ReadyPlanet.com


ส่งร้อยกรองประกวดประจำ "16-31 ตุลาคม 2557" ได้กระทู้นี้


ช่องทางในการส่ง

กรุณาส่งช่องทางใดช่องทางหนึ่งเท่านั้น ป้องกันการซ้ำของข้อมูล 
และเพื่อความรวดเร็วในการตรวจ มิฉะนั้นท่านจะโดนตัดสิทธิ์

1. สำหรับผู้ที่ส่งทางเว็บบอร์ด http://thaipoet.net/
- แจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ให้ครบถ้วน
แจ้งแก้ไขได้ในกระทู้นี้ โดย ระบุความคิดเห็น จุดที่ต้องการแก้ไข และครั้งที่แก้ไข
- ส่งขึ้นเว็บบอร์ดเป็นไฟล์ text ธรรมดาเพื่อป้องกันข้อความเพี้ยน ไม่ต้องตกแต่ง

2. สำหรับผู้ต้องการส่งทางอีเมล ส่งได้ที่): info_thaipoet@yahoo.com
- แจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ให้ครบถ้วน

หัวข้อการประกวดประจำปักษ์หลังตุลาคม 16 – 31 ตุลาคม 2557 ประกาศผล 20 พฤศจิกายน 2557)
- ระดับมัธยมศึกษาต้น กาพย์ยานี 11 :  "ความว่างเปล่า"
- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กลอนสุภาพ :  "ความว่างเปล่า"
- ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป โคลงสี่สุภาพ :  "ความว่างเปล่า"
ความยาวต่อชิ้นงาน 6-10 บท

อ่านกติกาให้ชัดเจนมิฉะนั้นท่านอาจโดนตัดสิทธิ์

ขอความกรุณางดการออกความเห็นในกระทู้ส่งงาน


ผู้ตั้งกระทู้ webmaster :: วันที่ลงประกาศ 2014-10-16 00:13:21


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3722123)

            อจินไตย 

๑. ปฐมบทแห่งห้วง จักรวาล
แสงแรกแพรกชัชวาล โชติฟุ้ง
ทิพาพร่างรัตติกาล กำเนิด
อวกาศประภาสรุ้ง ลึกล้ำอัศจรรย์

 ๒. ลุวารวันพลบคล้อย ค่ำคืน
ล่วงอดีตฤฝ่าฝืน  ข่มท้า    
"ชรา" ภาพเกาะกัดกลืน  กร่อน"ชาติ"
พรหมลิขิตขีด"ภพ"กล้า  กล่อมฟ้าอสงไขย

๓. "อจินไตย"ตรึกรู้ ตรองทวน  
ผัสสะระรัญจวน จริตจ้อง 
วิถีโลกปราชญ์ควร ปริทัศน์
ปฏิบัติขจัดขัดข้อง เพริศพร้องพุทธะ

๔. อนรรฆค่าเอนกล้น มวลสาร
ปริภูมิระหว่างกาล เหลื่อมซ้อน
พลวัตแห่งวันวาน โน้มถ่วง
วิกฤติกิเลสรุกร้อน ยอกย้อนทุกระนาบ

๕. ปัจเจกภาพรติแผ้ว ผ่องหทัย
มโนนึกตรึกภายใน เพ่งค้น
"สติ"กลั่นตะกอนใจ ตกผลึก
"สุญญะ"สงบสุขล้น พิสุทธิ์ล้ำพิสดาร

๖. อณูสารกลุ่มก้อน อวกาศ
แปลกประหลาดอำนาจ  โอบอุ้ม
เคลื่อนขับสรรพธาตุ ปริวรรต
ปฏิเวธธรรมปกคุ้ม ครอบขั้นปรมัตถ์

๗. ปัจฉิมบทสุดท้าย จักรวาล
แสงแรกหรี่ อดีตกาล- มอดมล้าง
"ว่าง-เปล่า"ปลาสนาการ ทุกคติ
เอกภพจักรกร้าง เปล่าสิ้นฤๅไฉน

          นายยงยุทธ ศรีชัย
โรงเรียนบ้านท่าช้างคล้องหนองอีเปี้ย
        ตำบลท่าช้างคล้อง
    อำเภอผาขาว จังหวัดเลย
               42240
         085-2688269   
 

ผู้แสดงความคิดเห็น ยุทธ (Yy_srechai-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-16 12:35:47


ความคิดเห็นที่ 2 (3722897)

 ทะนานก้นกลวง

                  ๑
ใบ   บัวผุดช่อแพร้ว แพรวพรรณ
ไม้   ใหญ่ให้รังอัน นิเวศน์แก้ว
หนึ่ง ศอกนับห่างกัน ว่าโยชน์ เปรียบฤๅ
กำ   ก่อมรรคผ่องแผ้ว เลิศแล้วพุทธมุนี
                  ๒
น้ำ    หยดหยดร่วมร้อย ลำธาร
ค้าง  คลั่งดั่งใจปาน เอ่อล้น
พร่าง พร่างจักรวาล ล้านโกฏิ
หญ้า  หย่อมย่อมแตกต้น โอบคุ้มคุมดร
                  ๓
เดือน   อัปสรเสน่ห์ฟ้า มหาสวรรค์
ดาว    บ่พรากจันทร์ จรัสสร้อย
พราว  พร่างพรึกตะวัน ทรงกลด วิเศษแล
ฟ้า     ทึ่งแสงหิ่งห้อย แช่มช้อยชัชวาล
                   ๔
น้ำ     ตาลหวานซ่านซึ้ง ตรึงทรวง
ตา     หว่านเสน่ห์ลวง ลึกร้าย
เพียง   เพรียกเพื่อตักตวง ตะกละ 
หยด   หนึ่งน้ำตาคล้าย คับแค้นทรมาน
                  ๕
ทะ     นานกะโหลกมะพร้าว ก้นกลวง
เล      เล่ห์ฤๅตักตวง ชั่งได้
ว่า      ว่าแว่วคำลวง กลับเชื่อ จริตหนอ
ลึก      หยั่งถึงก้นไซร้ แก่นแท้สันดาน
                  ๖
ท้อง     ทุ่งตระหง่านกว้าง ทิพย์สถาน
ฟ้า      รุ่งรุ้งพบพาน แพรกฟ้า
ว่า       มนุษย์วัฏสงสาร เทวษส่ง 
กว้าง    กว่ากิเลสกล้า ทุกข์นี้จบไฉน
                  ๗
เวิ้ง      ฉงนอจินไตยให้ ฉุกฉงาย
ว้าง      วิเวกดั่งผีพราย ห่าล้อม
ว่าง      เว้นเวี่ยวุ่นวาย วิปลาส จิตเอย
เปล่า    เปรื่องประเสริฐน้อม ทิพย์แท้สัจธรรม
    
