ReadyPlanet.com
dot dot
ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป (โคลงสี่สุภาพ) : หัวข้อ “วัฒนธรรม”

 

 ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป (โคลงสี่สุภาพ) : หัวข้อ วัฒนธรรม

จำนวน 45 ชิ้น

 

1. อั่งตง 

Sent: Wednesday, October 16, 2013 5:15 AM

วัฒนธรรม – วิวัฒนการ (1. อั่งตง)


          ในวิวัฒน์สัตว์บั้น                        บรรพกาล
ยุคก่อนประวัติวาร                     เนิ่นเยื้อ
ยึดสัญชาตญาณ                         เป็นหลัก ชีพแล
กินถ่ายนอนสืบเชื้อ-                   หน่อล้วนพอเพียง
          ต่างตนต่างล่าครั้น           หิวครอง
บำบัดตามครรลอง                     ชั่วมื้อ
เริ่มขุดกลบสำรอง                      คราเหยื่อ เหลือนา
นานหมกนานกกยื้อ                   หยักเยื้องคลองเดิม
          สัตว์หนึ่งถึงจุดล้น                       โลภมโน
เติบอยากเกินคำโต                     กว่ากล้ำ
จึงวิวัฒน์เฉโก                           กลเก็บ รวบนา
ผนึกกลุ่มกันครองถ้ำ                 ก่อบ้านแปงเมือง
          มากตนมากอยากซ้อน     ซับคูณ
กักขฬะโกยกอบพูน                    รอบด้าน
สงครามเพิ่มไพบูลย์                   บานเศิก
เสร็จศึกก็โศกเศร้า                      เร่งเร้าธรรมบาล
          เชิญหมู่บัณฑิตขึ้น           วางเกณฑ์
สกัดเหตุภัยเวร                          อย่าพ้อง
กำกับเหล่ากากเดน                    ตามโทษ- ทัณฑ์นา 
ตราระเบียบออกป้อง                 สงบส้องพอนาน
          สันติกาลล่วงโพ้น           พานเลือน

ลืมชนักปักเตือน                        เมื่อพื้น

รุกรบกลับมาเยือน                    ยาวอีก

ทุกข์แช่แผ่สะอื้น                       เพรียกฟื้นคืนเดิม
         
เป็นแบบสลับฉะนี้           ดังมนต์
เพราะเปรตกิเลสตน                   เสือกไสร้
ศึกสงบและหมุนวน                   ศึกสงบ
เกิดระลอกวิวัฒน์ให้                   เพื่อคุ้มชุมชน
          วัฒนาระเบียบคล้อง         นาคร 
บรรทัดฐานสังวร                       สะพรั่งล้อม
กฏบัตรเพื่อตัดตอน                    เฉดโฉด พฤติแล
ธรรมมิ่งมโนป้อม                     เวี่ยห้อมวจีกาย
          ปรับเปลี่ยนจนหล่อเข้า     ตรึกความ
อันส่วนรวมเห็นงาม                              สุดแม้
เทศอื่นอาจเห็นตาม                   หรือต่าง
คือวัฒนธรรมแล้                        ส่งชั้นกันมา.

.............................. (1. อั่งตง)...............................


2. กมลศรี  มณีศิลป์ (ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)
Sent:
 Saturday, October 19, 2013 11:35 AM

วัฒนธรรม วัฒนทำ (2. กมลศรี  มณีศิลป์/ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

                 วัฒนธรรมก่อนครั้ง                                  บุราณ

     บอกบ่งวิทยาการ                                                 เพรียบพร้อม

     คุณธรรมร่วมสมาน                                             เป็นอยู่

     งามงอกเจริญล้อม                                               สง่าได้เลิศเลอ

                 เวลาเผลอผ่านพ้น                                    นานมา

     โลกใหม่วัฒนา                                                    ล่วงล้ำ

     ต่างชาติต่างภาษา                                                แทนที่

     ดีเสื่อมกินกลืนกล้ำ                                              หมดแล้วความงาม

                 ตามจิตมีสิทธิ์อ้าง                                    มนุษยชน

     หากไม่คิดถึงคน                                                  ก่อนหน้า

     ฉีกกฎบ่อยากทน                                                 ระเบียบ

     หาว่างงมงายล้า                                                  โง่เหง้าโบราณ

                 กรายกรีดสะดีดดิ้ง                                   เอวองค์

     แฟชั่นของโฉมยงค์                                              อร่ามแท้

     โชว์ยวนยั่วใหลหลง                                             ปลงจิต

     สวยนอกงามในแพ้                                              บ่ได้มีเลย

                 อดีตเคยปลูกปั้น                                      วิถี

     เผื่อแผ่ยื่นไมตรี                                                    เพื่อนพ้อง

     สัมพันธ์เชื่อมชีวี                                                 เป็นสุข

     หาสู่โดยมิต้อง                                                     รอบรั้วกันภัย

                 จิตใจแปรเปลี่ยนสิ้น                                 ตามกาล

     ใยเยื่ออันตรธาน                                                  ห่างด้วย

     สืบทอดต่อลูกหลาน                                             คงล่วง

     ฤาหมดความดีม้วย                                              หยุดไว้คุณธรรม

                 ฤาทำเพียงแค่ให้                                      เจริญ

     หากแต่คุณธรรมเมิน                                            ซิ่นไร้

     สมควรเรียกวัฒนทำเชิญ                                       หลีกหลบ

     ทำแต่สิ้นธรรมไซร้                                              อย่าได้ใหลหลง

.............................. (2. กมลศรี  มณีศิลป์/ส่งครั้งแรก มีแก้ไข) ...............................

 

3. กมลศรี  มณีศิลป์ / แก้ไขครั้งที่ 1
Sent:
 Wednesday, October 23, 2013 8:59 AM

วัฒนธรรม วัฒนทำ (3. กมลศรี  มณีศิลป์ / แก้ไขครั้งที่ 1)

 

                 วัฒนธรรมก่อนครั้ง                                  บุราณ

     บอกบ่งวิทยาการ                                                 เพรียบพร้อม

     คุณธรรมร่วมสมาน                                             เป็นอยู่

     งามงอกเจริญล้อม                                               สง่าได้เลิศเลอ

                 เวลาเผลอผ่านพ้น                                    นานมา

     โลกใหม่วัฒนา                                                    ล่วงล้ำ

     ต่างชาติต่างภาษา                                                แทนที่

     ดีเสื่อมกินกลืนกล้ำ                                              หมดแล้วความงาม

                 ตามจิตมีสิทธิ์อ้าง                                    มนุษยชน

     หากไม่คิดถึงคน                                                  ก่อนหน้า

     ฉีกกฎบ่อยากทน                                                 ระเบียบ

     หาว่างงมงายล้า                                                  โง่เหง้าโบราณ

                 กรายกรีดสะดีดดิ้ง                                   เอวองค์

     แฟชั่นของโฉมยงค์                                              อร่ามแท้

     โชว์ยวนยั่วใหลหลง                                             ปลงจิต

     สวยนอกงามในแพ้                                              บ่ได้มีเลย

                 อดีตเคยปลูกปั้น                                      วิถี

     เผื่อแผ่ยื่นไมตรี                                                    เพื่อนพ้อง

     สัมพันธ์เชื่อมชีวี                                                 เป็นสุข

     หาสู่โดยมิต้อง                                                     รอบรั้วกันภัย

                 จิตใจแปรเปลี่ยนสิ้น                                 ตามกาล

     ใยเยื่ออันตรธาน                                                  ห่างด้วย

     สืบทอดต่อลูกหลาน                                             คงล่วง

     ฤาหมดความดีม้วย                                              หยุดไว้คุณธรรม

                 ฤาทำเพียงแค่ให้                                      เจริญ

     หากแต่คุณธรรมเมิน                                            ซิ่นไร้

     สมควรเรียกวัฒนทำเชิญ                                       หลีกหลบ

     ทำแต่สิ้นธรรมไซร้                                              อย่าได้ใหลหลง

.............................. (3. กมลศรี  มณีศิลป์ / แก้ไขครั้งที่ 1) ...............................

4. ฑีดา  ญาจันทร์

Sent: Sunday, October 20, 2013 6:24 PM                    

ไทยนิยม..นิยมไทย (4. ฑีดา  ญาจันทร์)
            ประเพณีนี่นี้                       นานเนา
วัฒนธรรมเรา                                         ร่วมสร้าง
สืบศิลปะเสลา                                        สลวยสลัก
เสริมส่งไทยสล้าง                       เลิศล้วนอลังการ
            อุรารานเริ่มร้าว               ระทมทรวง
ตระหนกตกอกกลวง                    กลับไข้
บางคนบ่เคยหวง
-                        แหนชาติ
ผีปู่คงหม่นไหม้                                       เมื่อนุ้ยลืมสยาม

            ลุกลามตามต่างเชื้อ          ชาตินำ นรกแฮ
ศิลปวัฒนธรรม                                       ถูกขยี้
ลูกหลานหลุดถลำ                                    ลงปลัก
ผู้ใหญ่ไทยต้องชี้                          ใช่เน้นนำสมัย

            ลายไทยงอนอ่อนช้อย       ว่าเชย
โชห่วยไทยไม่เสบย                      บ่เข้า
ตากแอร์เสพเสวย                                    เซเว่น
ฝรั่งมังค่าเร้า                                           เร่งต้อนเต็มพุง

            ผ้าถุงไทยถอดทิ้ง             ทันที แม่เอย
ไปนุ่งสั้นกาลี                              หลั่นล้า

กังนัมเห่อเกาหลี                                     หูลู่
จังหวะนั้นคือม้า
-                                    ย่องเยื้องเมืองเฮา
            กลับเรินเราเถิดนุ้ย           นวลอนงค์
พาบ่าวลูกตาบง                                      หลบบ้าน
พุงปลากะปิคง                                        เคยอร่อย
วะซาบิรสเผ็ดจ้าน                                   จัดท้าดีปลี
            ดนตรีไทยทอดทิ้ง            ทนฟัง

ไปชอบแดนซ์โคตรดัง                   คลั่งด้อย
แบรนด์เนมกระเป๋าหนัง                เมืองนอก
หลุยส์เลิศเลอเห่อห้อย                              หากแพ้ลิเภา

            อย่าเมามัวมั่วตั้ว             ตาลาย มืดนอ
เกลือที่อยู่ข้างกาย                                    กัดทิ้ง
ไปกินด่างเลวหลาย                                  ลวงหลอก
หากรักชาติฉลาดนิ้ง                                 อย่าทิ้งไทยนิยม
            ชื่นชมในหมู่บ้าน             ตำบล
ผลิตภัณฑ์ชุมชน                                     ช่วยรั้ง
ตามรอยพระภูมิพล                                  ผู้พ่อ
อยู่อย่างพอเพียงตั้ง                                   ดั่งนี้ดีงาม
            สงครามโลกห่อนแพ้        ผู้ใด
เพียงเพราะเสรีไทย                                  ท่านสู้
สงครามเศรษฐกิจไกล                              เราแกร่ง
พลิกวิกฤติกอบกู้                                     ฉกาจแท้นิยมไทย.

………………………………. (4. ฑีดา  ญาจันทร์)……………………………….

5. ฑีดา  ญาจันทร์
Sent: Tuesday, October 22, 2013 12:18 PM

               ผู้แทน  นักบวช  สุนัข  ใบพลู (5. ฑีดา  ญาจันทร์)
        ผู้แทนอวดพร่ำเพ้อ                      ในสภา
นักบวชอวดเทศนา                              ถอดเสื้อ
สุนัขอวดเขี้ยวหรา                               รวมหมู่
ลูกทุ่งสาวอวดเอื้อ                               หนั่นเนื้อนมถัน
        อันการเมืองดุจน้ำ                       เน่าใน หนองนา
โกงชาติกันบรรลัย                               ป่นปี้
น้ำจิตดั่งบัวใบ                                    บำบัด
น้ำใหม่มาช่วยชี้                                  ชะล้างหายเหม็น

        พระเหลือบเล็นเล่นลิ้น                 ลมลวง
ถ่ายรูปสีกาควง                                   ค่ำเช้า
สะสมสิ่งของหวง                                แพงโหด
นรกรอเร่งเร้า                                     รับไว้อเวจี

        จิ้งจอกมีเล็บเขี้ยว                        คมคาย
ลอบกัดกันจนตาย                               ต่อหน้า
ช่วงชิงเศษเนื้อกระจาย                         เจอระเบิด
หมาหมู่พันธุ์เชื้อบ้า                             แบ่งยื้อดินแดน

        ไทยแลนด์แดนนักร้อง                  ใบพลู
น้องแน่นอกยกดู                                 เด่นเด้ง

ควรดังเพราะเชิดชู                               ช่วยชาติ
ใช่ว่าโชว์หุ่นเช้ง                                  ยั่วย้ายชายถลำ

        วัฒนธรรมเปลี่ยนได้                     โดยฤดี
เปลี่ยนสภากาลี                                  เลิศแล้ว
เณรคำกลับลำชี
-                                 วิตชอบ
วิปัสสนาเพริดแพร้ว                            เปลี่ยนแล้วใจเณร
        เดนคนบ่รักพื้น                            แผ่นดิน

คิดจะขายไทยกิน                                 โกรธเกรี้ยว
จิ้งจอกจิตทมิฬ                                   หินชาติ
จงเก็บฟันไว้เคี้ยว                                เปลี่ยนเขี้ยวเป็นฟัน

        ใบพลูพลันพลิกฟื้น                      ฟังคำ แม่เอย
เสริมส่งศีลธรรม                                 เที่ยงแท้
อยากเห็นโลกงามขำ                            ขาวสะอาด
วัฒนธรรมใหม่แก้                               เกิดแก้วแววฉวี
        ผู้แทนดีพรั่งพร้อม                       เต็มสภา
อรหันต์สัมมา                                    ไม่น้อย
หมารักสงบหา                                               ดูง่าย
ลูกทุ่งไทยเรียบร้อย                              แช่มช้อยชวนชม.

………………………………. (5. ฑีดา  ญาจันทร์)  ……………………………….  


