ReadyPlanet.com


ส่งร้อยกรองประกวดประจำเดือน "กันยายน 2553" ได้กระทู้นี้


(สำหรับผู้ที่ส่งทางเว็บบอร์ด) ส่งได้ทุกระดับการประกวด
- แจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ให้ครบถ้วน
- แจ้งแก้ไขได้ในกระทู้นี้ โดยระบุความคิดเห็นและจุดที่ต้องการแก้ไข
- ส่งขึ้นเว็บบอร์ดเป็นไฟล์ text ธรรมดาเพื่อป้องกันข้อความเพี้ยน ไม่ต้องตกแต่ง

(สำหรับผู้ต้องการส่งทางอีเมล ส่งได้ที่):  info_thaipoet@yahoo.com
- แจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ให้ครบถ้วน

( ขอความกรุณาส่งช่องทางใดทางหนึ่งเท่านั้นเพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำของข้อมูล )

หัวข้อการประกวดประจำเดือนกันยายน (16 ก.ย.-15 ต.ค.53 ประกาศผล 31 ต.ค. 53)
- ระดับมัธยมศึกษาต้น : เยาว์
- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย : เขลา
- ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป :
ทึ่ง

อ่านรายละเอียดร้อยกรองออนไลน์ครั้งที่4 พ.ศ. 2553 ได้ที่นี่ คลิก...

 

ขอความกรุณางดการออกความเห็นในกระทู้ส่งงานครับ
ทีมงาน...



ผู้ตั้งกระทู้ webmaster :: วันที่ลงประกาศ 2010-09-16 00:16:15


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2109926)

ทึ่ง

 

                                                            ทึ่งในประเทศนี้                               ตรงไหน

                                             เป็นประชาธิปไตย                                        แบบอ้าง

                                            หาสามัคคีไป                                                  ทุกที่   แม่เฮย

                                            ยิ้มสยามใครสร้าง                                        แสยะยิ้มใดกัน

                                                          ทึ่งสีสันส่อป้าย                                แปรงสี

                                            ทาทาบอาบฤดี                                              ทั่วด้าว

                                            ยิ่งรุ้งยิ่งมณี                                                   มานะ    ยิ่งแฮ

                                            หนึ่งก่ออีกหนึ่งกร้าว                                   เก่งสร้างกระแส

                                                          ทึ่งแท้ประเทศล้วน                         รวมศาสน์

                                            รวมเผ่ารวมพันธุ์ชาติ                                 ทุกชั้น

                                            จงรักภักดีราช                                              จิตร่วม

                                             รวมอยู่เป็นไทยนั้น                                     เนิ่นนี้อย่างไร

                                                          ทึ่งในประเทศนี้                               ตรงไหน

                                             รู้รักจักอภัย                                                  พลาดพลั้ง

                                             นิรโทษสงสัย                                                สุจริต  นาพ่อ

                                             ปากบอกปรองดองตั้ง                               แต่นี้ยังงง

                                                           ทึ่งตรงยังอยุ่ได้                            นมนาน

                                             ยอมจริตจิตเบิกบาน                                 ยิ่งแล้ว

                                             ยอมทนมหาศาล                                        สงบ

                                             ยอมสยบย่อมแคล้ว                                  คลาดร้ายกลายดี

                                                             วาดกวีว่าทึ่งแท้                          แก่ใจ

                                             เป็นแบบเป็นแผนไทย                              สุดถึ้ง

                                             ยากที่ประเทศใด                                       เลียนแบบ  แม่เฮย

                                             มิใช่ไทยไม่ซึ้ง                                          สุดซึ้งถึงทรวง

                                                                                                       ติยะ  เชียงใหม่

 

(นายขัตติยะ  ไวยกุล  ๒๙ หมู่ ๔ ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ๕๐๒๓๐)     

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ติยะ เชียงใหม่ (vaiyakool-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-17 09:23:14


ความคิดเห็นที่ 2 (2112591)

ควรขาดเขลา

 

          เมื่อยังเล็กเด็กน้อยด้อยความคิด

ประกอบผิดถูกบ้างตามประสา

เมื่อเติบใหญ่เริ่มรู้คิดจิตปัญญา

แล้วจะมามัวเมาเขลาอย่างไร

          อันความเขลาเขาว่าคือไม่รู้

ต้องมีครูสอนสั่งปลูกฝังให้

จึงจะเป็นผู้ขาดเขลาบรรเทาใจ

ให้รู้ได้แจ้งจิตคิดปัญญา

          ประดุจเราเหล่านักเรียนเพียรฝึกฝน

สร้างตัวตนเป็นคนมีคุณค่า

มีคุณครูอบรมบ่มจรรยา

มีราคาดุจมณีเจียระไน

          อันโบราณว่าไว้ในบึงกว้าง

แดดกระจ่างบัวบานก้านไสว

บนใบบัวมีกบกระโดดไว

หาเลยได้ลิ้มชิมรสปทุมมา

          แต่ภุมมรร่อนบินผินเวหน

ชื่นกมลกลั้วเคล้ารสนาสา

ดุจมาพบของดีด้วยปัญญา

ที่เพียรหามาให้ใส่ท้องตน

          แม้นเจ้ากบอาศัยใกล้บัวแก้ว

กับคลาดแคล้วมิอาจเอื้อมน่าแปลกล้น

เพราะโง่เขลาเบาปัญญาพาอับจน

เกิดเป็นคนอย่าเป็นเช่นนั้นเลย

           จงอุตส่าห์หาความรู้มาสู่ใส่

อย่าปล่อยให้กาลผันวันเปลี่ยนเฉย

เร่งเรียนรู้สิ่งใหม่ที่ไม่เคย

และละเลยความชั่วหมองมัวใจ

            ใช้ปัญญาพาสติเป็นที่ตั้ง

อย่าได้หวังวาสนานำพาให้

จงอย่าเขลาหลงอารมณ์ระทมใจ

ควบคุมได้คือฉลาดปราชญ์อารมณ์

           คนที่เขลาที่สุดในโลกนี้

คือคนที่คิดว่าเก่งหาใครสม

แต่คนที่เราควรจะชื่นชม

คือคนก้มรับว่าเราเบาปัญญา

           จงรีบเร่งนำธรรมนำความคิด

เป็นชีวิตน่าชื่นชมสมคุณค่า

มีความรู้ประดับตนล้นกายา

ดีเสียกว่าพร้อมเพชรพลอยนับร้อยเอย.

 

             วิจิตร พิสดาร   นายชยพล  กล่ำปลี

 

 นักเรียนชั้นม.4 โรงเรียนหอวัง

 67/20 ม.บางใหญ่ เฟื่องฟ้า ซ.1 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี  11140

 0847173059  0832633397

 wondermind@hotmail.co.th

ผู้แสดงความคิดเห็น วิจิตร พิสดาร (wondermind-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2010-09-25 15:51:33


ความคิดเห็นที่ 3 (2112595)

อยากทราบว่า 1 คนส่งได้กี่ สำนวนครับ โปรดตอบด่วน

ผู้แสดงความคิดเห็น ชยพล (wondermind-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2010-09-25 16:00:47


ความคิดเห็นที่ 4 (2112654)

