ReadyPlanet.com


แด่อีแอบ ภาคจบบริบูรณ์


[แด่อีแอบ ภาคจบบริบูรณ์]
 
๐ มนต์อักษรอ้อนทรวงกล่อมดวงจิต
ผาดแผลงฤทธิ์พิศวาสปรารถนา
หล่นจากห้วงสรวงสวรรค์เทพบัญชา
สู่แผ่นหล้าบาดาลสายธารชล
 
๐ ก่อกำเนิดเกิดลิขิตปริศนา
สร้อยสร้างสรรค์จำนรรจาสัตถาผล
วิถีทางต่างปัจเจกวิเวกตน
คมกระบวนทวนฝึกฝนตราบจนตาย
 
๐ ชิงสัมผัสสำนวนผิผวนคำ
ร่ายระบำระเริงร่าคว้าความหมาย
ความคมคิดคมคำล้ำประกาย
เพื่อผ่อนคลายผ่อนโศกวิโยคภัย
 
๐ จิตวิญญาณกานต์อักษรสะท้อนจิต
ไสลิขิตวิจิตศิลป์ดุจนิลใส
ไทยสืบสานกานท์ฉันท์ประพันธ์ไทย
งามเกริกไกรในถิ่นแผ่นดินงาม
 
๐ เสนาะเสียงสำเนียงร้อยเป็นสร้อยเสียง
เฝ้าไถ่ถามตามเถียงไล่เลียงถาม
ทุกย่ำยามหามแห่แค่ชั่วยาม
ทางก้าวเดินห้ามเขินอายจึงหมายเดิน
 
๐ อย่าหวังรอขอดินฟ้าเมตตาทาน
เมตตาให้ใส่พานท่านสรรเสริญ
ท่านสรรหาว่าผู้ดีศรีจำเริญ
ศรีจำรัสตัดส่วนเกินหมางเมินเรา
 
๐ กานต์กลอนกาพย์สาบกลิ่นระรินหยด
จำจารจดบทลำนำคำเสลา
เย้ายวนหยอกหลอกล่อกรอกลัดเกลา
คลำคลึงเคล้าเล้าโลมโฉมไฉไล
 
๐ ประดิษฐ์ประดอยถ้อยร้อยรุกรับ
ประเทืองประทับสอดรับกับสมัย
ประดังประเดเซซมรักถมใจ
ประดับประดาไว้ในแผ่นดิน
 
๐ ไอละมุนพิรุณสายโปรยปรายพรม
รักตรอมตรมระทมเหงาถูกเจ้าหมิ่น
หยดน้ำตาพร่ำอาลัยเผาไหม้จินต์
ซบผืนดินเกือบสิ้นลมขื่นขมทรวง
 
๐ ยำละเลงเพลงอักษรยอกย้อนเล่น
ไหว้บวงสรวงเซ่นเจ้าผู้เฝ้าสรวง
ดวดเมรัยไร้สิ้นหวังเรื่องทั้งปวง
กลบทกฎกลอนลวงล่วงลับลา
 
๐ พอหอมปากหอคออ้อล้อหยอก
เหล้ากระฉอกกระดกดื่มปลื้มหรรษา
สอดสดับสนุกคำจำนรรจา
ชื่นชีวาชีวันฝันขวัญนงเยาว์
 
๐ ตะวันรอนอ่อนแสงยามแลงค่ำ
นั่งดื่มด่ำฉ่ำฤดีตรงที่เก่า
เหนื่อยกับงานการก่อท้อจริงเรา
ปลดปล่อยเศร้าเหงาทรวงห้วงอารมณ์
 
๐ ยิ้มละเมียดละไมเติมไออุ่น
หอมละมุนกรุ่นกลิ่นเหล้าเคล้าผสม
ดุจน้ำทิพย์หยิบจากฟ้ามาเชยชม
รสชาติขมกลมกล่อมย้อมวิญญาณ
 
๐ คำบุราณหวานเป็นลมขมเป็นยา
ฤทธิ์สุรายากระษัยใช้ผสาน
คนอกหักรักษาแผลแก้อาการ
ลืมนงคราญผู้หาญหักรักระทม
 
๐ สิบปากว่าอย่าเชื่อเมื่อพบพักตร์
รักสลักปักอุราเป็นยาขม
จากหวานชื่นคืนวานเก่าเฝ้าจอมจม
สุขเสพสมล่มสลายตายทั้งเป็น
 