6. ฉัตรปกรณ์  
Sent:
 Thursday, October 24, 2013 1:17 PM

ราชรถวัฒนธรรม (6. ฉัตรปกรณ์)

 

โอ ! พระจันทร์ชักม้า       โคจร

ดาวเลื่อนเดือน-นาคร                   คับมุ้ง

วัฏจักรตกตะกอน                        เกิดดับ  เกิดเฮย

จักรวาลตกสะดุ้ง                         ท่ามรุ้งสายงาม

                                                วิถีชนหลากล้วน             วิถี

กระพริบตา-นาที                         ปรับไขว้

พิภพจบแดนตรี                           แตกต่าง

เพียงแต่ธำรงไว้                           บอดใบ้อบาย

                                                เพียงยิ้มอาจหยั่งรู้            ทายทัก

เผยภาพสายลายลักษณ์                 เริ่มรู้

อักขระสลัก                                ซอกศิ-ลาแล

ระเบียบแบบแผนอู้                      ว่าผู้มีจรรย์

                                                แผกภาษาแผกหน้า          อักขระ

แผกสมัยในวาระ                         หลากด้ำ

หาใช่กักขฬะ                              หากต่าง  เราเอย

เพียงแต่วัฏจักรจ้ำ                        บอกซ้ำวัฒนา

                                                สายธารสายโลกนี้            เหมือนกัน

ลดทิฐิโทษทัณฑ์                          ทัศน์แจ้ง

วัฒนธรรมจรร-                           โลงโลก

อาจต่างวิถีแย้ง                            หากแกล้งแต่งชน

                                                โอ ! พระอาทิตย์ตวัดแส้   สิงห์ชัก

ราชรถกาลจักร                            เคลื่อนแล้ว

วัฒนธรรมหยัก-                          กระหนก  กาลแล

จักรวาลพิกุลแก้ว                        ผ่องแผ้วในธรรม

………………………………. (6. ฉัตรปกรณ์)  ……………………………….  

7. ศิริลพักตร์  / ส่งครั้งแรก มีแก้ไข
Sent:
 Friday, October 25, 2013 9:27 PM

ช่วยกันรักษานำพาสิ่งดี (7. ศิริลพักตร์/ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

ความดีงามกล่าวอ้าง                   ถึงกัน

เป็นสิ่งมหัศจรรย์                         สื่อสร้าง

                                                คนไทยร่วมใจกัน                         สานต่อ

                                                มอบแด่คนรอบข้าง                      เพื่อให้สืบไป

                                                การนอบน้อมย่อไหว้       ของไทย

                                                เป็นสิ่งสุดไฉไล                           แช่มช้อย

                                                แสนโดดเด่นในใจ                        ใครทั่ว

                                                ไทยจึ่งไม่ยอมด้อย                        ไม่น้อยหน้าใคร

                                                ภาษาไทยไม่แพ้              ใครเขา

                                                มอบแด่ลูกหลานเรา                     เล่าอ้าง

                                                ภาษากล่อมขัดเกลา                     โดดเด่น

                                                เป็นหนึ่งไม่ทิ้งขว้าง                     จึ่งใช้สืบมา

                                                รักกันดีพี่น้อง                   ผองไทย

                                                ให้พึ่งพิงกันไว้                             เพื่อนพ้อง

                                                ความรักใคร่ใส่ใจ                        แม่พ่อ

                                                เป็นหนึ่งนับจับจ้อง                     ผ่องแผ้วอำไพ

                                               ความรักชาติก่อเกื้อ           นานมา

                                                ไทยเก่งกาจหาญกล้า                    แน่แท้

                                                เป็นตัวอย่างสร้างมา                    ดีเด่น

                                                เฉกเช่นไม่พ่ายแพ้                        ต่อสู้สุดใจ

                                                เราคนไทยช่วยชี้              สิ่งถูก

                                                จากพ่อแม่ถึงลูก                          ห่วงให้

                                                มอบเป็นสิ่งพันผูก                       เพาะบ่ม

                                                ขอต่อสืบสานไว้                          ชั่วฟ้าดับไป 

                                                            ความเป็นไทยแน่แท้         ยืนยง

                                                ไทยช่วยกันดำรง                          ก่อเกื้อ

                                                จับมือร่วมประสงค์                     สานต่อ

                                                มอบแด่ชนชาติเชื้อ                      พี่น้องผองไทย

………………………………. (7. ศิริลพักตร์/ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)……………………………….  

 

(8. ศิริลพักตร์ / แก้ไขครั้งที่ 1)
Sent:
 Friday, October 25, 2013 9:28 PM

ช่วยกันรักษานำพาสิ่งดี (8. ศิริลพักตร์ / แก้ไขครั้งที่ 1)

ความดีงามกล่าวอ้าง                   ถึงกัน

เป็นสิ่งมหัศจรรย์                         สื่อสร้าง

                                                คนไทยร่วมใจกัน                         สานต่อ

                                                มอบแด่คนรอบข้าง                      เพื่อให้สืบไป

                                                การนอบน้อมย่อไหว้       ของไทย

                                                เป็นสิ่งสุดไฉไล                           แช่มช้อย

                                                แสนโดดเด่นในใจ                        ใครทั่ว

                                                ไทยจึ่งไม่ยอมด้อย                        ไม่น้อยหน้าใคร

                                                ภาษาไทยไม่แพ้               ใครเขา

                                                มอบแด่ลูกหลานเรา                     เล่าอ้าง

                                                ภาษากล่อมขัดเกลา                     โดดเด่น

                                                เป็นหนึ่งไม่ทิ้งขว้าง                     จึ่งใช้สืบมา

                                                รักกันดีพี่น้อง                   ผองไทย

                                                ให้พึ่งพิงกันไว้                             เพื่อนพ้อง

                                                ความรักใคร่ใส่ใจ                        แม่พ่อ

                                                เป็นหนึ่งนับจับจ้อง                     ผ่องแผ้วอำไพ

                                                ความรักชาติก่อเกื้อ          นานมา

                                                ไทยเก่งกาจหาญกล้า                    แน่แท้

                                                เป็นตัวอย่างสร้างมา                    ดีเด่น

                                                เฉกเช่นไม่พ่ายแพ้                        ต่อสู้สุดใจ

                                                เราคนไทยช่วยชี้              สิ่งถูก

                                                จากพ่อแม่ถึงลูก                          ห่วงให้

                                                มอบเป็นสิ่งพันผูก                       เพาะบ่ม

                                                ขอต่อสืบสานไว้                          ชั่วฟ้าดับไป 

                                                            ความเป็นไทยแน่แท้         ยืนยง

                                                ไทยช่วยกันดำรง                          ก่อเกื้อ

                                                จับมือร่วมประสงค์                     สานต่อ

                                                มอบแด่ชนชาติเชื้อ                      พี่น้องผองไทย

 

………………………………. (8. ศิริลพักตร์ / แก้ไขครั้งที่ 1)  ……………………………….  

9. ประดิษฐ์

Sent: Saturday, October 26, 2013 10:46 AM

วัฒนธรรมไทย...อยู่ในหัวใจชาวโลก (9. ประดิษฐ์

                                         สยามนามแห่งยิ้ม                                    ยลระบือ

                  ไหว้งดงามยิ่งคือ                                                  ค่าล้น

                  ชนทั่วโลกกระพือ                                                พูดกล่าว กว้างไกล

                  เทศหลั่งไหลดั้นด้น                                              สืบค้นความจริง

                              จำรัสจริงเจิดจ้า                                      จำรูญ

                  เสริมเพิ่มทวีคูณ                                                  คบค้า

                  ร่วมก่อเพื่อเพิ่มพูน                                              พงศ์เผ่า ไทยนา

                  ว่าเอกอุเลิศหล้า                                                  ทั่วฟ้าปฐพี

                              เพียงขยันยิ่งแล้ว                                      เจริญไกล                      

                  เพียรคู่ปัญญาไว                                                   ช่วยแก้

                  ปัญหาหมดสิ้นไป                                                เรืองรุ่ง เจริญแฮ

                  ชูเชิดช่วยชาติแท้                                                 ทั่วทั้งแดนไทย                                                               

ขอทุกคนทุกผู้                                   พอเพียง

                  คำพ่อสอนคู่เคียง                                                 ค่าใช้

                  ประหยัดก่อผดุงเดียง                                            โดดเด่น ระบือไกล

                  สำนึกและเทิดไท้                                     ช่วยให้ไทยเจริญ

ร่มเย็นแล้วทั่วทั้ง                                     แผ่นดิน

                  ชนกล่าวยลระบิล                                                บ่งไว้

                  ซื่อสัตย์ทั่วธรณิน                                                ณ ถิ่น แดนไฉน

                  คือเกียรติศักดิ์ศรีไซร้                                             เก็บไว้ภาคภูมิ

ภาวินัยเพริศแพร้ว                                   ไพบูลย์

                  ไทยทั่วต่างเกื้อกูล                                                เกี่ยวข้อง

                  สังคมสุขเพิ่มพูน                                                 พวกเพื่อน ชมมอง

                  ประกาศเสียงดังก้อง                                            แซ่ซ้องสดุดี

                         ดูสุภาพเรียบร้อย                                    จรุงใจ

                  ทุกสิ่งละมุนไม                                                   มากแม้น

                  ละมุนละม่อมใคร                                                ไทยเทศ สัมมาควร

                  ชูค่าไทยเช่นแคว้น                                               แว่นด้าวคนดี                                                                 

แดนสะอาดถิ่นนี้                                     ดีจริง

                  มากมิตรมาพักพิง                                                พรักพร้อม

                  สุขสงบศาสน์อิง                                                 อบอุ่น ฤทัยนา

                  จิตผ่องสิ่งแวดล้อม                                              เลี่ยมแล้รักษ์ผดุง

                              ดุจแดนสันติด้วย                                     สามัคคี

                  รู้รักปรองดองมี                                                   พี่น้อง

                  ความคิดต่างถ้อยที                                               เอื้อนเอ่ย กันนา

                  คุณค่าคือเกียรติก้อง                                             พวกพ้องเผ่าไทย

                              ทุกคนล้วนมากด้วย                                 น้ำใจ

                  รู้จักช่วยเหลือใคร                                                ทุกผู้

                  วัฒนธรรมไทย                                                    เทียมเท่า ดาวดึงส์

                  คนซาบซึ้งรับรู้                                                    กู่ก้องขจรไกล.                                                               

………………………………. (9. ประดิษฐ์)  ……………………………….  

0. นิวัฒน์ / ส่งครั้งแรก มีแก้ไข

Sent: Saturday, October 26, 2013 9:05 PM

 

                                                 รากเหง้า (10. นิวัฒน์/ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

            สิ่งสั่งสมสืบสร้าง                       ยาวนาน

บรรพบุรุษบันดาล                                   คิดค้น

รุ่งเรืองอยู่ยาวนาน                                   คู่ชาติ  ไว้แฮ

อารยะยิ่งใหญ่ล้น                         จักต้องหวงแหน

            อย่าดูแคลนปล่อยให้                     หายไป

อย่าหมิ่นวิถีไทย                                      ชั่วช้า

อย่าลืมมิใส่ใจ                                         มรดก  เมืองเฮย

อย่าคิดใช่เรื่องข้า                                     เยี่ยงนี้ล่มจม

            ชื่นชมสิ่งค่าล้ำ                            คู่ควร

บอกกล่าวชักชี้ชวน                                  เร่งรู้

ปรากฏดั่งลมหวน                                   ย้อนกลับ  มาแล

เฝ้าพิทักษ์กอบกู้                                      รากเหง้าแห่งตน

            ทุกชนชั้นชาติเชื้อ                        ก่อเกิด

ล้วนย่อมมีกำเนิด                                                เริ่มต้น

วัฒนธรรมสุดเลอเลิศ                               คู่โลก  เราเฮย

ก่อนชีพสิ้นผ่านพ้น                                  ซาบซึ้งชั่วดี

            ในวิถีบ่งชี้                                  ชนชาติ

อันเกิดจากนักปราชญ์                              ก่อเกื้อ

สะท้อนบอกบทบาท                                ครั้งอดีต  นี้นา

เช่นลวดลายบนเสื้อ                                 ทราบได้ที่มา

            หน้าที่ตกทอดไว้                          ปฐพี

ยืนหยัดป้องวิถี                                        เจิดจ้า

เป็นแบบอย่างอันดี                                  สูงส่ง  นักแล

อนุรักษ์คู่แหล่งหล้า                                  ชั่วฟ้าดินสลาย

………………………………. (10. นิวัฒน์/ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)   ……………………………….  

 

 

11. นิวัฒน์/แก้ไขครั้งที่ 1
Sent:
 Saturday, October 26, 2013 9:10 PM

รากเหง้า (11. นิวัฒน์/แก้ไขครั้งที่ 1)

        สิ่งสั่งสมสืบสร้าง                       ยาวนาน

บรรพบุรุษบันดาล                               คิดค้น

รุ่งเรืองอยู่ยาวนาน                               คู่ชาติ  ไว้แฮ

อารยะยิ่งใหญ่ล้น                                 จักต้องหวงแหน

        อย่าดูแคลนปล่อยให้                     หายไป

อย่าหมิ่นวิถีไทย                                              ชั่วช้า

อย่าลืมมิใส่ใจ                                     มรดก  เมืองเฮย

อย่าคิดใช่เรื่องข้า                                             เยี่ยงนี้ล่มจม

        ชื่นชมสิ่งค่าล้ำ                            คู่ควร

บอกกล่าวชักชี้ชวน                             เร่งรู้

ปรากฏดั่งลมหวน                               ย้อนกลับ  มาแล

เฝ้าพิทักษ์กอบกู้                                              รากเหง้าแห่งตน

        ทุกชนชั้นชาติเชื้อ                        ก่อเกิด

ล้วนย่อมมีกำเนิด                                            เริ่มต้น

วัฒนธรรมสุดเลอเลิศ                           คู่โลก  เราเฮย

ก่อนชีพสิ้นผ่านพ้น                              ซาบซึ้งชั่วดี

        ในวิถีบ่งชี้                                  ชนชาติ

อันเกิดจากนักปราชญ์                          ก่อเกื้อ

สะท้อนบอกบทบาท                           ครั้งอดีต  นี้นา

เช่นลวดลายบนเสื้อ                             ทราบได้ที่มา

        หน้าที่ตกทอดไว้                          ปฐพี

ยืนหยัดป้องวิถี                                                เจิดจ้า

เป็นแบบอย่างอันดี                              สูงส่ง  นักแล

อนุรักษ์คู่แหล่งหล้า                             ชั่วฟ้าดินสลาย

………………………………. (11. นิวัฒน์/แก้ไขครั้งที่ 1)  ……………………………….   

