ระดับมัธยมปลาย (กลอนสุภาพ) 33 สำนวน
หน้า(1) สำนวนที่ 1-20
1. ปภาวรินท์
อีเมล์ / 9 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ ตะวันงามลาลับจากฟากฟ้า พสุธาวุ่นวายก็พลันหาย
ความเศร้าโศกทุกข์กายที่มากมาย ยังมลายเบาบางบรรเทาลง
๏ เมื่อราตรีครอบงำฟ้าสลัว ขมุกมัวแต่แจ่มได้เพราะดาวฝน
ดารภาเป็นสายกระจายปน ดุจปลอบตนในความมืดมีความงาม
๏ หลากปัญหาหลากข้อจะแก้ไข แต่เหตุใดใจจิตกลับสิ้นหวัง
ในฤทัยอ่อนท้อย่อพลัง ประดุจดังอุษาสิ้นมาพักรอ
๏ อยากให้รักแตะแต้มเติมชีวิต เพียงน้อยนิดชื่นดีมิหมายขอ
พบสิ่งใดมีเธอช่วยถักทอ แค่นั้นพอผาสุกสำราญใจ
๏ ประหนึ่งเป็นสีหราชที่อาจอง ก้าวย่างลงมั่นคงไม่หวั่นไหว
มีเป้าหมายมุ่งมั่นไม่เกรงใคร ทั่วพงไพรสู้ได้แม้ไพรี
๏ เวลานี้ตรงนี้ที่ฉันนั่ง คะนึงคิดพิจชั่งจนถ้วนถี่
สิ่งที่เรียกทางออกย่อมต้องมี หากชีวีดำรงได้พบเลย
..................................................................................
2. กวีถิ่นน้ำเค็ม
อีเมล์ / 14 สิงหาคม 2551
ด้วยพระบารมี
๏ ประเทศไทยใกล้เข้าสู่สุญญากาศ เหมือนจะขาดสิ้นใจให้ตายหนี
ความวุ่นวายหลายคนทนยอมพลี เหล่าคนดีที่สละรักษาไทย
๏ ชาวประชาแตกแยกสาแหรกขาด คนฉ้อราษฎร์บังหลวงลวงหวั่นไหว
ฉุดรั้งขังบ้านเมืองมิเรืองไกล สิ้นไฉไลในแผ่นดินถิ่นแหลมทอง
๏ ร่วงโรยรดหยดน้ำตาคราสูญเสีย มีศาลเตี้ยตัดสินกัดกินผอง
ไร้อำนาจชาติตระกูลสูญสิ่งปอง อยู่เป็นรองของผู้อื่นไร้รื่นรมย์
๏ เหตุประชาธิปไตยไร้ทางออก ถูกพูนพอกสิ่งผิดดุจติดหล่ม
มีผู้ร้ายรายล้อมพร้อมฉุดจม เป็นสายลมเป่าปัดตัดบุรี
๏ แต่ทุกข์ภัยได้จางหายมลายพัด เพราะกษัตริย์ขัตติยะพระทรงศรี
อยู่คู่ชาติปราชญ์ผู้รู้องค์ภูมี หกสิบปีครองราชย์ราษฎร์ร่มเย็น
๏ หากมีเหตุเภทภัยได้พัดผ่าน หนักเอาการปานนี้ที่เศร้าเข็ญ
ผองประชาชวดสุขทุกข์ลำเค็ญ มองไม่เห็นทางออกหมอกบดบัง
๏ ได้เม็ดฝนโปรยปรายกระจายทั่ว ความมืดมัวจางหายได้ความหวัง
น้ำพระทัยทรงให้เป็นพลัง ประตูขังพังทลายเห็นปลายทาง
๏ ร้อยดวงใจทั้งใกล้ไกลได้สรรเสริญ พระเจริญเพราะความดีที่ทรงสร้าง
องค์กษัตริย์พัฒนาสู่ศูนย์กลาง พระทรงวางแนวทางไว้ให้ผองชนฯ
..................................................................................
3. กวีถิ่นน้ำเค็ม
อีเมล์ / 15 สิงหาคม 2551
ร่วมมือกันสรรหาทาง (ออก)
๏ อันชีวิตวิจิตรได้ดั่งใจหวัง ข้ามถึงฝั่งที่ตั้งใจไม่ยากหนอ
สองฝ่าเท้าก้าวไปไม่รั้งรอ เพียงอย่าท้ออย่ารอแพ้แม้ลำเค็ญ
๏ ทางธานีศรีไสวไร้ทางออก เหมือนเมฆหมอกพอกไว้ไม่ให้เห็น
เดินหลงทางรางเลือนพึ่งเคยเป็น แสนทุกข์เข็ญพบทางตันพลันมืดมน
๏ ไร้เปลวเทียนเปลี่ยนราตรีที่มืดมิด ไร้ความคิดเพราะจิตใจใคร่สับสน
ไร้ดีงามความชั่วคั่วปลอมปน ไร้ผู้คนช่วยเหลือเมื่อขาดแคลน
๏ ขาดซึ่งแสงสุริยะอรุณรุ่ง พนาทุ่งเขียวขจีที่หวงแหน
ความเจริญเดินผ่านทุกย่านแดน เป็นปึกแผ่นแน่นแคว้นมลายไป
๏ สามัคคีนี้จะพาหาทางรอด สะพานทอดนำทางหานภาใส
แม้รอบกายรายขวากหนามยาวทางไกล ข้ามผ่านภัยด้วยใจสู้ดูมั่นคง
๏ หลายความคิดพิชิตอุปสรรค ร้อยความรักจักช่วยฝ่าผ่านทางหลง
ล้านความดีที่ควรคู่อยู่ยืนยง ร้อยเรียงส่งคงก้องล้ำถึงอำมร
๏ ร่วมหันหน้าหาทางสมานฉันท์ ร่วมมือกันสรรหาทางออกก่อน
เห็นความผิดปลิดความดีอย่างนิ่งนอน พาจากจรจากแคว้นแดนพิมาน
๏ อุปสรรคจักหายมลายสิ้น ไร้ราคินโบยบินไปใจขับขาน
เหล่าประชาพาไร้ทุกข์สุขสำราญ และสืบสานลูกหลานไทยได้เปรมปรีดิ์ฯ
..................................................................................
