ReadyPlanet.com
dot dot
ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป (โคลงสี่สุภาพ) : หัวข้อ “มิตรภาพ”

 

ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป (โคลงสี่สุภาพ) : หัวข้อ มิตรภาพ

จำนวน 51 ชิ้น

 

1. แปะปั้ง

ส่งทางอีเมล์

 

มิตรแท้ (1. แปะปั้ง)

บัวบุษย์ผุดโผล่ห้วง                      นที

       บานเบ่งเปล่งอินทรีย์                         ปลั่งแก้ว

       พ้นภัยเภทอันมี                                ในต่ำ   น้ำนา

       จบกิจบุษกรแล้ว                              ผ่องแผ้วกลางธาร

 

สังสารวัฏฏ์เปรียบน้ำ                   ขังบัว

       ภัยเต่าปลาพันพัว                             ขบขย้ำ

       บัวคุดดุจเรามัว-                               เมาหมก   วัฏฏ์แล

       เรื่อยเกิดเรื่อยดับซ้ำ                           แอ่งก้นชลธี

 

พระตรีโลกเชษฐ์ผู้                        เผยธรรม

       ทรงกล่าวการจองจำ                         สรรพไซร้

       แบบใดไป่ทรกรรม                            เทียมเท่า

       การถูกจองจำไว้                               ต่อห้วงภพภูมิ

 

เวียนเกิดตูมผลิแล้ว                      บานตาย

        เป็นกฎเหล็กมิคลาย                         เยี่ยงนั้น

        สาวต้นและสืบปลาย                       หาบ่   พบแฮ

        เผ็ดแสบทารุณอั้น                           อัดด้วยนานกาล

 

ความนานปานหนึ่งแม้น              หยิบงา

         ออกหนึ่งเม็ดทุกครา                        วรรษร้อย

         จากเมืองจุโอฬาร์                           โยชน์ลูก-  บาศก์แฮ

         จนหมดนับว่าคล้อย                        เคลื่อนเพี้ยงกัลปา

 

คืบมาอีกหมื่นล้าน                       วัฏกัลป์

         หวังสบสังสารอัน-                         ตรภาคห้วน

         อิงพจน์พระทรงธรรม์                     คือป่วย-   การแล

         เป็นเหตุประมวลถ้วน                     ทั่วแล้วสลดคำ

 

ทรงสำทับด้วยภพ                                   มิสบาย

         นรกเปรตอสุรกาย                           สัตว์ด้วย

         หากจิตจับยามวาย                          ชีพวอด

         เกิดนั่นก็จักม้วย                            เกิดซ้ำนานเนา

 

ควรเราบัวบุษย์น้อม                     บรมธรรม

          วัตรแห่งการสิ้นกรรม                    ปลดแก้

          อัฏฐังคิกมรรค*ดำ-                        เนินเถิด

          วางสนิทว่ามิตรแท้                       นิตย์แล้พุทธธรรม.

 

(หมายเหตุ*)

 

เห็นชอบคิดชอบนั้น                     ปัญญา

          พูด,พฤติ,เลี้ยงชีวา-                        ชอบทั้ง

          สามองค์นี่ศีลา                              คือบาท   บัวแล

          เพียร,ระลึก,ใจตั้ง-                        ชอบล้วนเป็นสมาธิ์   แจงแฮ.)

..................................... (1. แปะปั้ง)......................................

 

2. กรวี

ส่งทางอีเมล์

มิตรภาพ : โยงใย (2. กรวี)

 

๏ จิตถักทอร่วมร้อย                     เกี่ยวกัน   

เกิดก่อความสัมพันธ์                    แน่นแฟ้น

ผจงผสานใจปัน                          เป็นหนึ่ง  พ่อเฮย

เพื่อร่วมผูกมั่นแม้น                     มิท้อต่อฝัน ฯ

 

๏  ด้วยกิจปณิธานแกล้ว               กล้าเดิม 

สรรค์สิ่งสร้างสุขเสริม                 ต่อได้

ใช่เพียงหยุดจุดเติม                       เพิ่มก่อ  กิจเฮย

จักมั่นมุ่งผสานให้                       แกร่งกล้ามิล้าถอย ฯ

 

๏   ถวิลเพียงพรั่งพร้อม                มิตรสหาย

หลายหลากทั้งหญิงชาย                ร่วมร้อย

จากจิตหนึ่งสองกลาย                   เป็นสิบ  ร้อยนา

แข็งแกร่งบรรเจิดถ้อย                   มิตรร้อยเหล่าสหาย ฯ

 

๏ เพียงสุขมาเพื่อพร้อม                ก่อการ

สร้างประโยชน์ก่อสำราญ             มิว่างเว้น

ใช่เพียงก่อต่อสาน                        เพียงสิ่ง  นอกเฮย

หมายมุ่งถากทางเน้น                   เพื่อพร้อมน้อมประสานฯ

 

๏ ระรึกน้อมมอบจิตนี้                  เพียงใจ

เพื่อก่อต่อสานใน             แน่นแฟ้น

หลากสิ่งอาจเปลี่ยนไป                 จากจิต

แต่มิตรยังหยัดแม้น                      ผ่านห้วงจบสมัย ฯ

 

๏  กาลผ่านอาจต่างด้วย               เวลา

ยากที่จะย้อนมา                          เท่านั้น

เพียงใจไม่นำพา...                       ไหลสู่  เบื้องเฮย

หากมั่นที่จิตครั้น                         จักร้างได้ไฉน ๚ ๛

..................................... (2. กรวี)......................................

 

3. สุพัตรา

ส่งทางอีเมล์

มิตรภาพ (3. สุพัตรา)

เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

แก่มิตรสหาย

ทุกข์ใดผ่อนคลาย

ได้ด้วยกลอนกานท์

 

ร้อยคำรำพัน

ช่วยกันสืบสาน

ให้เป็นตำนาน

 ตราบนิจนิรันดร์

………....

 

โคลงกระทู้ จากกลอนสี่บทต้น

1.                              เอื้อ..อำนวยเจตแจ้ง.............จำนงค์

เฟื้อ..เพื่อภาษาคง................สืบไว้

เผื่อ..หลานลูกเผ่าพงศ์...........เขียนอ่าน

แผ่...กาพย์โคลงกลอนไซร้......โลกรู้กลอนสยาม

2.                              แก่...กาลนี้เหมาะแล้ว.............ออนไลน์

มิตร..อยู่แดนดินไกล...............ล่วงรู้

สะ....ดับรับรู้ไว......................สายส่ง

หาย..ลับหากคุดคู้..................เฉกคล้ายดูดาย

3.                              ทุกข์..สลายยามอ่านได้............รู้ความ

ใด.....เล่าเท่าสยาม................สุขล้น

ผ่อน...เบาทั่วเขตคาม..............แสนสนุก

คลาย..เรื่องร้ายผ่านพ้น.............สู่ห้วงแห่งกวิน

4.                              ได้.....ยลยินทั่วถ้วน................ขจายขจร

ด้วย...บทเพลงอักษร...............โสตซึ้ง

กลอน.โคลงกาพย์ครูสอน...........ครูสั่ง

กานท์..เพราะเสนาะพริ้ง.............บทล้ำคำพจน์

5.                              ร้อย....รสร้อยรักถ้อย................ร้อยโคลง

คำ......แต่งเพื่อจรรโลง..............โลกไว้

รำ.......พึงกล่าวเชื่อมโยง...........อักขระ

พัน......หมื่นแสนคำไซร้.............อ่านด้วยจินตนา

6.                             ช่วย....ดำรงอยู่ยั้ง....................ตลอดกาล

กัน.....แบ่งปันสำราญ.................เพื่อนพ้อง

สืบ.....ไว้ช่วยขับขาน.................จารจด

สาน....ต่อเพลงไทยร้อง..............สู่ห้วงสากล

7.                              ให้.....โลกได้รับรู้.....................อักขรา

เป็น....สิ่งน่าค้นหา....................เพราะพริ้ง

ตำ.....รับอีกตำรา......................ก่อนเก่า

นาน....เนิ่นเกินกว่าทิ้ง................ปล่อยให้หายสูญ

8.                              ตราบ..ต่อนับแต่นี้......................สืบไป

ฟ้า.....อยู่กาพย์กลอนไทย...........เกริกก้อง

ดิน.....แดนที่ห่างไกล.................ได้ทราบ

ยัง.....มิตรได้แซ่ซร้อง.................เทิดไว้เหนือเศียร

..................................... (3. สุพัตรา)......................................

 

4. ฑีดา  ญาจันทร์

ส่งทางอีเมล์

สิ่งธรรมดา..ที่แสนอัศจรรย์ (4. ฑีดา  ญาจันทร์) ส่งครั้งแรกมีแก้ไข

                                      ž มิตรภาพอาบอิ่มโอ้              อัศจรรย์
                                       เริ่มแต่เรารักกัน                                    เกี่ยวก้อย
                                       กาเมเร่โรมรัน                          เริงสวาท
                                       ธารรักรินหยาดย้อย                   หยดฟ้ายาใจ
                                            
ž ใยจารึกผนึกรั้ง              รุนแรง
                                       ดังแม่เหล็กสำแดง                                ดูดได้
                                       ดึงสาวหนุ่มนำแฝง                   คะนึงฝั่ง
                                       เพราะว่ามิตรภาพไซร้               สืบเชื้อ พันธุ์ขยาย
 
                                           ž พายขยันขยับจ้วง                       แจวเรือ
                                       บรรทุกความหวังเจือ                เจิดจ้า
                                       ใจเดียวดั่งหางเสือ                                สัตย์ซื่อ
                                       ลอยรักต้านลมท้า                                 ท่องน้ำ ทวนกระแส
                                           
ž แท้กล้าสวนศึกสู้                       สากล
                                       เทียมบ่หาญมารผจญ                จักท้อ
                                       ทนทานผ่านแดดฝน                  ฟันฝ่า
                                       เรือรั่วพลันติดล้อ                                  แล่นเลี้ยว บนถนน
                                           
ž ถนนบนเบี่ยงเส้น                       สัญจร
                                       แทนที่น้ำตื้นตะกอน                 ก่อนแห้ง
                                       หากชีวิตลุ่มดอน                                  ดังดับ
                                       ควรพลิกวิกฤติแกล้ง                 กลับร้าย กลายเย็น
                                           
ž เย็นกลายคลายจากร้อน   รุมฤดี
                                       เป็นเพราะจิตไมตรี                   แต่งแต้ม
                                       ตกทุกข์กลับสุขศรี                    แซมสลับ
                                       เศร้าโศกเป็นยิ้มแย้ม                  โยกย้าย ยืนยง
                                           
ž ยงยืนหยัดยิ่งแล้ว                        โลกา
                                       สูงสู่ธรรมดา                           ดุจโม้
                                       มิตรภาพคือสา
-                                   มัญสุด
                                       แต่อัศจรรย์โอ้                           อุ่นเอื้อ ไอสวรร

.................................. (4. ฑีดา  ญาจันทร์)......................................

 

5. ฑีดา  ญาจันทร์ แก้ไขครั้งที่ 1

ส่งทางอีเมล์

สิ่งธรรมดา..ที่แสนอัศจรรย์ (5. ฑีดา  ญาจันทร์ แก้ไขครั้งที่ 1) มีแก้ไขเพิ่มเติม

มิตรภาพอาบอิ่มโอ้                      อัศจรรย์

                                       เริ่มแต่เรารักกัน                                                เกี่ยวก้อย

                                       กาเมเร่โรมรัน                                      เริงสวาท

                                       ธารรักรินหยาดย้อย                                           หยดฟ้า ยาใจ

 ใยจารึกผนึกรั้ง                           รุนแรง

                                       ดังแม่เหล็กสำแดง                                ดูดได้

                                       ดึงสาวหนุ่มนำแฝง                                           คะนึงฝั่ง ฝันแฮ

                                       เพราะว่ามิตรภาพไซร้                          สืบเชื้อพันธุ์ขยาย

พายขยันขยับจ้วง                         แจวเรือ

                                       บรรทุกความหวังเจือ                                        เจิดจ้า

                                       ใจเดียวดั่งหางเสือ                                            สัตย์ซื่อ

                                       ลอยรักต้านลมท้า                                             ท่องน้ำทวนกระแส

 แท้กล้าสวนศึกสู้                                    สากล โลกเอย

                                       เทียมบ่หาญมารผจญ                                        จักท้อ

                                       ทนทานผ่านแดดฝน                              ฟันฝ่า

                                       เรือรั่วพลันติดล้อ                                 แล่นเลี้ยวบนถนน

ถนนบนเบี่ยงเส้น                        สัญจร

                                       แทนที่น้ำตื้นตะกอน                             ก่อนแห้ง

                                       หากชีวิตลุ่มดอน                                              ดังดับ

                                       ควรพลิกวิกฤติแกล้ง                            กลับร้ายกลายเย็น

เย็นกลายคลายจากร้อน                 รุมฤดี

                                       เป็นเพราะจิตไมตรี                                           แต่งแต้ม

                                       ตกทุกข์กลับสุขศรี                               แซมสลับ

                                       เศร้าโศกเป็นยิ้มแย้ม                                          โยกย้ายยืนยง

ยงยืนหยัดยิ่งแล้ว                                     โลกา

                                       สูงสู่ธรรมดา                                                   ดุจโม้

                                       มิตรภาพคือสา-                                              มัญสุด

                                       แต่อัศจรรย์โอ้                                                 อุ่นเอื้อไอสวรรค์. 

.................................. (5. ฑีดา  ญาจันทร์ แก้ไขครั้งที่ 1)......................................

 

6. ฑีดา  ญาจันทร์ แก้ไขครั้งที่ 2

ส่งทางอีเมล์

สิ่งธรรมดา..ที่แสนอัศจรรย์ (6. ฑีดา  ญาจันทร์ แก้ไขครั้งที่ 2)

มิตรภาพอาบอิ่มโอ้                      อัศจรรย์

                                       เริ่มแต่เรารักกัน                                                เกี่ยวก้อย

                                       กาเมเร่โรมรัน                                                  เริงสวาท

                                       ธารรักรินหยาดย้อย                                           หยดฟ้า ยาใจ

ใยจารึกผนึกรั้ง                            รุนแรง

                                       ดังแม่เหล็กสำแดง                                            ดูดได้

                                       ดึงสาวหนุ่มนำแฝง                                           คะนึงฝั่ง ฝันแฮ

                                       เพราะว่ามิตรภาพไซร้                                       สืบเชื้อพันธุ์ขยาย

พายขยันขยับจ้วง                                     แจวเรือ รักเอย

                                       บรรทุกความหวังเจือ                                        เจิดจ้า

                                       ใจเดียวดั่งหางเสือ                                            สัตย์ซื่อ

                                       ลอยลึกต้านลมท้า                                             ท่องน้ำทวนกระแส

แท้กล้าสวนศึกสู้                            สากล โลกเอย

                                       เทียมบ่หาญมารผจญ                                        จักท้อ

                                       ทนทานผ่านแดดฝน                                          ฟันฝ่า

                                       เรือรั่วพลันติดล้อ                                              แล่นเลี้ยวบนถนน

ถนนบนเบี่ยงเส้น                       สัญจร

                                       แทนที่น้ำตื้นตะกอน                                         ก่อนแห้ง

                                       หากชีวิตลุ่มดอน                                              ดังดับ

                                       ควรพลิกวิกฤติแกล้ง                                         กลับร้ายกลายเย็น

เย็นกลายคลายจากร้อน                 รุมฤดี

                                       เป็นเพราะจิตไมตรี                                           แต่งแต้ม

                                       ตกทุกข์กลับสุขศรี                                            แซมสลับ

                                       เศร้าโศกเป็นยิ้มแย้ม                                          โยกย้ายยืนยง

ยงยืนหยัดยิ่งแล้ว                         โลกา

                                       สูงสู่ธรรมดา                                                   ดุจโม้

                                       มิตรภาพคือสา-                                               มัญสุด

                                       แต่อัศจรรย์โอ้                                                   อุ่นเอื้อไอสวรรค์

................................... (6. ฑีดา  ญาจันทร์ แก้ไขครั้งที่ 2)......................................