 

 

12. นิวัฒน์ / ส่งครั้งแรก มีแก้ไข

Sent: Saturday, October 26, 2013 9:07 PM

                                                วัฒนธรรมสิ่งล้ำค่า (12. นิวัฒน์ / ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

            เป็นความเจริญเลิศล้ำ                  ดีงาม

บ่งบอกเอกลักษณ์ยาม                              ประกาศก้อง

แพร่ขยายเกิดลุกลาม                                ได้ทั่ว  โลกนา

ทุกถิ่นต่างป่าวร้อง                                   แน่แท้กว่าใคร

            ยิ่งใหญ่ในโลกล้วน                       มากมี

อัตลักษณ์ประเพณี                                  ก่อเกื้อ

รุ่งเรืองประเสริฐศรี                                  นานนับ  กาลแฮ

อารยะของชาติเชื้อ                                   คิดค้นยาวนาน

            สืบสานผดุงฝากไว้                      คู่ดิน

เหล่าลูกหลานให้ถวิล                               รับรู้

มรดกดั่งทรัพย์สิน                                    ตกทอด  ไว้เฮย

เช่นเอกราชกอบกู้                                    ปกบ้านเมืองเรา

            หยุดมัวเมาต่างด้าว                      เข้ามา

มิชื่นชมนำพา                                         แต่งแต้ม

ไม่ลอกแบบโหยหา                                  ชาติอื่น  อีกนา

หากเลิกลืมยิ้มแย้ม                                   เยี่ยงนี้ชนใด

            ยุคสมัยใหม่อวดโอ้                       ทระนง

เฝ้ากอบโกยลุ่มหลง                                  กิเลสบ้า

แก่งแย่งดุจแดนดง                                   ป่าเถื่อน มากนา

มุ่งร่ำรวยเจิดจ้า                                       เลิกล้มวิถี

            สิ่งนี้คือรากเหง้า                          ชาวไทย

รวมเลือดเนื้อจิตใจ                                  แน่นแฟ้น

สะท้อนอดีตยาวไกล                                ก่อเกิด  สยามแฮ

หายหมดจักสิ้นแม้น                                ขาดไร้เผ่าพันธุ์

………………………………. (12. นิวัฒน์ / ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)……………………………….  

 

 

13. นิวัฒน์ / แก้ไขครั้งที่ 1
Sent: Saturday, October 26, 2013 9:14 PM

 

                                                วัฒนธรรมสิ่งล้ำค่า (13. นิวัฒน์ / แก้ไขครั้งที่ 1)

        เป็นความเจริญเลิศล้ำ                  ดีงาม

บ่งบอกเอกลักษณ์ยาม                         ประกาศก้อง

แพร่ขยายเกิดลุกลาม                            ได้ทั่ว  โลกนา

ทุกถิ่นต่างป่าวร้อง                              แน่แท้กว่าใคร

        ยิ่งใหญ่ในโลกล้วน                       มากมี

อัตลักษณ์ประเพณี                              ก่อเกื้อ

รุ่งเรืองประเสริฐศรี                             นานนับ  กาลแฮ

อารยะของชาติเชื้อ                              คิดค้นยาวนาน

        สืบสานผดุงฝากไว้                      คู่ดิน

เหล่าลูกหลานให้ถวิล                           รับรู้

มรดกดั่งทรัพย์สิน                               ตกทอด  ไว้เฮย

เช่นเอกราชกอบกู้                                ปกบ้านเมืองเรา

        หยุดมัวเมาต่างด้าว                      เข้ามา

มิชื่นชมนำพา                                     แต่งแต้ม

ไม่ลอกแบบโหยหา                              ชาติอื่น  อีกนา

หากเลิกลืมยิ้มแย้ม                              เยี่ยงนี้ชนใด

        ยุคสมัยใหม่อวดโอ้                       ทระนง

เฝ้ากอบโกยลุ่มหลง                             กิเลสบ้า

แก่งแย่งดุจแดนดง                               ป่าเถื่อน มากนา

มุ่งร่ำรวยเจิดจ้า                                              เลิกล้มวิถี

        สิ่งนี้คือรากเหง้า                          ชาวไทย

รวมเลือดเนื้อจิตใจ                              แน่นแฟ้น

สะท้อนอดีตยาวไกล                            ก่อเกิด  สยามแฮ

หายหมดจักสิ้นแม้น                            ขาดไร้เผ่าพันธุ์

………………………………. (13. นิวัฒน์ / แก้ไขครั้งที่ 1)  ……………………………….  

14. ชาตรี
Sent: Wednesday, October 30, 2013 12:53 AM

หลอดไฟนอกพิพิธภัณฑ์’ (14. ชาตรี)

 

๏ เรื่องราวแห่งพื้นที่                    ทึบขนัด

สี่เหลี่ยมจัตุรัส                                        รากเหง้า

ตารางเมตรประหยัด                                หย่อมที่

ยังแต่วิญญาณเถ้า                                    กระดูกหล้าสมัยหาย

            ๏ ภายในสี่เหลี่ยมพื้น                   พิพิธภัณฑ์

วัฒนธรรมสำคัญ                                     ครบถ้วน

ต่างชาติอัศจรรย์                                      ถ่ายรูป

อักขราธิบายล้วน                                     ละเอียดแจ้งลออจินต์

 

            ๏ ศิลปะรากเหง้า                                    มืดไฉน

พลันสว่างต่างหลอดไฟ                            แห่งห้อง

หลากหุ่นตุ๊กตาไป                                    ประดับ

อัศจรรย์ไทยร้อง                                      เริ่มชี้พัฒนา

            ๏ อ้าไอแดดอบอ้าว                      อาบวัน

หาบเร่ข้างพิพิธภัณฑ์                               พักตั้ง

ต่าง กล้วย ไข่ เผือก มัน                            ปิ้ง ทอด    เผานอ

แครกครากแครกครากครั้ง             สั่งน้ำแข็งไส

๏ ร้านใหญ่ร้านเล็กค้า                  ขายของ

หลวงพ่อชอบ, เงิน, ทอง,                         สด -ไหว้

*นะชาลิติ ปอง                                       มหาสิท-    ธิโชคแล

นางกวักให้กวักได้                                   ทรัพย์ด้วยวิเศษขลัง

๏ ฟากฝั่งตรงข้ามนั่น                   ธรรมฉาย

กริ่งกรึ่งกระดึงปลาย                                นาคสะดุ้ง

โอ้เอ้วิหารราย                                         ฉมังสวด

เพล ตุ่ง ตุ้ง ตุ้ง ทุ้ง                                    ทุ่มทุ้มทึงทึง

            ๏ ชุมชนซึ่งรอบรั้ว                      อาราม

พ่อแก่แม่เฒ่าตาม                                    แต่ละบ้าน

พ่อครูแม่ครูหลาม                                    หมอเป่า

หมอผญาสะท้าน                                                สะทกแท้สะเทือนขวัญ

            ๏ สรรตอกสานตะกร้า                 กระด้ง, ไซ

ผ้าขะม้า, ผ้าไหม                                     มากเส้น

กระตุกกี่กระตุกใจ                                   กระตุกเรื่อง-   ราวแฮ

กระตุกวัฒนธรรมเต้น                              ต่างด้วยวิถีประชา

            ๏ ออกมานอกพื้นที่                     พิพิธภัณฑ์

วัฒนธรรมสำคัญ                                     ครบถ้วน

สยามวิเศษสวรรค์                                   ถนอมราก-   เหง้าเทอญ

เก็บหลอดไฟนอกล้วน                              รกเรื้อหลอกสมัย.

 

*นะ ชา ลิ ติ คือ คาถาหัวใจพระสีวลี  

………………………………. (14. ชาตรี)  ……………………………….  

15. เชษฐภัทร วิสัยจร
Sent: Thursday, October 31, 2013 6:24 AM

ลิ้มรสวัฒนธรรมรัก (15. เชษฐภัทร วิสัยจร)

อุบลราชธานี

๑. ข้าวเหนียวใส่ปากป้อน             แต่เกิด

ลาบเป็ดแม่เฮ็ดเลิศ                                  รสฮู้

กินง่ายอยู่ง่ายเถิด                                     ฮักลูก
หากเผ็ดเฮ็ดใจสู้
                                      สั่งให้อดทน 

๒. ฝึกฝนจนฮู้จาก                       ประสบการณ์

หลากวัฒนธรรมอาหาร                            แห่งนี้

ก๋วยจั๊บเวียดนามผสาน                             ผสมแจ่ว ลาวเนอ

เมี่ยงสดหมูยอชี้                                       ช่องเคล้าคลุกนัว 

๓. ซิ้นงัวถั่วงอกต้ม                     ผสมตาม
บะหมี่ลวกสี่ชาม                                     จ่ายให้

อย่ากินเฮ็ดมูมมาม                                  คำแม่ สอนเนอ
ลูกเติบโตจนใกล้                                      เกือบต้องเข้ากรุง

 

กรุงเทพมหานคร

๔. มุ่งเพียรเรียนรู้หัด                    ซื้อหา

แม่ส่งเงินบ้านมา                                                เมื่อพร้อม
ให้ซื้อกับข้าวปลา                                    เป็นหมด

ไทยฝรั่งญี่ปุ่นล้อม                                    เลือกเป้าสวาปาม 

๕. ถามสเต๊กพิซซ่านี้                   อยู่ไหน

เทมปุระสุชิใจ                                         เรียกร้อง

กินแกงกะทิไทย                                      ยิ่งถนัด

กลางแหล่งสยามจ้อง                               จะซื้อเสาะแสวง 

๖. แบ่งกาแฟเลิศเคล้า                  รสขนม
พบรักเธอเมื่อชม                                     ชื่นใกล้

เมื่อเด็ดดอกฟ้าสม                                   ใจอยาก

เธอชวนกลับบ้านให้                                หัดรู้รักเธอ

 เชียงใหม่

๗. เสนอบอกหื้อหัดฮ้อง               ภาษา

อู้แบบคนล้านนา                                     นับได้
มือป้อนใส่ปากฮา                                    ข้าวนึ่ง
ไส้อั่วน้ำพริกให้                                       เสาะทั้งนครพิงค์
            ๘.แม่หญิงพาลิ้มรส                     ข้าวซอย
ลาวแบบเฮาก็พลอย                                 ม่วนแต้
ม่วนลิ้นรสคิงคอย                                    ไปกาด
แกงอ่อมยะหื้อแม้                                    บอกแล้วอิ่มหลาย
 

๙.คล้ายฮักฮาม่วนอ้าง                  อาหาร
ม่วนจวบจนแต่งงาน                               อยู่เหย้า

น้ำเงี้ยวยะหื้อจาน                                    อันใหญ่
กิ๋นอีกขนมเส้นเคล้า                                 คลุกโต้ย
-เปิงใจ

            ๑๐. ไทยญี่ปุ่นฝรั่งอ้าง                   วัฒนธรรม

หลากรสความรักจำ                                 จดเข้า

แต่เล็กเติบใหญ่นำ                                   น้อมละเลียด ระลึกนอ
ลิ้มรสวัฒนธรรมเฝ้า                                ใฝ่ให้ใจถวิล
 

………………………………. (15. เชษฐภัทร วิสัยจร)  ……………………………….  

 

16. "แบ่งปัน (toshare)"
Sent: Thursday, October 31, 2013 9:31 AM

 วัฒนธรรม ๑ (16. "แบ่งปัน (toshare)")

....ธรรมใดวัฒนะให้.............รุ่งเรือง
ธรรมปลูกจิตจรัสประเทือง.....ถ่องแท้
ปัญญาดั่งฟันเฟือง..............ขับเคลื่อน...ตนแฮ
เสริมส่งสู่"มนุษย์"แล้...........ละพ้นตัณหา

....ศาสนานำเนื่องให้...........วัฒนา
ปฏิบัติ บ หลบรา.................ละเว้น
สงบสันติหรรษา..................สดชื่น
รักทุกผู้ไป่เฟ้น....................ฝ่าท้าทุกข์เข็ญ

....เป็นทุกสิ่งเพื่อผู้..............พลาดหวัง
วัฒนธรรม ย้ำ!พลัง..............ก่อเกื้อ
สังคมยิ่งจีรัง......................."รัก"มั่น
สามัคคีคณะเอื้อ..................อร่ามหล้าเบิกสวรรค์

....ร่วมกันสรรสร้างมรรค........วิถี
ควรแก่กาลสถาน ดี..............เหมาะใช้
อัตลักษณ์ขนบประเพณี........ชูเชิด
ศิลป์ศาสตร์ฉลาดรักษ์ไว้.......แก่นแท้สืบสาน

....การศึกษาตระหนักซึ้ง.........สำคัญ...ยิ่งแฮ
เพาะบ่มปราณชีวัน.................ถูกต้อง
ปัญญาคู่จริยธรรม์..................มั่นประเสริฐ
รู้คิดประดิษฐ์สอดคล้อง..........ประโยชน์ไซร้เพื่อผอง

....ครรลองวัฒนะนั้น..............แน่! กระทำ...จริงเฮย 
ร่ายร่ำจารจดนำ....................เนื่องใช้
ภาษาเร่งรู้คำ.......................เขียนอ่าน...กันนา 
ร่วมสิบชาติประกาศให้..........โลกรู้"หนึ่งเดียว"

………………………………. (16. "แบ่งปัน (toshare)")  ……………………………….  

 

17. "แบ่งปัน (toshare)"
Sent: Thursday, October 31, 2013 9:31 AM

วัฒนธรรม ๒ (17. "แบ่งปัน (toshare)")

....วัฒนธรรมนำเนื่องให้.............รุ่งเจริญ
พึงพิเคราะห์!พร้อมเผชิญ...........ซับซ้อน
สังคมเริ่มดำเนิน.......................แปรเปลี่ยน
เกณฑ์กฎกำหนดย้อน................เร่งรู้ปัญหา

....การศึกษาตระหนักพร้อม........ปรับวิธี
ควรแก่กาลสถาน คดี................เหมาะใช้
สรรสร้างขนบประเพณี...............ชาญฉลาด
ศิลป์ศาสตร์ประยุกต์ให้..............สอดคล้องวิถี

....สามัคคีก่อเกื้อ.....................คุณธรรม
จัดกลุ่มองค์กรนำ.....................แนะชี้
รวมพลังขจัดทุกข์ระกำ..............อย่าหยุด
อุปสรรค บ หลบลี้....................หลีกเร้นราถอย

....ร้อยใจจิตแน่นแฟ้น..............พัฒนา
สิบชาติประกาศวาจา................ทั่วถ้วน
เมตตารักพึ่งพา.......................หาสู่...กันเฮย
เศรษฐกิจเรืองรองล้วน.............ร่วมด้วยส่งเสริม

....เติมเต็มซึมซาบซึ้ง..............ศาสนา
ธรรมะวัฒน์ขจัดปัญหา..............แน่แท้
"
เชื่อ"ต่างไป่นำพา..................พรากสุข
ปฏิบัติธรรมย้ำแก้....................เรื่องร้ายสิ้นสูญ

....พูนสวัสดิ์วัฒน ะแล้..............เลิศงาม
สารสื่อพึงชัดความ..................แจ่มแจ้ง
ภาษาเร่งรู้ ยาม......................ถามตอบ
จักขจัดลดขัดแย้ง..................สอดคล้อง"หนึ่งเดียว"

………………………………. (17. "แบ่งปัน (toshare)")  ……………………………….  

