เทคนิคนี้อาจช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการใช้ยาแก้ปวดเพิ่มเติมในระหว่างการผ่าตัดสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะเสี่ยงได้ ซึ่งอาจหมายความว่าผู้ป่วยมีแนวโน้มที่จะมีอาการปวดเฉียบพลันน้อยลงในระหว่างพักฟื้น และยังมีโอกาสน้อยที่จะมีอาการเรื้อรังต่อไป ในการศึกษานำร่องซึ่งตีพิมพ์ในวันนี้ (DATE) ในวารสารBritish Journal of Anaesthesiaทีมนักวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าการตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG) สามารถใช้วัดการทำงานของสมองในผู้ป่วยที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัดทรวงอกหรือการผ่าตัดทรวงอกได้อย่างไร ก่อนการผ่าตัด ทีมงานได้วัดคลื่นอัลฟาของผู้ป่วย ซึ่งเป็นสัญญาณสมองที่แกว่งระหว่าง 8 ถึง 14 เฮิร์ตซ์ จากนั้น กว่า 72 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยจะถูกขอให้ให้คะแนนความเจ็บปวดในระดับ 1-10 นักวิจัยสามารถแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่ชัดเจนระหว่างคลื่นอัลฟาของผู้ป่วยกับการตอบสนองต่อความเจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาพบว่าผู้ที่มีคลื่นอัลฟ่าแกว่งต่ำกว่า 9 Hz มีความเสี่ยงต่อความเจ็บปวดรุนแรงหลังการผ่าตัด ดร. อาลี มาซาเฮรี จากศูนย์สุขภาพสมองมนุษย์และคณะจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม เป็นผู้เขียนอาวุโสของการศึกษานี้ คลื่นสมองเขากล่าวว่า: "ประสบการณ์ความเจ็บปวดนั้นซับซ้อนและเป็นอัตวิสัย แต่เป็นที่ชัดเจนว่าคลื่นอัลฟาเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ว่าแต่ละคนจะเจ็บปวดรุนแรงเพียงใด นั่นทำให้แพทย์มีตัวบ่งชี้ทางชีวภาพที่มีค่าจริงๆ ที่พวกเขาสามารถใช้เพื่อป้องกันไม่ให้ความเจ็บปวดกลายเป็น แทนที่จะรักษาหลังจากที่มันลุกลามและกลายเป็นปัญหาร้ายแรงและอาจเรื้อรัง" การศึกษานี้ดำเนินการโดยซาแมนธา มิลลาร์ดจากศูนย์สุขภาพสมองของมนุษย์ โดยความร่วมมือกับนักวิจัยในสถาบันการอักเสบและผู้สูงอายุของมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม NHS Foundation Trust มีผู้ป่วย 16 รายที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษามะเร็งปอด คลื่นอัลฟ่าที่วัดก่อนการผ่าตัดสามารถทำนายได้อย่างแม่นยำ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้ป่วยจะรายงานคะแนนความเจ็บปวดหลังการผ่าตัด 7/10 หรือสูงกว่า งานนี้ต่อยอดการค้นพบจากความร่วมมืออันยาวนานระหว่าง Dr. Mazaheri และ Dr David Seminowicz (มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น แคนาดา) ซึ่งผลงานที่นำโดย Dr Andrew Furman (University of Maryland Baltimore) แสดงให้เห็นว่า PAF เป็นตัวทำนายที่เชื่อถือได้สำหรับความไวต่อความเจ็บปวดในแบบจำลองความเจ็บปวดหลายแบบ และ ช่วงเวลา (Furman 2018, 2019, 2020, 2021) การศึกษาใหม่ได้เพิ่มส่วนสำคัญให้กับเอกสารนี้: การตรวจสอบครั้งแรกของ biomarker ความไวต่อความเจ็บปวดในประชากรทางคลินิก ในขณะที่ต้องมีการทำงานมากขึ้นเพื่อระบุลักษณะที่แม่นยำของการเชื่อมโยงระหว่างคลื่นอัลฟ่ากับความเจ็บปวด ทีมงานเชื่อว่ามันเกี่ยวข้องกับเส้นทางเฉพาะในสมองที่ทราบกันดีในการถ่ายทอดข้อความทางประสาทสัมผัสจากฐานดอก ซึ่งเป็นศูนย์กลางของสมองสำหรับข้อมูลทางประสาทสัมผัส . เนื่องจากคลื่นอัลฟ่าส่วนหนึ่งถูกควบคุมโดยทาลามัส ทีมงานจึงเชื่อว่าความถี่ของคลื่นสะท้อนโดยตรงถึงความสมดุลระหว่างเส้นทางที่ส่งสัญญาณความเจ็บปวดและคลื่นที่ยับยั้ง Fan Gao-Smith ศาสตราจารย์ด้านวิสัญญี การดูแลผู้ป่วยวิกฤต และความเจ็บปวดในสถาบันการอักเสบและผู้สูงอายุแห่งมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม และผู้เขียนร่วมของการศึกษากล่าวว่า "คลื่นอัลฟามีความเฉพาะเจาะจงและแม่นยำจริงๆ การใช้เทคนิคนี้ทำให้เราสามารถสร้างความเป็นจริงได้ ความก้าวหน้าในการจัดการความปวด ไม่เพียงแต่ในการผ่าตัดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการรักษาอื่นๆ เช่น เคมีบำบัด ทำให้ทั้งแพทย์และผู้ป่วยมีทางเลือกมากขึ้น" Mr Babu Nadu ซึ่งอยู่ใน Institute of Inflammation and Aging ของมหาวิทยาลัย และ Queen Elizabeth Hospital, University Hospital Birmingham NHS Foundation Trust เป็นที่ปรึกษาทางวิชาการศัลยแพทย์ทรวงอกและผู้เขียนร่วมในการศึกษาวิจัยนี้ เขากล่าวว่า: "อาการปวดเรื้อรังเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปวดเฉียบพลันรุนแรงหลังการผ่าตัด แนวทางปัจจุบันแนะนำยาต้านอาการซึมเศร้าและการบำบัดแบบยอมรับสำหรับผู้ที่อยู่ในท่านี้ หากเราจำกัดอาการปวดเฉียบพลันในช่วงเวลาหลังการผ่าตัดโดยตรง มีจริง โอกาสที่พวกเขาจะไม่พัฒนาไปสู่อาการเรื้อรัง" การศึกษาได้รับการสนับสนุนโดยการระดมทุนจาก Experimental Cancer Medicine Center ในระยะต่อไป ทีมงานหวังว่าจะทดสอบเทคนิคนี้ในกลุ่มผู้ป่วยที่ใหญ่ขึ้น และศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างคลื่นอัลฟ่ากับวิธีที่สมองประมวลผลความเจ็บปวดต่อไป ในงานที่เกี่ยวข้อง Empower Therapeutics ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ University of Birmingham และ University of Maryland Baltimore กำลังใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญานี้ในการพัฒนาวิธีการรักษาแบบดิจิทัลเพื่อลดความไวต่อความเจ็บปวดและบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง ด้วยการสร้างอุปกรณ์ที่สามารถวัดและปรับเปลี่ยนความไวต่อความเจ็บปวด Empower ตั้งเป้าที่จะขยายทางเลือกสำหรับการจัดการความเจ็บปวดเรื้อรังที่บ้าน