คำขวัญกรุงเทพมหานครที่ได้ผ่านก​ารคัดเลือกของคณะกรรมการผู้ทรงค​ุณวุฒิ

โดยโครงการ ประกวดคำขวัญ กรุงเทพมหานคร

เมื่อ 9 กรกฎาคม 2554

*************************************************************************************

คำขวัญที่ 1

พระแก้วมรกตล้ำค่า เสาชิงช้าคู่เมือง 

พระมหาราชวังลือเลื่อง เมืองน่าท่องเที่ยวอันดับโลก

คำขวัญที่ 2

กรุงเทพมหานครเมืองฟ้า ความก้าวหน้ารุ่งเรือง 

ฟูเฟื่องวัฒนธรรม เลิศล้ำความเป็นไทย

คำขวัญที่ 3

พระแก้วมรกตเป็นศรี ประเพณีไทยเป็นสง่า 

ศิลปกรรมล้วนงามตา นามล้ำค่ากรุงเทพมหานคร

คำขวัญที่ 4

พระราชวังสง่างาม พระอารามเพริศแพร้ว  พระแก้วมรกตคู่เมือง

ที่ท่องเที่ยวลือเลื่อง นามกระเดื่องเมืองหลวงไทย

คำขวัญที่ 5

วัดเวียงวังงามเลิศล้ำ วัฒนธรรมงามเสริมส่ง 

ราชธานีงามยืนยง สืบธำรงความเป็นไทย

ทุกคำขวัญที่ได้ต้องมีการเอื้อประโยชน์ให้กันและกันแน่ ๆ เลย หรืออาจจะเป็นคำขวัญของลูกหลาน และญาติของกรรมการก็เป็นได้

ผลประโยชน์ตั้งมากมาก ใครจะไม่อยากจะได้ ทำงานทั้งปียังไม่ได้เลย

ใช่ๆ จริงอย่างที่คุณจีจีบอก ดูแล้วต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ เราต้องตามล้างตามเช็ด คอยสืบให้รู้ว่าคนได้คือใคร มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับกรรมการ

สำนวนที่ 1  คล้ายของเราที่ส่งครั้งแรก  แต่กรรมการยกเลิกการประกวด  ซึ่งเขียนไว้ดังนี้

                                                          1    วัดพระแก้วคู่ฟ้า   พระราชวังล้ำค่าสง่าศรี

                                                              เจ้าพระยาเชื่อมคลองท้องธานี   วิถีประขามหานคร

สำนวนที่  3  คล้ายคำขวัญจังหวัดเชียงใหม่

ดอยสุเทพเป็นศรี    ประเพณีเป็นสง่า

บุปผาชาติล้วนงามตา    นามล้ำค่านครพิงค์

สงสัยเขาเป็นเหนือหนะครับ

อย่าสงสัยเลยครับ  โลกนี้มีอะไรที่เหนือความคาดคิดเสมอ

สิ่งที่เกิดขึ้นย่อมเหมาะสมกับสิ่งที่คงอย่เสมอไป

นี่แหละโลกมนุษย์ ทำใจให้สบาย   คำขวัญที่ได้รับผ่านการคัดเลือกเขียนได้ดี...ทีเดียว

น่าจะลองส่งให้สรยุทธ หรือเรื่องจริงผ่านจอ หรือ dsi น่าจะดี บอกจะประกาศทุกสื่อแต่นี่เงียบกริบบบบบ  บาปมากให้คนเป็นหมื่นรอและสงสัย