18. รัก ทานตะวัน

Sent: Thursday, October 31, 2013 1:06 PM
ข้อแตกต่าง (18. รัก ทานตะวัน)

อดีตยุคครั้งเก่า                ไทยนี้

อยู่ร่วมตามวิถี                            พรักพร้อม

ยามทุกข์ยากคอยชี้                       ช่องบ่ง

อุปสรรคแวดล้อม                        “พี่น้องช่วยกัน” 

ปัจจุบันเดือดร้อน            ปล่อยไป

จะทุกข์ร้อนเหตุใด                       ขัดข้อง

ละเลยมิเคยสนใจ                                    แวะเกี่ยว

ให้พึ่งตนเถอะพ้อง                     ต่อสู้เอาเอง"

อดีตไทยช่วยเหลือ            เจือจุน

งานศพงานบุญ                                       ช่วยได้

ขาดหรือพร่องคอยหนุน                เสริมส่ง

ช่วยกันนะช่วยกันไว้                   เพื่อนบ้านกันเอง

ปัจจุบันนี่ไซร้                             หายาก จริงนา

งานศพหรืองานซาก                    ค่อนน้อย

งานบุญก็มีชนมาก                       ไม่เปลี่ยน

และนั่นมีชนน้อย                         โอบเอื้อน้ำใจ

อาจเป็นเพราะสิ่งนี้          จึงต่าง

สภาพสังคมห่าง                         เช่นนี้

หรือเศรษฐกิจบ้าง                       มีส่วน เกี่ยวแล

กาลเปลี่ยนอาจชี้                         ปรับให้เป็นไป

ข้าเป็นคนหนึ่งน้อย          นักศึกษา

ข้าทราบไร้กังขา                          เหล่านั้น

ถึงจะปรับเปลี่นมา                      ยากเชื่อ

เหมือนแค่เป็นเรื่องสั้น                 ที่ได้อ่านไป

 

………………………………. (18. รัก ทานตะวัน)  ……………………………….  

 19. นายหมื่นลี้ ที่ค่ายอาสาฯ
Sent:
 Thursday, October 31, 2013 5:16 PM

วัฒนธรรมสืบต่อความเป็นชาติ (19. นายหมื่นลี้ ที่ค่ายอาสาฯ)

๑. คะโลงเรากล่าวด้าน                             วัฒนธรรม์ ไทยเอย

ทุกสิ่งร่วมรวมกัน                                   พรั่งพร้อม

เหล่าชนต่างเสริญสรร                              ศิลป์ศาสตร์ เรานา

เราจึ่งกล่าวเพื่อน้อม                                ท่านผู้สร้างสรรค์

๒. ภาษาไทยหนึ่งด้วย                  อักษร ไทยเอย

อีกหนึ่งสระซ้อน                                     ร่วมเข้า

ไพเราะเมื่อกล่าวกลอน                             กาพย์เห่ โคลงนา

วรรณยุกต์เสียงเจ้า                                   เปล่งได้หลากเสียง

๓. ชุดไทยงามยิ่งไร้                      ใดเปรียบ ปานเอย

การแต่งกายไทยเรียบ                                ถ่องแท้

หญิงไทยจึ่งงามเพียบ                               พร้อมสิ่ง งามนา

ชนต่างยกย่องแล้                                     เมื่อครั้งโบราณสมัยฯ

๔. ศิลป์ศาสตร์ไทยหนึ่งนั้น           เด่นดี

ชนทั่วทั้งธานี                                                     ใช่น้อย

เหนือใต้ต่างก็มี                                       ศิลป์ศาสตร์ แสดงเอย

เราต่างได้เรียงร้อย                                    เฟื่องฟุ้งสู่สมัยฯ

๕. ภูมิปัญญาต่างรู้                      ไทยมี มากแล

เคียงคู่ไทยนานปี                                      เนิ่นช้า

อันบอกบ่งวิถี                                                     ไทยอยู่ กันนา

ชนต่างเสริญเลื่องหล้า                              แหล่งล้วนปัญญาวิถี

๖. มารยาทไทยนั้น                      งามงด แลนา

ลือเลื่องชื่อปรากฏ                                   แหล่งหล้า

ธรรมเนียมไทยยิ่งยศ                                 แผ่ทั่ว โลกเอย

ควรค่าเคียงคู่ฟ้า                                      แหล่งหล้าธานี

๗. ทุกสิ่งที่กล่าวล้วน                  วัฒนธรรม ไทยเอย

จงไตร่ตรองจดจา                                    แม่นไว้

นานไปยิ่งมากล้า                                     สูงค่า ลูกเอย

ลูกจ่งรู้ค่าไซร้                                          อย่าทิ้งสิ่งสรรค์

๘.กันโลงเรากล่าวนั้น                  วัฒนธรรม์ ไทยเอย

เพื่อบ่งบอกชาติพันธุ์                                แห่งหล้า

มีคุณค่าอนันต์                                        สืบต่อ ชาติเอย

ชาติอยู่ได้คู่ฟ้า                                         สืบด้วยวัฒนธรรม

 

………………………………. (19. นายหมื่นลี้ ที่ค่ายอาสาฯ)  ……………………………….  

 

 

20. ธุลี

Sent: Thursday, October 31, 2013 5:24 PM

วัฒนธรรมขัดขา (20. ธุลี)

                                    พัฒนาวัฒนะจ้ำ                                    จำเริญ

                                    ฟันฝ่ากล้าเผชิญ                                                  ชอกช้ำ

                                    สองขาขัดขาเดิน                                     เดียรสัตว์

                                    ใครต่างอย่าได้ล้ำ                                     เลิศพ้นตัวกู

                                                ดูอย่างสรรพสัตว์บ้าง                   บางตัว

                                    หน้ามืดหูตามัว                                       มั่วเหล้า

                                    หรือสันชาติญาณกลัว                              เกรงบาป

                                    ยังไม่ขัดขาเจ้า                                         เจ็บพร้อมวงศ์วาน

                                                มดงานขาหกย้ำ                           เหยียบตาม

                                    เดินแช่มช้อยงดงาม                                 สง่าแล้ว

                                    ใช่วัฒนธรรมยาม                                    ใดเล่า

                                    แต่วิวัฒน์จนแคล้ว                                   คลาดพ้นโพยภัย

                                                ต่างใครในที่นี้                             นามไทย

                                    ต่างพวกต่างดวงใจ                                  จิตอ้าง

                                    ต่างเห็นแก่พวกไป                                    เป็นเรื่อง

                                    ต่างประโยชน์มล้าง                                  หมดสิ้นสูญกัน                          

                                                พลันลืมธรรมนี่นั้น                      นำเมือง

                                    ควรแก่การประเทือง                                ทั่วหล้า

                                    สองขาขัดแค้นเคือง                                 คับอก

                                    ดีแต่อ้างร้องท้า                                       ถ่อยท้นวัฒนา

                                                พัฒนาวัฒนะจ้ำ                                      จำเริญ

                                    หรือวัฒนธรรมเผชิญ                                ซึ่งหน้า

                                    ขัดแข้งขัดขาเดิน                                     ดั่งคิด    ได้ฤๅ

                                    วัฒนธรรมขัดขาบ้า                                  บ่าบ้านเมืองทลาย๚ะ๛

………………………………. (20. ธุลี)  ……………………………….  

 

 21. ก.ไกรศิรกานท์
Sent: Thursday, October 31, 2013 10:25 PM

เมือง(ที่เคยมี)วัฒนธรรม (21. ก.ไกรศิรกานท์)

                                    เสียงลือเสียงเล่าอ้าง         อันใด  พี่เอย

                        หากบ่ใช่วัฒนธรรมไทย                แผ่หล้า

                        ทั่วโลกย่อมโยนใจ                        เป็นหนึ่ง

                        ศิลป์ส่งไทยสู่ฟ้า                          เฟื่องฟุ้งแดนไกล

                                    ในผืนดินแผ่นน้ำ             บริบูรณ์

                        น้ำจิตน้ำใจพูน                            ก่อเกื้อ

                        เมตตาบ่เคยสูญ                           ไปจาก ใจเฮย

                        น้องพี่นี้เอื้อเฟื้อ                           ทั่วแคว้นธานี

                                    ดนตรีมีมากร้อย              ทำนอง

                        โสตเสนาะตามครรลอง                ร่ายร้อง

                        ฉิ่งฉาบปี่กรับกลอง                      คลอขลุ่ย

                        เสียงโศกสงครามก้อง                   กล่อมด้วยคีตา

                                    ภาษาพาส่งสร้าง             กานท์กวี

                        โคลง ร่าย กาพย์ สุนทรี                 เลิศล้ำ

                        ภาษาส่งศักดิ์ศรี                          ปรากฏ

                        เป็นหลักแก้วผดุงค้ำ                     คู่พื้นแดนดิน

                                    ศิลปินศิลปะเลิศ              ปฏิมา-  กรรมเอย

                        แกะกนกแนวศาลา                      เรี่ยรุ้ง

                        โบสถ์วิหารหล่อศาลา                   เป็นรูป

                        สืบส่งพระธรรมฟุ้ง                      เฟื่องฟ้าปฏิปัน

                                    คืนวันผันผ่านพ้น            เลยไป

                        หลานลูกเลือดเชื้อไทย                  ละทิ้ง

                        “รัก”และ“ภาคภูมิใจ”                  เจ้าไป่ มีเฮย

                        เอาต่างชาติชูหิ้ง                          กราบไหว้วางแทน

                                    แดนดินถิ่นชื่อก้อง           กรุงไกร

                        นามว่า“ประเทศไทย”                  แห่งนี้

                        จะมีสิ่งดีใด                                เหลืออยู่

                        หมดวัฒนธรรมชี้             มอดม้วยเมืองไทย!

……………………………….(21. ก.ไกรศิรกานท์)   ……………………………….  

22. สิชล
Sent: Thursday, October 31, 2013 10:45 PM

วัฒนธรรม (22. สิชล)

(๑)

วิจิตรจารผ่านภาพยิ้ม                               “พิมพ์สยาม”

                        พิสุทธิ์สาย “ลายสือ “ งาม                                    สถิตหล้า

                        ศิลป์ศาสตร์ชาติเรืองราม                                      โรจน์รุ่ง

                        ภูมิปราชญ์ประกาศกล้า                                        เกริกก้องกิดาการ

                                    โอฬาร “เอกลักษณ์” แท้                           ภูมิไทย

                        บทแบบแนบแน่นใน                                            เลือดเนื้อ

                        “ขวานทอง” ผ่องอำไพ                                         เพียงเทพ ประดิษฐ์ฤๅ

                        “วัฒนธรรม” อะเคื้อ                                            คู่แคว้นล่มกัลป์ ฯ

(๒)

                                    ผ่านคืนวันผ่านแล้ว                                 เสื่อมสลาย

                        มี เกิด แก่  เจ็บ ตาย                                             หลุดพ้น

                        โอ้...สรรพสิ่งรอบกาย                                          แปลงเปลี่ยน

                        สายกระแสธารล้น                                               หลากแล้วผ่านเลย

                                    “สยาม” เอ๋ย ฝ่ากี่ “ร้อน”                          “ฝน” “หนาว”

                        กรำ “ศึก” แสนนานยาว                                       ยืดเยื้อ

                        ขมขื่นแปดเปื้อนคาว                                            โคลนสาด ประเทศเฮย

                        รอยรากเหง้าเน่าเนื้อ                                            โรคร้ายโรมรัน ฯ

(๓)

                                    รังสรรค์รอยภาพยิ้ม                                 พิมพ์ฉงน

                        วิบัติภาษาปน                                                     เปลี่ยนกระด้าง

                        ศิลป์ศาสตร์ชาติอับจน                                          เลียนแบบ ฝรั่งเอย

                        ภูมิเต่าเขลาเคว้งคว้าง                                          โลกล้วนติฉิน

                                   

ราคิน “เอกลักษณ์” ล้ำ                             แหลกลาญ

                        สิ้นสุดจิตวิญญาณ                                               รักษ์ไว้

                         สะเทือนร่อยรอยขวาน                                        ด้ามบิ่น อนาถนอ

                        “วัฒนธรรม” มอดไหม้                                         แหลกเถ้าธุลี ฯ

 (๔)

                                    ศรีอยุธเยศสิ้น                                         เสียศูนย์

                        บรรพบุรุษเพียบพูน                                              เทวษช้ำ

                        รักชาติเร่งเกื้อกูล                                                 กู้แผ่น- ดินเอย

                        คืน “เอกราช” คู่ค้ำ                                              ชื่อก้องภพไตร

                                    ชาติไทยใช่หมดผู้                         สืบสาน

                        มือต่อมือลูกหลาน                                               ร่วมสร้าง

                        กู้วิกฤตต่อตำนาน                                                โรจน์รุ่ง สยามนา

                        “วัฒนธรรม” มิรู้ร้าง                                            รักษ์ไว้นิรันดร์เทอญ        

………………………………. (22. สิชล)  ……………………………….  

 

23. เทพอรุณ 
Sent:
 Thursday, October 31, 2013 11:39 PM

                            วัฒนธรรม (23. เทพอรุณ) 

“วัฒนธรรม”บ่งชี้                                    ชาติชน

เพาะบ่มสังคมคน                                                เติบกล้า

“สมบัติชาติ”ยินยล                                              ยอดเยี่ยม

“เอกลักษณ์”ฝากดินฟ้า                                        อวดพื้นภูมิสยาม

งาม“ภาษา”ทิพย์ถ้อย                               มณีกานท์

“มารยาท”ส่อสันดาน                                          อ่อนน้อม

เลิศตำรับ“อาหาร”                                               ครัวโลก

“จิตรกรรม”งามพร้อม                                         เพริศแพร้วพูนผล

“ดนตรีไทย”เพราะพริ้ง                             เพลงพร

“นาฏศิลป์”สืบบวร                                             อ่อนช้อย

“การละเล่น” “ โขนละคร”                                   ครบเครื่อง รสแล

“วรรณคดี”ฝากถ้อย                                             สืบสร้างศักดิ์ศรี

“ประเพณี”เลิศล้ำ                                    เลอสมัย

“การแต่งกายแบบไทย”                                        เด่นเหย้า

“ศิลปะ”ความภูมิใจ                                            เป็นมิ่ง ขวัญแฮ

ศิลป์ศาสตร์คือ “รากเหง้า”                                    แห่งเบื้องปางบรรพ์

                                    “เมืองสวรรค์ของโลก”แล้ว                       เมืองสยาม

“วัฒนธรรม”งดงาม                                             เสกสร้าง

“ธำรง รักษ์”เดินตาม                                           สืบหลัก ชาตินา

โลกเปลี่ยนเวียนอาจร้าง                                        กลบสิ้นสูญหาย

            สายเกินหากปล่อยทิ้ง                               ดูแคลน

หลงต่างชาติลืมแดน                                            เหยียบด้าว

วัฒนธรรมมิหวงแหน                                          คุณค่า

ใจแผ่นดินแตกร้าว                                               หมดสิ้นเมืองสยาม                     

………………………………. (23. เทพอรุณ)    ……………………………….  