ทึ่ง

                                                ฝีมือคนทึ่งแท้                        อัศจรรย์   จริงแฮ

                                    เป็นเอกอเนกอนันต์                             เดชสร้าง

                                    พลังสมองสิ่งสร้างสรรค์                     เหลือที่   กล่าวแล

                                    สืบโสตถิ์จรัสคุณอ้าง                          อิ่มก้องจักรวาล

                                                ทุกสถานแลเลิศล้ำ                กำจร

                                    สูงตึกเป็นนาคร                                   ก่องแก้ว

                                    ยุคไฮเทคแน่นอน                                เจิดประจักษ์   แจ้งนา

                                    เลิศสื่อออนไลน์แล้ว                            มากด้วยกลไก

                                                ไวอินเทอร์เน็ตรอบรู้             สรรพางค์

                                    ทุกอย่างเหมือนจับวาง                         กอดใกล้

                                    นอก-ในโลกมีทาง                               ไปสู่   กันเอย

                                    จรวดดาวเทียมใช้                                รุ่งฟ้าผลงาน

                                                การแพทย์เจริญรุดหน้า         พัฒนา

                                    สับเปลี่ยนอวัยวะพา                            รอดม้วย

                                    ยอดมนุษย์ก่อปัญญา                            ฟูเฟื่อง   จริงแฮ

                                    โดดเด่นตะลึงด้วย                               เปี่ยมปลื้มในคน

                                                ยลวัตถุเกินกล่าวถ้อย            เกริกไกร

                                    สร้างชื่อลือกระฉ่อนไป                       ทั่วหล้า

                                    ยลจิตต่ำเกินใคร                                  กำหนด   ได้ฤา

                                    ศีลศาสน์ขาดพัฒน์จ้า                          แจ่มด้วยทิพย์คุณ

                                                ล้านบุญกอปรก่อเกื้อ             สุขทวี

                                    วอนตระหนักสามัคคี                          แผ่ถ้วน

                                    คุณธรรมส่งเสริมชี-                             วิตผ่อง   เสมอเฮย

                                    เป็นหนึ่งพิศุทธ์พิเศษล้วน                    ดับร้อนสุขเกษม

                                                            วันชัย  ตั้งทรงจิตร

        100 ตลาดใหม่ ถนนอนุกูล  อ.กบินทร์บุรี   จ.ปราจีนบุรี 25110   โทร 037-281379

                                                            มือถือ 089-5223935                                       

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นายวันชัย ตั้งทรงจิตร (Wan_t-at-thaimail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-25 19:57:01


ความคิดเห็นที่ 5 (2112753)

                                                                         เขลาคือใคร

                 เกิดมาแล้วเป็นมนุษย์สุดประเสริฐ

ถือกำเนิดเฉิดฉายในโลกกว้าง

แต่ละคนแต่ละจิตแต่ละทาง

เกิดมาอย่างไม่เหมือนกันพลันเข้าใจ

                บ้างเกิดมาฉลาดเหลือเก่งเหลือล้ำ

บ้างต้อยต่ำด้อยปัญญาหามิได้

แต่หากเรารู้ว่า "เขลาคือใคร"

ย่อมแก้ไขข้อกังขาพาสุขกัน

                หากเราเชื่อคำนินทากล่าวว่าร้าย

จากหญิงชายฉอเลาะเสนาะขัน

หากเราโกรธไร้เหตุผลหูออกควัน

สิ่งเหล่านั้นคือโง่เขลาเศร้าอารมณ์

               หากพูดจาขาดสติมิประกอบ

ถูกผิดชอบมิใส่ใจให้เหมาะสม

ไร้ไหวพริบปฏิภาณพาทุกข์ตรม

คงเหมาะสมคำว่าเขลาเบาปัญญา

               หากเราคิดทำสิ่งชั่วมัวหมองจิต

ไม่ใคร่คิดก่อนทำคงไร้ค่า

สร้างสิ่งชั่วมัวทำเลวเสียเวลา

เห็นยิ่งกว่าคำว่าเขลาเราเข้าใจ

               หากเกิดมาเป็นมนุษย์สุดประเสริฐ

พร้อมธรรมเลิศชี้ทางสว่างไสว

แต่กลับปลีกหลีกหนีหายไม่สนใจ

เรียกว่าไร้ปัญญาพาควรคิด

               เป็นคนมีสิ่งดีที่ล้ำค่า

ยิ่งดารามณีแววแพรววิจิตร

ยิ่งกว่าปวงเทวามาเนรมิต

แต่มิคิดจิตใส่ใจใคร่เศร้าจริง

               อีกคุยโวโอ้ว่าตนคนฉลาด

ว่าเปรื่องปราดเกินกว่าใครในทุกสิ่ง

แต่แท้แล้วเขาคือคน"เขลา"ตัวจริง

ที่มิทิ้งโมหะหลงงุนงงใจ

               รู้จัก"เขลา"เขาเป็นใครควรใคร่คิด

ธำรงจิตคิดถูกทางพบทางได้

อันความเขลาในใจจินต์ก็สิ้นไป

ปัญญาไซร้ตามมาค่าอนันต์

               จึงจะสมเป็นมนุษย์สุดประเสริฐ

ปัญญาเลิศพร้อมค่ากว่าใครนั่น

แล้วรู้ว่าความเขลาคือใครกัน

โอ้เธอนั้นรู้จัก "เขลา" เข้าใจเอย

 

             

                 วิจิตร พิสดาร   นายชยพล  กล่ำปลี

 นักเรียนชั้นม.4 โรงเรียนหอวัง

 67/20 ม.บางใหญ่ เฟื่องฟ้า ซ.1 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี  11140

 0847173059  0832633397

 wondermind@hotmail.co.th

ผู้แสดงความคิดเห็น วิจิตร พิสดาร (wondermind-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2010-09-26 08:30:31


ความคิดเห็นที่ 6 (2113329)

 

เขลา

ลึกลงไปในจิตมืดมิดหมอง                        คือสีของความจนอันหม่นเศร้า

คล้ายโลกสิ้นแสงแผ่มาแลเงา                 จิตจึงเขลาเคว้งคว้างอย่างเลื่อนลอย

จบชั้นเรียนประถมสี่ที่บ้านนอก                จึงจนตรอกแต่ไม่จนใจถอย

สู้ปากกัดตีนถีบบีบมือน้อย                       ดิ้นรนไม่รอคอย...เวทนา

แม้รำลึกก็รันทดและหดหู่                          ผ่านชีวิตต่อสู้อย่างรู้ค่า

เพื่อผ่านร้อนและผ่อนหนาวเพียงผ่าวตา  สอนชีวาไว้เพียงความเที่ยงตรง

ไม่รู้เล่ห์กลลวงจึงกลวงเปล่า                       ชีวิตเขลาไร้ค่ากว่าฝุ่นผง

ถ้อยธุลีน้อยน้อยจึงลอยลง                          อยู่ใต้กรงต่างกรอบที่ครอบตัว

มีบ้างไหมปัญญาราคาย่อม                        จักอดออมซื้อไว้ใช้โงหัว

อยากจะเป็นคนใหม่ใช่ควายวัว                   กระทืบรั้วเกรอะกรังให้พังพับ

ถึงจะเขลาแต่ใจไม่เคยขลาด                       เกรงอำนาจอิทธิพลจนแตกดับ

แม้แห้งผากเนื้อใจไม่แคบคับ                       ถึงตกอับแต่ก็สู้ไม่รู้วาย

คนฉลาดเรามิรู้อยู่ไหนบ้าง                         เพราะอยู่อย่างโง่เขลาทุกเช้าสาย

ไม่มีหรอกแสงสีที่พร่างพราย                       มีก็แต่กลิ่นอายคุณธรรม...

