21.ศุภณัฐ
อีเมล์ / 4 กันยายน 2551 ผิดกติกา ส่งเกินกำหนดเวลา
ทางออก
๏ ทางออกคือประตูแบ่งขอบเขต ย่อมมีเหตุนำพาให้ค้นหา
ริเริ่มก้าวผ่านสร้างปัญญา ทางนำพาสร้างสรรค์ความสัมพันธ์
๏ ทางออกคือประตูสู่ภายนอก คือคำตอบของชีวิตใช่ความฝัน
เผชิญความจริงสุขทุกข์อยู่คู่กัน เรียนรู้มันก้าวเดิน ดำเนินไป
๏ ทางออกคือประตูสู่ทางแก้ ยามที่แพ้เฝ้าครุ่นคิดผิดไฉน
มีปัญหาคิดคำตอบจากปัจจัย เริ่มที่ไหนแก้กลไกแก้ทางตัน
๏ ทางออกคือประตูสู่ชีวิต ถูกลิขิตเริ่มชีวิตพิชิตฝัน
ทิ้งอดีตมุมานะทำปัจจุบัน ทุกคืนวันเริ่มสิ่งใหม่ด้วยแรงใจ
๏ ทางออกคือประตูก้าวผ่านกรอบ คือทางออกพ้นความคิดพบสิ่งใหม่
ต้านกระแสพลิกวิถีโลกทั้งใบ ก้าวผ่านใจคือการก้าวผ่านตัวตน
๏ ทางออกคือประตูสู่ความว่าง เป็นทางสร้างความสุขสำเร็จผล
ก้าวผ่านใจความอยากและตัวตน พ้นวังวนเกิดตายนิพพานเอย
..................................................................................
22. ก้านแก้ว นวอาวุธ
เว็บบอร์ด / 8 สิงหาคม 2551
ทางออก คำตอบจากยาย
๏ อายุน้อยด้อยวัยในตอนเด็ก ตัวยังเล็กเด็กน้อยคอยสงสัย
อยู่กับยายปลายวัยให้อาลัย หากจากไกลใครเขาเข้าปกครอง
๏ หนูยังเด็กเล็กนักจักสอบถาม ยายบอกความตามคิดจิตสนอง
คนดีร้ายยายดูรู้ครรลอง หนูจะตรองมองได้อย่างไรดี
๏ ยายยิ้มแย้มแย้มคำพร่ำบอกหลาน คำโบราณขานเล่าเจ้าสมศรี
เป็นบทธรรมจำจดบทวจี เรื่องคนดีมีว่าห้าประการ
๏ ข้อที่หนึ่งตรึงไว้ไม่ฆ่าสัตว์ หากใครขัดมัดบาปตราบสังขาร
ห้ามลักทรัพย์นับรองตรองดวงมาน เป็นเหตุสานพาลชั่วมัวมลทิน
๏ กามคุณคุณต้องมองตามกรอบ ประพฤติชอบตอบตรงจงถวิล
พูดโกหกวกวนดลมลทิน หากใครชินสิ้นสัตย์จัดว่าเลว
๏ เรื่องน้ำเมาเข้าจ่อข้อสุดท้าย เหตุทำลายสลายศรีชีวีเหลว
ศิลห้าข้อขอย้ำอย่าทำเลว ข้อดีเลวเปลวธรรมจำจงดี
๏ หลานจงจำคำร่ายยายพร่ำบอก เป็นทางออกบอกมองกรองราศรี
หากหลานหลงจงจำคำวจี หลานจะมีศรีธรรมประจำใจ
๏ ยายไม่อยู่คู่ชิดสะกิดบอก จำคำบอกตอกย้ำนำนิสัย
เป็นทางออกบอกทางกระจ่างใจ บทชี้ใครร้ายดีที่ควรจำ
..................................................................................