           นายยงยุทธ ศรีชัย
 โรงเรียนบ้านท่าช้างคล้องหนองอีเปี้ย
              อำเภอผาขาว
                จังหวัดเลย
                   42240
              085 2688269

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ยุทธ (Yy_srechai-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-17 13:19:42


ความคิดเห็นที่ 3 (3722909)

 ขอแก้ไขครั้งที่1 สำนวน ทะนานก้นกลวง

บทที่ 2 บาทที่ 1 จากของเดิม แก้เป็นดังนี้

น้ำ    หยดทีละน้อย เป็นธาร

ผู้แสดงความคิดเห็น ยุทธ (Yy_srechai-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-17 13:33:19


ความคิดเห็นที่ 4 (3723021)

 ขอแก้ไขสำนวครั้งที่ื2 สำนวน ทะนานก้นกลวง

บทที่ 3 บาทที่ 2  จากของเดิมเป็น ดังนี้

ดาว    บ่พรากจากจันทร์ จรัสสร้อย

ผู้แสดงความคิดเห็น ยุทธ (Yy_srechai-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-17 16:22:44


ความคิดเห็นที่ 5 (3725022)

 ความว่างเปล่าคือตัวลูก

                บนกระดาษวาดลายระบายสี                     เติมให้ดีแต่งให้เด่นมิเว้นว่าง

จากกระดาษธรรมดาค่าเบาบาง                                ก็ได้สร้างผลงานตระการตา

เปรียบกระดาษวาดลายนั้นคล้ายมนุษย์                     บริสุทธิ์ดั่งเด็กน้อยด้อยเดียงสา

เมื่อเริ่มแรกก็ว่างเปล่าแต่เยาว์มา                              หวังพึ่งพาสังคมบ่มจิตกาย

จะวาดสวยรวยค่ามหาศาล                                         อยู่ที่การจ่อวาดมิขาดหาย

จะเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเกลื่อนลวดลาย                    แล้วแต่นายจะเสริมเติมแต่งเอา

พ่อแม่คือเจ้านายของกายลูก                                      ต้องพันผูกหล่อหลอมถนอมเฝ้า

คอยสั่งสอนป้องปัดและขัดเกลา                                 ความว่างเปล่าได้เปลี่ยนแปลงแสดงตน

เป็นดาวเด่นลอยสง่าบนฟ้ากว้าง                                เป็นเส้นทางสู่ความสุขทุกแห่งหน

เป็นชีวิตชีวิตหนึ่งซึ่งเปลี่ยนคน                                  ให้อยู่บนสังคมอย่างกลมกลืน

ขอขอบคุณพ่อแม่ที่เฝ้าคอย                                        สร้างเด็กน้อยให้ลือค่ากว่าสิ่งอื่น

ความว่างเปล่าเปลี่ยนเป็นดั่งความยั่งยืน                     อยู่บนผืนแผ่นดินกว้างอย่างมั่นคง

 

 

นายอภิสิทธิ์         อุนตรีจันทร์ 

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖   โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย

ที่อยู่ ๕๒ ม.๓ ต.เขามีเกียรติ  อ.สะเดา  จ.สงขลา ๙๐๑๗๐

โทร ๐๘๒-๘๒๖๘๙๒๑

ผู้แสดงความคิดเห็น นายอภิสิทธิ์ อุนตรีจันทร์ (i-tan-apisit-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-22 13:07:24


ความคิดเห็นที่ 6 (3725517)

 ขอแก้ไขสำนวนครั้งที่ 3 สำนวนทะนานก้นกลวง

บทที่ 7 บาทแรก จากของเดิมข้างต้น แก้เป็นดั่งนี้

                  ๗
เวิ้ง      อจินไตยฉุกให้ ฉงนฉงาย
  
         นายยงยุทธ. ศรีชัย
        085-2688269

ผู้แสดงความคิดเห็น ยุทธ (Yy_srechai-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-23 20:03:05


ความคิดเห็นที่ 7 (3726829)

 จักรกาล

                       

เฒ่าหนึ่งแลตึกระฟ้า           ฟั่นเฟือน ฤานอ

เกาศีรษะปากบ่นเบือน       เปล่งบ้า

หิมวันตประเทศเลือน        ไปลับ  ฤานอ

เหล่าสัตว์เสือช้างม้า           มอดม้วยหมดหรือ

                       

มือหยิบผืนภาพพื้น            ดินแดน

คลี่อ่านแล้วซึมแสน            โศกเศร้า

เสียงเครือสั่นสบถแคลน    คำแค่น คำนอ

“เปล่าว่าง” กาลย่างเข้า       ย่อมคล้อยคืนคลาย

 

แกเพ่งกายตึกระฟ้า             อีกที

แล้วเหลือบกายตนฤดี         โลดเต้น

คราหนุ่มอาตมามี                มวลชาติ ฉกรรจ์นอ

ที่สุดกาลบีบเค้น                   ย่อมคล้ายตามกรรม

 

รำพึงอดีตถิ่นนี้                    เป็นพนา  ใหญ่นอ

ปัจจุบันตึกนครา                 รุ่งรุ้ง

อนาคตใครหนา                   รู้ล่วง หน้านอ

ไตรลักษณ์กฎย่อมฟุ้ง         ปรับฟ้าเปลี่ยนสี

 

ลึกวลีในจิตเจ้า                     เฒ่าชรา

แกเพ่งมองเวลา                  ลึกซึ้ง

เพ่งจนพบมายา                   ยื่นภาพ ว่างนอ

สรรพสิ่งถูกกาลทึ้ง             กลบทิ้งทางธาร

 

กาลเดินทางย่อมทิ้ง             ปริศนา

ความว่าง  เปล่าทุกครา       เคลื่อนคล้อย

บางทีลุเฒ่าชรา                    จึงพบ เห็นนอ

ทุกข์อนิจจังต้อย                  อนัตต์ต้องจักรกาล

 

เฒ่าหาญหันกลับแล้ว         เลือนหาย

ตึกเมื่อครู่กลับกลาย            มืดคว้าง

ฉับพลันตะวันฉาย              แสงส่อง

โลกที่เห็นไกลกว้าง            ว่าง เวิ้ง เปล่าดาย ฯ

 