นายภาสกร รัตนพัลลภ

ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5/3 โรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง จังหวัด ปราจีนบุรี

ผู้แสดงความคิดเห็น ภาสกร วันที่ตอบ 2010-09-28 07:59:31


ความคิดเห็นที่ 7 (2113761)

                                                           เกิดเป็นไทยอย่าให้ใครว่าเราเขลา

              ครั้งกรุงเก่าเล่าขานตำนานศึก

อึกทึกครึกโครมโหมประหาญ

เสียงฝีดาบฉาบฟันประจัญบาน

เลือดเดือดดาลแดงทั่วถิ่นแผ่นดินไทย

             ล่วงเลยกาลวันมหาวิปโยค

พาทุกข์โศกเศร้าทรวงร่วงรินไห้

พฤษภาทมิฬผ่านสิ้นไป

ยังฝากไว้ความบอบช้ำย้ำวันนี้ 

                 แต่เหตุการณ์ผ่านมาน่าฉงน

ไยผู้คนทุกหนไทยใส่เสื้อสี

แบ่งแยกกันหันหน้าหายไม่ปรานี

สามัคคีที่เคยสร้างลางเลือนลง

             จากทั่วทิศทุกถิ่นไทยไหลท่วมท้น

พลังคนพลังคิดจิตลุ่มหลง

หวังประชาธิปไตยไทยยืนยง

จึงดำรงด้วยความหวังพลังใจ

             ไม่ร่วมมือร่วมฝันร่วมกันคิด

ใช้พลังทางผิดจิตหมองไหม้

จับมือกันหันหน้าประชาไทย

อย่าให้ใครใคร่หมิ่นแผ่นดินทอง

             "เกิดเป็นไทยอย่าให้ใครว่าเราเขลา"

จงหยิบเอาประวัติศาสตร์ชาติไทยผอง

เป็นบทเรียนล้ำค่ามาปรองดอง

เพื่อพี่น้องไทยทุกคนพ้นเวรกรรม.

  วิจิตร พิสดาร

นายชยพล กล่ำปลี  ม.4 โรงเรียนหอวัง

67/20   ม.บางใหญ่ซิตี้   เฟื่องฟ้า ซ.1  ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่  จ.นนทบุรี 11140

0847173059 , 0832633397

wondermind@hotmail.co.th

   

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วิจิตร พิสดาร (wondermind-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2010-09-29 14:34:41


ความคิดเห็นที่ 8 (2114587)

เขลา

สองมือกร้านผ่านวิถีสู้ชีวิต                   ไตร่ตรองคิดเสริมสร้างอย่างรู้ค่า

ประสบการณ์ปรับสรรค์เป็นปัญญา  ถ่ายทอดมาหลายรุ่นร่มบุญไทย

เปิดตำราลำนำธรรมชาติ                     บรรจุศาสตร์ยังชีพรอดตลอดสมัย

วิถีธรรม...เสรี...วิถีชัย                            ฝังแน่นในประวัติรัฐขจร

คือเลิศล้ำตำนานการสร้างชาติ           ร่างโดยปราชญ์ปางบรรพ์ผ่านคำสอน

ฉลุลักษณ์ถักสายทอลายซ้อน             อรชรเอกลักษณ์ตำหนักไทย

คำกล่าวขานภูมิปัญญาเลอค่าศิลป์   สยามถิ่นงามถ้วนล้วนขานไข

งามรอยยิ้มแย้มย้ำรอยน้ำใจ               ทุกสิ่งได้สืบสานมานานนม

อนิจจา! มองไปไทยวันนี้                      เลือนภาพที่...ความหลังเคยสั่งสม

โมหะจิตหยาบช้า...ค่านิยม                  ที่ควรชมจึงชอกช้ำอยู่ตำตา

ภูมิความคิดคนรุ่นเก่าเราทอดทิ้ง         เชื่อตามสิ่งที่เมืองนอกบอกล้ำค่า

เชื่อทุกสิ่งเฉกสวรรค์สื่อบัญชา            เชื่อเพราะว่าเขาเจริญเกินบ้านเรา

เรามิได้พึ่งตนแล้วหนนี้                          เพราะอวดดีอวดโก้แต่...โง่เขลา

ฝรั่งมันหมายหัวมามัวเมา                    ให้ลืมเงาลืมตนนะคนไทย

เพื่อที่จะไม่สิ้นแผ่นดินก่อน                   ฟื้นคำสอนอย่าให้สิ้นแผ่นดินใหม่

“มาตุคาม”เฉิดฉายไม่อายใคร             รักษาไว้คู่แผ่นดินก่อนสิ้นลม     

 

นายภาสกร รัตนพัลลภ ชั้น ม.5/3 รร.ปราจิณราษฎรอำรุง  จ.ปราจีนบุรี          

ผู้แสดงความคิดเห็น ภาสกร วันที่ตอบ 2010-10-02 10:02:27


ความคิดเห็นที่ 9 (2115554)

ภาษาที่น่าทึ่ง

 

๑. ภาษาคือสื่อใช้                       แทนใจ  ถึงใจ

สะท้อนส่องความใน                    ล่วงรู้

ต่างถิ่นแตกต่างไป                       บอกบ่ง  ชาติพันธุ์

ยืนหยัดยงอยู่สู่                           เนื่องด้วย  ภาษา

 

๒. ชนชาติไทยร่วมสร้าง               สมญา

นับเนื่องนานเนานา                     เนิ่นแล้ว

อ่านเขียนพูดฟังพา                      คุณค่า  คุณคำ

เสน่ห์แพรวพราวแพร้ว                 เพริศพริ้ง  พิสมัย

 

๓. วรรณยุกต์เปรียบดั่งโน้ต           ดนตรี

ทำนองต่ำสูงตี                            ไล่ได้

ดีดี่ดี้ดี๊ดี๋                                     ผันเล่น  เป็นเพลง

บรรเลงบรรเจิดไซร้                       ใส่สร้าง  สรรค์สวย

 

๔. ควบกล้ำยิ่งยวดย้ำ                  อักษรา

ควรความคร่ำเคร่งครา                 เครื่องคล้อง

ปราดเปรื่องเปล่งปลั่งปรา-            รมภ์รื่น-รมย์เรือง

พลาดเพลี่ยงพล้ำพร่องพร้อง        กร่อนเกลี้ยง  ความหมาย

 

๕. คำพ้องรูปร่วมพ้อง                  เสียงพา  ฉงนงัน

คือความเหมือนอีกครา                 ขัดไขว้

กา งา ตา ชา ลา คำหนึ่ง  หลายความ

มวนมวลมั่นหมั่นไหม้                   ไม่รู้  จากเสียง

 

๖. กาพย์โคลงฉันท์ร่ายร้อย          กรองกช  งดงาม

ละเอียดลออลิ้มรส                      อิ่มถ้อย

สัมผัสเชื่อมจับจด                       จับจ่อ  จับจิต

ชนชื่นชมแช่มช้อย                       ไป่แล้ง  กวีสยาม

๗. อื่นเอ่ยอีกอาจอึ้ง                     อนันต์นา

ภาษาไทยเปี่ยมคุณา                    กว่าอ้าง

สมบัติยิ่งพสุธา                           ผองเผ่า  พงศ์ไทย

ริเริ่มรักษ์สรรค์สร้าง                     เชิดชั้น  ชนสยาม

 

จุฑามาศ  ตั้งจิตทวีชัย

21  ถนนพุทธมณฑลสาย 1  แขวงบางด้วน  เขตภาษีเจริญ  กรุงเทพฯ  10160

โทร. 08 1558 0868

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จุฑามาศ วันที่ตอบ 2010-10-05 08:36:28


ความคิดเห็นที่ 10 (2115717)