๐ ดังยาพิษปลิดวิญญาณ์ฆ่าสังหาร
ทรมานซานซมขมรักเข็ญ
ใจฮำฮอนอ่อนล้าเพลาเย็น
ก็ยังเป็นเช่นคนเก่าผู้เมามาย
 
๐ ลมหายใจไหลรวยรินแทบสิ้นลม
เศร้าระทมขมขื่นไห้ใจสลาย
หยดน้ำตาปร่ารินรดรันทดกาย
แม้นสุดท้ายพ่ายแพ้แต่มิยอม
 
๐ สิ้นทุกอย่างอ้างว้างสุขจางหาย
คล้ายว่ากายตายทั้งเป็นลำเค็ญพร้อม
สู้ดิ้นรนบนถนนจนตรมตรอม
ทุกข์ห่มห้อมตรอมวิญญาณเลือดซ่านกาย
 
๐ ไร้เรี่ยวแรงแผลงฤทธิ์ประสิทธิ์ประสาท
สุดอนาถชาติเสือเมื่อแพ้พ่าย
ถือศักดิ์ศรีภักดีมั่นตราบวันตาย
คงความหมายเชิงชายไว้ในแผ่นดิน
 
๐ ลมหายใจไหลอยู่ก็สู้ต่อ
มิได้ท้อต่อชะตาฟ้าดูหมิ่น
พรหมลิขิตกีดกั้นจนฉันชิน
ภูผาหินดินเทียมฟ้าข้ามิกลัว
 
๐ ดินกลบหน้าน้ำตาหยดรดผืนดิน
จิตถวิลบินท้าฟ้าสลัว
มืดอำพรางทางเบื้องหน้ายังพล่ามัว
หยุดพักมองตรองตัวเองวังเวงจินต์
 
๐ เหนื่อยมานานซานซมหลงจมปลัก
ทั้งเรื่องรักหนักงานร้าวรานสิ้น
รอยตราบาปสาปฝังขังชีวิน
จักดับดิ้นวิญญาณ์ ณ คราใด
 
๐ ใครกันเล่าเข้าใจในตัวข้า
เยี่ยงคนบ้าชะตาหักถูกผลักไส
ซดน้ำเหล้าเกลากล่อมย้อมฤทัย
เศร้าอาลัยในรักลวงดวงชีวัน
 
๐ กลอนน้ำเมาขี้เหล้าเขียนเกรียนที่สุด
เตะสะดุดจุดหมายท้าทายฝัน
เขย่าขวดจำอวดเล่นประเด็นมัน
มากเรื่องเก่าเล่าขำขันประชันความ
 
๐ เทพขี้เมาเกลากลอนอักษรสาน
ร้อยขับขานงานศิลป์ถิ่นสยาม
บทประพันธ์สรรค์สร้างอ้างนิยาม
มิลือนามตามปราชญ์ชาติกวี
 
๐ มิเหนียมอายขายหน้าข้าก็ช่าง
มองมุมต่างอย่างเข้าใจในศักดิ์ศรี
รูปก็หล่อพ่อปั้นมาหน้าดูดี
ถ้อยพาทีมีเชิงชั้นขั้นเทพเมา
 
๐ ถอยรุกรับขยับสู้อยู่ทุกวัน
เพียรขยันหมั่นทอกรอเสลา
หอมรวยรินกลิ่นสุรายาบรรเทา
ช่วยกล่อมเกลาทุกเช้าเย็นเป็นอาจิณ
 
๐ รสเมรัยไสขัดบำบัดจิต
ปลุกชีวิตนิมิตฝันปั้นศาสตร์ศิลป์
หยาดน้ำทิพย์สิบชั้นฟ้ามาสู่ดิน
ย้อมดวงจินต์สิ้นอาวรณ์กลอนเฮฮา
 
๐ ร่ายเรื่องรักหนักอกวิตกทุกข์
เจ็บจนจุกอุกอั่งนั่งโหยหา
หยดน้ำตาร้อยห่าหาบอาบอุรา
กี่ครั้งคราข้ารันทดสลดใจ
 
๐ บทละครย้อนชีวิตลิขิตเขียน
สลับเวียนเปลี่ยนฉากลากถูไถ
ลูกชาวนาข้าแผ่นดินถิ่นเมืองไทย
เป็นบ่าวไพร่ไทรากหญ้าอย่าลืมตัว
 
