ReadyPlanet.com


ถ้อยอักษรกลอนสุรา


[ถ้อยอักษรกลอนเทพสุรา]
 
๐ กลบทกฎกลอนยอกย้อนนัก
พึงตระหนักถักถ้อยเรียงร้อยฝัน
คุมต้นสายปลายเรื่องต่อเนื่องกัน
เสกสร้างสรรค์ปั้นแต่งสำแดงกานท์
 
๐ อันศาสตร์ศิลป์กลิ่นกวีวิถีกลอน
ขุดสันดอนตะกอนกากซากสังขาร
ปลดปล่อยทุกข์ปลุกชีวิตจิตวิญญาณ
เพื่อสืบสานงานประพันธ์จรรโลงไทย
 
๐ ร้อยกระบวนเย้ายวนจิตพิศวาส
อักษรชาติพิลาสงามตามสมัย
ถ้อยบทกรองตรองตริดำริไป
ตามแต่ใจใครรำพันเขียนฝันตน
 
๐ ก่อสำเนียงเสียงประสานขานรุกไล่
ยัดสอดไส้ใส่อัตตาโกลาหล
ตะบี้ตะบันดันดะสัปดน
บนถนนคนเขียนกลอนนอนนั่งเทียน
 
๐ เรื่องทุกอย่างต่างรสบทกวี
เมินวิถีศรีปราชญ์ผู้วาดเขียน
เงาอักษรห่อนซากแค่กากเกรียน
สู้พากเพียรเรียนรู้อยู่ทุกวัน
 
๐ กลบทกฎกลอนยอกย้อนนัก
แอบครูพักลักจำย้ำรอยฝัน
เติมหัวใจใส่ศรัทธาค่าอนันต์
มั่นคงไว้ในสัญญาภาษาชน
 
๐ เกิดเป็นชายตายเยี่ยงชายไม่อายหมา
เอาศรัทธาเป็นที่ตั้งเพื่อหวังผล
มีความรักภักดีอยู่ที่ตน
เก็บหัวใจไว้ฝึกฝนเป็นคนดี
 
๐ ชีวิตนี้มีไหมอะไรยาก
ทุกข์ลำบากพากเพียรสู้รู้วิถี
โบกโบยบินถวิลหาฟ้าเสรี
มิตรไมตรีมีมากมายหลายมุมมอง
 
๐ มาแต่ตัวกลัวอะไรเมื่อไปจาก
เรื่องหลายหลากฝากผลงานตระการก้อง
ท่วงลีลาท่าท่วงห้วงทำนอง
แด่พี่น้องผองประชาข้าแผ่นดิน
 
๐ ยืนหยัดอยู่สู้หน้าบรรพชน
บนถนนคนเขียนกลอนอักษรศิลป์
มิเลื่องชื่อลือนามงามกวินทร์
ศิลปินถิ่นบ้านนาภาษากู
 
๐ ต่างเวียงวังคลังปัญญาภาษาศาสตร์
ต่างนักปราชญ์วาดฝันอันเลิศหรู
ต่างกวีศรีสยามนามเพริศพรู
ต่างวิญญูผู้ประเสริฐเกิดก่อความ
 
๐ คนขี้เหล้าเมากลอนหลอนหลอกครู
เฝ้าเรียนรู้กู่สมัยคอยไถ่ถาม
เหล้าเข้าปากฝากย้ำคำนิยาม
ความงดงามตามแต่คิดลิขิตพา
 
๐ กระดกเหล้าเหย้าหยอกออกลีลา
ร่ายภาษาฮาเฮเสน่หา
รักล้นจิตพิศวาสมิคลาดครา
เทพสุราหน้าหล่อพ่อขี้เมา
 
๐ กระแดะเรื่องเฟื่องกลอนมาหลอนหลอก
คนบ้านนอกคอกนาอยู่ป่าเขา
อิสระเสรีนี้ของเรา
ยกจรอกเหล้าเคล้าฝันจันทร์โอชา
 
