หน้าหลัก | ข้อมูลสมาคม | บทความ | บทร้อยกรอง | ข่าวสารประชาสัมพันธ์ | กิจกรรม | กระทู้ | หนังสือ | ร้อยกรองออนไลน์ |
กวีสังหรณ์ | |
กวีสังหรณ์
ไม่มีที่ว่างวางบทกวี แลซ้ายทีขวาที...ที่วางหนังสือ นิ้วชี้นามเรื่องลำดับลำดับสลับมือ ไม่มีชื่อร้างนามสนามกวี
ไม่มี ไม่มี จะบอกให้ ยุคไกลแสนไกล.....กวีวิถี ถึงคราสูญพันธ์อันตรธานวลี สุสานดีดีไม่รู้อยู่ที่ใด
ไม่มีแฟนคลับสำหรับกวี มีแต่ดีกรีแห่งคนพันธุ์ใหม่ เอาสนุกคลุกสนานบานหทัย หูตาจมูกลิ้นกายในทุกอณู
ไร้ที่ยืน...คนชื่นใจกวี อัญมณีภาษา...ล้า...อดสู ไร้ทั้งเวที ไร้ทั้งคนดู ถึงห้วงหดหู่เสียแล้วฤา
หรือว่า “บทกวี” ถึงที่สุด มิอาจผุดเผยสันชั้นหนังสือ ทีละนิดทีละน้อยค่อยค่อยรื้อ จนลืมชื่อลืมชั้นวาง...ร้างลางเลือน...
ปรัชญ์ วลีพร | |
ผู้ตั้งกระทู้ ปรัชญ์ วลีพร (peeramit07-at-hotmail-dot-co-dot-th) :: วันที่ลงประกาศ 2013-01-21 11:10:48 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2328692) | |
๐ เพราะกวีไม่เขียนบทกวี จึ่งไม่มีกวีที่สนาม คนมากมายเฝ้ารอคอยติดตาม เอ่ยไถ่ถามหากวีศรีแผ่นดิน จักเอาดีแบบกวีนั้นยากสิ้น ฤา กวีกลัวแปดเปื้อนคาวมลทิน แค่เหลือบริ้นเผ่นผ่านกลับรำคาญตา แม้นไม่หยุดสร้างสรรค์เสน่หา โลกหมุนเวียนแปรผันตลอดมา กวินทราจักไม่เปลี่ยน ฤา เยี่ยงไร ทุกสิ่งล้วนอนิจจังจริงใช่ไหม จุดยืนแท้ใต้ฝ่าเท้าเรานั้นไง จงเปิดใจยอมรับบ้างอาจจะดี ๐ เพราะกวีไม่เขียนบทกวี จึ่งต้องมีคนบอกกล่าวมาเล่าชี้ หวังสร้างรักสายสัมพันธไมตรี รอกวีศรีแผ่นดินนั้นนานเกิน ขอน้อมคารวะจากใจ “ทรชนบ้านนอก”
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2013-01-21 14:54:27 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2328715) | |
ทางกวี มีทาง ทางกวีมิหมดสิ้น กลิ่นรจนา ร้อยเรื่องเรียงภาษา เวี่ยไว้ คมกวีกรีดอักษรา เปล่งปลั่ง โคลงร่วมร้อยสร้อยให้ สืบสร้างทางกวี
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น เล้งฮู้ วันที่ตอบ 2013-01-21 16:18:58 |
ความคิดเห็นที่ 3 (2329242) | |
สังหารกลอนสังหรณ์กวี
กวีเขามีปากมีท้อง จึงเลือกครรลองปากท้องอิ่ม ทั้งตนคนแวดล้อมถนอมยิ้ม จึงพิมพ์ตามนิยมถมความเคย บทกลอนจึงเหงาเหงา เพราะกวีเขา...ก็เฉยเฉย อาจเขียนเอง อ่านเอง เลยตามเลย คนที่ชื่นเชย....มี...แต่ไม่พอเพลิน จึงคล้ายคล้าย มีการสังหารกลอน จนกวีสังหรณ์....หายสรรเสริญ จึงละม้าย กวี ไม่มีทางเดิน จนกวีเผชิญ ความไม่ช่ำชอง
ปรัชญ์ วลีพร | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปรัชญ์ วลีพร (peeramit07-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2013-01-23 10:54:48 |
ความคิดเห็นที่ 4 (2329256) | |