๐ ต่างผู้ดีศรีสยามงามแต่เปลือก
ใต้รองเกือกเสือกไสว่าไพร่ชั่ว
สุดระทมขมขื่นคืนหมองมัว
ฟ้าคุ้มหัวกลัวอะไรใครก็ตาย
 
๐ บทสุดท้ายมิอายฟ้ากล้าสู้ดิน
ตราบชีพสิ้นกลิ่นเมรัยไม่จางหาย
ทำความดีพลีอุทิศทั้งจิตกาย
ฝากเชิงชายลายสือไว้ในแผ่นดิน
 
๐ ผืนแผ่นฟ้าใต้หล้าสุธาธาร
ต่างพบพานผ่านผันกันทั้งสิ้น
เกิดแล้วดับลับลาจนชาชิน
สมถวิลโผผินจากพลัดพรากไป
 
๐ จันทร์ส่องแสงส่องใจในค่ำคืน
สุดสะอื้นสะเทือนสั่นสุดหวั่นไหว
จันทร์ร่ำไห้ร่ำร้องห้องห้วงใจ
สุดอาลัยอาวรณ์ช้ำสุดกล้ำกลืน
 
๐ คืนระทมระบมทรวงบ่วงรักร้าย
เมื่อรักพ่ายรักตอกย้ำจำทนฝืน
เสียน้ำตาน้ำใจนางร้างแรมคืน
แม้นยามตื่นยามหลับอาภัพจริง
 
๐ เหม่อมองฟ้ามองดาวสกาวพร่าง
คิดถึงนางถึงหน้าน้องสมปองหญิง
รักแรกพบแรกสบตาน่าแอบอิง
หมายพักพิงพักรักไว้ในใจนาง
 
๐ เป็นคู่ซ้อนคู่ชีวันขวัญชีวา
อ้อนวอนฟ้าวอนดินเป็นสินจ้าง
สุขสมหวังสมรักสลักวาง
เป็นคู่สร้างคู่สมอย่าตรมตรอม
 
๐ รักผูกพันผูกเราสองประคองรัก
หอมนวลพักตร์นวลนางสิปางหอม
ดอมกลิ่นเจ้ากลิ่นเนื้อนวลชวนดมดอม
จันทร์กระพ้อกระจ่างพร้อมห้อมเจ้าจันทร์
 
๐ รอยรักเก่ารักเราสองต้องจำจาก
เขามาพรากมาเป็นหนามหยามใจฉัน
ลบความเหงาความเศร้าเราผูกพัน
เก็บฝากฝันฝากจันทราเพื่อนข้าที
 
๐ โอ้เจ้าจันทร์เจ้าช่วยอวยพรข้า
สมรักสมปรารถนาเถิดครานี้
ความขุ่นข้องขุ่นเคืองใดในชีวี
คลายหมองเศร้าหมองฤดีที่คลุมเครือ
 
๐ ดินก่อกำเนิดเกิดเรือนร่าง
สรรพสิ่งจริงต่างอ้างว้างเหลือ
เกิดแล้วดับกับมายาหาจุนเจือ
หลงภาพเงาเน่าเนื้อหนังมังสากาย
 
๐ น้ำไหลเวียนเปลี่ยนถ่ายเลือดกายพล่าน
สีแดงฉานซ่านรวยรินกระสินธุ์สาย
เหม็นคูถหนองกองขยะเป็นประปราย
เทระบายถ่ายทิ้งสิ่งไม่ดี
 
๐ ลมแปรปรวนรัญจวนเศร้าเหงาโศก
พัดโบยโบกโลกกระแสแลวิถี
ความมืดหม่นระคนหมองของชีวี
สิ่งเลวร้ายมากมายนี้ที่อารมณ์
 
๐ ไฟเผาไหม้ในกายคายไออุ่น
ปลุกกระตุ้นฉุนเฉียวเคี่ยวเพาะบ่ม
ถ่อสังขารวิญญาณอันซานซม
เอาสติดำริข่มคมปัญญา
 
๐ อันธาตุสี่ที่รู้เป็นครูฝึก
แก่นผลึกสำนึกไว้ใคร่ศึกษา
สรรพสิ่งจริงแท้แค่มายา
อนัตตาหาจีรัง ฤา ยั่งยืน
 
๐ ดังแก้วเปล่าเหล้าเติ่มเพิ่มสีสัน
จิตผูกพันสัญญามิกล้าฝืน
รักตามติดคิดยึดมั่นทุกวันคืน
จึงชอกช้ำกล้ำกลืนขมขื่นใจ
 
