ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป (โคลงสี่สุภาพ) 37 สำนวน
หน้า(2) สำนวนที่ 21-37
21. Gothic Dan.
อีเมล์ / 30 สิงหาคม 2551
ทางออก: ฤาเป็นเพียงแค่ความฝันลมๆแล้งๆของเด็กชายคนหนึ่ง
๑)
๏ ริมถนน, บนขอบพื้น บาทวิถี
ณ บ่ายวันหนึ่งมี เด็กน้อย
ก้าวย่าง, ย่างละที ทีละ ก้าวเอย
ท่ามระอุแดดบ่ายคล้อย ร่อนเหร้พเนจรฯ
๏ พเนจรสู่โลกกว้าง ทางไกล
เด็กหนุ่มพร้อมหัวใจ มุ่งหมั้น
สัมภาระ, แบกเป้ไป ใบหนึ่ง
ทางทอดไกล, ว่าสั้น ก็ด้วยอหังการ์ฯ
๏ แววตาเด็กหนุ่มน้อย วาวหวัง
แม้นเหงื่อหยาดเรื่อกรัง ฉาบหน้า
หากใจเปี่ยมไฟพลัง เติมต่อ
เท้าหยัดเหยียดยอดหญ้า หยั่งไว้ในวิถีฯ
๒)
๏ เขามีหนึ่งเศษเสี้ยว ฟางฝัน
สืบปณิธานชีวัน วาดไว้
เขาเบื่อโลกปัจจุบัน บัดซบ
อันบอด, บ้า, บื้อ, ใบ้ เสื่อมทั้งสังคมฯ
๏ มีอุดมการณ์, ต่างเท้า ก้าวเดิน
ระหว่างทางระหกเหิน สุดก้าว
เด็กชายมุ่งหมายเผชิญ ทางออก
ทางสู่ฝันอันอะคร้าว อาจคว้ามาหวังฯ
๏ หวังว่าหวัง, ขณะหญ้า ผลิใบ
อาจพบสักฝันใด แตะแต้ม
ฤาท่ามดอกไม้ไสว ชูช่อ
อาจกลีบฝันพลันแย้ม อวดยิ้มยวนยลฯ
๓)
๏ ดั้นด้นมาทั้งบ่าย จรดเย็น
เด็กหนุ่มก็ยังมิเห็น สักเสี้ยว
ฟางฝัน, หวั่นลำเค็ญ กว่าพบ
เหนื่อยอ่อนค่อนแรงเขี้ยว สุดคว้างทางฝันฯ
๏ เกือบวัน, ที่อ่อนล้า แรมรอน
เขาอยากล้มตัวนอน ก่อนบ้าง
เด็กหนุ่มหลับทางจร ขอบบาท วิถีแฮ
พลันหลับ, ฝันกลับสล้าง ตื่นขึ้น, อยู่บนสวรรค์ฯ
๏ บนสวรรค์เด็กหนุ่มน้อย เป้สะพาย
ทางออก, บอกจุดหมาย ฝั่งหน้า
ความฝันกลั่นหยดประกาย ผลิชื่น
ต้อนรับขวัญผู้กล้า อาจท้าล่าฝันฯ
......................................................................
......................................................................
.....................................................................
......................................................................
๔)
๏ คืนนั้น, ขณะล้ม........................ตัวนอน
กระบะหนึ่งคันสัญจร.......................หักเลี้ยว
พริบตา, พร่าฝันหลอน....................แหลกร่าง
เด็กหนุ่มลับ, ดับเสี้ยว.....................หนึ่งสิ้นนิรันดร์ฝัน!!!
..................................................................................
22. พงษ์เทพ
ไปรษณีย์ / 30 สิงหาคม 2551
(แก้ไขครั้งที่ 1, 2) อีเมล์ / 30 สิงหาคม 2551
(แก้ไขครั้งที่ 3,4) อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ กลียุคคราครั่นครื้น นครา
ทุกข์ยากเยือนประชา ชาติช้ำ
เพลงโศกเพิ่มโศกา กำสรด
ทางรอดใดจะย้ำ ยากแท้จักหา
๏ พาราเพลิงพลุ่งร้าย เผาราญ
แก่งแย่งชิงดีผลาญ พลาดม้วย
แตกสามัคคีงาน งันโง่ เง่าเฮย
ทุจริตล่มจมด้วย ดับสิ้นธรรมแสง
๏ แสดงศีลสดับสัจสร้าง สืบสมัย
สติส่งไมตรีใส สุขสล้าง
สุจริตทวารไตร ตรลบ
ขันติษมาสร้าง เสกสร้อยสมานฉันท์
๏ รังสรรค์เศรษฐกิจแก้ ความจน
ข้าวยากหมากแพง ผล พรุ่งไร้
วันนี้ยิ่งทุกข์ทน เทวษทั่ว
เราท่านหาทางให้ ห่อนเว้นวายวาง
๏ สร้างฐานะรู้อยู่ พอเพียง
รักษ์ศาสตร์ศิลป์สิทธิ์เสียง ประเสริฐล้ำ
ชูชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ เคียง นคเรศ
ประพฤติคุณธรรมค้ำ คลาดแคล้วภัยผอง
๏ ครรลองทางออกแท้ ทวี
สัตย์ซื่อสุจริตศรี สง่าพร้อม
ปัญญาสติไมตรี เติมต่อ
พระราชดำรัสน้อม สว่างพื้นไผทสยาม
ทางออก (แก้ไขครั้งที่ 1)
๏ กลียุคคราครั่นครื้น นครา
ทุกข์ยากเยือนประชา ชาติช้ำ
เพลงโศกเพิ่มโศกา กำสรด