๐ เมื่อกวีเลือกปากท้องของตนอิ่ม จึ่งไม่มีรอยยิ้มเพราะพิมพ์ขาย ทางครรลองผองกวีไม่แจกจ่าย แสนเสียดายสิ้นน้ำใจไร้เอ็นดู ๐ คนเขียนกลอนเลือกบอกเล่าเก้าสิบ โพสต์ถี่ยิบมากเรื่องราวหลายกระทู้ หวังเลือกเดินตามทางเอาอย่างครู สุนทรภู่ร่างจารึกผนึกกานต์ ๐ แต่กวีเลือกปากท้องสิ่งสำคัญ ย่อมคัดสรรก่อนออกแจงแถลงสาน หลงนิยมคำชมเชยกับผลงาน จนดักดานคล้ายกวีไร้ทางเดิน ๐ โลกผันผ่านกาลเวลามันผันเปลี่ยน คนกลอนเพี้ยนมองทุกสิ่งแค่ผิวเผิน บนถนนก้าวย่างต่างเผชิญ ชนกวีเมินหมางจักพึ่งใคร ๐ เมื่อกวีเลือกปากท้องของตนอิ่ม ภาพรอยยิ้มจารสลักชักหวั่นไหว มองสะท้อนคนกวีไร้น้ำใจ นักกลอนใหม่หวังอะไรใคร่ตอบที ขอน้อมคารวะจากใจ “ทรชนบ้านนอก” | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2013-01-23 11:25:21 |
ความคิดเห็นที่ 5 (2329329) | |
๑ ทางกวีมีทางเดินนั้นไม่มาก แค่พออยากลองเขียนเรียนอักษร สามวันจากหากห่างเหินเขินบทกลอน อาจขาดตอนกลอนกวีเสรีใจ ๒ แค่เพื่ออิ่มปากท้องนั้นก็ยาก มีไม่มากคนเขียนเลี้ยงชีพไหว คนกวีมีทางเลือกสักเท่าใด อาชีพไหนจึงจะเหมาะเจาะพอดี ๓ เป็นคนเขียนต้องมุ่งมั่นหมั่นฝึกหัด เขียนตามสัตย์ใสซื่อตามวิถี ตามครรลองคลองธรรมนำความดี ใช่เพื่อสีใดใดใคร่ตรองดู ๔ ทางกวีจักมีทางให้ท่านเดิน ความเพลินในอักษรนั้นสวยหรู บรรพบุรุษปู่ญ่าท่านเป็นครู ลูกหลานรู้เอาอย่างทางกวี
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น น้องเล้ง วันที่ตอบ 2013-01-23 15:03:31 |
ความคิดเห็นที่ 6 (2329342) | |
กวีสังหรณ์กลอนสังหาร
อรรถรสบทกลอนแต่ก่อนเก่า ประทับเนาในจิตสนิทวิถี ยังเป็นเอกเป็นเพชรในปฐพี สู่รุ่นนี้และต่อไปไม่มีประมาณ
ปัจจุสมัย...ใคร่เอ่ย เผยวิจิตร นิรมิตอักขระได้ฉะฉาน เสกสรรให้เสพเทพบันดาล พอสืบสานอรรถรสบทร้อยกรอง
เชิญเถิด ร่วมร้อย ถ้อยมธุรส เสกโอสถ แด่กมลคนทั้งผอง อย่าให้ใครสังหารผลาญครรลอง ให้เลือดกลอนหลั่งนองแผ่นดินไทย
ปรัชญ์ วลีพร
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปรัชญ์ วลีพร (peeramit07-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2013-01-23 15:27:45 |
ความคิดเห็นที่ 7 (2329354) | |
๐ หนทางพิสูจน์ม้าเฉกฉันใด กาลเวลาใช่พิสูจน์คนฉันนั้น คมกวีผลัดวิถีทุกวี่วัน ใยรำพันศัลย์โศกโลกระทม ๐ ฤา กลอนกานต์ขานกล่าวยุคสมัย เศร้าอาลัยใจหายบ่สุขสม สุนทรคำร่ำไห้ตรอมตรม อันคำคมสิ้นกับกลอนแท้เยี่ยงไร ๐ สุนทรภู่ร่ายเรียงเสียงนิราศ หลงสวาทล่องลำคลองพิศสมัย ทุกถ้วนถิ่นรจนาร่ำไป ต่างตรงไหนที่ต่างต่างใจคน ๐ ศัพท์ภาษาอักขรานาทีนี้ บ่งบอกชี้การเปลี่ยนแปลงอย่าฉงน ปรับกระบวนร่ายลีลาภาษาตน อาจวกวนไปมาอย่ารำคาญ ๐ สักวันหนึ่งข้างหน้าฉายภาพพจน์ สิ้นกำสรดวันนี้กลอนสังหาร เลือดนักกลอนสนองจิตวิญญาณ หลั่งบทกานท์ซ่านซึมซาบทั่วแผ่นดิน ๐ จักเห็นผลวันข้างหน้าเชื่อข้าเถิด สุขบังเกิดทุกข์ระทมหายหมดสิ้น เถ้าปู่ย่าน้ำตาท่านบ่ไหลริน คนกวีอย่าหมิ่นหยามคนเขียนกลอน ขอน้อมคารวะจากใจ “ทรชนบ้านนอก”