๐ แม้นแก้วใสใบเปล่าไร้เหล้าเติม
เป็นดังเดิมเริ่มแรกจะแปลกไหม
สละทิ้งทุกสิ่งอย่างปล่อยวางไป
ก็สิ้นไร้ในทุกข์สุขนิพพาน
 
๐ บทกวีกี่ร้อยบทสลดเศร้า
หาเทียบเท่าเจ้าดอกหนาแม่ตาหวาน
อรรถรสพจนาภาษากานท์
แค่มองผ่านขานขับไขไร้คนชม
 
๐ เทียบเนื้อหนังมังสากานดาน้อง
ผิวผุดผ่องยองใยใคร่เสพสม
งามสะดุดจุดประกายหมายภิรมย์
หน้าระรื่นชื่นอกตรมชมเนื้อนวล
 
๐ คมอักษรกลอนลิขิตพิศวาส
สุดอนาถขาดสิ้นกลิ่นหอมหวล
รสคารมคมคายหลายกระบวน
มิรัญจวนยวนเย้าเท่าโฉมยง
 
๐ ดงน้ำเน่าเล่าเรื่องประเทืองปาก
กลอนกระดากสากกะเบือแจวเรือหลง
อนิจจาสังขาราว่าปลดปลง
ปทุมถันชันช่อตรงคงงามตา
 
๐ อันสุนทรีย์นารีนางต่างอักษร
อรชรร่อนเล่ห์สิเหน่หา
คมน้ำหมึกฝึกจากปลายปากกา
แต่มารยาแม่ตาหวานล้านทะลาย
 
๐ ยามเป็นแฟนยากแค้นแสนลำบาก
ซื้อของฝากมากของขวัญมุ่งมั่นหมาย
หวังอิงแอบแนบชิดสนิทกาย
เกิดเป็นชายตายเพราะรักยากหักใจ
 
๐ ทุ่มเทใจให้เธอละเมอหา
เก็บเงินตราค่าสินสอดกอดแขไข
เฝ้าถนอมยอมเหนื่อยยากลำบากไป
หมายน้องนางไว้ข้างกายชายก็พอ
 
๐ ทำทุกอย่างสร้างค่าอนาคต
ยึดเกณฑ์กฎบทบาทเจ้าเฝ้าวอนขอ
เอาใจนางย่างตามงามลออ
อย่าอ้อล้อต่อเถียงเนียงคนดี
 
๐ ยกขันหมากลากแต่งแย่งเจ้ามา
เป็นภรรยาข้าที่รักสมศักดิ์ศรี
ยิ้มกรุ้มกริ่มนิ่มละมุนกุลสตรี
นับแต่นี้มีศรีเรือนเพื่อนคู่กาย
 
๐ เปลี่ยนฐานะอะไรนั้นมันก็เปลี่ยน
ใบทะเบียนเขียนสัญญาว่าหมั้นหมาย
เอ็งเป็นผัวของฉันจวบวันตาย
รักสุดท้ายอย่าหลายเมียจะเสียความ
 
๐ เกิดเป็นชายร้ายกว่าเสือเชื่อหรือเปล่า
แต่เมียเราเต่าหดหัวผัวเกรงขาม
รบร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำทุกย่ำยาม
ตะลุยข้ามย่ามเหยียบไปไม่เห็นกลัว
 
๐ ชาติอาชาม้าศึกคึกคะนอง
หยิ่งจองหองพองขนคนไปทั่ว
ต้องสิ้นลายตายอย่างเขียดส่อเสียดตัว
เพราะเป็นผัวชั่วดีอยู่ที่เมีย
 
๐ มีมากมายหลายอย่างต่างเรียนรู้
ยืนหยัดอยู่สู้ต่อไปมีได้เสีย
ทุกปัญหาหากหมักไว้ไม่ไล่เคลียร์
กระปลกกระเปลี้ยละเหี่ยใจให้ร้าวรอน
 
๐ บทกวีซีไรท์ไขว่คว้าอ่าน
นอนอยู่บ้านขานสดับศัพท์อักษร
เปิดหูตาผ่าใจไม่อาวรณ์
กฎเกณฑ์กลอนละครคำย้ำสอนตน
 
๐ เป็นกวีนี้มิอยากหากจะเป็น
หมายโดดเด่นเช่นเขาเฝ้าฝึกฝน
ร่ำเรียนรู้สู้ขยันหมั่นอดทน
ปัญญาชนก็คนธรรมดา
 