ทางรอดใดจะย้ำ ยากแท้จักหา
๏ พาราเพลิงพลุ่งร้าย เผาราญ
แก่งแย่งชิงดีผลาญ พลาดม้วย
แตกสามัคคีงาน งันโง่ เง่าเฮย
ทุจริตล่มจมด้วย ดับสิ้นธรรมแสง
๏ แสดงศีลสดับสัจสร้าง สืบสมัย
สติส่งไมตรีใส สุขสล้าง
สุจริตทวารไตร ตรลบ
ขันติษมาสร้าง เสกสร้อยสมานฉันท์
๏ รังสรรค์เศรษฐกิจแก้ ความจน
ข้าวยากหมากแพง ผล พรุ่งไร้
วันนี้ยิ่งทุกข์ทน เทวษทั่ว
เราท่านหาทางให้ ห่อนเว้นวายวาง
๏ สร้างฐานะรู้อยู่ พอเพียง
รักษ์ศาสตร์ศิลป์สิทธิ์เสียง ประเสริฐล้ำ
ชูชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ เคียง นคเรศ
ประพฤติคุณธรรมค้ำ คลาดแคล้วภัยผอง
๏ ปรองดองทางออกแท้ ทวี
สัตย์ซื่อสุจริตศรี สง่าพร้อม
ปัญญาสติไมตรี เติมต่อ
พระราชดำรัสน้อม สว่างพื้นไผทสยาม
ทางออก (แก้ไขครั้งที่ 2)
๏ กลียุคคราครั่นครื้น นครา
ทุกข์ยากเยือนประชา ชาติช้ำ
เพลงโศกเพิ่มโศกา กำสรด
ทางรอดใดจะย้ำ ยากแท้จักหา
๏ พาราเพลิงพลุ่งร้าย เผาราญ
แก่งแย่งชิงดีผลาญ พลาดม้วย
แตกสามัคคีงาน งันโง่ เง่าเฮย
ทุจริตล่มจมด้วย ดับสิ้นธรรมแสง
๏ แสดงศีลสดับสัจสร้าง สืบสมัย
สติส่งไมตรีใส สุขสล้าง
สุจริตทวารไตร ตรลบ
ขันติษมาสร้าง เสกสร้อยสมานฉันท์
๏ รังสรรค์เศรษฐกิจแก้ ความจน
ข้าวยากหมากแพง ผล พรุ่งไร้
วันนี้ยิ่งทุกข์ทน เทวษทั่ว
เราท่านหาทางให้ ห่อนเว้นวายวาง
๏ สร้างฐานะรู้อยู่ พอเพียง
รักษ์ศาสตร์ศิลป์สิทธิ์เสียง ประเสริฐล้ำ
ชูชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ เคียง นคเรศ
ประพฤติคุณธรรมค้ำ คลาดแคล้วภัยผอง
๏ ปรองดองทางออกแท้ ทวี
สัตย์ซื่อสุจริตศรี สง่าพร้อม
ปัญญาสติไมตรี เติมต่อ
พระราชดำรัสน้อม สว่างพื้นไผทสยาม
ทางออก (แก้ไขครั้งที่ 3)
๏ เกิดกลียุคครั่นครื้น นครา
ทุกข์ยากเยือนประชา ชาติช้ำ
เพลงโศกเพิ่มโศกา กำสรด
ทางรอดใดจะย้ำ ยากแท้จักหา
๏ พาราเพลิงพลุ่งร้าย เผาราญ
แก่งแย่งชิงดีผลาญ พลาดม้วย
แตกสามัคคีงาน งันโง่ เง่าเฮย
ทุจริตล่มจมด้วย ดับสิ้นธรรมแสง
๏ แสดงศีลสดับสร้าง สัจสมัย
สติส่งปัญญาใส สุขสล้าง
สุจริตทวารไตร ตรลบ
ขันติษมาสร้าง สกสร้อยสมานฉันท์
๏ รังสรรค์เศรษฐกิจแก้ ความจน
ข้าวยากหมากแพง ผล พรุ่งไร้
วันนี้ที่ทุกข์ทน เทวษทั่ว
เราท่านหาทางให้ ห่อนเว้นวายวาง
๏ สร้างฐานะรู้อยู่ พอเพียง
รักษ์ศาสตร์ศิลป์สิทธิ์เสียง ประเสริฐล้ำ
ชูชาติศาสน์กษัตริย์เคียง นคเรศ
ประพฤติคุณธรรมค้ำ คลาดแคล้วภัยผอง
๏ ปรองดองทางออกแท้ ทวี
สัตย์ซื่อพิสุทธิ์ศรี สง่าพร้อม
เมตตามิ่งไมตรี เติมต่อ
พระราชดำรัส น้อม สว่างพื้นไผทสยาม
ทางออก (แก้ไขครั้งที่ 4)
๏ เกิดกลียุคครั่นครื้น นครา
ทุกข์ยากเยือนประชา ชาติช้ำ
เพลงโศกเพิ่มโศกา กำสรด
ทางรอดใดจะย้ำ ยากแท้จักหา
๏ พาราเพลิงพลุ่งร้าย เผาราญ
แก่งแย่งชิงดีผลาญ พลาดม้วย
แตกสามัคคีงาน งันโง่ เง่าเฮย
ทุจริตล่มจมด้วย ดับสิ้นธรรมแสง
๏ แสดงศีลสดับสร้าง สัจสมัย
สติส่งปัญญาใส สุขสล้าง
สุจริตทวารไตร ตรลบ
ขันติษมาสร้าง เสกสร้อยสมานฉันท์
๏ รังสรรค์เศรษฐกิจแก้ ความจน
ข้าวยากหมากแพง ผล พรุ่งไร้
วันนี้ที่ทุกข์ทน เทวษทั่ว
เราท่านหาทางให้ ห่อนเว้นวายวาง
๏ สร้างฐานะรู้อยู่ พอเพียง
รักษ์ศาสตร์ศิลป์สิทธิ์เสียง ประเสริฐล้ำ
ชูชาติศาสน์กษัตริย์เคียง นคเรศ
ประพฤติคุณธรรมค้ำ คลาดแคล้วภัยผอง
๏ ปรองดองทางออกแท้ ทวี
สัตย์ซื่อพิสุทธิ์ศรี สง่าพร้อม
เมตตามิ่งไมตรี เติมต่อ
พระราชดำรัส น้อม สว่างพื้นไผทสยาม
..................................................................................