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2013-01-23 16:09:29 |
ความคิดเห็นที่ 8 (2329921) | |
ความเมตตาปราณีนี้ประเสริฐ
ก่อกำเนิดความหวังกำลังจิต
ย่อมเผื่อแผ่แก่หมู่ชนคนทุกทิศ
มิแผกผิดฝนจากฟ้านภาลัย สัจพจน์เอ่ยไว้ในกาลก่อน
ความอาทรฤาบังคับก็หาไม่
ร่วงหล่นจากฟากฟ้าเวลาใด
ยังจิตใจได้ชุ่มเย็นเช่นวันวาน
พลันฝนหยดก็รดลงที่ตรงแอ่ง
ด้วยแห้งแล้งแสงแดดเคยแผดผลาญ ดินที่แยกแตกระแหงแหล่งกันดาร
กลับพบพานความเย็นเช่นพิรุณ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณณมี วันที่ตอบ 2013-01-26 10:11:23 |
ความคิดเห็นที่ 9 (2330274) | |
ขอบคุณครับสำหรับถ้อยร้อยลิขิต ขอบคุณมิตรที่ผลิงามความอบอุ่น มีที่ขาดเอาธุระคอยปะชุน พอเป็นหุ้นส่วนรสบทกวี ธรรมชาติสร้างสรรค์วรรณศิลป์ ในแผ่นดินย่อมมีเพชรเก็จก่องศรี "ทรชนบ้านนอก น้องเล้ง ปุณณมี" เป็นมณีเม็ดเอกเสกจักรวาล
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปรัชญ์ วลีพร (peeramit07-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2013-01-28 10:54:00 |
ความคิดเห็นที่ 10 (2330296) | |
๐ อันตัวข้าแค่ก้อนกรวดจมปลักตม หลงโง่งมขมคำซ้ำผันผวน ถ้อยลีลาอ่อนด้อยน้อยกระบวน แต่หลากล้วนเรื่องเล่าประสบการณ์ ๐ ขอขมา “ปรัชญ์ วลีพร” กวี แม้นพาทีข้าก้าวล่วงกลอนสังหาร หาหมิ่นหยามสบประมาทครูอาจารย์ โปรดสงสารแก่ตัวเราทรชน ๐ บ้านนอกครอกนาป่าเถื่อน แลดาวเดือนดาราใต้เวหาหน ฟ้าผืนเดียวกันต่างจินต์ยินยล พ่างดาลผลอักษราต่างมุมมอง ๐ เอกกวีศรีปราชญ์คลังปัญญา ย่อมนำพาจินตนาการสนอง อรรถรสเสนาะถ้อยกวีกรอง ล่องครรลองผองกวินทร์ผู้ดีงาม ๐ ข้าผู้น้อยด้อยปัญญานำพาจินต์ ร้อยถวิลสิ่งพานพบคำรบถาม ถ่ายทอดเรื่องราวเล่าทุกครั้งยาม ด้นดั้นตามเพลาจริงปัจจุบัน ๐ แค่บอกเล่าเก้าสิบหยิบปะต่อ อ้อนวอนคนกวีอย่าโศกศัลย์ บันทึกความเหตุการณ์รายวัน กาพย์กลอนฉันจึงมิใช่บทกวี ๐ เทียบเคียงเสียงสัมผัสจัดอักษร เสกละครชีวิตจริงสถานที่ จรดคีย์บอร์ดพรอดพร่ำคำวจี เร็วรุดรี่เดี๋ยวลืมความเนื้อสำคัญ ๐ อันตัวข้าแค่ก้อนกรวดจมปลักตม ถ้อยคำชมมณีเม็ดเอกต่อฉัน มิหาญรับน้อมใส่เกล้าชีวัน ชั่วนิรันดร์แค่คนบ้าร่ายเขียนกลอน ขอน้อมคารวะจากใจ “ทรชนบ้านนอก” | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2013-01-28 11:38:12 |
ความคิดเห็นที่ 11 (2330309) | |||||
แก้ไข พิมพ์ข้อความตก ๐ อันตัวข้าแค่ก้อนกรวดจมปลักตม หลงโง่งมขมคำซ้ำผันผวน ถ้อยลีลาอ่อนด้อยน้อยกระบวน แต่หลากล้วนเรื่องเล่าประสบการณ์ ๐ ขอขมา “ปรัชญ์ วลีพร” กวี แม้นพาทีข้าก้าวล่วงกลอนสังหาร หาหมิ่นหยามสบประมาทครูอาจารย์ โปรดสงสารแก่ตัวเราทรชน ๐ บ้านนอกครอกนาป่าเถื่อน แลดาวเดือนดาราใต้เวหาหน ฟ้าผืนเดียวกันต่างจินต์ยินยล พ่างดาลผลอักษราต่างมุมมอง ๐ เอกกวีศรีปราชญ์คลังปัญญา