ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (กาพย์ยานี 11) : หัวข้อ “จิตสาธารณะ”
จำนวน 31 ชิ้น
1. (คนธรรพ์)
ปณิธานเยาวกวี (1. คนธรรพ์)
๏ อีสานถูกผลาญสิน หลายชีวินแสนสิ้นหวัง
อุทกโศกประดัง ภัยพลังช่างร้ายแรง
๏ บ้านเรือนจมลับหาย พังทลายทุกหนแห่ง
กลียุคปลุกแสดง หว่านวิโยคบนโลกา
๏ แต่ฟ้าหลังปัชชุน มีไออุ่นหนุนนำมา
จากใจชาวประชา ทั่วประเทศเขตสยาม
๏ ช่วยเหลือเอื้อการุณย์ เป็นผลบุญคุณอร่าม
อาหารอีกทั้งน้ำ ต่างร่วมแรงแลร่วมใจ
๏ ธารหทัยที่ไหลหลั่ง สู่ฟากฝั่งผู้พบภัย
สวนกระแสชลาลัย ชื่นวันใหม่ได้สุขี
๏ เพราะเป็นเพื่อนมนุษย์ จึงต้องหยุดสิ่งกาลี
อีสานซึ้งทวี ขอระลึกตรึกดวงมาน
๏ สายฤทัยเพื่อนแผ่นดิน ทั่วทุกถิ่นงามตระการ
เมตตาต่ออีสาน อีกผู้ทุกข์ทั้งดินแดน
๏ คือ...จิตสาธารณะ เสียสละสุขตนแทน
ปลดบ่วงความหวงแหน เมตตาต่อนรชน
๏ เมืองเราย่อมสดใส ชาติก้าวไกลไร้หมองหม่น
คุณธรรมนำใจคน สุขเหลือล้นชั่วนิรันดร์
..................................... (1. คนธรรพ์)......................................
2. ไตรภพ
“จิตสาธารณะ” (2. ไตรภพ)
๏ น้ำใจหลั่งไหลริน เมื่อมิสิ้นแลเสื่อมสูญ
ความสุขย่อมเพิ่มพูน คุณเรานี้ที่เคยทำ
๏ น้ำใจเปรียบสายธาร อันโอฬารเป็นหนักหนา
เปรียบดังกลีบเมฆา พสุธาหาเทียมทัน
๏ ข้อแรกคือแผ่เผื่อ แลเอื้อเฟื้อจะสุขสันต์
อาภรณ์เมื่อหมองพลัน ก็แบ่งปันให้เขาไป
๏ ขึ้นสองอย่ามัวเมา เห็นตัวเป็นนิสัย
ขจัดให้พ้นไป แล้วเริ่มใหม่ในทันที
๏ ขึ้นสามงามระยับ จงสดับจักเป็นศรี
ช่วยเหลือเมื่องานมี หากหลบหนีมิใช่คน
๏ สามสิ่งยกมานั้น สร้างสรรค์อย่าสับสน
นับหนึ่งจึ่งยอดคน จักมิชั่วจนตัวตาย
ความดีมีถมไป ถ้าทำได้ประเสริฐแล
๏ จดจำแลร่ำเรียน จงพากเพียรเรียนให้แน่
ความดีเปรียบทองแท้ มิมลายแม้วายปราณ
๏ ดำรงสะสมกัน สามสิ่งนั้นสะสมไว้
..................................... (2.ไตรภพ)......................................
3. (เด็กหญิงกิ่งฟ้า)
จิตสาธารณะ ลักษณะของคนไทย (3. เด็กหญิงกิ่งฟ้า)
๏ พวกเราคือคนไทย ที่อยู่ในประเทศสยาม
ทุกที่ทั่วเขตคาม สุขเกษมแสนเปรมปรีดิ์
๏ ทุกคนต่างผูกพัน สมานฉันท์สามัคคี
รักกันเหมือนน้องพี่ แผ่นดินไทยนั้นร่มเย็น
๏ วันนี้กลับผิดแปลก ไทยแตกแยกดังที่เห็น
มิใช่ไทยควรเป็น หันกลับมาเกื้อกูลกัน
๏ วิกฤตการณ์น้ำท่วม ดูโดยรวมเสียหายมหันต์
เพียงน้ำใจเท่านั้น บรรเทาภัยในครั้งนี้
๏ ชาติไทยจะสุขสันต์ ทุกคนนั้นจะต้องมี
น้ำใจและไมตรี ทำความดีอย่างตั้งใจ
๏ จิตสาธารณะ ลักษณะของคนไทย
หากเราหลงลืมไป ปลูกฝังได้นับว่าดี
๏ น้ำใจมีคุณค่า จิตสาธารณะควรมี
ให้คุ้มที่ชีวี ได้เกิดมาเป็นคนไทย
..................................... (3. เด็กหญิงกิ่งฟ้า) ......................................
