พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า
ชยํ เวรํ ปสวติ
ทุกฺขํ เสติ ปราชิโต
อุปสนฺโต สุขํ เสติ
หิตฺวา ชยปราชยํ.
ขุ. ชา. มหา. 28/415
สำนวน แพ้เป็นพระชนะเป็นมาร ก็มีที่มาจากพุทธพจน์บทนี้ อนึ่ง อรรถกถาจารย์ (ล้านนา) ได้ถอดความไว้เป็นภาษาไทยความ ว่า
ผู้แพ้(แป๊)ย่อมก่อเวร
ผู้พ่าย(ป๊าย)ย่อมอยู่เป็นทุกข์
ผู้ละความแพ้(แป๊)และความพ่าย(ป๊าย)เสีย
มีใจสงบระงับนั่นแหละเป็นสุข
*คำว่า แพ้/แป๊ แปลว่า ชนะ
*คำว่า พ่าย/ป๊าย แปลว่า ไม่ชนะ
(คำว่าแพ้ นี้เป็น ภาษาไทย(ล้านนา)โบราณ ซึ่งมีความหมายไม่ตรงกับที่ใช้ในปัจจุบัน)
จับใจความได้ว่า เมื่อคนสองคน มุ่งแต่จะเอาชนะกัน นั่นย่อมหมายถึง การแพ้ต่อ พญามาร (กิเลสในใจตน อันได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ) ส่วนการจะเอาชนะพญามาร (กิเลสในใจตน อันได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ) ได้นั้น ก็ด้วยการ ปล่อยวาง ความแพ้ชนะ นั้นลงเสีย เมื่อไม่มีใครอยากที่จะเอาชนะใคร ก็จะเกิดความสงบสุข เกิดสภาวะที่ เป็น วร/พระ (ประเสริฐ) นั่นเองใครก็ตามที่เอาชนะ พญามารได้ ย่อม เป็น พระ (ประเสริฐ) พระพุทธองค์ทรงชนะ พญามาร (กิเลสในใจตน อันได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ) จึงเป็น พระ (ประเสริฐ) ด้วยประการฉะนี้
ทว่า สำหรับผู้ที่อยากที่จะเอาชนะ นั้น โคลงโลกนิติ ก็ได้สอนไว้เกี่ยวกับเรื่อง การเอาชนะ(ใจคน)ไว้ความว่า
ชนะคนมักโกรธด้วย ไมตรี
ชนะหมู่ทรชนดี- ต่อตั้ง
ชนะคนจิตโลภมี ทรัพย์แผ่-เผื่อนา
ชนะอสัตย์ให้ยั้ง สยบด้วยสัตยา
-ชนะใจ คนที่ มักโกรธ ก็ด้วยการใช้ ความไม่โกรธ / ไมตรีจิต
-ชนะใจ เหล่าทรชน ก็ด้วยการใช้ความดี เป็นที่ตั้ง
-ชนะใจ คนโลภโมห์โทสัน ด้วยการให้(อภัย)ทาน (ให้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะหยุดโลภ?)
-ชนะคนที่ โกหก (อสัตย์) ก็ด้วยการพูด ความจริง (สัตย์/สัจจ์)
จะเห็นได้ว่า โบราณ ท่านให้ความสำคัญ กับ ไมตรี เป็นอันดับหนึ่ง การที่สังคมจะมีความสงบ ก็เพราะคนในสังคมใช้ ไมตรี หาได้สงบด้วยการใช้ไม้ตี ไม่ นิทานเรื่อง เด็กชายทำร้ายเต่า เป็นเครื่องสะท้อน ระหว่าง การใช้ไมตรี และ การใช้ไม้ตี นิทานเรื่องนี้มีใจความ ที่ว่า
จับใจความได้ว่า เมื่อคนสองคน มุ่งแต่จะเอาชนะกัน นั่นย่อมหมายถึง การแพ้ต่อ พญามาร (กิเลสในใจตน อันได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ) ส่วนการจะเอาชนะพญามาร (กิเลสในใจตน อันได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ) ได้นั้น ก็ด้วยการ ปล่อยวาง ความแพ้ชนะ นั้นลงเสีย เมื่อไม่มีใครอยากที่จะเอาชนะใคร ก็จะเกิดความสงบสุข เกิดสภาวะที่ เป็น วร/พระ (ประเสริฐ) นั่นเองใครก็ตามที่เอาชนะ พญามารได้ ย่อม เป็น พระ (ประเสริฐ) พระพุทธองค์ทรงชนะ พญามาร (กิเลสในใจตน อันได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ) จึงเป็น พระ (ประเสริฐ) ด้วยประการฉะนี้
ทว่า สำหรับผู้ที่อยากที่จะเอาชนะ นั้น โคลงโลกนิติ ก็ได้สอนไว้เกี่ยวกับเรื่อง การเอาชนะ(ใจคน)ไว้ความว่า
ชนะคนมักโกรธด้วย ไมตรี
ชนะหมู่ทรชนดี- ต่อตั้ง
ชนะคนจิตโลภมี ทรัพย์แผ่-เผื่อนา
ชนะอสัตย์ให้ยั้ง สยบด้วยสัตยา
-ชนะใจ คนที่ มักโกรธ ก็ด้วยการใช้ ความไม่โกรธ / ไมตรีจิต
-ชนะใจ เหล่าทรชน ก็ด้วยการใช้ความดี เป็นที่ตั้ง
-ชนะใจ คนโลภโมห์โทสัน ด้วยการให้(อภัย)ทาน (ให้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะหยุดโลภ?)
-ชนะคนที่ โกหก (อสัตย์) ก็ด้วยการพูด ความจริง (สัตย์/สัจจ์)
จะเห็นได้ว่า โบราณ ท่านให้ความสำคัญ กับ ไมตรี เป็นอันดับหนึ่ง การที่สังคมจะมีความสงบ ก็เพราะคนในสังคมใช้ ไมตรี หาได้สงบด้วยการใช้ไม้ตี ไม่ นิทานเรื่อง เด็กชายทำร้ายเต่า เป็นเครื่องสะท้อน ระหว่าง การใช้ไมตรี และ การใช้ไม้ตี นิทานเรื่องนี้มีใจความ ที่ว่า