23. กอบกุล
อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551
ทางออกคือใจ
๏ หากเปรียบชีวิตนี้ เช่นละคร
บทบาทยอกย้อนตอน ชั่วร้าย
ดีเลวต่างเพียงฟอน ฟางหนึ่ง เส้นนา
กว่าแยกแยะออกคล้าย กับใกล้หมดหวัง ๚
๏ จิตเพียงหยั่งคิดพร้อม ไตร่ตรอง
จักพบสิ่งใดครอง ครอบไว้
ฝ่าผ่านซึ่งครรลอง คลุมอยู่
จึงประสบสว่างกระจ่างได้ เริ่มต้นวาดฝัน ๚
๏ เส้นทางอันยึดยื้อ เหนื่อยใจ
จงอย่าได้หมดไฟ สักครั้ง
เพ่งจิตคิดตรองใน สิ่งผ่าน มาเฮย
ท้ายสุดสิ่งฉุดรั้ง พ่ายแพ้พังสลาย ๚
๏ หากมิคลายมั่นแม้น ฝ่าฟัน
แม้ผ่านเนิ่นนานวัน จิตน้อม
ค่อยสานก่อสิ่งอัน มอดดับ ลงเฮย
เติมต่อสั่งสมพร้อม เพิ่มเพี้ยงประสบการณ์ ๚
๏ สิ่งใดพาลเหลื่อมล้ำ ข้ามมา
ฟันฝ่าทุกครั้งครา พ่ายแล้
อุปสรรคต่างต่างนา มอดดับ ลงเฮย
เพียงจิตมั่นมุ่งแม้ จักร้ายตะกายถึง ๚
๏ สุดท้ายพึงสงบด้วย ใจตน
เข้าใจทุกเหตุผล สว่างได้
สงบสยบทุกอย่างวน เวียนอยู่
ทางออกหาห่างไซร้ อยู่ใกล้เพียงถวิล ๚๛
..................................................................................
24. วรินทิพย์
อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551 | (แก้ไขครั้งที่ 1) อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ ชีวิตใครขีดไว้ เดินทาง
ถูกผิดพลาดพลั้งบ้าง บ่อยครั้ง
รายล้อมสิ่งรอบข้าง ล้วนหลอก
ดีชั่วตัวคิดยั้ง ย่างก้าว เดินเอง
๏ ขาวดำแยกแบ่งได้ คงดี
เทาหม่นมัวหมองสี มากชั้น
ทางเดียวผิดถูกมี ปนหมด
จะเลือกทางใดนั้น สุดแท้ หยั่งถึง
๏ บางคนหลงยั่วเย้า เมามัว
กิเลสพันรอบตัว เกิดร้าย
ก่อกรรมคิดทำชั่ว ตนต่ำ
หลงผิดยึดติดคล้าย หมอกคล้ำ บังตา
๏ หนทางเดินซึ่งไร้ แสงใด
มืดมิดปิดบังใจ ไม่เว้น
กงกรรมก่อกรรมไป ยากหยุด
ทางออกหลอกหลีกเร้น แหวกหว้าย เวียนวน
๏ คนเราจึงไขว่คว้า เสาะหา
สิ่งบ่งชี้ชักพา สู่แจ้ง
ปิดกรรมเปิดดวงตา มืดบอด
ให้จิตใจแห้งแล้ง ชุ่มชื้น ฉ่ำเย็น
๏ ปัญญา เปรียบดังคล้าย แสงไฟ
สาดส่องสู่ดวงใจ เจิดจ้า
สติ เกิดไว้ใช้ แยกแบ่ง
ดีชั่วตัวรู้หว้า ออกได้ ทางใด
๏ ตรอง ตริคิดติดหมั้น ความดี
แล้ว ละกิเลสหนี ห่างร้าย
จึง ก่อเกิดมั่งมี ความสุข
ทำ ทุกข์ได้ทุกข์คล้าย สิ่งย้อน ยังตน
๏ นำ ใจมาใฝ่ด้วย พระธรรม
สู่ จิตคิดน้อมนำ หลุดพ้น
ทาง กรรมแก้ด้วยกรรม ดีส่ง
ออก ทุกข์สุขเปี่ยมล้น มุ่งเข้า ทางธรรม
ทางออก (แก้ไขครั้งที่ 1)
๏ ชีวิตใครขีดไว้ เดินทาง
ถูกผิดพลาดพลั้งบ้าง บ่อยครั้ง
รายล้อมสิ่งรอบข้าง ล้วนหลอก
ดีชั่วตัวคิดยั้ง ย่างก้าว เดินเอง
๏ ขาวดำแยกแบ่งได้ คงดี
เทาหม่นมัวหมองสี มากชั้น
ทางเดียวผิดถูกมี ปนหมด
จะเลือกทางใดนั้น สุดแท้ หยั่งถึง
๏ บางคนหลงยั่วเย้า เมามัว
กิเลสพันรอบตัว เกิดร้าย
ก่อกรรมคิดทำชั่ว ตนต่ำ
หลงผิดยึดติดคล้าย หมอกคล้ำ บังตา
๏ หนทางเดินซึ่งไร้ แสงใด
มืดมิดปิดบังใจ ไม่เว้น
กงกรรมก่อกรรมไป ยากหยุด
ทางออกหลอกหลีกเร้น แหวกหว้าย เวียนวน
๏ คนเราจึงไขว่คว้า เสาะหา
สิ่งบ่งชี้ชักพา สู่แจ้ง
ปิดกรรมเปิดดวงตา มืดบอด
ให้จิตใจแห้งแล้ง ชุ่มชื้น ฉ่ำเย็น
๏ ปัญญา เปรียบดังคล้าย แสงไฟ
สาดส่องสู่ดวงใจ เจิดจ้า
สติ เกิดไว้ใช้ แยกแบ่ง
ดีชั่วตัวรู้หว้า ออกได้ ทางใด
๏ ตรอง ตริคิดติดหมั้น ความดี
แล้ว ละกิเลสหนี ห่างร้าย
จึง ก่อเกิดมั่งมี ความสุข
ทำ ทุกข์ได้ทุกข์คล้าย สิ่งย้อน ยังตน
๏ นำ ใจมาใฝ่ด้วย พระธรรม
สู่ จิตคิดน้อมนำ หลุดพ้น
ทาง กรรมแก้ด้วยกรรม ดีส่ง
ออก ทุกข์สุขเปี่ยมล้น มุ่งเข้า ทางธรรม
..................................................................................