4. พิสิทธิ์
จิตสาธารณะ (4. พิสิทธิ์)
๏ วิกฤติที่ผ่านมา ชาวประชาพาโศกศัลย์
ธรรมชาติลงโทษทัณฑ์ ภัยมหันต์เกินพรรณนา
๏ พายุและน้ำท่วม ทุกคนอ่วมเกินรักษา
ดินถล่มล่มลงมา เพราะภูผาถูกทำลาย
๏ ร้อนหนาวเย็นยะเยือก โลกเหลือเปลือกไม้ล้มหาย
สัตว์ป่าพากันตาย ขาดต้นไม้ไร้รังนอน
๏ มาเถิดร่วมอาสา จิตพัฒนาอย่าทอดถอน
ช่วยเหลือเอื้ออาทร ความทุกข์ร้อนได้บางเบา
๏ อย่ามัวเห็นแก่ตัว ก่อกรรมชั่วเพราะโง่เขลา
ผืนดินของไทยเรา ไม้ภูเขาอย่าทำลาย
๏ บ้านวัดและโรงเรียน จงหมั่นเพียรเร่งขวนขวาย
จิตอาสาอย่าดูดาย สิ่งทั้งหลายได้กลับคืน
..................................... (4. พิสิทธิ์) ......................................
5. ปิยวรรณ
จิตสาธารณะ (5. ปิยวรรณ)
๏ ชีวิตจะมีค่า เมื่อเกิดมาทำหน้าที่
สร้างสุขประโยชน์มี เป็นศักดิ์ศรีพาเชิดชู
๏ จากบ้านไปสู่บ้าน หลายเรือนชานมารวมหมู่
สัมพันธ์กันทุกผู้ สังคมอยู่สุขสำราญ
๏ ฝึกฝนและค้นคิด ให้ชีวิตเป็นแก่นสาร
ใจรักในการงาน เป็นพื้นฐานการสร้างตน
๏ หน้าที่ต่อสังคม เราชื่นชมในทุกคน
ฝึกใจให้อดทน ไม่ขัดสนในน้ำใจ
๏ ร่วมแรงและร่วมจิต ร่วมกันคิดทำสิ่งใหม่
ร่วมสร้างประโยชน์ใด ส่วนรวมได้พัฒนา
๏ หน้าที่เริ่มจากตน ย่อมส่งผลจนก้าวหน้า
สังคมสมสูงค่า ชาติวิไลไทยรุ่งเรือง
..................................... (5. ปิยวรรณ) ......................................
6. ธีรยุทธ
จิตสาธารณะ (6. ธีรยุทธ)
๏ ความดีในตัวคน มีมากล้นถ้าค้นหา
อบรมกิริยา จะนำพาคุณธรรม
๏ ช่วยเหลือเกื้อกูลเกิด สุดประเสริฐแสนอิ่มหนำ
ความรู้ก็จะนำ ให้เราทำแต่สิ่งดี
๏ เอื้อเฟื้อเกื้อกินบ้าง เป็นหนทางสร้างศักดิ์ศรี
แบ่งปันสิ่งดีดี ต้องปรานีพี่น้องกัน
๏ เด็กไทยในวันนี้ เป็นเด็กดีมีความฝัน
โตขึ้นถึงสักวัน จะพากันพัฒนา
๏ สังคมเจริญได้ ถ้าเด็กไทยร่วมสรรหา
ในสิ่งที่ดีมา จะนำพาชาติปลอดภัย
๏ จิตดีควรจารึก ตกผลึกจิตสดใส
จิตดีอยู่ที่ใจ ทำดีไปเพื่อส่วนรวม
..................................... (6. ธีรยุทธ) ......................................
หมายเหตุ : สัมผัสซ้ำ
7. สุนิสา
จิตสาธารณะ (7. สุนิสา)
๏ รวมใจไทยทั้งผอง ให้ใจครองป้องปัญหา
ช่วยเหลือทุกชีวา ให้พ้นภัยใจเบิกบาน
๏ พายุทำหวั่นไหว ส่งน้ำใจแผ่กิ่งก้าน
ส่งรักให้สราญ ให้กังวานใครชื่นชม
๏ ส่งรักจากทุกทาง ปูพื้นร่างสร้างภิรมย์
อย่าให้ใจตรอมตรม เหมือนดั่งลมพายุเก
๏ ทุกผ่านด้านความสุข ก็จะลุกหยุดไขว้เขว
น้ำใจไทยช่วยเว ให้พ้นไปภัยราคี
๏ ร้อยใจไทยทุกดวง ให้เป็นรวงแห่งความดี
ให้ใจเกิดราศี เปี่ยมปรานีมีเมตตา
๏ ช่วยเหลือและเจือจาน สุขสำราญปานเฮฮา
ส่วนบุญได้นำพา ให้ชีวาพาสุขเอย
..................................... (7. สุนิสา) ......................................