คำขวัญที่ประชาชนส่งมากกว่าหมื่นแต่ไฉนคัดเลือกเพียงแค่ห้า น้อยเกินไปสำหรับการค้นหาคุณค่ามาให้เมืองหลวงแห่งแผ่นดินไทยกรรมการควรจะตระหนักถึงคุณค่าของการคัดเลือกสรรค์ โดยการคัดเลือกเป็นรอบๆ เช่นรอบแรก ห้าสิบคำขวัญ รอบรองยี่สิบคำวัญ รอบสุดท้ายสิบคำขวัญ ประชาชนจะได้เห็นถึงความยุติธรรมและจะได้คำขวัญที่มีคุณค่าที่แท้จริงที่จะประดับความสง่าแห่งเมืองหลวงไทยได้อ่านคำขวัญที่กรรมการเลือกเองแล้ว คำขวัญเหล่านี้มีแต่นํ้าไม่มีเนื้อ กล่าวถึงแต่สิ่งพื้นๆคำแต่ละคำไม่มีความขลังและอำนาจในคำพูดที่จะแสดงให้เห็นถึงว่านั้นคือ เมืองหลวงไทย กรรมการท่านน่าจะมองเข้าไปลึกๆว่า กรุงเทพคืองหัวใจแห่งแผ่นดิน นอกจากจะเป็นศูนย์รวมความเจริญแล้ว ยังเป็นที่ประทับแห่งพระมหากษัตริย์อยู่ด้วย อย่าลืมว่า ถ้าไม่มีราชจักรีวงศ์ก็ไม่มีกรุงเทพมหานคร ซึ่งคำขวัญที่เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ที่ได้กล่าวมามีประชาชนส่งให้กรรมการเยอะแยะที่ส่งไป  ท่านกรรมการมองข้ามไปได้อย่างไร น่าเสียใจแทนกรุงเทพมหานครจริงๆ อย่างน้อยก็ยังเป็นการนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระมหากษัตรืย์ผู้ก่อสร้างเมืองหลวงไทย

ยิ่งได้อ่านถึงที่คณะกรรมการท่านกล่าวว่าจะเเชิญสื่อต่างๆ มาเพื่อจะประกาศ ดูเหมือนว่าจะสร้างความยิ่งใหญ่ให้กรุงเทพมหานครแต่ที่จริงแล้วของที่ได้เตรียมไว้ มีค่าเพียงธุรี ......................

ด้วยเหตุนี้ขอท่านกรรมการได้โปรดพิจารณาแก้ไขใหม่ในการพิจารณาเพื่อความศักดิ์แห่งพระนครที่จะได้คุ้มครองให้พวกเราทั้งหลายได้อยู่ร่มเย็นต่อไป........................

เห็นด้วยคนส่งไปเป็นหมื่นคัดแค่ ห้าคำขวัญน่าขำจริงๆระบบนี้ ทำให้เรามองไปถึงว่าความซื่อสัตย์สุจริตอยู่ที่ไหน ใครตอบได้

ถ้าคนในชาติมีความซื่อสัตย์ป่านนี้เมืองไทย ไปได้ไกลกว่านี้อีกมากมายหลายเท่าอย่างไม่น้อยน่าใคร แต่พอเห็นคำขวัญที่กรรมการเลือกมา ท้อ

แล้วหว่ะ อนาคตเมืองไทยจะเป็นเช่นใดนะ

คำขวัญที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 5 นั้น มีคุณค่าทางอักขระวิธี วจีวิพากษื วาทยะสัมพันธ์ และฉันทลักษณ์

แต่...ลองมองโจทย์ที่ทาง กรุงเทพมหานคร มอบมาให้ คือ คำขวัญต้องเกี่ยวข้อง เรื่องของคมนาคม การศึกษา การปกครอง

อยากให้ทุกท่านลองพิจารณาดูว่า ตำขวัญต่างๆนั้นตอบโจทย์ของคณะกรรมการจัดงานจากกรุงเทพมหานครได้หรือไม่

หรือคณะกรรมการตัดสินเป็นคนละส่วนกัน

ความไม่โปร่งใสมีกันทุกสมัย ไม่เว้นกระทั่งการประกวดคำขวัญ น่าสงสารกรุงเทพมหานครจริงๆ

ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์การประกวดซักคำขวัญ  กรรมการคัดเลือกคำขวัญได้แย่จังเลย  เสียใจกับโครงการประกวดฯ  มากก

เห็นด้วยกับความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง เรารักและเทิดทูนจักรีวงศ์ทุกๆพระองค์

เ็ห็นด้วยกับความคิดเห็นของประชาชนทุกๆคน