23. ก้านแก้ว นวอาวุธ
เว็บบอร์ด / 8 สิงหาคม 2551
ทางออก คำตอบจากยาย
๏ ทางแห่งโลกโศกเศร้าเคล้าความสุข บางครั้งทุกข์รุกใจให้ขื่นขม
ทุกข์ครองใจให้ย้ำช้ำระทม ฤทัยตรมจมคลองนองน้ำตา
๏ ปิติใจให้ชื่นดื่มความสุข เพลินสนุกปลุกใจให้หรรษา
โลกทั้งใบใสสดงดงามตา ตามอุราพาฝันสรรตามใจ
๏ จึงเป็นเหตุเขตขั้นกั้นทางมรรค เป็นสลักดักทางสร้างนิสัย
ห่างทางออกบอกธรรมคำอำไพ สุดอาลัยได้หวนชวนเสียดาย
๏ พุทธองค์ทรงชี้ที่ทางพุทธ ให้ใจหยุดจุดวางที่กลางสาย
ทางสายกลางวางไว้ไม่กลับกลาย อย่ายักซ้ายย้ายขวาเป็นขาปู
๏ สนุกรู้ดูเศร้าอย่าเขลารับ ให้กำกับดับกรรมทำอดสู
ดับนิวรณ์ตอนนิ่งยิ่งเชิดชู ศึกษารู้ลู่ทางสร้างนิพพาน
๏ ทางแห่งธรรมกรรมดับสดับแล้ว เป็นดวงแก้วแพรวพรรณหมั่นสืบสาน
ทางพ้นกรรมย้ำเปลี่ยนเวียนดวงมาน ทางนิพพานสานสร้างทางออกเอย
..................................................................................
24. ก้านแก้ว นวอาวุธ
เว็บบอร์ด / 17 สิงหาคม 2551
ทางออก พอเพียง
๏ ทางเกษตรเหตุคิดทฤษฎีใหม่ พระองค์ให้ในทางกระจ่างแสง
ทางออกพ้นหนทางจนดลแสดง กระจ่างแจ้งแฝงธรรมคำราชา
๏ ที่ทำกินถิ่นอยู่ให้รู้พัฒน์ จตุจัดหัดแบ่งแหล่งภักษา
อย่างที่หนึ่งพึงให้เป็นไร่นา แบ่งเป็นนามาสามตามที่ดิน
๏ เป็นที่สวนชวนสนผลไม้ ก็แบ่งได้ในสามตามทรัพย์สิน
อีกสามส่วนควรเห็นเป็นน้ำกิน ใช้รดรินดินพฤกษ์นึกตามใจ
๏ อีกหนึ่งส่วนส่วนเผื่อเหลือจากแบ่ง ก็จัดแต่งแหล่งอยู่อู่อาศัย
เป็นบ้านช่องห้องหอตามพอใจ ที่เหลือให้ใจพัฒน์วัฒนา
๏ หนึ่ง สาม สามและสาม ตามทรัพย์สิน แบ่งที่ดินถิ่นอยู่ดูศึกษา
เป็นเกษตรแนวใหม่ให้ปรัชญา เป็นที่มาหาเลี้ยงอย่างพอเพียง
๏ ปวงไพร่ฟ้าข้าไทไทยทั้งผอง ประกาศก้องร้องแห่แซ่ซ้องเสียง
สดุดีวจีธรรมนำพอเพียง ประสานเพรียงเสียงคง"ทรงพระเจริญ"
..................................................................................
25. นวภัทร
เว็บบอร์ด / 18 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ พระจันทรจรทาบภาพฟ้ากว้าง เจิดกระจ่างสร่างมัวเมฆหมอกมุ่น
นวลเฉลาเงาแสดงแสงละมุน พิภพอุ่นกรุ่นแกมแซมแสงจันทร์
๏ กระเพื่อมรับกับแสงที่แรงรื่น เป็นเงาคลื่นฉอกไหวแสงลายผัน
ฉากสลัวมัวตาพฤกษาพรรณ ต้องแสงจันทร์แล้วทอดลงตรงนที
๏ ดาราดาวพราวประกายพรายสกาว ในห้วงหาวจักรวาลไร้สารสี
กระพริบพริบระยิบยับกับรัชนี ในวิถีแต่ดารากลับปราชัย
๏ พื้นพนาชีวาวันยังฝันเฟื่อง จะรู้เรื่องรับราวกะเขาไหม
สงัดงดยังสดเสียงสำเนียงไพร ที่กู่ไกลก้องป่าเวลานอน
๏ ภวังค์เวิ้งเวียนว่ายจนหายว่าง แสงจันทร์จางลางดาวขาวสลอน
ผลัดจากที่หนีจากห้วงความง่วงนอน แล้วจัดจรตามกิจชีวิตจริง
๏ เมื่อหมดม่านการคับที่อับแคบ ไม่ปวดแสบแรบร้าวไปทุกสิ่ง
คืนมีวันจันทร์มีแรมมิแจ่มจริง และอย่างยิ่งในไตรลักษณ์จักว่าไว้
๏ ทุกปัญหาย่อมปัญญาเป็นทางออก ถึงช้ำชอกมีหรือหมดความสดใส
ดีก่อก่อนยังรวดร้าวคราวต่อไป ทางสดใสที่ทางออกได้บอกความ
..................................................................................