พีรมิตร  พึ่งโพธิ์

81 หมู่ 6 บ้านโนนสวาง 

ตำบลท่าเมือง อำเภอดอนมดแดง

จังหวัดอุบลราชธานี  34000

Email : naimit@thaimail.com

โทรฯ  083-377-1741

ผู้แสดงความคิดเห็น พีรมิตร พึ่งโพธิื์ (ืnaimit-at-thaimail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-27 09:49:50


ความคิดเห็นที่ 8 (3727402)

 เบญจขันธ์สุญญตา

 

o  ขันธ์ห้ากำเนิดสร้าง         ชีวา

ปฏิจจสัมมา                       ชอบบ้าง

เรียกสมมตินานา                 ชีวิต

ธาตุสี่ร่วมสรรค์สร้าง            แค่นั้นคนเรา ฯ

 

o  เหตุปัจจัยร่วมขึ้น            เป็นกอง

สุมร่างกายประคอง              ทราบซึ้ง

หมายจำจดปรองดอง            ปรุงแต่ง

บ่อเกิดกมลบึ้ง                     รับรู้ปัจจัย ฯ

 

o  รูปกายสง่าให้                หมายมอง

พลันร่างเน่าพุพอง               เมื่อม้วย

มีเกิดดับทำนอง                   ธรรมชาติ

หายว่างสูญสิ้นด้วย              กลุ่มก้อนมายา ฯ

 

o  เสวยรู้สึกต้อง                อารมณ์

รสชาติกระทบปม                จิตให้

สุขและทุกข์ระทม                กำหนด

พาเวทนาใกล้                     ล่วงรู้ความจริง ฯ

 

o  ความจำหมายจดได้         สำคัญ

อดีตปัจจุบัน                       เช่นนี้

เกิดดับเกิดสูญพลัน              ชั่ววูบ

อนิจจาบ่งชี้                        เที่ยงแท้ไม่เลย ฯ

 

o  สิ่งปรุงแต่งจิตให้             ดีงาม

เกิดจากการติดตาม               คิดค้น

ทำพูดคิดวับวาม                  พินิจ

ไม่ยึดมั่นหลุดพ้น                  หากแจ้งไขความ ฯ

 

o  การรอบรู้ทั่วสิ้น              วิญญาณ

สะสั่งสมนมนาน                  ฝากไว้

ปัญญาหยั่งรู้กาล                 ท่องเที่ยว

หาที่เกิดกายได้                     ภพน้อยใหญ่เอง ฯ

 

o  นิพพิทาฝ่ายห้า               ขันธ์มาร

บ่มก่อกิเลสพาล                   ชั่วช้า

อันมนุษย์วันวาน                  ว้าวุ่น

ข้องอยู่ในโลกหน้า                อย่างนี้เช่นเคย ฯ

 

o  ดับขันธ์หมดจดสิ้น           นิพพาน

ไม่เร่าร้อนบันดาล                 ว่างแท้

เย็นสนิทดุจธาร                    สงบ  

โลภโกรธหลงพ่ายแพ้            ไม่ข้องขัดใจ ฯ

 

 

 

 

 

 

 

 

(คัมภีร์ปัญญา ป ).นายบุญยัง  ชุ่มชื่น

เลขที่ ๗๒/๒   ซอย. ๑

ถนน. บำรุงบุรี

ตำบล พระสิงห์  อำเภอ เมือง

จังหวัด เชียงใหม่  ๕๐๒๐๐

โทร ๐๘๓-๓๒๔-๒๑๙๔

อีเมล์ : tipitaka@outlook.co.th

ผู้แสดงความคิดเห็น คัมภีร์ปัญญา ป. (tipitaka-at-outlook-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2014-10-28 10:48:00


ความคิดเห็นที่ 9 (3727726)

"ปล่อยวาง ว่างเปล่า"

ณ แดนโลกมนุษย์  ที่แสนสุดจะวุ่นวาย 

คนใฝ่ความสบาย   คนนึกถึงแต่ใจตน

ต้องการซึ่งทรัพย์สิน เงินไหลรินออกดอกผล

ต้องมีซึ่งเล่ห์กล       ต้องแก่งแย่งให้ได้มา

ฝันอยากมีชื่อเสียง   หวังแค่เพียงตนสุขสม

หวังสิ่งน่าภิรมย์       หวังเชยชมความเกรียงไกร

ต้องการไม่สิ้นสุด     ไม่เคยหยุดไม่พอใจ

ยังอยากได้ต่อไป      ไม่สิ้นสุดความใฝ่มี

ได้มาแล้วเกิดสุข       แต่ก็ทุกข์ถ้าขาดไป

ต้องการได้ดั่งใจ       สุขกับทุกข์วนเปลี่ยนกัน

จิตใจไม่หยุดนิ่ง        ยังวนวิ่งและเปลี่ยนผัน

อยากมากขึ้นทุกวัน    ยังต้องการอยู่เรื่อยไป

จิตใจแสนสับสน       ทั้งวกวนและวุ่นวาย

ไม่สุขสงบกาย          ใจว้าวุ่นไม่เปรมปรีดิ์

หากอยากจะหยุดคิด   อยากหยุดจิตเพื่อชีวี

อยากอยู่อย่างพอดี   อยากจะหยุดความต้องการ

เจ้าจงตั้งจิตมั่น         จงนึกฝันสงบใจ

จงเลิกจงหยุดไป       จงมีจิตคิดปล่อยวาง

ทำจิตให้ว่างเปล่า     ตามรอยเท้าพระพุทธสร้าง

เดินตามทางสายกลาง ใจสงบจิตร่มเย็น

              เด็กหญิง ภัททิยา สวัสดิ์ศิริพิพัฒน์

              โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์

               ๗ ถนนคอนแวนต์ แขวง สีลม

              เขต บางรัก  กทม๑๐๕๐๐

              โทรศัพธ์0878023955

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัททิยา วันที่ตอบ 2014-10-28 19:11:36


ความคิดเห็นที่ 10 (3728182)

 


"ใดใดอนัตตาว่างเปล่า"

๐ ไอจางคลุมยอดหญ้า ........ คราอรุณ
ไอหมอกขาวราวหนุน .......... แมกไม้
ไอเย็นอย่างละมุน .............. ชนชื่น 
สายผ่าวแผดสายให้ ............ หมดแล้วไอเย็น ฯ
                  
