ReadyPlanet.com


เล่มนี้ ซีไรท์


     หนังสือที่ส่งประกวดรางวัลซีไรท์ของทุกปี แต่ละเล่มมักตั้งชื่อเรื่องให้อลังการ ยิ่งใหญ่ แปลก เช่นมีคำว่า โลก เป็นส่วนประกอบสำคัญ รางวัลเซเว่นฯปีที่แล้ว ทุกเล่มที่ได้รางวัล มีคำว่า โลก

     สำหรับหนังสือเล่มเล็ก ๆ เล่มหนึ่งที่ส่งเข้าประกวดรางวัลซีไรท์ในปีนี้กลับตั้งชื่อเสียเล็กจิ๋ว หนามที่บ่งไม่ออก  เนื้อหาภายในเล่มไม่ธรรมดาเลย ผมไม่เคยอ่านหนังสือกลอนจบทั้งเล่มมาหลายปีเพราะถ้าเป็นการเขียนเพื่อส่งประกวดก็จะรู้สึกเวียนหัวอันเนื่องจากมายาที่เคลือบอยู่ แต่เล่มนี้ผมอ่านแล้ววางไม่ลง และขอกล่าวไว้ตรงนี้ว่า ไม่ใช่คำโฆษณาชวนเชื่อแต่อย่างใด

     ทำไมต้องเป็น หนามที่บ่งไม่ออก "ความเป็นนักเลงภาษาในระดับเซียนคนหนึ่ง หลายวรรคยังเห็นร่องรอยของความสมัครใจที่จะเป็น นักกลอนยุคเฟื่องรัก (น่าจะเป็นรุ่นสุดท้ายที่เหลืออยู่ในประเทศไทย)" เพ็ญ ภัคตะ (ดร.เพ็ญสุภา ภัคตะ)  ให้คำตอบแทนผมไว้แล้วในหนังสือเล่มนี้

     ผมเห็นพ้องกับ เพ็ญ ภัคตะ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมเลือกให้เล่มนี้ได้รางวัลซีไรท์ หนามที่บ่งไม่ออก ว่ากันด้วยเรื่องความรักความใคร่ล้วน ๆ หาอ่านได้ยากแล้วในยุคนี้ จึงต้องอนุรักษ์ไว้ ที่มีให้อ่านบ้างก็ยังไม่ถึง ส่วนใหญ่ขาดเสน่ห์เล่ห์ลิ้น

     สมศักดิ์ ศรีเอี่ยมกูล เขียนกลอนเล่มนี้ด้วยประสบการณ์ตรง ผู้อ่านจะได้พบเห็นความไม่ดีมากมายที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง อ่านไปคิดไปว่าพฤติกรรมอย่างนั้น ๆ ของสมศักดิ์ ศรีเอี่ยมกูล สมควรเอาอย่างหรือไม่ "พวกเราได้แต่ตั้งคำถามกันในหมู่นักกลอนและกวีว่าถ้าหมดยุคของ สมศักดิ์ ศรีเอี่ยมกูลแล้วจะมีใครที่ไหนจักกล้าลุกขึ้นมาเขียน กลอนแปดสวย ๆ ประจานตัวเองว่ากำลังตกมี่นั่งสุนทรภู่ผสมคาสโนวาเช่นนี้อีก" 

     สำหรับชั้นเชิงวรรณศิลป์ ขอแนะนำว่าควรเอาอย่าง

     ด้วยเหตุผลนี้ ผมขอเลือก หนามที่บ่งไม่ออก สำหรับรางวัลซีไรท์ของปีนี้นะครับ



ผู้ตั้งกระทู้ สุธีร์ พุ่มกุมาร :: วันที่ลงประกาศ 2010-05-12 16:29:40


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2063467)

เข้ามาลงซื่อว่าอ่านข้อความของ อาจารย์สูธุร์ฯ แต่ยังไม่คล้อยตามความเห็นนี้ก่อน

อยากดูเล่มในใจของคุรุท่านอื่น ว่ามีเล่มไหนกันบ้าง

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พ่อไข่นุ้ย (thara_num-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-05-12 16:53:00


ความคิดเห็นที่ 2 (2063582)