26. ธนอรรถ
เว็บบอร์ด / 27 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ หนทางออกของคนมีปัญหา คือต้องใช้ปัญญานั้นแก้ไข
เรื่องต่างๆไม่ว่าประการใด นั้นจะไม่ทำให้เรานั้นร้อนรน
๏ คนร่ำรวยไม่ค่อยพบความลำบาก เพราะไม่ทุกข์ไม่ยากไม่ขัดสน
ยามเมื่อถึงเวลาที่อับจน ไร้ความอดความทนลงทุกวัน
๏ ต่างจากคนที่อยู่อย่างยากไร้ ตัวเขาไซร้นั้นต้องหมั่นขยัน
สู้สุดใจสุดตัวสุดชีวัน เจอทางตันฝ่าได้ไม่ยากเย็น
๏ เพียงแค่คนเรานั้นมีสติ ผลท่ผลิทำสิ่งใดไม่ยากเข็ญ
ตัวเรามองร่องทางน่าจะเป็น ไม่ใช่เห็นอยากทำเจอทางตัน
๏ ทุกคนนั้นล้วนแต่มีเรื่องทุกข์ มีความสุขเดี๋ยวเดียวกันทั้งนั้น
เพราะความทุกข์มีมากมายตามไม่ทัน อย่าให้มันมาทำลายเราอีกเลย
๏ จงระลึกทุกปัญหามีทางแก้ เราก็แค่ข้ามผ่านอย่าเมินเฉย
เมื่อรู้วิธีแก้ลงมือเลย เราก็เงยหน้ารับสุขไร้กังวล
..................................................................................
27. ประสิทธิ์
เว็บบอร์ด / 27 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ ทางออกบนโลกนี้มีหมื่นแสน ทั่วทุกแคว้นแห่งหนตำบลไหน
แต่ทำไมทางออกของหัวใจ ดูแล้วไร้หนทางแสนลางเลือน
๏ ทางออกนั้นออกได้ง่ายไม่ยาก แตกต่าจากทางออกใจไม่แม้นเหมือน
คิดไม่ตกแม้ใครจะตักเตือน แรกเป็นเพื่อนแต่จิตคิดไปไกล
๏ ลองคิดดูตริตรองลองอีกครั้น ปัญหานั้นเกิดมาจากที่ไหน
พบต้นเหตุแก้ปัญหาได้ทันใด ไม่ว่าใครปัญหาใจแก้ได้พลัน
๏ แม้นทางออกจะหายากลำบากแท้ ขอเพียงแค่ไม่ย่อท้ออย่ารอฝัน
ถ้าเรานั้นลองหันหน้ามาช่วยกัน ปัญหาพลันมลายหายด้วยดี
๏ แม้ว่ามันจะยากเย็นแสนเข็ญจิต สุดจะคิดแค้นในใจไม่สุขศรี
ทุกปัญหาทางออกนั้นย่อมมี เพียงต้องหาวิธีไม่รีรอ
๏ ถ้าหากเราเจอปัญหาแล้วคิดหนี ทั้งชีวีคไม่มีความสุขหนอ
แค่เรานั้นคิดจะแก้คงไม่พอ อยากจะขอพี่น้องลองคิดกัน
๏ ว่าปัญหามีเกิดย่อมมีแก้ ลองคิดว่ามันแค่เพียงความฝัน
ปัญหานั้นมีมากมายหลายหมื่นพัน ปริศนานั้นมีทางแก้อย่างแน่นอน
๏ ปัญหาเกิดมีไว้แก้แท้ชีวิต ถือเอาผิดเป็นความรู้เหมือนครูสอน
มีทางออกทางแก้แท้แน่นอน เหมือนละครชีวิตไม่ผิดเลย
..................................................................................