4. กวีหลังห้อง
อีเมล์ / 20 สิงหาคม 2551
ทางออกด้วยมือแม่
๏ ยินเสียงนกที่กกยอดทอดเสียงเศร้า ทุกข์รุมเร้าคลุกเคล้าไปไร้เสียงใส
แม้จะเปล่งเร่งกึงก้องทั่วท้องไพร จะมีใครใคร่แบ่งเบาเศร้าโศกา
๏ ต้องพลัดพรากจากแม่แต่ยังเด็ก ตัวยังเล็กปีกน้อยน้อยค่อยเคลื่อนหา
เพลาสั้นผันไปแม่ได้ลา ลูกนกหนาพาจิตน้อยคล้อยโผบิน
๏ ตาดวงนี้ที่น้ำตาพรั่งพรูไหล ดวงฤทัยไซร้ชอกช้ำชาเป็นหิน
หาเสียงแม่แลฟังมิได้ยิน ร่วงลงดินตาฝ้าฟางพบทางตัน
๏ เป็นมนุษย์สุดเลิศล้ำกรรมดีมาก มิลำบากตรากตรำทุกข์มหันต์
เพราะมีแม่แผ่คุ้มครองและป้องกัน และช่วยสรรช่วยสร้างทางให้เดิน
๏ แม่คือผู้กำจัดปัดเป่าทุกข์ แม่สร้างสุขอนันต์น่าสรรเสริญ
แม่การุญคุณธรรมสู่จำเริญ คุณแม่เกินกว่านภาโลกาไกล
๏ จูงมือลูกฟันฝ่าหาทางออก ผ่านควันหมอกหอกกั้นไม่หวั่นไหว
บดบังทุกข์สุขร่มเย็นเป็นต้นไทร ที่ยิ่งใหญ่ในใจลูกทุกคนเอย
..................................................................................
5. ทิพรดา
21 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ ไทยโบราณนานมาช่างยิ่งใหญ่ ท่านสร้างไว้พลีแรงกายใจสมาน
สานแผ่นดินสินแผ่นฟ้าห่มลำธาร ร่วมประสานเป็นผืนแผ่นดินไทย
๏ สืบต่อมาบ้านเมืองเรืองรุ่งยิ่ง ธ เป็นมิ่งหลอมใจไทยคงหนึ่งไว้
เราทุกคนยอมพลีชีพเพื่อขวานไทย ทุกดวงใจร่วมปกป้องขวานทองมา
๏ แต่แล้วขวานอันแข็งแรงก็เริ่มทรุด จากแรงฉุดหยุดรักชาติไม่รักษา
ทีละเล็กทีละน้อยค่อยเพิ่มมา จากด้ามหนากลายเป็นอ่อนเริ่มคลอนแคลน
๏ เราทุกคนก็คือขวานเล่มนี้ เสื่อมยามที่คนไทยไม่หวงแหน
ไม่รักชาติไม่ผูกพันฆ่ากันแทน อาฆาตแค้นอีกทะเลาะไม่พอใจ
๏ จะเป็นชาติได้อย่างไรวันพรุ่งนี้ หากไม่มีสามัคคีคงหาไม่
ขอเราจงหาทางออกเพื่อชาติไทย ให้อยู่ไปนิรันดรตลอดกาล
๏ ทางออกอันสำคัญด้วยสิ่งนี้ สามัคคีคือพลังนำไทยหาญ
เราจะอยู่คู่ผืนไทยอันชัยชาญ ทางออกนั้นคือพลังเพื่อไทยเอย
..................................................................................
6. นริสา
อีเมล์ / 21 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ จักดำรงชีวิตนั้นมิง่าย ล้วนมีสิ่งท้าทายอยู่เบื้องหน้า
ทั้งความสุขความทุกข์ประดังมา ให้นำพาชีวิตฟันฝ่าไป
๏ ยามมีสุขผู้คนอยู่รอบข้าง ไม่จืดจางห่างเหินไปหนไหน
ดั่งดอกไม้เบ่งบานในดวงใจ แลทางใดล้วนเป็นสีชมพู
๏ ตรงกันข้ามกับยามเมื่อมีทุกข์ เช่นรักคุดคิดไปใจอดสู
คิดคิดไปเหมือนมุดอยู่ในรู ไม่ล่วงรู้หนทางล่วงผ่านไป
๏ จริงจริงแล้วทุกสิ่งมีทางออก เพียงมองนอกกรอบคิดจะแจ้งไข
วิเคราะห์เหตุและผลว่าอะไร เพื่อนำไปปรับใช้ให้ถูกงาน
๏ พระท่านสอนให้เรามีสติ อย่าไปริทำใจให้ฟุ้งซ่าน
แล้วปัญญาจะเลิศปรีชาชาญ ทุกเหตุการณ์ผ่านพ้นไปด้วยดี
๏ ชีวิตนี้ก็จะมีแต่ความสุข ไม่มีทุกข์โศกเศร้าให้หมองศรี
วันเวลาผ่านไปเนิ่นนานปี สิ่งดีดีจะคงอยู่คู่กับเรา
..................................................................................