 

24. ปิยนัฐ
Sent: Thursday, October 31, 2013 11:58 PM

วัฒนธรรม : วิถีแห่งชีวิต (24. ปิยนัฐ)

                                    ๏ วัฒนธรรมเร่งรู้                                    นำตน

                        เป็นหลักผองมวลชน                                            ทั่วหล้า

                        เจริญมิ่งมงคล                                                     ทุกหมู่

                        มีสุขในภายหน้า                                                  เพราะด้วยวิถีฯ

                                    ๏ สี่หลักประจักษ์ให้                                จงดี

                        องค์ประกอบนำชีวี                                              ทราบไว้

                        ชนชาติแห่งใดมี                                                  เรืองรุ่ง

                        วัฒนธรรมไซร้                                                    สี่ด้านสืบสานฯ

                                    ๏ คติธรรมคู่บ้าน                                     นมนาน

                        แต่บุราณกาล                                                      ก่อเกื้อ

                        ช่วยเสริมต่อรากฐาน                                            สร้างสุข  สวัสดิ์เอย

                        ประพฤติชอบกอปรเอื้อ                                        เพื่อพ้องเกื้อหนุนฯ

                                    ๏ เนติธรรมสร้างไว้                                 ค้ำจุน

                        จัดระเบียบให้สมดุล                                             อยู่ได้

                        ขนบเก่ามีคุณ                                                     มากยิ่ง

                        จัดทุกสิ่งสรรพ์ให้                                                เรียบร้อยทุกสถานฯ

                                    ๏ วัตถุธรรมค่าล้ำ                                    เปรียบปาน

                        ศิลปะตระการ                                                     ทุกด้าน

                        งามทุกสิ่งเกินขาน                                               ให้หมด  ลงเอย

                        พึงรักษ์ไว้คู่บ้าน                                                  ทั่วแคว้นแดนสยามฯ

                                    ๏ สหธรรมหลักนี้                                    ทำตาม

                        ผูกรักมั่นทุกยาม                                                  ทุกผู้                                                                 

                       มารยาทงดงาม                                                   คงมั่น

                        ควรตระหนักเรียนรู้                                              คู่ไว้อย่าหายฯ

                                    สี่หลักประพฤติไว้                                ให้มี

                        เสริมส่งสร้างสิ่งดี                                               มากได้

                        เป็นสง่าราศี                                                       แก่หมู่   ชนเอย

                        วัฒนธรรมไซร้                                                    รักษไว้ยืนยงฯ                                                    

………………………………. (24. ปิยนัฐ)  ……………………………….  

 

 

 

25. พยุงศักดิ์ / ส่งครั้งแรก มีแก้ไข

วันที่ตอบ 2013-10-19 14:51:23

 ฟังย่า (25. พยุงศักดิ์/ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

๑. ฉันมานั่งใกล้เพื่อ                     สนทนา

กับย่าผู้ชรา                                                         นักแล้ว

ทุกเรื่องย่าเล่ามา                                                 แฝงคติ

ข้อคิดย่าอย่างแก้ว                                    ที่ได้เจียรนัย

๒. ใบหน้าเพียบร่องริ้ว                 ประสบการณ์

บอกเรื่องที่พบพาน                                              ผ่านพ้น

คุยกันสนุกสนาน                                                 กับย่า

ยันยุคเยาว์เก่าค้น                                     ขุดขึ้นเปรียบเปรย

๓. เลยถึงเรื่องนุ่งสั้น                                อวดนม

ย่าว่าความนิยม                                       เริ่มเพี้ยน

คิดกันว่าเหมาะสม                                              น่าตลก

แต่งล่อชายโถเที้ยน                                  เตี่ยวแล้วนางหนู

๔. ผู้หญิงรุ่นย่าครั้ง                                  ยังสาว

หวงน่องเนื้อขาขาว                                             ซ่อนไว้

ผ้าถุงนุ่งเรียบยาว                                     ตาตุ่ม

เสื้อปิดมิดชิดไร้                                                   โหว่เว้าใครเห็น

๕ เป็นศรีเสน่ห์เนื้อ                                  นวลสงวน

รักศักดิ์สตรีควร                                                   ค่าเนื้อ

มิต้องดอกยั่วยวน                                    ชายหื่น

งามจากใจใช่เฟื้อ                                     อวดให้ชายชม

๖. คมคำหญิงเฒ่าผู้                      เคยสาว

ฉายภาพหญิงจากคราว                            ยุคนั้น

เทียบกับยุคนี้ราว                                                 โกหก

แค่ช่วงปีสั้นสั้น                                                   เปลี่ยนแล้ววัฒนธรรม

 ………………………………. (25. พยุงศักดิ์/ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)  ……………………………….  

 

26. พยุงศักดิ์ / แก้ไขครั้งที่ 1

วันที่ตอบ 2013-10-19 15:02:31

(แก้ไขครั้งที่ ๑ แก้ไขคำของบทที่ ๑ บาทที่ ๔ วรรคที่ ๒ จากคำว่า เจียรนัยเป็น เจียระไน”)

 ฟังย่า (26. พยุงศักดิ์ / แก้ไขครั้งที่ 1)

 

๑. ฉันมานั่งใกล้เพื่อ                    สนทนา

กับย่าผู้ชรา                                                         นักแล้ว

ทุกเรื่องย่าเล่ามา                                                 แฝงคติ

ข้อคิดย่าอย่างแก้ว                                    ที่ได้เจียระไน

๒. ใบหน้าเพียบร่องริ้ว                             ประสบการณ์

บอกเรื่องที่พบพาน                                              ผ่านพ้น

คุยกันสนุกสนาน                                                 กับย่า

ยันยุคเยาว์เก่าค้น                                     ขุดขึ้นเปรียบเปรย

๓. เลยถึงเรื่องนุ่งสั้น                                อวดนม

ย่าว่าความนิยม                                       เริ่มเพี้ยน

คิดกันว่าเหมาะสม                                              น่าตลก

แต่งล่อชายโถเที้ยน                                  เตี่ยวแล้วนางหนู

๔. ผู้หญิงรุ่นย่าครั้ง                     ยังสาว

หวงน่องเนื้อขาขาว                                             ซ่อนไว้

ผ้าถุงนุ่งเรียบยาว                                     ตาตุ่ม

เสื้อปิดมิดชิดไร้                                                   โหว่เว้าใครเห็น

๕ เป็นศรีเสน่ห์เนื้อ                                  นวลสงวน

รักศักดิ์สตรีควร                                                   ค่าเนื้อ

มิต้องดอกยั่วยวน                                                ชายหื่น

งามจากใจใช่เฟื้อ                                     อวดให้ชายชม

๖. คมคำหญิงเฒ่าผู้                      เคยสาว

ฉายภาพหญิงจากคราว                            ยุคนั้น

เทียบกับยุคนี้ราว                                                 โกหก

แค่ช่วงปีสั้นสั้น                                                   เปลี่ยนแล้ววัฒนธรรม

………………………………. (26. พยุงศักดิ์ / แก้ไขครั้งที่ 1)   ……………………………….  

 

 

27. ทรงธรรม / ส่งครั้งแรก มีแก้ไข

วันที่ตอบ 2013-10-27 15:02:23

 "สิ่งชี้วัฒนธรรม" (27. ทรงธรรม / ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

ก้มเกศาหัตถ์ไหว้             ดูดี

เดินผ่านผู้ใหญ่มี                          จุ่งค้อม

สำรวมกิริยาศรี                           แลเลิศ งามนา

ประพฤติปฏิบัติล้อม                    รักษ์ด้วยปรารถนา ฯ

ภาษาไพเราะซึ้ง              น่าฟัง นักนา

คือบ่มคารมฝัง                            ติดถ้อย

ขาค่ะครับสืบยัง                          หลากรุ่น กันเฮย

วัฒนธรรมชดช้อย                        สง่าให้ใหลหลง ฯ

เยียรยงวัดหลากสร้าง       ลวดลาย

เทวสถานจรัสฉาย                       เรื่อเรื้อง

ศิลป์วิจิตรระบาย                         ปราณีต จริงนอ

กนกกระจังกระเบื้อง                    หลากล้วนสวมสมัย ฯ

 

วันพระใหญ่เหล่าล้วน                  ร่วมบุญ

พุทธศาสนิกหนุน                                    กราบไหว้

เช้าใส่บาตรเย็นสุน-                                 ทรีย-จิตเอย

พร้อมธูปเทียนเวียนไซร้                            สว่างต้องมโนรมย์ ฯ

เครื่องถมงานปั้นเด่น                    ฝีมือ

ศาสตร์เฉพาะเลื่องลือ                              ต่อก้าน

เอกลักษณ์ระบือ                                      เอนก อนันต์เฮย

วิศิษฎ์หลากหลายด้าน                              ชื่อชั้นอลังการ ฯ

อาหารไทยอร่อยลิ้น                      คาวหวาน

กระฉ่อนคือตำนาน                                  โลกรู้

ติดอันดับชื่นบาน                         เห็นอยู่ ทั่วเนอ

ต้มยำกุ้งเลิศผู้                                          ได้ลิ้มชิมสวรรค์ ฯ

จึ่งสรรค์ประดิษฐ์ถ้อย                   คารม

วัฒนธรรมด่ำสม                                     แซ่ซ้อง

ยิ้มสยามบ่งอารมณ์                                 ขนานเอก

อนุรักษ์เกริกเกียรติก้อง                             คู่ฟ้าไทยเทอญ

……………………………….  (27. ทรงธรรม / ส่งครั้งแรก มีแก้ไข) ……………………………….  

 

 

28. ทรงธรรม / แก้ไขครั้งที่ 1

วันที่ตอบ 2013-10-27 15:02:51

 "สิ่งชี้วัฒนธรรม" (28. ทรงธรรม / แก้ไขครั้งที่ 1)

 

ก้มเกศาหัตถ์ไหว้             ดูดี

เดินผ่านผู้ใหญ่มี                          จุ่งค้อม

สำรวมกิริยาศรี                           แลเลิศ งามนา

ประพฤติปฏิบัติล้อม                    รักษ์ด้วยปรารถนา ฯ

ภาษาไพเราะซึ้ง              น่าฟัง นักนา

คือบ่มคารมฝัง                            ติดถ้อย

ขาค่ะครับสืบยัง                          หลากรุ่น กันเฮย

วัฒนธรรมชดช้อย                        สง่าให้ใหลหลง ฯ

เยียรยงวัดหลากสร้าง       ลวดลาย

เทวสถานจรัสฉาย                       เรื่อเรื้อง

ศิลป์วิจิตรระบาย                         ปราณีต จริงนอ

กนกกระจังกระเบื้อง                    หลากล้วนสวมสมัย ฯ

วันพระใหญ่เหล่าล้วน                  ร่วมบุญ

พุทธศาสนิกหนุน                                    กราบไหว้

เช้าใส่บาตรเย็นสุน-                                 ทรีย-จิตเอย

พร้อมธูปเทียนเวียนไซร้                            สว่างต้องมโนรมย์ ฯ

เครื่องถมงานปั้นเด่น                    ฝีมือ

ศาสตร์เฉพาะเลื่องลือ                              ต่อก้าน

เอกลักษณ์ระบือ                                      เอนก อนันต์เฮย

วิศิษฎ์หลากหลายด้าน                              ชื่อชั้นอลังการ ฯ

อาหารไทยอร่อยลิ้น                      คาวหวาน

กระฉ่อนคือตำนาน                                  โลกรู้

ติดอันดับชื่นบาน                         เห็นอยู่ ทั่วเนอ

ต้มยำกุ้งเลิศผู้                                          ได้ลิ้มชิมสวรรค์ ฯ

จึ่งสรรค์ประดิษฐ์ถ้อย                   คารม

วัฒนธรรมด่ำสม                                     แซ่ซ้อง

ยิ้มสยามบ่งอารมณ์                                 ขนานเอก

อนุรักษ์เกริกเกียรติก้อง                             คู่ฟ้าไทยเทอญ ฯ

………………………………. (28. ทรงธรรม / แก้ไขครั้งที่ 1)  ……………………………….  

 

 

 

29. อนัตตา ว. / ส่งครั้งแรก มีแก้ไข

วันที่ตอบ 2013-10-28 13:32:42

 สมดุลแห่งวัฒนธรรมไทย ... (29. อนัตตา ว. / ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

วัฒนธรรมอันเลิศล้า                    แดนไทย

คือความมีน้ำใจ                                                  โอบอ้อม

อารีรักษาไว้                                           เผื่อแผ่แก่กัน

เอื้อเฟื้อแบ่งปันพร้อม                               อาบด้วยรอยยิ้ม

คราวลงแขกเกี่ยวข้าว                   เฮโล

งานเล็กงานใหญ่โต                                  ปรี่เข้า-

ช่วยบ่เอาถ้วยโถ                                      โอชามตอบแทน

ลงขันยันลงแรง..เอ้า !                              ฮุยเลฮุย !

จนสูนำเครื่องนั้น                       เข้าสู่นา

ล้วนต่างก้มหูก้มตา                                 เขี่ยจิ้ม

เดือดร้อนอยู่ตรงหน้า                                ไป่เห็นแล้วนอ

เพียงจ่อจอจ้อยิ้ม                                    หัวร่อคนเดียว

สมัครสมานสิหาไม่                     มีแล้ว

น้ำใจเคยผ่องแผ้ว                                   ผากแห้ง

ต้องเร่งหาเพชร, แก้ว,                              แหวน, เงิน, ทองเฮย

บำเรอเปรอปรนแม่ง                               แด่เทคโนโลยี

วัฒนธรรมจึงเปลี่ยนแปร           กลับกลาย

เป็น วัฒนาอธรรมไซร้                          เงยงอก

เจริญพันธุ์ความเลวร้าย                            เร็วกว่ารวงข้าว

ระวังอย่าให้ช้ำชอก                                  หัวอกหัวใจ

มือหนึ่งถือเครื่องนั้น                    ส่งสาร

มือหนึ่งยังว่างพลัน                                  ส่งผ้า-

ขะม้าซับเหงื่อกัน                                   ดังเช่นวันวาน

สมดุลนี้ชื่นอุรา                                      วัฒนธรรมไทย ๚๛

……………………………….(29. อนัตตา ว. / ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)   ……………………………….  

