ร่องรอยของเวลา "โขง ชี มูล" เส้นทางการค้าโบราณเชื่อมเจ้าพระยา บนเส้นทางท่องเที่ยวทางเลือก
ชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต
เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ฯลฯ จัดกิจกรรมแบ่งปันความรู้และอ่านบทกวีร่วมสมัย "ร่องรอยของเวลา : เครือญาติ ชาติพันธุ์ สุวรรณภูมิ"
โดยมุ่งเน้นแบ่งปันความรู้ภูมิสังคมวัฒนธรรมและอ่านบทกวีนิพนธ์ กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดสุรินทร์ ที่สำคัญคือ ความรู้ความเข้าใจเรื่องประวัติศาสตร์ชุมชนซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น หากแต่ประกอบด้วยองค์รวมทั้งอุษาคเนย์
มีกวีหลายท่านที่ไปอ่านด้วยกัน นำโดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ, ยุทธ โตอดิเทพย์ โชคชัย บัณฑิต" กวีซีไรต์, โชติช่วง นาดอน, ขุน รำยอง, รักษ์ มนัญญา, มงคล เปลี่ยนบางช้าง, สนั่น ชูสกุล, สุขุมพจน์ คำสุขุม, ไชยา วรรณศรี, มหา สุรารินทร์ และ นฤมิตร ประพันธ์ ฯลฯ
วิทยากรที่มาอธิบายความรู้เรื่องชาติพันธุ์สุวรรณภูมิ ไล่มาตั้งแต่รุ่นใหญ่อย่าง สุจิตต์ วงษ์เทศ, อาจารย์ทรงยศ แววหงส์ นักวิชาการรุ่นใหม่ทั้งสองท่าน อาจารย์รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล และ อาจารย์ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ รวมทั้งผู้สร้างสีสันทางเสียงเพลง อานันท์ นาคคง วงกอไผ่
นอกจากกิจกรรมจะมุ่งเน้นไปที่การอ่านบทกวีนิพนธ์และแบ่งปันความรู้แล้วยังมีการแสดงภาพของ ครูเสงี่ยม พวงคำ ศิลปินพื้นบ้านร่วมสมัย สาขาจิตรกรรม และ ครูยุ้ย-สุรศักดิ์ สืบสหการ ศิลปินท้องถิ่นทั้งสองท่าน
ร่องรอยของเวลา อาจเป็นร่องรอยที่ปรากฏพบเห็นในสิ่งที่เพิ่งเกิดหรือเกิดมาแล้วหลายพันปี ตามแต่หลักฐานที่เชื่อมโยง ไม่ว่าจะเป็นตำนาน นิทาน คำบอกเล่า และหลักจารึกในโบราณสถาน
แม่น้ำมูล หลายคนเขียนไม่เหมือนกัน บ้างก็ "มูล"บ้างก็ "มูน" ตามแต่จะแปลความหมายที่ตีความ ซึ่งน่าจะเกี่ยวพันกับความอุดมสมบูรณ์
มูล นี้อาจหมายถึงสิ่งปฏิกูล
มูน นี้อาจหมายถึง มูนมังสังขยา ความอุดมสมบูรณ์
จุดนี้อาจต้องพึ่งพาวิชานิรุกติศาสตร์อธิบายอีกทีเพื่อความกระจ่าง เพราะคำว่า แม่น้ำมูล ที่ใช้นั้นใช้ตามกระทรวงมหาดไทยกำหนดขึ้น
บ้านเมืองในอีสานอาจแบ่งภูมิศาสตร์ตามแคว้นโบราณที่มีความสัมพันธ์กันฉันเครือญาติพี่น้องผู้ใหญ่ผู้น้อยอย่างใกล้ชิด ก่อนถูกจัดการเป็นไทยอย่างทุกวันนี้ ตามเส้นลุ่มน้ำ ในสูจิบัตรที่พิมพ์แจกได้อธิบายไว้อย่างละเอียดถึง 5 กลุ่มด้วยกัน
1. กลุ่มลุ่มน้ำโขง ชี มูล หรือ เจนละ บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร นครพนม ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ที่แม่น้ำชี-มูล ไหลมารวมกันแล้วลงสู่แม่น้ำโขงที่อุบลราชธานี นับถือพราหมณ์-พุทธ