7. กวีหลังห้อง
อีเมล์ / 21 สิงหาคม 2551
ทางออกแด่ผองชน
๏ ใบไม้ปลิวลิ่วลมชมเกสร ใบไม้ร่อนจากจรบ้านพนาสัณฑ์
ใบไม้ร่วงโรยดินถิ่นเถาวัลย์ มิอาจกั้นอิสระระรื่นไป
๏ ต่างคนเราเศร้าใจอยู่ในกรอบ กะลาครอบคลุมไว้ไม่ไปไหน
มืดสนิทปิดไว้ไม่ถูกใจ อยากออกไปได้พบแสงสุริยา
๏ ใคร่เชยชมอารมณ์ศิลป์โบยบินทั่ว ไร้ความกลัวแม้อยู่ยอดภูผา
ถึงพบถิ่นโขดหินกั้นกันทุกครา รวมความกล้าฝ่าอุปสรรคจักพบทาง
๏ ความพากเพียรจะฆาตความหวาดหวั่น ความสร้างสรรค์พลันเปลี่ยนความบาดหมาง
ความซื่อตรงคงควรคู่อยู่เป็นกลาง อย่าได้สร้างทางตันปิดกั้นตัว
๏ ทอดสะพานผ่านประตูสู่ทางออก โลกภายนอกสดใสไร้สลัว
ทางอบายเหหันอย่าพันพัว ไม่เกลือกกลั้วมัวเมาที่เข้ากาย
๏ เสริมพลังฝังปลูกถึงลูกหลาน ตลอดกาลนานไปไม่จางหาย
ถึงรวยรินสิ้นชีพชีวาวาย ก็ขอคลายเปิดปลายทางสร้างเสริมคนฯ
..................................................................................
8. ศยามล
อีเมล์ / 22 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ เมื่อปัญหาก้าวเข้ามาในชีวิต ควรฉุกคิดพิจพิเคราะห์และเสาะหา
หนทางแก้แท้จริงด้วยปัญญา ให้ได้มาซึ่งทางออกถูกคลองธรรม์
๏ ในบางคนเมื่อจนจิตคิดไม่ออก อกสามศอกด้วยจนตรอกไม่เชื่อมั่น
ยอมหยุดยืนเลิกเดินต่อท้อกลางคัน ทางเดินสั้นไม่ถึงฝันบั้นปลายทาง
๏ แม่บอกว่าอย่ายอมแพ้ท้อแท้ก่อน อีกพร่ำสอนให้หมั่นคิดอย่างสรรค์สร้าง
ปํญหาใดใหญ่น้อยอย่าปล่อยวาง ค่อยค่อยแก้ทีละอย่างไม่ค้างคา
๏ ทางแก้ไขไม่ดีมีแต่ทุกข์ เลือกให้ถูกมีความสุขแน่หนักหนา
อย่าให้ต้องข้องเกี่ยวแหล่งมายา หรือนำพาชีวาให้ผิดไป
๏ วิธีแก้สารพัดไม่ขัดข้อง แต่ต้องลองเลือกให้ดีมิหวั่นไหว
หาทางออกไม่ได้ทำอย่างไร ปรึกษาใครที่ไว้ใจแม้สักคน
๏ ทั้งพ่อแม่ผู้มีพระคุณเหลือ อีกคุณครูผู้จุนเจือคลายสับสน
เพื่อนสนิทมิตรสหายหลายบุคคล ปัญหาใดไม่หมองหม่นด้วยปัญญา
๏ ความมานะบากบั่นสำคัญยิ่ง อย่าได้ทิ้งสิ่งนี้ที่รักษา
เพื่อให้ช่วยเป็นแรงผลักดันพา จนได้มาซึ่งทางแก้แน่นอนเอย
..................................................................................
9. ศิลา
อีเมล์ / 23 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ เด็กน้อยเร่งร้อยเรียงพวงมาลัย ดวงอาทิตย์ดาราสาดแสงสี
เดินดินย่ำออกหาคนใจดี แต่ไม่มีคนซื้อพวกมาลัย
๏ เด็กน้อยไร้ที่อยู่พิงอาศัย มีใครไหมที่เหลียวมองไซร้
เด็กขายพวงมาลัยตาใส เราควรช่วยมาใส่ใจแก้ปัญหา
๏ คนจนยากเดือดร้อนเป็นทุกหนา การศึกษาเด็กไทยต้องพัฒนา
ลูกหลานไทยขาดความรู้ทางปัญญา เป็นปัญหาอีกหนึ่งที่สำคัญ
๏ เด็กมาลัยทุกข์ทนแบกภาระ พัฒนะแบ่งเขตกลับถูกคั่น
รวยหรือจนอยู่ที่เงินแตกต่างกัน ขาดความมั่นทางฐานะจึงแยกห่าง
๏ ดวงอาทิตย์อัสดงยามพลบค่ำ ทนตรากตรำเด็กน้อยเดินย่ำย่าง
บนสี่แยกทั้งเหนื่อยกายทั้งอ้างว้าง ยามค่ำค้างขายมาลัยหวังสักพวง
๏ เดินผ่านพบรู้สึกสุดสงสารยิ่ง แทบทุกสิ่งดูย่ำแย่น่าเป็นห่วง
เด็กชายขอบนอกกรอบของเมืองหลวง มุมมองลวงหลงหลอกคิดน่าเศร้าจริง
๏ ให้โอกาสมีค่าสำคัญมาก ถ้าคุณหากลองเหลียวมองดูบางสิ่ง
ทุกๆคนสามารถช่วยอย่าทอดทิ้ง อย่านอนนิ่งควรใส่ใจในสังคม
..................................................................................