 

 

 

 

 

7. ประดิษฐ์

ส่งทางอีเมล์

 

สันติสุขจากมิตรภาพ..สร้างได้จากใครทุกคน (7. ประดิษฐ์) ส่งครั้งแรก มีแก้ไข

                                                {  กมลเผยจรัสอ้า                                 โอฬาร

                                    ใจชิดกายประสาน                                               โซ่คล้อง

                                    เขาเราร่วมตำนาน                                               เหนียวแน่น  โลกีย์

                                    ไยไม่คือพวกพ้อง                                                 เพื่อนแท้สมาคม

                                                {  มโนคิดล่วงแล้ว                                พจนา  กันเฮย

                                    คือเพื่อนภพพสุธา                                               เนื่องไซร้

                                    จริงใจยิ่งวาจา                                                     จริต  ใสสด

                                    งามงดพจีได้                                                       เด็ดไว้ฤทัยครอง 

                                                {  คือกายใจใช่แล้ว                               รวมกัน

                                    ใจใฝ่กายพาพลัน                                                 ผ่านพ้น

                                    จับมือมั่นสุขสันต์                                                ใสสว่าง  ไกลไฉน

                                    โอษฐ์เอ่ยใจเต็มล้น                                               ล่วงแล้วไมตรี

                                                {  ตราบตริตรองต่อแต้ม                        เติมตาม

                                    ชนตื่นทุกผองนาม                                               แน่แท้

                                    มาลีช่องดงาม                                                     สวยสด  กลางใจ

                                    วาววับมีมากแม้                                                 ไม่ม้วยยืนยง

                                                {  ยังสังคมล่วงรู้                                  เร็วไว

                                    ผลิช่อชูไสว                                                        แว่นแคว้น

                                    จิตพิศุทธิ์สดใส                                                   สุขยิ่ง  ยังชน

                                    ผุดผ่องกายใจแม้น                                               มุ่งพ้นอบาย

                                                {  คือบาศบอดบ่วงใบ้                           บิดเบือน  นัยนา

                                    มัวพร่าพรายพาเลือน                                           เล่ห์ซ้ำ

                                    อัตตาจึ่งแชเชือน                                                 ชวดใช่  ในธรรม

                                    จิตล่วงชนเลิศล้ำ                                                 หลุดพ้นพันธนา

                                                {  นับนิดนิดหนึ่งนั้น                             นานนาน

                                    เสริมเพิ่มเติมประมาณ                                         ค่าล้ำ

                                    สันติสุขคืบคลาน                                     โลกใช่  จริงจริง

                                    สืบต่อขยายค้ำ                                                     คู่ฟ้าแดนสรวง

                                                {  แสงสวยสีส่องหล้า                           ลงอาบ โลมดิน

                                    โชยกลิ่นจรุงสาบ                                                 ชื่นไซร้

                                    ขจรมิตรภาพ                                                      ผองเพื่อน  เดียวกัน

                                    เสริมส่งโลกเราไว้                                                ว่าสิ้นนิรันดร์.

..................................... (5. ประดิษฐ์)......................................

 

8. ประดิษฐ์

ส่งทางอีเมล์

 

สันติสุขจากมิตรภาพ..สร้างได้จากใครทุกคน (8. ประดิษฐ์ แก้ไขครั้งที่ 1) มีแก้ไขเพิ่มเติม

{  กมลเผยจรัสอ้า                     โอฬาร

                              กายเกี่ยวใจประธาน                                 โซ่คล้อง

                              เขาเราร่วมตำนาน                                   เหนียวแน่น  โลกีย์

                              ไยไม่คือพวกพ้อง                         เพื่อนแท้สมาคม

                                          {  มโนคิดล่วงแล้ว                    พจนา  กันเฮย

                              นับเพื่อนภพพสุธา                                   เนื่องไซร้

                              จริงใจยิ่งวาจา                                         จริต  ใสสด

                              งามงดพจีได้                                           เด็ดไว้ฤทัยครอง 

                                          {  คือกายใจใช่แล้ว                   รวมกัน

                              ใจใฝ่กายพาพลัน                                     ผ่านพ้น

                              จับมือมั่นสัมพันธ์                                   พวกเพื่อน  พงศ์ไฉน

                              โอษฐ์เอ่ยใจเต็มล้น                                   ล่วงแล้วไมตรี

                                          {  ตราบตริตรองต่อแต้ม            เติมตาม

                              ชนตื่นทุกผองนาม                                   แน่แท้

                              มาลีช่องดงาม                                         สวยสด  กลางใจ

                              วาววับมีมากแม้                                     ไม่ม้วยยืนยง

                                          {  ยังสังคมล่วงรู้                      เร็วไว

                              ผลิช่อชูดอกใบ                                        แว่นแคว้น

                              จิตพิศุทธิ์ละไม                                        มากที่  มวลชน

                              ผุดผ่องกายใจแม้น                                   มุ่งพ้นอบาย

                                          {  คือบาศบอดบ่วงใบ้               บิดเบือน  นัยนา

                              มัวพร่าพรายพาเลือน                               เล่ห์ซ้ำ

                              อัตตาจึ่งแชเชือน                                     ชวดใช่  ในธรรม

                              จิตล่วงชนเลิศล้ำ                                     หลุดพ้นพันธนา

                                          {  นับนิดนิดหนึ่งนั้น                 นานนาน

                              เสริมเพิ่มเติมประมาณ                             ค่าล้ำ

                              สันติสุขคืบคลาน                         โลกใช่  จริงจริง

                              สืบต่อขยายค้ำ                                         คู่ฟ้าสถาพร

                                          {  มิตรภาพก่อเกื้อ                    กรุณา

                              แสงแห่งธรรมส่องพา                              ผ่านแผ้ว

                              สันติสุขโลกา                                          เกิดใช่  ยั่งยืน

                              มนุษย์ชนสุขแล้ว                                     ตราบสิ้นนิรันดร์.

..................................... (8. ประดิษฐ์ แก้ไขครั้งที่ 1) ......................................

 

9. ประดิษฐ์

ส่งทางอีเมล์

 

สันติสุขจากมิตรภาพ..สร้างได้จากใครทุกคน (9. ประดิษฐ์ แก้ไขครั้งที่ 2)

                                          {  กมลเผยจรัสอ้า                     โอฬาร

                              กายเกี่ยวใจประธาน                                 โซ่คล้อง

                              เขาเราร่วมตำนาน                                   เหนียวแน่น  โลกีย์

                              ไยไม่คือพวกพ้อง                         เพื่อนแท้สมาคม

                                          {  มโนคิดล่วงแล้ว                    พจนา  กันเฮย

                              นับเพื่อนภพพสุธา                                   เนื่องไซร้

                              จริงใจยิ่งวาจา                                         จริต  ใสสด

                              งามงดพจีได้                                           เด็ดไว้ฤทัยครอง 

                                          {  คือกายใจใช่แล้ว                   รวมกัน

                              ใจใฝ่กายพาพลัน                                     ผ่านพ้น

                              จับมือมั่นสัมพันธ์                                   พวกเพื่อน  พงศ์ไฉน

                              โอษฐ์เอ่ยใจเต็มล้น                                   ล่วงแล้วไมตรี

                                          {  ตราบตริตรองต่อแต้ม            เติมตาม

                              ชนตื่นทุกผองนาม                                   แน่แท้

                              มาลีช่องดงาม                                         สวยสด  กลางใจ

                              วาววับมีมากแม้                                     ไม่ม้วยยืนยง

                                          {  ยังสังคมล่วงรู้                      เร็วไว

                              ผลิช่อชูดอกใบ                                        แว่นแคว้น

                              จิตพิศุทธิ์ละไม                                        มวลหมู่  มหาชน

                              ผุดผ่องกายใจแม้น                                   มุ่งพ้นอบาย

                                          {  คือบาศบอดบ่วงใบ้               บิดเบือน  นัยนา

                              มัวพร่าพรายพาเลือน                               เล่ห์ซ้ำ

                              อัตตาจึ่งแชเชือน                                     ชวดใช่  ในธรรม

                              จิตล่วงชนเลิศล้ำ                                     หลุดพ้นพันธนา

                                          {  นับนิดนิดหนึ่งนั้น                 นานนาน

                              เสริมเพิ่มเติมประมาณ                             ค่าล้ำ

                              สันติสุขคืบคลาน                         โลกใช่  จริงจริง

                              สืบต่อขยายค้ำ                                         คู่ฟ้าสถาพร

                                          {  มิตรภาพก่อเกื้อ                    กรุณา

                              แสงแห่งธรรมส่องพา                              ผ่านแผ้ว

                              สันติสุขโลกา                                          เกิดใช่  ยั่งยืน

                              มนุษย์ชนสุขแล้ว                                     ตราบสิ้นนิรันดร์.

..................................... (9. ประดิษฐ์ แก้ไขครั้งที่ 2) ......................................

 

10. ไชยณรงค์ 

ส่งทางอีเมล์

 

คนพาล (10. ไชยณรงค์) ส่งครั้งแรก มีแก้ไข

                                                หนาววายกรายย่างเข้า      คิมหันต์

                                    แสงแดดสาดส่องวัน                    เจิดแจ้ง

                                    ลมร้อนค่อยพัดผัน                       ผลัดเปลี่ยน  แนวเคย

                                    เขียวสู่เหลืองกรอบแห้ง                ปลิวคว้างกลางดอน

เสียงหมาหอนเห่ารู้          แต่ไกล

                                    วับวับแสงหมู่ไฟ                         ก่อขึ้น

                                    แนวเขาอยู่ไหวไหว                      ใครก่อ  เผาใคร

                                    ค่อยแผ่กระจายพื้น                      มอดไหม้ไกลแนว

                                                ตามทิวแถวเถื่อนไม้         ใบบาง

                                    ปลิดควั่นเกลื่อนป่าพลาง              ก่อเชื้อ

                                    คนเห็นแก่ตัววาง                         เพลิงส่อ  เจตนา

                                    หวังไล่ต้อนหมู่เนื้อ                      แร่ค้าแบ่งขาย

                                                ใจหมายใจย่อมเร้น          เอนเอียง                                   

                                    ตีค่าชีวิตเพียง                              รสลิ้น   

                                    ชีพพลีกี่ชีพเลี้ยง                          กายหนึ่ง  หนอคน

                                    หมดรสก็หมดสิ้น                        ซากไร้วิญญาณ                          

                                                กี่การตายจึ่งแจ้ง              บาปกรรม

                                    เห็นแก่เต็มอิ่มหนำ                      เบ่งท้อง

                                    ดินร้อนป่าเดือดดำ                       เกรียมเกลือก เพลิงผลาญ

                                    ส่ำสัตว์ขาดป่าป้อง                      ยากพ้นโจรพราน

                                                สายธารใดเหือดแห้ง        ยังเติม  เต็มเอย

                                    ขุดบ่อรอกคลองเสริม                   แอ่งแล้ง

                                    รินฝนหยาดน้ำเพิ่ม                      เติมแอ่ง  ได้นา

                                    ใจพร่องศีลธรรมแห้ง                   ยากแท้เติมเต็ม               

                                                น้ำเค็มเต็มสมุทรล้น        มหาศาล 

                                    กินดื่มสืบชีพวาร                         ห่อนได้

                                    เปรียบมากหมู่คนพาล                  ล้นโลก 

                                    แต่เปล่าประโยชน์ไซร้                  บ่อนล้างทำลาย

            2554, แรงบันดาลใจ เห็นไฟกำลังโหมเผาป่าบนภูเขาในเดือนมีนาคม-เมษายน ตอนกลางคืน  เขตอำเภอดงหลวง จ.มุกดาหาร เกิดจากความโลภในใจของคน ที่หมายต่อชีวิตสัตว์ป่านำมาขาย ทำให้ป่าถูกทำลายไปด้วย        

..................................... (10. ไชยณรงค์)......................................

 

11. ไชยณรงค์  แก้ไขครั้งที่ 1

ส่งทางอีเมล์

 

คนพาล (11. ไชยณรงค์ แก้ไขครั้งที่ 1)

๑. หนาววายกรายย่างเข้า              คิมหันต์

แสงแดดสาดส่องวัน                    เจิดแจ้ง

ลมร้อนค่อยพัดผัน                       ผลัดเปลี่ยน แนวเคย

เขียวสู่เหลืองกรอบแห้ง                ปลิวคว้างกลางดอน

๒. เสียงหมาหอนเห่ารู้                 แต่ไกล

วับวับแสงหมู่ไฟ                         ก่อขึ้น

แนวเขาอยู่ไหวไหว                      ใครก่อ เผาใคร

ค่อยแผ่กระจายพื้น                      มอดไหม้ไกลแนว

๓. ตามทิวแถวเถื่อนไม้                ใบบาง

ปลิดควั่นเกลื่อนป่าพลาง              ก่อเชื้อ

คนเห็นแก่ตัววาง                         เพลิงส่อ เจตนา

หวังไล่ต้อนหมู่เนื้อ                      แร่ค้าแบ่งขาย

๔. ใจหมายใจย่อมเร้น                  เอนเอียง

ตีค่าชีวิตเพียง                              รสลิ้น

ชีพพลีกี่ชีพเลี้ยง                         กายหนึ่ง หนอคน

หมดรสก็หมดสิ้น                        ซากไร้วิญญาณ

๕. กี่การตายจึ่งแจ้ง                     บาปกรรม

เห็นแก่เต็มอิ่มหนา                      เบ่งท้อง

ดินร้อนป่าเดือดดา                       เกรียมเกลือก เพลิงผลาญ

ส่าสัตว์ขาดป่าป้อง                      ยากพ้นโจรพราน

๖. สายธารใดเหือดแห้ง                ยังเติม เต็มเอย

ขุดบ่อรอกคลองเสริม                   แอ่งแล้ง

รินฝนหยาดน้าเพิ่ม                      เติมแอ่ง ได้นา

ใจพร่องศีลธรรมแห้ง                   ยากแท้เติมเต็ม

๗. น้าเค็มเต็มสมุทรล้น               มหาศาล

กินดื่มสืบชีพวาร                         ห่อนได้

เปรียบมากหมู่คนพาล                  ล้นโลก

แต่เปล่าประโยชน์ไซร้                  บ่อนล้างทาลาย

2554, แรงบันดาลใจ เห็นไฟกาลังโหมเผาป่าบนภูเขาในเดือนมีนาคม-เมษายน ตอนกลางคืน เขตอาเภอดงหลวง จ.มุกดาหาร เกิดจากความโลภในใจของคน ที่หมายต่อชีวิตสัตว์ป่านามาขาย ทาให้ป่าถูกทาลายไปด้วย นายไชยณรงค์ วาปี เกิด 8 พฤศจิกายน 2516 ที่อยู่ 88 ม. 9 ต.ป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร เบอร์โทร มือถือ 085-7629640

 

..................................... (11. ไชยณรงค์ แก้ไขครั้งที่ 1)......................................