8. ไอรดา
ซับน้ำตาใต้ด้วยจิตสาธารณะ (8. ไอรดา)
๏ หวีดหวิวโหมกระหน่ำ เมฆฝนดำด้วยลมร้าย
พายุพัดทำลาย นำความตายสู่แดนใต้
๏ เสียงฟ้าบ้าสนั่น สีแดงพลันจิตหวั่นไหว
เสียหายครั้งยิ่งใหญ่ น้ำตาไหลใจโรยริน
๏ หลังคาไปกับลม ต้นยางล้มร่วงหมดสิ้น
ข้าวจมถมลงดิน ทางทำกินก็สิ้นทาง
๏ พอพายุสงบ พ้นประสบภัยเบาบาง
ยังดีไม่เคว้งคว้าง บ่อ้างว้างบ่โศกา
๏ น้ำใจไมตรีล้น จากทุกคนส่งให้มา
ซึ้งในน้ำใจหนา นี่แหละค่าความเป็นคน
๏ ข้าวสารอาหารแห้ง ช่วยเพิ่มแรงเพื่อสู้ทน
น้ำใจเย็นเช่นฝน ช่วยให้พ้นวิกฤตกาล
๏ พายุพัดคราวนี้ ไทยน้องพี่ถิ่นด้ามขวาน
ซาบซึ้งตรึงดวงมาน ว่าไทยนี้บ่ทิ้งกัน
๏ จิตสาธารณะ ซับลดลงน้ำตาพลัน
เป็นเช่นน้ำสวรรค์ สร้างคืนวันอันสุขดี
๏ ใจเอื้อเฟื้อเมตตา จึงนำพาสู่สุขี
ด้วยใจเปี่ยมไมตรี ภัยคราวนี้จึงสร่างเร็ว
..................................... (8.ไอรดา) ......................................
9. มะลิษา
จิตสาธารณะที่หลั่งไหล (9. มะลิษา)
๏ ต้นพฤศจิกา เหมือนเทวาท่านลงโทษ
ดั่งท่านนั้นทรงโกรธ ท่านจึงโปรดให้ภัยมา
๏ พายุพัดเร็วแรง เสมือนแฝงด้วยโกรธา
สายฝนหยดจากฟ้า คลื่นซัดพาเรือนจมหาย
๏ เมื่อเกิดวาตภัย ก็ทำให้คนล้มตาย
พระเจ้าทรงทำลาย ให้วอดวายล้างโลกา
๏ พายุก็หยุดไป เหลือเพียงไว้คราบน้ำตา
น้ำใจก็หลั่งมา จากทั่วหล้าอยู่ใกล้ไกล
๏ ข้าวสารอาหารแห้ง ชนมิแล้งเพื่อการให้
ก็มีซึ่งน้ำใจ ยังหลั่งไหลจากทุกทิศ
๏ ทุกคนต่างช่วยเหลือ เพื่อจุนเจือหลายชีวิต
และเอื้อไมตรีจิต อันเป็นกิจกอปรกุศล
..................................... (9. มะลิษา) ......................................
10. พัชรินทร์
จิตสาธารณะ (10. พัชรินทร์)
๏ ถิ่นทองของแดนไทย คละเคล้าไปด้วยคนพาล
เปรียบเขาคือพวกมาร คิดก่อการจลาจล
๏ ไร้ซึ่งจิตสำนึก ไม่รู้สึกถึงเหตุผล
หยุดเถิดทรชน ก่อนบ้านตนจะสูญไป
๏ เพียงคิดสักนิดหนึ่ง โปรดนึกถึงที่อาศัย
บ้านเมืองเรืองอำไพ หากคนไทยไร้จิตทราม
๏ กลับตัวเป็นคนดี สร้างสิ่งที่สวยงดงาม
รับฟังทุกคำถาม เมืองสยามจะร่มเย็น
๏ จิตสาธารณะ ช่วยลดละความลำเค็ญ
เกิดสุขจนแลเห็น เกิดความรักสามัคคี
๏ ความสุขคือยศลาภ สันติภาพคือศักดิ์ศรี
หมดสิ้นกลิ่นราคี เมืองไทยนี้สุขนิรันดร์
..................................... (10. พัชรินทร์) ......................................
11. จิราวรรณ
จิตสาธารณะ (11. จิราวรรณ)
๏ จิตใจของมนุษย์ ช่างแสนสุขประเสริฐยิ่ง
หากทำแต่ในสิ่ง ที่ดีจริงไม่มีภัย
๏ จิตสาธารณะ เสียสละมีน้ำใจ
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไป ช่างกว้างไกลหาใดเทียม
๏ จิตดีจะมีสุข ไม่มีทุกข์เข้ามาเยี่ยม
มีแต่สุขล้นเปี่ยม คอยแต่เตรียมรักใครกัน
๏ จิตใจบริสุทธิ์ ดั่งประดุจผ้าขาวนั้น
ส่วนรวมย่อมสำคัญ ส่วนตัวฉันนั้นเป็นรอง
๏ จิตใจใสสะอาด ปราศจากภัยหม่นหมอง
สิ่งร้ายไม่หมายปอง ฟ้าคุ้มครองเพราะเราดี
๏ จิตใครอันใดหนา แล้วแต่ว่าตามวิถี
ใครชั่วหรือใครดี ขึ้นอยู่ที่จิตกระทำ
..................................... (11. จิราวรรณ) ......................................