๐ รสอักษรกลอนสุราภาษาศาสตร์
วิปลาสขลาดเขลาเฝ้าโหยหา
มิตรเคียงข้างกระจ่างเงาเจ้าจันทรา
โฉมดาราฟ้าจำแลงแสงสุรีย์
 
๐ ยุคศิวิไลซ์ใคร่เน้นประเด็นใหม่
ติดตามไปในเรื่องราวข่าววิถี
ทุกมุมมองของชีวิตคิดแต่ดี
สุขเปรมปรีย์ที่ลานกลอนอักษรไทย
 
๐ คือตัวตนคนเขียนกลอนสอนตัวเอง
เลือดนักเลงเพ่งไตร่ตรองกรองสมัย
ร่ายรุกรับปรับเปลี่ยนหมุนเวียนไป
ร้อยดวงใจใส่ศรัทธาค่านิยม
 
๐ เมื่อมีฝันอย่าหวั่นไหวในเส้นทาง
ทุกก้าวย่างต่างปัญหามาทับถม
ฝืนชะตาฟ้าลิขิตลิลิตพรหม
เหล้าหมดกลมคารมพร่ำบรรยาย
 
๐ ร้อยพากษ์พจน์บทกวีมาชี้ชวน
ถ้อยกระบวนกวนกลอนอักษรสาย
กลบทกฎเกณฑ์ตาเถรอาย
เชิงลวดลายมิหน่ายแหนงคลางแคลงใจ
 
๐ นอนหยอกล้อทอฝันทันสมัย
ความเป็นไทยใคร่ดำรงมั่นคงไว้
มาตรฐานกานต์กลอนอักษรไทย
สุดแต่ใครใคร่ลิขิตลิลิตเอง
 
๐ สุนทรีย์กวีโม้มโนภาพ
แต่งแต้มฉาบอาบจินต์ถวิลเพ่ง
เพลงละครกลอนกาพย์โคลงจรรโลงเพลง
ร่วมบรรเลงเครงครื้นระรื่นรมณ์
 
๐ สืบสำเนียงเสียงประสานตระการก้อง
ท่วงทำนองคล้องรับสดับขรม
ร่ายลีลาพาสนุกสุขนิยม
ลืมทุกข์ตรมขมขื่นยามตื่นนอน
 
๐ ใต้เงาฝันจันทร์โอชาอย่าเศร้าหมอง
ร่วมประคองล่องนาวาหน้าสลอน
ลืมทุกข์เศร้าเหงาทรวงห้วงอาวรณ์
ถ้อยอักษรสะท้อนผ่อนบรรเทา
 
๐ แค่นักกลอนนอนเว็นเข็นอักษร
ไยฮำฮอนร้อนรนกับคนเขลา
เช้ายันสายบ่ายย่ำเย็นเห็นแต่เมา
ไทสูเจ้าเอาอะไรมาใส่ความ
 
๐ กลอนกระจอกงอกง่อยถ้อยคำขาน
ประสบการณ์ผ่านมาบ่าแบกหาม
คือชีวิตจิตวิญญาณสานนิยาม
เรียงร้อยพล่ามตามสมัยที่ใคร่เป็น
 
๐ สูหยามเหยียดเดียดฉันท์นั้นไม่ว่า
สันดานอย่าหน้าตัวเมียละเหี่ยเห็น
เลือกที่รักมักที่ชังขังประเด็น
เป็นตัวแสบแอบซ่อนเร้นเช่นโหงพราย
 
๐ อย่าเป็นแค่คนแก่กะโหลกกะลา
กานต์สาราอย่ากีดกั้นมันฉิบหาย
ใครรักเขียนเพียรสร้างก่อนวางวาย
สูอย่าหมายกรายกร้ำให้กล้ำกลืน
 
๐ อย่าตัดสินหมิ่นใครใช้ทิฐิ
อุตริผลิอัตตาน่าขมขื่น
ต่างคนเป็นเห็นอย่างต่างหยัดยืน
จงอย่าฝืนขืนใจใครใส่ร้ายกัน
 
