ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป (โคลงสี่สุภาพ) 49 สำนวน
หน้า(3) สำนวนที่ 41-49
(41.ไชยเชษฐ์) กอไผ่ (ลมปาก)
ส่ง 26 มิถุนายน 2551 (ทางเว็บบอร์ด)
๏ เสียงซอในป่ากว้าง บรรเลง
อ้อเอียดออดสีเพลง กล่อมเร้า
กระทบทับข่มเหง ลำไผ่ กันนา
เสียงเสียดสีคละเคล้า ขับร้องเพลงแผล
๏ แลลำรอยเริ่มร้อน ทวีวัน
เพลิงคุประกายพลัน หมกไหม้
ฉวยโอกาสโหมรัน แผลงเดช
วายุทำลายได้ ใส่เชื้อผลาญเผา
๏ สังคมเราพรั่งพร้อม ปัญญา เลิศแล
รู้ตริตรองอัตตา สดับซ้ำ
พึงพิสูจน์วาจา มีสติ
เห็นสิ่งปั้นจากน้ำ ใช่ได้เป็นตัว
๏ มัวโมหะยุเย้า โกรธา ตามเฮย
ไหวอ่อนวจีหวานมา หว่านล้อม
คำถากถางโทสา พาลเดือด ใจนา
อุเบกขาธรรมน้อม ดับได้ไฟชน
๏ ต้นไผ่ไกวแกว่งได้ โดยลม
คนเมื่อฟังคารม เชื่อสิ้น
เอนตามคิดเห็นสม เหมือนไผ่ ไหวนา
หลงเล่ห์ลวงลมลิ้น ถูกต้อนโดยคำ
๏ อำนาจพจน์เถื่อนสร้าง วางกล โกงแล
หวังเสกกระแสตน ซ่อนร้าย
ลมปากเป่าหูคน สำเร็จ
กอไผ่กับชนคล้าย พ่ายด้วยแรงลมฯ
...............................................
(41. ไชยเชษฐ์) กอไผ่ (ลมปาก) (ฉบับแก้ไข)
ส่ง 26 มิถุนายน 2551 ฉบับแก้ไข (ทางเว็บบอร์ด)
๏ เสียงซอในป่ากว้าง บรรเลง
อ้อเอียดออดสีเพลง กล่อมเร้า
กระทบทับข่มเหง ลำไผ่ กันนา
เสียงเสียดสีคละเคล้า ขับร้องเพลงแผล
๏ แลลำรอยเริ่มร้อน ทวีวัน
เพลิงคุประกายพลัน หมกไหม้
ฉวยโอกาสโหมรัน แผลงเดช
วายุทำลายได้ ใส่เชื้อผลาญเผา
๏ สังคมเราพรั่งพร้อม ปัญญา เลิศแล
รู้ตริตรองอัตตา สดับซ้ำ
พึงพิสูจน์วาจา มีสติ
เห็นสิ่งปั้นจากน้ำ ใช่ได้เป็นตัว
๏ มัวโมหะยุเย้า โกรธา ตามเฮย
ไหวอ่อนวจีหวานมา หว่านล้อม
คำถางถากโทสา พาลเดือด ใจนา
อุเบกขาธรรมน้อม ดับได้ไฟชน
๏ ต้นไผ่ไกวแกว่งได้ โดยลม
คนเมื่อฟังคารม เชื่อสิ้น
เอนตามคิดเห็นสม เหมือนไผ่ ไหวนา
หลงเล่ห์ลวงลมลิ้น ถูกต้อนโดยคำ
๏ อำนาจพจน์เถื่อนสร้าง วางกล โกงแล
หวังเสกกระแสตน ซ่อนร้าย
ลมปากเป่าหูคน สำเร็จ
กอไผ่กับชนคล้าย พ่ายด้วยแรงลมฯ
...............................................
