิน
     ยลยินมาที่รู้                  ดูเห็น
ล้อต๊อกก็ยังเป็น                  ปอดเน่า
พ่อคูณสูบเช้าเย็น               วันค่ำสม่ำนา
หัวใจตีบตันเข้า                  เกือบม้วยมรณัง
     ยังหนุ่มยังแน่นด้วย       พลพลัง
ยามแก่อย่าได้หวัง              สู้ได้
อดเสียวันนี้ยัง                    โอกาส สวัสดิ์แฮ
เห็นแก่ลูกเมียไซร้              อย่าได้ อาวรณ์
     สุนทรภู่เทียบไว้            ในโคลง
รู้ใดจักยืนยง                      เท่าได้
รู้วิธีรักอง                          เอารอด ยอดนา
รู้ว่ามีโทษไซร้                   เลิกได้ จึงดี
      ข้าฯสิยอมกราบไหว้   สรรเสริญ
หากเพื่อนละเลิกเมิน         มันได้
ถึงจักปราชญ์เปรื่องเกิน    กว่าผู้ ใดนา
ผิว์มิรู้ดีร้าย                        นั่นไซร้ เสียการ
             ประมุข งามละเมียด / แต่ง
ทุกวันนี้คุณประพัฒน์อดบุหรี่ได้แล้ว


ผู้ตั้งกระทู้ ประมุข :: วันที่ลงประกาศ 2011-05-25 08:58:10


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2180657)

 

     อันบุหรี่พิษร้ายออกอย่างนี้
มันมีขึ้นบนโลกแต่ครั้งไหน
ดูดควันก็สำลักมักระคาย
แต่ทำไมคนจึงนิยมกัน
       ต้องย้อนไปสมัยมนุษย์ถ้ำ
เพิ่งจะทำวิธีได้จุดไฟนั่น
เอาหินมากระแทกกระทบกัน
จากนั้นเอาเศษใบไม้มาต่อพาน
      เกิดไฟลุกให้ความร้อนความอบอุ่น
แต่ต้องวุ่นคอยจุดไฟอยู่อย่างนั้น
จึงพัฒนาเอาใบไม้มาห่อพัน
เศษที่หั่นเป็นมวนค่อนข้างยาว
      มวนก็คงเท่าไต้สมัยปู่
เมื่อจุดดูก็ไม่ลุกรุนแรงเท่า
กับไฟที่ก่อใช้ในทุกคราว
และเอาไปใช้จุดต่อได้อีกหลายกอง
      จึงไม่ต้องวุ่นกับการจุดครั้งใหม่
ขอเพียงให้มันอย่าดับจนหมดปล้อง
คอยจุดต่ออันใหม่ไว้คล้ายประคอง
จึงต้องคอยดูดไว้เมื่อไฟรา
       เกิดวัฒนธรรมนำไฟไปให้สาว
เมื่อหนุ่มเขาจะไปบ้านไหนหนา
ก็ถือเอาแท่งไฟไปกำนัลนา
จะหุงข้าวหุงปลาก็ง่ายพลัน
       ต้องคอยดูดแท่งไฟไม่ให้ดับ
งานสำหรับผู้ชายคอยดูดนั่น
เมื่อดูดก็ต้องมีสำลักควัน
แต่พอมันนานไปก็เคยชิน
       ในหมู่หนุ่มหนุ่มฟ้อก็สังสรรค์
นี่ของฉันใบขลู่นะใบขลู่หิน
ฝ่ายหนึ่งว่าของฉันก็ขลู่ดิน
แต่ทั้งสิ้นสรรหามาอวดกัน
       สุดท้ายก็มาลงตัวที่ใบยาสูบ
เพราะว่ารูปใบใหญ่เก็บง่ายนั่น
กลิ่นก็ฉุนพอประมาณเมื่อดูดควัน
จึงดูดกันเรื่อยมาหลายพันปี
       ปัจจุบันการจุดไฟของง่ายมาก
จุดไม่ยากแค่ไม้ขีดอีกไฟแช็คนี่
แต่มนุษย์ติดควันนั่นน่ะซี
พัฒนาเป็นบุหรี่มวนเล็กลง
        เป็นอุตสาหกรรมทำออกจำหน่าย
ผลิตขายทั่วโลกด้วยช่วยขนส่ง
เป็นมาดเท่ห์ของหนุ่มสะโอดสะอง
เรื่องจบลงเกิดพิษร้ายในชีวา
       สูบมากมากเข้าเป็นถุงลมโป่ง
ต้องรณรงค์เลิกสูบกันเถิดหนา
แรกเริ่มเป็นสิ่งประดิษฐ์ติดไฟนา
หมดปัญหาการจุดไฟ แต่..ไม่เลิกเอย
ผู้แสดงความคิดเห็น ประมุข วันที่ตอบ 2011-05-26 10:41:09



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.