ReadyPlanet.com
dot dot
โคลงสี่สุภาพ “ทางออก” สิงหาคม 2551 สำนวนที่ 21-37

 

ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป (โคลงสี่สุภาพ) – 37 สำนวน

หน้า(2) สำนวนที่ 21-37

 

21. Gothic Dan. 

อีเมล์ / 30 สิงหาคม 2551

 

“ทางออก: ฤาเป็นเพียงแค่ความฝันลมๆแล้งๆของเด็กชายคนหนึ่ง”

 

๑)

    ริมถนน, บนขอบพื้น                บาทวิถี

ณ บ่ายวันหนึ่งมี                          เด็กน้อย

ก้าวย่าง, ย่างละที                       ทีละ ก้าวเอย

ท่ามระอุแดดบ่ายคล้อย                ร่อนเหร้พเนจรฯ

 

    พเนจรสู่โลกกว้าง                    ทางไกล

เด็กหนุ่มพร้อมหัวใจ                     มุ่งหมั้น

สัมภาระ, แบกเป้ไป                     ใบหนึ่ง

ทางทอดไกล, ว่าสั้น                     ก็ด้วยอหังการ์ฯ

 

    แววตาเด็กหนุ่มน้อย                วาวหวัง

แม้นเหงื่อหยาดเรื่อกรัง                 ฉาบหน้า

หากใจเปี่ยมไฟพลัง                     เติมต่อ

เท้าหยัดเหยียดยอดหญ้า              หยั่งไว้ในวิถีฯ

 

๒) 

    เขามีหนึ่งเศษเสี้ยว                  “ฟางฝัน”

สืบปณิธานชีวัน                          วาดไว้

เขาเบื่อโลกปัจจุบัน                      บัดซบ

อันบอด, บ้า, บื้อ, ใบ้                    เสื่อมทั้งสังคมฯ

 

 

 

    มีอุดมการณ์, ต่างเท้า              ก้าวเดิน

ระหว่างทางระหกเหิน                  สุดก้าว

เด็กชายมุ่งหมายเผชิญ                 “ทางออก”

ทางสู่ฝันอันอะคร้าว                    อาจคว้ามาหวังฯ

 

    หวังว่าหวัง, ขณะหญ้า            ผลิใบ

อาจพบสักฝันใด                         แตะแต้ม

ฤาท่ามดอกไม้ไสว                       ชูช่อ

อาจกลีบฝันพลันแย้ม                  อวดยิ้มยวนยลฯ

 

๓) 

    ดั้นด้นมาทั้งบ่าย                     จรดเย็น

เด็กหนุ่มก็ยังมิเห็น                       สักเสี้ยว

“ฟางฝัน”, หวั่นลำเค็ญ                 กว่าพบ

เหนื่อยอ่อนค่อนแรงเขี้ยว              สุดคว้างทางฝันฯ

 

    เกือบวัน, ที่อ่อนล้า                  แรมรอน

เขาอยากล้มตัวนอน                     ก่อนบ้าง

เด็กหนุ่มหลับทางจร                    ขอบบาท  วิถีแฮ

พลันหลับ, ฝันกลับสล้าง              ตื่นขึ้น, อยู่บนสวรรค์ฯ

 

    บนสวรรค์เด็กหนุ่มน้อย            เป้สะพาย

“ทางออก”, บอกจุดหมาย             ฝั่งหน้า

ความฝันกลั่นหยดประกาย           ผลิชื่น

ต้อนรับขวัญผู้กล้า                     อาจท้าล่าฝันฯ

 

......................................................................

......................................................................

.....................................................................

......................................................................

 

๔) 

    คืนนั้น, ขณะล้ม........................ตัวนอน

กระบะหนึ่งคันสัญจร.......................หักเลี้ยว

พริบตา, พร่าฝันหลอน....................แหลกร่าง

เด็กหนุ่มลับ, ดับเสี้ยว.....................หนึ่งสิ้นนิรันดร์ฝัน!!!

 

..................................................................................

 

 

 

22. พงษ์เทพ 

ไปรษณีย์  / 30 สิงหาคม 2551

(แก้ไขครั้งที่ 1, 2) อีเมล์ / 30 สิงหาคม 2551

(แก้ไขครั้งที่ 3,4) อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551

 

ทางออก

 

    กลียุคคราครั่นครื้น                              นครา

ทุกข์ยากเยือนประชา                                ชาติช้ำ

เพลงโศกเพิ่มโศกา                                  กำสรด

ทางรอดใดจะย้ำ                                     ยากแท้จักหา

 

    พาราเพลิงพลุ่งร้าย                             เผาราญ

แก่งแย่งชิงดีผลาญ                                 พลาดม้วย

แตกสามัคคีงาน                                      งันโง่      เง่าเฮย

ทุจริตล่มจมด้วย                                      ดับสิ้นธรรมแสง

 

    แสดงศีลสดับสัจสร้าง                        สืบสมัย

สติส่งไมตรีใส                                         สุขสล้าง

สุจริตทวารไตร                                                    ตรลบ

ขันติษมาสร้าง                                        เสกสร้อยสมานฉันท์

 

    รังสรรค์เศรษฐกิจแก้                            ความจน

“ข้าวยากหมากแพง” ผล                           พรุ่งไร้

วันนี้ยิ่งทุกข์ทน                                        เทวษทั่ว

เราท่านหาทางให้                                    ห่อนเว้นวายวาง

 

    สร้างฐานะรู้อยู่                                   พอเพียง

รักษ์ศาสตร์ศิลป์สิทธิ์เสียง                        ประเสริฐล้ำ

ชูชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ เคียง                      นคเรศ

ประพฤติคุณธรรมค้ำ                               คลาดแคล้วภัยผอง

 

    ครรลองทางออกแท้                             ทวี

สัตย์ซื่อสุจริตศรี                                      สง่าพร้อม

ปัญญาสติไมตรี                                      เติมต่อ

“พระราชดำรัส”น้อม                               สว่างพื้นไผทสยาม

 

ทางออก (แก้ไขครั้งที่ 1)

 

    กลียุคคราครั่นครื้น                              นครา

ทุกข์ยากเยือนประชา                                ชาติช้ำ

เพลงโศกเพิ่มโศกา                                  กำสรด

ทางรอดใดจะย้ำ                                     ยากแท้จักหา

 

    พาราเพลิงพลุ่งร้าย                             เผาราญ

แก่งแย่งชิงดีผลาญ                                 พลาดม้วย

แตกสามัคคีงาน                                      งันโง่      เง่าเฮย

ทุจริตล่มจมด้วย                                      ดับสิ้นธรรมแสง

 

    แสดงศีลสดับสัจสร้าง                        สืบสมัย

สติส่งไมตรีใส                                         สุขสล้าง

สุจริตทวารไตร                                                    ตรลบ

ขันติษมาสร้าง                                        เสกสร้อยสมานฉันท์

 

 

    รังสรรค์เศรษฐกิจแก้                            ความจน

“ข้าวยากหมากแพง” ผล                           พรุ่งไร้

วันนี้ยิ่งทุกข์ทน                                        เทวษทั่ว

เราท่านหาทางให้                                    ห่อนเว้นวายวาง

 