 

12. กมลศรี  มณีศิลป์

ส่งทางอีเมล์

 

มิตรภาพคืออะไร (12. กมลศรี  มณีศิลป์)

                 มิตรภาพซาบซึ้ง                         ตรึงใจ

     สืบส่งจากหนใด                                      ใคร่รู้

     รอยประทับผนึกใน                                  ไหววาบ

     สุขสั่นขนลุกสู้                                        จู่เข้าสรรพางค์

                 มิตรภาพสรรค์เสกสร้าง               บางเบา

     แรกเริ่มมิอาจเอา                                     เช่าซื้อ

     เก็บสมสั่งนานเนา                                   เราก่อ   ไว้นา

     พลั้งพลาดยากจะรื้อ                                 แย่งยื้อกลับเดิม

                 มิตรภาพเติมแต่งแต้ม                  แซมฝัน

     จากเพื่อนประคองกัน                               หมั่นสร้าง

     ตกทุกข์ร่วมสุขสันต์                                 พันผูก

     ปลูกจิตแผ่รอบข้าง                                  อย่าร้างไมตรี

                 มิตรภาพนี่นี้                               มีมา

     ยากยุ่งพรรณนา                                       จ่าไว้

     รีบเดินย่ำสรรหา                                      พาเพลิด   เพลินแฮ

     กอบก่อมวลมิตรไซร้                                จักได้รู้ความ

                 มิตรภาพงามเลิศหล้า                   มาชม

     เชยเถิดมิตรอมตรม                                  บ่มเชื้อ

     เชิญผายแผ่อารมณ์                                  พรมหว่าน

     บานแบ่งโปรยผีเสื้อ                                 เผื่อได้สัมพันธ์

                 มิตรภาพอันยากแท้                      แปลความ

     สุดแต่ใครเห็นงาม                                   พล่ามพ้น

     หากมีทุกเขตคาม                                                ลามทั่ว

     โลกน่าดูสุขล้น                                        ท่วมท้นปรองดอง

..................................... (12. กมลศรี  มณีศิลป์)......................................

 

13. อาลักษยา

ส่งทางอีเมล์

 

อคติ (10. อาลักษยา)

            วัฒนธรรม งามล้ำ 4 ภาค

อันในโลกแหล่งหล้า                     สรรค์มา งามแฮ

งามดุจแดนเทพา                                     นั่นนั้น

สังสรรค์ช่างโสภา                                    วัฒนธรรม

ใคร บ่ เทียมเทียบครั้น                                          เห็นชาติ ชาวสยาม

            ความงามตามอย่างวัด                             อาราม  วิจิตร

สถิตใจดูขาม                                           กริ่งแก้ว

สีกระจกวิบวาม                                                  กลางส่อง แสงฟ้า

ไพเราะกระดิ่งแล้ว                                   ราวจาก สวรรค์เห่

            เฮเฮเฮเห่โอ้                                            เห่มา  ชมเรือ-

หลวงสุวรรณธารา                                  ผ่องด้าว

พรรคพลพรรคพวกพา                              ขับกล่อม  กระบวน

โขนเชิดดูเหินห้าว                                    ล่องพลิ้ว กลางชล   

            ยลมนต์ดลขับร้อง                                    ดนตรี  บรรเลง

ดีด เป่า สี ตีมี                                                      รื่นร้อง

ฉันท์กลอนกาพย์ กวี-                               เขียนแต่ง ประพันธ์

สะกดมวลชนจ้อง                                   จิตเพี้ยง แสนเพลิน

            เคียงเสียงเรียงร่ำไว้                      ลานนา เวียงเหนือ

เสียงแว่วคำเมืองมา                                 สู่แคว้น

นวลนางช่างโสภา                                   ถิ่นไท้ แสนสุข

มาสักการกราบแม้น                                ท่านท้าว เม็งราย

            สายสายรายแดดฟ้า-                    สงยาง

เสียงโหวดแคนตามนาง                            ร่ายร้อง

หมอลำร่ำ บ วาง                                    เที่ยวให้ สุขสันต์

ปราสาทหินงามฟ้อง                                เด่นไว้ อารยธรรม

            ไวไวไหวคลื่นครื้น                                   มุกอัน ดามัน

เยือนถิ่นทะเลพลัน                                  ล่องร้อย

โนราห์เล่นเริงสันต์                                  ร่ำร้อง  สรวลสร้าง

สวมเทริดรำชดช้อย                                              เลิศล้ำ  วิไล

            คำนำทำสู่ให้                              เห็นมา

อารยธรรมงามตา                                    ทั่วทั้ง

จาตุภาคพรรณนา                                    กล่าวให้  ครบครัน

มีมากเกินรารั้ง                                                    สุดแท้  แดนสยาม

 

..................................... (10. อาลักษยา)......................................

 

14. แบ่งปัน

ส่งทางอีเมล์

 

                                                            “มิตรภาพ (14. แบ่งปัน) ส่งครั้งแรก มีแก้ไข

 

....ธรรมใดในมิตรพร้อม.............พันธ์ทวี

รักเพื่อนมนุษย์พิสุทธิ์วิถี............ถ่องแท้

รักจริงยิ่งยอมพลี........................ชีพสละ

อิ่มจิตมิตรภาพแล้......................เลื่อนหล้าสู่สรวง

 

....ปวงมิตรธรรมเลิศล้ำ............ปฏิบัติ

มาดมั่นเพียรเรียนหัด...............ประจักษ์แจ้ง

กายจิตมิตรภาพจรัส................ทุกเมื่อ

เอิบอาบกำราบแล้ง.................ลดร้อนโลภหลง

 

....จงจริงใจโอบเอื้อ.................แบ่งปัน

จน-เจ็บ เข้าสานฝัน.................แนะ-ให้

โอกาส หลักประกัน.................ปรากฏ...จริงนา

มิตรภาพพูนสุขได้...................สร่างเศร้าเหงาสลาย

 

....คลายทุกข์ผองเพื่อนด้วย......ยุติธรรม

สัตย์ซื่อทุกกิจกรรม..................ไป่เว้น

อุเบกขามุ่งมั่นนำ......................สันติ

น้ำมิตรพิชิตเล่ห์เร้น..................ระงับสิ้นร้าวฉาน

 

....การณ์ใดนำเรื่องร้อน.............รุกเรือน

ใจใส่ไป่แชเชือน......................เร่งแก้

สังคมรุ่งโรจน์เยือน...................ด้วยรัก...ยิ่งนา

แท้!"เพื่อน"ทุกเรือนแล้.............ระรื่นหล้าสุขไสว

 

....เห็นใจที่ทุกข์ท้น..................ท่วมตัว

ผองเพื่อน ฤ เกรงกลัว...............ร่วมสู้

ฟ้าปิดมิดมืดมัว........................กลับกระจ่าง

มิตรภาพต่อทุกผู้......................ผุดหล้าโลกสวรรค์

..................................... (14. แบ่งปัน)......................................

 

15. แบ่งปัน

ส่งทางอีเมล์

 

                                                “มิตรภาพ (15. แบ่งปัน) แก้ไขครั้งที่ 1

 

....ธรรมใดในมิตรพร้อม.............พันธ์ทวี

รักเพื่อนมนุษย์พิสุทธิ์วิถี............ถ่องแท้

รักจริงยิ่งยอมพลี......................ชีพสละ

อิ่มจิตมิตรภาพแล้....................เลื่อนหล้าสู่สรวง

 

....ปวงมิตรธรรมเลิศล้ำ............ปฏิบัติ

มาดมั่นเพียรเรียนหัด...............ประจักษ์แจ้ง

กายจิตมิตรภาพจรัส................ทุกเมื่อ

เอิบอาบกำราบแล้ง.................ลดร้อนโลภหลง

 

....จงจริงใจโอบเอื้อ.................แบ่งปัน

จน-เจ็บ เข้าสานฝัน.................แนะ-ให้

โอกาสหลักประกัน..................ปรากฏ...จริงนา

มิตรภาพพูนสุขได้...................สร่างเศร้าเหงาสลาย

 

....คลายทุกข์ผองเพื่อนด้วย......ยุติธรรม

สัตย์ซื่อทุกกิจกรรม..................ไป่เว้น

อุเบกขามุ่งมั่นนำ......................สันติ

น้ำมิตรพิชิตเล่ห์เร้น..................ระงับสิ้นร้าวฉาน

 

....การณ์ใดนำเรื่องร้อน.............รุกเรือน

ใจใส่ไป่แชเชือน......................เร่งแก้

สังคมรุ่งโรจน์เยือน...................ด้วยรัก...ยิ่งนา

แท้!"เพื่อน"ทุกเรือนแล้.............ระรื่นหล้าสุขไสว

 

....เห็นใจที่ทุกข์ท้น..................ท่วมตัว

ผองเพื่อน ฤ เกรงกลัว...............ร่วมสู้

ฟ้าปิดมิดมืดมัว........................กลับกระจ่าง

มิตรภาพต่อทุกผู้......................ผุดหล้าโลกสวรรค์

..................................... (11. แบ่งปัน) แก้ไขครั้งที่ 1......................................

16. ไชยณรงค์

ส่งทางอีเมล์

 

รู้ถึงคุณค่าเมื่อลาจาก  (16. ไชยณรงค์)

. สายลมพัดแผ่วไล้                    ใบตอง แกว่งเอย

ใบเก่าร่วงเกลื่อนกอง                   สู่พื้น

สายฝนฉ่าน้านอง                        ใบเน่า เปื่อยนา

เก่ากลิ่นสิ้นครึกครื้น                     ใหม่ซ้อนอ่อนแทน

. สู่แดนดินเถื่อนได้                   จึงเห็น เถื่อนนา

เคยผ่านสุขทุกข์เข็ญ                     จึ่งรู้

เห็นคุณยากลาเค็ญ                       ก้อเมื่อ สบายเอย

จนตรอกจึ่งคิดสู้                          เผื่อพ้นความตาย

. รู้เสียดายเมื่อได้                       หายสูญ

หวนคิดสานึกคุณ                        เมื่อสิ้น

เสียงเคยเอ่ยอุ่นคุ้น                       เหลือแค่ คาเคย

พร่าบ่นจนเหนื่อยลิ้น                    ห่อนได้แทนคุณ

. อันอาดูรจิตได้                        เพียงหวน ถึงเอย

มิอาจย้อนอดีตทวน                     เพื่อแก้

ดีทรามต่างทาล้วน                      เลยผ่าน ไปนา

สายเมื่อรู้รักแท้                           แม่ร้างพ่อสูญ

. แล้วแต่บุญบาปสร้าง               แต่ปาง ใดเอย

กรรมต่อกันบ่จาง                        จึ่งพร้อม

พบพานสืบเพื่อล้าง                      หรือผูก พันนา

หมู่ญาติมิตรห้อมล้อม                  เหตุด้วยผลกรรม

. ฝนพราพราหยาดพื้น                พรมพลาง

รินเหงื่อหยาดเป็นทาง                  ต่างน้า

รวยจนบ่ได้หมาง                         เมินเหยียด เจ้านา

มีแต่หนุนจุนค้า                           ลูกพร้อมความหวัง

. ใครจะชังชั่งให้                       เขาชัง

ชีวิตนี้แม่ยัง                                อยู่ได้

สลัดทิ้งสิ่งพ่อหวัง                       แม่ห่วง ลูกเอย

กรรมเก่าคงสร้างไว้                     ลูกได้ตอบแทน

..................................... (16. ไชยณรงค์) ......................................

 

17. ไชยณรงค์

ส่งทางอีเมล์

 

คนเราก็เท่านี้ (17. ไชยณรงค์)

๑. ตะวันต่ำค่ำแล้ว                      กานดา

ลมกู่ลมกล่อมพา                         สู่เหย้า

กรำงานเหนื่อยจนล้า                    ได้ผ่อน แม่เอย

ข้าวใหม่ปลามันเฝ้า                     แนบเนื้อคู่นอน

๒. ในบทตอนแห่งห้วง                ชีวิต

กรรมก่อกรรมลิขิต                       เพื่อสร้าง

กี่วนกี่เวียนจิต                             เกิดแก่ เจ็บตาย

กี่ทุกข์กี่สุขร้าง                            แทรกไว้ให้ทน

๓. เกิดบนความทุกข์ท้อ               ทรมาน

ค่อยก่อประสบการณ์                   เพื่อสู้

อดทนต่อคำขาน                          หยามเหยียด คนนา

วันหนึ่งยืนหยัดกู้                         ชื่อข้าจารึก

๔. สำนึกในใจลูกน้อย                  เพียงพอ  แล้วเอย

เป็นแบบให้เกิดกอ                       หน่อกล้า

ยืนอยู่เพื่อสืบต่อ                          พงศ์เผ่า วงศ์เฮย

ประดับอยู่คู่หล้า                          โลกร้างต่างไป

๕. แต่สายใยอย่าสิ้น                     ขาดใย เจ้าเอย

ให้แทรกปนอยู่ใน                        หนั่นเนื้อ

สายเลือดอย่าเหือดไหล                 แห้งท่อ

รินหลั่งจากบรรพ์เกื้อ                   สู่กล้าสืบสาย

๖. ตะวันกรายลับพื้น                   เย็นยาม

ชีวิตก็เคลื่อนตาม                         เปลี่ยนด้วย

เด็กหนุ่มเติบใหญ่ข้าม                  เฒ่าแก่ ชรา

แรงหมดรอมรณ์ม้วย                   สู่พื้นกลืนหาย

2553, เกิดขึ้น เพื่อคงอยู่ รอการเปลี่ยนแปลง และก็ดับสลาย

..................................... (17. ไชยณรงค์)......................................

 

18. ไชยณรงค์

ส่งทางอีเมล์

 

บาปรัก (18. ไชยณรงค์)

๑. สายลมพัดแผ่วพลิ้ว                 ผ่านเพียง

ให้สดับระส่ำเสียง                       ปวดร้าว

ครวญคร่ำสั่นสำเนียง                   ใจกลั่น ถ้อยคำ

แม้แผ่วเสียงเอ่ยเศร้า                    พลิกฟ้าถล่มดิน

๒. ใจถวิลแต่แก้ว                        จอมใจ เหลือเอย

แต่สิทธิ์เพียงคิดไป                       เท่านี้

ยิ่งคิดยิ่งผิดใน                              หมอกม่าน ประเพณี

คอยหลีกคอยหลบลี้                      หลุดพ้นคนมอง

๓. หมายปองดมดอกไม้               ในสวน

กุหลาบขาวช่างนวล                    อิ่มเนื้อ

น้่าค้างพร่างพรมชวน                   ลิ้มกลีบ หอมเฮย

เฝ้าแต่แอบมองผีเสื้อ                    แนบชู้ชมงาม

๔. นี่ก็ทรามต่ำช้า                        เต็มที

ชมชื่นคนที่มี                              คู่แล้ว

คิดถอยห่างไกลหนี                       ใจดั่ง เพลิงผลาญ

ครั้นไขว่เอื้อมดวงแก้ว                  กลับไร้ไกลฝัน

๕. ทุกคืนวันอยู่ด้วย                     ทรมาน

อยู่ท่ามกลางกึ่งกาล                     สุขท้อ

แต่ทุกข์อยู่ได้นาน                        เนินกว่า นาพี่

สุขไม่นานทุกข์ก้อ                       หม่นขึ้นขื่นขม

๖. สายลมพัดผ่านพ้น                   ลับไกล แล้วเอย

ให้สดับในสิ่งใด                           จากเจ้า

คงพัดผ่านเลยไกล                        แม้สิ่ง ฝังจำ

พัดสุขทุกข์หม่นเศร้า                    ซ่อนไว้ในภพ

2551, ไม่ว่าสุข ทุกข์ หรืออะไร ก็เกิดขึ้นมาเพื่อให้เราสัมผัส จำได้ และลืมไปเสมอ

..................................... (18. ไชยณรงค์)......................................