10. เมริษา
อีเมล์ / 24 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ สายลมหวนปรวนแปรในฟ้ากว้าง โลกเคว้งคว้างว่างเปล่าไร้จุดหมาย
มากคำถามไร้คำตอบไม่คลี่คลาย น่าเบื่อหน่ายวัฏจักรที่วกวน
๏ ถึงเรียกหามืออื่นช่วยฉุดคว้า ให้ฉุดพาจิตใจจากสับสน
ให้ตัวเราหลุดจากทางที่มืดมน นอกจากตนไม่อาจพึ่งคนอื่นใด
๏ เพียงเริ่มก้าวเดินไปทีละน้อย ดีกว่าคอยอยู่กับที่ไม่ไปไหน
ถึงทางเดินจะทอดยาวไปแสนไกล หากแต่ใกล้ถึงปลายทางในทุกวัน
๏ ดั่งเข็นครกขึ้นภูเขาที่ว่ายาก แม้ลำบากแต่ไม่ท้อมุ่งสู่ฝัน
เจอปัญหามากมายจงฝ่าฟันก้าวข้าม ทันความคิดจิตใจคน
๏ อาจมีบ้างที่เจอภูเขาสูง มีท่อนซุงพายุใหญ่หรือห่าฝน
มาขัดขวางเส้นทางให้ทุกข์ทน ต้องดิ้นรนฝืนแรงเพื่อก้าวไป
๏ ถึงปลายทางผ่านขวากหนามและทุกสิ่ง จิตใจนิ่งดั่งผืนน้ำมิหวั่นไหว
เพราะค้นพบทางออกจากภายใน เข้าถึงใจเบื้องลึกแห่งตัวตน
..................................................................................
11. เฟรนซ์ฮอร์น FrenchHorn
อีเมล์ / 24 สิงหาคม 2551
อย่าให้ใครขีดเส้นตายให้กับตน
๏ ทางสว่างส่องแรงแสงสวยสด ทางเส้นนั้นพลันจรดซึ่งปลายฝัน
ทางมืดมนแม้รำไรไม่สำคัญ ทางออกถูกปิดกลั้นโดยผู้ใด
๏ ทางเลือนรางห่างเหลือเกินเผินเบื้องหน้า ออกตามหาฟ้าสีทองเรืองรองใกล้
ทางเลือนรางกลับห่างไปไกลแสนไกล ออกตามหาท้าหัวใจใช่อ่อนกาย
๏ ทางสีสดงดงามใครสรรค์สร้าง ออกเดินทางตามกำหนดมีจุดหมาย
ทางที่เป็นเห็นผู้คนยืนเรียงราย ออกเดินตามคนมากมายคล้ายเร่งเดิน
๏ ทางทรหดคดเซเฉเปลี่ยนเคลื่อน ออกย่างก้าวคราวเปรอะเปื้อนเพียงอยากเหิน
ทางใกล้ใกล้ที่ต้องพบสบเผชิญ ออกคล้ายคล้ายแนวเนินที่ผุพัง
๏ ทางชีวิตถูกปิดเพราะใครเล่า ทางมัวเมาเราจึงสร้างดั่งใจหวัง
ทางแสนสุขไม่ใช่ทางประทัง ไร้ทางออก เพราะแผนผัง ไร้ลวดลาย
๏ ออกเสาะหาฟ้าคราม นามชีวิต ออกค้นหาด้วยความคิดวิจิตรหลาย
ออกไปสิ! จงก้าวเดินอย่างท้าทาย อย่าให้ใครขีดเส้นตายให้กับตน
..................................................................................
12. ดานัฐ
อีเมล์ / 25 สิงหาคม 2551
ทางออก : ในชีวิตใหม่
๏ มีทางออกเสมอแค่เธอคิด แค่เธอลองนึกสักนิดตัวปัญหา
แค่เธอลองเปิดใจเพียงเธอกล้า จะรู้ว่าเรื่องนั้นหนาแค่นิดเดียว
๏ หากยังหวั่นยังท้อก็ไม่พบ ก็ไม่จบยังปวดร้าวอยู่เสมอ
หากเข้มแข็งฝ่าฝันที่พบเจอ โลกวันใหม่ของเธอต้องสวยงาม
๏ อุปสรรคมีไว้ให้ยืนสู้ ให้เรียนรู้ประสบการณ์ให้ผ่านผัน
คำว่าร้ายเหมือนเป็นแรงคอยผลักดัน ไปสู่ฝันถึงสิ่งนั้นที่ตั้งใจ
๏ หากเธอมีความฝันจดจำไว้ ฝันให้ไกลไปให้ถึงจุดมุ่งหมาย
กำลังใจเป็นเพื่อนคู่เคียงกาย จะอย่างไรยังภูมิใจที่ได้ทำ
๏ ค่อย ๆ เริ่มจากหนึ่งไปถึงร้อย เริ่มจากน้อยไปหามากมหาศาล
สิ่งที่หวังหากมุ่งมั่นไม่ช้านาน ผลของงานเปรียบเหมือนค่าของคน
๏ ความสำเร็จนั้นอยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่ดั่งเช่นคำอธิษฐาน
สักวันหนึ่งหากค้นคว้าต้องพบพาน อย่ารอกาลเรียนรู้ทำชำนาญเอง.
..................................................................................