25. "ก.ไกรศิรกานท์"
อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ ห้องมืดหมองหม่นไหม้ อนธการ
สัตว์ส่ำสำส่อนคลาน ไขว่คว้าง
เกะกะก่ายทรมาน มืดหม่น หมองแฮ
ปีนป่ายห้องหับร้าง แห่งห้วงกามคุณ
๏ ส่ำสัตว์เศร้าโศกหน้า เวทนา
แหวกว่ายธารกามา ค่ำเช้า
โป้ปดเปล่งมุสา เข่นฆ่า กันเฮย
อวลกลิ่นคาวคลุ้งเคล้า ทั่วห้องหับอบาย
๏ ปิ่นปราชญ์ผู้เปรื่องล้ำ ปรัชญา
จอมเกศเกล้าศาสดา พุทธเจ้า
มีจิตเปี่ยมปรารถนา มุ่งมั่น
ฉุดช่วยสัตว์จากเล้า แหล่งหล้าโลกีย์
๏ เผยแผ่สอนสั่งไซร้ วิธี
ออกจากห้วงโลกีย์ เหล่านั้น
ปัญญาเหล่าเรามี จงไตร่ ตรองเฮย
ฟังก่อนอย่าเพิ่งรั้น หลีกเร้นจรลา
๏ เกิดแก่แลเจ็บแล้ว ลาตาย
วนว่ายเวียนมิวาย ห่อนเว้น
เปรียบเปรยตื่นเช้าสาย จวบค่ำ นอนแฮ
ยามรุ่งเริ่มไต่เต้น เช่นนี้วนเวียน
๏ ทุกข์ล้วนเกิดแต่ต้น สมุทัย
นิโรธคือรากใน แผ่นหล้า
รีบเถิดเร่งเร็วไว รีบขุด ออกเอย
อย่าปล่อยมันแก่กล้า เติบต้นเจริญพันธุ์
๏ กิเลสเป็นเช่นน้ำ รดไป
ต้นทุกข์เติบแตกใบ กิ่งก้าน
มาเถิดมีดมรรคไซร้ ตัดราก รานแล
มุ่งมั่นมิมัวคร้าน ถากแผ้ว พืชกรรม
๏ พุทธแสงสาดส่องแจ้ง กลางกมล
เปรียบประทีปกลางเวหน ส่องหล้า
ตาบอดมืดสับสน ปรือเปิด แลเฮย
ทางออกย่อมมีถ้า จิตแจ้งเจริญธรรม
๏ ทางออกอยู่ที่นั้น มิไกล
เพียงแต่เร่งเดินไป อย่าช้า
กิเลสอาจพันใย ยึดแน่น เหนียวนา
อย่าหยุดแม้อ่อนล้า ออกห้อง อบายภูมิ
..................................................................................
26. ครามสีรุ้ง
อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551
เปิดประตูเมือง
๏ มืดมิดเมืองแหลกร้าง รานรอน
แตกตื่นสู่นคร ต่างฟ้า
ลาลับกลิ่นภูธร นาทุ่ง
หมายมุ่งเป็นดอกหญ้า ต่ำต้อยเติบโต
๏ โผผินจากถื่นแล้ง ออกตก
บินว่อนปานวิหค ยากไร้
จิกตอดสั่นสะทก ยื้อแย่ง
ฟาดปากกระชากไซ้ แล่เนื้อเถือหนัง
๏ สายน้ำคำเปี่ยมล้ำ แฝงนัย
ลอยล่องลมคราใด เสกแสร้ง
น้ำนอนนิ่งในใจ หาใช่ จริงนา
เพียงร่ำน้ำคำแห้ง แห่งห้วงหิวกระหาย
๏ ชายหญิงคือสิ่งสร้าง สัจธรรม
ดาษดื่นเลวระยำ ต่ำช้า
เสพสมย่ำยีรำ- พันผูก
เสพสุขอันเหว่ว้า ว่างเว้นความดี
๏ กาลียุคปลุกให้ เห็นจริง
เกิดก่อเมืองผีสิง หลอกหล้า
เสียงปืนลั่นรัวยิง จงตื่น
คืนร่างวิญญาณบ้า อย่างไร้ตัวตน
๏ วังวนเวียนว่ายสิ้น วงศ์วาน
ขมขื่นอยู่ดักดาน หม่นเศร้า
เพลงไพรที่ขับขาน หายห่าง
เงียบดั่งประตูเหย้า เนื่องด้วยปิดตาย
๏ แสนเสียดายไม่แจ้ง ทางใจ จริงเอย
ทิฐิมานะใน ใหญ่ล้ำ
สิ้นสติรำไร ใจย่อม สิ้นแฮ
ดิบดุเดือดเลือดจ้ำ ชอกช้ำใจกาย
๏ ทลายจิตฝ่าข้าม ฟอนไฟ
ออกจากประตูใจ ถ่านเถ้า
กิเลสแตกดับไป เปิดออก
เมืองเก่าจักยังเฝ้า ฝากไว้ให้ชมฯ
..................................................................................
