ReadyPlanet.com
dot dot
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (กลอนสุภาพ) : หัวข้อ “นามธรรม”

 

ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (กลอนสุภาพ) : หัวข้อ นามธรรม

ครั้งที่ 5 ประจำปี 2555 จำนวน 18ชิ้น

 

1. กัญญารัตน์   

ส่งทางอีเมล์ : Thursday, October 11, 2012 8:35 AM

 

อิทธิพลหรือบารมี สิ่งไหนจะถาวร... (1. กัญญารัตน์)

            มีสิ่งใดให้ค่าความประเสริฐ                      เชิญผู้คนชูเชิดเลิศล้ำค่า

คนหลายคนชอบจัดแจงแสวงมา                            หวังภายหน้าสุขสบายทั้งกายใจ

            หรือจะเป็นอิทธิพลดลอำนาจ                    พยาบาทผู้น้อยละห้อยไห้

มาขู่เข็ญคุกคามหยามหทัย                                    เบียดเบียนใช้อาวุธข่มบ่มอธรรม

            อิทธิพลเขาคงหวังสร้างยศศักดิ์               มีลูกน้องพร้อมพรักเลวดื่มด่ำ

ใช้เงินทองซื้อคนล้นระยำ                                      สิ่งนี้จักไม่นำความมั่นคง

            ซึ่งเปรียบกับบารมีคือหยินหยาง                 บารมีแสนกระจ่างดุจเหมหงส์

อิทธิพลคือการ้ายไม่เที่ยงตรง                                 มีแต่ลงสู่ห้วงเหวอเวจี

            บุญกุศลสิจะนำซึ่งความสุข                      ช่วยปลอบปลุกขวัญคนทุกถิ่นที่

ทำกายใจวิสุทธิ์ก่อ บารมี”                                  เราเปรมปรีดิ์คนรอบข้างต่างสบาย

            บุญช่วยคนสุขได้ทั้งชายหญิง                     บุญเป็นสิ่งที่ไม่มีวันสลาย

บุญจึงไม่มีวันที่มันตาย                                         บุญสร้างสายบารมีสุขนิรันดร์

.....................................(1.กัญญารัตน์)......................................

 

2. กัญญารัตน์   

ส่งทางอีเมล์ : Thursday, October 11, 2012 8:48 AM

 

เพียงฝันไป (2. กัญญารัตน์) ส่งครั้งแรก มีแก้ไข 

            ฉันฝันว่าลอยไปในฟ้ากว้าง                       ทุกทุกอย่างฉันได้เห็นเป็นสุขี

ลอยมาถึงจักรวาลพานเปรมปรีดิ์                            ฉันได้มีโอกาสมองโลกของเรา

            ฉันเห็นเด็กได้โอกาสการศึกษา                   ไม่แบ่งว่ารวยจนหม่นหมองเศร้า

มิยกพวกตีกันทุกค่ำเช้า                                         ไม่มีคนกินเหล้าและเสพยา

            คนทุกคนมุ่งทำงานอย่างขันแข็ง                มีเรี่ยวแรงมิป่วยไข้ไร้โรคหา

รักษากฎระเบียบเมืองเลื่องลือชา                            ไร้ซึ่งการเข่นฆ่าทุกนาคร

            ทุกประเทศเปรียบเหมือนพี่และน้อง           สายใยคล้องมิตรภาพสโมสร

ทุกดินแดนมีจุนเจือเอื้ออาทร                                 ห่างทุกข์ร้อนแห่งกิเลศและเภทภัย

            ทุกถิ่นที่ชุ่มฉ่ำเย็นด้วยผืนป่า                      แซมบุปผาสรรพสีดูสดใส

มีสัตว์อยู่หลายหลากมากน้ำใจ                               พึ่งพากันแสนวิไลในโลกา

            สุรเสียงทุกชีวิตแสนอ่อนหวาน                  ไพเราะปานเทพบรรเลงซึ้งหนักหนา

มีผีเสื้อแห่งความดีบินจากฟ้า                                โปรยไออุ่นบนหล้าโลกเรืองรอง

            มีสายรุ้งวาดสายใยได้ล้อมโลก                   มีสายฝนขจัดโศกไร้เศร้าหมอง

มีแสงเดือนแลแสงดาวให้สุขปอง                           มีแสงดวงตะวันส่องเดินถูกทาง

            แต่พอฉันตื่นมาฝันจางหาย                       สิ่งที่เห็นพังทลายทุกสิ่งอย่าง

โลกความจริงคุณธรรมเริ่มเลือนราง                       มิสว่างเหมือนในฝันฉันตรอมตรม

            ฉันขอวอนสรรพสิ่งทุกหย่อมหญ้า              โปรดหันหน้ามารักกันมิขื่นขม

ร่วมกันสร้างโลกของเราให้น่าชม                           ครองสุขสมตราบเท่ากาลนานนิรันดร์

.....................................(2.กัญญารัตน์)......................................

 

3. กัญญารัตน์   

ส่งทางอีเมล์ : Thursday, October 11, 2012 6:21 PM

 

เพียงฝันไป (3. กัญญารัตน์) แก้ไขครั้งที่ 1 

            ฉันฝันว่าลอยไปในฟ้ากว้าง                       ทุกทุกอย่างฉันได้เห็นเป็นสุขี

ลอยมาถึงจักรวาลพานเปรมปรีดิ์                            ฉันได้มีโอกาสมองโลกของเรา

            ฉันเห็นเด็กได้โอกาสการศึกษา                   ไม่แบ่งว่ารวยจนหม่นหมองเศร้า

มิยกพวกตีกันทุกค่ำเช้า                                         ไม่มีคนกินเหล้าและเสพยา

            คนทุกคนมุ่งทำงานอย่างขันแข็ง                มีเรี่ยวแรงมิป่วยไข้ไร้โรคหา

รักษากฎระเบียบเมืองเลื่องลือชา                            ไร้ซึ่งการเข่นฆ่าทุกนาคร