รางวัลซีไรท์มีเกณฑ์กติกาเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตรงนั้นมานานแล้ว มุมมองที่เห็นได้ลองอ่านหนังสือกวีนิพนธ์ที่ได้รับรางวัลซีไรท์โดยผ่านการพิจารณาตัดสินจากคณะกรรมการตามขั้นตอนกระบวนการโดยละเอียด รอบคอบ ลึกซึ้งกว้างไกล ได้อ่านงานของคุณสมศักดิ์ผลงานรวมเล่มหนามที่บ่งไม่ออก(ยังอ่านไม่จบ) เคยเห็นสำนวนกลอนและแนวคิดของคุณสมศักดิ์มาบ้าง ฟันธงว่าเป็นหนังสือกลอนดีน่าอ่านแนวฉันทลักษณ์เคร่งครัด แต่ไปไม่ถึงรางวัลซีไรท์หรอก ถ้าผ่านเข้ารอบมาได้ก็ถือว่าเป็นความโชคดีแล้ว แนวกวีนิพนธ์ซีไรท์เป็นมุมมองและทรรศนะเกี่ยวกับโลก ชีวิตและสังคม พฤติกรรมมนุษย์ แนวคิดคติสอนใจ ไม่ใช่แนวความรักอย่างเดียว ดังนั้นหนามที่บ่งไม่ออกจึงกลายเป็นแผลรักสลักใจของคุณสมศักดิ์ ศรีเอี่ยมกูลไปตลอดกาล ขอให้โชคดี

ผู้แสดงความคิดเห็น สาธุชน วันที่ตอบ 2010-05-13 08:01:56


ความคิดเห็นที่ 3 (2063584)

 

ขอถือโอกาส ขอบพระคุณ...คุณสมศักดิ์  ศรีเอี่ยมกูล

มา ณ. ที่นี้ค่ะ..ที่กรุณา มอบหนังสือ เล่มนี้มาให้อ่าน

 

กำลังอ่าน(ยังไม่จบ)..เนื้อหาในเล่ม ...

เล่าเรื่องชีวิตรัก..ซึ่งผู้เขียนผ่านชีวิตรัก....มาหลายฝน

อ่านแล้วก็มองเห็นภาพ....ชัดเจนค่ะ

 

ขอบคุณ...ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัทราจิตร วันที่ตอบ 2010-05-13 08:23:52


ความคิดเห็นที่ 4 (2064086)

ผมไม่เคยอ่านหนังสือเล่มไหน 100% ถึงเพียงนี้  อ่านแล้วคิดถึงวันวัยแตกพาน  สิ่งที่ชอบคืออ่านบทกวีแล้วเสมือนได้อ่านเรื่องสั้นไปด้วย   ถือว่าคุ้มเวลา  คุณสมศักดิ์กล้ามากที่เอาตัวเองเป็นตัวเดินเรื่อง  "เขียนให้เห็นตัวตนของคนเขียน"   เช่นนี้จะยังไม่เรียกว่าเขียนเก่งอีกหรือ   ผมไม่เห็นด้วยว่าซีไรต์นั้นต้องครอบคลุมกว้างใหญ่  โดยปกติมนุษย์มิได้รู้ดีเสียทุกเรื่อง  การจะเขียนเรื่องที่ตนมิรู้ดีก็ต้อง"อาศัย"   ซึ่งจะลงส่วนลึกก็ยาก   ผมเป็นคนนครปฐม  อำเภอสามพราน  ถ้าให้เขียนนิราศนครปฐม  ก็คงพอได้  แต่คนอ่านคงจะได้รายละเอียด  เพียงนิราศสามพรานแถมนครปฐม  เท่านั้น     อย่างน้อยผมจึงให้  "หนามที่บ่งไม่ออก"  ถึงรอบสุดท้าย  ถ้าไม่สุดท้ายถ้วย   "ก"  ก็ที่  1  ถ้วย  "ข"  แหละน่า

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาต้อม วันที่ตอบ 2010-05-13 17:08:56


ความคิดเห็นที่ 5 (2064247)

เชียร์กันเองเพื่อชี้นำกรรมการหรือเปล่า

ผู้แสดงความคิดเห็น คนอ่าน วันที่ตอบ 2010-05-14 03:55:54


ความคิดเห็นที่ 6 (2064408)

 

กรรมการทรงคุณวุฒิทั้งนั้น  จะชี้นำไหวเหรอ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิรนาม วันที่ตอบ 2010-05-14 14:49:52


ความคิดเห็นที่ 7 (2064721)