๐ เขียนกอไก่กอกาหมาไม่แดก
เขาจำแนกแตกต่างทางภาษา
ศิลปินถิ่นสยามตามทุ่งนา
มีแผ่นฟ้าแผ่นดินเป็นสินทรัพย์
 
๐ กลอนร้อยบทงดงามตามบทกลอน
รับรุกอ้อนย้อนเปลี่ยนหมุนเวียนรับ
ศัพท์คำคมคารมผสมศัพท์
คนอาภัพสดับถ้อยร้อยคำคน
 
๐ บทกวีซีไรท์ปลุกใจตื่น
วันและคืนยืนหยัดตรวจวัดผล
ร่ายกระบวนทวนทบสยบตน
เพื่อดั้นด้นบนถนนหนทางกลอน
 
๐ คมกวีกี่หมื่นคำพร่ำลิขิต
ผาดแผลงฤทธิ์พิศวาสมิอาจถอน
เผยวิมุตติขุดซากกากสันดอน
ตกตะกอนก้อนผลึกผนึกความ
 
๐ เขาประณามหยามเหยียดรังเกียจฉัน
ถูกเย้ยหยันกันท่ามาไถ่ถาม
มีอีแอบแสบไส้ผู้ไร้นาม
ร่ายประชันมันขวางห้ามหนามแทงใจ
 
๐ ร้องตะโกนร้องตะเบ็งดังเซ็งแซ่
อยากจะแล่อยากจะด่าหมาตัวไหน
ลบกูออกลบกูทิ้งเพื่อสิ่งใด
กูทำผิดทำอะไร ฤ ไอ้เวร
 
๐ ครั้งที่สองของรอบปีที่ลบกู
แม่งอดสูผู้ดูแลแค่ขี้เหม็น
มึงจะกลัวจะเกรงเพลงประเด็น
ฤา กูเด่นกูดังยับยั้งกู
 
๐ หน้าตัวเมียเสียกะไรไอ้ฉิบหาย
มึงมันร้ายคล้ายชิงชังนั่งหดหู่
นักเลงกลอนถอนหัวหงอกออกมาดู
บอกโลกรู้กูมิกลัวตัวสูดอก
 
๐ สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย
ถามได้ไหมไฉนไยลวงหลอก
กลัวกระทั่งพลังสานคนบ้านนอก
แค่ขี้ครอกกระจอกเง่าเจ้ายังกลัว
 
๐ กูเหลืออดเหลือทนจะกร่นด่า
โอ้ไอ้ห่าไอ้เวรไม่เห็นหัว
เป็นผู้หลักผู้ใหญ่นะจ๊ะตัว
ก็ช่างหัวช่างแม่งมันไอ้จัญไร
 
๐ กูมีที่ให้เขียนระเบียนสาน
เลิกหน้าด้านหน้าทนบ่นได้ไหม
ไม่ต้องแลต้องสนผลสิ่งใด
ระบายใส่ระบายไปในห้องกู
 
๐ นักเลงกลอนหอนเห่ามาเล่าบอก
อยู่ต่างคอกต่างฝูงไม่ยุ่งสู
เลือกที่รักมักที่ชังช่างน่าดู
สูก็อยู่ของสูไปกูไม่กวน
 
๐ ฝากส่งต่อข้อสานบ้านหลังนี้
ไปถึงที่ชี้ด่าหัวหน้าก๊วน
เป็นกลอนถ่อยถ้อยรบครบกระบวน
นับแต่นี้ไม่มีหวนกลับก๊วนใคร
 
๐ รูปไม่หล่อพ่อไม่รวยควายไถนา
ไพร่ขี้ข้าหมาไม่แดกแปลกตรงไหน
ปริญญากอไก่กาค่าเทียมใด
แค่บ่าวไพร่มีไว้รับใช้ทุน
 
๐ กูไม่ใช่ไอ้ผู้ดีมีเบี้ยอัฐ
หมาจรจัดรัฐกีดขวางต่างเจ้าขุน
มันทวงเช้าทวงเย็นเป็นบุญคุณ
แค้นเคืองขุ่นทารุณกูอยู่เพียงพอ
 
๐ ดูอ้ำอึ้งตะลึงดูกูใครหว่า
เห็นหน้าตาท่าทางวางมาดหล่อ
ขึ้นมาร้องสองเพลงบรรเลงคลอ
ขับลูกคอก่อผลงานร้านฮังเล
 