หมายเหตุ : สัมผัสซ้ำ
12. สุธาฤดี
จิตสาธารณะ (12. สุธาฤดี)
๏ พ่อแม่บังเกิดเกล้า เลี้ยงลูกเต้ามาตามกาล
ส่งเสียจนทำงาน ตอบแทนท่านที่ผ่านมา
๏ ช่วยเหลืออย่าดูดาย งานทั้งหลายจิตอาสา
บ้านเรือนสะอาดตา นั่นคือค่าของคนทำ
๏ ส่วนรวมอย่าให้ขาด ช่วยรัฐราษฎร์อุปถัมภ์
ค้ำจุนด้วยหลักธรรม หน้าที่จำน้อมนำใจ
๏ ช่วยเหลืองานสังคม ให้เหมาะสมตามสมัย
ทำตามกฎวินัย ฝึกจิตใจให้เบิกบาน
๏ รักชาติศาสน์กษัตริย์ ใต้ร่มฉัตรชนสมาน
เกียรติไทยเลื่องลือนาน เพราะลูกหลานทำความดี
๏ อย่าให้บรรพชน กู่ก้นด่าให้อายผี
ลูกหลานชั่วทรพี คนเช่นนี้หนักแผ่นดิน
..................................... (12. สุธาฤดี) ......................................
หมายเหตุ : สัมผัสซ้ำ
13. ชุพิชญา
จิตสาธารณะ (13. ชุพิชญา)
๏ คือผู้เปรียบดั่งปุ๋ย ที่เปื่อยยุ่ยบำรุงต้น
ให้แกร่งแข็งแรงล้น ให้รากทนยืนต้นดี
๏ วันใดไม่แข็งแกร่ง ไร้เรี่ยวแรงไม่เต็มที่
เติมปุ๋ยที่คงมี เพื่อต้นนี้ได้สมบูรณ์
๏ กิ่งก้านใบดอกผล มั่นคงทนไม่เสียสูญ
ได้ปุ๋ยช่วยเกื้อกูล ช่วยเพิ่มพูนผลงอกงาม
๏ เติบใหญ่ได้มีแรง ต้นกล้าแกร่งฝ่าขวากหนาม
ต้านภัยได้ทุกยาม หากคุกคามเข้าโจมตี
๏ ทนแดดลมฟ้าฝน แกร่งคงทนจนเต็มที่
เพราะไม้ได้ปุ๋ยดี เสริมราศีให้ไม้ทน
๏ ทำโดยไม่หวังใด เพื่อไม้ใหญ่ได้ออกผล
เป็นปุ๋ยบำรุงต้น แข็งแกร่งล้นยืนต้นงาม
..................................... (13. ชุพิชญา) ......................................
14. บุญรอด
คิดดี ทำดี ได้ทุกวัน (14. บุญรอด)
๏ ในห้องแห่งดวงจิต ทำ พูด คิด ต้องใคร่ครวญ
ก่อนทำต้องทบทวน ให้แน่แท้วิธีการ
๏ พระว่าจิตดุจลิง ไม่อยู่นิ่งแน่ขนาน
บ้างคิดพิสดาร บ้างก็ด่วนล้วนเร็วไว
๏ บางครั้งจิตกระเจิง เพราะหลงเหลิงตามสมัย
บางครั้งล่องลอยไป เพราะสนิทอวิชชา
๏ จิตถูกโมหะห้อม อธรรมล้อมริษยา
โลภโกรธหลงคงพา ให้พบทุกทรมาน
๏ ห้ามจิตคือห้ามเหตุ แห่งกิเลสที่รุกราน
ห้ามภัยอันธพาล เพื่อจิตพ้นปราศมลทิน
๏ ฝึกจิตให้คิดดี รู้วิธีห่วงถวิล
สงบเป็นอาจิณ รู้วิจัยไม่วกวน
๏ ปรุงจิตให้ “สาธา- รณะ” พาพบกุศล
ทำดีได้ทุกคน ได้ทุกครั้งทั้งคืนวัน
๏ ทำดีในที่แจ้ง ภายใต้แสงสุริยัน
ทำดีใต้แสงจันทร์ ก็กระจ่างสว่างใจ
๏ ปิดทองที่หลังพระ ทวยเทพจะอำนวยชัย
ทำดี ณ ที่ใด ก็ทำได้ทั่วโลก
..................................... (14. บุญรอด) ......................................
15. พรนภา
จิตที่ฝึกดีแล้ว (15. พรนภา)
๏ จิตเอ๋ยจิตมนุษย์ เขาว่าสุดจะหยั่งถึง
สิ่งใดหมายคำนึง ฦๅจักรู้สู่มวลชน
๏ สมควรจะฝึกจิต เพื่อให้คิดถึงกุศล
คิดใดใฝ่เพื่อตน ต้องกำจัดตัดหมู่มาร
๏ เป็นจิตฝ่ายอธรรม ย่อมก่อกรรมเกิดทุกกาล
โมหะหุ้มห่อมาน มุ่งหมายใดไม่น่าชม
๏ อาจเกิดผลเสียหาย อีกมากมายในสังคม
เพราะมุ่งแต่โสมม หมกมุ่นมุมกลุ่มมลทิน
๏ ห้ามจิตหมั่นฝึกจิต นำชีวิตปราศราคิน
ทำดีเพื่อแผ่นดิน ทำได้แท้แม้คืนวัน
๏ ทำดีให้โลกดู ให้โลกรู้รักผูกพัน
เป็นนิจจิตรังสรรค์ เพื่อสังคมร่มเย็นไทย
๏ จิตที่ฝึกดีแล้ว ดั่งดวงแก้วแพรวอำไพ
จุดเทียนเพียรเติมไฟ ให้สว่างทางความดี
๏ จิตสาธารณะ เต็มธรรมะประเสริฐศรี
เติมรักสามัคคี เคียงสังคมอุดมคุณ
๏ เนืองนิตย์จิตสาธารณ์ เพื่อสืบสานฐานนาบุญ
ทำดีดีเป็นทุน หนุนทางธรรมสุขจำเริญ
๏ ทุกเพศและทุกวัย ทำดีได้ไม่เคอะเขิน
จิตนำชีพดำเนิน เดินทางธรรมล้ำเลิศเอย
..................................... (15. พรนภา) ......................................