13. วีรสิทธิ์
อีเมล์ / 25 สิงหาคม 2551
ทางออก : ในชีวิตใหม่
๏ รัตติกาลมืดมิดบิดบังแสง โลกีย์แรงร้อนรุ่มสุมโทสา
จิตหมองมัวขลาดเขลาเบาปัญญา ท้องนภาอับแสงแห่งอาทร
๏ สิ้นเมตตาปราณีอารีรัก สูญสมัครสามัคคีศรีคำสอน
โกงแก่งแย่งอำนาจอาจนาคร ฉันมาก่อนฉันโด่งดังหวังทำลาย
๏ หยาดน้ำตาธรณีรินไหลหลั่ง โลกล้าหลังจรรยาพาสูญหาย
คนทุกข์ยากลำบากเจ็บเจียนตาย ชั้นเจ้านายสุขอุรามิมาแล
๏ ร้อยกวีรันทดสลดจิต เพ่งพินิจหนทางพ้นร่างแห
บรรเลงกลอนเป็นอารมณ์อันปรวนแปร หนทางแก้สู่สว่างยังห่างไกล
๏ จะมีใครไหนเล่าเข้าใจบ้าง นำหนทางประชามิเฉไฉ
จะมีใครไหนเล่าที่เข้าใจ มองการณ์ไกลคุณธรรมน้อมดำรง
๏ จะมีใครไหนเล่าร่วมทุกข์สุข กล้ารับรุกปัญหาสมประสงค์
จะมีใครไหนเล่าที่มั่นคง หยัดยืนยงคุณธรรมนำแผ่นดิน
๏ ทางออกใดไปสู่แสงสว่าง อันกระจ่างใจมนุษย์ผุดผกผิน
สู่โลกกว้างกลางธรรมนำชีวิน ล้างมลทินสิ้นทรวงดวงกมล
๏ ทางออกใดใฝ่รักสมัครแน่น ไร้ซึ่งความแร้นแค้นสิ้นสับสน
ทางออกใดนำประเสริฐเกิดแก่ตน ไร้กังวลหวาดระแวงแก่งแย่งกัน
๏ ทุกข์ย่อมเกิดแก่ใจผู้ให้ทุกข์ อันความสุขเกิดแด่ใจผู้สร้างสรรค์
ความดีคืออำนาจอาจทรงธรรม์ ความชั่วนั้นเปรียบไพรีที่กรีธา
๏ ทางออกแท้คือใจใช่ยากนัก เลือกจะรักเลือกจะดีมิกังขา
ครองใจตนครองคนได้ด้วยธรรมา คือทางออกเบิกฟ้าสมใจเอย.
..................................................................................
14. กวีหลังห้อง
อีเมล์ / 29 สิงหาคม 2551
ทางเข้า
๏ จ้องมองฟ้าราตรีที่มืดมิด จ้องชีวิตปริศนาน่าสับสน
จ้องเมฆาแปลกตาน่าพิกล จ้องมองคนดิ้นรนทนเข็ญใจ
๏ เมืองมายาใหญ่ยิ่งสิ่งลวงหลอก คนกลับกลอกยักยอกไว้ไม่โปร่งใส
ความเจริญเดินไปได้ไม่ไกล เพราะว่าไร้คุณธรรมนั้นนำทาง
๏ รวดเร็วรี่คลี่คลายกรายทางออก ทุกที่ตรอกซอกซอยลบรอยหมาง
นโยบายเพื่อประชาจัดหาวาง รีบสะสางทุจริตคิดทำลาย
๏ หลายร้อยพันวันนี้ชีวีกลุ่ม หลายร้อยกลุ่มขัดแย้งแย่งสิ่งหมาย
หลายร้อยป่าสายน้ำที่ทำลาย ความเสียหายรายล้อมเหลือคณา
๏ นาฬิกานี้ไร้กลับมิปรับย้อน อย่านิ่งนอนผ่อนแรงเร่งใฝ่หา
พบสิ่งดีไขว่คว้าเข้ากายา จะนำพาหาสุขที่หมายปอง
๏ ปรารถนาเปลี่ยนทางนั้นเป็นทางเข้า ดับความเศร้าเป่าทิ้งสิ่งมัวหมอง
นภายิ้มอิ่มฤทัยได้จ้องมอง เกิดแสงทองผ่องอำไพในธานีฯ
..................................................................................
15. กวีหลังห้อง
อีเมล์ / 29 สิงหาคม 2551
ร้อยรวมกัน
๏ หากสิ่งใดไม่อาจแก้ปัญหาได้ ใช้ฤทัยไตร่ตรองลองวางแผน
ทั้งสติปัญญาหาขาดแคลน เป็นหมื่นแสนแล่นล้ำนำออกมา
๏ นคราอาศัยล้านชีวิต ล้านความคิดจิตวาดปรารถนา
สิ่งฉ้อฉลกลลวงล้านดวงตา ล้านประชาหาทางออกหอกทิ่มแทง
๏ น้ำเคยใสกลับกลายฉายสีขุ่น ยามอรุณกลับกลายมิฉายแสง
ธรรมชาติอาฆาตเกรี้ยวกราดแรง ความเปลี่ยนแปลงสาหัสวิบัติภัย
๏ เพื่อนมนุษย์ฉุดนำทุกข์ที่มัวหมอง ความปรองดองน้องพี่นี้สั่นไหว
อำมหิตจิตถูกหนอนเข้าชอนไช เพราะว่าใจสกปรกรกรุงรัง
๏ ทุจริตดวงจิตคิดไม่ซื่อ ปล่อยข่าวลือลบความผิดคิดกลบฝัง
แสร้งทำดีน้อยนิดคิดโด่งดัง สร้างเป็นคลังขังผู้คนยลสิ่งปลอม
๏ จงพิทักษ์รักษ์หวงแหนแดนแห่งนี้ สามัคคีประชาพารวมหลอม
ใครคิดร้ายทำลายไซร้เราไม่ยอม พวกเราพร้อมเปิดทางออกตอกสามานย์
..................................................................................