2. กลุ่มกลางลุ่มน้ำมูล หรือพนมวัน-พิมาย-พนมรุ้ง บริเวณที่ราบลุ่มบางส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์และนครราชสีมา นับถือพุทธมหายาน
3. กลุ่มต้นลุ่มน้ำมูล หรือ ศรีจนาศะ บริเวณจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่อำเภอเมือง อำเภอปักธงชัยและอำเภอสูงเนินไปจดเทือกเขาพนมดงรักและดงพญาเย็นทางตะวันตก นับถือพุทธ-พราหมณ์
4. กลุ่มลุ่มน้ำชี บริเวณจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ และกาฬสินธุ์ เป็นบ้านเมืองที่นับถือพระพุทธศาสนาต่อเนื่องเรื่อยมา สร้างเสมาหิน พระนอน สถูปเจดีย์ ในศิลปะสถาปัตยกรรมแบบทวารวดีอย่างแพร่หลาย
5. กลุ่มสองฝั่งโขง หรือ เวียงจัน บริเวณอีสานเหนือ เขตเวียงจัน หนองคาย สกลนคร เป็นบ้านเมืองที่นับถือพระพุทธศาสนาต่อเนื่องมา มีชื่อในตำนานว่าศรีโคตรบูร มีศูนย์กลางอยู่ที่เวียงจัน ต่อไปข้างหน้าจะเรียกว่ากลุ่มสยาม
กิจกรรมครั้งนี้เรามุ่งเน้นไปที่ กลุ่มต้นแม่น้ำมูล หรือ ศรีจนาศะ รัฐอิสระยุคทวารวดี และกลุ่มกลางลุ่มน้ำมูล และระบบเครือญาติของประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเมืองพิมาย ที่เกี่ยวข้องกับวรรณคดียุคกรุงธนบุรี เรื่องท้าวปาจิตต์ ต้นแบบฉันทลักษณ์กลอนสุนทรภู่และลุ่มน้ำมูล 3,000 ปี ราชวงศ์มหิธร บรรพบุรุษกษัตริย์กัมพูชา ผู้สถาปนานครวัด-นครธม และปราสาทเขาพระวิหาร
ต้นราชวงศ์กษัตริย์อยู่ลุ่มน้ำมูล เพราะบริเวณต้นน้ำมูลตั้งแต่เขตปราสาทพนมวัน ปราสาทหินพิมาย ปราสาทเขาพนมรุ้ง เป็นถิ่นเดิมหรือถิ่นบรรพบุรุษเกี่ยวดองเป็น "เครือญาติ" ของกษัตริย์ที่สถาปนาอาณาจักรกัมพูชาที่บริเวณทะเลสาบ ทำให้กษัตริย์อาณาจักรกัมพูชาก่อสร้างปราสาทหินสำคัญไว้ในอีสาน เช่น ปราสาทเขาพระวิหารในกัมพูชา หันหน้าทางอีสานและมีทางบันไดขึ้นลงที่ยื่นยาวเข้ามาทางจังหวัดศรีสะเกษ
รูปสลักขบวนแห่ทหารในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์บนระเบียงประวัติศาสตร์ที่ปราสาทนครวัด แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ฉัน "เครือญาติ" ระหว่างกษัตริย์เขมรเมืองพระนครกับบ้านเมืองแว่นแคว้นต่างๆ ที่อยู่ห่างไกลออกไป และยังบอกให้รู้ถึง "เครือข่าย" ทางการค้าในบนเส้นทางการคมนาคม-การค้าครั้งนั้น เช่น เสียมกุก หรือ ชาวสยาม ที่หมายถึงคนพื้นเมืองหลายชาติพันธุ์บริเวณสองฝั่งโขงที่มีเวียงจันเป็นศูนย์กลางของชาวสยามที่สื่อสารด้วยภาษาลาว-ไทย
เรามักจะคุ้นกับวลีโปรโมตการท่องเที่ยวถึงเส้นทาง "ราชมรรคา" ซึ่งแปลว่า เส้นทางของราชา (ขอม) แต่ในเส้นทางมี ไพร่บ้านพลเมือง วิถีชีวิตระหว่างการค้า ศาสนาและการเมืองอยู่ด้วย
ถึงยุคสมัยจะเปลี่ยนไป การเดินทางของผู้คนไม่เคยขาดหาย แม้ทัวร์นกขมิ้น ก็ไม่เว้นเคยผ่านเส้นทางสาย "โขง ชี มูล " นี้
เรื่องเล่าจากสองข้างทาง
นิตยสารเทคโนโลยชาวบ้าน หน้า 114 ปักษ์แรก 1 -15 พฤษภาคม 2551