16. คุณา
จิต..จิต..จิต (จิตสาธารณะ) (16. คุณา)
๏ จิตคือสื่อสัญญาณ เสริมประสานการกระทำ
จิตจดกำหนดจำ จารประจงตรงชั่วดี
๏ จิตตนหากวนวก ก็ดังนกหลงพงพี
จิตจักหนักทวี ต้องปล่อยวางว่างอาวรณ์
๏ จิตเดินทางสองแพร่ง วางตำแหน่งให้แน่นอน
จิตรู้อโคจร จงพิจารณ์ผ่านวิจัย
๏ จิตใดดำเนินดี เกิดสุขศรีสว่างใส
จิตนั้นดำเนินไป ประกอบสุจริตธรรม
๏ จิตสาธารณะ ผูกพันธะอุปถัมภ์
จิตเอื้อเกื้อกูลนำ เนื่องวิถีความดีครอง
๏ จิตชนคนของชาติ สุกสะอาดปัญญาส่อง
จิตรักภักดีต้อง ตอบแทนบุญ “คุณแผ่นดิน”
..................................... (16. คุณา) ......................................
17. แพรวพรรณ
รวมน้ำใจ..ซับน้ำตา (17. แพรวพรรณ)
๏ ชาติไทยใกล้วิกฤติ ทุกชีวิตเริ่มหวั่นไหว
เดือดร้อนทั่วถิ่นไทย อุทกภัยได้พบพาน
๏ น้ำท่วมทั่วทุกภาค ต้องลำบากทุกถิ่นฐาน
ความทุกข์เข้ารุกราน ให้เดือดร้อนนอนลำเค็ญ
๏ ยังดีที่ไทยนั้น ไม่ทิ้งกันยามทุกข์เข็ญ
องค์ราชก็ประเพ็ญ ทศธรรมค้ำจุนไทย
๏ รัฐราษฎร์และจอมราช ร่วมประสาทสุขสดใส
น้ำท่วมรวมน้ำใจ ไทยหลอมรวมร่วมมือกัน
๏ สร้างจิตอันสาธา- รณะพาเพื่อแบ่งปัน
กูลเกื้อเอื้อจัดสรร โภคภัณฑ์มั่นเยียวยา
๏ มวลชนคนทั่วไทย ร่วมน้ำใจซับน้ำตา
บัดนี้เห็นคุณค่า ของความรักสามัคคี
๏ ยามสุขเราร่วมสุข ยามมีทุกข์ไม่หน่ายหนี
น้ำใจและไมตรี ชี้สาธิตจิตสาธารณ์
๏ รักเถิดพี่น้องไทย ก่อนจะไร้ซึ่งถิ่นฐาน
ทำดีดีบันดาล ให้สุขทั้งแผ่นดินไทย
..................................... (17. แพรวพรรณ) ......................................
18. ธวัชชัย
จิตสาธารณะ (18. ธวัชชัย)
๏ มีชายอยู่คนหนึ่ง ทำดีซึ่งมิพึงผล
โอบอ้อมอารียล ย่อมมีสุขทุกครั้งครา
๏ ครั้งหนึ่งเขาทำบุญ คอยเจือจุนศาสนา
พ้นทุกข์สุขเรื่อยมา ด้วยปัญญาพาก้าวไกล
๏ ครั้งหนึ่งบริจาค ความทุกข์ยากจึงสิ้นได้
มอบสู่ผู้ยากไร้ จากจิตใจในครรลอง
๏ สอนแต่สิ่งที่ดี หลายชีวีจึงสนอง
ความดีมิเป็นรอง สำคัญต้องครองปัญญา
๏ ใครขอก็ทำให้ มีจิตใจมากคุณค่า
รับรู้ทุกครั้งครา ล้วนจัดหาทุกครั้งไป
๏ บุญสาธารณะ ล้วนลดละความหมองไหม้
ทุกสิ่งที่มอบไว้ ให้สิ่งใดได้อย่างนั้น...
..................................... (18. ธวัชชัย) ......................................
19. พัชราภรณ์
จิตสาธารณะ (19. พัชราภรณ์)
๏ มีใจที่ดีงาม ทุกทุกยามไม่คิดชั่ว
จิตใจมิหมองมัว จักมีสุขทุกข์จางไป
๏ คนดีมีคนรัก แจ้งประจักษ์มักสุดใส
ให้ธรรมส่องกลางใจ เพื่อจิตนี้ที่มั่นคง
๏ ทำดีและคิดดี จักมั่งมีมิลุ่มหลง
เป็นคนที่ซื่อตรง พัฒนาพาเจริญ
๏ แม้ว่าทำดีแล้ว คงไม่แคล้วคนสรรเสริญ
ทำดีไม่หมางเมิน ชนจรัสพัฒนา
๏ ชาติไทยทุกวันนี้ เป็นวันที่จะมีค่า
มีคนนำปรัชญา ให้ชาติเรานั้นก้าวไกล
๏ จิตสาธารณะ เราควรจะฝึกฝนไว้
ความดีป้องกันภัย โลกอยู่ได้ด้วยร่มเย็น
..................................... (19. พัชราภรณ์) ......................................