๐ คนเยี่ยงข้าบ้าใบ้ใครจะสน
ยืนหยัดตนบนเวทีไม่มีเป๋
ไขขับขานงานดนตรีนี้ฮาเฮ
ขับกล่อมเห่ลมเลเหงาเศร้าวังเวง
 
๐ ขอสามคำจำหน้ากูสูรู้เห็น
ไอ้หน้าเหม็นเช่นตะกวดเสือกอวดเก่ง
เดินกระเตงละเลงยำขำกันเอง
เทพสุราหมานักเลงเองอ้างเอา
 
๐ เขาผลักไสไล่ส่งพ้นดงกลอน
นั่งอาลัยอาวรณ์ก่อนหอนเห่า
สรรพสิ่งกลิ้งกลอกลวงหลอกเรา
แต่น้ำเหล้าเมาแท้และแน่นอน
 
๐ ระบำสานขานเอ่ยเผยกระบวน
คำคมครวญป่วนเมืองเฟื่องอักษร
คนหน้าด้านหน้าทนบ่นฮำฮอน
โรงละครหมอนมุ้งคือทุ่งนา
 
๐ ซดเหล้าไหไก่ต้มถ่มถุยขาก
ต่างผู้รากมากดีขี้เมาบ้า
เปี่ยมล้นรักภักดีมีศรัทธา
ดวดสุราเย้ยฟ้าดินย่ำถิ่นกลอน
 
๐ เขาเลือกรักมักชังช่างหัวเขา
ถอนรสเหล้าเมาต่อขอไถ่ถอน
นอนอาภัพหลับใหลในห้องนอน
รักบังอรงามงอนอ้อนอ้ายรัก
 
๐ เป็นหมาบ้าท้าฟัดกัดไม่ปล่อย
ทำสำออยคอยระรานรุกหาญหัก
พร่ำละเมอเพ้อหาบ้ายิ่งนัก
เมาเสียหลักเขาผลักไสหมาไล่มา
 
๐ ร่ายระเริงเถลิงสานกานต์อักษร
หวังเว้าวอนอ้อนทรวงดวงยี่หวา
เจ็บชอกช้ำคำหยามหมิ่นกวินทรา
นามของข้าจำหน้าไว้อย่าลืมเลือน
 
๐ "เทพสุรา ผู้ไร้รัก" สลักชื่อ
โลกร่ำลือคือข้าอย่าแชเฉือน
ทุกข์ลำบากฝากคำมาย้ำเตือน
ใครบิดเบือนเหมือนหัวเต่าเข้ากระดอง
 
๐ มันเจ็บแค้นเจ็บใจในอีแอบ
มันตัวแสบตัวอัปรีย์ที่จองหอง
มันขี้กลัวขี้ขลาดวาดประลอง
มันลำพองลำนำแค่คำลวง
 
๐ ลำหับอัปสราธิดาสวรรค์
พรหมเสกสรรค์เทวัญสร้างสล้างสรวง
โฉมเฉิดฉายท้าทายฝันรำพันทรวง
โอ้แดดวงพวงผกาฟ้าประทาน
 
๐ แลทรวดทรงองค์งามอร่ามเหลือ
สวยระเรื่อเนื้อนวลแขแม่ตาหวาน
หลงละเมอเพ้อพร่ำช้ำดวงมาน
อนงค์คราญสราญรมย์เชยชมนาง
 
๐ อรชรอ้อนแอ้นกระแท่นต้นกุ่ม
สาว ฤ หนุ่มนุ่มละมุนกรุ่นสาบสาง
คิ้วกนกอกเอวกิ่วผิวบอบบาง
ชวนดมดอมหอมนางมิสร่างซา
 
๐ รัศมีโสภีฉายประกายส่อง
เผยผุดผ่องคล้องจิตนิมิตหา
ดุจต้องกลมนต์เสน่ห์เล่ห์มายา
ติดตรึงตราอุราเศร้าเร้ารัญจวน
 
๐ ข้อพระกรอ่อนช้อยชม้อยตา
สิเหน่หารวยระรินกลิ่นหอมหวล
พิศวาสปรารถนาพาเย้ายวน
ใคร่คร่ำครวญชวนหลงใหลในโฉมยง
 
๐ อันนิลเพชรเกล็ดมณีที่มีค่า
ช่างเหินห่างต่างราคาพญาหงส์
แสงเกล็ดแก้วแวววับมอดดับลง
อีแอบคงปลงตกตระหนกเกรง
 
