ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (กาพย์ยานี 11) : หัวข้อ “นามธรรม”
ครั้งที่ 5 ประจำปี 2555 จำนวน 12 ชิ้น
1. ภาวินีย์
ส่งทางอีเมล์ : Tuesday, October 9, 2012 12:46 PM
นามธรรม (1.ภาวินีย์)
นามปากกาที่ว่า คือคุณค่าแห่งคุณธรรม
เป็นนามที่สุดล้ำ น่าจดจำนามธรรมไทย
นามธรรมคือคุณธรรม คือสิ่งย้ำนำสดใส
เป็นขวัญมงคลใจ นั้นมีให้เห็นทั่วไป
รูปกายก็ไม่มี สัมผัสนี้ก็ไม่ได้
อยากรู้คืออะไร ต้องใช้ใจสัมผัสแทน
เปรียบเหมือนกับความดี ความชั่วนี้มีมากแสน
เป็นนามธรรมทั่วแดน เป็นเหมือนแก่นกลางใจคน
สังคมสมัยนี้ ทำชั่วดีกันสับสน
ภายนอกน่าชื่นชม น่านิยมชมสิ่งงาม
แต่ธรรมภายในใจ อาจเป็นได้ทั้งดีทราม
บ่งบอกได้ถึงนาม ต้องรู้จักกันด้วยใจ
สัมผัสถึงภายใน จิตใจใช่ว่าสดใส
อยากรู้เขาจริงใจ เราต้องใช้ใจค้นหา
เราคงจะรู้แล้ว คงคลาดแคล้วเพราะปัญญา
"นามธรรม" คำนี้ว่า เป็นปากกาเขียนใจคน
นามธรรมความชังชอบ มีคำตอบกันทุกหน
ดับไปใช่ตัวตน จึงทุกข์ทนอยู่ไม่คลาย
..................................... (1.ภาวินีย์)......................................
2. นฤเบศ
ส่งทางอีเมล์ : Saturday, October 13, 2012 4:12 PM
นามธรรม (2.นฤเบศ)
สงครามกลางเมืองไทย นั้นเกิดได้ทุกแห่งหน
สงครามกลางใจคน แสนร้อนรนลุกเป็นไฟ
พิษภัยในการเมือง ความขุ่นเคืองจากจิตใจ
แผดเผาเงาของใคร มิพ้นไหม้ใจของตน
เห็นแก่ได้เงินทอง มิไตร่ตรองมองเหตุผล
ก่อพิษวิกฤติชน ชาติสับสนคนวุ่นวาย
นามธรรมความรู้สึก จิตสำนึกอันสูญหาย
หลงผิดคิดทำลาย มิพ้นตาย…หมายสิ่งใด???
สติพิจารณ์ความ ดีหรือทรามตามเป็นไป
ศัตรูผู้เกรียงไกร นั่นคือเงาของเราเอง
สัจธรรมชี้นำโลก ทุกข์ และ โศก ลั่นบรรเลง
ชีวิตก็เหมือนเพลง ต่างเนื้อร้องทำนองกาล
เนื้อความ “นาม” “รูป” แฝง สื่อแสดงเป็นเนื้อสาร
หลอมรวม “กาย” “วิญญาณ” คือชีวิตสิทธิ์เสรี
นามธรรมมีสองทาง ควรรู้สร้างเพียงสิ่งดี
เปิดใจด้วยไมตรี ก่อนไม่มีรูป...ธรรม
..................................... (2.นฤเบศ)......................................
3. กิตติภพ
ส่งทางอีเมล์ : Sunday, October 14, 2012 7:45 PM
นามธรรม (3.กิตติภพ)
เมื่อจิตล่องลอยฟุ้ง ไปในทุ่งแห่งมายา
ความชั่วริษยา ล้วนแต่พาเศร้าหมองใจ
หากคิดจักก้าวย่าง จงก้าวอย่างไม่ยอมใคร
ก้าวไปด้วยจิตใจ ก้าวไปในโลกมายา
หากก้าวด้วยใจคิด ก้าวด้วยจิตริษยา
ไร้ซึ้งความเมตตา ชั่วชีวาย่อมบรรลัย
แต่หากก้าวแรกมั่น ด้วยใจอันศรีวิไล
ไม่นึกชั่วจัญไร ก็จะไกลความเลวทราม
โลกแห่งมายานั้น เป็นโลกอันสวยงดงาม
แต่ฝังด้วยสิ่งทราม พร้อมทุกยามเพื่อเผยตัว
อสรพิษร้าย ย่อมแฝงกายมิให้กลัว
พร้อมจู่โจมถึงตัว หากเรากลัวในตัวมัน
..................................... (3.กิตติภพ)......................................