(42. นายณรงค์ศักดิ์) ลมปาก
ส่ง 23 พฤษภาคม 2551 (ทางไปรษณีย์)
๏ คำความบอกเล่านั้น ลมปาก
ใจอย่าหมายพึงฝาก ป่วยไข้
หลงลมล่อลืมยาก ตายแน่
เป็นแต่เพียงรับไว้ เผื่อพ้นมือตน
๏ ลมปากลวงเล่ห์ล้น นำใจ
หวังพึ่งหนทางใด ร่วมสร้าง
รอบคอบอย่าหลงใหล สุกห่าม เผากิน
จงไตร่ตรองลึกกว้าง ก่อนก้าวเดินตาม
๏ ลมใดฤๅเลื่อนย้าย ภูผา
ชนมุ่งยอยกมา เอ่ยไว้
ทำการดั่งเทพา เสกเป่า มนต์เวทย์
มาดมั่นลมปากไซร้ ห่อนได้โลกา
๏ ลมปากคนหนึ่งกั้น จงดี
คงค่าคุณวจี ผ่องแผ้ว
ความใดบ่หมายมี ยกย่น กันนา
ชนร่วมกันถึงแล้ว หน่อเนื้อภาษา
๏ ลมบางเบาแผ่วพริ้ว เพลินกาย
ยามค่ำเย็นใจคลาย เมื่อยล้า
ลมปากพร่ำเผลอผาย หืนหึ่ง
ทุกย่ำยามเองอ้า เร่งร้อนใจกายฯ
...............................................
หมายเหตุคณะทำงานฯ : ผิดกติกา ส่ง 5 บท (กำหนด 6-10 บท)
(43. สุรกิจ) ลมปาก
ส่ง 12 มิถุนายน 2551 (ทางไปรษณีย์)
๏ ลำนำความกล่าวถ้อย วาจา
ฤๅห่อนพิจารณา ถี่ถ้วน
ทุกข์ภัยย่อมตามมา เข็ญขื่น ดวงแด
คำซ่อนมลทินล้วน โทษร้ายราวี
๏ วจีใดเอ่ยเอื้อน รำพัน
หวานรื่นคุณอนันต์ ถ่องแท้
คำสัตย์อยู่นิรันดร์ ดุจเช่น ดาวเดือน
ผู้กล่าวคำเลิศแล้ ว่าผู้จริงใจ
๏ ชนใดเคยกล่าวร้าย ประจาน
เศร้าหม่นดลบันดาล ซ่อนช้ำ
ผู้ใดกล่าวคำขาน สัตย์ซื่อ วาจา
เต็มเปี่ยมเลิศสุขล้ำ กล่าวถ้อยคำนึง
๏ ลมปากพึงสื่อสร้าง ไมตรี
เสริมเสน่ห์บารมี เพื่อนล้น
งามสง่าเจิดราศี ขวัญมิ่ง กายใจ
เอิบอิ่มมิตรมากท้น ปราชญ์ชี้คนงาม
๏ ลมปากยามเอ่ยถ้อย ลำนำ
จงไตร่ตรองประจำ จดไว้
เตือนสติก่อนพูดทำ คิดแต่ ดีงาม
เกิดก่อประโยชน์ให้ แน่นแฟ้นไมตรีฯ
...............................................
หมายเหตุคณะทำงานฯ : ผิดกติกา ส่ง 5 บท (กำหนด 6-10 บท)
(44.สุรกิจ) ลมปาก
ส่ง 19 มิถุนายน 2551 (ทางไปรษณีย์)
๏ ลมปากถางถากถ้อย รำพัน
จมจ่อมโศกคืนวัน ซ่อนเร้น
มวลมิตรหมู่แปรผัน หายห่าง เลือนไกล
โดดเดี่ยวเดียวดายเช่น ผู้ร้างคนเคียง
๏ สำเนียงคำเอ่ยเอื้อน วาจา
กำหนดบทชะตา ขีดไว้
คำเพราะย่อมศรัทธา ผองหมู่ ปวงชน
คำหยาบย่อมหม่นไร้ สุขร้างเลือนราง
๏ วาจางดังเทพไท้ พรหมอินทร์
ลิขิตรอยชีวิน ซ่อนไว้
หยามหยาบหม่นยลยิน พูดพร่ำ คำตรม
เสนาะเพราะถ้อยใช้ เอ่ยอ้างคนดี
๏ งามศรีงามแห่งถ้อย นานเนา
เกิดก่อแต่วัยเยาว์ มุ่งเน้น
สำเนียงบ่มขัดเกลา สัตย์ซื่อ คำเฮย
จำจิตรู้ว่างเว้น หยาบถ้อยคารม
๏ ลมปากเหมือนดั่งห้วง วารี
เอื้อนเอ่ยแล้วไม่มี กลับย้อน
เปรียบเปรยเช่นนที ไหลล่วง
คำกล่าวเกริ่นสะท้อน ตรึกถ้วนตรองความ
๏ ป้องปรามตนก่อนเอื้อน วาจา
ตรองตริพิจารณา ถ่องแท้
บัณฑิตย่อมรักษา เกียรติซึ่ง ดีงาม
คำสัตย์หวานเลิศแล้ แด่ผู้ครองธรรมฯ
...............................................