๐ เป็นอาหารน่าลิ้ม ............. สวยหรู
สารพัดจัดจานดู ................. อร่อยแท้                
หวานเค็มเผ็ดเลิศชู ............. หอมกลิ่น
พอพรุ่งปวดมวนแล้ ............. ถ่ายแล้วเหม็นจริง ฯ

๐ หญิงชายสวยหล่อครั้น ...... ยังเยาว์
ยามแก่เหี่ยวแลเฉา ............ ป่วยไข้
จีรังบ่มีเอา ....................... วิมุตติ
ที่สุดคือเผาไซร้ ................ สุดท้ายธุลี ฯ


๐ เปรมปรีดิ์ปรุงแต่งปั้น ........ จิตหลง
ติดกิเลสประสงค์ ............... สุขซร้อง
ยิ้มหัวระเริงองค์ ................ สุดสนุก
คราวเคราะห์ก็บ่นร้อง .......... ทุกข์โว้ยแสนเข็ญ ฯ

๐ ความจริงเป็นเช่นนั้น ........ ผองสหาย
เกิดแก่เจ็บและตาย ............ แน่แท้
ความเที่ยงไป่เที่ยงหมาย ..... ใดกอบ
สวยสุขทุกข์นั่นแล้ ............. สุดท้ายกลายเสมอ ฯ

๐ ปัญญาเลอเลิศคล้าย ....... มายา
อนิจจังสังขาร์ .................. เพ่งไว้
ใดใดอนัตตา ................... ว่างเปล่า
ปรมัตถ์ธรรมใช้ ................. จิตน้อมจิตสูง ฯ


นายทรงธรรม อรุณแสงโรจน์
๔/๒๑-๒๒ บ.บารเมษฐ์
ถ.เฉลิมพระเกียรติ์ร.๙ ซอย ๖๒
แขวงดอกไม้ เขตประเวศ
กรุงเทพฯ ๑๐๒๕๐
โทร. 081-2543395

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรงธรรม อรุณแสงโรจน์ วันที่ตอบ 2014-10-29 15:30:07


ความคิดเห็นที่ 11 (3728749)

                      ความว่างเปล่า 

 
(1)..ถึงจะรวยเทียบฟ้า..........เพียงใด
หากเปล่าเปลี่ยวหัวใจ...........บอกได้
ยามว้าเหว่มีใคร....................จะช่วย
เมื่อมิตรมาแยกย้าย..............หลบหน้าหนีหาย

(2)..ควรอับอายเมื่อได้..........หลงผิด
ควรพร่ำนำให้จิต..................ผ่องแผ้ว
เป็นนายหรือบ่าวคิด..............แบ่งแยก
ผลที่สุดไม่แคล้ว..................ปวดร้าวเศร้าหมอง

(3)..หากชั่วครองหมดแล้ว........หัวใจ
กระหน่ำหมายจุดไฟ.................ก่อเชื้อ
ความกลัวยากหาใคร.................ปกปัก
หากขาดความเอื้อเฟื้อ..............ยากแท้นึกถึง

(4)..บึงบ่อต้องเก็บน้ำ...............สำรอง
ดั่งหทัยครอบครอง...................มิตรไว้
ในเมื่อหากเลิกมอง..................มวลมิตร
น้ำจิตบึงบ่อใช้.......................เหือดแห้งหมดสูญ

(5)..พูนเพิ่มมีมากขึ้น.............ขาดแคลน
เมินห่างจักรกลแทน................เลิกจ้าง
คนต้องตกงานแสน...............เจ็บปวด
ต้องทุกข์ทนเอ่ยอ้าง............หมดแล้วความหมาย

(6)..มากล้ำกลืนหยาดน้ำ-.......-ตาริน ไหลแฮ
หมายมั่นที่ทำกิน.....................จบสิ้น
ความว่างเปล่าชีวิน..................ตกอับ สิ้นแล
หากฆ่าตัวดับดิ้น....................ไม่แคล้วกล่าวขาน

(ส.กวี)นายมนูญ เสียมไหม

195/7 ม.9

ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส 96160

081-541-7768,081-541-7227
 

 
 

 

 
ผู้แสดงความคิดเห็น นายมนูญ เสียมไหม (my_belove_karn-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-30 12:26:01


ความคิดเห็นที่ 12 (3728787)

 ความว่างเปล่า ที่..แสนเปล่าเปลี่ยว....(ฉบับแก้ไข)

 
(1)..ถึงจะรวยเทียบฟ้า..........เพียงใด
หากเปล่าเปลี่ยวหัวใจ...........บอกได้
ยามว้าเหว่มีใคร....................จะช่วย
เมื่อมิตรมาแยกย้าย..............หลบหน้าหนีหาย

(2)..ควรอับอายเมื่อได้..........หลงผิด
ควรพร่ำนำให้จิต..................ผ่องแผ้ว
เป็นนายหรือบ่าวคิด..............แบ่งแยก
ผลที่สุดไม่แคล้ว..................ปวดร้าวเศร้าหมอง

(3)..หากชั่วครองหมดแล้ว........หัวใจ 
กระหน่ำหมายจุดไฟ.................ก่อเชื้อ
ความกลัวยากหาใคร.................ปกปัก
หากขาดความเอื้อเฟื้อ..............ยากแท้นึกถึง

(4)..บึงบ่อต้องเก็บน้ำ...............สำรอง
ดั่งหทัยครอบครอง...................มิตรไว้
ในเมื่อหากเลิกมอง..................มวลมิตร
น้ำจิตบึงบ่อใช้.......................เหือดแห้งหมดสูญ

(5)..พูนเพิ่มมีมากขึ้น.............ขาดแคลน
เมินห่างจักรกลแทน................เลิกจ้าง
คนต้องตกงานแสน...............เจ็บปวด
ต้องทุกข์ทนเอ่ยอ้าง............หมดแล้วความหมาย

(6)..มากล้ำกลืนหยาดน้ำ-.......-ตาริน ไหลแฮ
หมายมั่นที่ทำกิน.....................จบสิ้น
ความว่างเปล่าชีวิน..................ตกอับ สิ้นแล
หากฆ่าตัวดับดิ้น....................ไม่แคล้วกล่าวขาน

 

นายมนูญ เสียมไหม (ส.กวี)

195/7 ม.9 ต.โละจูด

อ.แว้ง จ.นราธิวาส 96160

081-541-7768 ,081-541-7227

 


 


 

ผู้แสดงความคิดเห็น นายมนูญ เสียมไหม (my_belove_karn-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-30 12:48:56


ความคิดเห็นที่ 13 (3728800)

                        ....สุญญตา....