****โคลงอีแอบแสบไส้
 
๐ โครงกระดากปากอ้าง.....เอกโท ฤาพี่
สำรอกออกคุยโว................พร่ำโม้
เสียงลือสื่อคำโต.................อายแน่ แท้เวย
โทสี่ดีอวดโอ้......................โผล่พ้นกลโคลง
 
๐ โรงเรียนเขียนร่ายร้อง....ระบำ ระเริงเฮย
หลงถลำขำคำ....................ปราชญ์รู้
บอกเอกสี่เจ็ดจำ................โทใส่ ไว้เลย
บังคับจับเคียงคู้..................ซ่อนชู้ครูสอน
 
๐ ตอนเป็นเด็กเชื่อแท้......คำครู นะพ่อ
ตาปิดมืออุดหู...................ท่องไว้
แตกแถวผิดนะหนู............บอกอย่า ทำเลย
จำจดรสโคลงได้.............ไป่รู้อีแอบ
 
๐ เจ็บแสบทรวงเร่าร้อน....กลอนกาพย์
คำสั่งดังคำสาป.................หยาบถ้อย
กรอบกฎกลิ่นสางสาบ......บาปนัก แม่เอย
ยามรักมักเรียงร้อย...........เอ่ยสร้อยกลอยใจ
 
๐ ถูไถแถแหย่เต้า.......รังแตน กล้าฤา
อีแอบแสบสุดแสน.......ทั่วหล้า
เตะถีบไล่ไสแกน........เปลือกเน่า เนื้อเอย
หมอกวีผีบ้า.................ลากไส้ไทกานท์
 
๐ สานกอกาห่าเหี้ย......ครบบาท พี่เอย
สานไก่ฮูกปลูกชาติ......เวี่ยไว้
บทโคลงสี่พิลาส...........ปมเงื่อน ฤาพี่
บทที่จะดีได้..................ใส่ไว้เอกโท
 
๐ โงหัวตัวโผล่พ้น.........โครงโคลง ฤาพ่อ
ปากเอ่ยกูจรรโลง..........ฤ นั้น
อีดอกคอกกระโดง........ผีห่า เปรตนอ
ยังห่างทางเชิงชั้น.........หน่วยก้านคนละเบอร์
 
๐ เจอหมาหมอกู่ก้อง...ลองเชิง
อีแอบแสบระเริง..........ขู่ข้า
ยกหางหยิ่งเถลิง.........อวดเบ่ง
ตัวอึ่งตะเบ็งท้า............เอ่ยอ้างครูบา
 
๐ ตามองตาขลาดแท้....ตัวเมีย ฤาแม่
แอบด่าเขาซะเสีย..........ชั่วช้า
วาทะถ่อยโลมเลีย.........ละเหี่ย ใจเวย
ถุยถ่มคมคนบ้า..............ธาตุแท้อิจฉา
 
๐ เวทนาเยี่ยงแท้.......ผีเปรต ห่าเอย
สวดส่งเนรเทศ.........ไล่พ้น
สวรรค์สุดสมเพช......นรก เมินแล
แอบจิตพิษเหลือล้น...สาปไว้ประจาน
 
๐ กูศิษย์วัดต่ำต้อย.........เชิงกลอน
เรียงร่ายยามหลับนอน....ค่ำเช้า
เหม็นปากเน่าเอ็งสอน.....หอนเห่า แท้นอ
ทุเรศนักคำเว้า................พล่ามเอื้อนกาพย์กานท์
 
๐ สานอีแอบว่าไว้........ครวญคิด
อวดโอ่ตนเป็นศิษย์......ภู่นั้น
กระบวนร่ายลิขิต........ยังห่าง นักแม่
เสือกส่อโวเชิงชั้น........แค่ขั้นอนุบาล
 
๐ จารจารึกสาบสร้อย.....คำหยาบ
ไหลหลั่งรินรดอาบ..........แผ่นพื้น
ผืนธรณีบาป....................คนถ่อย ถ่อยเฮย
ปราชญ์เง่าหอนสะอื้น.....ตื่นเต้านกกา
 
๐ เห็นหมาหมอเห่าโฮ้ง....โครงเครง
ตัวเต่าหดหัวเกรง.............คุดคู้
ขับขานกี่บทเพลง.............ฤา พี่
หางตกหูตูบรู้....................แซ่ซ้องเมามัน
 
