ขอสังเกตอย่างหนึ่งของบทกวี ซาการีย์ยา อมตยา กวีซีไรต์คนใหม่จากเทือกเขาบูโด เล่มนี้มีกลิ่นอายความเป็นตะวันตกอยู่อยางมากจนแทบจะคล้ายคลึงโดยเฉพาะกวีจากซีกโลกตะวันออกกลางอย่างปาเลสไตน์ อย่าง มะห์มูด ดาร์วิช เป็นต้น ทั้งนี้กวีเล่มนี้จะพูดถึงสันติภาพแต่ไม่มีความเป็นโลกตะวันออกอยู่เลย อาจมีแต่ไม่มากนัก ซึ่งถือเป็นมิติที่กวีไร้ฉันทลักษณ์ได้มีพื้นที่ยืนที่พยามขอนขอดตัวเองว่าสังคมอนุรักษ์นิยมปิดกั้นกวีไร้ฉันทลักษณ์นิยม แต่กวีต้องมีคำตอบให้สังคม แต่เล่มนี้ดูจะไม่ชัดเจนเท่าที่ควรในรูปแบบของภาษา แม้ว่า กวีจะใช้คำอลังการอย่างกวีตะวันตกนิยมใช้ แต่กวีตะวันตกชัดเจนกระจะกระจ่างในเนื้อหาและไม่เลือนลางโดยเนื้อหา ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนของ "ไม่มีหญิงสาวในบทกวี"

ทั้งนี้ กลอนเปล่า นั้นจะต้อง เขียนออกมาอย่างมีชีวิตและวิญญาณ แต่ทว่าเนื้อหาในเล่มนี้ความหมายบ้างอย่างดูจะเลือนลางไม่ค่อยเป็นเอกภาพเท่าที่ควร แต่ก็แกนและแก่นอยู่ในเนื้อหาของกวี เราอาจมีคำตอบว่า "ไม่มีหญิงสาวในบทกวี" ซีไรต์ใหม่ถอดด่ามเล่มนี้เป็นการเปิดพื้นที่สำหรับ "กลอนเปล่า" อย่างเต็มภาพภูมิในสังคม อนุรักษ์นิยม

ที่ความงดงามต้องโฉลกด้วย ฉันทะ ความพอใจ และ ลักษณะ ของ การประพันธ์ แต่สิ่งหนึ่งเหมือนกำลังจะท้าทาย กรอบของฉันทลักษณะในสังคมอนุรักษ์นิยมและเสียงสะท้อนกลับของผู้คนที่คุ้นชินกับรูปแบบของผังกรองคำ คงต้องพิสูจน์ว่านานาความคิดเห็นจะเป็นประการใดหลังจากนี้ พำร้อมๆกับเสียงเหน็บมาว่า หลายชิ้นมีการ ก๊อบมาจากกวีตะวันตก (เหมือนกรณีศึกษา ปั้นมากับมือ)

ขอแสดงความยินดีด้วยครับ

ร่วมแสดงความยินดีกับ เช ด้วยครับ
แหะ แหะ
ด้วยความยินดีมากมายครับ
 

รอ...

ฉันรอเธอมานานแล้ว...

เดินเข้า-ออก บ้านหนังสือทุกวัน

สวัสดีครับ ท่านกวีซีไรต์

ขอแสดงความยินดียิ่ง

คล้าย ๆ  ปรัชญา  ของคาลิล ยิบลาน  เล่มนั้นจริง ๆ  หรือเราคิดมากไปก็ไม่รู้สิ

ยินดีกับซะการีย์ยาครับผม

ซการีย์ยา คนเดียวกันกับกรณีกวีสันติอะไรทำนองนี้ที่ถูกยกเลิกรางวัลของสถาบันปรีดี พนมยงค์ เมื่อหลายปีก่อนหรือเปล่า

