ReadyPlanet.com


จากใจ "คนขี้ครอกบ้านนา"


       แค่คนขี้ครอกบ้านนา

 

  

       แค่หมาด่างหางอึ่งอย่าพึงแล

เราเป็นแค่คนโง่เขลาเรื่องกานท์ฉันท์

ไร้ปัญญาอย่าเทียบใครไม่แดกดัน

เขียนแค่มันเชิญชวนก๊วนมิตรเรา

 

 

       เราไม่ใช่คนที่ใครจะรู้จัก

แค่คนลักพักจำกับคำเขา

รางวัลนั้นไม่เคยหวังจักชิงเอา

เพียงนั่งเฝ้าชื่นชมคนทุกผลงาน

 

 

        ต้นไม้ใหญ่สมาคมผมรักยิ่ง

สอนทุกสิ่งจนเรียนรู้กับบทสาร

คนอาภัพอับจนสิ้นเหมือนขอทาน

ฝากบทกานท์จนโดนด่าว่าสิ้นดี

 

 

       แต่ใจรักตอบถ้อยคำเมื่อวันวาน

ขอให้เขาจงสงสารตัวเรานี้

เขียนโคตรมั่วโพสต์ได้ตลอดปี

แต่สุขีมีคนรักและห่วงใย

 

 

        อาจารย์ ราศีพิจิกศิษย์เคารพ

มาณพหนุ่ม "กระบี่ใบไม้" หวั่นไหว

รศ.ศก ผู้งกเงินตลอดไป

"ภูสุภา" ดังวิหคไซร้ควรจดจำ

 

 

       อ.ไวกูณฐ์ มาลาไทยเทิดทูนยิ่ง

สอนความจริงคณิตศาสตร์ลึกล้ำ

หนึ่งถึงสิบนับได้ทุกถ้อยคำ

ตาต้อมย้ำมาเตือนบ่อยข้าน้อยยอ

 

 

        อาจารย์เราราศีพิจิกเอย

โอ้ละเหวยอาโออิซิแล้วหนอ

หมาด่างนี้ยังคงรักและชอบพอ

หรือหน้างออาโออิมิให้มา

 

 

       ผู้ผ่านมาผ่านไปคอยช่วยแก้

เห็นเราแย่ท่านห่วงใยคอยห่วงหา

นักกลอนใหม่โง่เขลาเบาปัญญา

เพียงนำพาทุกเรื่องราวมาเล่าฟัง

 

 

        "ราชาวดี" ศรีปราชญ์เมืองปราจิน

       งามถวิลถ้อยสาราแห่งความหลัง

"ถึงคุณ" หนึ่งสองสามงามจีรัง

ทุกถ้อยยังฝังจำอยู่มิลืมเลือน

 

 

       "ปุณณมี" ผู้งามธรรมดำรงจิต

"ม้านั่งไม้" คือชีวิตเหล่าผองเพื่อน

แทรกแฝงคำธรรมมาพาย้ำเตือน

เฉกเช่นเดือนส่องสว่างกลางนภา

 

 

       "สุภาพชน คนเมือง" ประเทืองกานต์

ผู้พบพานงามต้องใจเสน่หา

ผู้ลึกล้ำแห่งคำเลิศจำนรรจา

ส่ง"น้องใหม่"มาทดแทนแม้นเหมือนกัน

 

 

       "ตาต้อม" เคยพบกันวันชี้แจง

ถ้อยแถลงแก้ต่างความในวันนั้น

สู้ถกเถียงเรียงความมาแบ่งปัน

อัศจรรย์โชคชะตามาพบเจอ

 

 

       "ในเงาเมฆขาว" วาวแววส่องแสง

ถ้อยสำแดงมิเคยพบสบพักตร์เพ้อ

วาสนาอาจนำพาฉันละเมอ

อาจคอยเก้อคนขี้เมาเราสุขใจ

 

 