            ทุกประเทศเปรียบเหมือนพี่และน้อง           สายใยคล้องมิตรภาพสโมสร

ทุกดินแดนมีจุนเจือเอื้ออาทร                                 ห่างทุกข์ร้อนแห่งกิเลศและเภทภัย

            ทุกถิ่นที่ เขียวชอุ่มชุ่มพฤกษา                    แซมบุปผาสรรพสีดูสดใส

มีสัตว์อยู่หลายหลากมากน้ำใจ                               พึ่งพากันแสนวิไลในโลกา

            สุรเสียงทุกชีวิตแสนอ่อนหวาน                  ไพเราะปานเทพบรรเลงซึ้งหนักหนา

มีผีเสื้อแห่งความดีบินจากฟ้า                                โปรยไออุ่นบนหล้าโลกเรืองรอง

            มีสายรุ้งวาดสายใยได้ล้อมโลก                   มีสายฝนขจัดโศกไร้เศร้าหมอง

มีแสงเดือนแลแสงดาวให้สุขปอง                           มีแสงดวงตะวันส่องเดินถูกทาง

            แต่พอฉันตื่นมาฝันจางหาย                       สิ่งที่เห็นพังทลายทุกสิ่งอย่าง

โลกความจริงคุณธรรมเริ่มเลือนราง                       มิสว่างเหมือนในฝันฉันตรอมตรม

            ฉันขอวอนสรรพสิ่งทุกหย่อมหญ้า              โปรดหันหน้ามารักกันมิขื่นขม

ร่วมกันสร้างโลกของเราให้น่าชม                           ครองสุขสมตราบเท่ากาลนานนิรันดร์...

.....................................(3.กัญญารัตน์)......................................

 

4. เนติเชาวน์

ส่งทางอีเมล์ : Thursday, October 11, 2012 11:22 AM

 

สายธารแห่งชีวิต  (4. เนติเชาวน์)

เปรียบสายธารฉ่ำน้ำชโลมจิต                    ดั่งโลหิตชโลมชีพอสงไขย

กษีรหล่อเลี้ยงร่างทั้งกายใจ                                       หลอมรวมให้เป็นมนุษย์หนึ่งชีวัน

ก่อกำเนิดเป็นชีวิต ณ แดนโลก                   ลมโชยโบกพลิ้วไหวราวสุขสันต์

แต่ยามใดลมพลิ้วสลายพลัน                                    คือชีพนั้นดับสิ้นมรณา

อนิจจาชีวิตที่แสนสั้น                                ดุจเพ็ญจันทร์แสงเรืองรองทั่วขอบฟ้า

เวลาล่วงอโณทัยทอแสงมา                                       อินทุลาลับหายในม่านไฟ

นี่แหละหนาคือชีวิตของมนุษย์                 บริสุทธิ์ผุดผ่องแสนสดใส

จะดีชั่วอยู่ที่ตนลิขิตไว้                                                  แม้สิ่งใดไม่มีค่าเท่าความดี

อันความดีดั่งดวงมณีแก้ว                           งามเพริดแพร้วล้ำค่าสร้างราศี

สองมือน้อยประคองโลกไร้ราคี                                  ปฐพีกิระนามสรรเสริญคุณ

อันความชั่ววินิบาตทำลายชีพ                    ดวงประทีปมืดสนิทดับเกื้อหนุน

ดุจยักษ์มารอสุรินทร์ดับการุณย์                                  ชีวิตวุ่นเพราะความชั่วสนองตาม

บนโลกนี้ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า                            พรรณนาย้อนคิดพินิจถาม

ฉลุวาดเติมแต่งสลักความ                                             สร้างจิตใจให้งดงามดั่งดอกบัว

เปรียบบัวเป็นสี่เหล่าพระท่านสอน             อย่าตัดรอนสติดับมืดสลัว

ส่วนคนเก่งปัญญาดีอย่าเกรงกลัว                                อันความชั่วมิทำลายปุถุชน

อย่าเพ้อฝันถึงวันวานที่หวานหอม               ฝันจอมปลอมนำจิตคิดสับสน

อย่าเพ้อฝันอนาคตยอมจำนน                                       ต้องสู้ทนอยู่กับปัจจุบัน

นามธรรมคือจิตใจในเรือนร่าง                    หยาบกระด้างอยู่ที่ตนนั้นสร้างสรรค์

ชีวิตแสนเกรียงไกรวอดวายพลัน                                ถ้าไร้ซึ่งความบากบั่นในความดี

..................................... (4. เนติเชาวน์)......................................

 

5. สาวิณี

ส่งทางอีเมล์ : Friday, October 12, 2012 8:30 PM

 

นามธรรม (5. สาวิณี)

ในสังคมตราคนตามความคิด                    มักยึดติดความสวยรวยหรูหรา

ครั้นคบคนคู่ครองแค่มองตา                                  ประเมินค่าสินทรัพย์นับว่าดี

                บางคนหยิ่งถือยศว่ายิ่งใหญ่                   ปลาบปลื้มใจยศมากมากศักดิ์ศรี

คอยดูถูกขู่ใครเขาไม่เข้าที                                      ด้วยบารมีมากมายมิอายใคร

                นามธรรมเหล่านี้มิเที่ยงแท้                    เมื่อตอนแก่หนังเหี่ยวย่นเป็นไหนไหน

ที่เคยสวยเคยหล่อก็เปลี่ยนไป                                 ยามสิ้นใจเหลือแค่เหล่าเถ้าอังคาร

                อีกเงินทองท่วมท้นที่เคยมี                      ตายเป็นผีก็คงน่าสงสาร

ยศตำแน่งเคยชื่นชมมานมนาน                              ก็สิ้นการทำอะไรไม่ได้เลย

                ช่างแตกต่างจากสิ่งที่ดีและชั่ว               อยู่ที่ตัวเราจะเลือกทำสิ่งไหน

ทำความดีก็สุขแสนสบายใจ                                  ทำชั่วไปดั่งไฟเร้าเผาฤดี

                เมื่อหมดสิ้นชีวิตในวันหนึ่ง                   ดีชั่วพึงอยู่กับเราไม่ถอยหนี

บุญกับบาปนั่นคือกรรมที่เรามี                               สองสิ่งนี้ประดับไว้ในโลกา

..................................... (5. สาวิณี)......................................