ขอแสดงความยินดีด้วย(คน)ครับ กับกวีซีไรต์คนใหม่

และขอเป็นกำลังใจให้กับกวีทุกท่านสร้างสรรค์งานต่อไปครับ

ความเห็นที่ 7 น่าสนใจ  และน่าจะนำตัวอย่างนั้นมาโชว์ให้ดู จะ ๆ

ขอแสดงความยินดีกับ "ไม่มีหญิงสาวในบทกวี" ครับผม

ยินดีด้วยค้า  คุณพี่ ของน้องๆ

          ร่วมแสดงความยินดีด้วยคนครับ จริงๆแล้วอยากแสดงความยินดีกับความสำเร็จทั้ง ๖ ผลงานที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายและชื่นชมกับ ๗๔ ผลงานที่ส่งประกวดในครั้งนี้ อย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าเมืองไทยยังไม่ไร้กวี ที่สำคัญผลงานทั้งหมดก็มีคุณภาพเพราะผ่านการกลั่นกรอง  คัดเลือกจากเจ้าของผลงานในเบื้องต้น ผ่านมือสำนักพิมพ์อีกทั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง ๒ รอบ

          ว่าไปตามความชอบและคุ้นชินโดยส่วนตัวแล้วชอบอ่านบทร้อยกรองแบบฉันทลักษณ์ครับ คิดว่าต้องร้อยทั้งคำ ลึกล้ำทั้งความตามที่เรียนในเนื้อหาว่าด้วยศิลปะการประพันธ์ทั้งโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน เวลาสอนเขียน(ในฐานนะครู)ก็มักยกเอาตัวอย่างตามแบบฉันทลักษณ์จึงไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับมุมมอง หรือแง่งามที่ปรากฏในกลอนอิสระหรือกลอนเปล่าเท่าใดนัก

          ผลงานบทร้อยกรองที่มีชื่อส่งประกวดบางเล่มได้อ่านแล้ว บางเล่มได้ซื้อเก็บไว้ยังไม่ได้อ่าน บางเล่มอ่านแล้วแต่ยังไม่ได้ซื้อ และก็มีบางเล่มที่ทั้งยังไม่ได้ซื้อและยังไม่ได้อ่าน อย่างไรก็ตามขอเป็นกำลังใจและแสดงความดีใจกับท่านที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ครับ 

ขอแสดงความยินดีอย่างที่สุดกับความสำเร็จของ "ไม่มีหญิงสาวในบทกวี"

ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของ ๖ เล่มที่เข้ารอบสุดท้าย

ขอแสดงความชื่นชมกับ ๗๔ เล่ม ที่ส่งเข้าประกวด

ขอบคุณกวีทุกท่านที่ยังรังสรรค์ผลงานไม่ขาดสาย

แสดงว่า กวีนิพนธ์ ยังมีที่ยืนบนบรรณพิภพนี้

จำได้ว่าซีไรต์คนนี้แหละ หลายปีก่อนมีข่าวอื้อฉาวลงหน้าหนึ่งจุดประกายวรรณกรรม กรุงเทพธุรกิจ อย่างน่าอับอาย น่าจะเป็นเรื่องเขาถูกกล่าวหาว่าไปก็อบบทกวีฝรั่งส่งประกวดจนได้รางวัลยอดเยี่ยมจากสถาบันปรีดี แต่แล้วเพื่อนเขาออกมาแฉ เลยต้องคืนรางวัลอันนี้จริงเท็จอย่า งไรผมไม่รู้ ใครมีข้อมูลเล่าให้ฟังหน่อยครับ  

เมื่อเวลาของเราได้มาถึง  ให้โอกาสคนคนหนึ่งได้ขีดเขียน

บทประพันธ์กวีนิพนธ์ที่พากเพียร ภาคภูมิใจด้วยชื่อเสียงที่ยินดี

ซาการียา อมาตยาเป็นด่งไฟ ส่องประกายความหวังให้ส่องแสง

เกิดประกายสีสันเหลือง เขียว แดง บอกไปว่าคนนายูก็มีไฟ

ขอแสดงความยินดีด้วยน่ะค่ะ "ท่านกวีซีไรต์"

หวัดดี..........

.....คับคุณซาการียาเราเคยเจอกันที่งามเมาลิดชั้ยป่ะ