    สร้างฐานะรู้อยู่                                   พอเพียง

รักษ์ศาสตร์ศิลป์สิทธิ์เสียง                        ประเสริฐล้ำ

ชูชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ เคียง                      นคเรศ

ประพฤติคุณธรรมค้ำ                               คลาดแคล้วภัยผอง

 

    ปรองดองทางออกแท้                          ทวี

สัตย์ซื่อสุจริตศรี                                      สง่าพร้อม

ปัญญาสติไมตรี                                      เติมต่อ

“พระราชดำรัส”น้อม                                สว่างพื้นไผทสยาม

 

ทางออก (แก้ไขครั้งที่ 2)

 

    กลียุคคราครั่นครื้น                              นครา

ทุกข์ยากเยือนประชา                                ชาติช้ำ

เพลงโศกเพิ่มโศกา                                  กำสรด

ทางรอดใดจะย้ำ                                     ยากแท้จักหา

 

    พาราเพลิงพลุ่งร้าย                             เผาราญ

แก่งแย่งชิงดีผลาญ                                 พลาดม้วย

แตกสามัคคีงาน                                      งันโง่     เง่าเฮย

ทุจริตล่มจมด้วย                                      ดับสิ้นธรรมแสง

 

    แสดงศีลสดับสัจสร้าง                         สืบสมัย

สติส่งไมตรีใส                                         สุขสล้าง

สุจริตทวารไตร                                        ตรลบ

ขันติษมาสร้าง                                        เสกสร้อยสมานฉันท์

 

    รังสรรค์เศรษฐกิจแก้                            ความจน

“ข้าวยากหมากแพง” ผล                           พรุ่งไร้

วันนี้ยิ่งทุกข์ทน                                        เทวษทั่ว

เราท่านหาทางให้                                    ห่อนเว้นวายวาง

 

    สร้างฐานะรู้อยู่                                   พอเพียง

รักษ์ศาสตร์ศิลป์สิทธิ์เสียง                        ประเสริฐล้ำ

ชูชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ เคียง                      นคเรศ

ประพฤติคุณธรรมค้ำ                               คลาดแคล้วภัยผอง

 

    ปรองดองทางออกแท้                          ทวี

สัตย์ซื่อสุจริตศรี                                      สง่าพร้อม

ปัญญาสติไมตรี                                      เติมต่อ

“พระราชดำรัส”น้อม                                สว่างพื้นไผทสยาม

 

ทางออก (แก้ไขครั้งที่ 3)

 

    เกิดกลียุคครั่นครื้น                              นครา             

ทุกข์ยากเยือนประชา                                ชาติช้ำ        

เพลงโศกเพิ่มโศกา                                  กำสรด              

ทางรอดใดจะย้ำ                                     ยากแท้จักหา

                     

    พาราเพลิงพลุ่งร้าย                             เผาราญ         

แก่งแย่งชิงดีผลาญ                                 พลาดม้วย

แตกสามัคคีงาน                                      งันโง่  เง่าเฮย     

ทุจริตล่มจมด้วย                                      ดับสิ้นธรรมแสง                 

 

    แสดงศีลสดับสร้าง                             สัจสมัย                

สติส่งปัญญาใส                                                  สุขสล้าง               

สุจริตทวารไตร                                        ตรลบ                

ขันติษมาสร้าง                                        สกสร้อยสมานฉันท์     

 

    รังสรรค์เศรษฐกิจแก้                            ความจน                

“ข้าวยากหมากแพง” ผล                           พรุ่งไร้                     

วันนี้ที่ทุกข์ทน                                         เทวษทั่ว              

เราท่านหาทางให้                                    ห่อนเว้นวายวาง               

 

    สร้างฐานะรู้อยู่                                   พอเพียง                 

รักษ์ศาสตร์ศิลป์สิทธิ์เสียง                        ประเสริฐล้ำ              

ชูชาติศาสน์กษัตริย์เคียง                           นคเรศ            

ประพฤติคุณธรรมค้ำ                               คลาดแคล้วภัยผอง       

 

    ปรองดองทางออกแท้                          ทวี                    

สัตย์ซื่อพิสุทธิ์ศรี                                     สง่าพร้อม          

เมตตามิ่งไมตรี                                        เติมต่อ             

“พระราชดำรัส” น้อม                               สว่างพื้นไผทสยาม

 

ทางออก (แก้ไขครั้งที่ 4)

 

    เกิดกลียุคครั่นครื้น                         นครา                      

ทุกข์ยากเยือนประชา                            ชาติช้ำ             

เพลงโศกเพิ่มโศกา                                  กำสรด              

ทางรอดใดจะย้ำ                                     ยากแท้จักหา                 

 

    พาราเพลิงพลุ่งร้าย                             เผาราญ           

แก่งแย่งชิงดีผลาญ                                 พลาดม้วย             

แตกสามัคคีงาน                                      งันโง่  เง่าเฮย     

ทุจริตล่มจมด้วย                                      ดับสิ้นธรรมแสง             

 

    แสดงศีลสดับสร้าง                            สัจสมัย                

สติส่งปัญญาใส                                      สุขสล้าง               

สุจริตทวารไตร                                        ตรลบ                

ขันติษมาสร้าง                                   เสกสร้อยสมานฉันท์       

 

    รังสรรค์เศรษฐกิจแก้                            ความจน                

“ข้าวยากหมากแพง” ผล                           พรุ่งไร้                     

วันนี้ที่ทุกข์ทน                                         เทวษทั่ว              

เราท่านหาทางให้                                    ห่อนเว้นวายวาง             

 

    สร้างฐานะรู้อยู่                                   พอเพียง                 

รักษ์ศาสตร์ศิลป์สิทธิ์เสียง                       ประเสริฐล้ำ              

ชูชาติศาสน์กษัตริย์เคียง                           นคเรศ            

ประพฤติคุณธรรมค้ำ                            คลาดแคล้วภัยผอง        

 

    ปรองดองทางออกแท้                          ทวี                     

สัตย์ซื่อพิสุทธิ์ศรี                                     สง่าพร้อม           

เมตตามิ่งไมตรี                                        เติมต่อ             

“พระราชดำรัส” น้อม                               สว่างพื้นไผทสยาม         

 

..................................................................................