 

6. วีระพันธ์

ส่งทางอีเมล์ : Saturday, October 13, 2012 2:54 PM

 

นามธรรม (6. วีระพันธ์)

                นามธรรมบ่งชี้คือดีชั่ว                          อยู่ที่ตัวได้กระทำทางโลกีย์

 ดั่งโลหิตชโลมดวงชีวี                                          คิดสิ่งดีควรกระทำในใจตน

                 ใจคิดดีทำดีมุ่งสรรหา                          ยึดศรัทธาพาจิตใจไม่สับสน

 ทำความดีประพฤติดีให้ได้ยล                                แม้นรวยจนไม่สำคัญเท่าจิตใจ

                 ใจคิดร้ายดั่งนรกเหมือนสุมไฟ               ทำให้ใจมอดดับลับหายไป

  มาจากใจที่ทุกข์ร้อนไร้ผ่องใส                              สู่โรคภัยทางใจนับคณา

                  อันความสุขของคนถือเป็นลาภ            ละเว้นบาปคุณโทษมิโรยรา

   ยึดมั่นในศีลธรรมค้ำเยียวยา                                ช่วยรักษาโรคภัยอย่าเบียดเบียนกาย

                  ต่างจากทุกข์ของคนก่อเกิดกรรม          ใจกระทำชั่วช้าเสื่อมเสียหาย

   หากคิดร้ายพยาบาทเผาชีพวาย                            สูญสลายอันความดีหมดสิ้นกัน

                   ในโลกนี้ใดใดล้วนอนิจัง                    คิดเบียดบังทรัพย์สินทุกวี่วัน

    ฟ้าลงทัณฑ์คนคิดชั่วมิรู้ทัน                              กาลแปรผันเตือนตนนึกตริตรอง

                    เปรียบได้กับดอกบัวทั้งสี่เหล่า            ไม่เหี่ยวเฉาใจคิดดีมั่นใฝ่ปรอง

     ยึดหลักธรรมเดินสายกลางตามคันลอง               ไม่หม่นหมองความดีสร้างสั่งสมมา

                     เปรียบดั่งกับผลดีชั่วที่สั่งสม            ดีได้ชมชั่วขืนขมคร่าวชีวา

     คิดเชิงบวกเชิงไพเราะส่อวาจา                         ยังอุสาห์มองคนงามน้ำใจ

นามธรรมคือเหตุบอกกรรมคน                  ดีชั่วปนคนธรรมดาอย่าสงสัย

    อยู่ที่ตนจะคิดเห็นเป็นเช่นไร                                          ดั่งฤทัยว่าดีชั่วในใจคน

                        การกระทำชั่วดีหนีไม่พ้น                          ยิ่งมากล้นหากทำชั่วพามืดมน

    ดีชั่วคือธรรมชาติของปุถุชน                                          จรัสพ้นผ่านสู่ความดีงาม

..................................... (6. วีระพันธ์)......................................

 

7. อภิสิทธิ์

ส่งทางอีเมล์ : Saturday, October 13, 2012 5:35 PM

 

นามธรรม (7. อภิสิทธิ์)

นามธรรมความคิดจิตรู้สึก                        จากส่วนลึกของหัวใจให้ค้นหา

ผิดหรือถูกชั่วหรือดีในชีวา                                       สื่อคุณค่ารูปธรรมประจำตน

โลภโกรธหลงนามธรรมเรืองอำนาจ      ชนในชาติไขว่คว้ารักษาผล

บ้านเมืองเจียนบรรลัยในบัดดล                              นั่นเพราะคนหลงติดบาปจิตใจ

คลื่นอารมณ์โถมกระหน่ำช้ำชีวิต                ชาติวิกฤติย่ำแย่เกินแก้ไข

เมื่อหลักธรรมหมดทางสร้างทุกข์ภัย                       ลามเปลวไฟทุรยุคลุกไหม้มา       

เลือดพี่น้องไหลหยาดธงชาติเปื้อน              ฟ้าสะเทือนดินสะท้านปานคลั่งบ้า

ประหนึ่งฝนหยาดกระเซ็นเป็นน้ำตา                       รดพาราวิปโยคโชคไม่ดี

เมื่อรอยบาปฉาบใจไปทั้งหมด                   ใจคิดคดเกินสติลุวิถี

หลง ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เข้าทุกที                      แล้วจะมีวันใหม่อย่างไรกัน

หวังรอยบุญคุณธรรมนำปรากฏ                ส่องแจ้งความอัปยศให้ลดหลั่น

หวังดวงตาเห็นธรรมนำชีวัน                                      เราจะหยุดการฆ่าฟันกันเสียที

เมื่อโลกมีนามธรรมอันล้ำเลิศ                     ย่อมก่อเกิดรูปธรรมล้ำวิถี

เหมือนก้อนดินก่อรูปทรงจากผงคลี                        เศษธุลีจักก่อร่างบนทางธรรม

ใจสะอาดใจสว่างใจสงบ                          หามิพบจากใจผู้ใฝ่ต่ำ

ก่อนชีวิตหมดไปชดใช้กรรม                                     ถามซักคำว่าทำดีมากี่คราว!?

..................................... (7. อภิสิทธิ์)......................................  