ไหนๆ อาจารย์สุธีร์ก็นำพูดถึงเรื่องซีไรต์แล้ว

เลยอยากจะบอกเล่มในใจสำหรับปีนี้สัก 5 เล่ม ท่านอื่นบอกบ้างนะครับ หนุกๆ กัน

1. โลกหมุนเร็วขึ้นกว่าเดิม กฤตย์ดิศร กรเกศกมล

2. ทอรัก ถักโลก วรภ วรภา

3. บางโทนสีแห่งชีวิต โสตถิเทพ แสงประเทือง

4. ฝากโลกนี้ไว้ในหัวใจเธอ กอนกูย ข้าวเจ้า

5. ลมมลายู วิสุทธิ์ ขาวเนียม นาคร
 

โดยเฉพาะบางโทนสีแห่งชีวิต ชอบมาก ชุดท่าพระจันทร์ น่าสนใจทีเดียว และทาย(เหมือนแทงหวย) ว่าเล่มนี้น่าจะได้ปีนี้

ท่านอื่น ลองดูนะครับว่าจะมีนักเล่มไหมที่เรารักเหมือนกัน

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พ่อไข่นุ้ย (thara_num-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-05-15 15:52:04


ความคิดเห็นที่ 8 (2064725)

หมดยุคของการชี้นำแล้วครับเมื่อการสื่อสารหลายช่องทางเข้าถึง ทุกคนมีเวลาและติดตามทุกข่าวสารเพื่อวิเคราะห์จากหลายทาง

เท่าที่อ่านในนี้ทุกท่านก็เชียร์ตามความชอบ แสดงออกอย่างเปิดเผยถึงสิทธิ์ในความชอบของตัวเอง ผมว่าน่ารักดีครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ติดตามข่าว วันที่ตอบ 2010-05-15 16:06:41


ความคิดเห็นที่ 9 (2064824)

ไม่ทราบว่า คุณสุธีร์ อ่านครบทุกเล่มรึยังครับ ๗๔ เล่มเชียวนะ

 

กลับไปอ่านให้ครบแล้วค่อยมาอวยก่อนดีมั้ย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วังวน วันที่ตอบ 2010-05-15 21:50:05


ความคิดเห็นที่ 10 (2065451)

     อ่านจบ ๔ เล่มแล้วครับ และกำลังควานหาเล่มอื่นอยู่อย่างไม่ลดละ ฤดูกาลรางวัลซีไรท์ทุกปี ผมจะเข้าร้านหนังสือเพื่อซื้อเก็บมาอ่านและถือเป็นการสะสมไปในตัว เสียดายที่บ้านผมเป็นเมืองเล็ก ๆ หนังสือที่ส่งประกวดจึงมีขายน้อย ผมชอบซื้อเพราะเป็นความสุขที่ได้อุดหนุนเพื่อน ๆ ให้มีกำลังใจที่จะสร้างงานที่ตัวเองรัก

     หนังสือกลอนแต่ละเล่มที่ผมซื้อมาอ่าน ผมจะอ่านอย่างจริงจัง พินิจพิเคราห์แม้กระทั่งรูปเล่มซึ่งผมเปรียบว่าเป็นเสมือนบรรจุภัณฑ์ ถ้าเล่มสวยก็ช่วยสร้างเสน่ห์ให้หนังสือเล่มนั้นได้มากโข พ่อไข่นุ้ย เป็นคนหนึ่งที่ออกแบบหนังสือได้สวย ผมเป็นลูกค้าประจำด้วย

     สำหรับคำถามของ วังวน ว่าอ่านครบทุกเล่มหรือยัง ยังครับ อยากอ่านทุกเล่ม เท่ากับว่าเวลานี้ยังขาดอยู่ ๗๐ เล่มนะครับที่ไม่ได้อ่าน ดังนั้นจึงต้องขออภัยที่ด่วนแสดงความคิดเห็นตามประสาซื่อ หากผมอ่านได้ครบทุกเล่มแล้วจะกลับมาว่ากันใหม่นะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น สุธีร์ พุ่มกุมาร วันที่ตอบ 2010-05-17 23:23:03


ความคิดเห็นที่ 11 (2065508)

นางงามเจ็ดสิบกว่าคนค่อยออกมาให้ยลโฉม ผู้ชมข้างเวทีแค่เห็นนางงามคนแรกก็ตะโกนว่าคนนี้ต้องชนะ  หรือเป็นเพราะนางงามคนนั้นอาจเป็นญาติพี่น้องเพื่อนฝูงก็เลยตะโกนเชียร์เสียงลั่น โดยไม่คิดจะมองนางงามคนอื่น เราว่าวิสัยทัศน์แคบไป

การด่วนตัดสินใจอะไรลงไปแบบฟันธง ผู้ร้องตะโกนอาจเสียคนไปตามประสาซื่อ

นางงามที่แสนงามมักจะออกมาทีหลัง กรุณาชื่นชมให้ทั่วๆก่อนดีมั้ย

ผู้แสดงความคิดเห็น นับถือ วันที่ตอบ 2010-05-18 09:45:45


ความคิดเห็นที่ 12 (2065687)