16. ฆาตกวี
อีเมล์ / 29 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ เพลิงโลกันตร์บรรลัยโลกอัคคีร่าน วิกฤตการณ์กลียุคทุกข์ผันผวน
อสุนีบาตฟาดกระหน่ำซ้ำทบทวน ธุลีอวลตัณหาเคล้าราคิน
๏ เพื่อพ้นทางสัจธรรมอันเที่ยงแท้ หนีความแก่ เจ็บ ตาย มลายสิ้น
จึงย่างเท้าก้าวพ้นเขตนครินทร์ บุกดงดินมุ่งหน้าฝ่าแดนธรรม์
๏ ทิ้งความสุขความใคร่ในสตรี แลหลีกลี้เลี่ยงชีวิตเคยสุขสันต์
ออกผนวชเป็นสมณะแต่ปางบรรพ์ หวังชีวันพบสัจฉิกิริยา
๏ บำเพ็ญทุกข์สุดเทวษถ้วนวรงค์ เจตจำนงล่วงรู้ข้อกังขา
เหตุใดเทวทูตสี่ที่นำพา จึงนับว่าสัจธรรมนำปุถุชน
๏ เมื่อความเพียรถึงจุดหนึ่งจึงเข้าใจ ความเจ็บปวดนั้นไซร้ดูไร้ผล
ไกลแสนไกลคือปลายทางอันมืดมน กายท่วมท้นท้อแท้ด้วยไร้มรรคา
๏ กลับเปลี่ยนจิตคิดวิธีหนีความทุกข์ ด้วยความสุขสุดแสนแสวงหา
ปล่อยจิตว่างกระจ่างแจ้งแห่งสัจจา ทรมาณ์จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร
๏ เมื่อคิดได้จึงคลายใจให้สงบ และพานพบหนทางสว่างไสว
ทางออกเปิดปรากฏอยู่ไม่ไกล เกินคว้าไขว่สุดท้าย ณ ปลายทาง
๏ มารโลภะ โมหะและโทสา คอยยั่วยวนบังตาให้หมองหมาง
จึงใช้จิตสงบมุ่งทางสายกลาง ทำลายล้างความชั่วร้ายมลายลาญ
๏ ประตูแห่งทางออกจึงเปิดกว้าง นำหนทางทอดตรงสู่สุขสถาน
อริยสัจปรากฏบอกนิพพาน ทุกกิจการที่หวังสมดังจินต์
๏ ทางออกแห่งความทุกข์อยู่ที่ไหน อยู่ที่ใจมนุษย์ฤๅทรัพย์สิน
ความเลวร้ายจะพวยพุ่งท่วมพื้นดิน หากมนุษย์ยังไม่สิ้นกิเลสกรรม
..................................................................................
17. ก.กาญจน์
อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551 | (แก้ไขครั้งที่ 1) อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ เปิดม่านฟ้ามองไม่เห็นเป็นสีฟ้า เปิดสภามองไม่เห็นเป็นสีขาว
เปิดดวงใจไฟทุกข์ลุกทุกคราว แผ่นดินร้าวแดนเดือดเชือดชีพชน
๏ สวมมงกุฎสุดระทมล้วนคมหนาม ทำวางก้ามเป็นใหญ่ไร้เหตุผล
หนามยอกอกรกสภาพาทุกข์ทน ล้านห่าฝนโถมกระหน่ำซ้ำหัวใจ
๏ เมื่อกฎหมู่เหนือกฎหมายกายใจชั่ว ผิดติดตัวกรรมติดตามคุกคามใส่
เมืองทั้งเมืองเคยร่มเย็นกลับเป็นไฟ ร้อยเภทภัยล้านเกมลวงหลอกปวงชน
๏ นาวารัฐใกล้อับปางกลางเกลียวคลื่น ล้มทั้งยืน ล่มทั้งลำ ทำสับสน
ทุกข์ท่วมทั่วหัวใจไทยทุกข์ทน ชาติหมองหม่นเจ็บครั้งนี้ฝีมือใคร
๏ แม้เสียชีพอย่าเสียชาติหมายมาดมั่น แต่นับวันยอมเสียชาติทำบาตรใหญ่
เพื่อตนรอดแค่นี้ที่พอใจ เห็นแก่ได้ทำเพื่อตนคนเลวทราม
๏ เมื่อทางออกทางสุดท้ายคล้ายถูกปิด ทางชีวิตเป็นอย่างไรอย่าได้ถาม
กักกันสิทธิ์ภัยทุกข์เข้าคุกคาม ชั่วติดตามติดเมืองยืดเรื่องยาว
๏ เปิดม่านฟ้าหวังมองเห็นเป็นสีฟ้า เปิดสภาหวังมองเห็นเป็นสีขาว
เปิดทางออกสรรค์สุขทุกคราคราว แล้วกล้าก้าวแก้ปมร้ายก่อนสายเกิน
ทางออก (แก้ไขครั้งที่ 1)
๏ เปิดม่านฟ้ามองไม่เห็นเป็นสีฟ้า เปิดสภามองไม่เห็นเป็นสีขาว
เปิดดวงใจไฟทุกข์ลุกทุกคราว แผ่นดินร้าวแดนเดือดเชือดชีพชน
๏ สวมมงกุฎสุดระทมล้วนคมหนาม ทำวางก้ามเป็นใหญ่ไร้เหตุผล
หนามยอกอกรกสภาพาทุกข์ทน ล้านห่าฝนโถมกระหน่ำซ้ำหัวใจ
๏ เมื่อกฎหมู่เหนือกฎหมายกายใจชั่ว ผิดติดตัวกรรมติดตามคุกคามใส่
เมืองทั้งเมืองเคยร่มเย็นกลับเป็นไฟ ร้อยเภทภัยล้านเกมลวงหลอกปวงชน
๏ นาวารัฐใกล้อับปางกลางเกลียวคลื่น ล้มทั้งยืน ล่มทั้งลำ ทำสับสน
ทุกข์ท่วมทั่วหัวใจไทยทุกข์ทน ชาติหมองหม่นเจ็บครั้งนี้ฝีมือใคร
๏ แม้เสียชีพอย่าเสียชาติหมายมาดมั่น แต่นับวันยอมเสียชาติทำบาตรใหญ่
เพื่อตนรอดแค่นี้ที่พอใจ เห็นแก่ได้ทำเพื่อตนคนเลวทราม
๏ เมื่อทางออกทางสุดท้ายคล้ายถูกปิด ทางชีวิตเป็นอย่างไรอย่าได้ถาม
กักกันสิทธิ์ภัยทุกข์เข้าคุกคาม ชั่วติดตามติดเมืองยืดเรื่องยาว
๏ เปิดม่านฟ้าหวังมองเห็นเป็นสีฟ้า เปิดสภาหวังมองเห็นเป็นสีขาว
เปิดทางออกสรรค์สุขทุกคราคราว แล้วกล้าก้าวแก้ปมร้ายก่อนสายเกิน
..................................................................................