อย่าหลงเขลา

              เป็นคนจนตนด้อยน้อยทรัพย์สิน

อยู่ติดดินกินข้าวแกงเรี่ยวแรงเหลือ

ใช้กำลังทั้งชีวิตคิดจุนเจือ

เพื่อกอบเกื้อสร้างชาติตนเพื่อคนไทย

              เป็นข้าบาทมิเคยคิดจิตหักหลัง

โกยเงินยังกระเป๋าตนคนชั่วไซร้

แม้สลึงพึงกระทำย้ำเงินใคร

ภาษีได้ให้มาอยู่อย่าดูแคลน

              จงทำงานสนองคุณเกื้อหนุนชาติ

อย่าบังอาจเอื้อมคิดจิตหวงแหน

ธำรงไว้ประเทศชาติมาดเมืองแมน

ธำรงแผ่นผืนดินไทยให้เนิ่นนาน

             อาจคิดว่าโกงเงินรัฐชัดฉลาด

ช่างเก่งกาจวางแผนหวังสุขศานต์

บนกองเงินเหงื่อราษฎร์ร่วมเจือจาน

เพื่อหวังวานวันหน้าข้าสบาย

             แสนโง่เขลาเจ้าด้อยน้อยความคิด

ปัญญาปิดชี้ทางลางเลือนหาย

เมื่อนำเงินผองล้วนมวลหญิงชาย

ก็จะพาลฉิบหายไทยทุกคน

             ฉ้อราษฎร์ชังบังหลวงห่วงตนสุข

ย่อมเกิดทุกข์ทุกทั่วคนคนทุกหน

แผ่นดินไทยต้องเดือดดาลพาลอับจน

เพราะกลุ่มคนโง่เขลาเบาปัญญา

              คิดแต่ได้ไร้สติตริตรองคิด

ถึงชีวิตคนไทยในภายหน้า

ทั้งลูกหลานของเราเล่าพารา

ย่อมนำพาสู่ตกต่ำช้ำฤดี

              คิดเถิดคิดคิดคิดใหม่คิดสร้างสรรค์

ร่วมมือกันสร้างชาติสร้างศักดิ์ศรี

ไม่คิดโกงชาติตนพ้นราคี

เกิดสิ่งดีต่อทุกคนสู่คนไทย

               อย่าได้เขลาเบาจิตคิดแต่ตัว

พาหมองมัวหมดทางสว่างไสว

ประเทศชาติจะอยู่ในมือใคร

ถ้ามิใช่มือเราทั้งเผ่าพันธุ์

 

วิจิตร พิสดาร

นายชยพล กล่ำปลี  ม.4 โรงเรียนหอวัง

67/20   ม.บางใหญ่ซิตี้   เฟื่องฟ้า ซ.1  ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่  จ.นนทบุรี 11140

0847173059 , 0832633397

wondermind@hotmail.co.th

ผู้แสดงความคิดเห็น วิจิตร พิสดาร (wondermind-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2010-10-05 16:51:25


ความคิดเห็นที่ 11 (2116154)

สวัสดีค่ะ  ดิฉันขอแก้ไขความเห็นที่ 10 ค่ะ

บทที่ ๑. วรรคที่ว่า "ยืนหยัดยงอยู่สู่"   ขอแก้คำว่า "สู่" เป็นคำว่า "สู้" ค่ะ  แก้จากไม้เอกเป็นไม้โท 

ขอบคุณมากค่ะ

จุฑามาศ

ผู้แสดงความคิดเห็น จุฑามาศ วันที่ตอบ 2010-10-06 17:08:40


ความคิดเห็นที่ 12 (2117464)

 

เสียงร้องของเด็กทารก "

อุแว้ ! แม่อยู่ไหน     หนูร้องไห้อยู่ในป่า

โดดเดี่ยวเปลี่ยวกายา     น้ำตานองเต็มห้องใจ

ชีวิตอนิจจัง     แสนทุกขังสังขารใหม่

หนูทำกรรมอะไร     จึงได้รับกับผลกรรม

เจ็บท้อทรมาน     นอนดงดานในกาลค่ำ

มืดมิดจิตระส่ำ     กำสรวลเศร้ากำสรดทรวง

เวลาฟ้ารุ่งสาง     เหลือเพียงร่างมล้างล่วง

ชีวินสิ้นแดดวง     สู่สรวงชั้นนิรันดร

ประกาศพาดหัวข่าว     ถึงเรื่องราวอุทาหรณ์

ทารกผู้ม้วยมรณ์     นอนอนาถขาดลมปราณ

มวลชนก่นประณาม     แม่ใจทรามแม่ใจมาร

ทิ้งลูกผู้น่าสงสาร     ประจารทั่วชั่วกัปกัลป์

เตือนใจให้ข้อคิด     ทุกชีวิตล้วนสำคัญ

โปรดอย่าฆ่าชีวัน     มหันต์โทษโหดทารุณ

ลูกน้อยกลอยใจแม่     หวังเพียงแต่ความอบอุ่น

จากแม่ผู้เจือจุน     เป็นบุญหัวติดตัวตน

จงเลี้ยงลูกด้วยใจ     ส่งเสริมให้ใฝ่กุศล

เติบโตเป็นเยาวชน     เป็นคนกล้าพัฒนาเมือง

 

ประพันธ์โดย.....

                      นายแมน     คล้ายสุวรรณ  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓  โร

งเรียนสุวรรณารามวิทยาคม  โทรศัพท์  ๐๘๗ - ๕๑๓๑๙๖๙  อีเมลล์  manpowerteen@hotmail.com

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ซุปเปอร์ (manpowerteen-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-10-10 20:03:42


ความคิดเห็นที่ 13 (2119032)


มองให้ถึง...จึงทึ่งเป็น

 

      บรรดาสารสื่อถ้อย                               แถลงความ

เห็นอยู่ทุกโมงยาม                                       ยากแก้

คืออวดแต่สิ่งทราม                                      ในสื่อ

ว่าทึ่งถึงเนื้อแท้                                            ที่แท้โสมม

        สังคมจึงต่ำต้อย                                    ติดดิน

คนกอปรสุขใช่ยิน                                       ข่าวรู้

เรื่อง ทึ่ม จึ่งโบยบิน                                 บนน่า

 

[*] หนึ่งนอ

เผยจิตด้านลบผู้                                            ผลิตเร้นความดี

        มีตานอกอยู่เนื้อ                                    สรรพางค์

ไยบ่เห็นทิศทาง                                           ทึ่งถ้วน

ตาในยิ่งเลือนราง                                        สรรพสิ่ง

หลอมนรกแลล้วน                                       หลอกรู้เลวลวง

        ผลพวงอาจยกชี้                                    พิจารณ์

โจรอุบาทว์ทำการ                                        ก่อร้าย

 

วางระเบิดรุกราน                                         ยิงจ่อ หัวนา

กลับประโคมข่าวคล้าย                               ชอบด้วยวิธี

        สีใจในอกซ้าย                                      ของเรา

ยังแจ่มสีใดเอา                                              ออกอ้าง

ควรฤๅแบ่งใจเบา                                         บริสุทธิ์

ยึดติดแต่บาปสร้าง                                       สื่อร้ายรุนแรง

        แสงธรรมนำสุขแท้                             บรรเทือง

ความสัตย์สืบศักดิ์เรือง                                รุ่งแล้ว

มิตรแท้ผูกใจเมือง                                        มากสุข

คือสิ่งควรทึ่งแผ้ว                                         พิศพร้อมพาเจริญ

        หมายเดินนำสื่อให้                              เห็นคุณ

หงายกะลาเป็นบุญ                                      เบิกหล้า

หยุดเสนอเรื่องทารุณ                                  หฤโหด

ปลุกจิตสำนึกกล้า                                        กลบร้อนตามกระแส

        ควรแลธรรมะถ้วน                              ทุกทาง

วิจักษณ์สิ่งอำพราง                                      เพื่อรู้

 

ตาใน นอกจักจาง                                     ทุจริต

 

จึง ทึ่ง สมเจตน์ผู้                                      พิศแท้ทางควร...

