หน้าหลัก | ข้อมูลสมาคม | บทความ | บทร้อยกรอง | ข่าวสารประชาสัมพันธ์ | กิจกรรม | กระทู้ | หนังสือ | ร้อยกรองออนไลน์ |
วิเคราะห์เพลง ลาวคำหอม | |
เพลง : ลาวคำหอม
| |
ผู้ตั้งกระทู้ kelvin :: วันที่ลงประกาศ 2008-03-23 14:44:41 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1082923) | |
ฟังเพลง http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tao&month=03-2008&date=22&group=7&gblog=27
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น เต๋า วันที่ตอบ 2008-03-23 14:59:40 |
ความคิดเห็นที่ 2 (1084796) | |
เพิ่มเติม
ในเนื้อเพลงลาวคำหอม กล่าวถึง ดอกมณฑาทอง และดอกโกมล ท่อนที่ว่า
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น กวิน วันที่ตอบ 2008-03-23 20:45:33 |
ความคิดเห็นที่ 3 (1960687) | |
ลึกซึ้งยิ่งนัก | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เจ วันที่ตอบ 2009-07-10 11:10:04 |
ความคิดเห็นที่ 4 (2107180) | |
louis vuitton mens fake replica handbags and lifestyles When it comes to louis vuitton buy wholesale handbags for louis vuitton wallet lv replica. | |
ผู้แสดงความคิดเห็น daytona (sional-at-google-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-11 08:04:00 |
ความคิดเห็นที่ 5 (2147084) | |
very nice song krub.. | |
ผู้แสดงความคิดเห็น kong (shusongun-at-windowslive-dot-com)วันที่ตอบ 2011-01-21 20:00:05 |
ความคิดเห็นที่ 6 (2214942) | |
1. อย่าไป serious กับข้อเท็จจริงที่ศิลปินผู้แต่งเพลงใช้เลย สวรรค์ชั้นดุสิตไม่มีดอกไม้สวรรค์ ท่านผู้แต่งก็ไปขอยืมดอกไม้วิเศษที่อยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มา เพื่อให้เกิดความไพเราะได้อารมณ์ ท่านคงไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงตามตำนานหรอก 2. ความหมายสำหรับคำว่า "นอนวัน" ที่คุณขวนขวายหาคำแปลต่าง ๆ มาให้เราอ่านนั้น ก็น่าสนใจดี แต่ผมคิดอย่างง่าย ๆ ว่าท่านผู้แต่งเพลงนี้ท่านไม่ได้คิดลึกถึงปานนั้น ท่าน "น่า" จะหมายความว่านอนกี่วันกี่คืน "วันแล้ววันเล่า" ก็เฝ้าแต่คิดถึง "เจ้าดวงดอกโกมล" 3. สิ่งที่อยากจะขอรบกวนก็คือ ช่วยหาข้อมูลให้ได้ไหมว่า จ่าเผ่น ผยองยิ่ง (ฟังเหมือนกับเป็นนามแฝง) เป็นใคร แต่งเพลงนี้เมื่อใด ใอกาสใด และพระยาประสานดุริยศัพท์ ผู้ประพันธ์ทำนองดนตรีนั้นท่านเป็นใคร และประพันธ์เพลงนี้ประมาณ พ.ศ. ใด ขอขอบคุณอีกครั้งที่มีความอุตสาหะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลาวคำหอมมาให้เราอ่าน พร้อมทั้งวิจารณ์กับให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ผู้สนใจ อยากให้พวกเราทำเยี่ยงนี้กันมาก ๆ เมืองไทยจะได้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้เสียที | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อนุกูล จินตรักษ์ วันที่ตอบ 2011-09-10 20:22:18 |
ความคิดเห็นที่ 7 (2247859) | |
ขอบคุณค่ะ ที่ให้ความรู้ดีๆ และลึกซึ้งมาก บอกตามตรงว่าตอนฟังเฉยๆนั้นไม่ค่อยเข้าใจนัก และขอเสนอแนะว่า หากเราอยากรู้ว่าผู้ประพันธ์เพลงนี้หมายความอย่างไร ก็คงต้องศึกษาลักษณะนิสัยของท่าน และดูเพลงอื่นๆว่ามีรูปแบบอย่างไร คงจะพอทำให้เราได้ความกระจ่างมากขึ้นอีกนะคะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กนกวรรณ บุญเครือบ วันที่ตอบ 2012-01-25 22:40:29 |
ความคิดเห็นที่ 8 (2359092) | |