 

19. ศิริลพักตร์ 

ส่งทางอีเมล์

 

สายน้ำกับมิตรแท้ (19. ศิริลพักตร์)

สายฝนพรำฉ่ำพื้น                                    ผืนดิน

โปรยหลั่งลงไหลริน                                  ทั่วหล้า

กำเนิดก่อทรัพย์สิน                                  มอบแด่  ผองชน

ดุจดั่งธารไหลช้า                                                  แหล่งนี้มีคุณ

เปรียบเป็นเหมือนเพื่อนแท้           มวลชน

มิตรที่ดีมีผล                                                       สื่อสร้าง

นำหลีกเลี่ยงอับจน                                   จดจ่อ

ถางที่ปรกรกร้าง                                      เพื่อสร้างทางเดิน

มวลมิตรชิดเพื่อนบ้าน                  สานใจ  กันเฮย

ยิ้มย่องมองสดใส                                     แช่มช้อย

ข้าวของแบ่งกันไป                                   หายห่วง

มีค่าถึงเล็กน้อย                                       ไม่ด้อยน้ำใจ

รวมตัวกันก่อสร้าง                                  ทางสุข

หลีกเลี่ยงเหตุแห่งทุกข์                             เหล่านั้น

น้ำใจใฝ่พันผูก                                        ไม่หวั่น

เชิญช่วยลดชนชั้น                                    เพื่อนนั้นแสนดี

สองเด็กน้อยเกี่ยวก้อย                   เดินไป

ตาต่อตามองไกล                                     แหล่งน้ำ

สองมือมั่นจับไว้                                     เหนียวแน่น

แสนชื่นใจรีบจ้ำ                                      ดื่มน้ำเย็นดี

จับมือกันต่อสู้                             ชีวี  ของเรา

จะไม่ยอมเสียที                                       ที่สร้าง

ทุกข์ยากไม่หลบหนี                                 แหนงหน่าย

ยึดมั่นในโลกกว้าง                                   หนึ่งนั้นฉันเธอ

..................................... (19. ศิริลพักตร์)......................................

 

20. เชษฐภัทร วิสัยจร

ส่งทางอีเมล์

มิตรภาพศิษย์ครูในโลกไซเบอร์ (20. เชษฐภัทร)

๑. สิบปีมิตรภาพฟ้า............กำหนด

ผ่านโลกไซเบอร์จด...........จัดไว้

เรียนกวีหัดเขียนบท...........แรกแต่ง

เด็กหนุ่มยี่สิบใช้...............ฝึกสร้างประสบการณ์

 

๒. การมีรักแล้วรัก.................ผิดหวัง

ส่วนหนึ่งคือพลัง................เสกสร้าง

แต่งกลอนโพสเว็บฟัง.............คน อ่าน

ข้อวิจารณ์เปิดกว้าง..............ก่อเกื้อกันไป

 

๓. ไทยโพเอ็มแรกเข้า..............เลียนครู

เด็กหนุ่มอ่อนด้อยดู................ย่างก้าว

ทุกคำอาจไม่หรู.................,,,.ลิเกเลิศ

แต่สื่อความปวดร้าว..............ชัดด้วยอารมณ์

 

๔. ชื่นชมใครต้องแอ๊ด...............ไปหา

ขอสมัครเป็นศิษย์พา...............วิพากษ์สู้

ส่งหัดประกวดหา................ที่ส่ง พิมพ์นอ

ออกนอกไซเบอร์รู้.................โลกกว้างทางไกล

 

๕. สายใยมิตรภาพเค้า........โครงแสดง

ครูแนะสังเกตแรง..............ผ่อนย้าย

ในเว็บพันทิปแถลง..............กันอยู่

กาลเทศะคล้าย..................ใคร่รู้เรียนเอง

 

๖. หลังละเลงชีวิตใช้.............สองสถาน

ทั้งโลกจริง-เสมือน-การ...........ย่างก้าว

แต่งกวีแห่งยุคขาน...............ทุกข์สุข

ยิ้มสลับร้องไห้ร้าว.................ปวดขั้วหัวใจ

 

๗. นิสัยอ่อนโลกใช้.............ชีวิต

เด็กหนุ่มเติบใหญ่จริต................เริ่มกร้าน

ครูยังห่วงความคิด...............ของเด็ก

กี่ปีก็ดื้อด้าน...................เด็กด้อยปัญญา

 

๘. สนทนาแลกเปลี่ยนข้อ...........คำสอน

แย้งถกเถียงทุกตอน...........ตอบโต้

ผ่านเฟสบุคส่งกลอน...............กลบท

เอ็มเอสเอ็นหมดโก้.................เกือบสิ้นความนิยม

 

๙.ชมสื่อมิตรภาพย้อน..........สิบปี

สอนอ่านเขียนกวี...................กระวาดเฝ้า

ผ่านระบบแช็ตทุกที..................ที่ฝึก

แต่ไม่เคยเจอเข้า......................พบให้ใจฉงน

 

๑๐. จนเหมาะประจวบด้วย.............เวลา

คือระบบสามจีพา................พบได้

ส่งพบท่านครูหา....................ถึงที่

สื่อหมดมิตรภาพให้...............เหตุสร้างกวีนิพนธ์

..................................... (20. เชษฐภัทร วิสัยจร)......................................

 

 

 

21. ฉัตรปกรณ์

ส่งทางอีเมล์

 

นิรมิต-มิตรภาพ (21. ฉัตรปกรณ์)

 

ขณะโลกบิดเบี้ยว            เบิกบาน

ขณะดาวอันตรธาน                     ถีบฟ้า

ขณะชเลกาฬ                              สกปรก

ขณะสมัยล้า                               ซบหน้าชิงชัง

บังเกิดภาพทับซ้อน         ทบทับ

เศษธุลีประดับ                            ปิ่นเจ้า

แปงเมืองเขื่องขยับ                      ขัตติย  ทรงนา

ปารมีหยดเหย้า                           ธ เข้าปรกเมือง

เป็นภาพบนโลกนี้            แนบนาน

มิ่งมิตรสอดผสาน                       แหล่งข้า

ตราบจนนิรกาล                          แตกดับ

ภาพแห่งมิตรมอบหล้า                 สู่ฟ้าแสนงาม

ยามยากหยิบยื่นน้ำ-         ใจมิตร

ยามทุกข์สอดสถิต                       สุขซ้ำ

ยามลำบากเจือจิต                        แจกจ่าย  ใจแล

ยามหม่นปนชอกช้ำ                     ธ ค้ำบำรุง

เป็นภาพบนภาพนี้           วามวาบ

จักรวาลเอิบอาบ                         มอบให้

ภราดรภาพ                                พงศ์เผ่า  ไทยเฮย

มวลมิ่งมิตรเทิดไท้                       มอบไว้ไมตรี

ขณะโลกบิดเบี้ยว            เบิกบาน

กาลปักษ์จักรวาล                                    วาบฟ้า

ชเลอวสาน                                 มวลมิตร

ขณะสมัยล้า                               โลกหล้าทึ่งไทย              

..................................... (21. ฉัตรปกรณ์)......................................

 

22. ฑีดา  ญาจันทร์

ส่งทางอีเมล์

 

มิตรธรรม (22. ฑีดา  ญาจันทร์) ส่งครั้งแรกมีแก้ไข

เบญจศีลประดุจเสื้อ                                 สวมตน

ประดับผองผดุงพล                                  ผ่องแผ้ว

โอตัปปะเปี่ยมกมล                                  มลายบาป

หิริรวมเพริดแพร้ว                                   เพรียกพร้องพราวสวรรค์ 

เสวยสุขสูงกว่าไท้                                   เทโว

เรียกชื่อชั้นพรหมโม                                 มิ่งเกล้า

ควรจำอย่า ยโส                                       สอนสั่ง

อยากอยู่อย่างพรหมเจ้า                             จักต้องครองธรรม

ทางดีชวนช่องชี้                                      ชนนิยม

คือสี่วิหารพรหม                                     พรั่งพร้อม

เมตตากรุณาชม                                      ชีพชื่น

มุทิตาต่างค้อม                                        คู่ค้ำอุเบกขา

ข้อหนึ่งตรึงมั่นแม้น                       เมตตา แม่เอย

ยิ่งใหญ่ในโลกา                                        กึกก้อง

มุ่งมาตรปรารถนา                                   นำสุข

เสริมมิตรภาพพ้อง                                  เพียบล้นเลอสรวง

สองฤาคืออยากให้                                   เห็นงาม

ผู้อื่นพ้นจากความ                                   ใฝ่ร้อน

กรุณาช่วยสยาม                                      เย็นยิ่ง

ย้อมมิตรภาพต้อน-                                  รับยิ้มพิมพ์เตือน

ยินดีมีส่วนด้วย                          โดยเดิม

สามมุทิตาเติม                                       แต่งแต้ม

ยามใดเพื่อนเฉลิม                                    ฉลองรุ่ง เจริญแฮ

มวลมิตรภาพแย้ม                                   หยุดยั้งอิจฉา

ดวงคนมีเด่นขึ้น                          สะดุดลง

สี่คิดใคร่ครวญปลง                                  เปล่าแปล้

วางอุเบกขาคง                                        ควรสงบ

มีมิตรภาพแก้                                         กลับร้ายกลายดี

ห้าคนสองเทพชี้                          สี่พรหม

ศีลที่คนนิยม                                           อยู่ห้า

ธรรมทองเทพประสม                              สองประสิทธิ์

พรหมวิหารสี่กล้า                                    แกร่งเกื้อเจือประสาน

มิตรภาพปราบทุกข์ให้                  เห็นธรรม

เปลี่ยนโลกขาวจากดำ                              เด่นได้

โทรมเศร้ากลับสุขสำ-                              ราญสุด

มิตรภาพยืนยงไซร้                                   อยู่พร้อมธรรมเสถียร.

.................................. (22. ฑีดา  ญาจันทร์)......................................

 

 

23. ฑีดา  ญาจันทร์

ส่งทางอีเมล์

 

                        มิตรธรรม (23. ฑีดา  ญาจันทร์ แก้ไขครั้งที่ 1)

ž เบญจศีลประดุจเสื้อ                           สวมตน
ประดับผองผดุงพล                                  ผ่องแผ้ว
โอตัปปะเปี่ยมกมล                                  มลายบาป
หิริรวมเพริดแพร้ว                                   เพรียกพร้องพราวสวรรค์ 
ž เสวยสุขสูงกว่าท้าว                           เทโว
เรียกชื่อชั้นพรหมโม                                 มิ่งเกล้า
ควรจำอย่า ยโส                                       สอนสั่ง
อยากอยู่อย่างพรหมเจ้า                             จักต้องครองธรรม
ž ทางดีมีหลากล้วน                              ชวนลอง
พรหมวิหารสี่ตรอง                                  ตรึกน้อม
เมตตากรุณานอง                                     เนืองเนื่อง
มุทิตาต่างค้อม                                        คู่ค้ำอุเบกขา
ž ข้อหนึ่งตรึงมั่นแม้น                           เมตตา แม่เอย
ยิ่งใหญ่ในโลกา                                        กึกก้อง
มุ่งมาตรปรารถนา                                   นำสุข
เสริมมิตรภาพพ้อง                                  เพียบล้นเลอสรวง
ž สองฤาคืออยากให้                              เห็นงาม
ผู้อื่นพ้นจากความ                                   ใฝ่ร้อน
กรุณาช่วยสยาม                                      เย็นยิ่ง
ย้อมมิตรภาพต้อน
-                                  รับยิ้มพิมพ์เตือน
ž ยินดีมีส่วนด้วย                                  โดยเดิม
สามมุทิตาเติม                                       แต่งแต้ม
ยามใดเพื่อนเฉลิม                                    ฉลองรุ่ง เจริญแฮ
มวลมิตรภาพแย้ม                                   หยุดยั้งอิจฉา
ž ดวงคนมีเด่นขึ้น                                สะดุดลง
สี่คิดใคร่ครวญปลง                                  เปล่าแปล้
วางอุเบกขาคง                                        ควรสงบ
มีมิตรภาพแก้                                         กลับร้ายกลายดี
ž ห้าคนสองเทพชี้                                สี่พรหม
ศีลที่คนนิยม                                           อยู่ห้า
ธรรมทองเทพประสม                              สองประสิทธิ์
พรหมวิหารสี่กล้า                                    แกร่งเกื้อเจือประสาน
ž มิตรภาพปราบทุกข์ร้าย                       ระเริงธรรม
เปลี่ยนโลกขาวจากดำ                              เด่นได้
โทรมเศร้ากลับสุขสำ
-                              ราญสุด
มิตรภาพยืนยงไซร้                                   อยู่พร้อมธรรมเสถียร.

.................................. (23. ฑีดา  ญาจันทร์) แก้ไขครั้งที่ 1 ......................................

 

 

24. ชาตรี

ส่งทางอีเมล์

จักรวาลมิตร(24. ชาตรี)

๏ ไส้เดือนซุยภาคพื้น                               พิภพ

ธรณีที่ซ่อนหลบ                                      หลีกเร้น

ป่ายังวัสสานครบ                                    ฤดูตก   ต้องเฮย

ตกหลั่งดินป่าเต้น                                    ตลอดเลี้ยงไส้เดือน

            ๏ ตะวันเคลื่อนเมฆห้วง               หฤหรรษ์

รุ้งรุ่งอัศจรรย์                                          เจิดจ้า

วิหควิเวกสวรรค์                                     เสวยเมฆ

เมฆโอบตะวันล้า                                    ขับไล่ราหู

            ๏ หมู่ดารกะโพ้น             พิมาน

หรีดหริ่งเรไรขาน                         ขับร้อง

ฤดูฤดีกาล                                              เกลอกล่อม   เสมอนา

จักรวาลเสพห้อง                                     แห่งห้วงมิตรารมณ์

            ๏ เหล็กขย่มเขยื้อนโลก                 ฤๅไฉน

มนุษย์ตื่นหายใจ                                      โลกร้อน

ร้อนจริตซากผีไย                                     ผยองอยาก

แผดผ่าวเผาขย้อน                                    ย่อยฟ้าตะวันจันทร์

๏ กระสันกิเลสข้า                       ครอบครอง

ฝุ่นธุลีละออง                                          อื่นด้วย

น้ำมิตรเพื่อมิตรผอง                                 เพื่อนมนุษย์

น้ำมิตรธรรมชาติม้วย                               หมดแห้งเหือดหรือ

๏ มือทลายป่าสร้าง                     มณฑล

ทลายสัตว์ปาดปูนผล                               เขื่อนกั้น

กั้นป่าจากเมฆฝน                                    ฟ้าหลั่ง

กั้นมนุษย์จากมนุษย์นั้น                            กีดกั้นหัวใจ

            ๏ ใฝ่ศานติสุขเกื้อ-                       กูลกัน

วงศ์แห่งพงศ์เผ่าพันธุ์                               ร่วม*แหม้

แม่โพสพแม่น้ำอนันต์                              แม่ย่า-  นางนอ

แม่พระธรณีแท้                                       ที่ให้เหยียบยืน

            ๏ ชื่นวัฏวงศ์แม่ไร้                       โลกผยอง

ร่วมร่ำน้ำมิตรฉลอง                                 ค่ำเช้า

ไส้เดือนแทรกซุยกอง                               สรรพซาก

มิตรมนุษย์ไฉนเท้า                                  ทืบขยี้ไส้เดือน

            ๏ เหมือนต่างฝันใฝ่ด้วย                เดียวกัน

ร่วมโลกร่วมชีวัน                                    ร่วมเกื้อ

นิทรามิตรปันฝัน                                     ศานติสุข

หวังตื่นมิตรภาพเอื้อ                                โอบอุ้มเสมอฝัน.

.................................. (24. ชาตรี) ......................................