ย่อมนำพาจินตนาการสนอง อรรถรสเสนาะถ้อยกวีกรอง ล่องครรลองผองกวินทร์ผู้ดีงาม ๐ ข้าผู้น้อยด้อยปัญญานำพาจินต์ ร้อยถวิลสิ่งพานพบคำรบถาม ถ่ายทอดเรื่องราวเล่าทุกครั้งยาม ด้นดั้นตามเพลาจริงปัจจุบัน ๐ แค่บอกเล่าเก้าสิบหยิบปะต่อ อ้อนวอนขอคนกวีอย่าโศกศัลย์ บันทึกความเหตุการณ์รายวัน กาพย์กลอนฉันจึงมิใช่บทกวี ๐ เทียบเคียงเสียงสัมผัสจัดอักษร เสกละครชีวิตจริงสถานที่ จรดคีย์บอร์ดพรอดพร่ำคำวจี เร็วรุดรี่เดี๋ยวลืมเนื้อความสำคัญ ๐ อันตัวข้าแค่ก้อนกรวดจมปลักตม ถ้อยคำชมมณีเม็ดเอกต่อฉัน มิหาญรับน้อมใส่เกล้าชีวัน ชั่วนิรันดร์แค่คนบ้าร่ายเขียนกลอน ขอน้อมคารวะจากใจ “ทรชนบ้านนอก” | |||||
ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2013-01-28 13:06:12 |
ความคิดเห็นที่ 12 (2330327) | |
อันร้อยพจน์รจนาภาษาสวรรค์ ย่อมผูกพันในกวีไม่มีกร่อน ลมหายใจผิดพลาดขาดช่วงตอน ย่อมม้วยมรณ์ไม่ต่างห่างกลอนกานท์ ยิ่งลึำกล้ำถลำไกลในดงรัก ยิ่มจมปลักในวิถีกวีสถาน แม้เวทีหนีเร้นไม่เป็นสะพาน ก็จะคลานต่อไปในขอบคำ "ทรชนบ้านนอก" สนานสนุก คอยขับทุกข์ออกไปให้ดื่มด่ำ เป็นเพื่อนคิดเป็นมิตรไขคุณธรรม เป็นผู้นำสานต่อหน่อกวี
ปรัชญ์ วลีพร | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปรัชญ์ วลีพร (peeramit07-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2013-01-28 14:14:07 |
ความคิดเห็นที่ 13 (2330443) | |
วรรณศิลป์รินสายมิคลายเคลื่อน คอยย้ำเตือนมุ่งประสงค์อันคงที่ ได้ดื่มด่ำจารจดรสพจี เพื่อนยังมีน้ำใจให้ต่อกัน เพียงวาดหวัง "วลีพร" สุนทรลิขิต ยังชื่นจิตฝากไว้ในโลกฝัน "แพรวพิรุณ" โปรยปรายสายสัมพันธ์ ถึงนานวันประทับในหทัยครอง
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2013-01-28 20:48:06 |
ความคิดเห็นที่ 14 (2330622) | |
นุ่มคำชวนนวลคำชมสมคำสาน เอ่ยแว่วหวาน ย่อม"ราชาวดี" ไม่มีหมอง อ่านทีใดใจจิตรสนิทครอง แมนสรวงห้องห่างชั้นพรรณนา หยอดคำหวานหว่านลงในดงรัก หยาดคำทักโปรยเล่ห์เสน่หา หยัดคำกลอนเกริ่นนามความศรัทธา หยุดเวลาอุปโลกน์โลกกวี
ปรัชญ์ วลีพร | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปรัชญ์ วลีพร (peeramit07-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2013-01-29 13:20:18 |
ความคิดเห็นที่ 15 (2330623) | |
ขอแก้ไข
นุ่มคำชวนนวลคำชมสมคำสาน เอ่ยแว่วหวาน ย่อม"ราชาวดี" ไม่มีหมอง อ่านทีใดใจจิตรสนิทจอง แมนสรวงห้องห่างชั้นพรรณนา
หยอดคำหวานหว่านลงในดงรัก หยาดคำทักโปรยเล่ห์เสน่หา หยัดคำกลอนเกริ่นนามความศรัทธา หยุดเวลาอุปโลกน์โลกกวี
ปรัชญ์ วลีพร | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปรัชญ์ วลีพร (peeramit07-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2013-01-29 13:22:53 |
ความคิดเห็นที่ 16 (2330671) | |