 

8. โอรสิทธิ์

ส่งทางอีเมล์ : Sunday, October 14, 2012 7:56 PM

 

อสุรเทวสงคราม (ฉบับนามธรรม) (8. โอรสิทธิ์) ส่งครั้งแรก มีแก้ไข

                           ๏ กรี๊ด กริ๊ง กร๊าง ข้างเตียงเสียงสนั่น        ช่างหัวมันนาฬิกาบ้าฉิบหาย

                        ตกใจตื่นฝืนหนังตาผวากาย                       เย็นสบายอยากจะขอต่อเวลา

                        แต่ข่มกายข่มใจให้รีบตื่น                           เฮ้ย! เมื่อคืน ดื่นดึกไปนี่หว่า

                        รีบอาบน้ำจัดแจงแต่งกายา                        ไม่อยากมาเลยวันนี้ที่โรงเรียน

                        เคารพธงเข้าแถวตามแนวท่าน                  แสนรำคาญ เฮ้ย!กู มาอ่าน-เขียน

                        การศึกษาถึงลำบากหมั่นพากเพียร              เห็นเพื่อนเวียนลอกงานกันฉันอยากจัง

                        ทำด้วยตนเพราะศรัทธาปัญญามนุษย์          เฮ้ย! มัวสุจริตจิตทุกขัง

                        กำลังจิตกำลังใจไม่เบียดบัง                       เห็นเพื่อนนั่งหัวร่อเริ่มท้อแท้

                        เลิกโรงเรียนรีบกลับบ้านช่วยงานพ่อ           เขาไปต่อเที่ยวห้างฯงามตามกระแส

                        ยายยังป่วยต้องร่วมด้วยช่วยดูแล                 โรคคนแก่คิดปวดสมอง..ของธรรมดา

                        เมื่ออิ่มข้าวล้างจานช่วยงานแม่                  เฮ้ย! นี่แกเป็นกะเทยหรือเปล่าหวา?

                        เงินเหลือกินเก็บอดออมถนอมราคา            หนังใหม่มาน่าดู รู้หรือยัง?

                        ก่อนเข้านอนสอนใจใฝ่ธรรมะ                   โอ๊ย! เรื่องพระเรื่องเจ้าเอาทิ้งมั่ง

                        ประนมมือถือศีลงามตามเคยฟัง                 อยากสาธุดังดัง ไอ้เด็กดี!

                        ศึกสงครามย่อยย่อยค่อยบังเกิด                 ถือกำเนิดรุกรบในใจเรานี่

                       ฟากหนึ่งนั้นท่านเทวาสามัคคี                   อีกฟากหนึ่งอสุรีบี้บีฑา

                         ทั้ง“ความชั่ว-ความดี”คนมีครบ              เคลื่อนบรรจบในกมลคนนี้หนา

                        นามธรรมสองฟากฝั่งคอยตั้งตา                 ทั้ง“กิเลส”และ“ศรัทธา”ห้ำหั่นกัน

                        เขาบอกว่าสวรรค์อยู่ในอก                         ส่วนนรกก็อยู่ในใจของฉัน

                        นามธรรมชั่วดีมีครบครัน                          สุดแต่เรากำหนดมันให้เป็นไป... ๛

..................................... (8. โอรสิทธิ์)...................................... 

 

9. โอรสิทธิ์

ส่งทางอีเมล์ : Sunday, October 14, 2012 8:23 PM

 

เทวาสุรสงคราม (ฉบับนามธรรม) (9. โอรสิทธิ์) แก้ไขครั้งที่ 1

                           ๏ กรี๊ด กริ๊ง กร๊าง ข้างเตียงเสียงสนั่น        ช่างหัวมันนาฬิกาบ้าฉิบหาย

                        ตกใจตื่นฝืนหนังตาผวากาย                       เย็นสบายอยากจะขอต่อเวลา

                        แต่ข่มกายข่มใจให้รีบตื่น                           เฮ้ย! เมื่อคืน ดื่นดึกไปนี่หว่า

                        รีบอาบน้ำจัดแจงแต่งกายา                        ไม่อยากมาเลยวันนี้ที่โรงเรียน

                        เคารพธงเข้าแถวตามแนวท่าน                  แสนรำคาญ เฮ้ย!กู มาอ่าน-เขียน

                        การศึกษาถึงลำบากหมั่นพากเพียร              เห็นเพื่อนเวียนลอกงานกันฉันอยากจัง

                        ทำด้วยตนเพราะศรัทธาปัญญามนุษย์          เฮ้ย! มัวสุจริตจิตทุกขัง

                        กำลังจิตกำลังใจไม่เบียดบัง                       เห็นเพื่อนนั่งหัวร่อเริ่มท้อแท้

                        เลิกโรงเรียนรีบกลับบ้านช่วยงานพ่อ           เขาไปต่อเที่ยวห้างฯงามตามกระแส

                        ยายยังป่วยต้องร่วมด้วยช่วยดูแล                 โรคคนแก่คิดปวดสมอง..ของธรรมดา

                        เมื่ออิ่มข้าวล้างจานช่วยงานแม่                  เฮ้ย! นี่แกเป็นกะเทยหรือเปล่าหวา?

                        เงินเหลือกินเก็บอดออมถนอมราคา            หนังใหม่มาน่าดู รู้หรือยัง?

                        ก่อนเข้านอนสอนใจใฝ่ธรรมะ                   โอ๊ย! เรื่องพระเรื่องเจ้าเอาทิ้งมั่ง

                        ประนมมือถือศีลงามตามเคยฟัง                 อยากสาธุดังดัง ไอ้เด็กดี!

                         ศึกสงครามย่อยย่อยค่อยบังเกิด                 ถือกำเนิดรุกรบในใจเรานี่

                         ฟากหนึ่งนั้นท่านเทวาสามัคคี                   อีกฟากหนึ่งอสุรีบี้บีฑา

                         ทั้ง“ความชั่ว-ความดี”คนมีครบ              เคลื่อนบรรจบในกมลคนนี้หนา

                         นามธรรมสองฟากฝั่งคอยตั้งตา                 ทั้ง“กิเลส”และ“ศรัทธา”ห้ำหั่นกัน

                        เขาบอกว่าสวรรค์อยู่ในอก                            ส่วนนรกก็อยู่ในใจของฉัน

                        นามธรรมชั่วดีมีครบครัน                          สุดแต่เรากำหนดมันให้เป็นไป... ๛

..................................... (9. โอรสิทธิ์)...................................... 