27. ณ เณร
อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551
ทางออก (วิวิธมรรคา)
กำเนิดกุมาร
๏ สูติกาลจากท้อง มารดา
ทางออก แห่งชีวา เริ่มต้น
มื้อแรกทิพย์ธารา จากอก
รินหลั่งด้วยรักล้น แม่พร้อมพลีสนอง
แสงสว่างเสมอปัญญาไม่มี
๏ แสงทองบรรเจิดจ้า จรุงหวัง
แสงแดดไร้เมฆบัง บ่มร้อน
แสงสูรย์ย่อมหยัดยัง- ประโยชน์ คณาเฮย
แสงสว่างปัญญาป้อน เปี่ยมแปล้คุณผสาน
พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร
๏ พบพานความทุกข์เร้า รุมใจ
อริยสัจสี่ไข เหตุแก้
ทุกข์มีสมุทัย เกี่ยวเนื่อง กันนอ
นิโรธดับทุกข์แท้ มรรคเน้นแนวทางฯ
ทำดี ละชั่ว ทำจิตให้ผ่องใส
๏ วางตนมุ่งก่อเกื้อ กรรมดี
ละชั่วจิตโสภี ผ่องแผ้ว
ราคะกิเลสมี ทางดับ ได้นา
ธรรมะคือเกราะแก้ว ก่อกั้นใจสูง
สรรพศาสน์งดงาม
๏ ชักจูงกันรักษ์ไว้ ทางบุญ
ทุกศาสน์พิศุทธิ์คุณ- ค่าล้น
สิ่งดีจิตจงหนุน แนบแน่น กมลเทอญ
ทางออกเพื่อหลุดพ้น ทุกข์ร้ายคลายเข็ญ
ปัจฉิมพุทธโธวาทปาฐะ
๏ หยาดเย็นพระพุทธเจ้า ทรงสอน
โอวาทปัจฉิมอมร หมั่นน้อม
ประมาท จักลิดรอน สรรพสิ่ง สิ้นแล
เตือนจิตตั้งสติพร้อม ช่วยแก้ทุกสถานฯ
ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น
๏ อวสานชีวิตคล้าย- คลึงกัน
ทางออกปล่องเมรุควัน คุคลุ้ง
บ้างนอนนิ่งเงียบงัน ณ สุ- สานเฮย
ใครชั่วใครเลิศรุ้ง ล่วงรู้ดูกรรมฯ
ลมปากดี จริงใจ กู้ภัยชาติ
๏ ขัดแย้ง ทำชาติร้อน ราวไฟ
แบ่งพรรคแบ่งพวกใย ยืดเยื้อ
ปรองดอง วิกฤติไทย จักผ่าน - พ้นแฮ
สามัคคี ชุ่มเชื้อ จักฟื้นฟูสยาม
..................................................................................
28. KilaKung
อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551 | (แก้ไขครั้งที่ 1) เว็บบอร์ด 31 สิงหาคม 2551
สึนามิ (ทางออก)
๏ เสียงครืนครืนคลื่นครื้น ฤาเสียง คลั่งฤา
เคลิ้มครู่กลายสำเนียง ไป่เคลิ้ม
ครู่เดียวคลื่น โคลนเคียง เพียงครู่ เคลิ้มแล
ทั้งถั่งโถมสั่นเทิ้ม ทั่วทั้งเคหา
๏ สายวารีสมุทรเกรี้ยว- กราดสาย โถมทลาย
ล้วนสัตว์เกรงตัวตาย ต่างล้วน
เร่งรีบหลีกมลาย ราวเร่ง มรณา
ไร้เฉลียวถี่ถ้วน เร่งไร้แลเหลียว
๏ นานาสัตว์สุดสิ้น สตินา
นั้นต่างกรู เกรียวหา คลื่นนั้น
ต่างกายต่างบูชา ความต่าง ปัญญาแล
แล้วหลั่งเลือดเหือดหั้น ทั่วแล้วธรณี
๏ โครมโครมคลื่นเคลื่อนครั้น ครามโครม
เกรี้ยวกราดเกลียวถาโถม โกรธเกรี้ยว
ฝั่งแปรปรับเปลี่ยนโฉม ชายฝั่ง อันดามัน
ไว้แต่ซาก เศษเสี้ยว สรรพไว้ให้สังหรณ์
๏ เสียงใดใด หวั่นได้ ฤาเสียง ครืนเอย
เคลิ้มนุ่มนวลสำเนียง คลื่นเคลิ้ม
อาจแฝงเล่ห์กล เพียง เสียงอาจ มลายนา
ต้องเฉลียว หากเทิ้ม- สั่นต้องสติยั้ง
๏ ตนใดใครครั่นคร้าม เตือนตน
ยั้งจิตระรัวรน หยุดยั้ง
คลื่นกระหน่ำ ย่อมหน ปลอดคลื่น คลั่งนา
ตั้งสติจิตบ่พลั้ง แต่ตั้ง ภัยเผชิญฯ
สึนามิ (ทางออก) (แก้ไขครั้งที่ 1)
๏ เสียงครืนครืนคลื่นครื้น ฤาเสียง คลั่งฤา
เคลิ้มครู่กลายสำเนียง ไป่เคลิ้ม
ครู่เดียวคลื่น โคลนเคียง เพียงครู่ เคลิ้มแล
ทั้งถั่งโถมสั่นเทิ้ม ทั่วทั้งเคหา
๏ สายวารีสมุทรเกรี้ยว- กราดสาย โถมทลาย
ล้วนสัตว์เกรงตัวตาย ต่างล้วน
เร่งรีบหลีกมลาย ราวเร่ง มรณา
ไร้เฉลียวถี่ถ้วน เร่งไร้แลเหลียว
๏ นานาสัตว์สุดสิ้น สตินา
นั้นต่างกรู เกรียวหา คลื่นนั้น
ต่างกายต่างบูชา ความต่าง ปัญญาแล
แล้วหลั่งเลือดเหือดหั้น ทั่วแล้วธรณี
โครมโครมคลื่นเคลื่อนครั้น ครามโครม
เกรี้ยวกราดเกลียวถาโถม โกรธเกรี้ยว
ฝั่งแปรปรับเปลี่ยนโฉม ชายฝั่ง อันดามัน
ไว้แต่ซาก เศษเสี้ยว สรรพไว้ให้สังหรณ์
๏ เสียงใดใด หวั่นได้ ฤาเสียง ครืนเอย
เคลิ้มนุ่มนวลสำเนียง คลื่นเคลิ้ม
อาจแฝงเล่ห์กล เพียง เสียงอาจ มลายนา
ต้องเฉลียว หากเทิ้ม- สั่นต้องสติยั้ง
๏ ตนใดใครครั่นคร้าม เตือนตน
ยั้งจิตระรัวรน หยุดยั้ง
คลื่นกระหน่ำ ย่อมหน ปลอดคลื่น คลั่งนา
ตั้งสติจิตบ่พลั้ง แต่ตั้ง ภัยเผชิญฯ
..................................................................................