18. อุบลรัตน์
เว็บบอร์ด / 31 สิงหาคม 2551
(แก้ไขครั้งที่ 1) อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551
(แก้ไขครั้งที่ 2) เว็บบอร์ด / 31 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ ปัญหาใหญ่บ้านเมืองเรื่องวายวุ่น ชนนำหนุนรุกฮืออื้ออึงสู้
เดินเข้ากล่ำล้ำเส้นกันฉันศัตรู ทำเชิดชูซึ่งหน้าระอาแทน
๏ ชีวิตคนมัวมั่วสุมกลุ้มใจนัก ชนมิรักเกิดรันทดอดสูแสน
ประโยชน์ตนมาก่อนสะท้อนแกน เกียรติคือแก่นใช้ห่ำหั่นสันดานชน
๏ ปากบอกตนบ่ชั่วช้าว่าคนอื่น หน้าระรื่นชี้แจงแจ้งเหตุผล
เอาความดีสู่ตัวชั่วกมล ทุกแห่งหนเดือดร้อนกร่อนฤทัย
๏ อันปัญหามีทางเข้าเราต่างรู้ ล้วนขึ้นอยู่เรื่องใหญ่น้อยคอยแก้ไข
หาทางออกที่ดีมีสุขใจ จักนำพาชาติไทยไร้ราคี
๏ ปัจจุบันประเทศเราขาดเสาหลัก ปรปักษ์แก่งแย่งแข่งศักดิ์ศรี
เปี่ยมเปรมสุขกลับกลายทุกข์รุกราวี หาคนดีปัญญาล้ำนำชาติเรา
๏ อันทางออกเหตุอำนาจระรานถิ่น ด้วยแผ่นดินมีคนโลภละโมบเขลา
อยากยิ่งใหญ่เหยียบชนไว้ใต้อุ้งเท้า หลงมัวเมามุ่งต่อสู้หดหู่ใจ
๏ กำแพงคนเป็นกำบังยั้งป้องภัย ตนอยู่ได้เท่านั้นพอก่อวอดวาย
หาทางออกให้ปัญหาพาสุขพร้อง ร่วมปรองดองบ่แย่งแบ่งแยกฝ่าย
ด้ามขวานนี้มีพลังพังสิ่งร้าย ใจทั้งหลายรวมรักสามัคคี
ทางออก (แก้ไข ครั้งที่ 1)
๏ ปัญหาใหญ่บ้านเมืองเรื่องวายวุ่น ชนนำหนุนรุกฮืออื้ออึงสู้
เดินเข้ากล่ำล้ำเส้นกันฉันศัตรู ทำเชิดชูซึ่งหน้าระอาแทน
๏ ชีวิตคนมัวมั่วสุมกลุ้มใจนัก ชนมิรักเกิดรันทดอดสูแสน
ประโยชน์ตนมาก่อนสะท้อนแกน เกียรติคือแก่นใช้ห่ำหั่นสันดานชน
๏ ปากบอกตนบ่ชั่วช้าว่าคนอื่น หน้าระรื่นชี้แจงแจ้งเหตุผล
เอาความดีสู่ตัวชั่วกมล ทุกแห่งหนเดือดร้อนกร่อนฤทัย
๏ อันปัญหามีทางเข้าเราต่างรู้ ล้วนขึ้นอยู่เรื่องใหญ่น้อยคอยแก้ไข
หาทางออกที่ดีมีสุขใจ จักนำพาชาติไทยไร้ราคี
๏ ปัจจุบันประเทศเราขาดเสาหลัก ปรปักษ์แก่งแย่งแข่งศักดิ์ศรี
เปี่ยมเปรมสุขกลับกลายทุกข์รุกราวี หาคนดีปัญญาล้ำนำชาติเรา
๏ อันทางออกเหตุอำนาจระรานถิ่น ด้วยแผ่นดินมีคนโลภละโมบเขลา
อยากยิ่งใหญ่เหยียบชนไว้ใต้อุ้งเท้า หลงมัวเมามุ่งต่อสู้หดหู่ใจ
กำแพงคนเป็นกำบังยั้งป้องภัย ตนอยู่ได้เท่านั้นพอก่อวอดวาย
๏ หาทางออกให้ปัญหาพาสุขพร้อง ร่วมปรองดองบ่แย่งแบ่งแยกฝ่าย
ด้ามขวานนี้มีพลังพังสิ่งร้าย ใจทั้งหลายรวมรักสามัคคี
ทางออก (แก้ไข ครั้งที่ 2)
๏ ปัญหาใหญ่บ้านเมืองเรื่องวายวุ่น ชนนำหนุนรุกฮืออื้ออึงสู้
เดินเข้ากล่ำล้ำเส้นกันฉันศัตรู ทำเชิดชูซึ่งหน้าระอาแทน
๏ ชีวิตคนมัวมั่วสุมกลุ้มใจนัก ชนมิรักเกิดรันทดอดสูแสน
ประโยชน์ตนมาก่อนสะท้อนแกน เกียรติคือแก่นใช้ห้ำหั่นสันดานชน
๏ ปากบอกตนบ่ชั่วช้าว่าคนอื่น หน้าระรื่นชี้แจงแจ้งเหตุผล
เอาความดีสู่ตัวชั่วกมล ทุกแห่งหนเดือดร้อนกร่อนฤทัย
๏ อันปัญหามีทางเข้าเราต่างรู้ ล้วนขึ้นอยู่เรื่องใหญ่น้อยคอยแก้ไข
หาทางออกที่ดีมีสุขใจ จักนำพาชาติไทยไร้ราคี