 

30. อนัตตา ว. / แก้ไขครั้งที่ 1

วันที่ตอบ 2013-10-31 20:41:19

 

********แก้ไขครั้งที่ 1*********  ในบทที่หนึ่ง จากคำว่า "เลิศล้า" เป็น "เลิศหล้า"

 สมดุลแห่งวัฒนธรรมไทย ... (30. อนัตตา ว. / แก้ไขครั้งที่ 1)

วัฒนธรรมอันเลิศหล้า                              แดนไทย

คือความมีน้ำใจ                                                  โอบอ้อม

อารีรักษาไว้                                           เผื่อแผ่แก่กัน

เอื้อเฟื้อแบ่งปันพร้อม                               อาบด้วยรอยยิ้ม

 

คราวลงแขกเกี่ยวข้าว                   เฮโล

งานเล็กงานใหญ่โต                                  ปรี่เข้า-

ช่วยบ่เอาถ้วยโถ                                      โอชามตอบแทน

ลงขันยันลงแรง..เอ้า !                              ฮุยเลฮุย !

จนสูนำเครื่องนั้น                        เข้าสู่นา

ล้วนต่างก้มหูก้มตา                                  เขี่ยจิ้ม

เดือดร้อนอยู่ตรงหน้า                                ไป่เห็นแล้วนอ

เพียงจ่อจอจ้อยิ้ม                                    หัวร่อคนเดียว

สมัครสมานสิหาไม่                     มีแล้ว

น้ำใจเคยผ่องแผ้ว                                   ผากแห้ง

ต้องเร่งหาเพชร, แก้ว,                              แหวน, เงิน, ทองเฮย

บำเรอเปรอปรนแม่ง                                แด่เทคโนโลยี

วัฒนธรรมจึงเปลี่ยนแปร           กลับกลาย

เป็น วัฒนาอธรรมไซร้                          เงยงอก

เจริญพันธุ์ความเลวร้าย                            เร็วกว่ารวงข้าว

ระวังอย่าให้ช้ำชอก                                  หัวอกหัวใจ

มือหนึ่งถือเครื่องนั้น                    ส่งสาร

มือหนึ่งยังว่างพลัน                                  ส่งผ้า-

ขะม้าซับเหงื่อกัน                                   ดังเช่นวันวาน

สมดุลนี้ชื่นอุรา                                      วัฒนธรรมไทย ๚๛

………………………………. (30. อนัตตา ว. / แก้ไขครั้งที่ 1)  ……………………………….  

 

 

31. ทรงธรรม

วันที่ตอบ 2013-10-28 14:23:11

 "วัฒนธรรมความเป็นอยู่" (31. ทรงธรรม)

ยายกับหลานร่วมด้วย       ทำหนอ ขนมเฮย

วันรุ่งพรุ่งจะรอ                           ใส่่ไหว้

ตักบาตรเพื่อเติมขอ                      บุญกอปร กูลแฮ

หวังกุศลสร้างให้                         ทุกข์ร้างห่างหาย ฯ

พอสายนุ่งผ้าซิ่น              ทอมือ

ไหว้พระเก้าวัดถือ                        ธูปพร้อม

เพิ่มสิริศรีคือ                               หมายมั่น ธรรมนอ

มีลิเกรำล้อม                               อ่อนช้อยแก้บน ฯ

ตามถนนหาบเร่นั้น          มากโยง นักเอย

ยี่สิบสี่ชั่วโมง                              บอกได้

หอมไก่ย่างควันโขมง                   ยายหยุด ซื้อนา

ช่างน่าทานนักไซร้                       ค่ำแล้วกลับสถาน ฯ

ชานเรือนใครเยี่ยมนั้น       ปรีดา

ต้อนรับขับสู้หา                           ยื่นน้ำ

กวักมือเรียกหลานมา                   คำนับ

เด็กยกมือไหว้ย้ำ                          รับไหว้หทัยปรีดิ์ ฯ

ไมตรีแขกยื่นด้วย มากผล-ไม้เฮย

ของฝากกำนัลยล                         มิตรแท้

แลกถามไถ่สุขหน                        ปรับทุกข์ กันเอย

แล้วร่ำลากันแล้                           ส่งยิ้มละไมเสมือน ฯ

ขึ้นเรือนนั่งจดจ้อง           ทีวี

หลังข่าวสองทุ่มมี                       ละครครื้น

บางเรื่องมากตบตี                        ที่สนั่น เมืองนอ

ยื้อแย่งผัวเมียฟื้น                         หลากน้ำเน่าฉาย ฯ

กลับกลายฮิตติดขั้น          ทั่วเมือง ท่านเฮย

คุยโขมงเรื่องเรือง                        เล่นชู้

สะท้อนสิ่งไป่เมลือง                    หลายหลาก ดูเทอญ

อ้างบทเรียนสอนรู้                       กิเลสอั้นตัณหา ฯ

บรรยายมาส่วนเสี้ยว        วิถี

แทรกวัฒนธรรมมี                       แค่พื้น

การกินอยู่คือลี-                           ลาบท ไทยแฮ

คิดต่างไม่ใช่ตื้น                           แตะน้อยสนุกสนาน ฯ

 

………………………………. (31. ทรงธรรม)  ……………………………….  

 

 

32. วิเวกวังเวง วิเหวงโหวง

วันที่ตอบ 2013-10-29 10:52:22

 วัฒนธรรมดุจกองไฟ (32. วิเวกวังเวง วิเหวงโหวง)

            ๑.  กาลวานวันก่อนรู้                   คุณไฟ

ชนเผ่าผองชนไพร                                    ล่าเนื้อ

ต่างแถถากเอาไป                                     รุมแย่ง

ใครแกร่งใครไวเอื้อ                                   แล่ชิ้นกลืนกิน

๒.  ชาชินโชยกลิ่นเนื้อ                  คาวเลือด

ชนเผ่าสันดานเดือด                                  เถื่อนถ้อย

เร้าความดิบคมเชือด                                            ชำแหละ แบะกิน

แสยะยิ้มโลหิตย้อย                                   อิ่มพริ้มพึงใจ

๓. เมียงหมายมองหยั่งฟ้า             แลสลัว

ดูหม่นหม่นมัวซัว                                                ทั่วด้าน

ในใจพรั่นหวั่นกลัว                                  ยามค่ำ

นอนสั่นสุดใจห้าม                                   รุ่มเร้าโรมรัน

๔. ครั้นวันวานหนึ่งนั้น                บังเอิญ

ชนหนึ่งนั้นเผชิญ                                     กลิ่นไหม้

เพลิงไฟป่าพะเนิน                                    คุกรุ่น เลียลาม

โชยกลิ่นอัคคีใกล้                                      ไขว่คว้ากำบัง

๕. ตั้งตาแลแส่รู้                          เปลวไฟ

สว่างวาวไสว                                         จับจ้อง

ดอมดมกลิ่นกวางไพร                               โชยท่าม กลางเพลิง

ชวนกิ่วหิวในท้อง                                    ร่ำร้องลองกิน

๖. เคยชินลืมกลิ่นสิ้น                    ดิบคาว

รสใหม่ชวนผองชาว-                               เถื่อนคว้าง

พบรสสุกแพรวพราว                                ดื่มด่ำ

โชติช่วงแห่งไฟสร้าง                                ก่อรู้เผ่าชน

๗. คนเขลาริเริ่มสร้าง                  กองไฟ

ความเถื่อนเหหายไป                                หมดสิ้น

แดนสว่างวาวไหว                                               รุกไล่  เงื้อมเงา

กินอิ่มรสเลิศลิ้น                                      ย่างเนื้อแบ่งปัน

๘. คิมหันต์ผิงนั่งหน้า                   ดวงเพลิง

ไออุ่นรื่นระเริง                                         ค่อมค้อม

กำเนิดก่อบันเทิง                                      หลอมหล่อ วิญญาณ์

ทุกทั่วชนรุมล้อม                                     โห่ร้องร่ายรำ

๙. วัฒนธรรมก่อเกื้อ                    อารยชน

เปรยดั่งเปรียบคุณคน                                ก่อไว้

รักษามิ่งมงคล                                         สานต่อ ดวงไฟ

แดนถิ่นเชิดชูไซร้                                     ค่าล้ำเรืองเมือง

๑๐. มลังเมลืองเรื่อเรื้อ                  เรืองรอง

เปลี่ยนดิบสู่สุกครอง                                 เลิศล้ำ

แดนดินมืดมิดหมอง                                 ต่อเมื่อ คนเมิน

ชนชาติลืมสืบค้ำ                                      ร่ำไห้เมืองครวญ       

 ………………………………. (32. วิเวกวังเวง วิเหวงโหวง)   ……………………………….  

 

 33. ณ คะนึง

วันที่ตอบ 2013-10-30 22:31:47

 วัฒนสยาม (33. ณ คะนึง)

        ๏ วัฒนธรรมถิ่นนี้                       แดนสยาม

ศรีสถิตประเทศคาม                            เขตแคว้น

บูรพะสง่างาม                                    ตามขนบ

เจนจบเรืองแน่นแฟ้น                          ผ่านฟ้ามาถึง ฯ

        ๏ หวนคะนึงเก่าโน้น                   บุราณ

รมบ่มสอนลูกหลาน                            อยู่ยั้ง

ทบทำเนียบเนานาน                            ขานรับ

นานัปการครั้ง                                    ตราบนี้ควรสนอง ฯ

        ๏ มองวิถีพรั่งพร้อม                     ดำเนิน

มรรยาทจรรยาเจริญ                            คู่ด้าว

กตัญญูท่านอย่าเมิน                             แทนท่าน        

วจนะภาษาน้าว                                 จิตน้อมถ่อมตน ฯ

        ๏ ผลดอกงามแต่ต้น                     ผลิใบ

พนมพุ่มชิดหทัย                                  นอบน้อม

วัฒนะประกอบนัย                              อวยชื่น

เอกลักษณ์นบไหว้พร้อม                       พุ่มเอื้อสิเนหา ฯ

        ๏ ดวงตาพาเพริศพริ้ง                   อิงกมล

ใสจรัสทัดเทียมยล                               ยะยิ้ม

งามจิตจุ่งนำดล                                  สารสื่อ

รอยหนึ่งภาคภูมิพริ้ม                           ชื่นยิ้มพิมพ์สยาม ฯ

        ๏ ตามสมัยนุ่งผ้า                         อาภรณ์

กาลเทศะสอน                                    ยวดย้ำ

บรรพบุรุษวิงวอน                               อ้อนเอ่ย

กาลล่วงเลยคงค้ำ                                ศักดิ์ไว้งามสงวน ฯ

        ๏ นวลจิตนำฉ่ำน้ำ                      ใจจริง

โลหิตสายเดียวอิง                                ชาติเชื้อ

ดำรงอยู่พักพิง                                     หนุนพึ่ง 

นำจิตนำใจเอื้อ                                   ก่อเกื้อเจือหนุน ฯ

        ๏ บุญคุณมรดกด้าว                     แดนทอง

สินศาสตร์ชาติสนอง                           สืบไว้

รอยทอถักครรลอง                               ศิลปะ

วาดสลักปักปั้นไซร้                             เลิศล้ำนำศิลป์ ฯ

        ๏ ถวิลศาสนล้วน                        ควรรักษ์

เสน่ห์ปลายจวัก                                  เกริกก้อง

นาฏคีตะฟูมฟัก                                  ตำรับ

สมบัติพิพัฒน์พ้อง                               เวี่ยไว้อุทาหรณ์ ฯ

        ๏ สังวรสำนึกน้อม                      ผสาน

มรดกตกทอดกาล                                บัดนี้                                          

บังเกิดเนิ่นเนานาน                              วัฒน- สยามเนอ

ชูชาติชนเฉพาะชี้                                ชาติเชื้อชาวสยาม ๚๛                                  

………………………………. (33. ณ คะนึง)  ……………………………….  

34. พีระพันธุ์

วันที่ตอบ 2013-10-31 15:04:55

วัฒนธรรม (34. พีระพันธุ์ )

๑.วัฒนธรรมชัดชี้                                    ชนชาติ

เติมต่อเตือนมิขาด                                    ขัดข้อง

วิถีวัฒน์เว้นทาส                                      ทุกที่

มรดกอดีตต้อง                                         ต่อเต้าตัวตน

๒ .ภาษาสารสื่อให้                                 เห็นความ

รูปสัทอักษรตาม                                      แต่เชื้อ

สำเนียงส่งเสียงงาม                                 เงยง่า

แปลงเปลี่ยนปรับปนเอื้อ                           เอ่ยถ้อยถ้วนคำ 

๓.ประเพณีเนื่องด้วย                               โดยเดิม

สรรพสิ่งส่งสรรค์เสริม                             สืบสร้าง

บ่อเกิดวิถีเติม                                          แตกต่าง

เอกลักษณ์สังคมอ้าง                                เอกอ้าอารยะ

            ๔.มารยาทอ่อนเอื้อ                      อบอุ่น

สุภาพแผ่การุญ                                        ร่มพร้อม

มิตรภาพเมตตาคุณ                                  ควรครบ

สมเหมาะประพฤติน้อม                           นบด้วยจรรยา

๕.ศิลปกรรมเลิศล้ำ                      เลองาม

สุนทรีย์แอร่มอร่าม                                              อะเคื้อ

สร้างสรรค์ศิลป์สรรพตาม                         ต่างยุค

ก่อเกิดศิลปกรรมเกื้อ                                กลั่นกล้ากริ่มการ

๖.ศาสนาแน่แน่วล้วน                              หลักเชื่อ

ศักดิ์สิทธิ์สิ่งนอกเหนือ                              นึกน้าว 

แนวธรรมะจุนเจือ                                               จิตแจ่ม

ลดละล้างทุกข์ร้าว                                   ล่วงแล้วสุขศานต์

๗.วัฒนธรรมเอกลักษณ์ล้ำ           เลอค่า

วัฒนธรรมสืบมรดกมา                             มั่นไว้

วัฒนธรรมเกิดก่อก้าวหน้า                         นั้นแน่

วัฒนธรรมมนุษย์ห่อนให้                           หัตห้าวหักหาญ

………………………………. (34. พีระพันธุ์ )  ……………………………….  