ผู้แสดงความคิดเห็น นาย ศักรินทร์ ปรีชา (ake2928-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-30 12:52:45


ความคิดเห็นที่ 14 (3728808)

                             สุญญตา

     

      ๐ หนึ่ง..ช่วงชีพเปล่าไร้          นรชาติ

       สดับพุทธพจน์ประกาศ            แก่นถ้วน

       ในโปร่งนอกนั้นปราศ            เปลือยเปล่า

      ทั้งนอกและในล้วน               โล่งไร้อนัตตา”

       ๐ สอง..ขาสองหัตถ์เพี้ยง        พึงตรอง

       นัยบ่งบอกครรลอง                 เลศสร้าง

       พิการง่อยหงิกหมอง               หม่นเทวษ

        ศักดิ์มนุษย์ไป่เริดร้าง             ร่วมฟ้าเดียวเสมอ

       ๐ สาม..ภพเลอเลิศชั้น             คติชน

        ใดแบ่งจำแนกหน                  แห่งห้อง

        ก็ดวงจิตแห่งคน                     นั่นขับ  เคลื่อนแล

         ดีชั่ว,สูงต่ำต้อง                     แต่ท้องภูมิตรี

       ๐ สี่..ทิศกำหนดโค้ง                ขอบขัณฑ์

        สาคเรศแยกเขตปัน                ปักด้าว

         ศิขรแบ่งกอพรรณ                 พฤกษชาติ

        กรรมสัตว์กำหนดก้าว            ก่อห้วงอสงไขย”

        ๐ สาม..หาวใจมนุษย์นั้น         นมนาน              

         อ่ำอกุศลมูลมาร                    มืดกล้า

         แต่เกิดล่วงชรากาล               กายดับ  สิ้นเนอ

         เมาทรัพย์สมบัติบ้า                บอดใบ้มัวหมอง

         ๐ สอง..ส่วนในจิตเร้น           รึงแฝง  

         จิตหนึ่งวิสุทธิ์แสง                 สุกแพร้ว

          อีกจิตหม่นกำแหง               เหิมเห่อ

          ปราบเกลศมารราบแล้ว        ล่มสิ้นโมหันธ์           

         ๐ หนึ่ง..ใจอันผ่องแผ้ว          พิสิฐ

          ปรมัตถ์ธรรมสถิต                 ถ่องเกล้า

          มรรควิมุตติจรุงจิตต์             แจ่มจรัส

         วางสรรพสิ่งใต้เท้า               แทบเบื้องสุญญตา”

 

 

ส่งโคลงประกวดหัวข้อเรื่อง   “ความว่างเปล่า”

นาย   ศักรินทร์   ปรีชา 

ที่อยู่  264 หมู่ที่ 5 . เสริมกลาง อ.เสริมงาม จ.ลำปาง 52210

เบอร์โทร 084-7579993

ผู้แสดงความคิดเห็น นาย ศักรินทร์ ปรีชา (ake2928-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-30 13:02:23


ความคิดเห็นที่ 15 (3729413)


"ใดใดอนัตตาว่างเปล่า" แก้ไขครั้งที่ 1

๐ ไอจางคลุมยอดหญ้า ........ คราอรุณ
ไอหมอกขาวราวหนุน .......... แมกไม้
ไอเย็นอย่างละมุน .............. ชนชื่น 
สายผ่าวแผดสายให้ ............ หมดแล้วไอเย็น ฯ
                  
๐ เป็นอาหารน่าลิ้ม ............. สวยหรู
สารพัดจัดจานดู ................. อร่อยแท้                
หวานเค็มเผ็ดเลิศชู ............. หอมกลิ่น
พอพรุ่งปวดมวนแล้ ............. ถ่ายแล้วเหม็นจริง ฯ

๐ หญิงชายสวยหล่อครั้น ...... ยังเยาว์
ยามแก่เหี่ยวแลเฉา ............ ป่วยไข้
จีรังบ่มีเอา ....................... วิมุตติ
ที่สุดคือเผาไซร้ ................ สุดท้ายธุลี ฯ


๐ เปรมปรีดิ์ปรุงแต่งปั้น ........ จิตหลง
ติดกิเลสประสงค์ ............... สุขซร้อง
ยิ้มหัวระเริงองค์ ................ สุดสนุก
คราวเคราะห์ก็บ่นร้อง .......... ทุกข์โว้ยแสนเข็ญ ฯ

๐ ความจริงเป็นเช่นนั้น ........ ผองสหาย
เกิดแก่เจ็บและตาย ............ แน่แท้
ความเที่ยงไป่เที่ยงหมาย ..... ใดกอบ
สวยสุขทุกข์นั่นแล้ ............. สุดท้ายกลายเสมอ ฯ

๐ มนุษย์เลอเลิศคล้าย ....... มายา
อนิจจังสังขาร์ .................. เพ่งไว้
ใดใดอนัตตา ................... ว่างเปล่า
ปรมัตถ์ธรรมใช้ ................. จิตน้อมจิตสูง ฯ


นายทรงธรรม อรุณแสงโรจน์
๔/๒๑-๒๒ บ.บารเมษฐ์
ถ.เฉลิมพระเกียรติ์ร.๙ ซอย ๖๒
แขวงดอกไม้ เขตประเวศ
กรุงเทพฯ ๑๐๒๕๐
โทร. 081-2543395

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรงธรรม อรุณแสงโรจน์ (big-racing-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-31 11:11:55


ความคิดเห็นที่ 16 (3729475)

  ความว่างเปล่า-ที่เปล่าเปลี่ยว (ฉบับแก้ไขครั้ง 2)

 
(1)..ถึงจะรวยเทียบฟ้า..........เพียงใด
หากเปล่าเปลี่ยวหัวใจ...........บอกได้
ยามว้าเหว่มีใคร....................จะช่วย
เมื่อมิตรมาแยกย้าย..............หลบหน้าหนีหาย

(2)..ควรอับอายเมื่อได้..........หลงผิด
ควรพร่ำนำให้จิต..................ผ่องแผ้ว
เป็นนายหรือบ่าวคิด..............แบ่งแยก
ผลที่สุดไม่แคล้ว..................ปวดร้าวเศร้าหมอง

(3)..หากชั่วครองหมดแล้ว........หัวใจ
กระหน่ำหมายจุดไฟ.................ก่อเชื้อ
ความกลัวยากหาใคร.................ปกปัก
หากขาดความเอื้อเฟื้อ..............ยากแท้นึกถึง