ในคมคำล้ำลึกผนึกรส พินิจพจน์คุณค่าสง่าศรี คลื่นลูกใหม่คมชัด "ปรัชญ์" กวี เชิงวาทีแฝงอรรถปรัชญา ยินดีที่รู้จักตระหนักถ้อย ได้เรียงร้อยวรรณศิลป์รินภาษา คราเยี่ยมยลผลงานสานศรัทธา คือคุณค่าคู่ควร ...... ชวนภิรมย์
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2013-01-29 14:50:38 |
ความคิดเห็นที่ 17 (2330678) | |
ยากจะเห็นเช่นจะหาภาษาหาว ใคร่จะสาวดาวเดือนเหมือนไม่สม เป็นนักกลอนเบิ่งแต่ฟ้าคว้าแต่ลม หลงชื่นชมความเปล่าว่างอย่างงงงง
"ราชาวดี" มีความฝัน อันยิ่งใหญ่ คอยยื่นให้ คอยเติม คอยเสริมส่ง ให้คนใกล้ไฟดับกลับคืนคง ขอขอบคุณความยิ่งยงจงยืนยาว
ปรัชญ์ วลีพร | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปรัชญ์ วลีพร (peeramit07-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2013-01-29 15:28:48 |
ความคิดเห็นที่ 18 (2330746) | |
คืนฟ้าพราวดาวล้อมในอ้อมสรวง เจิดจ้าดวงเดือนเพ็ญเด่นกลางหาว ชุ่มชื่นจิตคิดเห็นอยากเป็น "ดาว" ประดับพราวฟ้างามยามราตรี เพียรเฝ้าฝันวันที่ชีวีกล้า ชวน "เพื่อน" มาร่วมทางหว่างวิถึ ไปให้ถึงฝั่งฝัน ณ วันนี้ ด้วย ..... ศักดิ์ศรีสั่งสมอุดมการณ์
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2013-01-29 20:27:50 |
ความคิดเห็นที่ 19 (2330762) | |
หนทางฝันวันนี้ "เพื่อน" มีพร้อม ผลงานย้อมจิตนำในคำขาน หากทวนทบเยี่ยมยลแห่งผลงาน ยังตระการอยู่ในหทัยตรึง ลานอักษรรจนาทุกคราพิศ ล้ำวิจิตรคุณค่าพานึกถึง ข้อคิดที่สร้างเสริมเติมเต็มซึ้ง "เพื่อน" คือ "หนึ่ง" อาณาจักรแห่ง "นักกลอน"
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี (vat -at-1234thaimail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-01-29 21:21:27 |
ความคิดเห็นที่ 20 (2330785) | |
อาณาจักรแห่งนักกลอนสะท้อนฝัน
ผูกสัมพันธ์ตรึงสลักด้วยอักษร
แฝงไมตรีในลิขิตมิตรนักกลอน
เอื้ออาทรแด่สหายทักทายเตือน
ใช่สายเลือดเดียวกันนั้นก็ไม่
แต่สายใยอักษราหาใดเหมือน
ใช้รูปเสียงพยัญชนะสระเอื้อน
แล้วผูกเงื่อนให้เพื่อนคิดพินิจความ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณณมี วันที่ตอบ 2013-01-29 23:49:50 |
ความคิดเห็นที่ 21 (2330787) | |
๐ ลานกวีศรีสุนทรกลอนสนาน ถักร้อยสานเชื่อมโยงผูกสมัย อิสรภาพเสรีชนกังวานไกล พฤกษาไพรธรรมชาติจรรโลงจินต์ ๐ สายลมแผ่วแว่วลำธารประสานเสียง ดาวคู่เคียงเดือนดวงวันฝันถวิล ทุ่งนาข้าวเรืองรังรองส่องชีวิน คลื่นลมลิ้นรักลวงหลอกกลางท้องเล ๐ จินตนาการถักถ้อยคลังภาษา ภูมิปัญญาประสบการณ์กล่อมเห่ เสกละครชีวิตอิสระเสเพล เคล้าปะปนเรื่องราวต่างกันไป ๐ มิตรภาพไมตรีที่สมาคม ชื่นภิรมย์สมมาดปรารถนาไว้ ทอดสะพานข้ามกระแสธารใจ รินหลั่งไหลสายชนปพนธีร์ ๐ ลานกวีศรีสุนทรกลอนสนาน อย่าร้าวรานอันใดเลยเพลานี้ วิสัยทัศน์พันธะกิจมากมี รู้วิถีโลกทัศน์เปลี่ยนมุมมอง ๐ เสือกลอนเก่าเล่าความคำบุราณ สร้างประสานแมวกลอนใหม่ตอบสนอง ล่องลำเนาปรับกระบวนตามครรลอง เปิดใจลองถ้อยพาทีชี้นำกัน ๐ ใครผู้รู้อย่าเป็นหมูนอนในอวย ไขดานช่วยกานท์กวีเพิ่มสร้างสรรค์ ผิดแก้ไขถูกต้องร่วมประชัน พร่ำเพ้อฝันน้อมความจริงประทับเนา ๐ สิ้นตัวกูว่ากูนี่คือกู ปิดตาหูใจจิตหลงจนขลาดเขลา กานท์อักษรขยันหมั่นกลัดเกลา เผยบอกเล่าตามตัวตนคนเขียนกลอน ๐ อย่าปิดใจจดจ่อท้อสิ้นหวัง จงรินหลั่งเรื่องราวผ่านอักษร ช่วงชีวิตจริงเกินกว่าบทละคร ฝากสะท้อนกล่อมแผ่นดินก่อนชีพวาย ขอน้อมคารวะจากใจ “ทรชนบ้านนอก” | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2013-01-30 00:04:54 |
ความคิดเห็นที่ 22 (2330788) | |
แก้ไขพิมพ์ผิดแก้ ลอง เป็น ส่อง ครับ
๐ ลานกวีศรีสุนทรกลอนสนาน ถักร้อยสานเชื่อมโยงผูกสมัย อิสรภาพเสรีชนกังวานไกล พฤกษาไพรธรรมชาติจรรโลงจินต์ ๐ สายลมแผ่วแว่วลำธารประสานเสียง ดาวคู่เคียงเดือนดวงวันฝันถวิล ทุ่งนาข้าวเรืองรังรองส่องชีวิน คลื่นลมลิ้นรักลวงหลอกกลางท้องเล ๐ จินตนาการถักถ้อยคลังภาษา ภูมิปัญญาประสบการณ์กล่อมเห่ เสกละครชีวิตอิสระเสเพล เคล้าปะปนเรื่องราวต่างกันไป ๐ มิตรภาพไมตรีที่สมาคม ชื่นภิรมย์สมมาดปรารถนาไว้ ทอดสะพานข้ามกระแสธารใจ รินหลั่งไหลสายชนปพนธีร์ ๐ ลานกวีศรีสุนทรกลอนสนาน อย่าร้าวรานอันใดเลยเพลานี้ วิสัยทัศน์พันธะกิจมากมี รู้วิถีโลกทัศน์เปลี่ยนมุมมอง ๐ เสือกลอนเก่าเล่าความคำบุราณ สร้างประสานแมวกลอนใหม่ตอบสนอง ล่องลำเนาปรับกระบวนตามครรลอง เปิดใจส่องถ้อยพาทีชี้นำกัน ๐ ใครผู้รู้อย่าเป็นหมูนอนในอวย ไขดานช่วยกานท์กวีเพิ่มสร้างสรรค์ ผิดแก้ไขถูกต้องร่วมประชัน พร่ำเพ้อฝันน้อมความจริงประทับเนา ๐ สิ้นตัวกูว่ากูนี่คือกู ปิดตาหูใจจิตหลงจนขลาดเขลา กานท์อักษรขยันหมั่นกลัดเกลา เผยบอกเล่าตามตัวตนคนเขียนกลอน ๐ อย่าปิดใจจดจ่อท้อสิ้นหวัง จงรินหลั่งเรื่องราวผ่านอักษร ช่วงชีวิตจริงเกินกว่าบทละคร ฝากสะท้อนกล่อมแผ่นดินก่อนชีพวาย ขอน้อมคารวะจากใจ “ทรชนบ้านนอก” | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2013-01-30 00:10:14 |
ความคิดเห็นที่ 23 (2330789) | |||||
๐ จินตนาการถักถ้อยคลังภาษา ภูมิปัญญาประสบการณ์กล่อมเห่ เสกละครชีวิตอิสระเสเพล เคล้าปนเปเรื่องราวต่างกันไป -------------------------------------------------------
๐ ลานกวีศรีสุนทรกลอนสนาน ถักร้อยสานเชื่อมโยงผูกสมัย อิสรภาพเสรีชนกังวานไกล พฤกษาไพรธรรมชาติจรรโลงจินต์ ๐ สายลมแผ่วแว่วลำธารประสานเสียง ดาวคู่เคียงเดือนดวงวันฝันถวิล ทุ่งนาข้าวเรืองรังรองส่องชีวิน คลื่นลมลิ้นรักลวงหลอกกลางท้องเล ๐ จินตนาการถักถ้อยคลังภาษา ภูมิปัญญาประสบการณ์กล่อมเห่ เสกละครชีวิตอิสระเสเพล เคล้าปนเปเรื่องราวต่างกันไป ๐ มิตรภาพไมตรีที่สมาคม ชื่นภิรมย์สมมาดปรารถนาไว้ ทอดสะพานข้ามกระแสธารใจ รินหลั่งไหลสายชนปพนธีร์ ๐ ลานกวีศรีสุนทรกลอนสนาน อย่าร้าวรานอันใดเลยเพลานี้ วิสัยทัศน์พันธะกิจมากมี รู้วิถีโลกทัศน์เปลี่ยนมุมมอง ๐ เสือกลอนเก่าเล่าความคำบุราณ สร้างประสานแมวกลอนใหม่ตอบสนอง ล่องลำเนาปรับกระบวนตามครรลอง เปิดใจส่องถ้อยพาทีชี้นำกัน ๐ ใครผู้รู้อย่าเป็นหมูนอนในอวย ไขดานช่วยกานท์กวีเพิ่มสีสัน ผิดแก้ไขถูกต้องร่วมประชัน พร่ำเพ้อฝันพร้อมความจริงประทับเนา ๐ สิ้นตัวกูว่ากูนี่คือกู ปิดตาหูใจจิตหลงจนขลาดเขลา กานท์อักษรขยันหมั่นกลัดเกลา เผยบอกเล่าตามตัวตนคนเขียนกลอน ๐ อย่าปิดใจจดจ่อท้อสิ้นหวัง จงรินหลั่งเรื่องราวผ่านอักษร ช่วงชีวิตจริงเกินกว่าบทละคร ฝากสะท้อนกล่อมแผ่นดินก่อนชีพวาย ขอน้อมคารวะจากใจ “ทรชนบ้านนอก” ปรุงสดๆเร่งๆด่วนๆเมาๆขอรับ กราบขอขมาอย่างยิ่ง ขอน้อมคารวะจากใจ "ทรชนบ้านนอก"
| |||||
ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2013-01-30 00:22:19 |
ความคิดเห็นที่ 24 (2330826) | |
ระรินรสพจนารถพิลาสร่ม คนเคยข่มร้อนเข็ญเย็นเฉียบฉาย อยู่ท่ามกลางความห่างเหทะเลทราย มีพิรุณโปรยปรายสายธารา
ย่อมชื่นใจในฤดีเป็นที่สุด ดอกไม้ผุดผลิบานบนลานหล้า ระรวยกลิ่นประทิ่นกลอนขจรมา ให้น้ำตาแห่งปิติผลิลออ
ปรัชญ์ วลีพร | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปรัชญ์ วลีพร (peeramit07-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2013-01-30 09:15:36 |
ความคิดเห็นที่ 25 (2330896) | |
คือคนเดิมที่รู้จักเคยมักคุ้น หวานละมุนเหมือนเดิมมาเติมต่อ สวนอักษรหอมกำจายหมายเฝ้ารอ โอ้ละหนอลานบรรเลงเพลงประชัน ต่อแต่นี้หมายมาดสิ่งปรารถนา วงอักษราพริ้มพรายมุ่งหมายมั่น วรรณศิลป์สืบต่อก่อสัมพันธ์ เนานิรันดร์รื่นรมย์สมจิตปอง
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2013-01-30 10:54:20 |
ความคิดเห็นที่ 26 (2330914) | |
๐ ลานกวีครึกครื้นรื่นบรรเลง ร่ายเสียงเพลงมนต์รักถักอักษร เสน่ห์พจน์เพรียกพร่ำลำเนากลอน ร่ายออดอ้อนชนกวินทร์ปิ่นมณี ๐ ลานโล่งแจ้งเคยว่างเปล่าเหงาหงอย เมียงมองคอยจิตถวิลผู้ผ่องศรี ขับเสนาะพรรณนารสกวี ชื่นฤดีห้อมห่มบ่มวิญญาณ์ ๐ ลาดกวีแผ่นดินยินดีรับ น้อมคำนับกวินทราทุกทิศา ร่วมสรรสร้างบทกานท์อักขรา กล่อมโลกาคลายโศกวิโยคเอย ขอน้อมคารวะจากใจ “ทรชนบ้านนอก” | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2013-01-30 11:57:11 |
ความคิดเห็นที่ 27 (2330920) | |
หาที่เริ่มไม่เห็นเป็นประหลาด หาที่ผิดที่พลาดไม่เปิดเผย หาที่เปลี่ยนที่แปรก็ไม่เปรย คำที่เอ่ยล้วนเต็มอิ่มมียิ้มเยือน
หาที่จบหาที่จากยากจะหา ล้วนแต่เป็นศรัทธาเกินกว่าเคลื่อน ชั่วนิรันดร์คือหนทางมิลางเลือน นี่แหละเพื่อนผู้ดื่มด่ำในคำกลอน
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปรัชญ์ วลีพร (peeramit07-at-hotmail-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2013-01-30 12:22:23 |