เห็นใครต่อใครถกความหมายของหลายคำในเพลงลาวคำหอมแล้ว แต่แปลกใจที่มีแต่คนข้ามคำว่า "นอนให้" ไปเสียนี่ คำเดิมน่าจะเป็น "นอนไห้" คือนอนร้องไห้ ถ้าท่านใดสามารถหาต้นฉบับรุ่นเก่ามาดูได้ก็จะดีว่าเป็น "ไห้" หรือ "ให้" ก็นแน่ ในภาษาลาวและอีสานของเราแม้จนทุกวันนี้ เขาไม่พูดว่าร้องไห้ แต่จะพูดว่า "ไห้" คำเดียว ซึ่งหมายถึงว่าร้องไห้ ต้องเข้าใจตามนี้จึงจะเข้ากับบริบทของเพลงลาว เพราะฉะนั้น "โอ้อกคิดถึง คิดถึงคะนึงนอนวัน นอนไห้ใฝ่ฝัน...." จึงน่าจะเดาความคิดของท่านผู้ประพันธ์ทั้งสองว่า .โอ้อกคิดถึง คิดถึงทุกคืนวัน ได้แต่นอนร้องไห้และใฝ่ฝัน..." เห็นด้วยกับความเห็นที่ 6 ว่าอย่าไปให้ความสำคัญกับภาษาเปรียบเทียบของกวีมากนัก เมื่ออ่านหนังสือวรรณคดีหรือเพลงในลักษณะนี้ อย่ามัวเสียเวลาไปจ้องจับผิดว่าผู้แต่งเว่อร์ไปหรือเปล่า แต้ควรจะให้ความสำคัญกับความไพเราะมากกว่าอย่างอื่น เราอ่านหนังสือหรือพังเพลงเพื่อเอาความไพเราะและการเปรียบเทียบ ไม่ใช่คอยถามว่า "จริงหรือ?" เช่นเรื่องลิลิตพระลอ ที่พระลอกับพระเพื่อนพระแพงเกิดหลงรักกันขึ้นทั้ง ๆ ที่ไม่เคยได้พบหน้ากันเลย ถามว่าโรแมนติคดีไหม กวีเมื่อ 400 กว่าปีก่อนมีอารมณ์ฝันถึงขนาดนี้เชียวหรือ? ผมว่าเมื่ออ่านวรรณคดีหรือฟังเพลงสมัยก่อน ถ้าฟังแล้วเกิดสุนทรียภาพทั้งในด้านวรรณศิลป์และคีตศิลป์ก็ควรถือว่าเป็นบุญตาที่ได้อ่านและบุญหูที่ได้ฟังแล้ว พร้อมทั้งเกิดความรู้สึกสงบเย็นและปลื้มปิติในอัจฉริยภาพของบรรพ-ชนของเรา ก็ควรจะน่ายินดีแล้ว และควรจะขอบคุณบรรดาท่านบรรพชนเหล่านั้นที่ได้รังสรรค์ผลงานชั้นเลิศไว้ให้เราได้อ่านและฟังเพื่อความรื่นรมย์ พร้อมทั้งทำให้เกิดความภูมิใจในวัฒนธรรมของเรา ทำให้เราไม่ต้องรู้สึกอายคนชาติไหนทั้งนั้น จริงไหม? | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อนุกูล จินตรักษ์ วันที่ตอบ 2013-05-20 21:18:17 |
ความคิดเห็นที่ 9 (3816266) | |
แปลกันไปไกล เพลงกล่าวถึงหญิง กลิ่นก็หมายถึงกลิ่นของหญิงเริ่มเป็นสาว ใช้คำว่าผุดพ้นพ่มในสวนดุสิตา ไม่ใช่ไปไกลถึงสวนพระอินทร์ครับ ก็พุ่มในกายสาวแหละ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น Sant วันที่ตอบ 2015-05-24 17:52:50 |
ความคิดเห็นที่ 10 (3943867) | |
อยากให้มีการวิเคราะห์ความหมายของเพลงชาติไทยแบบนี้บ้างค่ะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น นานา วันที่ตอบ 2016-02-15 08:49:58 |
ความคิดเห็นที่ 11 (4191813) | |
ชอบฟังเพลงลาวน่ะ เพราะดี | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แก้ว วันที่ตอบ 2017-06-12 02:51:08 |
ความคิดเห็นที่ 12 (4301354) | |
สวรรค์ชั้นที่4 (ดุสิต) ก็มีดอกไม้สวรรค์ค่ะ เพียงแต่ไม่ระบุชื่อดอกไม้เจาะจงเหมือนสวรรค์ชั้นอื่นๆที่คุ้นเคยกันเช่นดอกปาริชาติ เป็นต้น สวรรค์ชั้นดุสิต เป็นสวรรค์แดนธรรม พระโพธิสัตว์ ผู้ที่จะมาเกิดเป็นพระพุทธเจ้า จะอยู่ในสวรรค์ชั้นนี้ มีสวนดอกไม้ และสระโบกขรณี(ก็น่าจะมีดอกบัวที่เพลงเรียกดอกโกมล) ผู้ประพันธ์เพลงก็ถูกต้องแล้วค่ะ
ลองตีความดูนะคะ ความหมายของเพลง สื่อถึงรักที่สูงเกินเอื้อม นางที่หมายปอง เป็นดอกฟ้า เป็นนางฟ้านางสวรรค์ชั้นดุสิต ไม่เพียงสูงด้วยรูปสวยเหมือนนางฟ้าในสวรรค์ชั้นอื่นๆ แต่นางนั้นสูงในทางธรรมงามที่จิตใจอีกด้วย | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรพิลาศ วันที่ตอบ 2019-03-25 23:53:29 |
ความคิดเห็นที่ 13 (4476396) | |
ทำไมผมกลับคิดว่า "พุ่มในสวนดุสิตา" นั้นอาจอุปมา อุปมัย ถึงสวนขวัญในพระราชวัง เช่น พระราชวังดุสิต ที่สร้างขึ้น และมีอยู่ร่วมสมัยกับห้วงเวลาที่ผู้ประพันธืได้ประพันธ์ขึ้นมา สวนดุสิตา นี้ อาจจะไม่ได้หมายความลึกล้ำไปถึง สวนในสวรรค์ชั้นดุสิต ก็เป็นได้ แต่อาจหมายถึง สวนในพระราชฐาน ที่คนทั่วไป หรือสามัญชนนั้นสุดอาจเอื้อม บานแข่งกับแสงพระจันทร์อยู่สูงสุดปลายไม้ การแต่งคำประพันธ์ต่างๆ กวีอาจหมายถึงสิ่งที่อยู่ตามสภาพแวดล้อมรอบตัวของเขา ก็อาจเป็นได้ (เดาล้วนๆ) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เบนซิน (natdanai-dot-kruzaa-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2022-11-24 23:55:04 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 870609 |