(4)..บึงบ่อต้องเก็บน้ำ...............สำรอง
ดั่งหทัยครอบครอง...................มิตรไว้
ในเมื่อหากเลิกมอง..................มวลมิตร
น้ำจิตบึงบ่อใช้.......................เหือดแห้งหมดสูญ

(5)..พูนเพิ่มมีมากขึ้น.............ขาดแคลน
เมินห่างจักรกลแทน................เลิกจ้าง
คนต้องตกงานแสน................เจ็บปวด
ต้องทุกข์ทนเอ่ยอ้าง..............หมดแล้วสุดฝืน

(6)..ทนกล้ำกลืนหยาดน้ำ-.......-ตาริน ไหลแฮ
หมายมั่นที่ทำกิน.....................จบสิ้น
ความว่างเปล่าชีวิน..................ตกอับ สิ้นแล
หากชีพกายดับดิ้น...................ไม่แคล้วกล่าวขาน

นายมนูญ เสียมไหม(ส.กวี)

195/7 ม.9 ต.โละจูด

อ.แว้ง จ.นราธิวาส 96160

081-541-7768  081-541-7227

ผู้แสดงความคิดเห็น นายมนูญ เสียมไหม ( (my_belove_karn-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-31 13:22:30


ความคิดเห็นที่ 17 (3729743)

 สิ่งที่อยู่ระหว่างทั้งสองฟากฝั่ง

              หากไม่มีสิ่งใดอยู่ในโลก                                ปราศจากทุกข์โศกโชควิสัย

ไร้ร่ำร้องไร้ระรื่นไร้ฤทัย                                               ไร้ความนัยไร้ความเท็จเกลศบุญ

              เมื่อไม่มีสิ่งใดในโลกนี้                                   เมื่อไม่มีสิ่งใดมาเวียนหมุน

เมื่อไม่มีริษยาและการุญ                                                สกุลคนคงราค่าข้าแผ่นดิน

              ในที่ที่โล่งโล่งอันเวิ้งว้าง                                เสียงแผ่วบางกังวานอยู่มิรู้สิ้น

สงัดเงียบเปรียบป่าช้าเป็นอาจิณ                                  ฤ จะผินอย่างใดแต่ไรมา

              ไร้สำเนียงเสียงสนั่นดังกึกก้อง                     ไร้คำร้องท่วงทำนองของเวหา

ไร้พื้นที่ปฐพีพสุธา                                                         ไร้แสงหล้าไร้รัตติไร้ชีวี

              ท่ามกลางความว่างเปล่าจะสดับ                จะผันกลับคืนสิ้นทุกกลิ่นสี

การกำเนิดเกิดมาชาติปี                                                 ฤๅ มรณีมลายหายจากไป

              แหละโลกนี้จะล่องลอยตามจังหวะ             อิสระ อิสระ จะคว้าไขว่

อย่างเหม่อพลิ้วไร้ทราบอารมณ์ใด                             ตามแต่ใจของฉันที่หลั่งบ่ม

              ความว่างเปล่าเปรียบเสมือนจุดเริ่มต้น     มนุษยชนตามที่สอนสั่งสม

หรือจะเปรียบสิ้นสุดจุดตรากตรม                              เพียงแผ่วลมพัดผ่านจางปลิวปลอย

             

 

หิมะขาว ในแขนเสื้อ

นายเกริกสกุล แสงเจริญกุล (หิมะขาว ในแขนเสื้อ)

โรงเรียนกันตังพิทยากร อ.กันตัง จ.ตรัง

120 ม.2 ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง

083-690620-7 , 093-763853-6          

ผู้แสดงความคิดเห็น นายเกริกสกุล แสงเจริญกุล (lovekeng-dot-com-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-31 18:53:39


ความคิดเห็นที่ 18 (3729775)

 ขอแก้ไขสำนวนครั้งที่ ๑ สำนวน "ปล่อยวาง ว่างเปล่า"

บทที่ ๔ วรรคที่ ๔ จาก"ไม่สิ้นสุดความใฝ่มี" เป็น "ไม่หมดสิ้นความใฝ่มี"

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัททิยา วันที่ตอบ 2014-10-31 20:28:07


ความคิดเห็นที่ 19 (3729806)

หัวข้อ"เพียงลูกนั้น...กตัญญู"

พ่อแม่ให้ชีวิต                ลูกเล่าคิดให้สิ่งใด
ทำแต่เรื่องทุกข์ใจ
          ท่านเจ็บชํ้าหลั่งนำ้ตา
พ่อแม่สุดเหนื่อยกาย      กิจมากมายรุมเข้าหา
ร้าวรวดปวดอุรา            หวังลูกยาอยู่สบาย
ในเมื่อท่านยังอยู่           จงเลี้ยงดูก่อนจะสาย 
ดูแลอยู่คู่กาย                เอาใจใส่ก่อนไม่ทัน
หากท่านจากไปแล้ว       คงเหลือแววเศร้าโศกศัลย์
คำสอนแสนสำคัญ         ไม่มีวันหวนกลับคืน
เหลือแต่ความว่างเปล่า  จิตใจเราเศร้าขมขื่น
ยากที่จะรื้อฟื้น              ให้กลับมาเหมือนวันวาน
เร่งคิดกระทำดี               ทำวันนี้อย่ารอนาน
พ่อแม่สุขสำราญ             เพียงลูกนั้นกตัญญู

รวิวรรณ จันทร์รุ่ง

ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่๓

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการรัชดา

ผู้แสดงความคิดเห็น รวิวรรณ วันที่ตอบ 2014-10-31 22:04:19


ความคิดเห็นที่ 20 (3729816)

 ·        มาถึง ณ น้ำหนาว คิดว่าคราวนี้หนาวแน่                                                                                                  ไร้ใครจากที่แล มีแต่วิเวกรอบกาย                                                                                                                  ยินเสียงกาเหว่าร้อง แล้วลองตรองก็ใจหาย                                                                                             เหมือนมันแทบวางวาย ร้องเพรียกหาใครคนหนึ่ง                                                                                          กลางดึกจังหรีดร้อง เสียงนั้นพร้องดังอื้ออึง                                                                                             แต่ทำไมหนอจึง ปลุกความเว้เหว่ดวงแด                                                                                                        อินิจจาจันทร์เพ็ญ ขึ้นลอยเด่นให้ได้แล                                                                                                   ข่มดาวไม่แยแส จึงต้องเด่นอย่างโดดเดี่ยว                                                                                                    ลมหนาวเหน็บพัดหา ช่างพัดมากันจริงเชียว                                                                                             ไม่สนคนที่เกี่ยว ที่ต้องทนหนาวทรวงเลย                                                                                                     ตามหาความว่างเปล่า คือความเหงาฤาลองเปรย                                                                                       ฤาโดดเดี่ยวเหมือนเคย ฤาว่างเปล่าคือการ"ไร้"

ด.ญ. อัยยา วงษ์วรรณะ

              โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์

               7 ถนนคอนแวนต์ แขวง สีลม

              เขต บางรัก  กทม 10500

              โทรศัพท์ 087- 8023955

ผู้แสดงความคิดเห็น อัยยา (aiyakwan-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-31 23:18:45


ความคิดเห็นที่ 21 (3729821)

                             ... วางก็ว่าง ... 