 

 

23. กอบกุล 

อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551

 

ทางออกคือใจ

 

    หากเปรียบชีวิตนี้                     เช่นละคร

บทบาทยอกย้อนตอน                   ชั่วร้าย

ดีเลวต่างเพียงฟอน                     ฟางหนึ่ง  เส้นนา

กว่าแยกแยะออกคล้าย                 กับใกล้หมดหวัง 

 

    จิตเพียงหยั่งคิดพร้อม              ไตร่ตรอง

จักพบสิ่งใดครอง                                    ครอบไว้

ฝ่าผ่านซึ่งครรลอง                       คลุมอยู่ 

จึงประสบสว่างกระจ่างได้            เริ่มต้นวาดฝัน 

 

    เส้นทางอันยึดยื้อ                    เหนื่อยใจ

จงอย่าได้หมดไฟ                         สักครั้ง

เพ่งจิตคิดตรองใน                       สิ่งผ่าน  มาเฮย

ท้ายสุดสิ่งฉุดรั้ง                          พ่ายแพ้พังสลาย 

 

    หากมิคลายมั่นแม้น                ฝ่าฟัน

แม้ผ่านเนิ่นนานวัน                      จิตน้อม

ค่อยสานก่อสิ่งอัน                        มอดดับ  ลงเฮย

เติมต่อสั่งสมพร้อม                      เพิ่มเพี้ยงประสบการณ์ 

 

    สิ่งใดพาลเหลื่อมล้ำ                ข้ามมา

ฟันฝ่าทุกครั้งครา                                    พ่ายแล้

อุปสรรคต่างต่างนา                     มอดดับ  ลงเฮย

เพียงจิตมั่นมุ่งแม้                        จักร้ายตะกายถึง ๚

 

    สุดท้ายพึงสงบด้วย                 ใจตน

เข้าใจทุกเหตุผล                          สว่างได้

สงบสยบทุกอย่างวน                    เวียนอยู่

ทางออกหาห่างไซร้                      อยู่ใกล้เพียงถวิล  ๚๛

 

..................................................................................

 

 

24. วรินทิพย์

อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551 | (แก้ไขครั้งที่ 1) อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551

 

ทางออก

 

    ชีวิตใครขีดไว้                         เดินทาง

ถูกผิดพลาดพลั้งบ้าง                   บ่อยครั้ง

รายล้อมสิ่งรอบข้าง                     ล้วนหลอก

ดีชั่วตัวคิดยั้ง                                          ย่างก้าว เดินเอง

 

    ขาวดำแยกแบ่งได้                   คงดี

เทาหม่นมัวหมองสี                      มากชั้น

ทางเดียวผิดถูกมี                         ปนหมด

จะเลือกทางใดนั้น                       สุดแท้ หยั่งถึง

 

    บางคนหลงยั่วเย้า                   เมามัว

กิเลสพันรอบตัว                       เกิดร้าย

ก่อกรรมคิดทำชั่ว                       ตนต่ำ

หลงผิดยึดติดคล้าย                     หมอกคล้ำ บังตา

 

    หนทางเดินซึ่งไร้                      แสงใด

มืดมิดปิดบังใจ                           ไม่เว้น

กงกรรมก่อกรรมไป                       ยากหยุด

ทางออกหลอกหลีกเร้น                 แหวกหว้าย เวียนวน

 

    คนเราจึงไขว่คว้า                     เสาะหา

สิ่งบ่งชี้ชักพา                             สู่แจ้ง

ปิดกรรมเปิดดวงตา                     มืดบอด

ให้จิตใจแห้งแล้ง                         ชุ่มชื้น ฉ่ำเย็น

 

    ปัญญา เปรียบดังคล้าย           แสงไฟ

สาดส่องสู่ดวงใจ                         เจิดจ้า

สติ เกิดไว้ใช้                               แยกแบ่ง

ดีชั่วตัวรู้หว้า                               ออกได้ ทางใด

 

    ตรอง ตริคิดติดหมั้น               ความดี

แล้ว ละกิเลสหนี                         ห่างร้าย

จึง ก่อเกิดมั่งมี                            ความสุข

ทำ ทุกข์ได้ทุกข์คล้าย                   สิ่งย้อน ยังตน

 

    นำ ใจมาใฝ่ด้วย                     พระธรรม

สู่ จิตคิดน้อมนำ                          หลุดพ้น

ทาง กรรมแก้ด้วยกรรม                 ดีส่ง

ออก ทุกข์สุขเปี่ยมล้น                  มุ่งเข้า ทางธรรม

 

 

ทางออก (แก้ไขครั้งที่ 1)

 

    ชีวิตใครขีดไว้                         เดินทาง

ถูกผิดพลาดพลั้งบ้าง                   บ่อยครั้ง

รายล้อมสิ่งรอบข้าง                     ล้วนหลอก

ดีชั่วตัวคิดยั้ง                             ย่างก้าว เดินเอง

 

    ขาวดำแยกแบ่งได้                   คงดี

เทาหม่นมัวหมองสี                      มากชั้น

ทางเดียวผิดถูกมี                         ปนหมด

จะเลือกทางใดนั้น                        สุดแท้ หยั่งถึง

 

    บางคนหลงยั่วเย้า                   เมามัว

กิเลสพันรอบตัว                        เกิดร้าย

ก่อกรรมคิดทำชั่ว                         ตนต่ำ

หลงผิดยึดติดคล้าย                     หมอกคล้ำ บังตา

 

    หนทางเดินซึ่งไร้                      แสงใด

มืดมิดปิดบังใจ                           ไม่เว้น

กงกรรมก่อกรรมไป                       ยากหยุด

ทางออกหลอกหลีกเร้น                 แหวกหว้าย เวียนวน

 

    คนเราจึงไขว่คว้า                     เสาะหา

สิ่งบ่งชี้ชักพา                             สู่แจ้ง

ปิดกรรมเปิดดวงตา                     มืดบอด

ให้จิตใจแห้งแล้ง                         ชุ่มชื้น ฉ่ำเย็น

 

    ปัญญา เปรียบดังคล้าย           แสงไฟ

สาดส่องสู่ดวงใจ                         เจิดจ้า

สติ เกิดไว้ใช้                              แยกแบ่ง

ดีชั่วตัวรู้หว้า                               ออกได้ ทางใด

 

    ตรอง ตริคิดติดหมั้น                ความดี

แล้ว ละกิเลสหนี                         ห่างร้าย

จึง ก่อเกิดมั่งมี                          ความสุข

ทำ ทุกข์ได้ทุกข์คล้าย                   สิ่งย้อน ยังตน

 

    นำ ใจมาใฝ่ด้วย                      พระธรรม

สู่ จิตคิดน้อมนำ                          หลุดพ้น

ทาง กรรมแก้ด้วยกรรม                 ดีส่ง

ออก ทุกข์สุขเปี่ยมล้น                   มุ่งเข้า ทางธรรม

 

..................................................................................