 

25. นิวัฒน์

ส่งทางอีเมล์

 

มิตรภาพอยู่ยั้งยืนยง (24. นิวัฒน์)

                        เปล่งประกายมากล้น                                           น้ำใจ

งามสุดแสนวิไล                                                              เลิศล้ำ

ยั่งยืนยิ่งยาวไกล                                                               นานนับ ชั่วกาล

ยามประสบมิชอกช้ำ                                                        ช่วยให้ชื่นบาน

            สืบสานโลกอยู่ได้                                     สุขศรี

พูนเพิ่มมิตรไมตรี                                                            เริ่มต้น  

ขจัดทุกข์ที่มากมี                                                             สิ้นสุด ได้นา

สิ่งชั่วร้ายผ่านพ้น                                                            แก่นแท้ความจริง

            ยิ่งแตกแยกยากยื้อ                                                ปรองดอง

ยิ่งผิดตามครรลอง                                                            เยี่ยงนี้

ยิ่งต่างฝ่ายจองหอง                                                          อวดเบ่ง ถือดี

ยิ่งเนิ่นนานป่นปี้                                                              แหล่งหล้าทุกข์ทน

            ทุกแห่งหนแต่ล้วน                                               ดินเดียว

มุ่งสมานกลมเกลียว                                                        อยู่ยั้ง

หันมาห่วงแลเหลียว                                                        ผองเพื่อน กันนา

ลดละเลิกวางตั้ง                                                              กิเลสนั้นห่างตัว

            เมามัวลาภยศร้าย                                                            รุนแรง

พินาศทั่วหัวระแหง                                                         เดือดร้อน

หนทางสู่ฆ่าแกง                                                             เกิดแย่ง ใหญ่เฮย

มิตรภาพถูกกวาดต้อน                                                      หมดสิ้นสูญหาย

            วุ่นวายเหตุห่างร้าง                                              ผูกมิตร

ขาดซึ่งกุศลจิต                                                                รับรู้

เร่งคืนกลับค้นคิด                                                 มิตรภาพ ด้วยนา

รวมร่วมกันทุกผู้                                                             เปิดกว้างสว่างใจ

..................................... (24. นิวัฒน์) ......................................

 

26. เกียรติศักดิ์ 

ส่งทางอีเมล์

 

มิตรภาพ (26. เกียรติศักดิ์)  ส่งครั้งแรก มีแก้ไข

1. กาลเวลาก่อสร้าง                     ตัวตน

เห็นที่เป็นบุคคล                          ไม่น้อย

สนใจใฝ่ทุกหน                            ในเพื่อน

หยิบยื่นมามอบร้อย                      เริ่มต้น ยาวนาน

2. อันมิตรแท้ก่อได้                      เราเอง

หาใช่เป็นนักเลง                          เก่งกล้า

นอบน้อมถ่อมตัวเอง                    สนใส่

ทางก่อเป็นเพื่อนข้า                     ย่อมได้ เห็นทาง

3. มิตรภาพส่งให้                        สองมือ

จากเพื่อนฝูงฝากถือ                     ร่วมไว้

หาจะใช่ดังคือ                             มีดทิ่ม

เปรียบแต่เป็นดอกไม้                    ส่งได้ เต็มใจ

4. หากอยากรับแต่งยิ้ม                 เติมกัน ไว้รา

หาเพิ่มเสริมใส่กัน                       อย่าแล้ง

สุดทางที่คิดฝัน                           อาจไม่ ใกล้ตัว

หากเพื่อนไม่ขับแกล้ง                   เร่งให้ ถึงชัย

5. สังคมใดก่อไว้                         ไมตรี

นำเริ่มเติมชีวี                              ร่วมสร้าง

สุขเกิดอยู่มากมี                           หลายหลาก

พบเพื่อนในโลกกว้าง                   ส่งยิ้ม เถิดรา

6. สังคมในบัดนี้                         สูญหาย

กลับแย่งแข่งขยาย                        ต่อสู้

หมดแล้วซึ่งการขาย                     ยิ้มแก่ กันนา

ผองหมู่สยามไซร้                        ร่ำไห้ กันเอง

..................................... (26.เกียรติศักดิ์)......................................

 

27. เกียรติศักดิ์ 

ส่งทางอีเมล์

 

มิตรภาพ (27. เกียรติศักดิ์) แก้ไขครั้งที่ 1

1. กาลเวลาก่อสร้าง                     ตัวตน

เห็นที่เป็นบุคคล                          ไม่น้อย

สนใจใฝ่ทุกหน                            ในเพื่อน

หยิบยื่นมามอบร้อย                      เริ่มต้น ยาวนาน

2. อันมิตรแท้ก่อได้                      เราเอง

หาใช่เป็นนักเลง                          เก่งกล้า

นอบน้อมถ่อมตัวเอง                    สนใส่

ทางก่อเป็นเพื่อนข้า                     ย่อมได้ เห็นทาง

3. มิตรภาพส่งให้                        สองมือ

จากเพื่อนฝูงฝากถือ                     ร่วมไว้

หาจะใช่ดังคือ                             มีดทิ่ม

เปรียบแต่เป็นดอกไม้                    ส่งได้ เต็มใจ

4. หากอยากรับแต่งยิ้ม                 เติมกัน ไว้รา

หาเพิ่มเสริมใส่กัน                       อย่าแล้ง

สุดทางที่คิดฝัน                           อาจไม่ ใกล้ตัว

หากเพื่อนไม่ขับแกล้ง                   เร่งให้ ถึงชัย

5. สังคมใดก่อไว้                         ไมตรี

นำเริ่มเติมชีวี                              ร่วมสร้าง

สุขเกิดอยู่มากมี                           หลายหลาก

พบเพื่อนในโลกกว้าง                   ส่งยิ้ม เถิดรา

6. สังคมในบัดนี้                         สูญหาย

กลับแย่งแข่งขยาย                        ต่อสู้

หมดแล้วซึ่งการขาย                      ยิ้มแก่ กันนา

ผองหมู่สยามไซร้                        ร่ำไห้ กันเอง

..................................... (27. เกียรติศักดิ์)......................................

 

28. วรรณวริน

ส่งทางอีเมล์

 

ข้างหลัง(มิตร)ภาพ (28. วรรณวริน)

            ก่อนเอยเคยเล่นครั้ง          ยังเยาว์

มีพ่อแม่ลูกเหล่า                          เพื่อนพ้อง

กำหนดบทบาทเอา                      เล่าเรื่อง  ร้อยเรียง

ร่วมเล่นเป็นพี่น้อง                       เกี่ยวข้อง กลมเกลียว

            เติมต่อตกแต่งแต้ม           รังสรรค์  เรื่องราว

พ่อแม่ลูกผูกพัน                           พรั่งพร้อม

ผองเพื่อนพี่น้องกัน                      ปันแบ่ง  ปรองดอง

มิตรภาพอาบล้อม                       โอบอุ้ม  วัยเยาว์

            วันวารสุขผ่านพ้น           หนหลัง

เสี้ยวอดีตยังติดฝัง                        จิตไว้

แม้กายเติบใหญ่ยัง                       คงเล่น  สมมติ

มิหยุดบทบาทได้                         ใส่ไว้หน้ากาก

            หน้าฉากปากคลี่ยิ้ม          งดงาม

หลังฉากหรือคือความ                  มุ่งร้าย

ภายในจิตคิดทราม                       โฉดชั่ว  ชิงชัง

ภาพกลับดูคลับคล้าย                    แน่แท้  คนดี

            มิตรภาพฉาบสร้าง          เบื้องหน้า

แม้เพื่อนกลับคิดฆ่า                     เพื่อนได้

พี่น้องกลับกลายมา                      แก่งแย่ง  ช่วงชิง

ผลประโยชน์กำหนดไซร้               ซ่อนไว้  เบื้องหลัง

            ภาพเอยเลยเปล่าไร้          วิญญาณ

ภาพซ่อนซ้อนจิตมาร                   เร่าร้อน

ภาพมิตรที่พบพาน                      เพียงภาพ  ฉาบสร้าง

อยากปรับภาพกลับย้อน                สู่ครั้ง  ยังเยาว์..

..................................... (28. วรรณวริน)......................................

 

29. กะระตะ

ส่งทางอีเมล์ : Sunday, September 30, 2012 3:49 PM

 

มิตรธรรมชาติ  (29. กะระตะ)

๑.อาทิตย์ทาทั่วฟ้า                       นภาลัย

สาดส่องแสงอุทัย                        ใหญ่น้อย

ทุกสรรพสิ่งเคลื่อนไหว                 ตามครร-ลองนา

มิตรหนึ่งไมตรีร้อย                       ก่อเกื้อกูลกัน

๒. สามัญมิต่างนี้                                    นามใด

ต้องช่วยเหลือเจือไป                     จ่นสิ้น

ชั่วกาลผ่านอสงไขย                     ธรณิน

จักไม่ดับแดดิ้น                            ห่อนสิ้น จินต์จล

๓. เปรียบน้ำมนต์ห่มฟ้า               ดารดาษ

เปรียบดั่งตฤณชาติ                       ช่อแก้ว

ไมตรีก่ออำนาจ                           ปรารถนา ดี แฮ

ดุจดั่งพิณพาทย์แพร้ว                   แว่วซึ้ง ตรึงกมล

๔. อารยชนบ่พ้น                         ม่านฤดี

อยู่ร่วมกันวันทนีย์                       พี่น้อง

ธรรมชาติก่อไมตรี                       เสกสู่

ปั้นเต่งให้พรักพร้อง                     ผ่องด้วย ปราณี

๕. ไมตรีนั้น เชื่อมด้วย                 สัมพันธ์

รักใคร่ สมานฉันท์                       หมั่นให้

จริงใจแค่กระนั้น                         นั่นแน่ จริงเอย

มอบซึ่งไมตรีไซร้                         อยู่ได้ ร่มเย็น

๖. สิ่งสุดท้ายนี่แล้ว                     ธรรมชาติ

มิตรมิ่งพราวพิลาส                      เปี่ยมล้น

อันหนึ่งน่าอนาถ                         หากบ่ รู้ค่า

คุณก่อเกิดท่วมท้น                       ถี่จ้น จนไกล

..................................... (29. กะระตะ)......................................

 

30. แบ่งปัน

ส่งทางอีเมล์

มิตรภาพ ๒  (30. แบ่งปัน)

....เพื่อนคือใครใคร่รู้.............จริงจริง

โปรดบ่งบอกอย่าประวิง.........ด่วนด้วย

ผ่านพบแต่ผีสิง....................หลอนหลอก

ล้วนเล่ห์ร้ายหมายม้วย..........สูบสิ้นศักดิ์ศรี

....หวังมีมิตรสนิทให้............ใจกาย

ตกต่ำเจ็บซ้ำคลาย...............ทุกข์พ้น

เมตตารักเร่งฉาย..................ชุบชีพ

มิตรภาพเอิบอาบล้น.............รักแล้สุขสันต์

....วารวันหวังเพื่อนได้..........ปลอบโยน

หน้ากากดุจดั่งโขน..............อย่าใช้

ใจจริงขจัดใจโจร.................ร้อยเล่ห์

คืนค่ำเดือนดาวไร้................เพื่อนให้หฤหรรษ์

....ปันใจให้ทุกผู้..................ดุจสูรย์

แสงสว่างพลังเพิ่มพูน..........ไป่เฟ้น

ใส่ใจเมื่ออาดูร....................ล้มทุเรศ

มิ่งมิตรมิหลีกเร้น.................ร่วมสู้สู่ฝัน

....พลันเพื่อนสิบชาติได้.......ร่วมมือ

สามัคคียึดถือ.....................พรักพร้อม

เศรษฐกิจรุ่งเรืองระบือ..........ทั่วถิ่น

ธรรมมิตรรายเรียงล้อม..........เบิกหล้าฟ้าสวย

....วอนเทพอวยเพื่อนให้.......สวัสดี

สันติสงบสบสุขศรี................ทุกผู้

สัมพันธ์ผูกไมตรี...................คงมั่น

มิตรภาพประกาศโลกรู้...........แน่แท้ทางสวรรค์

..................................... (30. แบ่งปัน)......................................

 

31. วรรษมน

ส่งทางอีเมล์

 

มิตรภาพ (31. วรรษมน)

มิตรแท้แม้ยิ่งค้น                          ขวนขวาย                                                                     

ยากยิ่งมิ่งมิตรหมาย                                  ร่วมสู้                                                               

แม้มีมิตรร่วมตาย                                    เพียงหนึ่ง                                                                

ก็ย่อมได้เรียนรู้                                              เพื่อนแท้ยากจริง

มิ่งมิตรมีท่วมท้น                                    โลกเรา                                                            

หากจิตมิคิดเอา                                       แต่ได้                                                               

แบ่งปันและแบ่งเบา                                สุขทุกข์                                                                 

เลี้ยงหล่อโลกเราให้                             สุขล้วนมวลชน

คำคนเคยว่าไว้                            แววคิด                                                                     

หนึ่งศัตรูหมายปลิด                                  ชีพปล้น                                                                    

มิร้ายเท่าหนึ่งมิตร                                       ปองหัก            หลังนา                                                   

เตือนมนุษย์หลีกพ้น                                อย่าใกล้จรลี

วันนี้มนุษย์ล้วน                          ใจโหด                                                          

มิตรภาพดับโกรธ                                    ช่วยได้                                                                

ดั่งแสงสว่างโชติ                                   ชูชาติ                                                                 

เทียนมิตรภาพไซร้                                   มิสิ้นสูญแสง

มือแห่งมิตรเกี่ยวก้อย                   การุญ                                                               

อนรรฆค่าสุดสุนทร์                                 เสกสร้าง                                                         

ยากจน บ่ จนบุญ                                       บ่มสุข                                                    

เมื่อมิตรภาพสล้าง                                   โลกล้วนสุขสันต์

คือวันบ่มโลกด้วย                        ไมตรี                                                                     

รินรักเลี้ยงอารี                                         แอร่มหล้า                                                            

ลดเลิกแบ่งศาสน์สี                                  พงศ์เผ่า                                                                  

สันติสุขก้องฟ้า                                              โลกยิ้มยลสวรรค์

..................................... (31. วรรษมน)......................................

 

32. พล

ส่งทางอีเมล์

มิตรภาพแห่งชีวิต (32. พล)

                                    จากครรภ์หลอมเลือดเนื้อ              มโนวิญญาณ

                        สายรกพันธนาการ                                   ก่อเกื้อ

                        ปฐมมิตรแห่งมาร-                                  ดาเชื่อม

                        จวบชีพคลอดอะเคื้อ                                ช่วยคุ้มภัยผอง

                                    สองพระพรหมแห่งบ้าน               บรรเทา ทุกข์เอย

                        คือมิ่งมิตรแห่งเรา                                    หล่อเลี้ยง

                        ครอบครัวเนิ่นนานเนา                             แนบสนิท

                        รั้วรักโอบล้อมเพี้ยง                                  มิตรแท้ทะนุถนอม

                                    จวบพร้อมเจริญพรรษพ้น             ผ่านวัย

                        มวลมิตรวิชชาลัย                                    รอบล้อม

                        พึ่งพิงเพราะน้ำใจ                                    เจือจิต

                        ยามยากยากมีพร้อม                                 ไม่เร้นหลบหนี

                                    ผ่านปีจนเก่งกล้า                         บัณฑิตชน

                        ผู้สืบสร้างศานติผล                                  ผลิให้

                        ด้วยธรรมหล่อจิตตน                                เติมมิตร- ภาพแฮ

                        เป็นเกราะสังคมได้                                  สุขแท้สถาพร

                                    นาครสยามยิ่งฟ้า                         เฟื่องฟู

                        ชาติประชาเชิดชู                                      รักพร้อม

                        สมานฉันท์เพื่อองค์ภู-                              เบศวร์ราช

                        คือมิ่งมิตรอกอ้อม                                    โอบคุ้มพารา

                                    โลกาอันใหญ่กว้าง                       กว่าคะเน

                        ประเทศสุดโพ้นทะเล                               ขอบหล้า

                        คือเพื่อนแต่พื้นเพ                                    ผองเผ่า มนุษย์เฮย

                        สัญชาติใช่ชั่วช้า                                      แค่ชี้ชาติพันธุ์

                                    ไมตรีอันหลากร้อย                       เรื่องราว

                        ทุกชีพแสงสกาว                                     ส่องชี้

                        คุณใดมิยืดยาว                                        ยืนเด่น

                        ฤๅเท่ามิตรภาพถี้                                     ชั่วฟ้าดินสลาย

..................................... (32. พล)......................................