        "สดายุ" "บุศย์น้ำเพชร" เอกกวี

ปฐพีหนึ่งในหล้าพาสดใส

คมกวีคำคมเหนือกว่าใคร

ผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้าสยามเมือง

 

 

       "เวทิน ศันสนีเวทย์"  เจ้า

ผู้ซึ่งเอา "อาวุธ" สร้างหรรษา

ชี้บอกทางแห่งการใช้ซึ่งปัญญา

ช่วยนำพาเห็นทางออกแห่งตัวตน

 

      

       ครู "พีรมิตร พึ่งโพธิ์" งามแท้

ครูสอนแต่ศิษย์ที่รักอย่าสับสน

ทิ้งขยะอย่าหลงทางอาจมืดมน

ประหนึ่งคนแจวเรือข้ามฝั่งคลอง

 

 

       "คันนา สาระแพ" ที่เราเห็น

ทุกข์ลำเค็ญตึกถล่มจนมัวหมอง

อเมริกาแดนเสรีน้ำตานอง

โลกจึงต้องหลั่งน้ำตาไว้อาลัย

 

 

       "ผู้สื่อข่าวบ้านไพร" คอยส่งข่าว

ทุกเรื่องราวควรติดตามยุคสมัย

สะท้อนข่าวสังคมที่เปลี่ยนไป

ประกาศไว้ให้ทุกคนได้อ่านดู

 

     

       อัจฉราเคยขอมา อบต.

อ้อนวอนขอสโกแกนเคยเห็นอยู่

นายเงาผู้ซ่อนแฝงยังรับรู้

ทุกท่านครูย้อนทรงจำเรื่องวันวาน

 

 

       ปรัชญ์ วลีพรวลีกลอนพระพิรุณ

นุ่มละมุนอุ่นไอถ้อยขับขาน

น้อย บางกระบือซ่อนแฝงกายเรื่องกานท์

นรเศรษฐ์ ทองคำสืบสานงานปู่เธอ

 

 

        วิวัฒน์ บัตรเจริญงามยิ่งแท้

ก้มกราบแม่ซึ้งพระคุณอยู่เสมอ

แม้มิเคยต้องพบพักตร์ประสบเจอ

คล้ายเพื่อนเกลออยู่ร่วมเรียงเดินร่วมทาง

 

 

       รัฐ ปัญเจียงเสียงเรียกร้องละครเดิม

แต่งแต้มเสริมเรื่องราวมากล่าวอ้าง

รัฐบาลรัฐบวมซ่อนอำพราง

ท่านผู้นำชี้วางให้ก้าวเดิน

 

 

       กอบกูยรอยยิ้มในรอยแยก

เป็นเรื่องแปลกยามว่างไม่ห่างเหิน

ใต้บันไดแฟลตหัวใจยังเพลิดเพลิน

เราสรรเสริญยิ่งแท้แลชื่นชม

 

 

       เปลว ดโรมนต์ดลดวงจิต

ใบอ้มมิตรผองเพื่อนมิขื่นขม

พืชชอบร่มรำไรงามคารม

เก่านิยมทำเป็นยาดีนักแล

 

       

       ปัณทัตปุจฉาจากสายลม

ปริศนาซ่อมคมควรแยแส

ทุกสิ่งอย่างในโลกย่อมผันแปร

นั่นคือแท้เวรกรรมเราทำกัน

 

 

       อักษราฝากคำหวานไว้ใต้หมอน

ธนัฐ รักงามย้อนเรื่องปูนปั้น

สะบันงาแวบแววตาพึงรำพัน

ทิพย์สุคนธ์นั้นเจ้ากรรมหนอหัวใจ

 

 

        บ่าวซำน้อยเด็กอีสานเป็นแน่แท้

รักเอยแปรเปลี่ยนตามยุคสมัย

blockquote{ border:1px solid #d3d3d3; padding: 5px; }
[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2309833)

     

ต่อนะครับ

 

      บ่าวซำน้อยเด็กอีสานเป็นแน่แท้

รักเอยแปรเปลี่ยนตามยุคสมัย

ธนุ เสนสิงห์ตามรอยพ่อไป

ดอกไม้ป่าทุกเพราะใครยังจดจำ

 