20. เฉลิมชัย
จิตสาธารณะ (20. เฉลิมชัย)
๏ จิตเราชอบช่วยเหลือ ชอบเอื้อเฟื้อทุกแห่งหน
พวกเราเกิดเป็นคน ต้องอดทนกว่าสิ่งใด
๏ ตอนนี้อากาศเย็น ก็จะเป็นไข้หวัดใหญ่
คนไหนมีทุกข์ภัย เช่นน้ำท่วมส้วมไม่มี
๏ คนไทยนั้นมีมาก ถึงลำบากแตสุขี
คนใดนั้นทำดี ก็จะช่วยพัฒนา
๏ คนไทยที่ทำเลว ตัวแหลกเหลวจิตหมดค่า
คนไหนแสวงหา ก็นำพาความเจริญ
๏ ควรช่วยกันแบ่งปัน จิตสุขสันต์ค่าสรรเสริญ
เสียสละอย่าหมายเมิน เพื่อมีสุขทุกวานวัน
๏ ชวนกันนั้นทำดี ทุกคนนี้จิตสร้างสรรค์
ร่วมช่วยชนแบ่งปัน เพื่อความสุขของคนไทย
..................................... (20. เฉลิมชัย) ......................................
21. พัชรินทร์
จิตสาธารณะ (21. พัชรินทร์)
๏ ตั้งตนทำความดี เพื่อจะมีจิตแจ่มใส
แบ่งปันทุกวันไป ประเทศไทยนี้ร่มเย็น
๏ คิดทำเพื่อผู้อื่น ช่วยหยิบยื่นผู้แสนเข็ญ
ทำดีเราทำเป็น เพื่อมีสุขทุกเวลา
๏ สอนสั่งให้ช่วยเหลือ ช่วยจุนเจือจิตเกิดค่า
ทำตนมีปัญญา สุขอุราชีวาเรา
๏ คอยเป็นที่ปรึกษา เมื่อปัญหาพาโศกเศร้า
ทำดีนี้นานเนา เพื่อพวกเรามิเป็นทุกข์
๏ พวกเราเสียสละ สร้างสัจจะมีความสุข
ช่วยกันร่วมประยุกต์ เพื่อสังคมสามัคคี
๏ อาทรผู้อ่อนแอ อย่ายอมแพ้เพื่อศักดิ์ศรี
ดวงจิตเราเปรมปรีดิ์ หากทำดีเพื่อมวลชน
..................................... (21. พัชรินทร์) ......................................
22. วิภาวรรณ
จิตสาธารณะ (22. วิภาวรรณ)
๏ สร้างตนเป็นคนดี เราย่อมมีแต่ความสุข
ชีวิตไม่เป็นทุกข์ ทางสายกลางมุ่งทางใจ
๏ สู่จิตที่มีค่า นำชีวานั้นสดใส
แม้ว่าอยู่หนใด ทำประโยชน์มีโภชผล
๏ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ประเสริฐสุดความเป็นคน
ความดีมียินยล กอปรกุศลคุณธรรม
๏ ทำตนให้มีค่า สร้างปัญญามิมืดดำ
ชีวิตมิถลำ สู่ทางชั่วกลั้วราคิน
๏ จิตสาธารณะ จึงธรรมะนั้นไม่สิ้น
สรรค์สุขทุกแดนดิน ด้วยว่างทุกข์เปี่ยมสุขใจ
๏ สังคมมีคุณค่า เพราะชีวาที่สดใส
จิตดีนั้นมีได้ คือจิตไร้ซึ่งความเลว
..................................... (22. วิภาวรรณ) ......................................
23. จารุพร
จิตสาธารณะ (23. จารุพร)
๏ จิตใจอันสวยสด ถูกจำจดกับสิ่งของ
ก็คิดที่ทดลอง สู่มุมมองผู้จดจาร
๏ ดั่งคนมีความดี มีวิถีนำสืบสาน
มีจิตคิดสุนทาน สู่ตำนานของผู้คน
๏ มีจิตที่มุ่งมั่น ความสร้างสรรค์ของผู้สน
ผู้คนต่างยินยล สรรเสริญตนอย่างสุดใจ
๏ จิตอันบริสุทธิ์ มิอาจหยุดความใฝ่หา
ใช้จิตคิดปัญญา หาวิชาช่วยชีวี
๏ มีจิตคิดช่วยเหลือ มาจุนเจือให้สุขี
ชีวิตเป็นเปรมปรีดิ์ เป็นสิ่งดีแก่ชีพตน
..................................... (23. จารุภรณ์) ......................................