 

 

 

25. "ก.ไกรศิรกานท์" 

อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551

 

ทางออก

 

    ห้องมืดหมองหม่นไหม้          อนธการ

สัตว์ส่ำสำส่อนคลาน                   ไขว่คว้าง

เกะกะก่ายทรมาน                        มืดหม่น หมองแฮ

ปีนป่ายห้องหับร้าง                      แห่งห้วงกามคุณ

 

    ส่ำสัตว์เศร้าโศกหน้า               เวทนา

แหวกว่ายธารกามา                      ค่ำเช้า

โป้ปดเปล่งมุสา                           เข่นฆ่า กันเฮย

อวลกลิ่นคาวคลุ้งเคล้า                 ทั่วห้องหับอบาย

 

    ปิ่นปราชญ์ผู้เปรื่องล้ำ              ปรัชญา

จอมเกศเกล้าศาสดา                    พุทธเจ้า

มีจิตเปี่ยมปรารถนา                     มุ่งมั่น

ฉุดช่วยสัตว์จากเล้า                     แหล่งหล้าโลกีย์

 

    เผยแผ่สอนสั่งไซร้                   วิธี

ออกจากห้วงโลกีย์                       เหล่านั้น

ปัญญาเหล่าเรามี                        จงไตร่ ตรองเฮย

ฟังก่อนอย่าเพิ่งรั้น                       หลีกเร้นจรลา

 

    เกิดแก่แลเจ็บแล้ว                   ลาตาย

วนว่ายเวียนมิวาย                        ห่อนเว้น

เปรียบเปรยตื่นเช้าสาย                 จวบค่ำ นอนแฮ

ยามรุ่งเริ่มไต่เต้น                         เช่นนี้วนเวียน

 

    ทุกข์ล้วนเกิดแต่ต้น                 สมุทัย

นิโรธคือรากใน                            แผ่นหล้า

รีบเถิดเร่งเร็วไว                            รีบขุด ออกเอย

อย่าปล่อยมันแก่กล้า                    เติบต้นเจริญพันธุ์

 

    กิเลสเป็นเช่นน้ำ                      รดไป

ต้นทุกข์เติบแตกใบ                      กิ่งก้าน

มาเถิดมีดมรรคไซร้                      ตัดราก รานแล

มุ่งมั่นมิมัวคร้าน                          ถากแผ้ว พืชกรรม

 

    ‘พุทธแสง’สาดส่องแจ้ง            กลางกมล

เปรียบประทีปกลางเวหน              ส่องหล้า

ตาบอดมืดสับสน                       ปรือเปิด แลเฮย

ทางออกย่อมมีถ้า                        จิตแจ้งเจริญธรรม

 

    ทางออกอยู่ที่นั้น                     มิไกล

เพียงแต่เร่งเดินไป                        อย่าช้า

กิเลสอาจพันใย                           ยึดแน่น เหนียวนา

อย่าหยุดแม้อ่อนล้า                      ออกห้อง อบายภูมิ

 

..................................................................................

 

 

26. ครามสีรุ้ง

อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551

 

เปิดประตูเมือง

 

    มืดมิดเมืองแหลกร้าง              รานรอน

แตกตื่นสู่นคร                             ต่างฟ้า

ลาลับกลิ่นภูธร                            นาทุ่ง

หมายมุ่งเป็นดอกหญ้า                 ต่ำต้อยเติบโต

 

    โผผินจากถื่นแล้ง                    ออกตก

บินว่อนปานวิหค                         ยากไร้

จิกตอดสั่นสะทก                         ยื้อแย่ง

ฟาดปากกระชากไซ้                     แล่เนื้อเถือหนัง

 

    สายน้ำคำเปี่ยมล้ำ                  แฝงนัย

ลอยล่องลมคราใด                      เสกแสร้ง

น้ำนอนนิ่งในใจ                           หาใช่  จริงนา

เพียงร่ำน้ำคำแห้ง                        แห่งห้วงหิวกระหาย

 

    ชายหญิงคือสิ่งสร้าง               สัจธรรม

ดาษดื่นเลวระยำ                         ต่ำช้า

เสพสมย่ำยีรำ-                            พันผูก

เสพสุขอันเหว่ว้า                          ว่างเว้นความดี

 

    กาลียุคปลุกให้                       เห็นจริง

เกิดก่อเมืองผีสิง                          หลอกหล้า

เสียงปืนลั่นรัวยิง                         จงตื่น

คืนร่างวิญญาณบ้า                      อย่างไร้ตัวตน

 

    วังวนเวียนว่ายสิ้น                   วงศ์วาน

ขมขื่นอยู่ดักดาน                         หม่นเศร้า

เพลงไพรที่ขับขาน                       หายห่าง

เงียบดั่งประตูเหย้า                      เนื่องด้วยปิดตาย

 

    แสนเสียดายไม่แจ้ง                 ทางใจ  จริงเอย

ทิฐิมานะใน                                ใหญ่ล้ำ

สิ้นสติรำไร                                 ใจย่อม  สิ้นแฮ

ดิบดุเดือดเลือดจ้ำ                       ชอกช้ำใจกาย

 

    ทลายจิตฝ่าข้าม                     ฟอนไฟ

ออกจากประตูใจ                         ถ่านเถ้า

กิเลสแตกดับไป                           เปิดออก

เมืองเก่าจักยังเฝ้า                        ฝากไว้ให้ชมฯ

 

..................................................................................

 

 

27. “ณ เณร”

อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551

 

ทางออก (วิวิธมรรคา)

 

“กำเนิดกุมาร”                                        

    สูติกาลจากท้อง                      มารดา

                        “ทางออก” แห่งชีวา                     เริ่มต้น

                        มื้อแรกทิพย์ธารา                       จากอก

                        รินหลั่งด้วยรักล้น                        แม่พร้อมพลีสนอง

 

“แสงสว่างเสมอปัญญาไม่มี”                               

    แสงทองบรรเจิดจ้า                  จรุงหวัง

                        แสงแดดไร้เมฆบัง                       บ่มร้อน

                        แสงสูรย์ย่อมหยัดยัง-                   ประโยชน์   คณาเฮย                                

                      แสงสว่างปัญญาป้อน                        เปี่ยมแปล้คุณผสาน

 

“พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร”                         

    พบพานความทุกข์เร้า                    รุมใจ

                        อริยสัจสี่ไข                                 เหตุแก้

                        ทุกข์มีสมุทัย                               เกี่ยวเนื่อง  กันนอ

                        นิโรธดับทุกข์แท้                          มรรคเน้นแนวทางฯ

 

 

“ทำดี ละชั่ว ทำจิตให้ผ่องใส”                   

    วางตนมุ่งก่อเกื้อ                           กรรมดี

                        ละชั่วจิตโสภี                              ผ่องแผ้ว

                        ราคะกิเลสมี                               ทางดับ  ได้นา

                        ธรรมะคือเกราะแก้ว                     ก่อกั้นใจสูง

 

“สรรพศาสน์งดงาม”                               

    ชักจูงกันรักษ์ไว้                       ทางบุญ

                        ทุกศาสน์พิศุทธิ์คุณ-             ค่าล้น               

                        สิ่งดีจิตจงหนุน              แนบแน่น  กมลเทอญ                                                                             

 ทางออกเพื่อหลุดพ้น                   ทุกข์ร้ายคลายเข็ญ

 

“ปัจฉิมพุทธโธวาทปาฐะ”                        

    หยาดเย็นพระพุทธเจ้า             ทรงสอน

                        โอวาทปัจฉิมอมร                    หมั่นน้อม

                        “ประมาท” จักลิดรอน                  สรรพสิ่ง  สิ้นแล

                        เตือนจิตตั้งสติพร้อม                    ช่วยแก้ทุกสถานฯ

 

“ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น”  

    อวสานชีวิตคล้าย-                  คลึงกัน

                        ทางออกปล่องเมรุควัน                 คุคลุ้ง

                        บ้างนอนนิ่งเงียบงัน                     ณ สุ-  สานเฮย

                        ใครชั่วใครเลิศรุ้ง                         ล่วงรู้ดูกรรมฯ

 

“ลมปากดี จริงใจ กู้ภัยชาติ”                                 

    “ขัดแย้ง” ทำชาติร้อน                      ราวไฟ

                        แบ่งพรรคแบ่งพวกใย                   ยืดเยื้อ

                        “ปรองดอง” วิกฤติไทย                  จักผ่าน -   พ้นแฮ

                                    “สามัคคี” ชุ่มเชื้อ             จักฟื้นฟูสยาม

 

..................................................................................