28. ชลธิชา
เว็บบอร์ด / 29 สิงหาคม 2551
ทางออก วิกฤติ เมืองเถื่อน
๏ ขึ้นชื่อว่าปัญหาย่อมน่าหวั่น ปัญหาปั่นป่วนใจให้ขื่นขม
ปัญหากลุ้มรุมให้ใจระทม หากเกิดปมยากคลายเคลื่อนผูกเงื่อนตาย
๏ ในเมืองเราเข้าขั้นปัญหาหนัก ชนไร้รักช้ำชอกทางออกหาย
มีหลากเรื่องเคืองขุ่นกันวุ่นวาย เหมือนเส้นด้ายพันกันยุ่งแสนรุงรัง
๏ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกบอกไม่ถูก ยากจะผูกสานไมตรี ไม่มีหวัง
คนกลางหนักกระอักกระอ่วนจวนจักพัง ไม่อาจนั่งเอนพักฝักฝ่ายใด
๏ ยิ่งอยู่นานบ้านเมืองเรายิ่งเบารัก ค่อยค่อยหักความดีเคยมีให้
ค่อยค่อยกัดค่อยค่อยกร่อนบั่นทอนใจ พอนานไปรักมลายตามสายลม
๏ ทางออกเดียวเยียวยารักษาได้ คือแยกใจมาเป็นกลางอย่างเหมาะสม
เอาความรู้เอาปัญญาฆ่าอารมณ์ มาช่วยข่มจิตร้ายกลายเป็นคน
๏ พุทธพจน์โปรดสัตว์ท่านตรัสช่วย ให้แก้ด้วยตัวเหตุนำตามเหตุผล
ทุกข์นี้เล่าเกิดที่ใดในผองชน? คงมิพ้นเกิดข้างในใจของเรา
๏ ครั้นจึงต้องดับไฟที่ใจก่อน เพราะพาลร้อนผู้คนชนหมองเศร้า
โปรดย้อนมองตัวท่านเถิดให้เกิดเงา แล้วจงเฝ้าดูให้เห็นเป็นอย่างไร
๏ หารอยยิ้มจากเรื่องนี้ไม่มีหรอก มีแต่ชอกช้ำกันพาหวั่นไหว
ทั้งเสียชื่อเสียเวลาเสียหน้าไทย มิเห็นใครสุขฤดีครานี้เลย
๏ หากไม่เลือกทางออกจากตรอกทุกข์ คงสิ้นสุขหากเรายังเฝ้าเฉย
ไฟการเมืองจะผลาญไทยได้ทุกข์เชย แล้วระเหยสุดสิ้นไอดินไทย
..................................................................................
29. ลัดดาวัลย์
เว็บบอร์ด / 29 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ ทั่วทุกภาคร่วมมือกันนั้นฟันฝ่า อย่าแบ่งว่าใครทำนำล้างผลาญ
เกิดถิ่นไทยเป็นคนไทยในวิญญาณ อย่าให้ไทยร้าวรานสิ้นหมิ่นศรัทธา
๏ การเมืองวุ่นคนก็วุ่นพาครุ่นคิด ตนลิขิตเงื่อนงำทำปัญหา
มิตรภาพระหว่างชาติขาดเยียวยา ต้องร้อนฉ่าลุกเป็นไฟคลายสัมพันธ์
๏ อยู่วงเวียนเวียนวนสับสนจิต จงนึกคิดหาทางแก้อย่าแปรผัน
มีแสงส่องทางออกได้ให้เห็นกัน อย่ามัวแต่ประชันรั้นเอาชัย
๏ ค่อยค่อยแก้ค่อยค่อยคิดพินิจถึง ค่อยค่อยพึงแก้ปัญหาน่าเลื่อมใส
ค่อยค่อยชี้ค่อยค่อยแจงแถลงไป ค่อยค่อยไขชาติรุ่งเรืองเมืองคนดี
๏ หากทุกฝ่ายเปิดใจคุยลุยปัญหา ร่วมปรึกษาร่วมแก้ไขอย่าได้หนี
อย่าอวดเก่งว่าตนเลิศละเมิดคดี หยิ่งศักดิ์ศรีอวดความรู้ชูปัญญา
๏ ทางเข้ามีทางออกมีอยู่ที่คิด ยามมืดมิดสตินึกตรึกตรองหนา
แม้แสงดับมืดมนจนโศกา แต่มิช้าจะสว่างกระจ่างใจ
๏ เปรียบดวงจันทร์ยามมือมิดหมดสิทธิ์เห็น ยามเดือนเพ็ญแสงส่องทางสว่างไสว
เช่นปัญหาเมื่อดับอับแสงไฟ กลับส่องชัยประกายสร้างทางออกเอย
..................................................................................