พุ่มพฤกษ์

 

นายวิษณุ  พุ่มสว่าง  โรงเรียนกระทุ่มแพ้ววิทยา

อ.บ้านสร้าง  จ.ปราจีนบุรี ๒๕๑๕๐

 

 



[*] คำเอกโทษ -หน้า

 

ผู้แสดงความคิดเห็น sanupoet วันที่ตอบ 2010-10-14 12:04:15


ความคิดเห็นที่ 14 (2119034)

มองให้ถึง...จึงทึ่งเป็น

 

      บรรดาสารสื่อถ้อย                               แถลงความ

เห็นอยู่ทุกโมงยาม                                       ยากแก้

คืออวดแต่สิ่งทราม                                      ในสื่อ

ว่าทึ่งถึงเนื้อแท้                                            ที่แท้โสมม

        สังคมจึงต่ำต้อย                                    ติดดิน

คนกอปรสุขใช่ยิน                                       ข่าวรู้

เรื่อง ทึ่ม จึ่งโบยบิน                                 บนน่า[*] หนึ่งนอ

เผยจิตด้านลบผู้                                            ผลิตเร้นความดี

        มีตานอกอยู่เนื้อ                                    สรรพางค์

ไยบ่เห็นทิศทาง                                           ทึ่งถ้วน

ตาในยิ่งเลือนราง                                        สรรพสิ่ง

หลอมนรกแลล้วน                                       หลอกรู้เลวลวง

        ผลพวงอาจยกชี้                                    พิจารณ์

โจรอุบาทว์ทำการ                                        ก่อร้าย

วางระเบิดรุกราน                                         ยิงจ่อ หัวนา

กลับประโคมข่าวคล้าย                               ชอบด้วยวิธี

        สีใจในอกซ้าย                                      ของเรา

ยังแจ่มสีใดเอา                                              ออกอ้าง

ควรฤๅแบ่งใจเบา                                         บริสุทธิ์

ยึดติดแต่บาปสร้าง                                       สื่อร้ายรุนแรง

        แสงธรรมนำสุขแท้                             บรรเทือง

ความสัตย์สืบศักดิ์เรือง                                รุ่งแล้ว

มิตรแท้ผูกใจเมือง                                        มากสุข

คือสิ่งควรทึ่งแผ้ว                                         พิศพร้อมพาเจริญ

        หมายเดินนำสื่อให้                              เห็นคุณ

หงายกะลาเป็นบุญ                                      เบิกหล้า

หยุดเสนอเรื่องทารุณ                                  หฤโหด

ปลุกจิตสำนึกกล้า                                        กลบร้อนตามกระแส

        ควรแลธรรมะถ้วน                              ทุกทาง

วิจักษณ์สิ่งอำพราง                                      เพื่อรู้

ตาใน นอกจักจาง                                     ทุจริต

จึง ทึ่ง สมเจตน์ผู้                                      พิศแท้ทางควร...

 

พุ่มพฤกษ์

 

นายวิษณุ  พุ่มสว่าง  โรงเรียนกระทุ่มแพ้ววิทยา

อ.บ้านสร้าง  จ.ปราจีนบุรี ๒๕๑๕๐

 



[*] คำเอกโทษ -หน้า

ผู้แสดงความคิดเห็น ซานุโพเอ็ท วันที่ตอบ 2010-10-14 12:07:55


ความคิดเห็นที่ 15 (2119046)

 

เยาว์

 

เมื่อพ้นจากท้องแม่        ต้องดูแลในชีวา

เจริญเติบโตมา                            พึงจดจารความเป็นจริง

            ผู้ใหญ่ได้สั่งสอน             ย้ำสังวรคุณค่ายิ่ง

เรียนรู้สู่ทุกสิ่ง                             เพื่อชีวีที่มั่นคง

            การใดทำไม่ผิด                สร้างความคิดที่ประสงค์

ชีวันนั้นธำรง                               เดินทางผิดอย่างแฝงภัย

            เด็กไม่พูดโกหก               จึงหยิบยกมาอ้างได้

ทำผิดคิดเรื่อยไป                        เป็นผู้ใหญ่จึงไม่ดี

            สั่งสมแต่ความผิด          ก่อวิกฤตจิตหมองศรี

หนทางสร้างชีวี                          ต้องจบลงคงผิดทาง

            หากคิดกลับตัวแล้ว       จักเพริศแพร้วธรรมกระจ่าง

ความชั่วอาจเลือนราง               สร้างความดีสู่ชีวัน

            เยาว์วัยได้ตรึกตรอง       ตอบสนองครองสุขสันต์

ความดีสารพัน                            ควรกระทำย้ำวันวาร

            เด็กน้อยจึงคิดได้             ความผิดใดไม่สืบสาน

ความดีที่จดจาร                          เคลื่อนความเขลาพ้นเยาว์วัย

 

 

              ด.ช. ธวัชชัย   หอมจันทร์  นักเรียนชั้น  ม.  ๓

โรงเรียนกระทุ่มแพ้ววิยา  อ.  บ้านสร้าง  จ.  ปราจีนบุรี

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธวัชชัย วันที่ตอบ 2010-10-14 12:48:31


ความคิดเห็นที่ 16 (2119049)

เยาว์

 

เมื่อพ้นจากท้องแม่        ต้องดูแลในชีวา

เจริญเติบโตมา                            พึงจดจารความเป็นจริง

            ผู้ใหญ่ได้สั่งสอน             ย้ำสังวรคุณค่ายิ่ง

เรียนรู้สู่ทุกสิ่ง                             เพื่อชีวีที่มั่นคง

            การใดทำไม่ผิด                สร้างความคิดที่ประสงค์

ชีวันนั้นธำรง                               เดินทางผิดอย่างแฝงภัย

            เด็กไม่พูดโกหก               จึงหยิบยกมาอ้างได้

ทำผิดคิดเรื่อยไป                          เป็นผู้ใหญ่จึงไม่ดี

            สั่งสมแต่ความผิด          ก่อวิกฤตจิตหมองศรี

หนทางสร้างชีวี                          ต้องจบลงคงผิดทาง

            หากคิดกลับตัวแล้ว       จักเพริศแพร้วธรรมกระจ่าง

ความชั่วอาจเลือนลาง               สร้างความดีสู่ชีวัน

            เยาว์วัยได้ตรึกตรอง       ตอบสนองครองสุขสันต์

ความดีสารพัน                            ควรกระทำย้ำวันวาร

            เด็กน้อยจึงคิดได้             ความผิดใดไม่สืบสาน

ความดีที่จดจาร                          เคลื่อนความเขลาพ้นเยาว์วัย

ผู้แสดงความคิดเห็น ธวัชชัย วันที่ตอบ 2010-10-14 12:52:52


ความคิดเห็นที่ 17 (2119113)

 

เยาว์

คือแสงแห่งชีวิต                           กระจิดริดกระจ้อยร่อย

บอบบางร่างนิดน้อย           ไร้เดียงสา...ตาแป๋วใส

เด็กน้อย...คือวันเก่า                      ผู้ใหญ่เล่าคือวันใหม่

ต่างกันตรงหัวใจ               ที่ทุกวัยมีคล้ายกัน

รอยยิ้มประพิมพ์ภาพ         ฉายรอยฉาบช่วงไฟฝัน

อุ่นฟ้าคล้ายตาวัน              โอบโลกให้อุ่นไมตรี

เยาว์วัยใสบริสุทธิ์              ง่ายถูกฉุดใส่ป้ายสี

ผู้ใหญ่ไร้ความดี               คอยก่อกรรมชักนำพา

ผ้าขาวจึงเปื้อนสี               เปื้อนราคี...ไม่มีค่า

โลกหมองแล้วสองตา        เห็นการฆ่าเป็นเรื่องดี

ฉายภาพบาปบริสุทธิ์          ไม่มีหยุดแม้นป่นปี้

รอยด่างกลางใจนี้             คือร้าวของเงาคน

ภาพแตกแยกเป็นเสี่ยง       มิใช่เพียงความปี้ป่น

แต่เศร้าเมื่อเงาตน             คือผู้ร้าย...วันสายเกิน

ด.ช. ธวัชชัย   หอมจันทร์  นักเรียนชั้น  ม. 

