ReadyPlanet.com


ความทุกข์


 “ความทุกข์”

๐ ทุกข์เพราะฝันไขว่คว้า      สนองตน
ทุกข์เพราะเกิดเป็นคน          ไป่รู้
ทุกข์เพราะจิตฉ้อฉล              หมองหม่น
ทุกข์เพราะใจมิสู้                   พ่ายแพ้ตัวเอง

๐ ทุกข์วังเวงรับรู้                   สัมผัส     
หมายมั่นจะกำจัด                  ถ่ายทิ้ง
กายเป็นบ่าวยืนหยัด              เย่อหยิ่ง
จิตคร่ำครวญกลอกกลิ้ง          ทุกข์แท้ใจเรา

๐ เงากิเลสชั่วร้าย                   ครอบงำ
ใจขาดศีลธรรม                      ต่ำเตี้ย
ความอยากใคร่หลงถลำ         ดำดิ่ง
จิตตกเป็นทาสเบี้ย                 คลั่งไคล้เชยชม

๐ จิตภิรมย์หม่นไหม้            ปรารถนา
รูปรสเสียงชิวหา                    ยั่วเย้า
ตัณหาร่างกายา                       สมเสพ
สุขชั่วคราวฉุดเร้า                   ยากแท้สุขจริง

๐ ทุกสรรพสิ่งนั้น                  วกวน
หลอกล่อจนหลงกล               เล่ห์ร้าย
ดินไฟและลมฝน                   ธาตุสี่

เกิดแก่เจ็บสุดท้าย                  มอดม้วยแตกดับ

๐ หวนกลับคืนสู่ห้วง            ธรรมชาติ
บุญบาปดังภาพวาด                แต่งแต้ม
ทุกขเวทนา ทาส-                   ตามติด

บัวเบ่งบานแรกแย้ม              รุ่งเช้างดงาม

๐ ใจทรามจะแจ่มแจ้ง           โดยธรรม
กิเลสตัณหาครอบงำ              หลุดพ้น 
ทุกข์เวียนว่ายกงกรรม          กระทำก่อ
ชีวิตที่โดนปล้น                     เที่ยงแท้สัจธรรม
                               

ขอน้อมคารวะจากใจ

ทรชนบ้านนอก
๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๗



ผู้ตั้งกระทู้ ทรชนบ้านนอก :: วันที่ลงประกาศ 2014-10-10 11:55:11


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3719960)

 ชอบค่ะ

ภูสุภา

ผู้แสดงความคิดเห็น phusupa วันที่ตอบ 2014-10-11 23:10:16


ความคิดเห็นที่ 2 (3721881)

... ปางทุกข์ ...

 

๏ ปางทุกข์เทวษสร้อย      สบโศก  

สัจจะธรรมดาโลก           ลูบหล้า      

ลางเลศเหตุวิปโยค           ยุกิเลส

ละทุกข์ทุกหย่อมหญ้า       ยากแท้ถากถาง ฯ  

 

๏ ปางสวรรค์นรกล้วน      รุมใจ

ทุกข์สุขขนาบสมัย           ใหม่ก้าว

วิวรรธน์โลกวิไล              ลวงอก

สาปสุขจริตร้าว              เลศล้นลนผวา ฯ

                       

๏ สารทุกข์วะโหว่โย้         โทปการ

กายจิตสืบสันดาน            ด่าวดิ้น

ดงฝาดเฝื่อนสังขาร           คนสัตว์              

สาปสวะปลาตสิ้น            สุขทั้งทังโขยง ฯ

 

๏ ควันโขมงเขม่าสิ้น          สงคราม

นับศพสบโศกยาม            ยอบข้าง

ลางโลกกิเลสกาม             เกินหยาบ

ดาบทุกข์อาฆาตค้าง         คั่งแค้นโทโส ฯ              

 

๏ โมโหโกรธโง่บ้า            บงการ

สัจทุกข์ทุกสถาน             เทวษแท้

กิเลสเลศรุกราน              เหลวแหลก

เพลิงรุกลุกลามแล้            เล่ห์ร้อนย้อนผลาญ ฯ

 

๏ สติชาญชีวาตม์ตั้ง         ตรองกมล

มองเลศกิเลสกล              ก่นสู้

สลัดทุกข์เองตน               เตรียมจิต

เจียมจริตสามารถรู้           รับร้อนผ่อนหนาว ฯ

 

๏ กลางหาวดาวดับบ้าง     บางครา

ทุกข์ดับบางเพลา             หลุดพ้น

วิสัชน์ถัดปัญหา               เห็นเยี่ยง  เย็นเอย

ทุกข์ก็กลายสุขล้น             ลุรู้คุณูปการ ฯ

 

๏ สังขารขจ่างแจ้ง            จิตตัง

เกิดแก่เจ็บตายยัง             เยี่ยงถ้วน

ชีวาตม์ย่อมทุกขัง             ควรขบ  คิดเอย                     

ละโลภโกรธหลงล้วน          กิเลสร้ายกลายหนี ฯ

 

๏ กระฎุมพีกี่ชาติชั้น         ชนสมัย

ยกจกตกทุกข์ใด               ดื่นล้า        

เศรษฐีมั่งมีกระไร             รวยเลิศ

ทังทุกข์ทังสุขระย้า            ยากพ้นทุกขัง ฯ


...ณ คะนึง...

ผู้แสดงความคิดเห็น ณ คะนึง วันที่ตอบ 2014-10-16 00:39:00



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.