24. ยุพาภรณ์
จิตสาธารณะ (24. ยุพาภรณ์)
๏ จิตที่บริสุทธิ์ ไม่อาจหยุดสิ่งใหม่ใหม่
สร้างสรรค์ไว้เพื่อใคร ถ้าไม่ใช่เพื่อพวกเรา
๏ สร้างสรรค์สิ่งสวยงาม พยายามเพื่อพวกเขา
โลกนี้เป็นสีเทา ก็เพราะเราสร้างมันมา
๏ ทำตัวมีประโยชน์ ไม่เป็นโทษช่วยรักษา
ใช้ธรรมนำชีวา เป็นเหมือนยาคอยเจือจุน
๏ ธรรมที่มีคุณค่า คือเมตตาและเกื้อหนุน
ช่วยเหลือสัตว์เล็กใหญ่ ทำจิตใจให้มีค่า
๏ ในตัวของเรานั้น มีครบครันหลากหลายสี
ความสุขนั้นมากมี มันอยู่ที่ทำด้วยใจ
..................................... (14. ยุพาภรณ์) ......................................
หมายเหตุ : ผิดกติกาไม่ถึง 6 บท
25. ศิริโสภา
จิตสาธารณะ (25. ศิริโสภา)
๏ มีจิตรักช่วยเหลือ คิดเอื้อเฟื้อเพิ่มพูนผล
สุขทุกข์อยู่ที่คน กระทำตนให้ชั่วดี
๏ ทำดีมีคนรัก แจ้งประจักษ์นำสุขี
คิดร้ายอย่าได้มี เสียศักดิ์ศรีของคนไทย
๏ เมตตาแก่เพื่อนโลก อย่าเศร้าโศกชวนสดใส
ช่วยชาติด้วยหัวใจ ย่อมพ้นภัยกิเลสมาร
๏ สิ่งดีเร่งรีบทำ ควรจดจำนำสุขศานต์
ความดีทำได้นาน ยิ่งเห็นค่าน่ายลยิน
๏ มีธรรมนำความคิด ผ่านวิกฤตจนหมดสิ้น
ทำดีเป็นอาจิณ ทั่วทุกถิ่นสุขปรีดา
๏ น้ำมันยังหมดได้ แต่น้ำใจควรรักษา
แบ่งปันทุกเวลา อย่าให้หายคล้ายน้ำมัน
..................................... (25. ศิริโสภา) ......................................
26. วายุ
คิดดี ทำดี เพื่อแผ่นดิน (26. วายุ)
๏ ตั้งจิตอธิษฐาน ให้สะท้านทั้งแผ่นดิน
ให้เทพท่านได้ยิน อีกท่านยมใต้บาดาล
๏ กราบบิดามารดา กราบครูบาบุพพาจารย์
ให้ชีพชัชวาล วาวโชติช่วงดวงกมล
๏ ข้าฯเกิดมาเป็นไทย ขอตั้งใจบรรเจิดผล
เพื่อชาติและปวงชน อีกสังคมสุขร่มเย็น
๏ ตั้งจิตให้สาธารณ์ บริบาลบ่มบำเพ็ญ
เพื่อไทยไร้ลำเค็ญ เป็นสุขได้ด้วยทำดี
๏ รักชาติศาสน์กษัตริย์ ปฏิบัติทุกวิถี
ครองธรรมนำวิธี ทำหน้าที่ให้ถูกทาง
๏ ทำดีมีผลโภชย์ ทำประโยชน์เป็นแบบอย่าง
ที่ใดไม่ละวาง ทำดีได้ทุกเวลา
๏ เป็นคนรู้จักคิด ตั้งดวงจิตอหิงสา
ความดีจะนำพา ให้พบสุขทุกคืนวัน
๏ ทำจิตให้กระจ่าง รู้จักสร้างประโยชนืสรร
คนไทยไม่แตกกัน ก่อเกิดรักสามัคคี
๏ ทำคุณกันไว้เถิด เมื่อได้เกิดมาทั้งที
ตั้งจิตทำความดี เพื่อแทนบุญคุณแผ่นดิน
..................................... (26. วายุ) ......................................
27. ชญานี
จิตดี มีสุข (27. ชญานี)
๏ มนุษย์นั้นมีจิต มีชีวิตมีวิญญาณ
มีร่างอลังการ มีทุกข์สุขและชั่วดี
๏ กรรมใดหากใครก่อ ทั้งเติมต่อกรรมวิถี
กรรมนั้นจะราวี ให้หมองมัวทุกตัวตน
๏ จิตใดหากใฝ่ต่ำ ย่อมจะนำอกุศล
จิตนั้นจะทุรน- ทุรายไปไม่ภิรมย์
๏ จิตใดหากใฝ่สูง งามดั่งยูงทองสูงสม
จิตนั้นเด่นอุดม ด้วยความดีทวีคูณ
๏ จิตสาธารณะ ตั้งธรรมะไว้เป็นศูนย์
คิดดีทำดีพูน ให้สมบูรณ์และเบิกบาน
๏ ปลงใจให้จิตว่าง ร่วมกันสร้างสุขไพศาล
เสริมธรรมปณิธาณ ให้ครบถ้วนกระบวนธรรม
๏ อยู่ถิ่นแผ่นดินใด อยู่แดนไหนไม่ตกต่ำ
รู้การไม่สร้างกรรม และรู้กิจพินิจนันท์
๏ จำรัสจำเริญศรี มุ่งทำดีมีสุขสันต์
รักชาติศาสน์ราชัน สร้างสุขใสให้แผ่นดิน
..................................... (27. ชญานี) ......................................