๏ ปัจจุบันประเทศเราขาดเสาหลัก ปรปักษ์ประกาศเก่งเบ่งศักดิ์ศรี
เปี่ยมเปรมสุขกลับกลายทุกข์รุกราวี สิ้นคนดีปัญญาล้ำนำชาติเรา
๏ อันทางออกเหตุอำนาจระรานถิ่น ด้วยแผ่นดินมีคนโลภละโมบเขลา
อยากยิ่งใหญ่เหยียบชนไว้ใต้อุ้งเท้า หลงมัวเมาขาดคุณธรรมนำจิตใจ
๏ ถลำก้าวลงหลุมพรางเดินทางผิด ทางออกปิดลั่นกุญแจเกินแก้ไข
เป็นสุนัขจนตรอกตันหันสู้ภัย เพื่อตนได้อยู่รอดมิวอดวาย
๏ ใช้ปัญญาเปิดประตูสู่ทางออก ภัยในนอกรู้ยับยั้งยังไม่สาย
ขวานด้ามนี้เพิ่มพลังพังสิ่งร้าย หากทุกฝ่ายรู้รักสามัคคี
..................................................................................
19. กวีหลังห้อง
อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551
สามัคคี
๏ เริ่มร้าวฉานบ้านเมืองเราเข้าวิกฤต หลายชีวิตครุ่นคิดจิตหวั่นไหว
แสนโศกศัลย์กันทั่วทั้งใกล้ไกล จะมีใครไขทางออกบอกวิธี
๏ ใช้อารมณ์ข่มปัญญาพาสนั่น โต้ตอบกันพลันรวดร้าวไร้ทางหนี
ร่วมชุมนุมกลุ่มเรียงรายหลายชีวี ได้ยอมพลีที่ทำเนียบทั้งใจกาย
๏ ใคร่อยากเห็นเหตุการณ์บ้านสงบ ประชารบตบตีให้สูญหาย
เรื่องทะเลาเบาะแว้งวอดมลาย พร้อมคลี่คลายสลายทุกข์พบสุขกัน
๏ คุยพบปะรวมพลังทั้งสองฝั่ง พร้อมรับฟังปัญหาคราคับขัน
เรื่องขุ่นข้องหมองใจได้คุยกัน อาจแปรผันวันฟ้าใหม่ใสขึ้นมา
๏ อคติปลดปล่อยถอยหนึ่งก้าว ความแตกร้าวรอประสานวานค้นหา
ประชาเมืองเนืองแน่นแสนระอา รอกาวทาถักร้อยใจได้เปรมปรีดิ์
๏ หาทางออกร่วมสานสมานฉันท์ จงฝ่าฟันความแตกต่างสร้างสุขี
ฤทัยฉ่ำพร่ำร้องก้องธานี สามัคคีที่พาผ่านพ้นโพยภัยฯ
..................................................................................
20. รหัสยา
อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551
ทางออกของชีวิต
๏ ชีวิตเราก่อเกิดมาเป็นคน จะรวยจนเรานั้นหารู้ได้
สุดแท้แต่บุญกรรมจะนำไป อย่าแก้ไขให้มันเดินเข้ามา
๏ ตั้งแต่เล็กพ่อแม่ดูแลเจ้า ท่านคอยเฝ้าอบรมคอยห่วงหา
จนเติบใหญ่คุณครูให้วิชา เจ้าได้มาเลี้ยงชีพดูแลตน
๏ เมื่อเราเริ่มเดินทางของชีวิต ได้ลิขิตสุขเศร้าและทุกข์ทน
ทุกชีวิตนี้ไซร้มีปะปน หนทางวนเวียนไปไกลสุดตา
๏ เราเริ่มก้าวเดินไปทางข้างหน้า พลันชีวาของเราก็เริงร่า
ผ่านอิ่มเอมผ่านรสชาติตามตำรา ที่ว่ามาความคับแค้นและยินดี
๏ ถึงวันหนึ่งจะพานพบอุปสรรค ทั้งมวลจักรุมล้อมจนสุดที่
อย่าท้อแท้จงอดทนจะเข้าที และเร่งรี่แก้ไขให้จงดี
๏ จงตระหนักไว้ว่ามีทางแก้ ความจริงแท้ของโลกอย่างได้หนี
คิดคำนึงให้รอบคอบตามวิถี หาวิธีเอาตัวรอดเป็นยอดคน
๏ เมื่อถึงจุดสุดยอดของชีวิต จะได้คิดว่าเรานี้มีค่าจน
ผ่านร้อนหนาว ขมขื่นจนสุดทน ทุกแห่งหนไม่หวั่นกลัวแม้ภัยพาน
๏ พบทางออกของชีวิตที่ผันผ่าน แม้ยาวนานจนสุดสิ้นเวลากาล
อยู่ร่มเย็นเป็นสุดหมดสังขาร อยู่ได้นานแปดสิบปีคงจะดี
..................................................................................