๏ ในพร่างพรายพ่างพื้น    พัสถาน

สมบัติธาตุดาปการ          เกลื่อนคว้า

รูปกายจิตสังขาร             คนจริต  แรมเอย

หนสว่างทางโลกหล้า        ตื่นรู้สร่างสาง ฯ

๏ ใจว่างวางหลีกเว้น         กังวล

เทสาดทุกสับสน              เสื่อมด้อย

จงมาดสมาสมนต์            หมายสว่าง

ละเสพสุขโศกสร้อย          ส่องถ้วนทังหลาย ฯ

๏ กายธาตุทังธาตุกว้าง      กลางหาว

วิโยคยังเหยียดยาว           หยัดกล้ำ

สากลอัตตากราว             กลางธาตุ

วิปโยคโยกแยบย้ำ            ย่ำเยื้อยังสมัย ฯ 

๏ จิตใจในอาตม์แจ้ง          แจงจำ

พินิจปราชญานำ              เนื่องพร้อม

พันธะจิตกระทำ               ทามว่าง

วางจิตก็อาจอ้อม              โอบเอื้อเองตน ฯ

๏ มรรคผลผลิตแผ้ว           ผลใด

วางว่างระหว่างใจ             จดจ้อง

ทางสุขก็สุกใส                 สมมาด

วางคู่ใจสอดคล้อง             ครบถ้วนขบวนธรรม ฯ

๏ กำซาบตบะสร้าง           สุญญตา

จิตว่างวางวิญญาณ์           หยาดแย้ม

อริยสัจศรัทธา                 ธรรมชาติ

กิเลสปลาตแง้ม                สงบรู้ปฏิปทา ฯ

๏ ปัญญาประดุจเหย้า        โยงตน

ระยับประมาณยล             เยี่ยงไม้

รากเพรียงกิ่งดอกผล           เพ็งดื่น

ทังสติปัญญาไซร้               สืบอ้างอารมณ์ ฯ      

๏ สังขารปมแปดเปื้อน        เรือนกาย

เทศะยังสาบสาย               ส่อเชื้อ

ตัวตนแก่เจ็บตาย               ยถาต่าง

ในว่างวางอาตม์เอื้อ            อ่านรู้สังขาร ฯ

๏ นิรพาณนิรทุกข์สิ้น          สลายสูญ

กิเลสดับประดับจรูญ           จรัสเพี้ยง

หมายมาดกุศลมูล              หมางกิเลส

ปางทุกข์ก็ปราศเกลี้ยง         เกิดว้างว่างเอง ฯ

๏ ลำนำเพลงแผ่วน้าว          ขนาบดิน

หนหนักประจักษ์หิน           ปล่อยค้อม

กายธาตุปราศมลทิน           ทังจิต  วางเฮย

วางก็ว่างเยี่ยงย้อม              ย่อมน้าวขนาบสวรรค์ ฯ

ส่งประกวดโคลงหัวข้อ “ความว่างเปล่า”
นายจักรพงษ์  ศรีผ่องงาม  นามปากกา “ณ คะนึง”
185 ม.9 บ้านแสนสุข  ต.แสลงพันธ์  อ.เมือง  จ.สุรินทร์ 32000

โทร. 09-5909-7036

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นายจักรพงษ์ ศรีผ่องงาม (the-dot-tle2009-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-31 23:42:59


ความคิดเห็นที่ 22 (3729822)

เรารักกันผ่านร้อย.......กลอนกวี

รักผ่านเสียงดนตรี........สุดซึ้ง
รักหวานปักใจนี้............คงแน่
รักผ่านสำเนียงซึ้ง .......ท่วงถ้อยรำพัน
 
เพราะความรักเริ่มนั้น  ... .จากเพลง
หวานผ่านบทบรรเลง......รักเจ้า
ใจเราเมื่อฟังเพลง ........มีสุข
ยามอ่านบทเพลงเคล้า ....สุขถ้อยเคียงกัน
 
เราผูกพันใจสุขใกล้ .......ความรัก
ใครส่งรักตรึงปัก...........ก่อนนี้
เพราะใจห่วงใจนัก.........นึกถึง อีกใจ
ใจที่มีเคียงนี้.. .............ก่อนนั้นสุขกัน
 
ความรักหรือซาบซึ้ง .......ผ่านใจ
หรือรักเพียงพอใจ...... ...เมื่อใกล้
มีใครส่งถึงใจ...............หรือเปล่า
เขียนคิดถงฝากให้.........ไม่ได้ตอบมา
 
ความรักหลายสิ่งให้........เรียนรู้
จะส่งใจแลดู................ห่วงให้
จะคิดห่วงเอ็นดู............รอค่า
ยามใจฝากรักไว้ ..........สุดกลั้น ใจรอ

รอความรักส่งให้...........ลำพัง
รอพี่กับความหวัง..........ส่งใว้
รอความรักจะยัง............เคียงคู่
เพียงพี่จะลืมให้.............อยู่ใต้อาดูร
 
จินตนาในแดนแห่งความรัก
38/71.ม.1      ต.บางกรวย อ. บางกรวย จ. นนทบุรี  11130
ผู้แสดงความคิดเห็น สุจินตนา. เปียทอง. วันที่ตอบ 2014-10-31 23:52:17


ความคิดเห็นที่ 23 (3729823)

  ... วางก็ว่าง ... (แก้ไขครั้งที่ 1)