4. วิษณุ
Monday, October 15, 2012 8:34 PM
นามธรรม (4.วิษณุ)
รูป รส และ กลิ่น เสียง สัมผัส เคียง เรียงรอบกาย
รับรู้อยู่มากมาย เราลิ้มรสและจดจำ
รู้ “รูป” อยู่รอบด้าน จึงประสาน “นามธรรม”
รัก โลภ โกรธ หลง นำ สื่ออารมณ์บ่มจิตใจ
รูปกายเพียงภายนอก สองตาบอกว่ารักใคร่
ลิ้มรสอร่อยได้ เพราะลิ้นรับบอกกับตน
เขม่นเพียงเห็นหน้า ดูขัดตาไร้เหตุผล
โทสะระบายล้น จึงปะทะสะเทือนไทย
โลภมากอยากรวยทรัพย์ บ้างถึงกับฉ้อฉลไป
ยิ่ง "อยาก" ลำบากใจ กลายเป็นคนปล้นเขากิน
หลงใหลไม่ยั้งคิด ชีพหลงผิดจนชาชิน
หลงชั่วทั้งชีวิน เป็นกังฉินรับสินบน
จดจำเพียงสัมผัส ชื่นชอบชัดมัดใจตน
ความชั่วอันมัวมน จึงครอบงำช้ำชีวา
ความดียังมีอยู่ ควรเชิดชูรู้คุณค่า
อาจขมเหมือนตัวยา ที่คนคายไม่ยอมทาน
ชีวิตย่อมหมดไป ดับเปลวไฟแห่งสังขาร
เผาร่าง ณ กลางลาน แยกดวงมาน จากร่างกาย
ทำดีวันนี้เถิด สุขล้ำเลิศไม่หนีหาย
เกิด โต และ ต้องตาย วันสุดท้าย ... “นามธรรม”
..................................... (4.วิษณุ)......................................
5. สุดา
ส่งทางไปรษณีย์ : 9 ตุลาคม 2555
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (5. สุดา)
รอบรู้และรอบคอบ เป็นคำตอบที่ควรหา
เหตุผลต้องตามมา คือปรัชญาที่เพียงพอ
ปลูกผักและเลี้ยงปลา ที่ทำมาไม่ต้องขอ
กินใช้อย่างเพียงพอ คือครอบครัวที่พอเพียง
ภูมิคุ้มกันที่ดี จะต้องมีเป็นชื่อเสียง
คิดดีไว้ข้างเคียง อย่าถกเถียงไปผิดทาง
นำสู่ความสมดุล จะเป็นทุนให้สะสาง
พวกเรานั้นควรสร้าง ความสว่างในครอบครัว
เลี้ยงเป็ดและเลี้ยงไก่ นั้นออกไข่ให้คิดถัว
เหลือกินแจกให้ทั่ว ไม่หมองมัวเราแบ่งปัน
เงื่อนไขและความรู้ นำไปสู่ความสุขสันต์
เพื่อใช้ประจำวัน ให้รู้ทันตามโครงการ
อดออมรู้ประหยัด เราควรจัดให้ประสาน
นำฝากธนาคาร เพื่อให้หารยามจำเป็น
ตัวอย่างที่ควรทำ จะต้องจำไว้ให้เห็น
เท่านี้อย่าลำเค็ญ เพราะนี้คือความพอเพียง
ซื่อสัตย์อดทนไว้ ให้ตามไปสุดเฉลียง
อยู่กินอย่าลำเอียง ให้พอเพียงพอประมาณ
..................................... (5. สุดา)......................................
6. สุดา
ส่งทางไปรษณีย์ : 9 ตุลาคม 2555
คำสอนพ่อหลวง (6. สุดา)
พ่อหลวงท่านแนะนำ เราควรจำคำพ่อสอน
พอเพียงทำเป็นตอน อย่าตัดรอนรีบเร่งไป
เลี้ยงกุ้งหอยปูปลา เป็นปรัชญาให้สดใส
เที่ยงตรงและก้าวไป อย่างกว้างไกลและมั่นคง
สามห่วงสองเงื่อนไข หากทำได้จะเป็นหงส์
อยู่ใช้อย่างดำรง อย่างพระองค์ที่ชี้ทาง
ประหยัดและพอเพียง เป็นชีพเลี้ยงอย่าโผงผาง
ทำได้จะเบาบาง ทุกข์เหินห่างสร้างสุขใจ
ที่หนึ่งคือเหตุผล รู้จักตนธาราใส
หากเห็นสิ่งอื่นใด ควรวิจัยให้พอดี
รอบรู้ในวิชา จะนำมาซึ่งเศรษฐี
เงินออมควรต้องมี ใช้ให้ดียามจำเป็น
เรานี้ควรวางแผน ไว้ทดแทนเมื่อทุกเข็ญ
รู้ใช้ไม่ลำเค็ญ ชี้ให้เห็นทางสายกลาง
เหลือกินก็นำขาย หากจำหน่ายให้คิดสาง
ทำดีอยู่ทุกทาง อย่าเหินห่างควรนำพา
พอเพียงตามรอยพ่อ จะสานต่อต้องศึกษา
ให้อยู่คู่นภา จะนำมาเพื่อเลี้ยงตน
ปลูกผักและเลี้ยงปลา ทำได้หนาไม่ขัดสน
ช่วยกันทำทุกคน จะเห็นผลภูมิคุ้มกัน
..................................... (6. สุดา)......................................