29. นขวิภา
อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551
ทางออก
1.
๏ " สัตว์นรกบาปหยาบช้า โฉดสถุล
ซื้อสิทธิ์ซื้อเสียงทุน ชั่วแท้
ฝูงเปรตแย่งส่วนบุญ เขมือบชาติ
ต้องผนึกกำลังแก้ กระชากหน้ากากมัน
๏ มาร่วมกันลากไส้ สมุนโจร
บั่นบาปชั่วหัวโขน ขาดสะบั้น
กำหมัดกู่ตะโกน ไล่เปรต
ชนเพื่อชนทุกชั้น ปกป้องคุณธรรม "
2.
๏ ทุกคำ-ความรู้สึก สื่อใจ
โกรธเกลียดเคียดขึ้งไข จิตแจ้ง
บรรยายออกมาใน อักขระ
ส่งผ่านความขัดแย้ง สู่ผู้รับสาร
๏ อ่าน-ฟังกระทบเข้า ถึงความ
ซึมซับนัยนิยาม ศัพท์สร้าง
ฟังว่าเชื่อว่าตาม เขาว่า
อาฆาตอารมณ์ค้าง อัดอั้นใจตน
๏ ทุกข์ในวนวัฎร้อน อารมณ์
เปิดออกหนึ่งทางถม ปิดร้อย
ออกร้อยปิดพันสม- ทบหมื่น
แสนปากสำรากถ้อย บ่นทิ้งระบาย
๏ เพียงหายใจเข้าออก ธรรมดา
คำผ่านเข้าหูขวา ทะลุซ้าย
ตั้งสมาธิหลับตา ครองสติ
ทางออกทางสุดท้าย เปิดกว้างแค่ใจ
..................................................................................
30. ธนวัฒน์
เว็บบอร์ด / 26 สิงหาคม 2551
ทางออก...ปริศนาจากภาพวาด
๏ เรื่องเล่าเรื่องหนึ่งนี้ เตือนตน
ครูสั่งวาดภาพคน ง่ายแท้
เด็กน้อยเร่งมือจน ภาพเสร็จ ส่งเฮย
วาดผิดครูสั่งแก้ แต่ห้ามลบรอย
๏ เด็กน้อยมองภาพแล้ว ใคร่ครวญ
คำสั่งครูทบทวน ตอกย้ำ
ภาพวาดภาพนี้ชวน ให้ปวด หัวนา
ห้ามลบครูสั่งซ้ำ จักแก้อย่างไร
๏ หัวใหญ่ร่างเล็กเพี้ยน รูปผิด
สัดส่วนชวนให้คิด ขีดทิ้ง
เด็กน้อยเพ่งพินิจ ทางออก
หวังจักให้งามพริ้ง ไป่รู้ปริศนา
๏ ปากกาจรดขีดเส้น ลงสาย
แต้มแต่งแปลงลวดลาย ภาพนั้น
ปริศนาสุดท้าทาย ลูกศิษย์
ความคิดไม่ปิดกั้น จึ่งรู้หนทาง
๏ เด็กน้อยกางภาพให้ ครูชม
กรุ้มกริ่มพริ้มอารมณ์ สุขไซร้
หัวคนวาดได้สม สัดส่วน
สวมหมวกกันน็อกไว้ ภาพนั้นน่าดู
๏ ครูยิ้มชมศิษย์พร้อม น้อมนำ
ภาพวาดสอนคุณธรรม เลิศแท้
เมื่อผิดก็พึงจำ ยอมรับ ผิดนา
ทางออกคือการแก้ ผิดด้วยปัญญา
๏ ปัญหาอุปสรรคข้อง ขัดใจ
ก้าวพลาดผิดพลั้งไป ก่อนนี้
ดั่งวาดภาพเผลอไผล ผิดส่วน
เผชิญผิดอย่าคิดลี้ หลบเร้นสูญหาย
๏ ปลายทางแม้น บ่ ใกล้ ก้าวเดียว
หากแต่สุดเขาเขียว อย่าท้อ
เพียงพิศพิเคราะห์เฉลียว ทางออก
อุปสรรคขวางไขข้อ ขัดได้โดยเชาว์
..................................................................................
31. ไชยเชษฐ์
เว็บบอร์ด / 27 สิงหาคม 2551
บัวพ้นตม
๏ บัวเบ่งบานกลีบแย้ม ลออตา
งามเด่นกลางธารา ตระหง่านล้ำ
ผลิพ้นเต่าปูปลา บึงต่ำ
ผุดผ่านตมเหนือน้ำ ดอกก้านตระการชม
๏ คือสังคมประเสริฐชั้น ปัญญา
ประสิทธิ์ธรรมสดับมา ประพฤติน้อม
มีทางออกปัญหา คลายบ่วง
สติตั้งระลึกพร้อม ตระหนักด้วยความดี
๏ ชีวิตต้องต่อสู้ ยถา
กล้าแกร่งบนมรรคา ลุกล้ม
ทุกขังอนัตตา ฤาเที่ยง
คงมั่นไม่คิดก้ม พ่ายแพ้พึงเพียร
๏ เปลี่ยนความมืดแปดด้าน เห็นธรรม
สว่างประทีปกรรม ส่องได้
อริยสัจสี่นำ ประกอบ
สมุทัยนิโรธให้ มรรคแจ้งแสดงทาง
๏ เดินสายกลางย่างก้าว พอประมาณ
ละกิเลสเหตุพาล อยากได้
บำเพ็ญจิตบุญภิบาล เว้นบาป
ชำระตัณหาให้ พิสุทธิ์สิ้นราคี
๏ มีหนทางหลากเส้น ยาวไกล
อยู่ที่ตนเลือกไป จุดนั้น
รู้ดีชั่วแก่ใจ ทางออก
บัวเบ่งบานตามขั้น ผลิพ้นโคลนตม
..................................................................................