28. พรนภา
จิตเล็ก-จิตใหญ่..ในจิตสาธารณะ (28. พรนภา)
๏ ร่างกายของมนุษย์ อาจสิ้นสุดพัฒนา
เผ่าพันธ์ที่เป็นมา ก็ไม่เปลี่ยนไม่แปลงไป
๏ ส่วนจิตและวิญญาณ ยังไพศาลแห่งวิสัย
บรรเจิดแห่งจิตใจ ก็วิวัฒน์ไปตามกาล
๏ จิตเล็กคือจิตที่ เป็นวิถีแห่งพื้นฐาน
ชีวิตจิตวิญญาณ ก็เขลาขลาดและหวาดกลัว
๏ จิตใจที่คับแคบ อยู่กันแบบเห็นแก่ตัว
สังคมแค่ครอบครัว ไม่วิวัฒน์พัฒนา
๏ จิตใหญ่คือจิตที่ เป็นวิถีแห่งปัญญา
เมตตากรุณา มุทิตาก็ครบครัน
๏ รู้ทางเดินห่างทุกข์ อีกสร้างสุขเกษมสันต์
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน มั่นไมตรีมีสังคม
๏ วิถีจิตสาธา- รณะพาพิสุทธิ์สม
สร้างชื่อให้โลกชม ประพฤติชอบประกอบมี
๏ ทำสิ่งเป็นประโยชน์ ให้รุ่งโรจน์เรืองทวี
สร้างคุณคือความดี ให้คงอยู่คู่แผ่นดิน
..................................... (28. พรนภา) ......................................
29. ซุปเปอร์
ฝันร้ายกลายเป็นดี (29. ซุปเปอร์)
๏ เข้านอนแต่ตอนค่ำ แว่วเสียงคำพร่ำสวดมนต์
เสริมบุญคุณพระดล กุศลช่วยอำนวยชัย
๏ ชะตาฟ้าพลิกผัน ทุกข์โรมรันจิตหวั่นไหว
พายุอุทกภัย เข้าไหลบ่าทั่วธาตรี
๏ เรือนนอนต้องจรจาก จำใจพรากยากหลีกหนี
ภาพในวันพรุ่งนี้ พังทลายหายกับตา
๏ ค่ำคืนสะอื้นไห้ ทุ่งท้องไร่อาลัยหา
แดดิ้นสิ้นชีวา โศกอาดูรแทบสูญพันธุ์
๏ ถึงคราฟ้าหลังฝน บันดาลผลบันดลขวัญ
ลบล้างความใจบัลย์ ร่วมสรรค์สร้างเส้นทางบุญ
๏ น้ำใจไทยทั่วหล้า ปรารถนามาเกื้อหนุน
ช่วยเหลือช่วยเจือจุน การุณย์ธรรมค้ำธานินทร์
๏ คลื่นน้ำใจผู้กล้า เปี่ยมเมตตามาหลั่งริน
เติมรักทั่วท้องถิ่น ชุบชีวินแผ่นดินทอง
๏ ฝันร้ายกลายเป็นดี คืนวิถีสิ่งดีผอง
บ้านเมืองจักเรืองรอง เพราะคนไทยไม่ทิ้งกัน
..................................... (29. ซุปเปอร์) ......................................
30. วีรยา
"สะพานไมตรี" (30. วีรยา)
๏ ลงมือทำสิ่งใด ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น
มิหวังได้รางวัล ด้วยประเด็นเห็นแก่ตัว
๏ มีจิตสาธารณะ เสียสละสุขถ้วนทั่ว
ออกห่างทางหมองมัว สร้างศักดิ์ศรีอันดีงาม
๏ น้ำใจที่ไหลริน ทุกฐานถิ่นสุขล้นหลาม
ศรัทธาอย่ามองข้าม รู้เผื่อแผ่แก่ผู้คน
๏ ใจกล้าอย่าคิดท้อ เพียรเติมต่อก่อเกิดผล
ทุกวันหมั่นเตือนตน ประพฤติธรรมนำชีวี
๏ ช่วยเหลือเอื้อผู้อื่น จงหยิบยื่นทุกวิถี
แบ่งปันสรรค์ความดี ทุกหนทางห่างราคิน
๏ สังคมจะสมบูรณ์ สุขเพิ่มพูนมิสูญสิ้น
ไมตรีที่หลั่งริน ชั่วชีวินชนชื่นชม.
..................................... (30. วีรยา) ......................................
31. นิบุณ
จิตสาธารณะ (31. นิบุณ)
๏ จิตสาธารณะ ชอบอาสาพาช่วยเหลือ
จิตดีชอบจุนเจือ สงเคราะห์เกื้อหนุนทำดี
๏ สังคมจะดีได้ ถ้าคนไทยมีศักดิ์ศรี
ร่วมมือสามัคคี สร้างความดีตลอดกาล
..................................... (31. นิบุณ) ......................................