๐ บ้านหลังใหญ่ใครพักพิงมาอิงแอบ
อย่าใจแคบเป็นแบบอย่างทางสร้างสรรค์
มองมุมต่างอย่างเข้าใจให้เท่าทัน
ต่อเติมฝันปันแบ่งรักคอยผลักดัน
 
๐ มีมากมายหลายคนบนเส้นทาง
เดินอ้างว้างอย่างเดียวดายสู่ปลายฝัน
เพื่อนร่วมทางข้างเคียงเพียงตาวัน
กับดาวจันทร์สัญญาใจไม่เปลี่ยนแปลง
 
๐ ความสำเร็จเคล็ดลับนั้นผลักดันสู้
ยืนหยัดอยู่รู้ทันเคี่ยวขันแข่ง
เอาหัวใจใส่เด็ดเดี่ยวเป็นเรี่ยวแรง
สองมือแปลงแต่งสร้างแบบอย่างเอง
 
๐ อย่าได้สนคนใดในโลกนี้
ต่างวิถีดีเป็นเน้นพิจเพ่ง
สรรพสิ่งวิ่งวนไปอย่าได้เกรง
เลือดนักเลงเก่งตัวตนย่อมพ้นภัย
 
๐ ใครดีเด่นเช่นไรไม่อิจฉา
แม้นชั่วช้าอย่ามุ่งเน้นประเด็นใหญ่
แต่คนละคนบนเส้นทางต่างคนไป
ปล่อยวางไว้ในทุกเรื่องอย่าเคืองกัน
 
๐ อันเงินตราหาง่ายกว่าเพื่อนแท้
บางคนแย่แค่เปลือกงามทรามมหันต์
มือถือสากปากถือศีลลิ้นตะบัน
คอยห้ำหั่นฟันแทงแย่งกันดี
 
๐ แจกรอยยิ้มกริ้มกรุ่มอุ้มชูมิตร
ร้อยลิขิตจิตจำนงค์ ณ ตรงนี้
คารวะเพื่อนผองพี่น้องกวี
ฝากไมตรีมีให้ไว้ไม่เสียตังค์
 
๐ เกิดมาจนทนยืนอยู่สู้ชีวิต
ฟ้าลิขิตปิดกั้นสวรรค์สั่ง
ทางนรกระหกระเหินเกินประดัง
แต่ความหวังยังเดินหน้าฝ่าฟันไป
 
๐ ไม่ย่อท้อต่อชะตาฟ้ากำหนด
ทรยศกฎพรหมสร้างถากถางไถ
สองมือตีนปีนป่ายไม่อายใคร
ฝากใจให้โลกรู้คู่แผ่นดิน
 
๐ อย่างอมืองอเท้าหน้าเศร้าท้อ
นั่งนอนรอขอพรเอาให้เขาหมิ่น
สวดมนตราฟ้าบันดาลหว่านโรยริน
ขอทำกินดิ้นรนเอาไม่เฉาตัว
 
๐ อย่ารอฟ้าเทวามาโปรยทาน
เกินก้าวผ่านด่านปัญหาพร่าสลัว
อุปสรรคหนักหนาอย่าหวาดกลัว
รู้ดีชั่วหัวใจแกร่งแข่งกับตน
 
๐ จุดมุ่งหมายปลายฝันอันไกลห่าง
ระยะทางวางกำหนดทดสอบผล
มีดีชั่วยั่วคุณค่าคำว่าคน
ตนบันดลผลสำเร็จเสร็จดังใจ
 
๐ บุราณว่าถ้ากำตดหมดราศี
บอกกำขี้ดีกว่าอย่าสงสัย
ทั้งสองอย่างต่างพิศเพ่งวังเวงไว
เลือกอะไรใคร่ไตร่ตรองลองคิดดู
 
๐ แม้นใจคดปดโป้มโนรมณ์
กวีถ่มขรมขากปากหดหู่
ของแสลงแกล้งว่าเหมือนด่าครู
สัพพัญญูรู้หลบไม่คบพาล
 
๐ มากเรื่องเล่าเงากลอนอักษรความ
กับคำถามหยามเหยียดรังเกียจสาน
บนถนนหนทางพ่างตระการ
ก่อเนื้องานกานต์กวีที่ต่างเป็น
 