(45.สมรภูมิ) เหล่ากอแห่งร้อยกรอง
ส่ง 24 มิถุนายน 2551 (ทางไปรษณีย์)
๏ งานร้อยกรองแจ่มแจ้ง กระจ่าง ใครหนอ
ทุกบทวรรคใจกลาง แต่งแต้ม
อักษรเด่นเล่นหาง ดึงดูด ผู้อ่าน
สูงต่ำแปลกประแล้ม ศิษย์ไหว้บูชาฯ
...............................................
หมายเหตุคณะทำงานฯ : ผิดกติกา ส่ง 1 บท (กำหนด 6-10 บท)
(45.สมรภูมิ) เหล่ากอแห่งร้อยกรอง (แก้ไข)
ส่ง 25 มิถุนายน 2551 ฉบับแก้ไข (ทางไปรษณีย์)
๏ งานร้อยกรองแจ่มแจ้ง กระจ่าง
ทุกบทวรรคใจกลาง แต่งแต้ม
อักษรเด่นเล่นหาง ดึงดูด ผู้อ่าน
สูงต่ำแปลกประแล้ม ศิษย์ไหว้บูชา
๏ เป็นหญ้าแพรกแตกราก ชูก้าน
ใบหลักแหลมเบ่งบาน ผลิงอก
ปลิ้วสะบัดอาจหาญ กกหน่อ พึ่งพา
รู้ศาสตราแหกคอก เก่งกล้าปัญญา
๏ คือมะเขือหล่นห้อย ผื้นดิน
ผลอ่อนแรงนุ่มนิ่ม ขาดดิ้น
น้ำตาหยดรดริน อาบอก ร้าวราญ
ยามเมื่อเจ้านั้นสิ้น หอกด้ามเชิงเชาวน์
๏ ดุจดอกเข็มเหลื่อมรอบ แพรวพราว
ร้อยท่าลวดลายราว เล่นงิ้ว
เชี่ยวชาญศาสตร์โน้มน้าว ขัดเกลา ทุกข์สุข
พ้นโศรกชื่นระลิ้ว ผ่องแผ้วปรีดา
๏ ดั่งกอไผ่หยาดย้อย สวยงาม
แสงส่องเขียวอร่าม คู่ฟ้า
ศูนย์รวมจิตล้นหลาม แบบอย่าง
ทั่วถิ่นแคว้นใต้หล้า ต่างเรียกอาจารย์
๏ เหล่ากอหมู่น้อม รำลึก
ท่านอบรมพร่ำฝึก ไม่เว้น
เกียรติศักดิ์ก้องกึก ยกย่อง เขตคราม
เช้าค่ำคอยเฝ้าเน้น กล่าวย้ำตักเตือนฯ
...............................................
(46.สุมลทิพย์) ลมปาก
ส่ง 25 มิถุนายน 2551 (ทางไปรษณีย์)
๏ วาจาคนต่างล้วน แอบแฝง
คำต่างจากแสดง ย่อมได้
จะพูดกล่าวยุแยง หรือกล่าว สัตย์จริง
จึงอยู่ลมปากใช้ บ่รู้ความใน
๏ ลมปากลวงเล่นลิ้น เจรจา
เป็นสื่อหลอกนำพา เล่ห์ร้าย
หลงคำจึ่งโศกา หมองหม่น
เปรียบหนึ่งอาวุธร้าย ฆ่าได้ควรเกรง
๏ ลมปากหวานไม่สิ้น จางหาย
เกิดสิ่งดีมากมาย กล่าวถ้อย
พูดหวานเรื่องกลับกลาย หนักยิ่ง เป็นเบา
ใครหมื่นฟังก็คล้อย บ่แย้งขัดหู
๏ เราฟังตรองไตร่ไว้ เป็นดี
จงเชื่อเหตุผลมี ที่ตั้ง
แยกแยะซึ่งวจี อันมุ่ง ประสงค์
ฟังเผื่อสติยั้ง อย่าได้หลงเผลอ
๏ การพูดก็เยี่ยงย้อน โยงใย
คิดก่อนจึงพูดไป สิ่งรู้
ลมปากกล่าวตามใจ อาจส่ง ผลเสีย
พูดง่ายกลายเป็นผู้ พ่ายแพ้ภัยตัว
๏ โบราณสอนว่าอ้อย แสนหวาน
มิเท่าพจมาน แน่แท้
หวานหูอยู่ทุกวาร มิเสื่อม จางหาย
หวานยิ่งยังหวานแพ้ ไม่สู้วจีฯ
...............................................