 

10. โอรสิทธิ์

ส่งทางอีเมล์ : Sunday, October 14, 2012 7:56 PM

 

นามธรรมนำใจ (10. โอรสิทธิ์)

                        ๏ นามธรรมนำใจในวันนี้                         เสนอนาม“ความดี”ที่ใกล้สูญ

            ยุคเร่งรุดมนุษย์หยาบบาปเพิ่มพูน                      “ความเกื้อกูล-เผื่อแผ่”...แค่คำลวง

                        จะหาใครเป็นผู้นำทำดีเล่า?                       มนุษย์เจ้าขอเทวาจากฟ้าสรวง

            อัศวินม้าเหาะเลาะดาวดวง                                   มายุติบาปทั้งปวงในโลกา

                        ขอพระพุทธเจ้ามาเล่าเรื่อง                        อันสืบเนื่องเนื้อความตามศาสนา

            เชิญพระอินทร์ปิ่นบดีศรีเทวา                                มาอวดองค์แทนดาราในทีวี

                        ขอท่านท้าวมัจจุราชประกาศศักดิ์              ให้มนุษย์แจ้งประจักษ์รักษ์ศีลศรี

            ช่วยชะลอย่อนรกอเวจี                                          มาข่มขวัญคนกาลีที่มัวเมา

                        ขอต้นแบบ ขอผู้นำ ขอคำสอน                   มาช่วยป้อน“ธรรม”สู่ผู้โง่เขลา

            ขอคนดีชี้นำใจให้พวกเรา                                      มีแรงเข้าถึง“ธรรมะ”พระพุทธองค์

                         ขอเสียทีพี่น้องผองมนุษย์!                        “พุทธธรรม” คือที่สุดจุดประสงค์

            ขอเพียงเชื่อกฎแห่งกรรมย้ำดำรง                            ย่อมน้อมนำจิตส่ง...สู่“ความดี”

                        เชื่อใน“บาป”เชื่อใน“บุญ”เชื่อ“คุณ-โทษ”    ก็เหมือนฟังพระเจ้าโปรด“ธรรม”ถึงที่

            ไม่ต้องรอเห็นตำตา...“อเวจี”                                 เชื่อว่ามีย่อมสิ้นสุดยุติ“กรรม์”

                        เชื่อ“นรก”เชื่อ“สวรรค์”ท่านก็ก้าว              สู่สรวงดาวดึงส์แล้วครึ่งขั้น

            เพียงเชื่อว่า“บุญ-กรรม”ทำกันทัน                          ก็เหมือนเตรียมผ่าน“สวรรค์”ชั้นนิพพาน

                        มองคนเราทุกวันนี้วิถีโลก             ที่หมุนสุขหมุนโศกเป็นแก่นสาร

            เพียงน้อมนำ“คุณธรรม”นำสันดาน                        ก็ก้าวผ่านเป็นมนุษย์หลุดจากคน

                        นามธรรมนำใจในวันนี้                            ปิดท้ายด้วย“เลว-ดี”อย่าสับสน

            เบิก“บุญ”นำ ทิ้ง“กรรม”ผละละกมล                      ย่อมเป็นคนที่งดงามด้วย“ความดี”

..................................... (10. โอรสิทธิ์)......................................           

 

11. โอรสิทธิ์

ส่งทางอีเมล์ : Sunday, October 14, 2012 7:56 PM

 

อันเกิดเนื่องแต่นามธรรม  (11. โอรสิทธิ์)

            ๏  กตัญญู  รู้ชอบตอบคุณท่าน                  ขวนขวาย  หมั่นการงานสานนิสัย

คารมหวาน  ซ่านทรวงจากดวงใจ                         งาม-เงียบ-ง่าย  ได้ฤทัยใครพบเจอ

            จริงจังจริงใจ  ให้ทุกผู้                              ฉลาดอยู่ฉลาดใช้  ไม่พลั้งเผลอ

เชาวน์ปัญญาว่องไว  ไม่เผอเรอ                            ซื่อสัตย์  เสมอไม่โกงใคร

            ดำริชอบ  ดำรงธรรมนำหน้าที่                  ตบะ  มีข่มกิเลสเหตุหมองไหม้

ถนอมน้ำใจคน  ทั้งใกล้ไกล                                   ทแกล้วกล้า-ทมะ  ไซร้มีในตน

ธรรมกาม  ธรรมคุณหนุนต่อเนื่อง             นบนอบ  มิขัดเคืองให้ท่านบ่น

บริการ  ตามท่านใช้ไม่กังวล                                 ปกครองตน  ด้วยดำริปฏิภาณ

            ผดุงเกียรติยศ  ไว้ให้ผง่าน                       ฝักใฝ่งาน  ใส่ใจไม่เกียจคร้าน

พจมานหวานหู  อยู่ทุกกาล                                   ฟังคำท่าน  กล่าวสอนทุกตอนวจี

ภักดีชาติ ศาสน์ กษัตริย์  ไม่ขัดแย้ง           มนุษยสัมพันธ์  หมั่นแสดงทุกแห่งที่

ยกย่องผู้มีบุญคุณ  หนุนชีวี                                  รอบคอบ  ด้วยวิถีแห่งปัญญา

ละมุนละม่อม น่าเอ็นดูด้วยรู้ชอบ               วจีหวาน  รู้ตอบครับคะขา

ศรัทธา  มั่นในองค์ปราชญ์ศาสดา                          ษมา  เมื่อรู้ว่าล้ำล่วงเกิน

            สติ  มั่นหมั่นสดับจับความรู้                     ห่วงใยผู้มีบุญคุณ  หนุนสรรเสริญ

อดทน  สู้จนอดออมยอมเผชิญ                              ฮึดสู้ชั่ว  ก้าวเดินบนความดี

อันเนื่องแต่นามธรรมนำมาจัด                   เรียงบรรทัดเสียใหม่ให้เข้าที่

แปลงให้เห็นเป็นรูปธรรมนำวิธี                             เพื่อแสดงว่า“ความดี”อยู่มิไกล

สิ่งดีงามทั้งหมดจดมานี้                           แตกความจากคำ“ความดี”มิสงสัย

ผู้ใดมีคุณธรรมนำจิตใจ                                        ย่อมทำได้ทั้งหมดที่จดมา ๛

..................................... (11. โอรสิทธิ์)......................................  