 

 

 

28. “KilaKung” 

อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551 | (แก้ไขครั้งที่ 1) เว็บบอร์ด 31 สิงหาคม 2551

 

สึนามิ (ทางออก)

 

    เสียงครืนครืนคลื่นครื้น            ฤาเสียง คลั่งฤา

เคลิ้มครู่กลายสำเนียง                  ไป่เคลิ้ม

ครู่เดียวคลื่น โคลนเคียง               เพียงครู่ เคลิ้มแล

ทั้งถั่งโถมสั่นเทิ้ม                         ทั่วทั้งเคหา

 

    สายวารีสมุทรเกรี้ยว-               กราดสาย โถมทลาย

ล้วนสัตว์เกรงตัวตาย                    ต่างล้วน

เร่งรีบหลีกมลาย                          ราวเร่ง มรณา

ไร้เฉลียวถี่ถ้วน                            เร่งไร้แลเหลียว

 

    นานาสัตว์สุดสิ้น                     สตินา

นั้นต่างกรู เกรียวหา                     คลื่นนั้น

ต่างกายต่างบูชา                         ความต่าง ปัญญาแล

แล้วหลั่งเลือดเหือดหั้น                 ทั่วแล้วธรณี

 

    โครมโครมคลื่นเคลื่อนครั้น       ครามโครม

เกรี้ยวกราดเกลียวถาโถม              โกรธเกรี้ยว

ฝั่งแปรปรับเปลี่ยนโฉม                 ชายฝั่ง อันดามัน

ไว้แต่ซาก เศษเสี้ยว                      สรรพไว้ให้สังหรณ์

 

 

    เสียงใดใด หวั่นได้                   ฤาเสียง ครืนเอย

เคลิ้มนุ่มนวลสำเนียง                   คลื่นเคลิ้ม

อาจแฝงเล่ห์กล เพียง                   เสียงอาจ มลายนา

ต้องเฉลียว หากเทิ้ม-                   สั่นต้องสติยั้ง

 

    ตนใดใครครั่นคร้าม                 เตือนตน

ยั้งจิตระรัวรน                              หยุดยั้ง

คลื่นกระหน่ำ ย่อมหน                  ปลอดคลื่น คลั่งนา

ตั้งสติจิตบ่พลั้ง                           แต่ตั้ง ภัยเผชิญฯ

 

 

สึนามิ (ทางออก) (แก้ไขครั้งที่ 1)

 

    เสียงครืนครืนคลื่นครื้น            ฤาเสียง คลั่งฤา

เคลิ้มครู่กลายสำเนียง                  ไป่เคลิ้ม

ครู่เดียวคลื่น โคลนเคียง               เพียงครู่ เคลิ้มแล

ทั้งถั่งโถมสั่นเทิ้ม                         ทั่วทั้งเคหา

 

    สายวารีสมุทรเกรี้ยว-               กราดสาย โถมทลาย

ล้วนสัตว์เกรงตัวตาย                    ต่างล้วน

เร่งรีบหลีกมลาย                          ราวเร่ง มรณา

ไร้เฉลียวถี่ถ้วน                            เร่งไร้แลเหลียว

 

    นานาสัตว์สุดสิ้น                     สตินา

นั้นต่างกรู เกรียวหา                     คลื่นนั้น

ต่างกายต่างบูชา                         ความต่าง ปัญญาแล

แล้วหลั่งเลือดเหือดหั้น                 ทั่วแล้วธรณี

 

 โครมโครมคลื่นเคลื่อนครั้น          ครามโครม

เกรี้ยวกราดเกลียวถาโถม              โกรธเกรี้ยว

ฝั่งแปรปรับเปลี่ยนโฉม                 ชายฝั่ง อันดามัน

ไว้แต่ซาก เศษเสี้ยว                      สรรพไว้ให้สังหรณ์

 

    เสียงใดใด หวั่นได้                   ฤาเสียง ครืนเอย

เคลิ้มนุ่มนวลสำเนียง                   คลื่นเคลิ้ม

อาจแฝงเล่ห์กล เพียง                   เสียงอาจ มลายนา

ต้องเฉลียว หากเทิ้ม-                   สั่นต้องสติยั้ง

 

    ตนใดใครครั่นคร้าม                 เตือนตน

ยั้งจิตระรัวรน                              หยุดยั้ง

คลื่นกระหน่ำ ย่อมหน                  ปลอดคลื่น คลั่งนา

ตั้งสติจิตบ่พลั้ง                           แต่ตั้ง ภัยเผชิญฯ

 

..................................................................................

 

 

 

29. “นขวิภา”

อีเมล์ / 31 สิงหาคม 2551

 

ทางออก

 

1.

    " สัตว์นรกบาปหยาบช้า            โฉดสถุล

ซื้อสิทธิ์ซื้อเสียงทุน                      ชั่วแท้

ฝูงเปรตแย่งส่วนบุญ                    เขมือบชาติ

ต้องผนึกกำลังแก้                        กระชากหน้ากากมัน

 

    มาร่วมกันลากไส้                     สมุนโจร

บั่นบาปชั่วหัวโขน                        ขาดสะบั้น

กำหมัดกู่ตะโกน                          ไล่เปรต

ชนเพื่อชนทุกชั้น                          ปกป้องคุณธรรม "

 

2.

    ทุกคำ-ความรู้สึก                     สื่อใจ

โกรธเกลียดเคียดขึ้งไข                  จิตแจ้ง

บรรยายออกมาใน                        อักขระ

ส่งผ่านความขัดแย้ง                    สู่ผู้รับสาร

 

    อ่าน-ฟังกระทบเข้า                 ถึงความ

ซึมซับนัยนิยาม                           ศัพท์สร้าง

ฟังว่าเชื่อว่าตาม                          เขาว่า

อาฆาตอารมณ์ค้าง                      อัดอั้นใจตน

 

    ทุกข์ในวนวัฎร้อน                   อารมณ์

เปิดออกหนึ่งทางถม                     ปิดร้อย

ออกร้อยปิดพันสม-                      ทบหมื่น

แสนปากสำรากถ้อย                     บ่นทิ้งระบาย

 

    เพียงหายใจเข้าออก                ธรรมดา

คำผ่านเข้าหูขวา                          ทะลุซ้าย

ตั้งสมาธิหลับตา                         ครองสติ

ทางออกทางสุดท้าย                    เปิดกว้างแค่ใจ

 

..................................................................................