โรงเรียนกระทุ่มแพ้ววิยา  อ.  บ้านสร้าง  จ.  ปราจีนบุรี

ผู้แสดงความคิดเห็น ธวัชชัย วันที่ตอบ 2010-10-14 19:16:10


ความคิดเห็นที่ 18 (2119142)

ทึ่งการกระทำ

 

*เห็นมดแดงร่างน้อย          รวมพลัง
ต่างช่วยกันสร้างรัง             ใหญ่ด้วย
ใครมาแหย่มันชัง                เสียยิ่ง
กรูวิ่งมาแม้ม้วย                     ต่อสู้รักษา
*ผ่านมาเห็นหมู่ผึ้ง              บินวน
กลางกิ่งไม้เบื้องบน             ร่วมสร้าง
รวงรังห่วงกังวล                  เกาะกลุ่ม
ระวังศัตรูมล้าง                     ปกป้องจนตาย
* มีกายเล็กยิ่งแล้ว                อดทน
รวมกลุ่มสร้างรังตน            ทึ่งแท้
จอมปลวกใหญ่ใครยล        สนเท่ห์
เรือนร่างผู้สร้างแม้              เล็กน้อยรังโต
* สิงโตสัตว์ดุร้าย ยิ่งนัก
ยังพึ่งหนูต่ำศักดิ์                  ต่ำต้อย
เพราะติดบ่วงพรานดัก       รออยู่
ยังรอดเพราะหนูน้อย         ช่วยให้พ้นภัย
* แปลกหทัยทึ่งแท้              กระทำ
เหล่าสัตว์ทนตรากตำ          ต่อสู้
ปกป้องถิ่นประจำ                ทุกเมื่อ
รวมกลุ่มให้รับรู้                   ถิ่นนี้เฝ้าถนอม ๚
* ยินยอมหมายอยู่ด้วย         เผ่าพงศ์
จึงต่อสู้ยืนยง                         เพื่อต้าน
ศัตรูที่ทรนง                          มารุก – รานแฮ
สามัคคีแกร่งกร้าน               ปกป้องผองภัย ๚
 
อรุโณทัย
 
ผู้แสดงความคิดเห็น อรุโณทัย วันที่ตอบ 2010-10-14 21:07:01


ความคิดเห็นที่ 19 (2119295)

 

 

ศาลา นารี วิถี คงคา (ทึ่ง)
 
                                ความจริงคำเอ่ยอ้าง                             เอิกอวล
                                ทอทอดสมัยกำสรวล                           สุดซึ้ง
                                ปรากฏบทรัญจวน                               โจมจู่ ยุคนอ
                                ทึ่งบ่ทึ่งโลกทึ้ง                                    ถ่มน้ำลายหยัน
                                 ศาลา สรรพจน์ฟ้อง                         สาธารณ์
                                 ชนเยี่ยมเยือนหักหาญ                      จิตไห้
                                 สืบบ่อเกิดบริการ                               กำหนด
                                 ขอร่องรอยการใช้                              ชุ่มน้ำใจสนอง
                                 นารี ครองสวาทไว้                          วังใด  น้องเฮย
                                ฤายื่นเสน่หาไหว                               สวาทเหล้น
                                 เชิญชายร่วมเสพย์นัย                       รักเลศ
                                ทำเฉกของกลางเต้น                          ตื่นเต้าเอามัน
                                 วิถี หยันสยดเย้ย                                สยองธาร
                                 ต่างเที่ยวโลดแล่นหาญ                     โหดเหี้ยม
                                 แว้นแว้นวุ่นวายวาร                           วายวอด
                                 ต่างมารคต่างกรรมเสี้ยม                  โศกว้ากขากถุย
                                 คงคา ลุยเละล้น                เลวเหลว
                                 เดือดดุจเพลิงนรกเปลว                    ปลาบปล้น
                                 แปรภาพเปลี่ยนลักษณ์เลว               ลดค่า
                                 ใครปลอบเมื่อหลีกพ้น                     ปล่อยน้ำตาไหล
                                 ใครเห็นเป็นเครื่องใช้                       บำบัด
                                 สมอยากสมกำหนัด                          สุขเนื้อ
                                 โลกมีเพื่อผูกมัด                                ชาวโลก
                                 เสพย์เถิดอย่ายืดเยื้อ                           หวั่นหล้าโมโห
                                 โถโลกวันหนึ่งต้อง                           ตรมตรอม
                                 เมื่อมนุษย์มวลผ่ายผอม                    ดุหล้า    
                                 ใครกันจักออมชอม                           ชุบโลก
                                 น่าทึ่งหากคนกล้า                              เชือดเนื้อตนเสวย ฯ
                                                               
                                 พีรมิตร พึ่งโพธิ์
                                 โรงเรียนสะพือวิทยาคาร
                                 ตำบลสะพือ อำเภอตระการพืชผล
                                 จังหวัดอุบลราชธานี 34130
                                 โทรศัพท์ 073-377-1741
ผู้แสดงความคิดเห็น พีรมิตร (naimit-at-thaimail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-10-15 11:05:02


ความคิดเห็นที่ 20 (2119301)

 

ศาลา นารี วิถี คงคา (ทึ่ง)
 
                     ความจริงคำเอ่ยอ้าง                            เอิกอวล
                               ทอทอดสมัยกำสรวล                           สุดซึ้ง
                               ปรากฏบทรัญจวน                               โจมจู่ ยุคนอ
                               ทึ่งบ่ทึ่งโลกทึ้ง                                    ถ่มน้ำลายหยัน
                               ศาลา สรรพจน์ฟ้อง                         สาธารณ์
                               ชนเยี่ยมเยือนหักหาญ                      จิตไห้
                               สืบบ่อเกิดบริการ                              กำหนด
                               ขอร่องรอยการใช้                              ชุ่มน้ำใจสนอง
                               นารี ครองสวาทไว้                          วังใด  น้องเฮย
                               ฤายื่นเสน่หาไหว                               สวาทเหล้น
                                เชิญชายร่วมเสพย์นัย                       รักเลศ
                                ทำเฉกของกลางเต้น                          ตื่นเต้าเอามัน
                                วิถี หยันสยดเย้ย                                สยองธาร
                                ต่างเที่ยวโลดแล่นหาญ                     โหดเหี้ยม
                                แว้นแว้นวุ่นวายวาร                           วายวอด
                                ต่างมารคต่างกรรมเสี้ยม                  โศกว้ากขากถุย
                                คงคา ลุยเละล้น                เลวเหลว
                                เดือดดุจเพลิงนรกเปลว                    ปลาบปล้น
                                แปรภาพเปลี่ยนลักษณ์เลว               ลดค่า
                                ใครปลอบเมื่อหลีกพ้น                     ปล่อยน้ำตาไหล
                                ใครเห็นเป็นเครื่องใช้                       บำบัด
                                สมอยากสมกำหนัด                          สุขเนื้อ
                                โลกมีเพื่อผูกมัด                                ชาวโลก
                                เสพย์เถิดอย่ายืดเยื้อ                           หวั่นหล้าโมโห
                                โถโลกวันหนึ่งต้อง                           ตรมตรอม
                                เมื่อมนุษย์มวลผ่ายผอม                    ดุหล้า    
                                ใครกันจักออมชอม                           ชุบโลก
                                น่าทึ่งหากคนกล้า                              เชือดเนื้อตนเสวย ฯ
                                                               
                                 พีรมิตร พึ่งโพธิ์
                                 โรงเรียนสะพือวิทยาคาร
                                 ตำบลสะพือ อำเภอตระการพืชผล
                                 จังหวัดอุบลราชธานี 34130
                                 โทรศัพท์ 073-377-1741
ผู้แสดงความคิดเห็น พีรมิตร (ืnaimit-at-thaimail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-10-15 11:18:01