7. สุดา
ส่งทางไปรษณีย์ : 9 ตุลาคม 2555
ภูมิคุ้มกัน (7. สุดา)
สามห่วงสองเงื่อนไข เราทำได้ช่วยแบ่งปัน
ที่ทำได้รางวัล ความผูกพันนั้นพอเพียง
ความรู้คู่คุณธรรม ที่น้อมนำก็อยากขอ
เหตุผลยังไม่พอ ร่วมสานต่อพอประมาณ
ภูมิคุ้มกันที่ดี ควรต้องมีรีบประสาน
คิดได้อย่างทันกาล จะต้องผ่านอย่างประดัง
รอบรู้และรอบคอบ คือคำตอบต้องระวัง
ซื่อสัตย์และจีรัง ไม่ผุพังดังวาจา
มีน้อยก็กินน้อย ไม่ต้องคอยรีบไขว่คว้า
รีบทำอย่ารีรา เดี๋ยวจะช้าคอยทำตาม
วางแผนในบัญชี ดูให้ดีมีคำถาม
เหตุผลอยู่คู่นาม มีคุณธรรมนำพอเพียง
..................................... (7. สุดา)......................................
8. สุดา
ส่งทางไปรษณีย์ : 9 ตุลาคม 2555
แก้มลิงของพ่อ (8.สุดา)
ชลาลัยไหลล้น เราทุกคนร่วมรักษา
ทุกสิ่งที่สร้างมา ต้องอัปราผ่ากลางใจ
น้ำมาเกินต้านทาน ต้องประสานสุขสดใส
น้ำใจที่ยิ่งใหญ่ จะช่วยไทยพ้นธารา
มองดูท้องทุ่งทอง ต้องไหลนองด้วยหวนหา
รินไหลด้วยน้ำตา ท่วมนภาอันกว้างไกล
ชาวไทยจะต้องสู้ จะต้องอยู่ไม่เฉไฉ
พวกเราจะก้าวไกล ร่วมเดินไปข้ามภัยพาล
ไม่นานฟ้าจะสร่าง คงสว่างไม่เกินฝัน
ฟ้าคงอาจลงทัณฑ์ ให้เรานั้นระทมใจ
แก้มลิงของพ่อหลวง เราทั้งปวงอย่าแฉไฉ
ร่วมคิดดำเนินไป ตามวิสัยของเรามี
ทำตามทำนองไป จะปลอดภัยจนสุขี
เธอฉันสามัคคี น้ำท่วมนี้จะผ่านไป
ไม่นานคงเห็นทาง ฟ้าจะสร่างเธอรู้ไหม
พวกเราช่วยเร็วไว น้ำหนีไปไม่หวนมา
..................................... (8.สุดา)......................................
9. สุดา
ส่งทางไปรษณีย์ : 9 ตุลาคม 2555
น้ำใจสู้ภัยน้ำท่วม (9.สุดา)
น้ำท่วมแดนสยาม เหล่าล้นหลามน้ำตาไหล
น้ำมาแสนอาลัย พัดทรัพย์ไปไม่กลับมา
ไร่นาน้ำเต็มนอง เราพี่น้องทำกินหนา
น้ำใจดั่งนาวา หลั่งไหลมาแสนระทม
คนไทยใจต้องสู้ ต้องทนอยู่อย่าขื่นขม
บ้านเรือนก็ถูกจม อยู่ใต้ตมก้นวาริน
จะปลูกพืชเกษตร ก็อาเพสน้ำนองสิ้น
เคยปลูกเป็นอาจิณ โอ้ยุพินกลับผ่านไป
โรคภัยก็ตามมา ทั่วนภาตามน้ำไหล
ชีวีต้องสิ้นไว เพราะน้ำในท้องไร่นา
ปูปลาก็เริ่มตาย อยู่มากมายตามพฤกษา
น้ำพาเคมีมา เหล่าลุงป้าแสนทุกข์ใจ
แต่พี่น้องชาวไทย เราร่วมใจไม่ไปไหน
น้ำใจอันยิ่งใหญ่ ชวนกันไปอย่างมั่นคง
สุดท้าย ณ บัดนี้ หากว่ามีน้ำท่วมหน
เหล่าพวกเราทุกคน จะช่วยจนรอดปลอดภัย
..................................... (9.สุดา)......................................