35. กะระตะ

วันที่ตอบ 2013-10-31 20:03:09

สืบสานวัฒนธรรม (35. กะระตะ)

๑. กาลเก่ากาลล่วงพ้น                  กาลมา

คุณพระคุณรักษา                                    สืบสร้าง

สิ่งดีมั่นนานมา                                       คงมั่น

วัฒนธรรมเล่าอ้าง                                   แซ่ซ้องเกริกไกร

๒. ไทยเป็นไทยมากล้น                ไทยมี

สานสืบสร้างสิ่งดี                                     ถี่ถ้วน

วิถีทุกผู้พลี                                                         เพื่อชาติ

น้ำใคร่น้ำใจล้วน                                     หล่อเลี้ยงกันมา

๓. เป็นแบบแผนแผ่นผ้า               ยึดครอง

สลักไว้เรืองรอง                                       รับรู้

ด้วยใจทุกดวงดอง                                   เกาะเกี่ยว

คารวะผู้ใหญ่ผู้                                        มากด้วยวัยวาน

๔. หญิงไทยใจแม่นี้                     โสภา

หวานอ่อนคำพูดจา                                  เอ่ยเอื้อน

ชุดกายงดงามตา                                                  ต้องจิต นะแม่

ยามแม่ไหวกายเยื้อน                                เหยียบย้าวราวหงส์

๕. ศาสนาสืบส่งให้                     ไทยเรือง

อารยธรรมประเทือง                                ทั่วหล้า

วัดวาแน่นนาเมือง                                   แน่นขนัด นักแล

ร่ำชื่อร่ำลืออ้า                                                      ออกอ้อนแอ่วไกล

๖. ไทยพบประสบซ้อง                 สวัสดี

เป็นบาทบทวิถี                                       ถ่องแท้

รอยยิ้มปริ่มวจี                                        ยามเอ่ย เอื้อนนา

ไทยจักงามเลืองแล้                                  เลื่องด้วยยิ้มสยาม

๗. แม้นไทยเล็กเล็กด้วย               แผ่นดิน

อารยชนยลยิน                                                     จบด้าน

อารยธรรมเลื่องลือบิน                              โบยสู่ ผองนา

ชื่อกู่ก้องสะท้าน                                      สะเทื้อนเป็นไทย

………………………………. (35. กะระตะ)  ……………………………….  

36. ศินีนาฏ

วันที่ตอบ 2013-10-31 20:50:25

 ชื่อเรื่อง...วิบัติวัฒนธรรม (36. ศินีนาฏ )

 

๑ ไทยเป็นไทเช่นนี้                       เป็นมา

ผันผ่านกาลเวลา                                     ใช่น้อย

กว่าจะวัฒนา                                          มาสู่

ความยิ่งใหญ่ใช่ด้อย                                             กว่าชั้นชนไหน

๒ บรรชนร่วมสร้าง                     ธานี

ร่วมร่างวางจารีต์                                    สืบเชื้อ

ถ่ายทอดประเพณี                                    สืบต่อ

รุ่นสู่รุ่นเลือดเนื้อ                                     รับรู้รักษา

๓ ไทยเรามายมากด้วย                 ศาสตร์ศิลป์

วัฒน์ธรรมระบิล                                     เลื่องฉื่อ

ทั่วโลกต่างยลยิน                                     ไทยถิ่น

เมืองแห่งรอยยิ้มสื้อ                                 ถิ่นนี้คือสยาม

๔ อดีตกาลก่อนนี้                        เรามี

โดดเด่นประเพณี                                     ยิ่งแล้ว

ชายหญิงเคร่งจารีต์                                  แบบอย่าง

ทุกย่างเพริดพริ้งแพร้ว                              ไม่ร้อนอ่อนไหว

๕ โลกหมุนเวียนเปลี่ยนด้าน          ตามกาล

หลายสิ่งแต่โบราณ                                              เริ่มร้าง

ลูกหลานบ่สืบสาน                                              การเก่า

เอาแต่อ้าปากอ้าง                                                ว่าช้าล้าสมัย

๖ ยุคสมัยเปลี่ยนแล้ว                  เพี้ยนไป

หลายสิ่งความเป็นไทย                             หมดสิ้น

หลงความศิวิไลซ์                                                ลืมกลิ่น  ไทยนา

ใจพ่ายแพ้แดดิ้น                                                  ลื่นล้มจมกระแส

………………………………. (36. ศินีนาฏ )  ……………………………….  

 

37. ทรงธรรม

วันที่ตอบ 2013-10-31 22:29:38

 "วัฒนธรรมบ้าน ๆ " (37. ทรงธรรม)

ยอกรค้อมนบไหว้                        สวยงาม

พริ้งเพริศแย้มยิ้มสยาม                         ประจักษ์หล้า

เป็นหนึ่งวัฒนธรรมตาม                       แบบอย่าง ไทยแฮ

เอื้อนเอ่ยไพเราะหน้า                           อิ่มด้วยไมตรี ฯ

ปราณีต่อผู้อ่อน-                     เยาว์เหมือน

หลานลูกปลูกเหย้าเรือน                       ชิดใกล้

สรรพนามเอ่ยเอยเตือน                         ดั่งสนิท-สนมนา

ป้าปู่ลุงอาให้                                      เรียกแม้เพิ่งเจอ ฯ

กระเชอตะกร้าเกี่ยว                 คล้องแขน

ตลาดสดใกล้เรือนแดน                         รุ่งเช้า

หมูเห็ดเป็ดไก่แสน                              สดใหม่

ปลาก็ดิ้นคละเคล้า                               ห่อหิ้วกลับสถาน ฯ

เดินผ่านร้านค้าย่อย                  ทักทาย

อาซิ่มอาซ้อขาย                                  ผลไม้

สบายดีนะคะยาย                                สวัส-ดีนา

กินอิ่มมีสุขให้                                     ลูกเต้าเคล้าคลอ ฯ

ถักทอสายสวาสดิ์ล้อม             ครอบครัว

เพาะบ่มหลานเนียนนัว                        แต่น้อย

แทนพ่อแม่งานรัว                               เช้าค่ำ

มารยาทฝึกพร้อย                                 ชดช้อยดังหวัง ฯ

สังคีตศิลป์เล่นร้อง                   ลีลา

งานวัดแสนโสภา                                เร่งล้อม

ใกล้เหย้าปรารถนา                              ชมอิ่ม-เอมฮา

บ้างก็ลำตัดพร้อม                                อีกด้านลิเก ฯ

ตังเมกรอบลูกชิ้น                    ผัดไทย

ปลาหมึกปิ้งหอมไกล                           เกี่ยวก้อย

สาวน้อยตกน้ำใส                                หัวร่อ

ลูกโป่งสวรรค์เด็กน้อย              ออดอ้อนอยากมี ฯ

รอยยิ้มปรีดิ์สุขด้วย                  สังคม

ไป่เบียดเบียนจนตรม                           เพื่อนพ้อง

ยืนยงวัฒนะกลม-                                เกลียวเถิด

สงบราษฎร์ประกาศก้อง                      อย่าให้มลายสูญ ฯ

……………………………….  (37. ทรงธรรม) ……………………………….  

 

 38. อานนท์

วันที่ตอบ 2013-10-31 23:19:59

 เรือของเด็กบ้านนอก (38. อานนท์)

 

มองกระดาษเศษแล้ว                   มองมัน

จากวาดเขียนเล่นกัน                                            เล่นบ้าง

พับเปลี่ยนเช่นเรืออัน-                                          มีค่า

เรือรบหรือเรือจ้าง                                               ท่ามคุ้งลำธาร

ปากเป่าผิวแผ่นน้ำ                       ธารา

ยามว่างห่างจากนา                                              ว่างเว้น

 คอยแล้วเล่าเวลา                                                หวนกลับ  บ้านแล

ไกลห่างกี่โยชน์เส้น                                 ห่างเนื้อลูกยา             

กลิ่นข้าวจากท้องทุ่ง                    อบอวล

ผุดผ่องทองเชิญชวน                                            ชิดเชื้อ

แต่ชีพสุดเรรวน                                                   กรรมซัด

จำจากบ้านเคยเอื้อ                                                แนบน้อมหลับนอน

โอละเห่...กล่อมก้อง                    จากหญิง  ชราใด

บ่งบอกความเป็นจริง                                           มนุษย์เจ้า

ความเอื่อยแผ่วแนบอิง                                         ดวงจิต ลูกนา

ผ่านช่วงกี่ช่วงเข้า                                                บอกล้วนโรยแรง

หญิงชราอยู่กับเหย้า                     เฝ้าเรือน

ชายแก่มิแชเชือน                                                 ปลูกข้าว

ลูกนั้นจากลางเลือน                                    มุ่งสู่  กรุงเอย

หลานเล็กก็รวดร้าว                                     แม่ข้าไปทำงาน

กี่รุ่นผ่านรุ่นแล้ว                          ผ่านไป

ต่างห่างจากบ้านไกล                                            ลับบ้าน

หาเงินส่งให้ใคร                                                  คอยอยู่

ของเล่นยังสะท้าน                                               จดไว้ในความจำ

มันเป็นวัฏจักรแล้ว                      ของคน

แถบถิ่นความอับจน                                    อวดอ้าง 

ที่ดินที่อยู่ตน                                               มีอยู่  มากเฮย

ล้วนแต่คนแก่สร้าง                                      ค่าไว้ยังคง                       

เรือกระดาษท่ามคุ้ง                      ลำธาร

จะอยู่ได้กี่นาน                                                     กี่ห้วง

ต้องจมลับบาดาล                                                ลงดิ่ง 

มิอาจมีสิทธิ์ท้วง                                                 เรื่องนั้นธรรมดา

รอเรือบังคับได้                            เล่นกัน

คำแม่ยังยืนยัน                                                     จะให้

ไม่นานนักถึงวัน                                      หวนสู่ บ้านนา

ของเล่นติดมือไม้                                         สุขล้นสุขใจ

ถึงคราความแก่เข้า-                     มาเยือน

สำนึกแม่ย้ำเตือน                                                 แม่ช้ำ

ต้องคอยอยู่เฝ้าเรือน                                             แทนทด  แม่เฮย

คือวัฒนธรรมล้ำ                                      อยู่สล้างมิเลือน              

 ………………………………. (38. อานนท์)  ……………………………….  

 

 39. นนท์  ณ ศรีเทพ

ไปรษณีย์

 วัฒนธรรมไทย (39. นนท์  ณ ศรีเทพ)

 

            วัฒนธรรมที่แท้                           ไทยมี

คำว่า สวัสดี                                        นบไหว้

ยิ้มแย้มแจ่มไมตรี                                    ตอบต่อ

อีกกล่าว ขอบคุณ ได้                            ถูกต้องตามกาล

            พื้นฐานไทยอ่อนน้อม                   ถ่อมตน

สูงต่ำอีกล่างบน                                      บอกชั้น

ยายตาปู่ย่ายล                                          ยกย่อง

วัฒนธรรมไทยนั้น                                   นั่นย้ำจำเริญ

            เดินตามแบบอย่างแล้ว                 ภูมิใจ

เฉกเล่นดนตรีไทย                                    ขับร้อง

โขนลำตัดเพลงไพ-                                   เราะยิ่ง

ขนบธรรมเนียมคล้อง                               ครอบไว้เวียงสยาม

            งามศิลปะศาสตร์ทั้ง                    วัดวัง

งามกราบไหว้จีรัง                                    โรจน์แล้ว

งามชาติศาสนายัง                                   ยึดมั่น

งามจิตกตัญญูแผ้ว                                   ผ่องล้วนเรืองสม

            สังคมไทยอยู่ด้วย             คุณธรรม

ขอโทษ อย่าเกิดกรรม                            กล่าวพลั้ง

อีก ขออภัย คำ                                     สุภาพ

ขอขมา เพื่อยั้ง                                     หยุดแท้โทษทัณฑ์

            บรรพบุรุษสร้าง                          สรรค์มา

สืบอักษรภาษา                                       สถิตถ้วน

พูดเขียนอ่านจรรยา                                  มารยาท

วัฒนธรรมไทยล้วน                                  โลกรู้ชูไทย

………………………………. (39. นนท์  ณ ศรีเทพ)  ……………………………….  

 

 40. เพ็ญไพร

ไปรษณีย์

 ภาษาพาเพี้ยน ต่างแต้มแตกเติม ใครเริ่ม (40. เพ็ญไพร)

            ภาษาพาเพิ่มเพี้ยน                       เพียรแจม จริงฤา

ใครก่อนใครตามแตม                               ต่อมตื้น

ใครคิดเริ่มปมแปม                                   ปลายปล่อย ลอยแล

ใครใคร่คิดผูกพื้น                         เพื่อนใช้รวมกัน

            อัลไลสลิดแสร้ง                           ซีนใคร อิมเอย

เตงบ่องตง สงสัย                                     สบสิ้น

กงกงต่อมตง ใจ                                      เจียนจิต ใจนา

มะแปงหยั่มมาจิ้น                                   เจิดจ้าจินตน์การ

            เพลินใจวัยรุ่นจ้อ                         จุงเบย

ดิลถ่ามตงลงเอย                                      เอ่ยเอื้อน

น่าร็อกอะจังเลย                                      เรียนร่ำ คำนา

ฝุดฝุดชิมิเมื้อน                                        มาดแม้นมวนคำ

            ขออำไพปลาบปลื้ม                      ลืมตัว

จีว่าเกินเกรงกลัว                                     กลอกกลิ้ง

คำ ไรหรารินรัว                                       ไรร่ำ เรียมเลย

โอปะเต็งงุ้งงิ้ง                                         คี่เม้งเมามัน

            สารพันปลูกถ้อย                          ถกวจี จรรเอย

เสน่ห์วันนาบี                                         บอกโบ้ย

อินไปกับดรุณี                                         นวลแน่ง เนอนา

เธออืดอาดจ้อยย้อย                                  เชื่องช้าน่ามคาน

            ชำนาญชาญเชี่ยวใช้                     ชอนไช ชวนฮา

ฟินอย่างไรสุกใส                         สรรสร้าง

มะรุเฟ่ยฟูมฟาย                                       ฟอนวิ่น วือนา

นอยด์หน่อยตรองตรึกบ้าง             ต่างแต้มแตกเติม

………………………………. (40. เพ็ญไพร)  ……………………………….  