 

12. อัษฎาวุธ

ส่งทางอีเมล์ : Monday, October 15, 2012 11:55 AM

 

นามธรรม (12. อัษฎาวุธ) 

ตถาคตตรัสธรรมหลักคำสอน                    จิตสะท้อนสัจธรรมค้ำโลกไว้

ต้องเกิดแก่เจ็บตายเวียนว่ายไป                                     หลุดพ้นได้ด้วยนิพพานกาลเวลา

โลกแห่งธรรมแบ่งรูป-นามตามที่เห็น         กายใจเป็นสื่อสัมพันธ์คือขันธ์ห้า

ล้วนทุกขัง อนิจจัง อนัตตา                                           แสวงหาความเที่ยงแท้แต่ไม่มี

อันรูปรสกลิ่นเสียงเพียงตัญหา                   เขลาปัญญาลุ่มหลงคงวิถี

เพราะตาหูจมูกปากกายที่มี                                        ทั้งธาตุสี่รูปธรรมสัมผัสมา

อันอารมณ์ความรู้สึกนึกสงสาร                จิตฟุ้งซ่านหดหู่รู้ปัญหา

อยู่เป็นกลางหรือสุขเศร้าเคล้าน้ำตา                           จดจำว่าทุกสิ่งยิ่งสำคัญ

จำหมายรู้ผูกพันคือสัญญา                                เวทนาเป็นสุขทุกข์โศกศัลย์

สังขารคือความรู้สึกสารพัน                                              ร่างชีวันคือวิญญาณผสานกาย

นามธรรมรับรู้ดูด้วยใจ                                         สัมผัสได้ลึกซึ้งถึงความหมาย

ความเปลี่ยนแปลงไม่ยอมรับกลับเสียดาย                       โลกเวียนว่ายวัฏจักรตามเวลา

มองไม่เห็นความจริงเพราะวิ่งหนี                          แต่ความดีมองไม่เห็นเป็นปัญหา

ความถูกต้องมองไม่เห็นเป็นมายา                                      ความศรัทธามองไม่เห็นเป็นธุลี

เปิดดวงตาทั้งสองมองไม่เห็น                                อนึ่งเช่นนัยน์ตาข้าริบหรี่

ลองเปิดใจเสียสละจะยอมพลี                                             เสี้ยวนาทีก็เห็นงามนามธรรม

..................................... (12. อัษฎาวุธ)......................................

 

13. โอรสิทธิ์

ส่งทางอีเมล์ : Monday, October 15, 2012 5:08 PM

 

ทศพิธราชธรรม (13. โอรสิทธิ์)

พระทรงธรรมนำทาน”หว่านทุกที่         ไม่เลือกจนหรือมั่งมีเป็นที่ขาน

            เหนือมนุษย์พิสุทธิ์งามตาม“ศีล”ทาน                     ตั้งแต่ครั้งก้าวผ่านบัลลังก์ทอง

                        “บริจาค”สิ่งของเพื่อผองราษฎร์                แน่วดำรงองอาจมิเป็นสอง

            “อาชวะ” ธ ทรงสัตย์ชัดทุกตอน                             สิ่งทรงสอน ธ ทรงนำ ทำให้ยล

                        “มัทวะ” ความอ่อนโยนผ่อนปรนจิต           ธ พินิจติดเรื่องใดใช้เหตุผล

            บ่ม“ตบะ” ธ ล้ำรุดมนุษย์ชน                                 มิให้กองกิเลสล้นพ่นตะกอน

                        “อักโกธะ” ธ มิโกรธพิโรธขึ้ง                     อีกข้อหนึ่ง ธ ทรงทำดังคำสอน

            “อวิหิงสา” พาราษฎร์สุขทุกดงดอน                       มิสร้างความเดือดร้อนบ่อนเบียนใคร

                        ทรง“ขันติ”มิอ่อนไหวในกิเลส                   องค์ภูเบศวร์อดทนเห็นเป็นวิสัย

            มิคลาดเคลื่อนในศรัทธาธรรมวินัย                          “อวิโรธนะ”ไซร้ ธ ทรงมี

                        นามธรรมทำให้เห็นเป็นรูปร่าง                  ธ ทรงเป็นแบบอย่างวางวิถี

            ทศพิธราชธรรมนำชีวี                                          ขอเทิดเกียรติพระจักรี“ภูมิพล”

..................................... (13. โอรสิทธิ์)......................................                       

 

14. แก้วสุพรรณิการ์

ส่งทางอีเมล์ : Monday, October 15, 2012 11:23 PM

 

ฟังข่าว  (14. แก้วสุพรรณิการ์)

                        แม่จ๋า ! เขาทำอะไรในภาพข่าว                     คล้ายเรื่องราวการต่อสู้หนูเคยเล่น

เพื่อนวางกรอบระเบียบกฎกำหนดเกณฑ์         โจรหลีกเร้นตำรวจจับรับจำนน

                        แต่ทำไมเนื้อข่าวดูร้าวฉาน                            แดนประหารยิงฟันกันเกลื่อนกล่น

ต่างไม่ยอมลดละประจัญชน                                ต้องฆ่าคนกี่ร้อยค่อยครองชัย

                        แม่รู้ไหมใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง                    ทิ้งคำสั่งแผนการงานเหลวไหล

แล้วเขามีตัวตนอยู่หนใด                                      หรืออยู่ไกลต่างฟ้ามารังแก

                        แล้วใครที่ทิ้งร่างกลางถนน                       เป็นศพคนนับร้อยท่วมรอยแผล

น่าสงสารหนอชีวิตปิดดวงแด                                อะไรแน่เป็นเหตุเภทภัยพาล

                        ยังคงเป็นปริศนาค้างคาอยู่                         ใจของหนูสับสนอลหม่าน

เป็นแค่เกมหรือเรื่องจริงสิ่งร้าวราน                        ที่เคลือบคลานความทุกข์เข้ารุกฮือ 

เอ้...แม่จ๋าถ้าหนูเป็นผู้ใหญ่                        ต้องวิ่งไล่ฆ่าฟันอย่างนั้นหรือ                     

ถ้าหากเป็นเช่นข่าวเขาเล่าลือ                                จะขอเป็นเด็กดื้อทุกวันคืน

แม่ไม่ตอบคำถามตามสงสัย                      เพียงแต่ให้รีบเข้านอนก่อนดึกดื่น

นี่ภาพลวงข่าวสมมติไร้จุดยืน                                พรุ่งนี้ตื่นเป็นเด็กดีเท่านี้พอ        

..................................... (14. แก้วสุพรรณิการ์)......................................