 

33. พรายม่าน

ส่งทางอีเมล์

 

เปลือกที่เปราะบาง (33. พรายม่าน)

คนยกตนเอ่ยอ้าง              อารยัน

อยากเยี่ยมเทียมเทวัญ                   วักฟ้า

เจนสรรพวิทยาสรร                     ศีลศาสตร์

เสริมเปลือกเคลือบพันธุ์กล้า          เปลี่ยนช้าเชวงเชียร

เดิมดิบเลียนสัตว์ถ้ำ         แถกดง

มันเป่าขุดหาปลง                                    แต่ท้อง

จำเนียรเริ่มเรียงรงค์                     รวมเผ่า

อวยล่ำอำนาจพ้อง                       พล่าเนื้อป่นพนา

วิชชาเรียนจวบรู้              ดาวดิน

เทียวท่องทางนภสินธุ์                  สมุทรค้น

กำซาบบาปแลกวิน                     เวรก่อ

ดีชั่วแจงเหลวข้น                         ว่าน้อมศาสน์นำ

ทานทำดีกว่าจ้อง                        เบียดบัง

รักย่อมดีผิดชัง                             โฉดเชื้อ

อภัยผ่านภินท์พัง                         พยาบาท

มิตรค่าคุณหนุนเกื้อ                     กว่าสร้างศัตรู    

            ความจริงดูต่างพ้น           พีร์ธรรม

มนุษย์ฉวยฉกงำ                          กว่าให้              

นับมิตรนับพวกนำ                      เนาว์สู่              

อันอื่นล้วนรีตไร้                          หลั่นเชื้อเดียดฉันท์

มิตรภาพอันแต่พริ้ง          ภาพลวง

ประโยชน์เคลือบเปลือกกลวง        กรอบร้าว

พร้อมแตกปริเผยปวง                   ใจป่า

ห้ำหั่นอำมหิตกร้าว                      กู่ก้องของกู ฯ

..................................... (33. พรายม่าน)......................................

 

34. นนท์

ส่งทางอีเมล์

 

มิตรภาพพร้อมไมตรี (34. นนท์)

 

            ยุคสู่ยุคก่อนกี้                  นานมา

มนุษย์ใช้ภาษา                            สื่อสร้าง

ทั้งสืบแสวงหา                           มิตรภาพ

ผูกมิตรไมตรีอ้าง                         เอ่ยเอื้อสมานฉันท์

            สัมพันธภาพผูกด้วย         ความดี

ความรักสามัคคี                          สอดคล้อง

“สังคหวัตถุ”มี                            จิตมอบ

“ทานปิยวาจ”ต้อง                       ต่อพร้อมเสมอตน

            ดลกัลยาณมิตรแท้           ถูกทาง

มิตรภาพอาบจิตวาง                    เวี่ยไว้

บ่มีลับลวงพลาง                          พกเล่ห์-  เหลี่ยมเอย

ซื่อสัตย์ต่อมิตรไซร้                      โลกซ้องสรรเสริญ

            เจริญมิตรภาพทั้ง                        สัมพันธ์

เพื่อโลกก่อเกิดสัน-                      ติภาพพร้อม

กับเกิดสุขอนันต์                          อเนกเนื่อง

ผูกมิตรไมตรีล้อม-                       รักด้วยคุณธรรม

            ผูกสัมพันธภาพซึ้ง          ตรึงใจ

ผูกมิตรภาพอาบไอ-                     อุ่นแล้ว

ผูกรักรักหลอมใน                        นรชาติ

ผูกจิตแจ่มจิตแพร้ว-                    เพริศพริ้งทุกยาม

            งามมิตรภาพล้ำ              ครรลอง

สันติภาพย่อมครอง                      ครอบหล้า

สันติสุขเรืองรอง                         ภิรมย์รื่น

สันติภพเจิดจ้า                            แจ่มพื้นไผทสวรรค์

..................................... (34. นนท์)......................................

 

35. อนุช

ส่งทางอีเมล์

ผูกมิตรภาพ (35. อนุช)

            โง่ฉลาดปราชญ์ชี้ ชาวชน

อยู่ร่วมในสากล                           โลกกว้าง

จากบรรพบุรุษตน                        สืบต่อ

ทุกเพศวัยรอบข้าง                       ขอบฟ้าเดียวกัน

            สัมพันธภาพเอื้อ             อาทร

รักห่วงหาอาวรณ์                        เวี่ยไว้

สังสรรค์สโมสร                          สารสื่อ

เป็นหมู่อยู่ไกลใกล้                       เกี่ยวข้องคบหา

            สัญญามิตรภาพสร้าง       สัมพันธ์

ต่างชาติต่างศาสน์สรรค์                สวัสดิ์พร้อม

ผูกมิตรสมานฉันท์                      ชอบชื่น

ผูกรักเอารักล้อม                          โลกให้ไป่ลืม

            ด่ำดื่มมิตรภาพล้ำ            เรืองรอง

ผูกมิตรผูกจิตครอง                       ครอบหล้า

ครอบรักภักดีปอง                        รักมั่น

กรุ่นกลิ่นรักฟ่องฟ้า                      ฝากพื้นปฐพี

            ความดีดั่งเกราะกั้น          อาวุธ

มิตรภาพประดุจ                          เกราะแก้ว

กำบังพิษภัยทุจ-                          ริตเล่ห์

ผูกมิตรภาพแล้ว                          โลกแคล้วภัยพาล

            สานสันติภาพโพ้น           ไพรัช

สันติธรรมจำรัส                          เลิศล้ำ

สันติสุขทุกรัฐ                             ร่วมร่ม  เย็นนา

ผูกมิตรภาพค้ำ                            โลกเรื้องเจริญศรี

..................................... (35. อนุช)......................................

 

36. บุญรอด 

ส่งทางอีเมล์

 

จรรโลงมิตรภาพไว้..ทุกวัน (36. บุญรอด)

 

            ผูกมิตรผูกจิตเกื้อ             กูลกัน

ผูกรักผูกสัมพัน-                          ธภาพพร้อม

แย้มยิ้มส่งยิ้มอัน                          อบอุ่น

พริ้มพักตร์รักโอบอ้อม                  อาบด้วยคุณธรรม

            น้ำคำยามโอษฐ์เอื้อน        เอ่ยวาจา

สืบสื่อกิริยา                                เยี่ยมย้ำ

สำเนียงส่อภาษา                         สืบชาติ

ปิยวาจหวานล้ำ                          เลิศแท้ชาวไทย

            ในมิตรภาพนั้น               แน่นอน

มีรักมีอาทร                                ถ่องแท้

ห่วงใยใฝ่อาวรณ์                         มิว่าง-   เว้นนา

อันมิตรภาพแล้                           เกิดด้วยไมตรี

            มีน้ำใจใฝ่เอื้อ                  เจือจาน

“สังคหวัตถุ”ฐาน                                    สถิตถ้วน

ธรรมผูกจิตประสาน                    สุขสวัสดิ์

“อัตถจริยา”ล้วน                         หลากล้ำเจริญผล

            การวางตนถูกต้อง           แต่งเติม

ผูกมิตรภาพเสริม                                    สุขสร้าง

สัมพันธภาพเจิม                         จิตแจ่ม

มิตรภาพแผ่กว้าง                                    กว่าแล้วสงบสันต์

            จรรโลงมิตรภาพไว้          ทุกทิวา

โลกจักสุขหรรษา             สุทธิแผ้ว

เกิดสุขชาติศาสนา                       เนาเนื่อง

มิตรภาพย่อมพราวแพร้ว              เพริศพร้อมนิรันดร์กาล

..................................... (36. บุญรอด)......................................

 

37. คุณแอ๋ม

ส่งทางไปรษณีย์

 

มิตรภาพ คือ ภาพงามจากอดีต ตราบปัจจุบัน สู่อนาคต (37. คุณแอ๋ม)

มิตรภาพเกิดด้วย             สองคำ

“มิตร”หนึ่ง พึงจดจำ                    ชั่วฟ้า

“ภาพ”สอง สิ่งควรนำ                  บอกกล่าว

สุขยิ่งหรือแสนล้า                        เพื่อนนั้นเคียงกาย

มนุษย์มิอยู่ได้                  ลำพัง

เกิดแก่ทุกข์ประดัง                       ดับได้

เจ็บตายย่อมฝากฝัง                      คนอื่น

ยามเหนื่อยมือฉุดไว้                     ลื่นล้มประคอง

บรรพชนเร่งสร้าง            สังคม

ออกล่าเผ่านิยม                           ทุ่งหญ้า

หาของป่าสะสม                         ชีพอยู่

หน้าที่ผูกมึงข้า                            เกี่ยวข้องสัมพันธ์

แปงเมืองปลูกก่อบ้าน      จำเริญ

นาไร่ผลเก็บเกิน                          แบ่งให้

ถ้อยทีร่วมดำเนิน                         อดีต

พันธุ์เผ่าคงอยู่ได้                          เพื่อนนั้นรอบตัว

ยามรบเพื่อนคู่ข้าง           ดูแล

ศึกประชิดฤาถอยแจ                     ร่วมกล้า

หยูกเรือนไม่เชือนแช                    พังผูก

อุปสรรคมิอ่อนล้า                        ร่วมต้านหลายคน

เพลาผ่านล่วงแล้ว           ปัจจุบัน

รู้จักมานานวัน                            เรื่องแคล้ว

ผองเพื่อนผิดใจกัน                       ตรองก่อน

คิดอ่านอภัยแล้ว                          ก่อนนี้เราลืม

มิตรภาพก่อได้                ดินแดน

ต่างเผ่าต่างเมืองแมน                   ต่างหล้า

ภาษาต่างแบบแผน                      ฤาต่าง

ใจเปิดอ้อมกอดอ้า                       ต่อนี้เกลอกัน

ดาวเคราะห์โลกแห่งนี้      งามตา

เกิดก่อพันธุ์นานา                        ใช่น้อย

วัฏจักรที่นำพา                            มาร่วม

บังเกิดสิ่งชดช้อย                         หนึ่งนั้นสหาย

..................................... (37. คุณแอ๋ม)......................................

 

38. อานายเซีย

ส่งทางเว็บบอร์ด

 

มิตรภาพ (38. อานายเซีย)

 

ชาวโต๊ะกลมแหล่งหล้า    เราเหวย

ร่วมนั่งฟังเสพเสวย                                 แซ่ซ้อง

เสสรวลล่วงลุเลย                        ย่ำรุ่ง

น้องพี่ปริ่มปรีดิ์ร้อง                      เพื่อนพ้อง ปรีดา

ดรุณเฒ่าเนากี่หน้า           ทยอยหาย

เด็กหนุ่มสาวเหล่าหลาย               ยื่นหน้า

ก้าวมานั่งเรียงราย                       แทนที่

โต๊ะกลมถิ่นแหล่งหล้า                  ไป่ร้าง คนจร

โศกเสียงเพียงร่ำร้อง         น้องพี่

เพ้อร่ำพร่ำวจี                              แซ่ซ้อน

มอบให้เซ่นไมตรี                         ผู้ล่วง  ลับลา

น้ำร่วงทรวงสะท้อน                    ว่อนไว้ อาลัย

          ชีพเช่นใดเล่าบ้าง               ผองเพื่อน

ทุกข์ไม่ทุกข์ใดเยือน                     เอ่ยให้

โลกนี้ที่พักเรือน                           เหมือนว่า

เราหมู่สู้ร่วมไท้                           ร่วมท้อง เดียวกัน

ใยเก็บกดร่ำไห้                 ผู้เดียว

ลุยก่อกรรมขับเคี่ยว                                 ผ่าสั้น

สายใยไม่แน่นเหนียว                    ผองเพื่อน

มาแบ่งทุกข์สุขนั้น                                   เรื่องร้าย ใดดล

         เพียงแต่ปากเอ่ยอ้า              บอกเล่า

ไฟที่สุมรุมเร้า                             อยู่ล้น

น้ำคำพร่ำโลมเล้า                        ราฟืน

เพื่อนช่วยเพื่อนหลุดพ้น   ร่ำไห้ ไฟรา

ผองเรามาร่วมสู้              โลกสถาน

จากถิ่นละทิ้งบ้าน                        ทั่วหน้า

พบปะนั่งสำราญ                         มิตรภาพ

บัดรุ่งเช้ากล่าวอ้า                        เพื่อนพ้อง ทยอยลา.

..................................... (38. อานายเซีย)......................................

 

39. นันทนา

ส่งทางเว็บบอร์ด

 

มิตรภาพอยู่ไหน (39. นันทนา)

 

ตูมตูมระเบิดก้อง            ปฐพี

เห็นเลือดนองธานี                       โอดไห้

อุระเฉกอัคคี                               ลามลุก  ร้อนนา

ดวงเนตรคงเหลือไว้                     ทุกข์เศร้าตรอมตรม

            เสียงปืนรบตอบโต้           ปังปัง

สูงถี่ส่งเสียงดัง                            ลั่นฟ้า

อึกทึกคึกคลั่ง                              หนีหลบ

หวาดหวั่นกันทั่วหน้า                  หลีกเร้นอันตราย

            ใครรบใครไม่พ้น              ไทยรบ  ไทยเอย

ใครใคร่อยู่พานพบ                       เรื่่องร้าย

กลาดเกลื่อนนั่นแหละศพ              มานุษย์

นอนแนบนิ่งดูคล้าย                     ท่อนไม้ท่อนซุง

            ผู้คนเหมือนจักรู้              จักกัน

หากแต่ความสัมพันธ์                   ขาดไร้

ปรองดองถูกแบ่งกั้น                    บังบด

โลกหม่นเกินทนได้                      ปริ่มน้ำตาคลอ

 

            หรือเมืองนี้หมดสิ้น        เมตตา

เป็นถิ่นเถื่อนถิ่นป่า                      ฆ่าล้าง

ทั้งเข็ญขู่รบรา                             บ่สุด สิ้นเฮย

เพียงอยากขอยิ้มบ้าง                    หนึ่งน้อยไมตรี

          หรือเมืองนี้หมดสิ้น           น้ำใจ

เป็นถิ่นเถื่อนถิ่นไพร                     แผ่กว้าง

มิตรภาพอยู่หนไหน                     หวนคิด  ถึงนา

ระร่่อนเร่แรมร้าง                         เรียกร้องกลับคืน

          จงกลับมาเถิดเจ้า              มิตรภาพ

ระงับความต่ำหยาบ                     ดับสิ้น

กลับมาเถิดมาปราบ                     กิเลส

เกลาขัดชั่วแดดิ้น                         มอดม้วยจากใจ

..................................... (39. นันทนา)......................................

 

40. อานนท์

ส่งทางเว็บบอร์ด

 

มิตรภาพ (40. อานนท์)

             กองเพลิงลามลุกไหม้                  เผาร่าง

หน้าที่เมรุเกิดบ้าง                                    ร่างไหม้

มองเถ้ากระดูกต่าง-                                 หน้าคิด  ครวญคร่ำ

ร้องล่ำอำลาไห้                                        ปลิดผู้นามคน

             สังคมใช่อยู่ได้                            ลำพัง

แลฝั่งทางหน้าหลัง                                  หยั่งรู้

รายรอบด้านนั่นคือพลัง                            เผชิญชีพ

มือร่วมหลายมือสู้                                               สะท้อนภาพวิญญาณ

              แต่เดิมชนร่วมสร้าง                  ชาติก้าว  หน้าแล

แต่บัดนี้ยังร้าว-                                                   รวดแท้

แต่คนข่มแดนด้าว                                               สิ้นดับ

แต่ต่างก็คิดแก้                                        แค่ให้  ตนดี

                ต่างคนต่างยกให้                      ตนเก่ง

ต่างย่ำต่างข่มเหง                                     เหยียบให้

ต่างหาจะยำเกรง                                     กระทืบ  ซ้ำดิน

ต่างเชิดต่างชูไว้                                       อวดอ้าง  ฤทธิ์ตน

                  มิตรภาพก่อนนี้                                 สิ้นสูญ

เคยร่วมสร้างจำรูญ                                 ชาติบ้าง

ยามนี้หากอาดูร                                       ใครใคร่  เหลียวแล

เพียงคิดตนยังสล้าง                                  อื่นเศร้าใช่ตน

                  หากรวมมิตรภาพได้                          ดั่งเก่า

ชาติสะท้อนเรื่องเล่า                                หลากนั้น

เคยรวมรวบชนเอา                                              เป็นจิต  ใจเดียว

ยึดมั่นกลมเกลียวฝั้น                               ชาตินั้นมิสูญ

                   เถ้ากระดูกมีค่าให้                สะท้านชน

ถึงปลิดชีพนามคน                                               หนึ่งน้อย

บรรพบุรุษผจญ                                                   สร้างภาพ  ให้เห็น

ร้องร่ำสลดเศร้าสร้อย                              สะท้อนภาพภูมิใจ                     

..................................... (40. อานนท์)......................................