ความคิดเห็นที่ 28 (2330949) | |
๐ ทุกคราเยือนเรือนชานบ้านสหาย ก่อเกิดสายอักษรานิราศผล ประทับจินต์แนบเนาเคล้ากมล จึ่งเพียรด้นเยี่ยมเหย้ามิเลือนลา ๐ ลานกวีศรีสุนทรกลอนสนาน จิตเบิกบานหลงใหลเสน่หา คลี่ม่านหมอกมืดดำปิดบังตา สานสาราส่องสว่างพ่างดวงจินต์ ๐ แม้นมิเคยต้องพักตร์ประจักษ์เนตร สุดแคว้นเขตนิเวศน์ไกลต่างถิ่น แต่สดับรับเนื้อสานอันยลยิน ละม้ายสิ้นฟ้ากางกั้นคั่นพรมแดน ขอน้อมคารวะจากใจ “ทรชนบ้านนอก” | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2013-01-30 14:11:49 |
ความคิดเห็นที่ 29 (2330950) | |
ประทับรสพจนาคุณค่าประกาศ แต้มสีวาดประจักษ์ในอักษร พิมพ์ภาพเผยความจริงสิ่งสุนทร จากบทกลอนผลเยี่ยมเปี่ยมหทัย ทุกถ้อยคำสื่อความหมายแห่งคุณค่า ทุกลีลาสง่าล้ำนำสมัย ทุกแบบบทล้วนงามตาภาษาใจ เผยความนัยให้เห็นแจ้งแห่งกวี ปิติล้ำคำกานท์สมานสมัคร ซึ้งตระหนักรอยอารมณ์สมศักดิ์ศรี "หวานน้ำผึ้งว่าหวานซ่านฤดี หวานวาทียิ่งหวานกว่าน่าชื่นชม"
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ราชาวดี วันที่ตอบ 2013-01-30 14:12:37 |
ความคิดเห็นที่ 30 (2331259) | |
๐ ยื่นมือใจจับกันจึงมั่นมิตร ร้อยลิขิตร่ายคำนำเสนอ ภาษาสื่อคือสัมพันธ์ฉันและเธอ พร้อมเพื่อนเกลอเพื่อนกลอนสุนทรกานท์ ๐ อันตัวข้าทรชนผู้ไร้รัก แจ้งประจักษ์ผองมิตรรักปักคำขาน อักขระสานสุนทรกลอนกังวาน ร้อยประสานผูกไมตรีที่ลานกลอน ๐ แวะไปเยี่ยมไปเยือนเรือนข้าได้ เรื่องหลากหลายให้ท่านสดับอักษร ชายขี้เมาไร้สาวกอดพเนจร ดวงวันรอนกลอนสะท้านซ่านทรวงเนา ๐ แม้นผู้ใดพึงพอใจกล่าวฝากไว้ กานท์รำไรแต่ใจอาจคลายเหงา ความเจ็บปวดชอกช้ำเกินบรรเทา ปรุงกลอนเศร้าเกลาคางอาจสร่างคลาย ๐ เอาอักษรเป็นเพื่อนคิดนิมิตฝัน เอาดวงวันส่องสว่างรักจางหาย เอาจันทราเงากระต่ายเป็นเพื่อนกาย เอาความหมายจากชีวิตด้วยเมรัย ๐ ยื่นมือใจจับกันจึงมั่นมิตร แนบสนิทชิดชมภิรมย์สมัย มิตรภาพผองเพื่อนก้าวเดินไป รักยิ่งใหญ่อุดมการณ์จิตศรัทธา ๐ คนอาสากล้าอาสานำพาสุข บรรเทาทุกข์ช่วยเหลือมุ่งค้นหา สร้างสังคมแบ่งปันจิตเมตตา ปฏิญญา”ทรชนบ้านนอก”เอย ขอน้อมคารวะจากใจ “ทรชนบ้านนอก” | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทรชนบ้านนอก วันที่ตอบ 2013-01-31 15:46:42 |
ความคิดเห็นที่ 31 (2332178) | |
ห่างจากลานสานกวีแค่เพียงไหว แต่หัวใจยังติดตรึงเสน่ห์หา ขับบทกลอนกับผ่องเพื่อนเคลื่อนเวลา เปลี่ยนแปลงฟ้าขับเคลื่อนดาวพราวกวี แม้นนาทีจักคล้อยเคลื่อนทุกดวงจิต ปรุงชีวิตอาบกรรมเวรย่กพ้นหนี เมาบทกลอนกับผองเพื่อนทุกราตรี เติมกวีก่อกองไฟให้ผองเรา อีกจอกเสี่ยว
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น น้องเล้ง วันที่ตอบ 2013-02-04 20:40:13 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 870562 |