การเมืองไม่ตั้งโจทก์ทำเพื่อชาติ

         ตั้งโจทก์แค่การตลาดอนาถไฉน

         ตั้งแต่ว่าพรรคกูจะทำยังไง

         ถึงจะได้เสียงประชามาค้ำจุน

               จึงต้องมุ่งประชานิยมโหมกันใหญ่

         ก็สะใจพวกประชารากหญ้าหนุน

         แต่ปัญหาข้างหน้าหาเงินทุน

         ยังต้องวุ่นวายกันหลายส่วนงาน

               ไม่ผดุงคนดีมีศีลสัตย์

          ไม่ขจัดคนชั่วที่เผาผลาญ

           เอามาร่วมสวมตำแหน่งราชการ

           อีกไม่นานคงได้เห็นเป็นตามกรรม

ขอบคุณครับ

ช่วยๆกันร้องทุกข์

เผื่อบทกวีจะมีประโยชน์ต่อประเทศชาติ

วิธีคิดของคนไทยบางส่วนบางคนซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นส่วนน้อยหรือส่วนมากก็ตามมักจะเป็นแบบที่ท่านตั้งกระทู้มานี่แหละ

คือว่าส่วนใหญ่แล้วก็คงจะยอมรับกับความเป็นจริงที่ว่านักการเมืองของไทยแทบจะเกือบจะทุกคนมันโกงกินกันจนเป็นนิสัย

คงจะไม่มีหนทางใดอีกแล้วหละที่จะแก้ไขนิสัยชั่วๆ เหล่านั้นให้มันหมดไปได้ (หรือมีใครทำได้ช่วยทำให้ดูทีเถิด...)

ก็เลยนึกเอาแบบว่าง่ายๆ ว่าไหนๆ ก็จะโกงแล้ว ช่วยแบ่งเศษเดนมาทำให้บ้านเมืองเจริญกว่าที่เป็นอยู่แม้สักน้อยนิดก็ยังดี

ที่นี้ก็เลยกลายเป็นว่าการโกงบ้านโกงเมืองนั้นก็จะกลายเป็นวัฒนธรรมที่ถูกต้อง ถ้าการโกงบ้านโกงเมืองนั้นทำไปพร้อมๆ กับบ้านเมืองเจริญขึ้นกว่าเดิมสักหน่อย

ก็เลยกลายเป็นว่ายอมให้พวกโกงบ้านโกงเมืองมันดำเนินการโกงบ้านโกงเมืองกันต่อไป

น่าอนาถใจ กับวัฒนธรรมแบบไทยๆ

ก็รับกรรมกันต่อไปเรื่อยๆ ก็แล้วกันนะ คนไทยผู้เจริญแล้วทั้งหลายเอ๋ย...

นักกลอนยังโกงเลย อย่าว่าแต่นักการเมือง มีให้เห็นตั้งหลายงาน หรือจะเถียงว่าไม่จริง

ก็ไม่ปฏิเสธิว่ามีการโกงทุกวงการ

แต่จะยอมรับให้มีการโกง ยอมรับคนโกง

อย่างนั้นหรือ?????????

นี่คือคำถาม

ยอมรับสิคะคนโกง เพราะชื่อดิชั้นมันก็บอกอยู่แล้ว ว่าลูกอีช่างโกง อ่านหนังสือไม่ออกเหรอยะ นังเด็กรุ่นใหม่

ถ้าจะว่านักการเมืองโกง ก็มีส่วนจริง

เรียกว่านักการเมือง เสื่อมก็ว่าได้

แต่ประชาชนจะเสื่อมตามหรือไม่ อันนี้น่าคิด

ผมว่าถ้าประชาชนเสื่อม ไม่เลือกน้ำดี ก็จะไปกันใหญ่

สรุป เราประชาชน ไม่ขอยอมเสื่อม และฟันธง

โกงรับไม่ได้ครับ