 

41. ไชยณรงค์

ส่งทางเว็บบอร์ด

มิตรภาพ (41. ไชยณรงค์) ส่งครั้งแรก มีแก้ไข

 

๑.     สัมพันธ์อันแน่นแฟ้น                       ยาวนาน  เนิ่นเอย

                    ประดุจหนึ่งสะพาน                                     ทอดไว้

                    ยิ่งยาวยิ่งหอมหวาน                                     มิตรภาพ

                    ยื่นแต่สิ่งดีให้                                              เพื่อนแท้ผูกพัน

๒.     แบ่งปันยิ้มปริ่มแก้ม              ทุกยาม

                    สุขทุกข์เฝ้าไต่ถาม                                       เมื่อท้อ

                    ผ่อนเบาหนักช่วยหาม                                  เข็นลาก  พ้นนา

                    หากเพื่อนผิดมิตรก้อ                                    ช่วยแก้แนะนำ

๓.     สายฝนพรำรั่วฟ้า               นองเนือง                           

                    ท้นเอ่อท่วมทั่วเมือง                                    ปริ่มบ้าน

                    กลบผืนทุ่งทองเหลือง                                  อร่าม  ปีกลาย

                    หมดทิศคิดต่อต้าน                                       ต่างแพ้อุทกภัย

๔.     น้ำตาไหลหยาดล้น                          พสุธา

                    เอ่อเพิ่มธารมรรคา                                       โหดร้าย

                    เชี่ยวกรากพัดไหลพา                                    ทุกสิ่ง  หายสูญ

                    พัดสุขเคลื่อนผ่านย้าย                                   ทุกข์ซ้อนซ่อนแทน

๕.     ทั่วแดนไทยต่างพร้อม          ใจกัน

                    น้ำหลากเชื่อมสัมพันธ์                                 เพื่อให้

                    ไทยพบสิ่งสำคัญ                                         มิตรภาพ

                    สามัคคีเร่งสืบไว้                                         ชาติล้ำสิวิไล

๖.     ธารศรัทธาไหลสู่ผู้              ประสบ  ภัยนา

                    ช่วยผ่อนเหตุกระทบ                                    เดือดร้อน

                    ที่พลัดถิ่นฐานหลบ                                      หนีโชค  ชะตา

                    เจ็บป่วยระบาดซ้อน                                    ผ่อนด้วยน้ำใจ

๗.     ธารอันใดเหือดแห้ง                         หนีหาย

ขอแต่ธารมิตรสหาย                                     อย่าแห้ง

ไหลอยู่อย่าขาดสาย                                       ดุจดั่ง ธารทิพย์

ใจสู่ใจไทยอย่าแล้ง                                        เทิดไท้ไอศวรรย์

๘.     สากัลย์สาหัสพ้น                            วิกฤต

                    ข้ามผ่านอยู่เนืองนิตย์                                   ต่างรู้

                    หากเพื่อนจึ่งสัมฤทธิ์                                    ผลสู่  ลุล่วง

                    มิตรภาพย่อมแก่ผู้                                        มิตรแท้ตอบแทน                  

..................................... (41. ไชยณรงค์)......................................

 

42. ไชยณรงค์

ส่งทางเว็บบอร์ด

 

มิตรภาพ (42. ไชยณรงค์) แก้ไขครั้งที่ 1

๑.     สัมพันธ์อันแน่นแฟ้น           ยาวนาน  เนิ่นเอย

                    ประดุจหนึ่งสะพาน                         ทอดไว้

                    ยิ่งยาวยิ่งหอมหวาน                         มิตรภาพ

                    ยื่นแต่สิ่งดีให้                                  เพื่อนแท้ผูกพัน

๒.     แบ่งปันยิ้มปริ่มแก้ม            ทุกยาม

                    สุขทุกข์เฝ้าไต่ถาม                           เมื่อท้อ

                    ผ่อนเบาหนักช่วยหาม                      เข็นลาก  พ้นนา

                    หากเพื่อนผิดมิตรก้อ                        ช่วยแก้แนะนำ

๓.     สายฝนพรำรั่วฟ้า                นองเนือง                           

                    ท้นเอ่อท่วมทั่วเมือง                        ปริ่มบ้าน

                    กลบผืนทุ่งทองเหลือง                      อร่าม  ปีกลาย

                    หมดทิศคิดต่อต้าน                           ต่างแพ้อุทกภัย

๔.     น้ำตาไหลหยาดล้น              พสุธา

                    เอ่อเพิ่มธารมรรคา                           โหดร้าย

                    เชี่ยวกรากพัดไหลพา                        ทุกสิ่ง  หายสูญ

                    พัดสุขเคลื่อนผ่านย้าย                       ทุกข์ซ้อนซ่อนแทน

๕.     ทั่วแดนไทยต่างพร้อม          ใจกัน

                    น้ำหลากเชื่อมสัมพันธ์                    เพื่อให้

                    ไทยพบสิ่งสำคัญ                             มิตรภาพ

                    สามัคคีเร่งสืบไว้                             ชาติล้ำศิวิไลซ์

๖.     ธารศรัทธาไหลสู่ผู้               ประสบ  ภัยนา

                    ช่วยผ่อนเหตุกระทบ                        เดือดร้อน

                    ที่พลัดถิ่นฐานหลบ                          หนีโชค  ชะตา

                    เจ็บป่วยระบาดซ้อน                       ผ่อนด้วยน้ำใจ

๗.     ธารอันใดเหือดแห้ง             หนีหาย

ขอแต่ธารมิตรสหาย                            อย่าแห้ง

ไหลอยู่อย่าขาดสาย                             ดุจดั่ง ธารทิพย์

ใจสู่ใจไทยอย่าแล้ง                              เทิดไท้ไอศวรรย์

๘.     สากัลย์สาหัสพ้น                วิกฤต

                    ข้ามผ่านอยู่เนืองนิตย์                                   ต่างรู้

                    หากเพื่อนจึ่งสัมฤทธิ์                                    ผลสู่  ลุล่วง

                    มิตรภาพย่อมแก่ผู้                           มิตรแท้ตอบแทน                  

..................................... (42. ไชยณรงค์) แก้ไขครั้งที่ 1 ......................................

 

43. อานนท์

ส่งทางเว็บบอร์ด

 

ถนนแห่งมิตรภาพ (43. อานนท์)

 

                เส้นทางที่มุ่งก้าว                     บนถนน

มานะชีพผจญ                                         หลากสู้

มิตรภาพท่วมท้น                                    ร่วมก่อ แรงใจ

ประสบการณ์กอบกู้                                 รอบข้างทางถนน

               บนสายรอยยิ้มแห่ง                   ความฝัน

ยิ้มรักร่วมแบ่งปัน                                    สุขสร้าง

ยิ้มแล้วยิ้มตอบอัน                                   ชื่นจิต ใจเฮย

ยิ้มช่วยโลกอ้างว้าง                                  เปิดกว้างกว่ากว้าง

               สายเสียงหัวร่อชื้น                    ดวงกมล

กล่อมโลกอันหมองหม่น                           สลดเศร้า

ขำขันขับขานบน                                     ความสด ใสนา

หัวร่อมาคละเคล้า                                               จึ่งสิ้นดินโศก

                ทางสายกู่ร้องลั่น                     วาจา

เสริมส่งบทสนทนา                                 ตอบให้

คารมบ่มเจรจา                                       ไพเราะ

ความมั่นวางใจไว้                                   จากนี้ชั่วกาล

                 เส้นทางที่ย้อยหยาด                น้ำตา

บ้างสุขทุกข์บางครา                                 เกิดได้

จิตใจกลั่นออกมา                                    รู้สึก นั้นแล

รินหลั่งเพื่อรู้ไว้                                        หมู่นี้มวลชน

 

                  ถึงสายเหนื่อยเมื่อยล้า             สิ้นแรง

คติค่าเริ่มเปลี่ยนแปลง                              ออกบ้าง

เดินทางสักกี่แห่ง                                     ต้องพัก อำลา

ชีวิตใช่รับจ้าง                                         อย่าได้ทรมาน

                   การเดินทางก็สุดสิ้น              สายทาง

สุดฤทธิ์ชีวิตวาง                                      ทุกด้าน

ยังสิ่งไม่จืดจาง                                        มิตรภาพ

คือประสบการณ์สะท้าน                          สะท้อนชีพมนุษย์

                  เส้นทางที่มุ่งก้าว                   บนถนน

ทุกที่ทางเดินผจญ                                    ต่างแล้ว

แต่รวมจุดพานผล                                    พบแน่

มิตรภาพมิคลาดแคล้ว                              ตระหง่านตั้งปลายถนน

..................................... (43. อานนท์) ......................................

 

44. ไชยณรงค์ 

ส่งทางเว็บบอร์ด

 

ใจเรากำหนดมิตรภาพที่งดงาม (44. ไชยณรงค์)

๑. มีมวลมิตรแห่ล้อม                   รอบกาย

เพียรอย่าเชื่อใจหมาย                     มิตรแท้

เพื่อนกินอยู่เรียงราย                                 ยามร่ำ  รวยนา

ลำบากยากทางแก้                                   ผ่องรู้แท้เทียม

๒. จึ่งใจเตรียมรับไว้                    ในมิตร

มากหมู่มากความคิด                       แยกไว้

บางคนคบเพื่อริษ-                                   ยาแย่ง  ยื้อเอา

ดีเด่นเกินแช่งให้                                      เหตุร้ายเล่นงาน

๓. บางคนพาลคิดฉ้อ                   ต่อทรัพย์

โอกาสเหมาะมึงดับ                     ชีพด้วน

บางมิตรคิดเหยียบยับ                   จมดิ่ง

เฝ้าแต่รื้อเรื่องล้วน                       กล่าวร้ายให้เสีย

๔.     บ้างคลอเคลียเผื่อได้             ใกล้ชิด

หวังพึ่งใจกลับคิด                          หักล้าง

อุปมาดั่งความผิด                                    มีต่อ  ผู้ทำ

หมูขุดนาหมาอ้าง                                    สืบเท้าย่ำแทน

๕.     จากดินแดนต่างด้าว            ทิศใด  นาเอย

แหล่งมิตรที่ไว้ใจ                                     ทั่วหน้า

ไกลใกล้มุ่งป่ายไป                        เสาะสืบ

หมายปลูกมิตรทั่วหล้า                 เพื่อสร้างสิ่งฝัน

๖.     ยากมีวันพบได้                    ทั่วทิศ

หากขาดใจสุจริต                                     คบค้า

เพื่อนไม่ต่างงูพิษ                         แว้งกัด เอานา

            ต่างคิดแตกแหวกหญ้า                  ตื่นท้าราวี

๗.     สบดีอาจพบได้                   ข้างใน  ใจเอง

หาใช่ไขว่ค้นไป                           ทั่วหล้า

มิตรแท้เกิดจากใจ                       บริสุทธิ์  ต่อกัน

            มิตรภาพแย้มหน่อกล้า                 ใหญ่ข้ามตัวตน

๘.     ทั่วทุกหนแห่งห้อม                         ล้อมกาย

กำเนิดก่อมิตรสหาย                     เมื่อให้

            หลักพุทธบัญญัติหมาย                 สร้างมิตร  หมู่นา                            

วัตถุสี่ประการไซร้                                   เหตุได้ใจคน

๙.     มิตรภาพมีมากล้น              เรือนชาน

เปรียบดั่งดอกไม้บาน                               เบิกฟ้า

ไปทั่วทิศสถาน                           ชมชื่น  หอมหวน

สงบสุขไปทั่วหล้า                       ร่มฟ้ามิตรภาพ

..................................... (44. ไชยณรงค์) ......................................

 

45. พยุงศักดิ์

ส่งทางเว็บบอร์ด

 

ภาพมิตร (45. พยุงศักดิ์)

 

๑. ระลึกเรียงไล่ย้อน                    มัธยม

ลึกสู่สมัยประถม                                     ค่อยเค้น

ปัดฝุ่นอดีตอันจม                                     ก้นจิต

ฟุ้งช่วงเยาว์เก่าเร้น                                  ปลุกฟื้นเฟือนสหาย

๒. หลายต่อหลายภาพพร้อม        เพื่อนสนิท

เราเล่นกันสุดฤทธิ์                                   สุดร้อง

ครองโลกแห่งชีวิต                                   วัยเด็ก

มีแต่เพื่อนพวกพ้อง                                  เพียบพื้นลานสนาม

๓. ยามทุกข์ปลอบเปลื้องทุกข์       ปรึกษา

ยามทรุดรุดรีบมา                                     อยู่ใกล้

ยามเกิดเหตุปัญหา                                   ห่อนหลบ

คือเรื่องราวมิตรไว้                                   เยี่ยมยิ้มยามถวิล

๔. จินต์ครวญชวนชื่นน้ำ              ตาคลอ

กฎแห่งเลข พ.ศ.                                     พรากย้าย

ห่างกันนักแล้วหนอ                     เพื่อนเก่า

ยังอยู่ดีหรือร้าย                                        อยากรู้เหลือแสน

๕. เผลอแหงนมองเหม่อฟ้า          ปัจจุบัน

ชีวิตวัยเด็กผัน                                         ผ่านแล้ว

ไมตรีอิ่มอนันต์                            ในอก

ปีกี่ปีเคลื่อนแคล้ว                                    ซาบซึ้งทรวงเสมอ

๖. เกลอเป็นเกลอชั่วเนื้อ                           หนังสลาย

ห่างใช่สัมพันธ์หาย                                  ห่างด้วย

ไกลหรือก็แต่กาย                                     ใจคิด ถึงนอ

ภาพมิตรมิตรภาพม้วย                             เมื่อนั้นจึงสูญ

..................................... (45. พยุงศักดิ์) ......................................

 

46. ทรงธรรม

ส่งทางเว็บบอร์ด

 

มิตรภาพร้างรา (46. ทรงธรรม)

 

๐ หอมการุณย์อุ่นเอื้อ .............. ไมตรี

หยิบยื่นปรารถนาดี .................. แผ่กว้าง

รอบเรือนจึ่งสุขี ...................... นานเนิ่น

นัยน์เปี่ยมหมายเหมือนสร้าง ...... เหล่าล้วนเปรมปรีิดิ์ ฯ

 

๐ ฉันมีกับข้าวอยาก ................ ให้เธอ

ชิมหน่อยอร่อยไหมเออ ............ ติได้

หวานมันเผ็ดเคยเผลอ .............. มือหนัก

ทายทักสวัสดีไหว้ .................. พี่ป้าอาก๋ง ฯ

 

๐ บุษบงงามดอกนี้ .................. หอมหวน

ลุงปลูกดุจเชิญชวน .................. ลูบไล้

ขอตอนกิ่งมันยวน ................... หทัยเลิศ

เชิญเถิดหลากหลายให้ ............. เลือกได้ใคร่สนอง ฯ

 

๐ ขายของบ้างเล็กน้อย ............. ใหญ่มี

สงบเติบเป็นศรี........................ สง่าซ้อง

วางหวังประชาชี ...................... โชติช่วง

ขยับขยายกู่ก้อง ..................... ทั่วแคว้นแดนสยาม ฯ

 

๐ เยี่ยมเยียนยามป่วยไข้ ........... ไถ่ถาม

มอบสมุนไพรตาม ................... ติดเหย้า

แนะนำแพทย์ใกล้คาม .............. และเก่ง เชียวเนอ

เหมือนญาติสนิทเฝ้า ................ ห่วงด้วยสวยจินต์ ฯ

 

๐ ทมิฬเข้าครอบรั้ว .................. ทั่วสถาน

ยื้อแย่งแข่งสันดาน .................. ดาษด้าน

อุดมคติผันพาล ...................... เชิดใส่ กันนอ

ปูนฉาบกั้นข้างบ้าน .................. เกลียดนั้นหมั่นถือ ฯ

 

๐ คือการุณย์เลี่ยนแล้ .............. แลหา

มิตรภาพร้างรา ...................... กร่อนเหี้ยน

เห็นแตกแยกหมองพา ............. ขมขื่น ตรองรา

กิเลสหลงติดเสี้ยน .................. เปลี่ยนด้วยการเมือง ฯ

 

..................................... (46. ทรงธรรม) ......................................