 

 

 

30. ธนวัฒน์  

เว็บบอร์ด / 26 สิงหาคม 2551

 

“ทางออก...ปริศนาจากภาพวาด”

 

    เรื่องเล่าเรื่องหนึ่งนี้                  เตือนตน

ครูสั่งวาดภาพคน                        ง่ายแท้

เด็กน้อยเร่งมือจน                        ภาพเสร็จ   ส่งเฮย

วาดผิดครูสั่งแก้                         แต่ห้ามลบรอย

 

    เด็กน้อยมองภาพแล้ว              ใคร่ครวญ

คำสั่งครูทบทวน                         ตอกย้ำ

ภาพวาดภาพนี้ชวน                     ให้ปวด   หัวนา

ห้ามลบครูสั่งซ้ำ                          จักแก้อย่างไร

 

    หัวใหญ่ร่างเล็กเพี้ยน               รูปผิด

สัดส่วนชวนให้คิด                       ขีดทิ้ง

เด็กน้อยเพ่งพินิจ                        ทางออก

หวังจักให้งามพริ้ง                      ไป่รู้ปริศนา

 

    ปากกาจรดขีดเส้น                   ลงสาย

แต้มแต่งแปลงลวดลาย              ภาพนั้น

ปริศนาสุดท้าทาย                        ลูกศิษย์

ความคิดไม่ปิดกั้น                        จึ่งรู้หนทาง

 

    เด็กน้อยกางภาพให้                 ครูชม

กรุ้มกริ่มพริ้มอารมณ์                    สุขไซร้

หัวคนวาดได้สม                          สัดส่วน

สวมหมวกกันน็อกไว้                    ภาพนั้นน่าดู

 

    ครูยิ้มชมศิษย์พร้อม                 น้อมนำ

ภาพวาดสอนคุณธรรม                 เลิศแท้

เมื่อผิดก็พึงจำ                             ยอมรับ   ผิดนา

ทางออกคือการแก้                       ผิดด้วยปัญญา

 

    ปัญหาอุปสรรคข้อง                 ขัดใจ

ก้าวพลาดผิดพลั้งไป                    ก่อนนี้

ดั่งวาดภาพเผลอไผล                   ผิดส่วน

เผชิญผิดอย่าคิดลี้                      หลบเร้นสูญหาย

 

    ปลายทางแม้น บ่ ใกล้             ก้าวเดียว

หากแต่สุดเขาเขียว                      อย่าท้อ

เพียงพิศพิเคราะห์เฉลียว              ทางออก

อุปสรรคขวางไขข้อ                      ขัดได้โดยเชาว์

 

..................................................................................

 

 

31. ไชยเชษฐ์ 

เว็บบอร์ด / 27 สิงหาคม 2551

 

บัวพ้นตม

 

    บัวเบ่งบานกลีบแย้ม                ลออตา

งามเด่นกลางธารา                      ตระหง่านล้ำ

ผลิพ้นเต่าปูปลา                          บึงต่ำ

ผุดผ่านตมเหนือน้ำ                      ดอกก้านตระการชม

 

    คือสังคมประเสริฐชั้น              ปัญญา

ประสิทธิ์ธรรมสดับมา                  ประพฤติน้อม

มีทางออกปัญหา                         คลายบ่วง

สติตั้งระลึกพร้อม                        ตระหนักด้วยความดี

 

    ชีวิตต้องต่อสู้                         ยถา

กล้าแกร่งบนมรรคา                     ลุกล้ม

ทุกขังอนัตตา                              ฤาเที่ยง

คงมั่นไม่คิดก้ม                            พ่ายแพ้พึงเพียร

 

    เปลี่ยนความมืดแปดด้าน         เห็นธรรม

สว่างประทีปกรรม                       ส่องได้

อริยสัจสี่นำ                                ประกอบ

สมุทัยนิโรธให้                             มรรคแจ้งแสดงทาง

 

    เดินสายกลางย่างก้าว              พอประมาณ

ละกิเลสเหตุพาล                         อยากได้

บำเพ็ญจิตบุญภิบาล                   เว้นบาป

ชำระตัณหาให้                            พิสุทธิ์สิ้นราคี

 

    มีหนทางหลากเส้น                  ยาวไกล

อยู่ที่ตนเลือกไป                           จุดนั้น

รู้ดีชั่วแก่ใจ                                 ทางออก

บัวเบ่งบานตามขั้น                       ผลิพ้นโคลนตม

 

..................................................................................

 

 

32. สิทธิเดช  

เว็บบอร์ด / 28 สิงหาคม 2551

 

ฮักกันไว้พี่น้อง

 

    ฮักกันไว้พี่น้องคน                    ใบขวาน

เฮาหลั่งรินเหงื่องาน                     ปลูกสร้าง

มหานคร  อลังการ                       เมืองมนุษย์

สิทุกข์  สิยากบ้าง                        กัดแข้ว ทนเอา

 

    ยามเหงาก็กอดฟ้า                   ห่มดาว

ทุกข์ยากมานานยาว                     ยิ่งแล้ว

หิวบ้างอิ่มบ้างบางคราว    เหนื่อยหนัก

ใช่เกิดในเวียงแก้ว                        ต่อสู้เถิดอีสาน

 

    จากบ้านจากถิ่นแคว้น              บรรพชน

หนีจากความยากจน                    ทุ่งแล้ง

เข้ากรุงเพื่อสู้ทน                          เก็บเกี่ยว

ดอกเหงื่อร่วงเหือดแห้ง                 บอดใบ้ยุติธรรม

 

    ทุกคำข้าวปากอ้า                    กลืนกิน

หอมกรุ่นผืนแผ่นดิน                     หมู่บ้าน

มองดาวดื่มดาวถวิล                    คึดฮอด  อีสานเอย

ลมล่องหนาวสะท้าน                   พี่น้องซำบายดี ?

 

    มีหนี้  ให้ปลดหนี้                    เป็นไท

เหนื่อยยากทุกข์เพียงใด                อย่าท้อ

ปลูกเถิดปลูกดอกใจ                    บานเบ่ง

คงสักวันเต็มหม้อ                        อิ่มข้าวมีแฮง

 

    ฮักแพงกันเพื่อนพ้อง               ชาวสยาม

อย่าก่อเพลิงสงคราม                   ลุกไหม้

เขาร้อนอย่าร้อนตาม                    เย็นเถิด

เมืองพุทธไม่สิ้นไร้                        ดอกน้ำใจงาม   ฯฯ

 

อธิบายศัพท์อีสาน

 *  กัดแข้ว  หมายถึง     กัดฟัน

*  ซำบาย   หมายถึง     สบาย

 

..................................................................................