 

15. มัญฑิตา      

ส่งทางอีเมล์ : Monday, October 15, 2012 11:55 PM

 

นามธรรม (15. มัญฑิตา)

สรรพสิ่งบนโลกนี้มีมากมาย                      ทั้งหญิงชายปรารถนามาเสพสม

เลี่ยงมิได้คล้ายจมอยู่ในโคลนตม                             ระรื่นรมย์ทั่วหน้าเป็นอาจิณ

            หารู้ไม่สิ่งเหล่านั้นคือภาพลวง                   มันเป็นบ่วงให้ทุกท่านหลงทรัพย์สิน

ยิ่งเงินทองของมีค่าเมื่อได้ยิน                                 คงจะบินลัดฟ้ามาหามัน

            แต่ช้าก่อนท่านทั้งหลายโปรดฟังไว้          สิ่งนี้จับต้องมิได้ดั่งสวรรค์

ความรู้สึกนึกคิดของตนนั้น                                   ทั้งความฝันที่เหนือจินตนาการ

            แม้นชื่อตนคำพูดหรือความรัก                   มักประจักษ์ให้ทราบเป็นหลักฐาน

แม้นความรู้ความซื่อสัตย์จิตวิญญาณ                     เป็นสารสื่อที่สัมผัสยากเหลือหลาย

            ดังที่กล่าวตัวอย่างจากข้างต้น                    ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้ความหมาย

ความดีชั่วในสังคมบ้างประปราย                           สิ่งเหล่านั้นเรียกว่า นามธรรม

            ไม่มีรูปไม่มีกลิ่นไม่มีเสียง                        เป็นได้เพียงส่วนหนึ่งตามความจำ

ไม่มีรสไม่สัมผัสที่เคยทำ                                      เป็นเพียงกรรมลิขิตนิมิตมา

..................................... (15. มัญฑิตา)...................................... 

 

16. ฐานันดร

ส่งทางเว็บบอร์ด : วันที่ตอบ 2012-10-15 16:49:52

 

นามธรรม...ตำรับทอง (16. ฐานันดร) 

วัฒนธรรมตำรับไทยไกลก้องโลก                            จะคลายโศกเสริมสร้าง"วรรณศิลป์"

จรุงคำฉ่ำพจน์เรียงร้อยริน                                                       ยังไม่สิ้นคงระบือเลื่องลือนาม

คือกาพย์กลอนกวีแก้วแววจรัส                              รู้พิพัฒน์ศรัทธาน่าเกรงขาม

บทประพันธ์ฉันทลักษณ์ประจักษ์ตาม                                คงเป็นความเป็นไทยให้ไพบูลย์

วัฒนธรรมตำรับทองผ่องไพสิฐ                             จรุงจิต"อาหารไทย"ไม่เสื่อมสูญ

ต้มแกงทอดผัดยำเจิดจำรูญ                                                       ช่วยเพิ่มพูนคุณค่าอาหารไทย

อีกฉิ่งฉาบร้องรำระบำพริ้ง                                       งดงามยิ่งเสียงปี่กลองอันผ่องใส

ระนาดกรับบัณเฑาะว์เพราะจับใจ                                     ด้วยอุ่นไอ"มนต์ขลังแห่งดนตรี "

ทุกวันนี้ศาสตร์ศิลป์ไทยเคยไพรัช                            เคยจำรัสสูงสุดวิศิษฏ์ศรี

เป็นยุคทองของไทยในปฐพี                                               ณ ตอนนี้คนไทยไม่ดูแล 

จงรักษาสืบไปอย่าให้สูญ                                       จงเทิดทูนศรัทธาหาทางแก้

จงทำเป็นรูปธรรมอย่างเที่ยงแท้                                         ใช่เพียงแค่"นามธรรมตำรับทอง"

..................................... (16. ฐานันดร)......................................

 

17. สุทธานุช

ส่งทางไปรษณีย์ : 15 ตุลาคม 2555

 

นามธรรม (17. สุทธานุช)

อันเลวดีมีเกิดจากความคิด                        ผลผลิตจากสมองมองไม่เห็น

เอาอารมณ์กรองกลั่นว่าท่านเป็น                           ไม่ยากเย็นเรียกขานนามธรรรม

            ความชิงชังรังเกียจเบียดเข้าชิด                   หูตาปิดลิ้นไม่รู้ดูไม่ขำ

เกิดจากจิตคิดสร้างอารมณ์นำ                               นามธรรมเป็นเรื่องใจไม่มีกาย

            เหตุเกิดมาวิเคราะห์ให้เหมาะมั่น               ว่าความนั้นสัตย์ซื่อหรือสหาย

เกียรติยศ คดโกง ไม่รู้อาย                                      คำทั้งหลายล้วนเป็น นามธรรม

            ที่อรรถาธิบายมาหลายบท                         ท่านกำหนดเป็นสองมองขำขำ

นั้นคือ รูปและ นามจงจดจำ                         รูปธรรมจับต้องมองเห็นกาย

            นามธรรมเป็นเรื่องของใจจิต                     ได้แบ่งคิดเป็นสี่มีให้หมาย

เวทนา สัญญา นะเจ้านาย                                     สังขารกลายเป็นวิญญาณสะท้านใจ

            ในวงพุทธบริษัทบัญญัติว่า                        ทั้งสี่หน้าเป็นองค์ประกอบใหญ่

สรุปความ นามธรรมจำเอาไว้                           เป็นส่วนใจควรคิดด้วยจิตงาม      

..................................... (17. สุทธานุช)......................................