(46.สุมลทิพย์) ลมปาก (ฉบับแก้ไข)
ส่ง 26 มิถุนายน 2551 ฉบับแก้ไข (ทางไปรษณีย์)
๏ วาจาคนต่างล้วน แอบแฝง
คำต่างจากแสดง ย่อมได้
จะพูดกล่าวยุแยง หรือกล่าว สัตย์จริง
จึงอยู่ลมปากใช้ บ่รู้ความใน
๏ ลมปากลวงเล่นลิ้น เจรจา
เป็นสื่อหลอกนำพา เล่ห์ร้าย
หลงคำจึ่งโศกา หมองหม่น
เปรียบหนึ่งอาวุธคล้าย ฆ่าได้ควรเกรง
๏ ลมปากหวานไม่สิ้น จางหาย
เกิดสิ่งดีมากมาย กล่าวถ้อย
พูดหวานเรื่องกลับกลาย หนักยิ่ง เป็นเบา
ใครหมื่นฟังก็คล้อย บ่แย้งขัดหู
๏ เราฟังตรองไตร่ไว้ เป็นดี
จงเชื่อเหตุผลมี ที่ตั้ง
แยกแยะซึ่งวจี อันมุ่ง ประสงค์
ฟังเผื่อสติยั้ง อย่าได้หลงเผลอ
๏ การพูดก็เยี่ยงย้อน โยงใย
คิดก่อนจึงพูดไป สิ่งรู้
ลมปากกล่าวตามใจ อาจส่ง ผลเสีย
พูดง่ายกลายเป็นผู้ พ่ายแพ้ภัยตัว
๏ โบราณสอนว่าอ้อย แสนหวาน
มิเท่าพจมาน แน่แท้
หวานหูอยู่ทุกวาร มิเสื่อม จางหาย
หวานยิ่งยังหวานแพ้ ไม่สู้วจีฯ
...............................................
(47. ธ ไทย) แค่
ลมปาก
ส่ง 30 มิถุนายน 2551 (ทางไปรษณีย์)
๏ วาทีที่พูดแล้ว พึงจำ
ยึดมั่นสัญญาทำ เลิศแท้
วาทีหากคืนคำ ถ้อยเท็จ
เป็นแค่ลมปากแล้ พจน์ไร้ความหมาย
๏ กระจายขายข่าวสร้าง กระแส
ปลุกระดมปรวนแปร ปลุกเร้า
กล่าวอ้างประชดแฉ ชวนเชื่อ
โน้มจิตน้าวใจเย้า ปากโอ้โลมลม
๏ ชมชื่นเพราะเชื่อแล้ว เชื่อเลย
อำนาจลมปากเปรย ไป่รู้
ตื้นลึกบ่ยอมเผย ถูกผิด
จริงเท็จแน่แท้ผู้ พูดนั้นรู้ดี
๏ วจีหวานลึกล้ำ รื่นหู
จรูงจิตเคลิบเคลิ้มชู เชิดด้วย
ถ้อยคำหว่านล้อมพรู ฟังเพราะ
กล้ายว่ากล้วยก็กล้วย ชอบแล้วตามเขา
๏ ลมเป่าจากปากสร้าง ศรัทธา
สำเร็จกิจพจนา กลับสิ้น
หมื่นคำมั่นวาจา ลืมหมด
แท้ก็เล่ห์ลมลิ้น ล่วงรู้เมื่อสาย
๏ ท้ายสุดลมปากนั้น คือลม
มธุรสชื่นหวังชม ทุกถ้อย
ตระบัดสัตย์เข็ดขม แสนขื่น
เชื่อมิได้สักน้อย ปากนั้นเป่าลม
๏ สังคมสงบสุขด้วย ถือสัตย์
โอษฐ์เอ่ยเอื้อนศุภอรรถ ถ่องแท้
เจรจาแจกแจงชัด จริงเท็จ
ลมจากปากนั้นแล้ พจน์ล้ำเชื่อถือฯ
...............................................