32. สิทธิเดช
เว็บบอร์ด / 28 สิงหาคม 2551
ฮักกันไว้พี่น้อง
๏ ฮักกันไว้พี่น้องคน ใบขวาน
เฮาหลั่งรินเหงื่องาน ปลูกสร้าง
มหานคร อลังการ เมืองมนุษย์
สิทุกข์ สิยากบ้าง กัดแข้ว ทนเอา
๏ ยามเหงาก็กอดฟ้า ห่มดาว
ทุกข์ยากมานานยาว ยิ่งแล้ว
หิวบ้างอิ่มบ้างบางคราว เหนื่อยหนัก
ใช่เกิดในเวียงแก้ว ต่อสู้เถิดอีสาน
๏ จากบ้านจากถิ่นแคว้น บรรพชน
หนีจากความยากจน ทุ่งแล้ง
เข้ากรุงเพื่อสู้ทน เก็บเกี่ยว
ดอกเหงื่อร่วงเหือดแห้ง บอดใบ้ยุติธรรม
๏ ทุกคำข้าวปากอ้า กลืนกิน
หอมกรุ่นผืนแผ่นดิน หมู่บ้าน
มองดาวดื่มดาวถวิล คึดฮอด อีสานเอย
ลมล่องหนาวสะท้าน พี่น้องซำบายดี ?
๏ มีหนี้ ให้ปลดหนี้ เป็นไท
เหนื่อยยากทุกข์เพียงใด อย่าท้อ
ปลูกเถิดปลูกดอกใจ บานเบ่ง
คงสักวันเต็มหม้อ อิ่มข้าวมีแฮง
๏ ฮักแพงกันเพื่อนพ้อง ชาวสยาม
อย่าก่อเพลิงสงคราม ลุกไหม้
เขาร้อนอย่าร้อนตาม เย็นเถิด
เมืองพุทธไม่สิ้นไร้ ดอกน้ำใจงาม ฯฯ
อธิบายศัพท์อีสาน
* กัดแข้ว หมายถึง กัดฟัน
* ซำบาย หมายถึง สบาย
..................................................................................
33. นิมิตร
เว็บบอร์ด / 28 สิงหาคม 2551
ทางออก
๏ อกระอุอุดอู้ อึดอัด
เปรียบดั่งถูกเชือกรัด เหนี่ยวรั้ง
ปัญหาเรื่องเคืองขัด จิตขุ่น
ปลุกป่วนเกินยับยั้ง ส่งให้ใจมัว
๏ เหมือนหมกในแห่งห้อง หวาดกลัว
เพราะลุ่มหลงพันพัว สิ่งเร้า
อบายเกี่ยวติดตัว แนบแน่น
เหตุยิ่งบานปลายเข้า จึ่งรู้ทางตัน
๏ กายลุกลนเพื่อดิ้น หนีพลัน
สุมก่อไฟโลกันต์ ร่างไหม้
กิเลสยั่วนานวัน สิงสู่
จึงเกิดความกลัวไซร้ เรียกร้องหนทาง
๏ พอขยับกลับยิ่งย้ำ เลือนราง
เหมือนดิ่งดำไปกลาง แห่งห้วง
ทะเลลึกเหวขวาง ทางออก
หวนคิดถึงคำท้วง บ่ได้รับฟัง
๏ พอเห็นแสงส่องให้ มีพลัง
แสงเปรียบกับความหวัง แกร่งกล้า
คือโอกาสกำลัง จิตมุ่ง
พบว่าธรรมตรงหน้า ช่วยพ้นทุกข์ทน
๏ อธิษฐานจิตด้วย กรรมตน
พบซึ่งทางออกหน แต่นี้
จักประพฤติเป็นคน ดีเด่น
เหินห่างอบายลี้ หลีกเร้นตัวไกล
๏ โอกาสจึงสว่างจ้า ทั่วไป
ผลแห่งกุศลใน จิตน้อม
พบทางออกทันใด เริงรื่น
กลับสู่ชีวิตพร้อม มุ่งหน้าทำดี
..................................................................................
34. พีรมิตร
เว็บบอร์ด / 29 สิงหาคม 2551
สวยใสไยเศร้า
๏ เทพนิมิตร่างน้อย นวลละหง
งามละเมียดบรรจง แจ่มแจ้ง
สวยใสสื่อประสงค์ สารเล่ห์ ใดนอ
ไยสบเนตรแห้งแล้ง ขุ่นเศร้าส่ำหมอง
๏ คลองโลกสมมุตินี้ ระทึกนัก
ภาพบ่งภาพประจักษ์ แจกพื้น
ภาพสวยสดไยยัก ยอกภาพ
ยิ้มเอ่ยยิ้มพลิกฟื้น ภาพเนื้อผ่องเพ็ญ
๏ เย็น ร่มเย็นหยาดแก้ม นวลใส
แลเล่าแลคราวไร รุ่มร้อน
ภาพราววาดบ่ไหว หวั่น-ทื่อ ทุกข์นอ
ขาวกับดำซ่อนซ้อน สุขเศร้าใดหรือ
๏ คือมารยาเทพแกล้ง เขย่าขวัญ
สองเนตรมนุษย์สามัญ มืดฟ้า
เห็นสมมุติแผกพรรณ ผ่องผาด
เผื่อเจตประพฤทธิ์จ้า จักแจ้งชีวิต
๏ พิศภาพ ภาพแผ่พร้อง กำสรวล
พิษแพร่ ร้าวรัญจวน เจ็บเศร้า
พิศภาพ กุหลาบนวล หนามเหน็บ
พิษเพลิดเพลินเกินเคล้า คลุกฝ้ามนหมาง
๏ ทางออกอวยสุขซึ้ง ชั่วคราว
เป็นสัจพจน์เด็กสาว อาจอ้าง
ใครยีย่ำผ้าขาว เขรอะหม่น
แจ่มแจ่มกลับถูกจ้าง จาบจ้วงสุทธิ์ศรี
๏ ปีศาจสาปแช่งเนื้อ นวลใส
หมองหม่นมืดละไม หมดสิ้น
โลกจักปล่อยลอยไหล ตามโลก
เด็กเด็กเอยอย่าดิ้น โลกจ้องจับขัง
๏ เด็กยังเป็นเด็กไร้ เดียงสา
มิใช่ทางออกครา หื่นข้อง
เด็กเป็นเด็กเพื่อพา โลกผุด ผ่องพ่อ
มิใช่เนาในห้อง หาดให้ใครโหม ฯ
..................................................................................