 

18. วิศิษฐ์

ส่งทางไปรษณีย์ : 15 ตุลาคม 2555

 

นามธรรม (18. วิศิษฐ์) 

ร่างอุบัติบาปบุญก็บานแบ่ง                       ปรี่ปลั่งเปล่งกอปรกายกระจายหล้า

กฎเกณฑ์โดยธรรมชาติธรรมดา                             สัจธรรมมีสืบมาเสมอไป

            เสพย์คำสอนชั่ว-ดีมีรสล้ำ                         “นามธรรม” ซ่อนเร้นแท้เห็นไหม

แทรกซึมอยู่ทุกหัวใจ                                            พิสุทธิ์ใสคละหม่นปะปนกัน

            ถึงมนุษย์ปัญญาอืดมืดไหม้บอด                  ที่กระทำบาปตลอดวายวอดขวัญ

สร้างปัญหาปรากฏประชดประชัน                         เลวสีสันลวดลายครองชายแดน

            ความสันติบนพิภพถูกลบล้าง                    จึงจืดจางความสุขทุกข์นองแน่น

ร้อยแย้มยิ้มใสสะอาดก็ขาดแคลน                           แลผืนแผ่นดินใต้ก็ตายตาม

            ศาสนา ความคิดมีสิทธิ์ต่าง                       ใจเปราะบาง “กลัว” “หลง” กันล้นหลาม

ยิ่งขัดแย้งครอบครองใต้พร่องงาม                           เหมือนแบกหามทุกข์ทนไว้บนใจ

            ร่างอุบัติบาปบุญก็บานเบ่ง                        กอรปกายเร่งชั่ว-ดีพึงมีได้

มนุษย์หนอปล่อยวางจากข้างใน                             สันติภาพก็คงไม่อยู่ไกลเกิน.                     

..................................... (18. วิศิษฐ์)......................................




กลอนสุภาพ 2555

ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (กลอนสุภาพ) : หัวข้อ “อุษาคเนย์”
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (กลอนสุภาพ) : หัวข้อ “อคติ”



bulletผลร้อยกรองออนไลน์ 2558
dot
ประกวดร้อยกรองออนไลน์ครั้งที่ 7
dot
bulletข้อมูลการประกวดครั้งที่ 7, 2557
bulletผังร้อยกรอง
bulletอ่านโคลงประกวด 2557
bulletอ่านกลอนประกวด 2557
bulletอ่านกาพย์ยานีประกวด 2557
bulletผลการประกวดร้อยกรอง ปี 2557
dot
ข่าวสาร ข้อมูลสมาคม
dot
bulletกรรมการสมาคมสมัยที่ ๑๕-๑๖
bulletนายกสมาคมสมัยที่ ๑๗
bulletติดต่อนายกสมาคมนักกลอน
bulletติดต่อฝ่ายดูแลส่วนต่างๆ
bulletสมัครสมาชิกสมาคมนักกลอน
bulletนักกลอนตัวอย่าง ๒๕๕๓
dot
หัวข้อน่าสนใจ
dot
bulletรวมลิ้งค์เว็บไซต์น่าสนใจ
bulletส่งบทสักวา น.ส.พ. สยามรัฐ
bulletวารสารวิทยาจารย์ รับต้นฉบับ
bulletส่งข้อเขียนครูในดวงใจ
dot
แนะนำหนังสือ
dot
bulletหน้ารวมหนังสือ
bulletคู่มือเรียนเขียนกลอน
bulletกาสรคำฉันท์ - สมคิด สิงสง
bulletหนังสือสุรินทร์สโมสร
bulletฝากโลกนี้ไว้ในหัวใจเธอ - กอนกูย
bulletเลือน - อติภพ
bulletธาร ธรรมโฆษณ์
bulletนายทิวา
bulletกลอนเกียรติยศ
bulletอ้อมกอดแห่งท้องทุ่ง
bulletทองแถม นาถจำนง
bulletพงศาวดารพิภพ
bulletโป๊ยเซียน คะนองฤทธิ์
dot
โครงการประกวดต่างๆ
dot
bulletนายอินทร์อะวอร์ด ๒๕๕๖
bulletประกวดรางวัลซีไรท์ปี ๒๕๕๖
bulletรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๕๖
bulletรางวัลวรรณกรรมรามคำแหง ๒๕๕๖
dot
ผลตัดสินรางวัลต่างๆ
dot
bulletรางวัลศรีบูรพา ๒๕๕๖
bulletผลรางวัลซีไรต์ ๒๕๕๗
bulletผลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ๒๕๕๗
bulletผลรางวัลแว่นแก้ว ๗ (๒๕๕๓)
bulletผลกลอนวิถีคนกับควาย
bulletผลร้อยกรอง “ผมจะเป็นคนดี”
bulletรางวัลนราธิป ๒๕๕๓
bulletนักเขียนอมตะ คนที่ ๖ (๒๕๕๕)
bulletนักเขียนรางวัลศรีบูรพา ๒๕๕๖
bulletศิลปินมรดกอีสาน ๒๕๕๔
bulletผลรางวัลพานแว่นฟ้า ๒๕๕๕
bulletผลรางวัลรามคำแหง ๒๕๕๖
bulletศิลปินแห่งชาติ ๒๕๕๕
bulletผลประกวดหนังสือ ชีวิตใหม่ 2
dot
ข่าวคราวของลมหายใจ
dot
dot
Weblink
dot
bulletอ่านกลอนประกวด 2556

หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก
สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
ศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาภาษาไทย มศว
เว็บรวมกระทู้ อาศรมชาวโคลง ใน pantip.com
หนังสืออีศาน


Copyright © 2010 All Rights Reserved.
ติดต่อ นายกสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ทองแถม นาถจำนง
โทรศัพท์ ๐๘๙-๑๒๓๔๗๕๔ อีเมล์ tongtham.n@hotmail.com

สำนักพิมพ์แม่โพสพ