       เงาเวลาแห่งรัตติกาลหวานยิ่ง

ดาวเพริศพริ้งแจ่มจรัสอันหวานล้ำ

ความว่างเปล่าเจรจาถ้อยคำ

ฝากเตือนย้ำรักแท้ยากมีจริง

   

        พิณและภาคบทบรรเลงสองมุมมอง

ซึ้งห้วงห้องสองคนรักจักงามยิ่ง

อัญชันขาวผู้บูชารักเหนือทุกสิ่ง

ประมุขทั้ง นายเงาอีกหลายคน

 

       นั่งดูดเหล้าอุไหใครรู้บ้าง

มือเขียนร่างกานท์เกรียนเวียนสับสน

เมาสุราใครอยากด่าทรชน

สุขมากล้นกับสุรารัตติกาลฯ

 

ขอน้อมคารวะจากใจ

ทรชนบ้านนอก

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2012-10-23 01:22:56


ความคิดเห็นที่ 2 (2309834)

   แก้ต่อนะครับ

 

      บ่าวซำน้อยเด็กอีสานเป็นแน่แท้

รักเอยแปรเปลี่ยนตามยุคสมัย

ธนุ เสนสิงห์ตามรอยพ่อไป

ดอกไม้ป่าทุกข์เพราะใครยังจดจำ

 

       เงาเวลาแห่งรัตติกาลหวานยิ่ง

ดาวเพริศพริ้งแจ่มจรัสเพราวงามล้ำ

ความว่างเปล่าเจรจาถ้อยคำ

ฝากเตือนย้ำรักแท้ยากมีจริง

   

        พิณและภาคบทบรรเลงสองมุมมอง

ซึ้งห้วงห้องสองคนรักจักงามยิ่ง

อัญชันขาวบูชารักเหนือทุกสิ่ง

ประมุขอิงยิ่งนายเงาอีกหลายคน

 

       นั่งดูดเหล้าอุไหใครรู้บ้าง

มือเขียนร่างกานท์เกรียนเวียนสับสน

เมาสุราใครอยากด่าทรชน

สุขมากล้นกับสุรารัตติกาลฯ

 

ขอน้อมคารวะจากใจ

ทรชนบ้านนอก

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น h4hfh วันที่ตอบ 2012-10-23 01:28:31


ความคิดเห็นที่ 3 (2309993)

 สะดุ้งดั่งตั่งแข็งใครแช่งหืม?

ควันธูป อืม, ลมพัดสะบัดผ่าน
แท้ทรชนบ้านนอกนมแตกพาน
มายั่วกานต์กลอนต่อรอพาที

อะฮัดเช้ย, รีบมาถลาจิ้ม
ขยับพิมพ์คีย์บอร์ดยอดกระบี่
ไม่ได้เขียนกลอนนานพานผิดคีย์
แหมอยากเป็นกวี คงดีวุ๊ย

คงดีกว่าเป็นนักกลอนผู้อ่อนหัด
คงชื่อเสียงกระจายกระจัดมิชั่วมิชุ่ย
คงชนะรวดทุกรางวันฟันกระจุย
คงได้คุยทั่วทุ่งเป็นคุ้งเป็นแคว  (กรุณาอ่านว่า แ-ค-ว จะได้อรรถรส, ฮ่าฮ่าฮ่า)

เอ้อ ทรชนบ้านนอกเอ๋ย
อย่าอยู่เฉยตีกบที่แผล็วแผล็ว
อย่าให้เข้ากะลา-บ่แม่นแนว
อย่าให้แหลวมาญุ้มไปญ่ำกิน

เนื้อกบนำทำอ่อมให้หอมตรลบ
ส่วนหนังกบทำหน้ากลองตีก้องถิ่น
นักเลงกลอนจงกราบนักกวินทร์
ผู้สูงส่งกว่าดินและเม็ดทราย ฯ