๏ ในพร่างพรายพ่างพื้น    พัสถาน

สมบัติธาตุดาปการ          เกลื่อนคว้า

รูปกายจิตสังขาร             คนจริต  แรมเอย

หนสว่างทางโลกหล้า        ตื่นรู้สร่างสาง ฯ

๏ ใจว่างวางหลีกเว้น         กังวล

เทสาดทุกสับสน              เสื่อมด้อย

จงมาดสมาสมนต์            หมายสว่าง

ละเสพสุขโศกสร้อย          ส่องถ้วนทังหลาย ฯ

๏ กายธาตุทังธาตุกว้าง      กลางหาว

วิโยคยังเหยียดยาว           หยัดกล้ำ

สากลอัตตากราว             กลางธาตุ

วิปโยคโยกแยบย้ำ            ย่ำเยื้อยังสมัย ฯ 

๏ จิตใจในอาตม์แจ้ง          แจงจำ

พินิจปราชญานำ              เนื่องพร้อม

พันธะจิตกระทำ               ทามว่าง

วางจิตก็อาจอ้อม              โอบเอื้อเองตน ฯ

๏ มรรคผลผลิตแผ้ว           ผลใด

วางว่างระหว่างใจ             จดจ้อง

ทางสุขก็สุกใส                  สมมาด

วางคู่ใจสอดคล้อง             ครบถ้วนขบวนธรรม ฯ

๏ กำซาบตบะสร้าง           สุญญตา

จิตว่างวางวิญญาณ์           หยาดแย้ม

อริยสัจสืบสัทธา               ธรรมชาติ

ละกิเลสปลาตแง้ม             สงบรู้ปฏิปทา ฯ

๏ ปัญญาประดุจเหย้า        โยงตน

ระยับประมาณยล             เยี่ยงไม้

รากเพรียงกิ่งดอกผล           เพ็งดื่น

ทังสติปัญญาไซร้               สืบอ้างอารมณ์ ฯ      

๏ สังขารปมแปดเปื้อน        เรือนกาย

เทศะยังสาบสาย               ส่อเชื้อ

ตัวตนแก่เจ็บตาย               ยถาต่าง

ในว่างวางอาตม์เอื้อ            อ่านรู้สังขาร ฯ

๏ นิรพาณนิรทุกข์สิ้น          สลายสูญ

กิเลสดับประดับจรูญ          จรัสเพี้ยง

หมายมาดกุศลมูล              หมางกิเลส

ปางทุกข์ก็ปราศเกลี้ยง         เกิดว้างว่างเอง ฯ

๏ ลำนำเพลงแผ่วน้าว          ขนาบดิน

หนหนักประจักษ์หิน           ปล่อยค้อม

กายธาตุปราศมลทิน           ทังจิต  วางเฮย

วางก็ว่างเยี่ยงย้อม              ย่อมน้าวขนาบสวรรค์ ฯ

ส่งประกวดโคลงหัวข้อ “ความว่างเปล่า”
นายจักรพงษ์  ศรีผ่องงาม  นามปากกา “ณ คะนึง”
185 ม.บ้านแสนสุข  ต.แสลงพันธ์  อ.เมือง  จ.สุรินทร์ 32000

โทร. 09-5909-7036

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นายจักรพงษ์ ศรีผ่องงาม (the-dot-tle2009-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-10-31 23:55:52


ความคิดเห็นที่ 24 (3729824)

 เพิ่มเติม. หัวเรื่องความคิดเห็นที่ 22.

"ใจที่ห่างหาย"

ผู้แสดงความคิดเห็น จินตนาในแดนแห่งความรัก วันที่ตอบ 2014-11-01 00:00:37


ความคิดเห็นที่ 25 (3729825)

 เพิ่มเติม. หัวเรื่องความคิดเห็นที่ 22.

"ใจที่ห่างหาย"

ผู้แสดงความคิดเห็น จินตนาในแดนแห่งความรัก วันที่ตอบ 2014-11-01 00:03:21


ความคิดเห็นที่ 26 (3729826)

 เพิ่มเติม. หัวเรื่องความคิดเห็นที่ 22.

"ใจที่ห่างหาย"

ผู้แสดงความคิดเห็น จินตนาในแดนแห่งความรัก วันที่ตอบ 2014-11-01 00:13:49


ความคิดเห็นที่ 27 (3729829)

 เพิ่มเติม. หัวเรื่องความคิดเห็นที่ 22.

"ใจที่ห่างหาย"

ผู้แสดงความคิดเห็น จินตนาในแดนแห่งความรัก วันที่ตอบ 2014-11-01 00:16:08


ความคิดเห็นที่ 28 (3729830)

" ว่าง ... เปล่า "

 สภาวะว่างเว้น สสาร

เหมือนดั่งดวงวิญญาณ ที่ไร้

อินทรีย์เสื่อมสังขาร ผุเน่า เหม็นเฮย

เหลือว่างเพียงนามไว้ ร่างนั้นธุลีดิน

 สินทรัพย์กองท่วมท้น เหนือหัว

ตายไม่มีติดตัว มอดไหม้

กลายเป็นฝุ่นสลัว กองถ่าน เถ้าเอย

เหลือว่างมรดกไว้ พี่น้องสืบสกุล

 สุญตาความว่างนี้ สูญไป

คือไม่มีอะไร เที่ยงแท้

ตัวเราใช่ของใคร กายแค่ รูปแล

หวังพึ่งหนทางแก้ หมั่นเข้าบำเพ็ญ

 วาง ทุกข์เข็ญนั่นไว้ วางลง

วาง ปล่อยกิเลสปลง อย่าใกล้

วาง ความไม่ยืนยง โลภอย่า มีเอย

วาง มั่นในจิตให้ ว่างเว้นเวทนา

 ปลง กายาอย่าได้ กังวล

ปลง เพื่อฝึกตัวตน อดกลั้น

ปลง จิตอย่ายินยล ฟันผ่า ใจแฮ

ปลง ปล่อยความอยากนั้น เพื่อพ้นวิญญาณ

 สู่ นิพพานมุ่งสร้าง ความดี

ความ ไม่มีราคี หลีกพ้น

ว่าง จากสิ่งโลกีย์ จงอย่า ยึดติด

เปล่า เปลี่ยวหนทางค้น ไม่พ้นความตาย

ส่งประกวดในหัวข้อ ความว่างเปล่า

นายศุภสวัสดิ์ โคตรทุม นามปากกา ธารตะวัน

333 หมู่ 10 ต. แดงใหญ่ อ. เมือง จ. ขอนแก่น 40000

ผู้แสดงความคิดเห็น Supphasawat (tawanza_1995-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-11-01 00:33:29



[1]



กระทู้นี้ไม่เปิดให้แสดงความคิดเห็น

Copyright © 2010 All Rights Reserved.