๐ ฉันทลักษณ์ผิดเพี้ยน....กาพย์กลอน โคลงเอย
เพาะบ่มคมอักษร..............ห่อนเหี้ยน
ติเตียนเปลี่ยนตัดตอน......เรียงร่าย ใหม่นา
แตกต่างดุจหนามเสี้ยน.....ทิ่มเนื้อเถือปราชญ์
 
๐ ดำรงชาติเวี่ยไว้.........ยุคสมัย
สอดรับขับขานไข.........หน่อเนื้อ
ผดุงเกียรติเกริกไกร.....เถลิงศก
ผองประชาโอบเอื้อ.......เทิดไท้กวีชน
 
๐ กฎกรองเสน่ห์ร้าย.....ตรึงตรา 
กำหนดบทภาษา...........รัดร้อย
ผิดทางต่างเพลา...........คุณค่า งามแล
มิปรับขยับถ้อย.............อ่อนด้อยเชิงกานท์
 
๐ สานสำเนียงเร่าร้อง.......บอกความ
เองเอ่ยพึงเหยียดหยาม.....เล่าอ้าง
เอกเจ็ดหัดหาบหาม...........ครบเครื่อง เรื่องฤา
โทสี่งามสล้าง....................ไต่เต้าเหลาโคลง
 
๐ รักษ์จรรโลงก่อเกื้อ.....อักษรา
สานต่อคำครูบา..............ก่อนกี้
อบรมสั่งสอนมา..............จำจด ไว้เอย
บันทึกผนึกชี้...................แต่นี้แปรผัน
 
๐ ฉันทลักษณ์ปลกเปลี้ย.....เสียกานท์
ตกต่ำคำฉะฉาน..................สอดคล้อง
อนุรักษ์ผลงาน....................ยากยิ่ง จริงเวย
รวบรัดสัมผัสต้อง................กี่ร้อยกระบวน
 
๐ ทบทวนครวญคิดถ้อย....บริบท
พันหมื่นแสนพากย์พจน์......สลดเศร้า
เพียงเพราะยึดกรอบกฎ.....จดท่อง
ดวดดื่มลืมรากเหง้า............คลุกเคล้าตัวตน
 
๐ อลวนแต่งแต้ม.........ยำละเลง
แจวถ่อลากกระเตง......กู่ก้อง
ลีลาร่ายรำเพลง...........โดดเด่น แท้ฤา
ตีเกราะกะลาฆ้อง.........ม่าเด้อขวัญเอย
 
ขอน้อมคารวะจากใจ
ทรชนบ้านนอก
๐๖ กรกฎาคม ๒๕๕๘


ผู้ตั้งกระทู้ ทรชนบ้านนอก :: วันที่ลงประกาศ 2015-07-06 08:25:00


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3847209)

 uเคยมีนักเรียน2คนเป็นเพื่อนกัน
>>ทั้ง2สนิทกันมาก
>>ไปไหนไปด้วยกัน
>>สุขด้วยกัน
>>ทุกข์ด้วยกัน
>>ทั้งสองเรียนที่เดียวกัน
>>อยู่หอพักเดียวกัน
>>เรียนปีเดียวกัน
>>เรียนห้องเดียวกัน
>>นอนด้วยกัน
>>มีวันหนึ่งเพื่อนคนหนึ่งป่วย
>>และเขาอยากทานก๋วยเตี๋ยว
>>เพื่อนอีกคนจึงไปซื้อให้
>>และเมื่อซื้อเสร็จก็รีบกลับ
>>แต่ระหว่างทาง
>>เกิดอุบัติเหตุขึ้น
>>เขาเสียชีวิต
>>แต่ด้วยความรักเพื่อน
>>วิญญาณของเขาก็นำก๋วยเตี๋ยวมาให้เพื่อนและตายไป
>>ทำให้เขาหมดห่วงและตายอย่างสงบสุข
>>ได้รับข้อควา มนี้แล้วต้องโพสซ้ำ 20 กระทู้ ไม่ใช่ 20
>>copyถ้าไม่ทำ ตามจะเกิดอุบัติเ หตุ อีก 7 ชม.นับถอยหลัง
>>ขอโทษนะที่หล อกนี่เป็นกระทู้ท ี่ 20 แล้ว ตอนแรกเราก็ไม่เช ื่อ
>>เพื่อนเราในก ลู่ม 5 คน เกิดอุบัติเหตุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ,,, วันที่ตอบ 2015-07-26 10:03:10



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.