 
จักรวาลจักแต่งแก้ว                กวีสวรรค์
โดยขจัดกรวดทรายอัน           ต่ำต้อย
กบนั้นใหญ่กว่าตะวัน              โอจักร-    วาลเอย
กะลาจึ่งมิเคยน้อย                  กว่าลิ้นกวีไหน ฯ

เรามันคนบ้านนอก                  ออกผญา
อย่าสิลืมภาษา                       เก่ากี้ 
ครองชีวิตธรรมดา                   เคยอยู่  
กลอนกล่อมใจใจนี้                  บ่ต้องเป็นกวี ฯ

 
ผู้แสดงความคิดเห็น ราศีพิจิก วันที่ตอบ 2012-10-23 18:51:01


ความคิดเห็นที่ 4 (2309996)

 แก้ วุ๊ย เป็น วุ้ย จะได้ถูกหลักภาษา อักษาต่ำ ห้ามใช้ไม้ตรี คริคริ


สวัสดีครับ  งานยุ้งยุ่งจนยุงไม่กล้าไข่ แวะกลับมาเข้าเว็บสมาคมคราวนี้ ครึกครื่นจริง เราจะมีกวี มาแสดงองค์ด้วย น่าสนุกจัง (ฮา)

กระทู้เยอะ ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน เห็นกระทู้นี้มีชื่อด้วย ลงตรงนี้ซะเลย

คิดถึงทุกท่านครับ

(สิบอกให่ อิอิ)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ราศีพิจิก วันที่ตอบ 2012-10-23 18:57:14


ความคิดเห็นที่ 5 (2310018)

 โอ พี่ท่านมาแนวครื้นเครง สนุกสนาน

ผู้แสดงความคิดเห็น ในเงาเมฆขาว วันที่ตอบ 2012-10-23 20:24:14


ความคิดเห็นที่ 6 (2310181)

สนุกบ้าง แสบอ้าง อิอิ

  

กินแกงแข้คางกะแจปากบ่ลั่น
กินกะท้างคางกระด้างปากบ่เป็นชั้นบ้อ
(ผญาภาษิตอีสาน)



        ได้กินแกงจระเข้     คุยถม เลยฤๅ
กินกะปอมต้องอม          สากสิ้น
กวีเอยยกหางดม            บ้างบ่ กวีเอย
กะลาเล็กว่าลิ้น              ตวัดก้นกวีไหน ฯ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ราศีพิจิก วันที่ตอบ 2012-10-24 13:48:49


ความคิดเห็นที่ 7 (2310355)

       "หมาด่างสุดดีใจที่ครูกลับมา" 

 

 

       โอ้ละเหวยเอาละหว่าครูมาแล้ว

ผู้สอนแนววางบทกานท์สะท้านฝัน

ศิษย์เมาค้างรางเลือนเกือบทั้งวัน

ยากจะผันฉันท์อักษรต่อกลอนครู



       นมแตกพานคงใช่แท้อาโออิ

ใช่แน่สิสิบอกไห่อาจารย์รู้

หายไปนานรักคงหวานน่าเอ็นดู

กลับมาหยู้ดากหมาน้อยให้ดีใจ


 

       "ทรชนบ้านนอก" ขี้ครอกเก่า

ปั่นกลอนเน่าเคล้าสุราอย่าสงสัย

มิใช่ดอกนักกวีผู้เกริกไกร

นักกลอนใหม่ก้มกราบไหว้ศรีกวี


 

       อันว่ากบทำแกงอ่อมหอมตลบ

หมาด่างพบความจริงยิ่งกว่านี้

สองขาหลังปิ้งย่างไฟอร่อยดี

หนังกบที่ทำหนังกลองอยากลองดู


 

     แต่ตากแห้งทอดกรอบเป็นกับแกล้ม

ลองมาแจมตั้งวงเหล้าเรารับรู้

รสชาติเด็ดแซ่บเหลือหลายนะครับครู

ดีกว่าสู้ทำหนังกลองไม่เป็นจริง


 