10. สุดา
ส่งทางไปรษณีย์ : 9 ตุลาคม 2555
ตามรอยพ่อ (10.สุดา)
ครั้งหนึ่งน้ำเคยท่วม มีคนร่วมช่วยรักษา
พระองค์ดำรัสมา ให้พึ่งพาช่วยเหลือกัน
พ่อหลวงท่านทรงคิด อย่างพินิจให้ห้ามหัน
แก้มลิงจะช่วยกัน ธารานั้นจะหวนไป
ลูกคิดถึงคำพ่อ จะสานต่อไม่เฉไฉ
จะทำสมตั้งใจ ประดับไว้ในชีวี
พ่อตรัสปลูกหญ้าแฝก ให้จำแนกจะสุขี
ควรคิดตรองให้ดี คำพ่อนี้มีราคา
ทำนาขั้นบันได จะสานไปสุดภูผา
กังหันวาโยมา ใช้นำพาพลังงาน
พ่อยังให้ปรัชญา พวกเรามาร่วมประสาน
พอเพียงไปตามกาล เราลูกหลานช่วยแบ่งปัน
อดออมตามพ่อนี้ รอบรู้ดีให้สุขสันต์
รอบคอบไปตามกัน จะรู้ทันความพอเพียง
ปลูกผักและเลี้ยงปลา ตามประสาพวกเราหนอ
อย่าเฉยเคยยกยอ ตามรอยพ่อขอช่วยไทย
สามห่วงสองเงื่อนไข จงคิดไปตามวิสัย
พวกเราจะก้าวไกล ร่วมเดินไปพอประมาณ
ท่านเหนื่อยทุกย่างก้าว หวังไทยเราคอยประสาน
มีภูมิคุ้มกันนาน ให้พ่อนั้นมีสุขเอย
..................................... (10.สุดา)......................................
11. ณัฐฐินันท์
ส่งทางไปรษณีย์ : 11 ตุลาคม 2555
นามธรรม (11.ณัฐฐินันท์)
จะกล่าวถึงรูปรส ตารู้หมดเห็นทุกสิ่ง
หูนั้นต้องพึ่งพิง จมูกรู้กลิ่นสิ่งที่มี
ส่วนกายรู้สัมผัส ลิ้นถูกจัดรสชั้นดี
ร่างกายของเรานี้ มีสิ่งดีอยู่ในตัว
นามธรรมแตะไม่ได้ ตานี้ไซร้ไม่เห็นกลัว
อย่างเช่นเรื่องความชั่ว อยู่กับตัวทำทุกวัน
มนุษย์เห็นผู้อื่น ต่างก็ยืนดูพวกนั้น
ความชั่วที่เห็นกัน ต่างพันอยากจะดู
แต่ไม่เคยจะคิด สิ่งนี้ผิดต่างเห็นอยู่
ยังทำตัวไม่รู้ ว่าความชั่วมีตัวตน
เราอาจมองไม่เห็น ว่ามันเป็นสิ่งมีผล
มีตัวไม่เห็นตน เกิดเป็นคนต้องเข้าใจ
ก่อนจากขอให้คิด อย่ายึดติดสิ่งนี้ไว้
สิ่งใดรู้ไม่ได้ จงเก็บไปคิดดูเอง
..................................... (11.ณัฐฐินันท์)......................................
12. ธวัชชัย
ส่งทางไปรษณีย์ : 11 ตุลาคม 2555
นามธรรม (12. ธวัชชัย)
จะเล่าถึงทำกรรม คนที่ทำคงไม่คิด
ท่าทำแล้วมันผิด ก็ให้คิดว่าเป็นกรรม
กรรมนั้นมองไม่เห็น ไม่จำเป็นก็อย่าทำ
ทำกันไม่รู้จำ แล้วต้องช้ำตามตามไป
ผลกรรมนั้นน่ากลัว จึงอย่ามัวรีบทำดี
ทำแล้วไม่ควรตรี เป็นผลดีต่อตัวเรา
กระผมผู้คนเล่า ยังมึนเมากับเรื่องเก่า
เป็นกำที่แปลกเขา คือกำเราไม่ได้ทำ
จะทำดีหรือร้าย มันคงคล้ายผลที่ทำ
ทุกคนก็มีกำ ขอให้ทำแต่สิ่งดี
..................................... (12. ธวัชชัย)......................................
หมายเหตุ : ผิดกติกา ส่งไม่ถึง 6 บท