 

 

33. นิมิตร 

เว็บบอร์ด / 28 สิงหาคม 2551

 

ทางออก

 

    อกระอุอุดอู้                            อึดอัด

เปรียบดั่งถูกเชือกรัด                    เหนี่ยวรั้ง

ปัญหาเรื่องเคืองขัด                     จิตขุ่น

ปลุกป่วนเกินยับยั้ง                      ส่งให้ใจมัว

 

    เหมือนหมกในแห่งห้อง            หวาดกลัว

เพราะลุ่มหลงพันพัว                    สิ่งเร้า

อบายเกี่ยวติดตัว                         แนบแน่น

เหตุยิ่งบานปลายเข้า                    จึ่งรู้ทางตัน

 

    กายลุกลนเพื่อดิ้น                   หนีพลัน

สุมก่อไฟโลกันต์                          ร่างไหม้

กิเลสยั่วนานวัน                           สิงสู่

จึงเกิดความกลัวไซร้                     เรียกร้องหนทาง

 

    พอขยับกลับยิ่งย้ำ                   เลือนราง

เหมือนดิ่งดำไปกลาง                   แห่งห้วง

ทะเลลึกเหวขวาง                        ทางออก

หวนคิดถึงคำท้วง                        บ่ได้รับฟัง

 

    พอเห็นแสงส่องให้                  มีพลัง

แสงเปรียบกับความหวัง               แกร่งกล้า

คือโอกาสกำลัง                           จิตมุ่ง

พบว่าธรรมตรงหน้า                     ช่วยพ้นทุกข์ทน

 

    อธิษฐานจิตด้วย                     กรรมตน

พบซึ่งทางออกหน                        แต่นี้

จักประพฤติเป็นคน                      ดีเด่น

เหินห่างอบายลี้                           หลีกเร้นตัวไกล

 

    โอกาสจึงสว่างจ้า                    ทั่วไป

ผลแห่งกุศลใน                            จิตน้อม

พบทางออกทันใด                        เริงรื่น

กลับสู่ชีวิตพร้อม                         มุ่งหน้าทำดี

 

..................................................................................

 

 

34. “พีรมิตร” 

เว็บบอร์ด / 29 สิงหาคม 2551

 

สวยใสไยเศร้า

 

    เทพนิมิตร่างน้อย                    นวลละหง

งามละเมียดบรรจง                      แจ่มแจ้ง

สวยใสสื่อประสงค์                      สารเล่ห์   ใดนอ

ไยสบเนตรแห้งแล้ง                      ขุ่นเศร้าส่ำหมอง

 

    คลองโลกสมมุตินี้                   ระทึกนัก

ภาพบ่งภาพประจักษ์                   แจกพื้น

ภาพสวยสดไยยัก                        ยอกภาพ

ยิ้มเอ่ยยิ้มพลิกฟื้น                       ภาพเนื้อผ่องเพ็ญ

 

    เย็น ร่มเย็นหยาดแก้ม              นวลใส

แลเล่าแลคราวไร                         รุ่มร้อน

ภาพราววาดบ่ไหว                        หวั่น-ทื่อ  ทุกข์นอ

ขาวกับดำซ่อนซ้อน                      สุขเศร้าใดหรือ

 

    คือมารยาเทพแกล้ง                 เขย่าขวัญ

สองเนตรมนุษย์สามัญ                 มืดฟ้า

เห็นสมมุติแผกพรรณ                   ผ่องผาด 

เผื่อเจตประพฤทธิ์จ้า                    จักแจ้งชีวิต

 

    พิศภาพ ภาพแผ่พร้อง             กำสรวล

พิษแพร่ ร้าวรัญจวน                     เจ็บเศร้า

พิศภาพ กุหลาบนวล                   หนามเหน็บ

พิษเพลิดเพลินเกินเคล้า               คลุกฝ้ามนหมาง

 

    ทางออกอวยสุขซึ้ง                  ชั่วคราว

เป็นสัจพจน์เด็กสาว                     อาจอ้าง

ใครยีย่ำผ้าขาว                            เขรอะหม่น

แจ่มแจ่มกลับถูกจ้าง                    จาบจ้วงสุทธิ์ศรี

 

    ปีศาจสาปแช่งเนื้อ                  นวลใส

หมองหม่นมืดละไม                     หมดสิ้น

โลกจักปล่อยลอยไหล                  ตามโลก

เด็กเด็กเอยอย่าดิ้น                       โลกจ้องจับขัง

 

    เด็กยังเป็นเด็กไร้                     เดียงสา

มิใช่ทางออกครา                         หื่นข้อง

เด็กเป็นเด็กเพื่อพา                       โลกผุด  ผ่องพ่อ

มิใช่เนาในห้อง                            หาดให้ใครโหม 

 

..................................................................................

 

 

35. ณัฐพงศ์  

เว็บบอร์ด / 29 สิงหาคม 2551

 

สวยใสไยเศร้า

 

    วกวนและเวิ่นเว้อ                    ทางเดิน

งันงกงมดำเนิน                           อ่อนล้า

สับสนสุ่มเผชิญ                          ผิดถูก     บ้างเฮย

กัดกร่อนทอนการกล้า                   ย่างก้าวถดถอย

 

    ลองแลเลาะลัดซ้าย                กลับรอย

จักเจอะจบตรอกซอย                   กีดกั้น

เอือมอดอ่วมรอคอย                     บุญเก่า

พูดพล่ามพระพรหมนั้น                ช่วยได้จริงหรือ

 

    ปรับปรุงแปลงเปลี่ยนเป้า-        หมายคือ

มาดมุ่งมองขวามือ                      ก็ได้

คุณคงคิดยึดถือ                          ทางออก   แน่เฮย

ตรองตรึกตามหลักไซร้                  สิ่งนั้นอาจหลง

 

    ถอดถอยกลับย่างเยื้อง             ตกลง

เดินดุ่มดันเจอะดง                       ขวากไม้

เหิมหาญหักหยัดยง                     ตัดแต่ง     ทางเฮย

ฉวยฉกโอกาสไว้                          เพื่อได้ถึงฝัน

 

    ระรวยแรงอ่อนแอ้                    กัดฟัน

เหน็ดเหนื่อยนักพักพลัน               ผ่อนร้อน

ยามเย็นยาตรโรมรัน                     เดินต่อ

แสงส่องสาดสะท้อน                   ทั่วท้องทางเดิน

 

    แนวนำในที่ใช้                        ประเมิน

บาง บ่ บุกเผชิญ                          ดุกร้าว

มีมากหลากดำเนิน                      ลองท่อย    ทีนา

อาจใช่ทางออกก้าว                      สู่ด้าวแดนสวย

 

..................................................................................

 

 

36. รจนา  U.S.A.

เว็บบอร์ด / 29 สิงหาคม 2551

 

ระหว่างทาง

 

    เมื่อต้องออกจากบ้าน               ไกลเรือน

คำที่พ่อติงเตือน                          ท่องไว้

คำพระอย่าลืมเลือน                     จำจด

นั่งรถเรือไกลใกล้                         อย่าได้เก่งเกิน

         

    ทางที่เดินหากรู้                       อีกไกล

ควรรีบเดินต่อไป                          อย่าช้า

เป้าหมายที่หวังใน                       ใจจิต

แม้เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า                หากท้อฤาถึง

 

    ในช่วงหนึ่งอาจต้อง                 ลมฝน

อาจหลงทิศทางจน                      สุดแก้

มุ่งมั่นอย่าสับสน                         เกินเหตุ

ทบท่องต้องไม่แพ้                        ไม่ช้าคลี่คลาย

 

    แดดกระจายส่องฟ้า                ฉับพลัน

ทางที่คิดว่าตัน                            ผ่านได้

เพียงมีกิ่งไม้พันธุ์                         เกาะเกี่ยว

ช่วงตะวันส่องให้                         เร่งก้าวทันที

 

    ทางออกมีมากแม้น                 เพ่งมอง

แยกหนึ่งมีลำคลอง                      ไม่กว้าง     

อีกแยกปักป้ายจอง                      กันเขต

คิดพักผ่อนนอนค้าง                     เร่งแจ้งแจงความ

 

    ชื่อสกุลนามครบถ้วน               ที่มี

อาจจะพบโชคดี                          อีกด้วย

ได้รับช่อไมตรี                              เติมต่อ

ชีพรอดไม่มอดม้วย                      ช่วยให้สมหวัง

 

..................................................................................