       อันปัญญาข้าน้อยแค่หางกบ

ยอมสยบทั่วใต้หล้าสรรพสิ่ง

อันรางวัลงามทรงเกียรติมิหมายชิง

อยู่บ้านนิ่งนั่งกินเหล้าเมาสุขใจ


 

    เนื้อไอ้เข้เคยมาปรุงปั้นลูกชิ้น

อร่อยลิ้นยิ่งนักแท้แต่ไฉน

ซื้อไอ้เข้มาทั้งตัวลิ้นหายไป

เพราะอะไรหรือท่านครูช่วยตอบที


 

      โง่นักแท้ข้าอึ่งอ่างกะลาครอบ

รักพอชอบครูกล่าวแจ้งแถลงชี้

ลิ้นไอ้เข้หายไปไหนไม่เห็นมี

เหตุครานี้เกินปัญญาทรชน


 

       ลาบกะปอมของแซ่บแดนอีสาน

เป็นอาหารของกินเฮาทุกแห่งหน

ขี้กระท้างบ่างบินบนไม้ต้น

หนีบ่พ้นหนังสติ๊กปืนแก๊บยิง


 

       อยู่แบบเก่าดีแล้วครับท่านครู

บ่กล้าอยู่ขั้นกวีขึ้นห้างหิ้ง

กินเหล้าเมาม่วนชื่นระรื่นจริง

ถ้าเป็นลิงหลอกเจ้ามาหลอกด่า


  

    จะกินกบแซ่บได้         หมายเอา

แลใช่ของโปรดเรา           จึ่งชี้

ขาหลังอย่ายอมเขา          ควรใคร่ แย่งนา

เอาถ่านกะลานี้                  ดั่งเชื้อเพลิงไฟ



       ไกลสุดเกินห่างแท้       กวี 

แลเบื่อหลบหลีกหนี            ต่อหน้า

คำเราเอ่ยพาที                    กระจ่าง แล้วเอย

เพียงแค่ฝึกหัดกล้า             กราบไหว้กวินทร์


 

ขอน้อมคารวะจากใจ

"ทรชนบ้านนอก"


 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2012-10-25 01:24:56


ความคิดเห็นที่ 8 (2310356)

 "แก้ไขหน่อยนะครับ" 


 "หมาด่างสุดดีใจที่ครูกลับมา" 

 

 

       โอ้ละเหวยเอาละหว่าครูมาแล้ว

ผู้สอนแนววางบทกานท์สะท้านฝัน

ศิษย์เมาค้างรางเลือนเกือบทั้งวัน

ยากจะผันฉันท์อักษรต่อกลอนครู



       นมแตกพานคงใช่แท้อาโออิ

ใช่แน่สิสิบอกไห่อาจารย์รู้

หายไปนานรักคงหวานน่าเอ็นดู

กลับมาหยู้ดากหมาน้อยให้ดีใจ


 

       "ทรชนบ้านนอก" ขี้ครอกเก่า

ปั่นกลอนเน่าเคล้าสุราอย่าสงสัย

มิใช่ดอกนักกวีผู้เกริกไกร

นักกลอนใหม่ก้มกราบไหว้ศรีกวี


 

       อันว่ากบทำแกงอ่อมหอมตลบ

หมาด่างพบความจริงยิ่งกว่านี้

สองขาหลังปิ้งย่างไฟอร่อยดี

หนังกบที่ทำหนังกลองอยากลองดู


 

     แต่ตากแห้งทอดกรอบเป็นกับแกล้ม

ลองมาแจมตั้งวงเหล้าเรารับรู้

รสชาติเด็ดแซ่บเหลือหลายนะครับครู

ดีกว่าสู้ทำหนังกลองไม่เป็นจริง


 

       อันปัญญาข้าน้อยแค่หางกบ

ยอมสยบทั่วใต้หล้าสรรพสิ่ง

อันรางวัลงามทรงเกียรติมิหมายชิง

อยู่บ้านนิ่งนั่งกินเหล้าเมาสุขใจ


 