ความคิดเห็นที่ 21 (2119303)

                                                                                 เขลา

 

                                                                                ถึงจิตใจของมนุษย์สุดลึกล้ำ

มีเวรกรรมกล้ำกรายหมายเข่นฆ่า

เพราะตัวเราไร้สมองตรองปัญญา

จนชีวาแทบดับลับโลกันต์

                            ความเป็นคนควรถึงซึ่งสติ

สมาธิเป็นหนึ่งจักถึงฝัน

หากกิเลสครอบงำซ้ำชีวัน

คอยห่ำหั่นเหยียบย่ำย่อมนำภัย

                            ดั่งภาษิตบอกเรื่องราวเกิดฉาวโฉ่

เมื่อคนโง่ตกเป็นเหยื่อคนหัวใส

เขลาปัญญาจึงสังเวชพิษเลศนัย

สังคมไม่ยอมรับชีพอับจน

                            ชายสองคนเป็นเพื่อนซี้ที่สนิท

คนหนึ่งคิดเร่งศึกษาพาเพริศผล

เฝ้าร่ำเรียนเขียนอ่านสร้างงานตน

มีแต่คนนับถือล้วนลือนาม

                            เพื่อนอีกคนคิดหมายอบายมุข

มีแต่ทุกข์ในตนคนเหยียดหยาม

กระทำชั่วมั่วกิเลสเหตุเลวทราม

ทั้งเรื่องกามเหล้ายาต้องจาบัลย์

                            เมื่อถึงคราวเข้าทำงานเลี้ยงชีวิต

ควรรู้คิดทางปัญญาพาสุขสันต์

หากยังเขลาเบาความรู้สู่ตนนั้น

คิดไม่ทันคนหัวหมอล่อหลุมพราง !

 

นายภาณุเดช   สมคิด  นักเรียนชั้น  ม.  4

โรงเรียนกระทุ่มแพ้วิทยา   อ. บ้านสร้าง  จ.  ปราจีนบุรี

ผู้แสดงความคิดเห็น ภาณุเดช วันที่ตอบ 2010-10-15 11:19:33


ความคิดเห็นที่ 22 (2119307)

  เขลา

 

                                                                                ถึงจิตใจของมนุษย์สุดลึกล้ำ

มีเวรกรรมกล้ำกรายหมายเข่นฆ่า

เพราะตัวเราไร้สมองตรองปัญญา

จนชีวาแทบดับลับโลกันต์

                            ความเป็นคนควรถึงซึ่งสติ

สมาธิเป็นหนึ่งจักถึงฝัน

หากกิเลสครอบงำซ้ำชีวัน

คอยห่ำหั่นเหยียบย่ำย่อมนำภัย

                            ดั่งภาษิตบอกเรื่องราวเกิดฉาวโฉ่

เมื่อคนโง่ตกเป็นเหยื่อคนหัวใส

เขลาปัญญาจึงสังเวชพิษเลศนัย

สังคมไม่ยอมรับชีพอับจน

                            ชายสองคนเป็นเพื่อนซี้ที่สนิท

คนหนึ่งคิดเร่งศึกษาพาเพริศผล

เฝ้าร่ำเรียนเขียนอ่านสร้างงานตน

มีแต่คนนับถือล้วนลือนาม

                            เพื่อนอีกคนคิดหมายอบายมุข

มีแต่ทุกข์ในตนคนเหยียดหยาม

กระทำชั่วมั่วกิเลสเหตุเลวทราม

ทั้งเรื่องกามเหล้ายาต้องจาบัลย์

                            เมื่อถึงคราวเข้าทำงานเลี้ยงชีวิต

ควรรู้คิดทางปัญญาพาสุขสันต์

หากยังเขลาเบาความรู้สู่ตนนั้น

คิดไม่ทันคนหัวหมอล่อหลุมพราง !

 

              สำนวนใหม่ครับ

นายภาณุเดช   สมคิด  นักเรียนชั้น  ม.  4

โรงเรียนกระทุ่มแพ้ววิทยา   อ. บ้านสร้าง  จ.  ปราจีนบุรี

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภาณุเดช วันที่ตอบ 2010-10-15 11:24:32


ความคิดเห็นที่ 23 (2119313)

เยาว์

คือแสงแห่งชีวิต                           กระจิดริดกระจ้อยร่อย

บอบบางร่างนิดน้อย           ไร้เดียงสา...ตาแป๋วใส

เด็กน้อย...คือวันเก่า                      ผู้ใหญ่เล่าคือวันใหม่

ต่างกันตรงหัวใจ               ที่ทุกวัยมีคล้ายกัน

รอยยิ้มประพิมพ์ภาพ         ฉายรอยฉาบช่วงไฟฝัน

อุ่นฟ้าคล้ายตาวัน              โอบโลกให้อุ่นไมตรี

เยาว์วัยใสบริสุทธิ์              ง่ายถูกฉุดใส่ป้ายสี

ผู้ใหญ่ไร้ความดี               คอยก่อกรรมชักนำพา

ผ้าขาวจึงเปื้อนสี               เปื้อนราคี...ไม่มีค่า

โลกหมองแล้วสองตา        เห็นการฆ่าเป็นเรื่องดี

ฉายภาพบาปบริสุทธิ์          ไม่มีหยุดแม้นป่นปี้

รอยด่างกลางใจนี้             คือร้าวรานของเงาคน

ภาพแตกแยกเป็นเสี่ยง       มิใช่เพียงความปี้ป่น

แต่เศร้าเมื่อเงาตน             คือผู้ร้าย...วันสายเกิน

 

นาย ธวัชชัย   หอมจันทร์  นักเรียนชั้น  ม. 

โรงเรียนกระทุ่มแพ้ววิยา  อ.  บ้านสร้าง  จ.  ปราจีนบุรี


ผู้แสดงความคิดเห็น ธวัชชัย วันที่ตอบ 2010-10-15 11:29:07


ความคิดเห็นที่ 24 (2119380)

เขลา

คำว่าเขลาแปลได้คือ ไม่รู้                                   หนวกทั้งหูบอดทั้งตาจึงว่าเขลา

ลมหายใจ  แว่วเสียงเพียงแผ่วเบา                        ทุกค่ำเช้าดึกเย็นไม่เห็นอะไร

ตาเนื้อจับรับภาพจากภายนอก                             มิอาจบอก ลวงจริง ทุกสิ่งได้

สัมผัสภาพที่รับมาจากตาใน                                  คือหัวใจตีความตามเป็นจริง

โลกภายนอกกว้างไกลไร้สิ้นสุด                         โลกภายในใจมนุษย์นั้นแคบยิ่ง

โลภ โกรธ หลง เกลียด รัก หลบพักพิง            เวียนสร้างสิ่งมัวหมองครองจิตใจ

ทางสะอาดทางสว่างทางสงบ                           ย่อมหาพบหากมุ่งธรรมสำเร็จได้

ดับสาเหตุแห่งทุกข์ สุขข้างใน                         โลกกว้างใหญ่จะแคบแท้แค่กำมือ

เพื่อชีวิต-สังคม ร่มเย็นสุข                                     ดับไฟทุกข์ด้วยธรรมนำยึดถือ

เปิดจิตอันโง่เขลาเฝ้าฝึกปรือ                              รู้ตนคือรู้ทั้งหมด... กำหนดลม

สติมาปัญญาเกิดเลิศล้ำค่า                                      รู้ชีวาต้องทำคุณบุญสั่งสม

ดับความเขลาด้วย การรู้ คู่ควรชม                 บัวพ้นตม ช่อไสว ไม่เขลาเอย...