๐ เขียนตามใจในความต่างทางความคิด
ร้อยลิลิตสิทธิ์เสรีที่ตาเห็น
มากความจริงทิ้งไว้ไม่ลำเค็ญ
ทุกประเด็นเร้นแฝงจำแลงเงา
 
๐ กลอนสะท้อนอ้อนทรวงบ่วงอารมณ์
ทุกข์ระทมขมขื่นกับคืนเหงา
รักอาลัยใจอาวรณ์ผ่อนบรรเทา
ร้ายรุมเร้าเศร้าจิตปลิดชีวัน
 
๐ ล้มกี่ครั้งยังร้องไห้ไปกี่หน
เหนื่อยทุกข์ทนบนหนทางย่างตามฝัน
แต่ละคืนตื่นมาสุดจาบัลย์
แสงนวลจันทร์บั่นทอนร้าวรอนตน
 
๐ หยดน้ำตากี่ห่าหาบอาบสองแก้ม
อุปสรรคมักแต่งแต้มแกมฉ้อฉล
หมุนสลับปรับเปลี่ยนย้อนเวียนวน
สู้ดินรนบนชะตาฟ้าลงทัณฑ์
 
๐ โอ้อาลัยใจช้ำแสนกล้ำกลืน
เสียงสะอื้นฝืนลิขิตผิดมหันต์
สวรรค์สร้างย่างเดินเผชิญมัน
นรกคั่นกั้นกลางอย่างน่ากลัว
 
๐ ลมหายใจไหลรวยรินแทบสิ้นลม
ชั่วทับถมขมขื่นหมื่นพันชั่ว
มัวเชื่อใจใครบางคนจนหม่นมัว
ดีแต่ตัวหัวใจไม่ไยดี
 
๐ ลบรอยช้ำน้ำตาก่อนลาจาก
ทิ้งความยากฝากลงดินเป็นสินหนี้
ลืมเจ็บปวดรวดร้าวที่เรามี
พอกันทีชีวิตเก่าในเหล้าดอง
 
๐ เรื่องมากมายหลายอย่างต่างรุมเร้า
ทุกข์สุขเศร้าเหงาตรมระทมหมอง
กับชีวิตคิดทบทวนหวนไตร่ตรอง
ทุกห้วงห้องของใจไฉนกลัว
 
๐ เหนื่อยจนท้อต่อปัญหาที่ถาโถม
มันกระโจมโรมรันปลุกปั่นหัว
หมดแรงสู้อยู่ไปเหมือนไร้ตัว
ทางมืดมัวหัวใจฉันมันโรยรา
 
๐ ยอมแพ้พ่ายคล้ายชะตาฟ้าลิขิต
ปลงชีวิตผิดไหมใครถือสา
ทุกย่างก้าวหนาวเหน็บเก็บน้ำตา
อ้อนวอนฟ้าอย่าลงทัณฑ์ฉันอีกเลย
 
๐ เจ็บอีกนานกว่าผ่านพ้นยอมทนเจ็บ
เผยรอยเย็บตะเข็บใจไว้เปิดเผย
เคยทนรอท้อกี่ครั้งยังคุ้นเคย
ความเฉลยเอ่ยมาอย่าถือความ
 
๐ อยากร้องไห้ให้ตัวเองวังเวงนัก
อยากหยุดพักสักครั้งหวังไถ่ถาม
อยากทบทวนครวญใคร่ในวันยาม
อยากเลิกพล่ามยามท้อต่อชะตา
 
๐ เบื่อชีวิตคิดอะไรไร้สาระ
มุ่งมานะละทิฐิติปัญหา
พักหายเหนื่อยเมื่อยวางสร้างปัญญา
ขอบเวิ้งฟ้ารอผู้กล้าไปเยือน
 
ขอน้อมคารวะจากใจ
ทรชนบ้านนอก


ผู้ตั้งกระทู้ ทรชนบ้านนอก :: วันที่ลงประกาศ 2015-06-06 08:14:00


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.