30. สุกฤษฎิ์
เว็บบอร์ด / 31 สิงหาคม 2551
อริยสัจสี่ ชี้ ทางออก
๏ ปัจจุบันโลกผันแปรมีแต่เรื่อง มีรุ่งเรืองทุกข์ยากมากปัญหา
หลายอย่างย้ำทำผิดจิตโศกา เศร้าอุราระทมตรมฤทัย
๏ เช่นการเมืองเรื่องวุ่นชุลมุนเหลือ แสนน่าเบื่อมิต้องจิตพิสมัย
ประชาชนเดือดร้อนบั่นทอนใจ ก็เพราะไม่สมานฉันท์กันสักที
๏ โปรดนำธรรมคำพระพุทธจุดเป็นแสง ให้เจิดแจ้งแจ่มความคิดจิตสุขศรี
เป็นทางออกด้วยปัญญาพ้นราคี เรื่องไม่ดีแก้ไขพลันทันเวลา
๏ อริยสัจสี่ ชี้ทางออก เป็นสิ่งบอกบ่งแจ้งแห่งปัญหา
มีสี่สิ่งตรองตริพิจารณา ให้ลึกซึ้งซึ่งค่าปัญญาธรรม
๏ ทุกข์ คือเรื่องที่ทุกข์บ่สุขขี คิดจงดีเหตุปัญหาพาตกต่ำ
ส่งผลให้เราไร้สุขทุกข์ระกำ เร่งเน้นย้ำใช้สติพิเคราะห์นา
๏ สมุทัย เหตุแห่งทุกข์จงฉุกคิด อีกพินิจสิ่งใดหนอก่อปัญหา
จงลำดับตรองไตร่ใช้ปัญญา จนรู้เหตุโศกาพาหมองใจ
๏ นิโรธ นั้นทางดับสำหรับทุกข์ จะคืนสุขด้วยธรรมนำแก้ไข
มีสติพิจารณาหาทางไป ทำอย่างไรให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี
๏ มรรค คือการปฏิบัติปัดทุกข์โศก ยามวิโยคเสื่อมหายพ่ายแพ้หนี
เป็นหนทางการดับทุกข์สุขทวี สร้างชีวีตามธรรมนำสุขใจ
๏ เปรียบปัญหาคืออัคคีที่น้ำดับ ก็คืนกลับแจ้งกระจ่างสว่างไสว
ต้องนำซึ่งปัญญารดมอดหมดไฟ แสนผ่องใสทางออกเห็นเป็นสุขเอย
..................................................................................
31. มาริษา
เว็บบอร์ด / 31 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ เกิดเหตุร้ายวุ่นวายไร้ทางออก ต้องจนตรอกตรอมตรมจมปัญหา
ไม่ยั้งคิดถึงต้นเหตุเจตนา พาอุราสับสนจนทางไป
๏ ใช้กำลังแก้ปัญหาน่าเศร้านัก มิประจักษ์ผลร้ายแฝงแรงเพียงไหน
เกิดสิ่งชั่วชุลมุนวุ่นดวงใจ อีกเมื่อใดจะพบทางสว่างกัน
๏ ใช้สติตรองคิดพินิจแน่ จงหันแล เหตุแห่งปมห่มสุขสันต์
ใช้สมองแก้ไขให้เร็ววัน มิประชันด้วยกำลังยั้งฤทัย
๏ สมานฉันท์ กันเถิดเกิดความสุข นิราทุกข์เราพี่น้องแสนผ่องใส
ค่อยค่อยคิดค่อยค่อยทำย้ำความใน จะแก้ไขอย่างถูกจุดยุติการณ์
๏ ทุกปัญหาย่อมสว่างมีทางแก้ มิอ่อนแอเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ
ไม่ย่อท้อกับสิ่งนี้ที่แผ้วพาล ขจัดมารความกลัวจากตัวตน
๏ เปรียบดวงดาวงามงดไม่หมดแสง กระจ่างแจ้งส่องไปในทุกหน
เจอทางตันหาทางออกนอกวังวน เป็นยอดคนเลิศปัญญาน่าเชิดชู
..................................................................................