(48.ภูมิชาย) ยุคข้าวยากหมากแพง
ส่ง 3 กรกฎาคม 2551 (ทางไปรษณีย์)
๏ จงเก็บผักเพาะกล้า กันนา
เก็บเกี่ยวลุยหาปลา พี่ป้า
ปลูกผักง่ายลุงอา นาพ่อ
ไปไร่จอบมีดพร้า ย่อมไร้ยากจน
๏ ยุคทนข้าวยากแท้ แม่เอย
ขึ้นค่าน้ำมันเหวย รถได้
ราคาข้าวสูงเลย ปลิวว่อน
ตีค่าของกินใช้ เร่งร้ายเข้ามา
๏ หากพี่น้าช่วยใช้ ประหยัด
ลดค่าเร็วรัด ช่วยคุ้ม
จะได้ไม่วุ่นจัด นาพี่
หากไม่ตัดจะกลุ้ม ย่อมให้จำเป็น
๏ รถยนต์เน้นจะใช้ คิดนา
เพราะค่าน้ำมันมา แล่นได้
พรวดพลาดพุ่งราคา เร็วรี่
คิดใคร่ครวญกันไว้ ไม่ให้อกตรม
๏ ชมชื่นทางที่ใกล้ เดินนา
เหนื่อยหน่อยพลอยตรึงตรา ช่วยได้
แข็งแรงมั่นมายา นาพี่
เร็วรี่ประหยัดไว้ มั่นน้ำใจคน
๏ จักรยานทนปั่นได้ ก็ดี
เสริมค่าคุณชีวี ชื่นให้
อดทนไม่โรคี นาแม่
ยังช่วยลดค่าใช้ จ่ายได้มั่นคงฯ
...............................................
หมายเหตุคณะทำงานฯ : ผิดกติกา ประทับตราไปรษณีย์หลังวันที่ 30 มิถุนายน 2551
(ประทับตรา 3 กรกฎาคม 2551)
(49.ภูมิชาย) มือแขนของแผ่นฟ้า
ส่ง 3 กรกฎาคม 2551 (ทางไปรษณีย์)
๏ ลืมตาเห็นก่อนใกล้ ใดนา พี่เอย
ลุกตื่นจัปปากกา ครุ่นคล้าย
กระดาษแผ่นหยิบมา คิดก่อ งานเขียน
รุดเร่งมองซ้ายขวา นั่งได้สงบ
๏ พบเห็นก็ว่าไว้ รีบจด เร็วพี่
ยามรุ่งมิราลด ซ่อนร้าว
จับจิตที่กำหนด ก็ช่วย นาพ่อ
อีกหนึ่งรีบรุดก้าว นี่ค้นชีวี
๏ มีงานเขียนที่ได้ นานา ความคิด
ชอบชื่นใจหนักหนา ว่ากล้า
ดุจดั่งฝันเยือนมา หาเพื่อ บันทึก
เร็วรี่มิโรยร้า เชื่องช้าพี่เอย
๏ เฉยนักก็ไม่ได้ ใดใด นาพ่อ
แดดร่มลมพัดไป ชื่นฟ้า
หากมุ่งมั่นในใจ ก็ง่าย ใดเลย
ใจเชื่อเพราะก่อกล้า ท่านนั้นฝันดี
๏ นำความดีว่าไว้ นาที พี่เอย
ทุกช่วยประชาชี ทุ่มให้
ใจใสซื่อเร็วรี มิพรั่น ทันใด
มาช่วยปัดยากไร้ เชื่อได้ไทแดน
๏ มือแขนของแผ่นฟ้า ปากกา ดินสอ
คือชื่อคือประชา พร่ำไว้
ทุกข์ยากก่อชีวา ทราบซึ่ง ความจริง
คงมั่นฝันไฟให้ ท่านนั้นกวีฯ
...............................................
หมายเหตุคณะทำงานฯ : ผิดกติกา ประทับตราไปรษณีย์หลังวันที่ 30 มิถุนายน 2551
(ประทับตรา 3 กรกฎาคม 2551)