องค์ บรรจุน
พม่าเหิมเกริมยึดมหาชัย
แรงงานพม่าฆ่าโหดนายจ้าง
ตรวจบัตรต่างด้าวลำพอง รวบจับบ่าวสาวคางานแต่งฯลฯ
ข่าวสารเกี่ยวกับแรงงานชาวพม่ามีแต่ภาพความโหดร้าย น่ากลัว จะมีใครค้นหาต้นตอของเหตุ ใช่ว่าแก้ต่างให้พ้นผิด แต่เหตุอันควรรับฟังมีว่า ...นายจ้างบางรายกดขี่ทำร้าย เบี้ยวค่าแรง ลูกเรือตังเกบางลำต้องทำงานทั้งวันไม่มีเวลาพัก ไม่ได้อาหารเพียงพอ ผิดใจก็ฆ่าโยนศพลงทะเล นายจ้างบางคนข่มขืนลูกจ้างสาวชาวพม่า และ เจ้าหน้าที่รัฐหลายคนรีดไถหากินกับแรงงานต่างด้าว
พายุนาร์กีสที่โหมกระหน่ำบ้านเรือนและผู้คนบริเวณลุ่มน้ำอิรวดีเมื่อ ๓ พฤษภาคมที่ผ่านมา คร่าชีวิตชาวพม่าเรือนแสนแบบไม่ทันตั้งตัว ว่ากันตามจริงแล้วหากรัฐบาลพม่าเอาใจใส่ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนมาก่อนหน้า มีการเฝ้าระวังและเตือนภัยที่ดี มหันตภัยครั้งนี้คงไม่ก่อความสูญเสียอย่างที่เป็น คนพม่า (มอญ กะเหรี่ยง คะเรนนี คะฉิ่น ไทใหญ่ ทวาย) ที่ล้มตายต่างมีเลือดเนื้อและวิญญาณ มีผิวกายละม้ายเรา รักชีวิตตนและคนที่รักแฉกเช่นเดียวกัน
ยังดีที่หากใครสักคนรู้สึกสงสารคนพม่า ขณะที่หลายคนยังยึดติดเรื่องเก่า เป็นเวรเป็นกรรม ที่เคยเผากรุงศรีอยุธยา... (หรือเราไม่เคยเผากัมพูชาและเวียงจันท์) เป็นอคติฝังหัวที่มากับประวัติศาสตร์รัฐชาติ บอกเล่าสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น แต่เมื่อวานนี้เองที่เขาถูกนายจ้างและเจ้าหน้าที่รัฐกระทำ...มีใครจดจำใส่ใจบ้าง
เหตุใดต้องรอให้เขาสิ้นลมหายใจเสียก่อน พวกเขายากแค้นไร้ที่พึ่งแม้ในบ้านตัวเอง เป็นซากชีวิตที่บ่าสองข้างเอียงลู่จำนนแทบเท้ารัฐบาลทหารพม่า ที่ทารุนโหดร้ายยิ่งกว่ากระทำกับสัตว์ แม้แต่พระสงฆ์ก็ไม่ละเว้น จำกระเสือกกระสน ทนต่อการถูกเอารัดเอาเปรียบเหมือนไม่ใช่คนปฏิบัติต่อกัน ฟังคำก่นด่าในฐานะผู้ร้ายเผาเมือง ทนเจ็บและอาย ยอมทิ้งศักดิ์ศรีความเป็นคนมาตายเอาดาบหน้าในเมืองไทย พวกเขาไม่ได้แบมือขอเปล่า เอาแรงกายมาแลกอย่างเจียมตน ขอเพียงเศษเงินที่ได้มาด้วยหยาดหงื่อและน้ำตา ส่งกลับไปจุนเจือญาติพี่น้องทางบ้าน ซ้ำร้ายคนไทยบางคนที่ได้ชื่อว่ามีศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว กลับปฏิบัติต่อกันไม่ต่างจากที่เขาเคยได้รับ
หากแม้ประเทศไทยไม่ต้องการแรงงานก็ควรผลักดันออกไป ใช่ปากว่าตาขยิบเจ้าหน้าที่รัฐนำเข้าเสียเอง เป็นการสมประโยชน์กับผู้ประกอบการที่กดดันรัฐ เพราะต้องการแรงงานราคาถูกสำหรับงานที่คนไทยไม่ทำ ขณะที่พวกเขาต้องทนอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ กับคำประกาศห้ามของรัฐ ไม่ให้คลอดลูกในเมืองไทย ห้ามลูกหลานแรงงานเรียนหนังสือ ห้ามใช้โทรศัพท์ ห้ามแสดงออกทางวัฒนธรรม ภาษา แม้แต่การรวมกลุ่มเข้าวัดทำบุญ ทั้งที่รัฐและผู้ประกอบการต้องการประโยชน์จากเขา แต่รัฐกลับมองเขาเป็นตัวปัญหา กลัววัฒนธรรมต่างด้าวจะมีอิทธิพลเหนือวัฒนธรรมไทย กลัวจะเป็นภัยต่อความมั่นคง อย่างที่ได้มีผู้ประกอบการและผู้ว่าราชการบางจังหวัดประพฤติ
ในวันนี้ครอบครัวของพวกเขาที่อยู่หลัง บ้านเรือนที่เคยเนาพินาศสิ้น ญาติมิตรล้มตายแตกสานซ่านเซ็น โดยที่รัฐบาลไม่เอาธุระค้นหาศพไร้ญาติเข้าพิธีทางศาสนาให้ได้รับส่วนกุศล ระแวงแม้แต่ผู้ที่ยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือ มุ่งลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นเพื่อสืบทอดอำนาจ ขณะที่ประชาชนไร้ที่พักพิง ไม่มีแผ่นดินผืนใดให้ยืนอยู่อย่างมั่นคงได้ เพื่อนชาวพม่า (มอญ กะเหรี่ยง คะเรนนี คะฉิ่น ไทใหญ่ ทวาย) ของเราทั้งผอง ที่เคยมีหวังสุดท้ายที่เมืองไทย แต่พวกเขาเป็นได้เพียง แรงงานต่างด้าว โหดร้าย ป่าเถื่อน แพร่เชื้อโรค... ให้ใครต่อใครเดียจฉันท์ ไม่ตายก็เหมือนตายทั้งเป็น
หากคนไทยยังยึดติดอยู่กับประวัติศาสตร์ ที่อดีตกษัตริย์พม่าเกณฑ์ไพร่พลมาเผากรุงศรีอยุธยาครั้งแล้วครั้งเล่า จนถึงยุคของรัฐบาลไพร่ที่เอาแต่ประโยชน์ส่วนตน กดขี่ข่มเหงรังแกราษฎรจนต้องหนีมายังแผ่นดินไทย ผิดก็ตรงที่พวกเขาเกิดเป็นคนพม่า ถูกคนไทยจงเกลียดจงชังต่อเนื่องยาวนานกว่าสองร้อยปี ทั้งที่พวกเขาเป็นฝ่ายถูกกระทำโดยไม่อาจแข็งขืน หากคนไทยยังใช้ประวัติศาสตร์ตีราคาของคน ลองคิดเสียว่าอาจมีสักคนที่เป็นเลือดเนื้อชาวอยุธยา (โยเดีย) ที่ถูกจับไปเป็นเชลยเมื่อครั้งกรุงแตก ถึงวันนี้ญาติเรายากแค้นลำเค็ญ มาเป็นแรงงานต่างด้าวอยู่ตรงหน้า ความเมตตาในใจคนไทยจะยังมีเหลือแบ่งปันให้พวกเขาได้บ้างหรือไม่