 

 

37. รจนา  U.S.A.

เว็บบอร์ด / 29 สิงหาคม 2551

 

เรือล่มเมื่อจอด

 

    ทางออกที่ช่วยแก้                    ปัญหา

เหตุที่ยึดสภา                              ยืดเยื้อ

เพียงต่างหยุดวาจา                      ยั่วยุ

เพื่อสงวนเลือดเนื้อ                      พี่น้องเผ่าไทย

 

    หยุดใส่ไฟเพิ่มเชื้อ                   ประชัน

ก่อนจะเข่นฆ่าฟัน                        ป่นปี้

ก่อนสื่อจะตีข่าวบรร                     ยายเพิ่ม

ก่อนวุ่นวายกว่านี้                         หยุดสร้างกระแส

 

    สื่อแฉผ่านไม่เว้น                     วันคืน

ภาพประชาชนยืน                        ร่วมด้วย 

ท่ามกลางแดดฝนฝืน                   หนาวเหน็บ

ยอมจะมอดจะม้วย                      เพื่อได้ชัยครอง

 

    ร่วมเรียกร้องเพื่อให้                 รัฐบาล

ยกเลิกขบวนการ                          ปรับแก้

รัฐธรรมนูญงาน                          ชิ้นเอก

เพื่อปิดทางพ่ายแพ้                      เปลี่ยนข้างพลิกผัน

 

    เปิดประเด็นลั่นท้า                   ปวงชน

ประกาศกร้าวว่าตน                      ถูกต้อง

อีกฝ่ายไม่อาจทน                         เฉยนิ่ง

พร้อมสละชีพทิ้ง                         ร่วมด้วยยินดี    

 

    จึงวันนี้ที่รู้                              บางราย

ถูกทำร้ายร่างกาย                        บอบช้ำ

และมีจุดขยาย                            ต่อเนื่อง

ทางออกไม่เห็นซ้ำ                        ถูกต้อนติดมุม

 

..................................................................................




โคลงสี่สุภาพ 2551

โคลงสี่สุภาพ “ทางออก” สิงหาคม 2551 สำนวนที่ 1-20
โคลงสี่สุภาพ “เมืองหุ่น” กรกฎาคม 2551 สำนวนที่ 21-32
โคลงสี่สุภาพ “เมืองหุ่น” กรกฎาคม 2551 สำนวนที่ 1-20
โคลงสี่สุภาพ “ลมปาก” มิถุนายน 2551 สำนวนที่ 41-49 article
โคลงสี่สุภาพ “ลมปาก” มิถุนายน 2551 สำนวนที่ 21-40 article
โคลงสี่สุภาพ “ลมปาก” มิถุนายน 2551 สำนวนที่ 1-20 article



bulletผลร้อยกรองออนไลน์ 2558
dot
ประกวดร้อยกรองออนไลน์ครั้งที่ 7
dot
bulletข้อมูลการประกวดครั้งที่ 7, 2557
bulletผังร้อยกรอง
bulletอ่านโคลงประกวด 2557
bulletอ่านกลอนประกวด 2557
bulletอ่านกาพย์ยานีประกวด 2557
bulletผลการประกวดร้อยกรอง ปี 2557
dot
ข่าวสาร ข้อมูลสมาคม
dot
bulletกรรมการสมาคมสมัยที่ ๑๕-๑๖
bulletนายกสมาคมสมัยที่ ๑๗
bulletติดต่อนายกสมาคมนักกลอน
bulletติดต่อฝ่ายดูแลส่วนต่างๆ
bulletสมัครสมาชิกสมาคมนักกลอน
bulletนักกลอนตัวอย่าง ๒๕๕๓
dot
หัวข้อน่าสนใจ
dot
bulletรวมลิ้งค์เว็บไซต์น่าสนใจ
bulletส่งบทสักวา น.ส.พ. สยามรัฐ
bulletวารสารวิทยาจารย์ รับต้นฉบับ
bulletส่งข้อเขียนครูในดวงใจ
dot
แนะนำหนังสือ
dot
bulletหน้ารวมหนังสือ
bulletคู่มือเรียนเขียนกลอน
bulletกาสรคำฉันท์ - สมคิด สิงสง
bulletหนังสือสุรินทร์สโมสร
bulletฝากโลกนี้ไว้ในหัวใจเธอ - กอนกูย
bulletเลือน - อติภพ
bulletธาร ธรรมโฆษณ์
bulletนายทิวา
bulletกลอนเกียรติยศ
bulletอ้อมกอดแห่งท้องทุ่ง
bulletทองแถม นาถจำนง
bulletพงศาวดารพิภพ
bulletโป๊ยเซียน คะนองฤทธิ์
dot
โครงการประกวดต่างๆ
dot
bulletนายอินทร์อะวอร์ด ๒๕๕๖
bulletประกวดรางวัลซีไรท์ปี ๒๕๕๖
bulletรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๕๖
bulletรางวัลวรรณกรรมรามคำแหง ๒๕๕๖
dot
ผลตัดสินรางวัลต่างๆ
dot
bulletรางวัลศรีบูรพา ๒๕๕๖
bulletผลรางวัลซีไรต์ ๒๕๕๗
bulletผลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ๒๕๕๗
bulletผลรางวัลแว่นแก้ว ๗ (๒๕๕๓)
bulletผลกลอนวิถีคนกับควาย
bulletผลร้อยกรอง “ผมจะเป็นคนดี”
bulletรางวัลนราธิป ๒๕๕๓
bulletนักเขียนอมตะ คนที่ ๖ (๒๕๕๕)
bulletนักเขียนรางวัลศรีบูรพา ๒๕๕๖
bulletศิลปินมรดกอีสาน ๒๕๕๔
bulletผลรางวัลพานแว่นฟ้า ๒๕๕๕
bulletผลรางวัลรามคำแหง ๒๕๕๖
bulletศิลปินแห่งชาติ ๒๕๕๕
bulletผลประกวดหนังสือ ชีวิตใหม่ 2
dot
ข่าวคราวของลมหายใจ
dot
dot
Weblink
dot
bulletอ่านกลอนประกวด 2556

หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก
สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
ศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาภาษาไทย มศว
เว็บรวมกระทู้ อาศรมชาวโคลง ใน pantip.com
หนังสืออีศาน


Copyright © 2010 All Rights Reserved.
ติดต่อ นายกสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ทองแถม นาถจำนง
โทรศัพท์ ๐๘๙-๑๒๓๔๗๕๔ อีเมล์ tongtham.n@hotmail.com

สำนักพิมพ์แม่โพสพ