35. ณัฐพงศ์
เว็บบอร์ด / 29 สิงหาคม 2551
สวยใสไยเศร้า
๏ วกวนและเวิ่นเว้อ ทางเดิน
งันงกงมดำเนิน อ่อนล้า
สับสนสุ่มเผชิญ ผิดถูก บ้างเฮย
กัดกร่อนทอนการกล้า ย่างก้าวถดถอย
๏ ลองแลเลาะลัดซ้าย กลับรอย
จักเจอะจบตรอกซอย กีดกั้น
เอือมอดอ่วมรอคอย บุญเก่า
พูดพล่ามพระพรหมนั้น ช่วยได้จริงหรือ
๏ ปรับปรุงแปลงเปลี่ยนเป้า- หมายคือ
มาดมุ่งมองขวามือ ก็ได้
คุณคงคิดยึดถือ ทางออก แน่เฮย
ตรองตรึกตามหลักไซร้ สิ่งนั้นอาจหลง
๏ ถอดถอยกลับย่างเยื้อง ตกลง
เดินดุ่มดันเจอะดง ขวากไม้
เหิมหาญหักหยัดยง ตัดแต่ง ทางเฮย
ฉวยฉกโอกาสไว้ เพื่อได้ถึงฝัน
๏ ระรวยแรงอ่อนแอ้ กัดฟัน
เหน็ดเหนื่อยนักพักพลัน ผ่อนร้อน
ยามเย็นยาตรโรมรัน เดินต่อ
แสงส่องสาดสะท้อน ทั่วท้องทางเดิน
๏ แนวนำในที่ใช้ ประเมิน
บาง บ่ บุกเผชิญ ดุกร้าว
มีมากหลากดำเนิน ลองท่อย ทีนา
อาจใช่ทางออกก้าว สู่ด้าวแดนสวย
..................................................................................
36. รจนา U.S.A.
เว็บบอร์ด / 29 สิงหาคม 2551
ระหว่างทาง
๏ เมื่อต้องออกจากบ้าน ไกลเรือน
คำที่พ่อติงเตือน ท่องไว้
คำพระอย่าลืมเลือน จำจด
นั่งรถเรือไกลใกล้ อย่าได้เก่งเกิน
๏ ทางที่เดินหากรู้ อีกไกล
ควรรีบเดินต่อไป อย่าช้า
เป้าหมายที่หวังใน ใจจิต
แม้เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หากท้อฤาถึง
๏ ในช่วงหนึ่งอาจต้อง ลมฝน
อาจหลงทิศทางจน สุดแก้
มุ่งมั่นอย่าสับสน เกินเหตุ
ทบท่องต้องไม่แพ้ ไม่ช้าคลี่คลาย
๏ แดดกระจายส่องฟ้า ฉับพลัน
ทางที่คิดว่าตัน ผ่านได้
เพียงมีกิ่งไม้พันธุ์ เกาะเกี่ยว
ช่วงตะวันส่องให้ เร่งก้าวทันที
๏ ทางออกมีมากแม้น เพ่งมอง
แยกหนึ่งมีลำคลอง ไม่กว้าง
อีกแยกปักป้ายจอง กันเขต
คิดพักผ่อนนอนค้าง เร่งแจ้งแจงความ
๏ ชื่อสกุลนามครบถ้วน ที่มี
อาจจะพบโชคดี อีกด้วย
ได้รับช่อไมตรี เติมต่อ
ชีพรอดไม่มอดม้วย ช่วยให้สมหวัง
..................................................................................
37. รจนา U.S.A.
เว็บบอร์ด / 29 สิงหาคม 2551
เรือล่มเมื่อจอด
๏ ทางออกที่ช่วยแก้ ปัญหา
เหตุที่ยึดสภา ยืดเยื้อ
เพียงต่างหยุดวาจา ยั่วยุ
เพื่อสงวนเลือดเนื้อ พี่น้องเผ่าไทย
๏ หยุดใส่ไฟเพิ่มเชื้อ ประชัน
ก่อนจะเข่นฆ่าฟัน ป่นปี้
ก่อนสื่อจะตีข่าวบรร ยายเพิ่ม
ก่อนวุ่นวายกว่านี้ หยุดสร้างกระแส
๏ สื่อแฉผ่านไม่เว้น วันคืน
ภาพประชาชนยืน ร่วมด้วย
ท่ามกลางแดดฝนฝืน หนาวเหน็บ
ยอมจะมอดจะม้วย เพื่อได้ชัยครอง
๏ ร่วมเรียกร้องเพื่อให้ รัฐบาล
ยกเลิกขบวนการ ปรับแก้
รัฐธรรมนูญงาน ชิ้นเอก
เพื่อปิดทางพ่ายแพ้ เปลี่ยนข้างพลิกผัน
๏ เปิดประเด็นลั่นท้า ปวงชน
ประกาศกร้าวว่าตน ถูกต้อง
อีกฝ่ายไม่อาจทน เฉยนิ่ง
พร้อมสละชีพทิ้ง ร่วมด้วยยินดี
๏ จึงวันนี้ที่รู้ บางราย
ถูกทำร้ายร่างกาย บอบช้ำ
และมีจุดขยาย ต่อเนื่อง
ทางออกไม่เห็นซ้ำ ถูกต้อนติดมุม
..................................................................................