32. ชุณห์
เว็บบอร์ด (ซ้ำ 2 ครั้ง) / 31 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ อันปัญหาพาก่อเกิดความทุกข์ ขาดความสุขเศร้าทรวงแสนโศกศัลย์
ชุลมุนวุ่นวายพัลวัน ทางออกนั้นทางใดใครบอกที
๏ ปัญหาเงินปัญหางานปัญหารัก ล้วนคิดหนักจักแก้ไขแบบไหนนี่
ปัญหาเรียนเพียรพากล้วนมากมี หาทางออกตรอกนี้ได้อย่างไร
๏ อันดับหนึ่งคำนึงไว้ใช้สติ จากนั้นตริตรองกรองปองแก้ไข
อย่าด่วนคิดพินิจแล้วตัดสินใจ ทำการใดให้แน่นอนก่อนกอปรการ
๏ เมื่อรู้ทันปัญหาพาประจักษ์ เมื่อรู้หลักลองคิดติดตามสถาน
เมื่อรู้แล้วแน่วแน่แท้เป็นการณ์ เมื่อรู้สารถ่องแท้แก้ถูกครา
๏ หากใจร้อนวุ่นวายวู่วามนัก ไม่รู้หลักริเริ่มเพิ่มปัญหา
มีแต่กลั่นสรรค์สร้างบรรลัยมา ปริศนาพาอับจนหนทางตัน
๏ หนทางออกตรอกแห่งแสงสว่าง จัดกระจ่างเมื่อดวงใจไม่หุ่นหัน
สัจธรรมนำพาผ่าทางตัน สติมั่นปัญหาลาหมดเอย
..................................................................................
33. ธนากร
ไปรษณีย์ / 13 สิงหาคม 2551
จิตสว่างทางสงบ
๏ อุปสรรคอันยิ่งใหญ่ไทยประสบ คือไทยรบกับไทยใจอดสู
แบ่งแยกความคิดเห็นเป็นศรัตรู ไม่เชิดชูไม่รู้รักสามัคคี
๏ เห็นประโยชน์ส่วนตนคนยิ่งใหญ่ ดึงดูดใจเคยเยือกเย็นเป็นใจผี
โลภ โกรธ หลง สิงใจไพร่ผู้ดี จิตถึงมีมืดมัวกลั้วอบาย
๏ จะดีชั่วช่างใครไม่คิดแล้ว กลายเป็นแนวกฎหมู่สู้กฎหมาย
ประชาธิปไตยไทยจึงถึงบานปลาย เพราะเสรีมากมายเกินพอรับ
๏ ดังช้างศึกตกมันหันหน้าสู้ ดังเสือขู่สิงห์เข่นเป็นคู่ปรับ
เสือก็ขับสิงห์ก็ขบรบกันยับ ทางระงับดับเย็นเห็นไม่มี
๏ ผลประโยชน์ของชาติพินาศสิ้น ชาวบูรินทร์ล้วนแต่ทุกข์สุขแหนงหนี
เศรษฐกิจย่อยยับใหญ่ไม่ไยดี เล่นขี้แพ้ชวนตีกันวุ่นวาย
๏ หากเห็นใจคนไทยด้วยกันบ้าง เดินสายกลางพุทธวิถีมีความหมาย
คนละก้าวหากถอยไปไม่บานปลาย ทุกข์คงคลายหากรู้รักสามัคคี
๏ กำหนดลมหายใจไว้เข้าออก หนึ่งสองบอกในใจไว้ถ้วนถี่
ศีล สมาธิ ปัญญาเลิศ บังเกิดมี สุขฤดีหากปล่อยวางตรงกลางใจ
๏ เศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงชีวิต ผลิตผลเสริมสร้างทางฝันใฝ่
คำพ่อสอนล้นเกล้าฯ ผองชาวไทย น้อมใส่ใจล้ำมณีทรงชี้ทาง
๏ คงเห็นไทยรักชาติไทยใจสมาน เป็นลูกหลานเพื่อนพ้องไม่หมองหมาง
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์วงศ์ องค์พุทธาง จิตสว่างทางสงบไทยพบแล้ว
๏ ไทยจะสุขเลิศล้ำนำสมัย เพียงโน้มใจน้อมธรรมะมาพ้องแผ่ว
ดั่งสวรรค์ล้ำเลิศเพริศพริ้งแพรว ละเลิกแล้วเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน
..................................................................................