 

41. สุจิตรา        

ไปรษณีย์

รักษ์วัฒนธรรมไทย (41. สุจิตรา)

            ภาษาคือสื่อสร้าง                        สังคม

บอกกล่าวเล่าความสม                 สวัสดิ์ถ้วน

รักชอบชื่นนิยม                           ยกย่อง

วัฒนธรรมล้วน                           หลากด้วยความดี

            วิถีไทยแต่ครั้ง                 โบราณ

ปู่ย่าตายายสาน                           สืบไว้

สืบมาเพื่อลูกหลาน                      อนุรักษ์

วัฒนธรรมนำให้                          โลกรู้ตรูตรา

            ภูมิปัญญาเยี่ยมแท้           นรไทย

ศิลปะศาสตร์แห่งสมัย                  ประดิษฐ์สร้าง

เฉกโบสถ์วัดเวียงชัย                     งามเด่น

เฉิดช่อฟ้าโบสถ์อ้าง                     อวดได้ศิลป์สยาม

            งามจรรยาภาพพร้อม       พิบูลย์

งามจิตแจ่มจำรูญ                                    เลิศแล้ว

งามคำพูดยิ่งพูน                          รักเพิ่ม

งามแต่งกายพรายแพร้ว                เพริศพริ้งสุภาพสม

            สังคมเคารพผู้                 ผ่องคุณ

สูงต่ำนำจิตหนุน                         นอบน้อม

ศรัทธาศาสน์เสริมบุญ                  บอกบ่ง

วัฒนธรรมไทยล้อม                      ชาติด้วยภูมิธรรม

            จำเริญจำรัสเรื้อง             เรืองนาม

เรืองราษฎร์ชาติสยาม                  อยู่ยั้ง

วัฒนธรรมงาม                            สงบสง่า

รักษ์ชาติศาสน์ราชทั้ง                   เทิดไท้นิรันดร์

………………………………. (41. สุจิตรา)  ……………………………….  

 

42. วงศ์ 

ไปรษณีย์           

วัฒนธรรม (42. วงศ์)

            งามศิลป์ศิลป์เสกสร้าง     สรรค์สรวง

ปานเปรียบเทียบใดปวง                ไป่สู้

ศิลป์ไทยเด่นดุจดวง                     ประทีป ส่องนา

ส่องสู่ชนตื่นรู้                             หล่อเลี้ยงใจเสมอ

            บำเรอใจแต่งให้               หวานฤดี

หวานแว่วเสียงดนตรี                   สดับได้

หวานคำร่ำคำกวี                         กวีแต่ง

หวานอย่าลดต่ำใต้                       ต่อถ้อยคำแสลง

            คำแถลงแจ้งบอกถ้อย       ภาษา

สารสื่อความเป็นมา                    มากล้น

แจ้งประจักษ์เจนตา                     เขียนสื่อ

เป็นชาติไทยแต่ต้น                       เพราะพริ้งคำขาน

            ทานธรรมนำก่อเกื้อ         ศาสนา

ความเชื่อหมายนำพา                   หลุดพ้น

เข้าใจอิทัปปัจยตา                    ทุกเรื่อง

ไตรลักษณ์โลกย์เลื่องล้น                ล่วงแล้วนิพพาน

            สืบสานในสิ่งสร้าง          สุขเฮย

ทุกถิ่นอย่าเลือนเลย                      แหล่งรู้

อาหารหยูกยาครู                          เคยบอก

บีบนวดใครไม่สู้                          สั่งให้โรคหาย

            แต่งกายลืมแต่งให้           หัวใจ

หญิงเปลี่ยนชายแปลกไป               ค่าสิ้น

บ้างชอบนุ่งแปลกไฉน                  ผ้าหด    หายนา

ชอบอวดพุงออกปลิ้น                   อย่าสั้นเลยหู

            อดสูพ่อแม่น้อง               พี่นา

ควรแต่งด้วยปัญญา                      อย่าดื้อ

ทุกสิ่งที่มีมา                               เหตุก่อ

หาใช่ใจอยากซื้อ                          แข่งค้าของขาย

            หายใจก็อย่าให้                หายจิต

หายห่างแค่ความคิด                     ผิดร้าย

ชีวิตหนึ่งชีวิต                              เกิดก่อ   มานา

มีสิ่งใดบอกคล้าย             ว่าแท้เราไทย.    

                        ………………………………. (42. วงศ์)  ……………………………….  

 43. สรศักดิ์ 

ไปรษณีย์

วัฒนธรรมล้ำค่า” (43. สรศักดิ์)

            สายพันธุ์งามสง่าเงื้อม                 เงาบุราณ

อิฐเก่าเล่าตำนาน                                     ฉ่องเนื้อ

พราวกว่าช่างมณีการ                               จับเหลี่ยม-เพชรแล

ตกทอดสืบชาติเชื้อ                                  ช่องชี้ปูมธรา ฯ

            ภูมิปัญญาอยู่ค้ำ                           ครองสมัย

ปีเคลื่อนเดือนคลาไคล                              คู่หล้า

เฉกวัฒนธรรมไทย                                   ทอสถิต ไผทนอ

เป็นหนึ่งลำแสงกล้า                                 ส่องให้โลกเห็น ฯ

            เพ็ญบุญบานคับรั้ว                       อาราม

ตรุษ,สารท,สงกรานต์งาม                         ธวัชพลิ้ว

พระทรายก่อปทีปตาม                              เทียนธูป ถวายเนอ

ลอยกระทงนบนิ้ว                                    ตั้งจิตอธิษฐาน ฯ

            ชาญศิลป์เชี่ยวศาสตร์เรื้อง รังสรรค์

กรกนกหนุนหน้าบัน                                เบิกสร้าง

ปรางค์,ปราสาทหยัดยัน                            ยอยอด-ฉัตรเฮย

จำหลักจำลายอ้าง                                    อ่อนช้อยเฉิดฉัน ฯ

            วรรณกรรมกำซาบซึ้ง                  สุนทรีย์

คุณค่าภาษามี                                         มากพ้น

นวลเสน่ห์คำกวี                                      วากยะ รื่นแฮ

แลร่ายรำเลิศล้น                                      หลากฟ้อนสไบเฉียง ฯ

            เสียงพิณพากย์เกริกก้อง                กราวใน

ร้องส่งสุดจับใจ                                       เจื้อยแจ้ว

สวมแพรนุ่งม่วงไหม                               นั่งพับ-เพียบนา

หมอบ,กราบพิศเพริศแพร้ว                       ท่าไหว้ลือนาม ฯ

            ยิ้มสยามสยบร้อน                        ประโลมทรวง

น้ำพริก,ผัก ตักตวง                                  สุขได้

เทิดพระบาทในหลวง                               ทุกยุค-สมัยนอ

เอกลักษณ์พิทักษ์ไว้                                 ตราบฟ้าดินสลาย ฯ

                        ………………………………. (43. สรศักดิ์)  ……………………………….  

44. นนท์  ณ ศรีเทพ

ไปรษณีย์

 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก (44. นนท์  ณ ศรีเทพ)

            มนุษย์มักร่ำร้อง              ดิ้นรน

มักบ่นว่าจนจน                           เจ็บโว้ย

ตะโกนด่าเบื้องบน                       บอกเทพ

บ่นว่าอยากตายโอ้ย                      อยากแท้มรณา

            เทวาเบือนบิดข้อ             ร้องเรียน

จุดธูปเก้าดอกเทียน                      จุดด้วย

นบสิ่งศักดิ์สิทธิ์เวียน                    วอนอยู่

เป็ดไก่ปลาและกล้วย                    กราบไหว้ทุกวัน

            สำคัญว่าเลิศแท้              ขอพร

อีก พ่อขุนด่าน วอน                  พร่ำเพ้อ

ละกิจกลับนั่งนอน                       ขอโชค

โปรดอย่าให้ลูกเก้อ                       กัดก้อนเกลือกิน

            ติดสินบนเทพเจ้า            ทั้งที

เป็ดไก่หัวหมูมี                            มากแล้

จากนั้นเสี่ยงเซียมซี                     ขอเลข

สองเจ็ด เลขเด็ดแท้                  ท่านให้เลขดี

            คราวนี้ออกสี่ห้า              หวยรัฐ

กินเรียบเลขจากวัด                      พ่อให้

หลวงพ่อทุกจังหวัด                     โปรดช่วย

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไกลใกล้                     ทั่วทั้งสากล

            จงดลเลขเด่นร้อง ขอรวย

อดอยากยังเอออวย                       อีกแล้ว

รอวันถูกเลขหวย                         ลอตเตอรี่

ผลสุดท้ายไม่แคล้ว                      เชือกคล้องผูกคอ

            ………………………………. (44. นนท์  ณ ศรีเทพ)  ……………………………….  

 

*************************************************************

45. สุชาติ / ผิดกติกา ส่งเกินกำหนด
Sent: Friday, November 1, 2013 12:02 AM
วัฒนธรรมานุสติ

                                               

โอ้อารยชาติเชื้อ               ชนสยาม

                   วัฒนธรรมเรืองราม                          รุ่งฟ้า

                   ภูมิศิลป์ถิ่นไทยงาม                           วิจิตร

                   ภูมิปราชญ์ประดับหล้า                      เยี่ยมรุ้งเรืองโพยม

                             เพ็ญโสมพรายพร่างฟื้น            รัตติกาล

                   เฉกวัฒนธรรมสาน                           สว่างด้าว

                   เพริศพราวพากย์ขับขาน                    เลิศลักษณ์

                   หอมคติธรรมอะคร้าว                       ชื่นฟ้าดินชม

                             เพียงพรหมพิคเณศพร้อม         เสกสวรรค์

                   วังวัดวิจิตรสุวรรณ                           ผ่องพื้น

                   ปูนปั้นประติมากรรม์                        ลายเลื่อม ระยับเอย

                   งามวัตถุธรรมแช่มชื้น                       เชิดด้าวแดนสรวง

                             ดวงหน้าประดับยิ้ม                 พิมพ์ใจ

                   กิริยามารยาทไทย                             เลิศแล้ว

                   “สวัสดีสวัสดิชัย                            ชูชาติ ชนแฮ

                   สืบสหธรรมผ่องแผ้ว                        ประดับไว้ในกมล

                             ชนใดไหนเด่นล้ำ                    ลือชา

                   ขนบประเพณีพัฒนา                         เนื่องไว้

                   ตัวบทกฎหมายพา                            ผิดชอบ

                   แสงเนติธรรมส่องให้                        จิตแจ้งแสงธรรม

                             ดำรงรักษ์ชาติไว้                     วงศ์สยาม

                   จงรักวัฒนธรรมงาม                         สืบสร้าง

                   ราษฎร์รัฐพิพัฒน์ตาม                        บรรพบุรุษ

                   ไทยย่อมไทยอวดอ้าง                         เลื่องหล้าอารยชน

……………………………….   ……………………………….  

 




โคลงสี่สุภาพ 2556

ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป (โคลงสี่สุภาพ) : หัวข้อ “สากล”
ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป (โคลงสี่สุภาพ) : หัวข้อ “มิตรภาพ”



bulletผลร้อยกรองออนไลน์ 2558
dot
ประกวดร้อยกรองออนไลน์ครั้งที่ 7
dot
bulletข้อมูลการประกวดครั้งที่ 7, 2557
bulletผังร้อยกรอง
bulletอ่านโคลงประกวด 2557
bulletอ่านกลอนประกวด 2557
bulletอ่านกาพย์ยานีประกวด 2557
bulletผลการประกวดร้อยกรอง ปี 2557
dot
ข่าวสาร ข้อมูลสมาคม
dot
bulletกรรมการสมาคมสมัยที่ ๑๕-๑๖
bulletนายกสมาคมสมัยที่ ๑๗
bulletติดต่อนายกสมาคมนักกลอน
bulletติดต่อฝ่ายดูแลส่วนต่างๆ
bulletสมัครสมาชิกสมาคมนักกลอน
bulletนักกลอนตัวอย่าง ๒๕๕๓
dot
หัวข้อน่าสนใจ
dot
bulletรวมลิ้งค์เว็บไซต์น่าสนใจ
bulletส่งบทสักวา น.ส.พ. สยามรัฐ
bulletวารสารวิทยาจารย์ รับต้นฉบับ
bulletส่งข้อเขียนครูในดวงใจ
dot
แนะนำหนังสือ
dot
bulletหน้ารวมหนังสือ
bulletคู่มือเรียนเขียนกลอน
bulletกาสรคำฉันท์ - สมคิด สิงสง
bulletหนังสือสุรินทร์สโมสร
bulletฝากโลกนี้ไว้ในหัวใจเธอ - กอนกูย
bulletเลือน - อติภพ
bulletธาร ธรรมโฆษณ์
bulletนายทิวา
bulletกลอนเกียรติยศ
bulletอ้อมกอดแห่งท้องทุ่ง
bulletทองแถม นาถจำนง
bulletพงศาวดารพิภพ
bulletโป๊ยเซียน คะนองฤทธิ์
dot
โครงการประกวดต่างๆ
dot
bulletนายอินทร์อะวอร์ด ๒๕๕๖
bulletประกวดรางวัลซีไรท์ปี ๒๕๕๖
bulletรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๕๖
bulletรางวัลวรรณกรรมรามคำแหง ๒๕๕๖
dot
ผลตัดสินรางวัลต่างๆ
dot
bulletรางวัลศรีบูรพา ๒๕๕๖
bulletผลรางวัลซีไรต์ ๒๕๕๗
bulletผลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ๒๕๕๗
bulletผลรางวัลแว่นแก้ว ๗ (๒๕๕๓)
bulletผลกลอนวิถีคนกับควาย
bulletผลร้อยกรอง “ผมจะเป็นคนดี”
bulletรางวัลนราธิป ๒๕๕๓
bulletนักเขียนอมตะ คนที่ ๖ (๒๕๕๕)
bulletนักเขียนรางวัลศรีบูรพา ๒๕๕๖
bulletศิลปินมรดกอีสาน ๒๕๕๔
bulletผลรางวัลพานแว่นฟ้า ๒๕๕๕
bulletผลรางวัลรามคำแหง ๒๕๕๖
bulletศิลปินแห่งชาติ ๒๕๕๕
bulletผลประกวดหนังสือ ชีวิตใหม่ 2
dot
ข่าวคราวของลมหายใจ
dot
dot
Weblink
dot
bulletอ่านกลอนประกวด 2556

หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก
สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
ศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาภาษาไทย มศว
เว็บรวมกระทู้ อาศรมชาวโคลง ใน pantip.com
หนังสืออีศาน


Copyright © 2010 All Rights Reserved.
ติดต่อ นายกสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ทองแถม นาถจำนง
โทรศัพท์ ๐๘๙-๑๒๓๔๗๕๔ อีเมล์ tongtham.n@hotmail.com

สำนักพิมพ์แม่โพสพ