    เนื้อไอ้เข้เคยมาปรุงปั้นลูกชิ้น

อร่อยลิ้นยิ่งนักแท้แต่ไฉน

ซื้อไอ้เข้มาทั้งตัวลิ้นหายไป

เพราะอะไรหรือท่านครูช่วยตอบที


 

      โง่นักแท้ข้าอึ่งอ่างกะลาครอบ

รักพอชอบครูกล่าวแจ้งแถลงชี้

ลิ้นไอ้เข้หายไปไหนไม่เห็นมี

เหตุครานี้เกินปัญญาทรชน


 

       ลาบกะปอมของแซ่บแดนอีสาน

เป็นอาหารของกินเฮาทุกแห่งหน

ขี้กระท้างบ่างบินบนไม้ต้น

หนีบ่พ้นหนังสติ๊กปืนแก๊บยิง


 

       อยู่แบบเก่าดีแล้วครับท่านครู

บ่กล้าอยู่ขั้นกวีขึ้นห้างหิ้ง

กินเหล้าเมาม่วนชื่นระรื่นจริง

หาเป็นลิงหลอกเจ้ามาหลอกด่า


  

    จะกินกบแซ่บได้             หมายเอา

แลใช่ของโปรดเรา            จึ่งชี้

ขาหลังอย่ายอมเขา          ควรใคร่ แย่งนา

เอาถ่านกะลานี้                  ดั่งเชื้อเพลิงไฟ



       ไกลสุดเกินห่างแท้       กวี 

แลเบื่อหลบหลีกหนี            ต่อหน้า

คำเราเอ่ยพาที                    กระจ่าง แล้วเอย

เพียงแค่ฝึกหัดกล้า             กราบไหว้กวินทร์


 

ขอน้อมคารวะจากใจ

"ทรชนบ้านนอก"

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2012-10-25 01:30:20


ความคิดเห็นที่ 9 (2311961)

 

นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เข้ามาชื่นชมผลงานกลอน ของเหล่านักกลอนทั้งหลาย  ขอชื่นชมในผลงานทุกผลงาน  เห็นได้ชัดเจนว่าคุณทรชน ฯ สามารถพัฒนาฝีมือในการเขียนกลอนได้อย่างดีเยียม  และจะคอยติดตามผลงานเรื่อยๆ  นะคะ  อีกอย่างขอบพระคุอย่างยิ่งที่ยังคงจดจำกันได้  

ผู้แสดงความคิดเห็น ดอกไม้ป่า วันที่ตอบ 2012-10-31 09:30:44


ความคิดเห็นที่ 10 (2312037)

 

     ทุกก้าวย่างครรลองของชีวิต

เรามีสิทธิ์สร้างฝันอันปรารถนา

มีสิ่งหนึ่งพึงประจักษ์อักษรา

ร้อยเรียงพาชิดชมสุขสมใจ

     หลงเสน่ห์มนต์กานท์สมานมิตร

ได้ชื่นชิดผลงานที่ขานไข

จากผองเพื่อนน้องพี่ที่ต้องใจ

ทรชนบ้านนอก ไซร้เพื่อนของเรา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2012-10-31 13:50:30


ความคิดเห็นที่ 11 (2312156)

 

         มิตรสหายครูเก่าเรามิลืม

ยังปลาบปลื่มดื่มด่ำกับคำสอน

น้อมเคารพยกไหว้สาธุกร

วันเก่าย้อนสอนเตือนใจระลึกคุณ


     อันหมาด่างอย่างตัวเรามิเหงาหงอย

เพียงใจคอยต่อถ้อยกานท์อย่าเคืองฉุน

สัมผัสรักอ้อมกอดมิตรอย่างอบอุ่น

ขอน้ำใจท่านการุณตลอดมา


ขอน้อมคารวะจากใจ

"ทรชนบ้านนอก"

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2012-10-31 23:46:37



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.