เข้ามาต่อ เห็นว่า กระทู้นี้เริ่มต้นเป็นไปทางสร้างสรรค์ คือ เปิดประเด็นด้วยการชี้ชัดเจนลงไปถึง "ความชอบ" โดยมิอีนังขังขอบต่อ ถ้อยคำทำตัวเป็นนักอ่านใด

เพราะนอกจากกรรมการ ใครสามารถหาหนังสือกวีนิพนธ์ที่ส่งประกวดอ่านได้ครบ นับว่าอัศจรรย์เอามากๆ อย่าว่าแค่ครบหมดทุกเล่ม เอาสัก 15 เล่ม ก็ถือว่า เก่งแล้ว (เชื่อไม่เชื่อลองไปหาดูในร้านค้า)

เมื่อความจริงมันเป็นเช่นนี้ ผู้วนเวียนในการรังสรรค์คำสวยงาม ไยใช้คำไม่สวยงามต่อความคิดรวมถึงความจริงใจของคนอื่นด้วย โดยเฉพาะคนอื่นที่พูดถึงนี้ อดีตเคยพางานเข้าถึงรอบสุดท้าย ซึ่ง สมาคมนักกลอน(รุ่นกลาง-เยาว์)ควรจะยินดี และถือเป็นแบบบทในการเขียนเรียนตาม

อันที่จริงสำหรับคนอ่านกวี บางทีแค่ดูชื่อ เปิดอ่านบทแรก ก็แทบจะไม่ต้องอ่านให้หมดเล่มแล้ว เพราะงานกวีมันมี บรรทัดวัด ที่ไม่เหมือนกับงานอย่างอื่น

คนเขียนกลอนจงเจริญ

ขอความรุนแรงจงหายไปจากสังคมไทยในเร็ววัน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พ่อไข่นุ้ย (thara_num-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-05-18 15:55:50


ความคิดเห็นที่ 13 (2065693)

ประกวดร้องเพลง  ถ้านักร้องคนแรกทำได้ดีหาที่ติมิได้แม้จะหักซักคะแนนเดียว  กรรมการผู้คร่ำหวอด  จะตั้งสมมติฐาน มิได้เชียวหรือว่าคนนี้น่าจะได้  การดูนางงามให้ครบนั้นเพียงกระหายอยาก  และมิให้ว่าได้เท่านั้น  การตั้งกระทู้นี้นัยว่าเพียงคาดการณ์แล ยั่วใหคึกคักเท่านั้น

      สังเกตุเถอะว่า  ที่1 ทั้งหลายมักไม่ได้ที่1  ลองคิดซิเพราะอะไร

เพียงเพราะผู้ตัดสินหรือผู้เลือกขลาดเกินไป  จะถูกติฉินว่าไม่ละเอียด

เช่น

     ยอดขายของร้านทองร้านที่1    ร้านขายผลไม้ร้านที่1   คาราโอเกะร้านที่1

      ผู้เข้าประกวดเวทีต่างๆเบอร์1    ร้านเหล้าร้านที่1

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาต้อม วันที่ตอบ 2010-05-18 16:11:54


ความคิดเห็นที่ 14 (2066334)

ผมเชียร์ทุกคน

อยากอ่านทุกเล่มครับ

ที่อ่านแล้ว บางโทนสีของชีวิต

ผู้แสดงความคิดเห็น แสงแรก ประดับดิน วันที่ตอบ 2010-05-20 13:53:17


ความคิดเห็นที่ 15 (2066394)

  ด้วยประสบการณ์ของผมที่หมกมุ่นในการอ่านกวีมาตลอดทศวรรษมี    3   เล่มครับ

เล่มที่     1       โลกหมุนเร็วขึ้นกว่าเดิม

เล่มที่   2         บางโทนสีแห่งชีวิต

เล่มที่    3        โลกแห่งเวลาอาลัย

ไม่หนี    3   เล่มนี้แน่นอน    3   เล่มนี้เปรียบดอกไม้   3   ดอก   เด็ดดอกไหนขึ้นมาดมก็หอมชื่นใจเหมือนกันหมด

ไม่เชื่อลองเด็ดขึ้นมาดมสิ  แล้วจะรู้ว่าผมพูดจริง

ผู้แสดงความคิดเห็น คนชอบอ่านกวี วันที่ตอบ 2010-05-20 17:16:33



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.