 

47. อนัตตา ว.

ส่งทางเว็บบอร์ด

 

... มิตรภาพ ? ... (47. อนัตตา ว.)

 

[พ่อ]        อาทิตย์อัสดงแล้ว                  หนอแม่

                ท้องกิ่วหิวข้าวแท้                  ปวดไส้

                เตรียมสำรับใดบ้างแน           บอกพ่อ

                ลูกเต้าสิอยู่ไหน                     เรียกมากินกัน

 

[แม่]        สกุณากลับรังพร้อม-                เพรียงพา

                เย็นย่ำเมื่อไรหนา                   บ่รู้

                กดเกมส์เกินเพลา                   เพลินไปหน่อยเอย

                สะดวกซื้อยังอยู่                     คู่บ้านคู่เมือง

 

[ลูกชาย] ทะมึนม่านทมิฬทา                  ทับถม

                สมาธิมั่นจ่อมจม                    หนังโป๊

                กลาดเกลื่อนทั่วทั้งกลม-        แบนบานตะไท

                ตำราเรียนกองโต                   อยู่ข้างผงขาว

 

[ลูกสาว] รัตติกาลดารดาษ                     ดวงดาว

                ดั่งคู่สนทนาราว                     หมื่นล้าน

                แต่ไยเจ้าจึ่งเหงา                     เล่านี่?

                ค้นหาเพื่อนทุกวัน                 ในโลกเสมือน

 

[พ่อ]        โศกตรมแลขมขื่น                 โดดเดี่ยว

                ทำงานตัวเป็นเกลียว              เยี่ยงจักร

                ยอมสู้ทนอดเปรี้ยว                เพื่อครอบครัวนา

                ลืมสานสัมพันธ์รัก                 หล่อเลี้ยงดวงใจ

 

[หมาข้างถนน] ครางหงิงระริกระรี้           ส่ายหาง

                นั่นผู้ปลดระวาง                     ความโหย

                โซเซมาตามทาง                     สายเก่า

                รับรู้กลิ่นเหล้าโชย                  ต่อเนื่อง อาเจียน

                .........................................................................

                บังเกิดเรื่องราวแห่ง-              มิตรภาพ

                หนึ่งหมาอิ่มหมอบราบ         อยู่เฝ้า

                หนึ่งคนเพลียใจกับ              โลกาภิวัฒน์

                อุ่นไออาศัยเคล้า                    ผ่านพ้นอีกคืน ๚๛

 

..................................... (47. อนัตตา ว.) ......................................

 

48. อานนท์

ส่งทางเว็บบอร์ด

 

มิตรภาพ (48. อานนท์)

 

สร้างชาติด้วยน้ำเลือด      ทรมาน

ดุเดือดเชือดร้าวราน                     โหดเหี้ยม

คือมิตรภาพผสาน                                   ความทุกข์

ใครเล่าใคร่สอนเสี้ยม                  ซัดซ้ำกรรมเผชิญ

 

            กี่ปีกี่ร้อยผ่าน                  ทำลาย

ปลิดชีพม้วยวอดวาย                    ฆ่าล้าง

คนเป็นกับคนตาย                        ครวญคร่ำ

เพียงแค่เอาหน้าอ้าง                     อวดหล้าฟ้าดิน

            อนิจจามนุษย์นี้               มีกรรม

สะท้อนภาพสะท้านคำ                เหตุร้าย

มีแต่จิตระยำ                               ห้ำหั่น

ทุกข่าวเรื่องราวด้าย                     บดบี้ฤดีคน

น้ำตาที่หยดเศร้า              หยาดริน

ไหลหลั่งรดธานินทร์                    ถิ่นกว้าง

กลั่นจากกี่ชีวิน                            กี่ทุกข์

แลกเลือดแลกเนื้อบ้าง                  กับผู้ลับไป

            คือเรื่องราวร้ายที่             ยังเผชิญ

คือกี่ร้อยปีดำเนิน                         ผ่านแล้ว

คือมือร่วมมือเดิน                        เข่นฆ่า  กันแล

และต่างใจมิคลาดแคล้ว               ปิดกั้นน้ำใจ

              มิตรภาพยังปิดกั้น          เช่นใด

ความสุขก็เลือนไป                       เช่นนั้น

เหลือแค่คำว่า มิตรใน             จารึก

หากมิผูกใจฟั่น                           มิตรนั้นสาบสูญ

..................................... (48. อานนท์) ......................................

 

49. อานนท์

ส่งทางเว็บบอร์ด

 

มิตรภาพ (49. อานนท์) แก้ไขครั้งที่ 1

              สร้างชาติด้วยน้ำเลือด                ทรมาน

ดุเดือดเชือดร้าวราน                                 โหดเหี้ยม

คือมิตรภาพผสาน                                   ความทุกข์

ใครเล่าใคร่สอนเสี้ยม                               ซัดซ้ำกรรมเผชิญ

            กี่ปีกี่ร้อยผ่าน                              ทำลาย

ปลิดชีพม้วยวอดวาย                                ฆ่าล้าง

คนเป็นกับคนตาย                                    ครวญคร่ำ

เพียงแค่เอาหน้าอ้าง                                 อวดหล้าฟ้าดิน

            อนิจจามนุษย์นี้                           มีกรรม

สะท้อนภาพสะท้านคำ                            เหตุร้าย

มีแต่จิตระยำ                                           ห้ำหั่น

ทุกข่าวเรื่องราวด้าย                                 บดบี้ฤดีคน

           น้ำตาที่หยดเศร้า                           หยาดริน

ไหลหลั่งรดธานินทร์                                ถิ่นกว้าง

กลั่นจากกี่ชีวิน                                        กี่ทุกข์

แลกเลือดแลกเนื้อบ้าง                              กับผู้ลับไป

            คือเรื่องราวร้ายที่                         ยังเผชิญ

คือกี่ร้อยปีดำเนิน                                     ผ่านแล้ว

คือมือร่วมมือเดิน                                    เข่นฆ่า  กันแล

และต่างใจมิคลาดแคล้ว                           ปิดกั้นน้ำใจ

              มิตรภาพยังปิดกั้น                      เช่นใด

ความสุขก็เลือนไป                                   เช่นนั้น

เหลือแค่คำว่า มิตรใน                          จารึก

หากมิผูกใจฝั้น                                        มิตรนั้นสาบสูญ

 

..................................... (49. อานนท์) แก้ไขครั้งที่ 1 ......................................

 

50. ทรงธรรม

ส่งทางเว็บบอร์ด

 

"วอนปรองดอง" (50. ทรงธรรม)

 

๐ เห็นเพลิงลามลุกไหม้ ............. เผาผลาญ

เห็นเข่นฆ่าแหลกลาญ ................ บ่อยครั้ง

เห็นโกรธเกลียดอันธพาล ............ ฝักฝ่าย กันนา

เห็นยุยงอีกตั้ง- ........................ ท่าพร้อมทุบหัว ฯ

 

 

๐ รัวฝีปากถ่มถ้อย .................... ลั่นเสียง บารนี

รัวกลับด้วยสำเนียง ................... โต้แย้ง

รัวรั่วสติเอนเอียง ...................... ไป่ใคร่-ครวญนอ

รัวมิพอเสแสร้ง ........................ ใส่ร้ายป้ายสี ฯ

 

๐ ตีความตามจิตด้วย ................. กลุ่มตน นั้นเนอ

ตีทุกประเด็นจน ....................... บิดพลิ้ว

ตีหน้าเซ่อส่งผล ....................... เมืองวุ่น นักแล

ตีมิตรเคยเล่นงิ้ว ....................... บทนั้นการเมือง ฯ

 

๐ เปลืองเพ-ลาเก่านั้น ................ สุขเคย ลืมฤๅ

เปลืองเปล่ารอยยิ้มเผย ............... ร่วมสร้าง

เปลืองสนิทสนมเปรย ................. เหนื่อยหน่าย ชังนอ

เปลืองอุดมการณ์อ้าง ................. ข้านี้มีสมอง ฯ

 

๐ ตรองเถิดตรองจิตโน้ม .............. เข้าหา

ตรองเพราะขื่นขมพา .................. โศกเหย้า

ตรองมิตรภาพหนา ....................  เคยทุกข์ ร่วมนอ

ตรองเพื่อปรองดองเป้า ............... ชาตินั้นสโมสร ฯ

 

๐ วอนถอยคนละก้าว ................. กอปรจินต์ เพื่อนเฮย

วอนเพราะบางคนผิน .................. ผิดเพี้ยน

วอนคืนศรัทธาริน ...................... เพื่อชาติ ไทยรา

วอนจับมือปลิดเสี้ยน .................. ทิ่มเนื้อกลัดหนอง ฯ

 

..................................... (50. ทรงธรรม) ......................................

 

xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

51. วัชรีภรณ์  (แจ้งขอถอนผลงาน)

 

เอกลักษณ์ไทย

 

                                                สังคมไทยก่อนนั้น           เรามี

                                    วัฒนธรรมดี                               อ่อนน้อม

                                    น้องไหว้พี่พาที                            โอนอ่อน  กันนา

                                    ท่วงท่าดีเพียบพร้อม                    นั่นไซร้  ใครเหมือน

                                                ภาษาไทยว่าไว้                คำคม

                                    เป็นสิ่งคนนิยม                            กล่าวถ้อย

                                    สุภาพเอ่ยคนชม                          ไปทั่ว  กันเฮย

                                    เราแบ่งตามชนชั้น                       ใหญ่น้อย  คำขาน

                                                สถาบันล้นเกล้า              ชาวไทย

                                    เป็นแหล่งศูนย์รวมใจ                   ท่วมท้น

                                    พระมหากษัตริย์ไทย                     องค์ท่าน  นั้นแล

                                    พระเกียรติกำจายล้น                    ทั่วพื้น  แดนสยาม

                                                ศิลปกรรมเลิศล้ำ             วิจิตร

                                    ความงามดั่งนิรมิต                      เสกไว้

                                    สถาปัตย์นำความคิด                    เติมแต่ง  แต้มนา

                                    ทุกแห่งสรรเสริญไซร้                   ว่าไว้  ลือขาน

                                                ประเพณีนี่นี้                   ครรลอง

                                    มาหล่อหลอมไทยทั้งผอง              ทั่วหล้า

                                    ลอยกระทงเดือนสิบสอง               งามเด่น  เห็นนา

                                    สงกรานต์ชาวไทยเหล้น                สาดน้ำ  สนุกสนาน

                                                ไทยรวมใจหล่อไว้            พุทธศาสน์

                                    เป็นแหล่งรวมไทยทั้งชาติ             กราบไหว้

                                    ทำบุญร่วมตักบาตร                     เป็นหนึ่ง  กันนา

                                    สามัคคีชาวโลกไซร้                     แซ่ซ้อง  สรรเสริญ

+++++++++++++++++++++++++++




โคลงสี่สุภาพ 2556

ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป (โคลงสี่สุภาพ) : หัวข้อ “สากล”
ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป (โคลงสี่สุภาพ) : หัวข้อ “วัฒนธรรม”



bulletผลร้อยกรองออนไลน์ 2558
dot
ประกวดร้อยกรองออนไลน์ครั้งที่ 7
dot
bulletข้อมูลการประกวดครั้งที่ 7, 2557
bulletผังร้อยกรอง
bulletอ่านโคลงประกวด 2557
bulletอ่านกลอนประกวด 2557
bulletอ่านกาพย์ยานีประกวด 2557
bulletผลการประกวดร้อยกรอง ปี 2557
dot
ข่าวสาร ข้อมูลสมาคม
dot
bulletกรรมการสมาคมสมัยที่ ๑๕-๑๖
bulletนายกสมาคมสมัยที่ ๑๗
bulletติดต่อนายกสมาคมนักกลอน
bulletติดต่อฝ่ายดูแลส่วนต่างๆ
bulletสมัครสมาชิกสมาคมนักกลอน
bulletนักกลอนตัวอย่าง ๒๕๕๓
dot
หัวข้อน่าสนใจ
dot
bulletรวมลิ้งค์เว็บไซต์น่าสนใจ
bulletส่งบทสักวา น.ส.พ. สยามรัฐ
bulletวารสารวิทยาจารย์ รับต้นฉบับ
bulletส่งข้อเขียนครูในดวงใจ
dot
แนะนำหนังสือ
dot
bulletหน้ารวมหนังสือ
bulletคู่มือเรียนเขียนกลอน
bulletกาสรคำฉันท์ - สมคิด สิงสง
bulletหนังสือสุรินทร์สโมสร
bulletฝากโลกนี้ไว้ในหัวใจเธอ - กอนกูย
bulletเลือน - อติภพ
bulletธาร ธรรมโฆษณ์
bulletนายทิวา
bulletกลอนเกียรติยศ
bulletอ้อมกอดแห่งท้องทุ่ง
bulletทองแถม นาถจำนง
bulletพงศาวดารพิภพ
bulletโป๊ยเซียน คะนองฤทธิ์
dot
โครงการประกวดต่างๆ
dot
bulletนายอินทร์อะวอร์ด ๒๕๕๖
bulletประกวดรางวัลซีไรท์ปี ๒๕๕๖
bulletรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๕๖
bulletรางวัลวรรณกรรมรามคำแหง ๒๕๕๖
dot
ผลตัดสินรางวัลต่างๆ
dot
bulletรางวัลศรีบูรพา ๒๕๕๖
bulletผลรางวัลซีไรต์ ๒๕๕๗
bulletผลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ๒๕๕๗
bulletผลรางวัลแว่นแก้ว ๗ (๒๕๕๓)
bulletผลกลอนวิถีคนกับควาย
bulletผลร้อยกรอง “ผมจะเป็นคนดี”
bulletรางวัลนราธิป ๒๕๕๓
bulletนักเขียนอมตะ คนที่ ๖ (๒๕๕๕)
bulletนักเขียนรางวัลศรีบูรพา ๒๕๕๖
bulletศิลปินมรดกอีสาน ๒๕๕๔
bulletผลรางวัลพานแว่นฟ้า ๒๕๕๕
bulletผลรางวัลรามคำแหง ๒๕๕๖
bulletศิลปินแห่งชาติ ๒๕๕๕
bulletผลประกวดหนังสือ ชีวิตใหม่ 2
dot
ข่าวคราวของลมหายใจ
dot
dot
Weblink
dot
bulletอ่านกลอนประกวด 2556

หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก
สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
ศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาภาษาไทย มศว
เว็บรวมกระทู้ อาศรมชาวโคลง ใน pantip.com
หนังสืออีศาน


Copyright © 2010 All Rights Reserved.
ติดต่อ นายกสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ทองแถม นาถจำนง
โทรศัพท์ ๐๘๙-๑๒๓๔๗๕๔ อีเมล์ tongtham.n@hotmail.com

สำนักพิมพ์แม่โพสพ