 

 

                                               

นายภาณุเดช   สมคิด  นักเรียนชั้น  ม.  4

โรงเรียนกระทุ่มแพ้ววิทยา   อ. บ้านสร้าง  จ.  ปราจีนบุรี

ผู้แสดงความคิดเห็น ภาณุเดช วันที่ตอบ 2010-10-15 13:59:05


ความคิดเห็นที่ 25 (2119531)

ทึ่งไทย

๑ไผทสยามงามแช่มช้อย                    เชวงศิลป์

ดุริยศัพท์ประสมริน                            ร่ายฟ้อน

ปี่พาทย์พ่างเพลงพิณ                          จะเข้ส่ง

รวมสรรพสำเนียงซ้อน                        สื่อได้เสียงเดียว

๒ เรียวลายสือลึกล้ำ                          ศิลาจาร

คมอักษรเบาราณ                              บิ่นร้าว

นำถักช่อเชลงกานท์                          กลบท

มนตร์เสกกลอนกล่อมด้าว                  รสล้ำคำสยาม

๓ ลือนามเอกราชพ้น                        ภูมิไผท

หมื่นชีพรวมหนึ่งใจ                           สละป้อง

ธำรงรักษ์อธิปไตย                            สู่ลูก หลานแฮ

ล้วนแหล่งโลกแซ่ซ้อง                       ทึ่งแท้คราวยิน

๔ งามศิลป์พิสุทธิ์ล้ำ                          เรืองสมัย

ช่างสิบหมู่-เทิดไทย                           จรัสแคว้น

สมบัติชาติเกริกไกร                           โลกประจักษ์ ทั่วนา

ฉลุลักษณสลักรอยแม้น                      วาดฟ้าเวียงสวรรค์

๕ เพลงกาลผันผ่านพ้น                       ปีเดือน

ลายลักษณ์เริ่มลางเลือน                     เสื่อมด้อย

โลกวิวัฒน์เวียนเคลื่อน                        ศักราช ใหม่มา

คุณค่า “เป็นไทย” คล้อย                     ห่างคล้ายอดีตฝัน

๖ ก่อนวันอันสุดสิ้น                            หมดไทย

ก่อนภาพยิ้มภูมิใจ                              พรากพ้น

ก่อนสถาปัตย์สมัย                             เป็นแค่ กองดิน

ก่อนกาพย์กลอนโคลงด้น                    ดับสิ้นตำนาน

๗ สืบสานให้ทึ่งทั้ง                            โลกา

มรดกแห่งประชา -                             ชาติแก้ว

ล้านใจร่วมศรัทธา                              อนุรักษ์

อนาคตจักผ่องแผ้ว                            ทึ่งแท้แดนไทย ฯ

 

นายสราวุธ สัญญะโม

บ.เอกซอนโมบิล              

ผู้แสดงความคิดเห็น สราวุธ วันที่ตอบ 2010-10-15 23:14:45


ความคิดเห็นที่ 26 (2119533)

 

ทึ่งไทย(แก้ไข)

๑ไผทสยามงามแช่มช้อย                    เชวงศิลป์

ดุริยศัพท์ประสมริน                            ร่ายฟ้อน

ปี่พาทย์พ่างเพลงพิณ                          จะเข้ส่ง

รวมสรรพสำเนียงซ้อน                        สื่อได้เสียงเดียว

๒ เรียวลายสือลึกล้ำ                          ศิลาจาร

คมอักษรเบาราณ                              บิ่นร้าว

นำถักช่อเชลงกานท์                          กลบท

มนตร์เสกกลอนกล่อมด้าว                  รสล้ำคำสยาม

๓ ลือนามเอกราชพ้น                        ภูมิไผท

หมื่นชีพรวมหนึ่งใจ                           สละป้อง

ธำรงรักษ์อธิปไตย                            สู่ลูก หลานแฮ

ล้วนแหล่งโลกแซ่ซ้อง                       ทึ่งแท้คราวยิน

๔ งามศิลป์พิสุทธิ์ล้ำ                          เรืองสมัย

ช่างสิบหมู่-เทิดไทย                           จรัสแคว้น

สมบัติชาติเกริกไกร                           โลกประจักษ์ ทั่วนา

ฉลุลักษณ์สลักรอยแม้น                      วาดฟ้าเวียงสวรรค์

๕ เพลงกาลผันผ่านพ้น                       ปีเดือน

ลายลักษณ์เริ่มลางเลือน                     เสื่อมด้อย

โลกวิวัฒน์เวียนเคลื่อน                        ศักราช ใหม่มา

คุณค่า “เป็นไทย” คล้อย                     ห่างคล้ายอดีตฝัน

๖ ก่อนวันอันสุดสิ้น                            สืบไทย

ก่อนภาพยิ้มภูมิใจ                              พรากพ้น

ก่อนสถาปัตย์สมัย                             เป็นแค่ กองดิน

ก่อนกาพย์กลอนโคลงด้น                    ดับสิ้นตำนาน

๗ สืบสานให้ทึ่งทั้ง                            โลกา

มรดกแห่งประชา -                             ชาติแก้ว

ล้านใจร่วมศรัทธา                              อนุรักษ์

อนาคตจักผ่องแผ้ว                            ทึ่งแท้แดนไทย ฯ

 

นายสราวุธ สัญญะโม

บ.เอกซอนโมบิล              

ผู้แสดงความคิดเห็น สราวุธ วันที่ตอบ 2010-10-15 23:20:02


ความคิดเห็นที่ 27 (2119539)

๏ ทึ่ง  ๏

๏ เด็กน้อยบ้านนอกเข้า          เขตกรุง-
เทพสถิตสถานประดุง             ประดับหล้า
ยลตึกระดะปรุง                        แปลงแปลก
คอนกรีตสูงเสียดฟ้า                ฝากซึ้งตะลึงแล ๚ะ

๏ รถไฟฟ้ามุดด้น                     ดงตึก
รุ้งหลากแท็กซี่คึก                    ขวับเควี้ยว
นานารถอึกทึก                          ทางทั่ว
แมงกะไซด์ลัดเลี้ยว                 เลาะย้อนศรสยอง  ๚ะ

๏ ทวยเทพจรแข่งเวิ้ง                เวลา
หน้าบูดผรุสวาททา                    ทาบลิ้น
มารยิ้มเปี่ยมเมตตา                    ตามติด
ก่อนขบหัวกินสิ้น                       สุดดิ้นหลีกไฉน ๚ะ

๏ ฝันเห็นบ้านเก่ากี้                   กระท่อมผุ
ฝนรั่วยามพายุ                           ขยับเข้า
หากอบอุ่นสาธุ                          ธรรมชาติ
คนสัตว์สัตย์ซื่อเหง้า                 งอกปลื้มปัญญา ๚ะ

๏ ยอดหญ้ายิ้มแก้ปริ                 ประดับลาน
แมลงร่ำคีตประสาน                   เสนาะหล้า
ปลาลีลาศชื่นบาน                       บงกช
อาทิตย์ห่มแสงฟ้า                      ฝากซึ้งตะลึงงัน ๚ะ

๏ อันใดน่าทึ่งแท้                     ทวยชน
ศิวิไลซ์จักรกล                           เกิดสร้าง
ฤๅธรรมชาติชุ่มผล                   เพลินกว่า
เด็กตื่นในเคว้งคว้าง                ค่ำเช้าเยาว์ฝัน  ๚ะ๛

ผู้แสดงความคิดเห็น มังกรสมุทร วันที่ตอบ 2010-10-15 23:55:37


ความคิดเห็นที่ 28 (2119540)

ปิดรับการส่งร้อยกรองประกวดประจำเดือนกันยายน 2553

ผู้แสดงความคิดเห็น webmaster วันที่ตอบ 2010-10-16 00:00:19



[1]



กระทู้นี้ไม่เปิดให้แสดงความคิดเห็น

Copyright © 2010 All Rights Reserved.